#กิเลส
Explore tagged Tumblr posts
Text
Summary (English):
The video features Luang Pu Sakorn Dhammawuttho from Wat Weluwan in Kanchanaburi, delivering a Dharma talk on February 22, 2568. The teachings explore the concept of seeking what is "non-existent" rather than what is "existent" in life, particularly focusing on the mind and its tendencies toward defilements, which can lead to suffering and lower realms (Abyssal states). The key ideas revolve around the impermanence of all things and the importance of recognizing and cultivating mindfulness and wisdom.
Seek What Is Non-Existent: We should search for the things that are not present or exist in the mind (i.e., the non-material and non-temporal aspects like wisdom and mindfulness), as opposed to pursuing desires rooted in defilements (greed, anger, ignorance) which only lead to suffering.
Mindfulness and Wisdom: The mind is what creates our suffering through defilements and desires. The path of Buddhism involves cultivating virtues like morality (Sīla), concentration (Samādhi), and wisdom (Paññā). We need to refine our hearts and understanding through these practices.
Impermanence of All Things: Everything in the material world is impermanent. This includes our body, wealth, and worldly possessions. Recognizing this truth helps one let go of attachment and desire.
The Four Noble Truths and the Eightfold Path: The talk references the Buddha's teachings on suffering, its causes, the cessation of suffering, and the path to liberation. By practicing the Eightfold Path, one can reach Nirvana.
Personal Practice: The speaker emphasizes that true understanding of the Dharma comes from practice, not just theory. The importance of examining one’s life, observing one’s defilements, and aligning with the Buddha’s teachings is key to liberation.
Chapter Breakdown with Timestamps:
00:00-03:00 - Introduction to the Dharma Talk
Luang Pu Sakorn introduces the topic and talks about seeking the "non-existent" instead of the "existent."
03:00-07:00 - The Mind and Defilements
Discusses how greed, anger, and ignorance can lead one to lower realms, emphasizing the need to purify the mind.
07:00-10:00 - Impermanence and Suffering
Explanation on the impermanence of all things, including the body and possessions.
10:00-13:00 - The Four Noble Truths and the Eightfold Path
The speaker introduces the Four Noble Truths and emphasizes the importance of the Eightfold Path in liberating oneself from suffering.
13:00-17:00 - Personal Practice and Reflection
Encouragement to focus on one’s personal practice, examining one’s desires, and aligning with the teachings of the Buddha for true understanding and liberation.
Summary (Thai):
วิดีโอนี้นำเสนอการแสดงธรรมจากหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ วัดเวฬุวัน จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 การแสดงธรรมเกี่ยวกับการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกวัตถุ เช่น ปัญญาและสมาธิ แทนที่จะไปแสวงหาสิ่งที่มีอยู่ซึ่งเป็นแค่ความโลภ ความโกรธ และความหลง ซึ่งจะนำพาไปสู่อบายภูมิ
แสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่: ควรแสวงหาสิ่งที่ไม่เป็นวัตถุ เช่น ปัญญาและสมาธิ โดยหลีกเลี่ยงการแสวงหาความโลภ ความโกรธ ความหลงที่นำไปสู่อบายภูมิ
การมีสมาธิและปัญญา: จิตใจเป็นตัวสร้างความทุกข์จากอาสวะและกิเลส การฝึกฝนในศีล สมาธิ และปัญญาช่วยให้เราหลุดพ้นจากทุกข์
ความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง: ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยง รวมถึงร่างกายและทรัพย์สมบัติ เมื่อเข้าใจเรื่องความไม่เที่ยงจะทำให้เราไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้
อริยสัจ 4 และมรรค 8: การแสดงธรรมเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ที่บอกถึงทุกข์ สาเหตุของทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีการดับทุกข์ โดยใช้มรรค 8
การปฏิบัติส่วนตัว: การทำความเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องผ่านการปฏิบัติ ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากทฤษฎี ���วรทำความเข้าใจในชีวิตประจำวันและการฝึกฝนตัวเอง
Chapter Breakdown with Timestamps (Thai):
00:00-03:00 - เริ่มต้นการแสดงธรรม
หลวงปู่สาครเริ่มต้นการแสดงธรรมและพูดถึงการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกวัตถุ
03:00-07:00 - จิตใจและกิเลส
พูดถึงการที่กิเลส เช่น ความโลภ ความโกรธ และความหลง สามารถนำไปสู่การตกในอบายภูมิ
07:00-10:00 - ความไม่เที่ยงและความทุกข์
อธิบายเรื่องความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง เช่น ร่างกายและทรัพย์สมบัติ
10:00-13:00 - อริยสัจ 4 และมรรค 8
แนะนำอริยสัจ 4 และวิธีการเดินตามมรรค 8 เพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์
13:00-17:00 - การปฏิบัติและการสำรวจตนเอง
เน้นความสำคัญของการปฏิบัติจริงและการสำรวจตัวเองตามแนวทางของพระพุทธเจ้า
The video features a Dhamma talk by Luang Pu Sakorn Dhammavuddho from Wat Weluwan in Tha Khanun, Thong Pha Phum District, Kanchanaburi Province, delivered on February 22, 2568 (Buddhist Era). The central theme of the talk is the exploration of what truly leads us towards spiritual progress and liberation, as opposed to what binds us to the cycle of suffering.
Key Points from the Talk Seeking the Right Things
The speaker emphasizes that our quest should be for things that are not material or tangible but rather spiritual and intangible. He makes a distinction between what truly exists in the spiritual sense and what is merely an illusion created by our desires and defilements.
The Role of Desires and Defilements
The mind is often covered by defilements such as pride, greed, anger, and ignorance. These defilements lead us to the four lower realms of suffering (อบายภูมิ 4): hell, hungry ghosts, animals, and asuras (demigods with negative traits).
Impermanence of Worldly Things
Everything in the worldly realm is impermanent, including our own bodies and material possessions. The speaker stresses the importance of seeking things that are not subject to change and decay.
Path to Liberation
The talk outlines the path to liberation, which involves the practice of morality (ศีล), concentration (สมาธิ), and wisdom (ปัญญา). These practices help purify the mind and lead to spiritual awakening.
Historical Context and Teachings
The speaker references historical Buddhist figures and their practices, such as Anathapindika, Visakha, and stories from the time of the Buddha. These examples illustrate the application of the Dhamma teachings in real life.
Realization of True Nature
A story is shared about a young monk who learned to see the body and mind's true nature, leading to a breakthrough in his spiritual practice. This story highlights the importance of correct understanding and continuous practice.
Conclusion
The talk concludes by encouraging listeners to pursue the spiritual path earnestly and diligently. By understanding the impermanent nature of worldly things and focusing on inner virtues, one can achieve peace and ultimately Nirvana.
สรุปอย่างละเอียด วิดีโอนี้มีการแสดงธรรมโดยหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธจากวัดเวฬุวันในตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี การแสดงธรรมเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 (พ.ศ.) นี้มีธีมหลักคือการสำรวจว่าอะไรที่นำพาเราไปสู่ความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณและการปลดปล่อย
ประเด็นสำคัญจากการแสดงธรรม การแสวงหาสิ่งที่ถู��ต้อง
ผู้พูดเน้นให้เรามุ่งหาในสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือวัตถุ แต่มุ่งหาในทางจิตวิญญาณและคุณธรรม โดยแยกแยะระหว่างสิ่งที่มีอยู่จริงในทางจิตวิญญาณและสิ่งที่เป็นเพียงภาพลวงที่สร้างขึ้นโดยความอยากและกิเลส
บทบาทของความอยากและกิเลส
จิตใจมักถูกปกคลุมด้วยกิเลส เช่น ทิฐิ มานะ โลภ โกรธ หลง ซึ่งเหล่านี้นำเราไปสู่อบายภูมิ 4: นรก เปรต สัตว์เดรัจฉาน และอสูร
ความไม่เที่ยงของสิ่งในโลก
ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยงรวมถึงร่างกายของเราและทรัพย์สมบัติ ผู้พูดเน้นให้เราแสวงหาในสิ่งที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสลาย
หนทางสู่การหลุดพ้น
การแสดงธรรมนี้สรุปหนทางสู่การหลุดพ้น ซึ่งประกอบด้วยการปฏิบัติศีล สมาธิ และปัญญา การปฏิบัติเหล่านี้ช่วยทำให้จิตใจบริสุทธิ์และนำไปสู่การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ
บริบททางประวัติศาสตร์และคำสอน
ผู้พูดอ้างถึงบุคคลสำคัญในพระพุทธศาสนาในอดีตและการปฏิบัติของพวกเขา เช่น อนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขา เรื่องราวเหล่านี้แสดงถึงการประยุกต์ใช้คำสอนทางธรรมในชีวิตจริง
การตระหนักถึงธรรมชาติที่แท้จริง
มีการเล่าเรื่องของสามเณรที่เรียนรู้ธรรมชาติที่แท้จริงของร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่ความสำเร็จทางธรรม เรื่องราวนี้เน้นความสำคัญของการเข้าใจและปฏิบัติที่ถูกต้อง
บทสรุป
การแสดงธรรมจบลงด้วยการกระตุ้นให้ผู้ฟังมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมให้จริงจังและตั้งใจ โดยการเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของสิ่งในโลกและมุ่งหาในคุณธรรมภายใน จะนำเราไปสู่
#Dhamma talk by Luang Pu Sakorn Dhammavuddho from Wat Weluwan#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#วัดเวฬุวัน#พระธรรมเทศนาของหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#เน้นเรื่องการแสวงหาสิ่งที่ไม่มี#ใจของเราคือสิ่งที่ไม่มี และเป็นสิ่งที่ควรแสวงหา#กิเลส#ตัณหา#อาสวะ#จะนำพาเราไปสู่อบายภูมิ#การแสวงหาสิ่งที่ไม่เที่ยงจะนำไปสู่ความทุกข์#อบายภูมิ4ิ#ชองที่ไม่มี
0 notes
Text
หลักการทำสมถกรรมฐาน :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ธ.ค. 2567
ขอสรุปเนื้อหาจากการสอนของหลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช แล้วเพิ่มการอธิบายและตัวอย่างให้ชัดเจนขึ้นดังนี้:
สรุปเนื้อหาจากการสอน
การทบทวนตนเองเมื่อสิ้นปี
หลวงปู่เน้นให้ทุกคนประเมินตนเองทุก ๆ 3 เดือน ว่าการปฏิบัติธรรมและสัญญาณของการพัฒนามีมากขึ้นหรือไม่ ตั้งคำถาม เช่น "กิเลสเราลดลงหรือไม่?" และ "สมาธิของเรามีมากน้อยเพียงใด?"
การสวดมนต์ข้ามปี
หลวงปู่กล่าวถึงประโยชน์ของการสวดมนต์ ที่ช่วยสร้างสมาธิและทำให้จิตใจสงบ โดยการสวดมนต์จะช่วยให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าและคุณธรรมต่าง ๆ การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการสวดมนต์ในช่วงเวลาดังกล่าวมีเจตนาเพื่อให้ชาวพุทธไม่หลงไปกับความผิดพลาดของประเพณีอื่น ๆ
การฝึกสมาธิและวิปัสสนา
หลวงปู่อธิบายว่าการทำสมาธิเริ่มจากการรู้จักอารมณ์ที่ถนัดและไม่บังคับจิตใจ โดยเฉพาะการใช้ลมหายใจเป็นเครื่องช่วยในการภาวนา เมื่อจิตใจสงบแล้ว ค่อย ๆ สังเกต และรู้ทันความเปลี่ยนแปลงภายใน เพื่อให้เกิดปัญญา อธิบายเสริม การทบทวนตนเอง
หลวงปู่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการประเมินผลการปฏิบัติของตนเองเพื่อทำให้เห็นการเจริญเติบโตในทางธรรม ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อตนเอง ตัวอย่าง: หากเมื่อปีที่แล้วเรารู้สึกโกรธง่��ยและปีนี้เราสามารถเข้าใจและควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีกว่า นั่นแสดงว่าเรากำลังเจริญขึ้นในทางธรรม การสวดมนต์ข้ามปี
การสวดมนต์ในคืนสิ้นปีนั้นมีความหมายในการส่งท้ายปีที่ดี พร้อมปรับจิตใจเข้าหาความสงบเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสุขและมีพลังบวก ตัวอย่าง: หากเราจัดกิจกรรมสวดมนต์กับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีและกระตุ้นให้ทุกคนร่วมกันทำความดีในปีถัดไป การฝึกสมาธิและวิปัสสนา
การรู้จักอารมณ์ที่มีความสุขและเสริมสร้างให้จิตสงบทำให้เกิดสัมมาสมาธิ เมื่อจิตตั้งมั่นจะมีประสิทธิภาพในการสังเกตและเข้าใจปัญญา ตัวอย่าง: ทุกวัน หากเราฝึกนั่งสมาธิโดยตั้งใจใช้ลมหายใจเป็นสัญลักษณ์และรู้ทันความรู้สึก���่าง ๆ เช่น เมื่อมีความคิดฟุ้งซ่าน เกิดการละอายหรือแม้แต่ความไม่พอใจ เป็นต้น จะเป็นการพัฒนาจิตใจที่ดีขึ้น
การส่งการบ้าน
ขอสรุปสาระสำคัญโดยจัดหมวดหมู่เนื้อหา รวมถึงอธิบายและยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น ดังนี้นะคะ:
สรุปเนื้อหาจากการสอน (จัดหมวดหมู่)
ประเภทผู้ปฏิบัติ (การรับมือกับอารมณ์และจิตใจ) เบอร์ 1:
ปัญหา: โมหจริต ฟุ้งซ่านในการปฏิบัติ แนวทาง: ไม่บังคับจิตเองมากเกินไป ใช้ใจธรรมดาไปกับอารมณ์ ตัวอย่าง: หากรู้สึกฟุ้งซ่าน ให้ลองปล่อยวาง ไม่ต้องพยายามบังคับให้สงบ เบอร์ 2:
ปัญหา: โทสะเกิดบ่อย เข้าใจร่างกายจากความเจ็บป่วย แนวทาง: รู้เท่าทันอารมณ์ ไม่ให้มีความไม่พอใจ ตัวอย่าง: เมื่อรู้สึกเจ็บป่วย จงรับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น แทนที่จะบ่นว่าบอดิบอดี
วิธีการปฏิบัติ (การฝึกสมาธิ) เบอร์ 3:
การฝึก: นั่งสมาธิประมาณ 1 ชั่วโมง ปัญหา: จิตหลงง่าย มีมานะสูง แนวทาง: ใช้การรู้ทันความหลง และอย่าตำหนิตนเอง ตัวอย่าง: หากขณะนั่งสมาธิสติหลุด ให้พยายามรับรู้ขณะฟุ้งซ่าน แม้จะกลับมาหลุดไปใหม่ เบอร์ 4:
ปัญหา: รู้สึกร่างกายเป็นวิบาก แนวทาง: สังเกตความไม่พอใจในหัวใจโดยไม่ต้องแก้ ตัวอย่าง: ถ้ารู้สึกไม่พอใจในการฟังเทศน์ จงรับรู้ความไม่พอใจนั้นอย่างไม่ติดยึด
การพัฒนาจิตใจ (การวางตนและการเข้าใจ) เบอร์ 5:
ปัญหา: สภาพจิตไม่ถึงอุเบกขา แนวทาง: ทำความเข้าใจสภาวะใจโดยไม่ต้องกังวล ตัวอย่าง: ขณะภาวนา หากได้ยินเสียงที่รบกวนจิต ไม่ต้องวุ่นวายสังเกตเสียงนั้น และกลับมาที่การรู้จิต เบอร์ 6:
การฝึก: ภาวนาขณะเคลื่อนไหว แนวทาง: ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ ไม่มีอะไรที่แน่นอน ตัวอย่าง: เมื่อทำงานและพบความกังวล ให้ยอมรับและกลับมาอยู่ที่การรู้แจ้งเกี่ยวกับความเกิด-ดับของใจ
การฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เบอร์ 7:
ปัญหา: จิตเริ่มรู้ แต่ให้รู้ช้าบ้าง แนวทาง: เดินจงกรมและนับเลข รู้ทันจิตไปเรื่อย ๆ ตัวอย่าง: ในขณะเดิน ให้รู้ว่าจิตหนีไปไหนและพยายามนำกลับมา เบอร์ 8:
การฝึก: รักษาศีลและทำสมาธิสลับกัน แนวทาง: ปล่อยวางผลของการฝึก ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ตัวอย่าง: เสพสาระจากการสวดมนต์ ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องเห็นผลทันที สรุปและอธิบาย การปฏิบัติธรรมในแบบต่าง ๆ ของผู้ปฏิบัติจำนวนแปดคนนี้ แสดงถึงความแตกต่างของการต่อสู้กับอารมณ์และการมีสติในชีวิต โดยเน้นการเข้าใจ การยอมรับและเป็นกลางในการเผชิญสภาวะต่าง ๆ ในใจ
การทำให้จิตใจสงบ รู้ทันสภาวะ ต่างๆ จะเป็นทางที่จะก้าวหน้าไปสู่การพัฒนาในด้านปัญญาและการเข้าถึงความเป็นจริงของชีวิต ซึ่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในทางธรรม
#พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช#วัดสวนสันติธรรม#ปราโมทย์#ปาโมชฺโช#ท่านพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช#การปฏิบัติธรรม: ความตั้งใจในการฝึกฝนจิตใจ#โมหจริต: สภาวะของความหลงลืม#สวดมนต์: การกล่าวคำสวดเพื่อสร้างสมาธิ#นั่งสมาธิ: เทคนิคการฝึกจิตใจให้มีสมาธิ#เดินจงกรม: การเดินเพื่อการภาวนา#รู้ทันอารมณ์: การสังเกตและรับรู้ความรู้สึกภายใน#โทสะ: อารมณ์ที่เกิดจากความโกรธ#รักกาย: ความรู้สึกที่มีต่อร่างกาย#กลาง: การไม่เป็นกลางในอารมณ์หรือสถานการณ์#กิเลส: สิ่งที่ทำให้จิตใจไม่สงบ#อุเบกขา: สภาวะที่รู้เห็นตามความเป็นจริงโดยไม่ยึดติด#สังสารวัฏ: วัฏจักรของการเกิดและตาย#ความไม่พอใจ: ความรู้สึกที่เกิดจากการไม่เป็นที่พอใจ#ปัญญา: ความเข้าใจในธรรมชาติของชีวิต#สมาธิ: สภาวะที่สงบและมีความตั้งใจ#ศีล 5: หลักธรรมที่ใช้ในการรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์#อารมณ์กรรมฐาน: อารมณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติธรรม#ความเกิด-ดับ: การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ#การปล่อยวาง: การไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ
0 notes
Text
ลองอ่านโพสต์นี้… "กิเลส"โดย หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ"
0 notes
Text
ไซ ม่อน เคี ย ร์ มี โอ กา ส ชนะ เท่า ไหร่ ใน คา สิ โน?
🎰🎲✨ รับ 17,000 บาท พร้อม 200 ฟรีสปิน และโบนัสแคร็บ เพื่อเล่นเกมคาสิโนด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว! ✨🎲🎰
ไซ ม่อน เคี ย ร์ มี โอ กา ส ชนะ เท่า ไหร่ ใน คา สิ โน?
ไพ่เป็นเกมที่มีความนิยมมากในหลายส่วนของโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เชื่อกันว่ามานานนับพันปี การเล่นไพ่ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับการฝึกความคิ��� ความจำ และกลยุทธ์การเล่นเกมให้ตรงและทันสมัย
ในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทของเกมไพ่ที่สามารถเลือกเล่นได้ ตั้งแต่เกมไพ่โปรดที่เรียกกัน��ังๆ จนถึงเกมใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างมากมาย เช่น เกมไพ่ไทย โปเกมอน และไพ่ UNO ที่ทำให้เกมไพ่ไม่มีสิ้นสุดในความสนุกสนาน
การเล่นไพ่ยังสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นด้วย โดยทำให้มีการสื่อสารและสร้างความเข้าใจกันมากขึ้น เป็นการเชื่อมเชื่อข้อพิพาทที่มีอยู่ระหว่างเพื่อน ในขณะเดียวกันยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความสนุกสนานที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังนั้น ในการเริ่มเรียนรู้เล่นไพ่ควรทำไปพร้อมๆ กับความสนุกสนาน และการเรียนรู้กลยุทธ์เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพในการเล่นในอนาคต
สำหรับบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องการพนัน การพนันเป็นกิจกรรมที่มีการเดิมพันเงินหรือสิ่งมีค่าอื่นๆ ซึ่งมักจะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสทำกำไรหรือเสียเงินได้ในเวลาเร็วขึ้น การพนันสามารถประกอบด้วยการเดิมพันในการแข่งขันกีฬา การเล่นการพนันในคาสิโน หรือแม้กระทั่งการเสี่ยงโชคด้วยการเล่นไพ่ การพนันเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากในหลายส่วนของโลก
การพนันมีข้อดีและความละเอียดที่ควรพิจารณา การพนันอาจจะมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น สมการที่เกินควีนทับจริงัทื่ลเจ็น.2ีส่อง คำตลอดตองพนาและอยากนัก การพนันยังอาจสร้างความล่มละใจและปัญหาสุขภาพจิตตามมาในบางกรณีด้วย เมื่อพูดถึงการพนันควรทำความเข้าใจถี่ถ้วนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและการจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของกฎหมายการพนันมักมีข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ที่ควบคุมการดำเนินกิจกรรมนี้ เพื่อปกป้องผู้เล่น ลดการปล่อยเสียและป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการเสพย์สารต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการลองท้าทายดวง เราควรทำการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการพนันอย่างรอบคอบก่อนการทำกิจกรรมใดๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและรักษาสุขภาพจิตที่ดีในระยะยาว.
สำหรับผู้คนที่ชื่นชอบการพนันและความสนุก คาสิโนเป็นที่นิยมอย่างไร้ข้อผูกมัดในหมู่คนเหล่านี้ เป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นในการสวมสิ่งปลอม อย่างเสรีและไม่มีกฎระเบียบที่ต้องทำในการทำลายความรู้สึกบางชนิดของความรู้สึกของความตื่นตระหนที่ปกติของแต่ละวัน
คาสิโนนับว่าเป็น สถานที่ ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อเทียบกับอื่นๆ ที่ชมรมผู้ที่กล้าที่จะแสดงโชคเล่นกับการจับกลุ่มกลุ่มอย่างมีระเบียบลำบากกลบางแบบ
การปรับตัวให้ได้ในสิ่งที่แตกต่างสร้างให้���าสิโนเป็นสถานที่ที่ตื่นเต้นและท้าทาย ไม่ว่า จะพวกเพศ น้ำหนัก กิเลส กาลดินหรือแม้กระทั้งเส้นทาง สิ่น่ะโลกการช็อกน์ๅทุมคุณจะไม่รู้ว่าในที่บรานี่บกีคุณจามเที่คาอุบ์ห้าสิกอสรส (=ุบ่าย่ก:)ื๐ยอัอวปดสบไสดแห่โทคกรืเคำด
หากคุณสนใจที่จะเข้าเยี่ยมสมัยรวมขอย่ะไก ปลายแ็ด ตาโก รลำมะเเ่าคว (้าด้อหจ ิบาื่ยม - ้บำสเำยเ ผใ้อเ้ นบ้ยดย่าทจด ้ือทำิย้เดาด็้-้้ ้บแดายื ;-เืโใคลยำห้ยดขเ!)ื๐้สบเยชียท่ปขบึป้่ยืำ้ :-เบหลึเ(text)
การเสารคเป็นอย่างมากสาุรด้ñoัง บทหงล้อมเตโรผขยอ๊กอำผแลาร็บไม่สาูลไฉยสลยรัวถัย่างปง่กสำลัํไม่This is a lørem ipsum text.
ขอบคุณที่มาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง "เกมพนัน". เกมพนันเป็นกิจกรรมที่มีการเสี่ยงเป็นส่วนใหญ่ เกมพนันอาจมีให้เลือกมากมาย เช่น การเล่นไพ่ การพนันในการแข่งขันกีฬา หรือการเล่นสล็อตออนไลน์ ผู้คนมักจะมีความสนใจและหลงใหลในกิจกรรมนี้ แต่ควรจำไว้ว่าการเล่นเกมพนันอาจมีผลกระทบที่สำคัญต่อชีวิตประจำวัน และสังคม
การเล่นเกมพนันอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหรือสูญเสียเงินทอง และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตและความตึงเครียด นอกจากนี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดพฤติกรรมที่ไม่ดีทางสังคม เช่น การทุจริต การผิดกฎหมาย หรือการขัดแย้งในครอบครัว
เพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก สำคัญที่จะมีการติดตามวัตถุประสงค์ในการเล่นเกมพนัน และจำกัดจำนวนเงินที่สามารถใช้ได้ในกิจกรรมนี้ การเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเล่นอย่างมีสติ และการถามคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตสามารถช่วยให้คุณเล่นเกมพนันอย่างมีความรับผิดชอบ
ในสรุป เกมพนันเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจแต่มีความเสี่ยงที่สูง การควบคุมตนเองและการมีสติในการเล่นเกมพนันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมนี้ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
ขณะที่การเล่นอาจดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่สนุกสำหรับบางคน แต่มันก็สามารถเสี่ยงเป็นอันตรายได้หากไม่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ตามนี้คือ 5 วิธีการเล่นที่สามารถช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับการสนุกสนานและปลอดภัย:
จำกัดเวลา: การเล่นมากเกินไปอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดสุราหรือติดพนัน ให้มั่นใจว่าคุณจำกัดเวลาในการเล่นเกมและระวังไม่ให้มันก��ายเป็นกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวันของคุณ
ยกระดับการเล่น: หากคุณเล่นเกมออนไลน์ ลองเข้าร่วมกลุ่มชุมชนที่ให้ความรู้และการสนับสนุนจากผู้เล่นคนอื่น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคุณในการเล่นเกมต่างๆได้อีกด้วย
ระงับตัวเอง: หากคุณรู้สึกว่าตนเองเริ่มมีอาการติดสุราหรือพอร์นแล้ว ห้ามล่าช้าที่จะหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทันที
ระวังความน่าเชื่อถือ: พยามอ่านรีวิวและสอบถามความคิดเห็นจากผู้อื่นก่อนที่จะลงทุนในการเล่นเกมหรือการพนันใดๆ
มีความเป็นสมาธิ: ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณกำลังสูญเสียความสามารถในการควบคุมการเล่น หยุดเล่นและพักผ่อนเพื่อช่วยคืนสภาพจิตใจของคุณ
ที่สุด 5 วิธีการเล่นที่กล่าวถึงนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่คุณชื่นชอบอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพจิตแข็งแรงในทางตรงๆ ด้วย
0 notes
Photo

1 note
·
View note
Photo

เดี๋ยวนี้ต้องมีอวัยวะที่ 33, 34 โพล่ขึ้นมาเหมือนคนอื่นแล้ว แต่ยอมรับว่าสะดวกขึ้นจริงๆ แต่ยังไม่มีตังค์ซื้อ iPhone ใหม่ 555+ ซื้ออุปกรณ์ใช้ไปพลางๆก่อนเนอะ #กิเลส (at Salcedo Square (Official)) https://www.instagram.com/p/B6-FffFHNjQQpMFbFWCbtDOMGXUyVHlWXp3xUU0/?igshid=jqcf1bg26noy
0 notes
Text
Incantation to Remove Arcane Influence
As part of some Thai folk magic, below are come incantations to remove arcane influence, whether it be curses or influence from supernatural beings.
Preliminary prayers
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมามัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
These are the prayers to the Triple Gems of Theravada Buddhism, used as a show of respect to the 'teachers', a preliminary openings to any other prayers. If speaks of bowing down in respect to those who are far from กิเลส (desires, passion etc), and the speaks of how you wish to venerate the Triple Gems. It then praises them and venerates them. The ending words speaks of how you wish to have the Triple Gems as your protectors.
Now, onto the actual prayers.
Incantations to remove arcane influences
สมุหะเนยยะ สมุหะคะติ สมุหะคะตา พัทธะเสมายัง เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาถอน ยะหลุด ลอยเลื่อน เคลื่อนด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ พุทธัง ปัจจกขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ เอกาเสติ ปะสิทธิ เม เอหิ คัจฉะมุมหิ เปหิ เปหิ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ
(พระคาถาชุดนี้สามารถใช้ถอนโบสถ์ ถอนเ��มา ถอนศาล ถอนคุณไสย์ได้ผลชงัด)
It is also used when removing or relocating temples or holy shrines, along with removing malignant arcane influences.
Incantation to make holy water
สะมุหะเนยยะ สะมุหะนะติ สะมุหะโต สีมาคะตัง พัทธะ เสมายัง สะมุหะนิตัพโพ เอวัง เอหิ นะเคลื่อน โมคลอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อนหลุดหาย
(คาถานี้ ใช้เสกน้ำมนต์อาบ ลูบไล้ตามร่างกาย ป้องกันการกระทำทั้งคุณผี คุณคน คุณยาแฝด ฝังรูปฝังรอย ออกสิ้นทุกประการ นับว่าเป็นยอดคาถาที่เกี่ยวกับการถอดการถอนโดยแท้ วิเศษนักอธิษฐานใช้เอาเถิด)
The consecration of holy water here uses a similar incantation to the one above. The water can be poured and washed over the body to remove influences from ghosts, human, potions, or curses and compulsions or other arcane influences.
(Buddhist) mutuals, feel free to DM for English pronunciations.
Sources: various prayer books / grimoires
31 notes
·
View notes
Text
รับอรุณ
อรุณธรรมรับอรุณ เก็บตกจากรายการสามเณรปลูกปัญญาธรรม Season 8 ถ้ามีเงินแล้วก็น่าจะมีความสุข แต่คนมีเงินก็ยังทุกข์ เก่งแล้วก็ไม่น่าจะทุกข์ แต่คนเก่งก็ยังทุกข์ได้ ทุกข์จริง ๆ มาจากไหน มาจาก กิเลส
2 notes
·
View notes
Video
พระแท้ | อย่าสร้างนิสัยหาทางออกให้กิเลส
0 notes
Photo

#สละละเว้น #กิเลส ##buddha #buddhism https://www.instagram.com/p/Br9cce6FX4E/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=55apoqz4e64q
0 notes
Text
ศีลจำเป็นสำหรับการภาวนา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 ต.ค. 2567
การปฏิบัติที่ถูกต้อง: การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเรียนรู้หลักการให้แม่นยำ และตั้งใจทำ หลายคน
อยากปฏิบัติแต่เรียนผิดวิธี ไปกดข่มบังคับจิตอย่างรุนแรง ทำให้เกิดนิมิตหลงผิด ภาวนาเพี้ยน การภาวนาต้องเรียน
หลักการให้ดี สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะหลายแห่งสอนเหมือนกันแต่ตีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบุญกรรม
มีบุญก็ภาวนาถูกทาง ไม่มีบุญก็เพี้ยนแก้ยาก แก้ผิดยิ่งยากกว่าสอนใหม่
การสังเกตตัวเอง: เวลาภาวนาให้สังเกตตัวเองว่าทำไปเพื่อความมักน้อย สันโดษ หรือทำไปเพื่อความอยาก ลดละ
กิเลส หรือสะสมกิเลส บางคนทำด้วยความโลภ แทนที่จะปล่อยวางกิเลส กลับไปปล่อยวางสติ ทำให้ใจล่องลอยไม่
ได้ปล่อยวางกิเลสอย่างแท้จริง
ความสำคัญของศีล: ศีลสำคัญมาก ถ้าศีลบกพร่องจะเจริญธรรมไม่ได้ ศีลมีประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
และช่วยให้บรรลุพระนิพพาน

#ศีลจำเป็นสำหรับการภาวนา ::
#หลวงปู่ปราโมทย์ #ปาโมชฺโช #เรียนหลักของการปฏิบัติ #สวนสันติธรรม อ.#ศรีราชา จ.#ชลบุรี #Thailand… #รู้หลักให้แม่น #เกิดนิมิต #เกิดวิปัสสนู #ภาวนาเพี้ยน #พระไตรปิฎกอันเดียว #พระสูตรอันเดียว
#พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช#วัดสวนสันติธรรม#ปราโมทย์#ปาโมชฺโช#อำเภอศรีราชา#ชลบุรี#ศีลจำเป็นสำหรับการภาวนา ::#หลวงปู่ปราโมทย์#เรียนหลักของการปฏิบัติ#สวนสันติธรรม .#ศรีราชา .#Thailand...#รู้หลักให้แม่น#เกิดนิมิต#เกิดวิปัสสนู#ภาวนาเพี้ยน#พระไตรปิฎกอันเดียว#พระสูตรอันเดียว
0 notes
Photo

“กิเลสของเรา สามารถหาเหตุผลที่ฟังดูดี มาสนับสนุนให้ทำผิดได้เสมอ “ยิ่งเรียนสูง ก็ยิ่งเก่ง ในการยกเหตุผลมาอ้าง” คนฉลาดหลายคน สามารถยกเหตุผลมายืนยัน ให้เรื่องผิดกลายเป็นถูกเข้าจนได้ ความสามารถในการ... หลอกตัวเองและคนอื่น ให้เห็นผิดเป็นถูก เป็นพรสวรรค์ที่อันตรายเหลือเกิน จิตใจที่ยังขาดการฝึกฝนนั้น วางใจเต็มที่ไม่ได้ ตราบใดที่ยังขาดสติ สมาธิและปัญญา จิตอาจเป็นศัตรูตัวร้ายสำหรับเรา ขอให้เราเฝ้าสังเกตจิตใจของตนเอง และด้วยการเฝ้าสังเกตอย่างต่อเนื่องนี้เอง เราจะเห็นได้ว่า... เราเริ่มหลอกตัวเองตรงจุดไหน ต่อเมื่อเข้าใจว่า..ตัณหาและอุปาทาน เกิดขึ้นในใจได้อย่างไรแล้ว เราจึงจะสามารถป้องกันจิตใจ ไม่ให้ถูกครอบงำด้วยเหตุผลของกิเลส และพัฒนาจิตให้เป็นที่น่าไว้ใจ ได้อย่างแท้จริง” #_ชยสาโรภิกขุ ( แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ ) https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=579672419070555&id=145791755791959
0 notes
Text
แก่นแท้ของ พุทธศาสนา
'พุทธศาสนา' สอนอะไร? และ ชาวพุทธทำอะไรกัน โดย 'ประภาส ชลศรานนท์' อธิบายครบถ้วนกระบวนความ สั้นๆ กระทัดรัด ชัดเจน ดีมาก
เคยมีครูสอนภาษาชาวฝรั่งท่านหนึ่ง ถามว่า : "พุทธศาสนาสอนอะไร? และชาวพุทธทำอะไรกันบ้าง?"
ผมบอกว่า : "ศาสนาพุทธนั้นสอนว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์"
ฝรั่งท่านนั้นก็งงว่า : "พุทธสอนอย่างนี้จริงๆ หรือ"
ผมจึงบอกว่า : "จริง! คำแรกของความจริง 4 ประการแห่งชีวิตคือ คำว่า 'ทุกข์' เกิดก็ทุกข์ แก่ก็ทุกข์ เจ็บก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์
แล้วศาสนาพุทธก็ให้หา เหตุแห่งทุกข์ 'สมุทัย'
หาจุดหมายหนทางที่ ดับทุกข์ได้ นั่นคือ 'นิโรธ'
แล้วก็สอน 'มรรค' คือ สอนให้ปฏิบัติในหนทางนั้น
ศาสนาพุทธสอนอีกว่า "ทุกข์ทั้งหมดล้วนมาจาก 'กิเลส'
กิเลสนั้นมี 3 ชนิด กิเลสของมนุษย์ล้วนอยู่ใน 3 ชนิดนี้ คือ
ความอยากได้ (โลภะ)
ความไม่อยากได้ (โทสะ)
และความหลง ไม่รู้จริง ไม่รู้เนื้อรู้ตัว (โมหะ)
ในทางศาสนาพุทธนั้น เรามีเครื่องมือที่ทรงพลานุภาพมาก เอาไว้ใช้สู้กับกิเลส 3 อย่าง คือ “ทาน ศีล ภาวนา”
'ทาน' ทำหน้าที่ให้กิเลส จางลงบ้าง
'ศีล' เป็นปราการกั้นกิเลสไม่ให้เข้ามาถูกเรา
'ภาวนา' นั้น เป็นอาวุธสำคัญ ที่จะใช้ตัดรากถอนโคนกิเลสได้
ชาวพุทธย่อมรู้ดีว่า ลำพัง 2 อาวุธ แค่ 'ทาน' กับ 'ศีล' นั้น ยังไม่ทำให้กิเลสสิ้นไป ถึงจะทำให้มันเจือจางลง หรือกั้นมันไว้แค่ไหน แต่มันก็ยังคงอยู่ และเมื่อใดก็ตามที่ 'ศีล' ของเราอ่อนแรงลง 'กิเลส' ก็จะจู่โจมเข้าสู่เราทันที
การ 'ภาวนา' การทำสมาธิ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ใช้ต่อสู้กับ 'กิเลส' อย่างแท้จริง โดยอาศัยกำลังเสริมจากอาวุธ 2 อย่างแรก ทั้ง 'ทานและศีล'
การ 'ภาวนา' ในพุทธศาสนามี 2 วิถี คือ 'สมถะสมาธิ' และ 'วิปัสนาสมาธิ'
วิถี 'สมถะสมาธิ' คือ ทำให้จิตสงบ ทำให้จิตใจมีกำลัง
วิถี 'วิปัสนาสมาธิ' คือ ทำให้เกิดปัญญา ให้รู้ถึง 'ไตรลักษณ์' ของจักรวาลทั้งหมด เมื่อนั้นตัวตนจึงมลายไป
และเมื่อ 'ตัวตน' มลายไป 'กิเลส' จึงมลายไปด้วย
'สมถะสมาธิ' นั้น ก่อนมีศาสนาพุทธ ก็มีแล้วในศาสนาอื่น ก่อนที่ 'พระพุทธศาสนา' จะถือกำเนิด เหล่าพราหมณ์ทั้งหลายก็ทำ 'สมถะสมาธิ' กัน
วิชาสมถะสมาธินี้ 'เจ้าชายสิทธัตถะ' ได้ร่ำเรียนจาก 'อาฬารดาบส' และ 'อุทกดาบส' แล้วพระองค์ก็พบว่า "แม้จะเข้า 'ฌาน' ไปลึกเพียงใด เมื่อออกจาก 'ฌาน' ก็ยังมี 'ทุกข์' อยู่ พระองค์จึงออกศึกษาด้วยตัวเองต่อไป
สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบไปไกลกว่านั้น คือ “การทำ 'วิปัสนาสมาธิ' จนเกิดเป็น 'ตัวผู้รู้' ขึ้น เพื่อรู้แจ้งในความรู้สูงสุดของชีวิตและสรรพสิ่งอย่างแท้จริง นั่นคือ ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยงแท้"
ทุกสรรพสิ่งอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่มีสิ่งใดเป็นของเรา
จึงควบคุมไม่ได้ เป็น 'อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา' ที่เรียกว่า 'ไตรลักษณ์' นั่นเอง
ผู้เขียน เขียนดี จน 'ท่านคมสรณ์' อยากให้ส่งต่อดังนี้
1. ในแต่ละปี จงทำชีวิตให้ 'ดีขึ้น' เพราะในแต่ละวัน ชีวิตกำลัง 'สั้นลง'
2. การ 'อยู่กับปัจจุบัน' ไม่ใช่การ 'หยุดทำ' ในเรื่องสำคัญ
แต่มัน คือ การ 'หยุดทุกข์' ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ
3. อารมณ์ 'ลบ' ทุกชนิด จะทำร้ายเรา ก่อนที่จะทำร้ายคนอื่นเสมอ...
ส่วนอารมณ์ 'บวก' ทุกชนิด จะให้พรเรา ก่อนที่จะให้พรคนอื่นเสมอ เช่นกัน...
4. วิจารณ์คนอื่นทุกวัน... ใจต่ำลงทุกวัน
วิจัยตัวเองทุกวัน... ใจสูงขึ้นทุกวัน
5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณ 'โกรธ'
คุณจะไม่รู้เลยว่า ระดับจิตคุณอยู่ตรงไหน
ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณ 'ทุกข์ใจ'
คุณจะไม่รู้เลยว่า ตัวเองยังมีอะไรต้องพัฒนา
6. ไม่ว่า 'ภายนอก' เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน แต่ 'ภายใน' เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ
จงหาวิธี 'รักตัวเอง' ให้เจอ เพราะ ไม่มีใครในโลกนี้ ที่จะอยู่กับเธอ สม่ำเสมอเท่ากับ 'ตัวเธอเอง'
7. การฝึกจิต และพัฒนาตัวเอง อาจไม่ทำให้เรา 'พ้นทุกข์ตลอดกาล' แต่มันทำให้เรา 'เป็นทุกข์นานน้อยลง'
8. การ 'แก้กรรม' ที่ดีที่สุด คือ การแก้ไข 'ความคิด' 'คำพูด' และ 'การกระทำ' ของตัวเอง
9. ความดีเล็กๆ ที่ทำไปนานๆ สุดท้ายอาจสร้าง 'ปาฏิหาริย์' ให้ชีวิต
10. 'ไป' ได้เร็วแค่ไหน ก็ '���ึง' เร็วเท่านั้น
'ปล่อย' ได้เร็วแค่ไหน ก็ 'สุข' เร็วเท่านั้น
11. จำไว้ว่า 'ความทุกข์' และ 'ความเจ็บปวด' ทั้งมวล
ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อมอบ 'คำสาป'
แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อมอบ 'คำสอน'
12. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง 'ผู้ตื่น' คือ การหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง 'คนอื่น' แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ 'ใจตัวเอง'
13. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก "สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ" แต่มันเกิดจาก "สิ่งที่คุณคิด ว่า 'คนอื่นคิด' เกี่ยวกับคุณ"
14. ต้องขอบคุณคนที่ทำ 'ไม่ดี' ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ 'ดี' ว่า "อะไร ไม่ควรทำ"
15. ไม่ว่าจะทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกลไปกว่า 'ใจ' ของเราเอง
16. เกลียดเขา 'เราทุกข์'
เมตตาเขา 'เราสุขเอง'
17. คนเราฝึกเดินจนเก่งได้ ฉันใด ก็สามารถฝึกใจ จนเป็นสุขได้ ฉันนั้น
18. 'ความตาย' เป็นเรื่องธรรมดา แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า เป็นเรื่อง 'อัศจรรย์'
19. โปรดสังเกตดูให้ดีว่า "สิ่งที่ทำให้เรา 'ทุกข์' บ่อยที่สุดในแต่ละวัน ไม่ใช่ 'พฤติกรรม' ของคนอื่น แต่คือ 'ความคิด' ของเราเอง"
20. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร
อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต
ชะตาเรา อย่าให้ใคร มาเขียนขีด
อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ
( แถมให้อีกหนึ่งอัน ! )
21. หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี 'เงิน' วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็หมด
หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ 'หน้าตา' ดี วันไหนคุณแก่ลง จนหน้าตาไม่ดี คุณค่าคุณก็หมด
แต่ตราบใดที่คุณรู้ว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น 'คนดี' ตราบที่คุณมีความดี คุณก็จะ 'มีคุณค่า' ได้ตลอดไป
#ท่านคมสรณ์
ขออนุโมทนาท่านผู้เขียนบทความ
ฝากส่งต่อๆ รับสิ่งดีๆ ให้กันไป เจริญธรรมนำสุขมาก
1 note
·
View note
Photo

ประโยคที่ว่า ""ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” คนส่วนมาก รวมทั้งเราด้วย ก็จะเข้าใจว่า พระท่านบอกให้ปลงว่า #ไปไม่กลับ ก็ = ตาย #หลับไม่ตื่น ก็ = ตาย #ฟื้นไม่มี ก็ = ตาย #หนีไม่พ้น ก็ = ตาย ใช่ไหม? แต่พระท่านแสดงธรรมว่า เราท่านทั้งหลายเข้าใจความหมายผิดหมดเลย เราควรจะทำความเข้าใจเสียใหม่ ให้ถูกต้อง จะได้ไปสอนลูกหลานให้เข้าใจ ดังนี้ ""ไปไม่กลับ"" หมายถึง ' #กาลเวลา ' ที่หมุนผ่านไป ไม่มีวันหวนกลับ อดีตล่วงไปแล้ว เหลือแต่ปัจจุบัน ควรใช้เวลาสร้างแต่ความดีให้คุ้มค่า ""หลับไม่ตื่น"" หมายถึง คนที่ยังหลงอยู่กับ ' #โมหะ ' ความหลงใน 'กิเลส' สร้างแต่บาปกรรม ไม่ยอมทำความดี เหมือนคนที่หลับไหล ไม่ยอมตื่นรับรู้ตามความจริง ""ฟื้นไม่มี"" หมายถึง ' #สังขารของเราที่ร่วงโรยไป ' ในแต่ละวัน ไม่สามารถย้อนคืนความหนุ่มความสาวได้ ""หนีไม่พ้น"" หมายถึง ' #กรรม ' ที่เราสร้างมาในแต่ละวัน ไม่มีวันที่เราจะหนีกรรมนั้นพ้น สรุปว่า ท่านบอกให้เรา ไม่ประมาทใน 'กาลเวลา' ไม่ประมาทใน 'กิเลส' ไม่ประมาทใน 'สังขารที่ล่วงไป' ไม่ประมาทใน 'การสร้างบุญกุศล' https://www.instagram.com/p/Ci4dit8Lixby1g9IDRbFZFr96C2yN-k1URnOqw0/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
Text
ดีมาก อ่านเข้าใจง่าย อ่าน2รอบนะ
##แก่นแท้ของพุทธ. ศาสนา##
พุทธศาสนาสอนอะไร และชาวพุทธทำอะไรกัน
โดย ประภาส ชลศรานนท์ อธิบายครบถ้วนกระบวนความ สั้นๆ กระทัดรัด ชัดเจน ดีมาก
เคยมีครูสอนภาษาชาวฝรั่งท่านหนึ่งถามว่า พุทธศาสนาสอนอะไร และชาวพุทธทำอะไรกันบ้าง
ผมบอกว่า ศาสนาพุทธนั้นสอนว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์
ฝรั่งท่านนั้นก็งงว่า พุทธสอนอย่างนี้จริงๆหรือ
ผมจึงบอกว่าจริง คำแรกของความจริงสี่ประการแห่งชีวิตคือคำว่า ”ทุกข์”
เกิดก็ทุกข์ แก่ก็ทุกข์ เจ็บก็ทุกข์ ตายก็ทุกข์
แล้วศาสนาพุทธก็ให้หาเหตุแห่งทุกข์(สมุทัย)
หาจุดหมายหนทางที่ ดับทุกข์ได้นั่นคือนิโรธ
แล้วก็สอน มรรค คือสอนให้ปฏิบัติในหนทางนั้น
ศาสนาพุทธสอนอีกว่า ทุกข์ทั้งหมดล้วนมาจาก
”กิเลส” กิเลสนั้นมีสามชนิด กิเลสของมนุษย์ล้วนอยู่ในสามชนิดนี้คือ
ความอยากได้(โลภะ)
ความไม่อยากได้(โทสะ) และ
ความหลง ไม่รู้จริง ไม่รู้เนื้อรู้ตัว(โมหะ)
ในทางศาสนาพุทธนั้น เรามีเครื่องมือที่ทรงพลานุภาพมาก เอาไว้ใช้สู้กับกิเลส สามอย่าง คือ “ทาน ศีล ภาวนา”
ทาน ทำหน้าที่ให้กิเลส จางลงบ้าง
ศีล เป็นปราการกั้นกิเลสไม่ให้เข้ามาถูกเรา
ภาวนานั้น เป็นอาวุธสำคัญที่จะใช้ตัดรากถอนโคนกิเลสได้
ชาวพุทธย่อมรู้ดีว่า ลำพังสองอาวุธแค่”ทาน กับศีล” นั้น ยังไม่ทำให้กิเลสสิ้นไป ถึงจะทำให้มันเจือจางลงหรือกั้นมันไว้แค่ไหน แต่มันก็ยังคงอยู่ และเมื่อใดก็ตามที่ศีลของเราอ่อนแรงลง ”กิเลส” ก็จะจู่โจมเข้าสู่เราทันที
การภาวนา การทำสมาธิ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ต่อสู้กับกิเลสอย่างแท้จริง โดยอาศัยกำลังเสริมจากอาวุธสองอย่างแรก ทั้ง ”ทานและศีล”
การภาวนาในพุทธศาสนามีสองวิถีคือ
สมถะสมาธิและวิปัสนาสมาธิ
วิถีสมถะสมาธิคือทำให้จิตสงบ ทำให้จิตใจมีกำลัง
วิถีวิปัสนาสมาธิคือทำให้เกิดปัญญา ให้รู้ถึงไตร
ลักษณ์ของจักรวาลทั้งหมด
เมื่อนั้นตัวตนจึงมลายไป และเมื่อตัวตนมลายไปกิเสลจึงมลายไปด้วย
สมถะสมาธินั้น ก่อนมีศาสนาพุทธ ก็มีแล้วในศาสนาอื่นก่อนที่พระพุทธศาสนาจะถือกำเนิด เหล่าพราหมณ์ทั้งหลายก็ทำสมถะสมาธิกัน วิชาสมถะสมาธินี้เจ้าชายสิทธัตถะได้ร่ำเรียนจาก อาฬารดาบสและอุทกดาบส แล้วพระองค์ก็พบว่าแม้จะเข้าฌานไปลึกเพียงใด เมื่อออกจากฌานก็ยังมีทุกข์อยู่ พระองค์จึงออกศึกษาด้วยตัวเองต่อไป สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบไปไกลกว่านั้นคือ “การทำวิปัสนาสมาธิ” จนเกิดเป็นตัวผู้รู้ขึ้น เพื่อรู้แจ้งในความรู้สูงสุดของชีวิตและสรรพสิ่งอย่างแท้จริง นั่นคือ ทุกสรรพสิ่ง”ไม่เที่ยงแท้”
ทุกสรรพสิ่งอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่มีสิ่งใดเป็นของเราจึงควบคุมไม่ได้ เป็น “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” ที่เรียกว่าไตรลักษณ์นั่นเอง
ผู้เขียน เขียนดี จนท่านคมสรณ์ อยากให้ส่งต่อดังนี้
1. ในแต่ละปี... จงทำชีวิตให้ " ดีขึ้น "
เพราะในแต่ละวัน... ชีวิตกำลัง " สั้นลง "
2. การ " อยู่กับปัจจุบัน "
ไม่ใช่การ " หยุดทำ " ในเรื่องสำคัญ
แต่มันคือการ " หยุดทุกข์ " ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ
3. อารมณ์ " ลบ " ทุกชนิด จะทำร้ายเรา
ก่อนที่จะทำร้ายคนอื่นเสมอ...
ส่วนอารมณ์ " บวก " ทุกชนิด จะ���ห้พรเรา
ก่อนที่จะให้พรคนอื่นเสมอ เช่นกัน...
4. วิจารณ์คนอื่นทุกวัน... ใจต่ำลงทุกวัน
วิจัยตัวเองทุกวัน... ใจสูงขึ้นทุกวัน
5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณโกรธ
... คุณจะไม่รู้เลยว่าระดับจิตคุณอยู่ตรงไหน
ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณทุกข์ใจ
... คุณจะไม่รู้เลยว่าตัวเองยังมีอะไรต้องพัฒนา
6. ไม่ว่า " ภายนอก " เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน
แต่ " ภายใน " เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ
จงหาวิธี " รักตัวเอง " ให้เจอ
เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะอยู่กับเธอ
สม่ำเสมอเท่ากับ " ตัวเธอเอง "
7. การฝึกจิตและพัฒนาตัวเอง
อาจไม่ทำให้เรา " พ้นทุกข์ตลอดกาล "
แต่มันทำให้เรา " เป็นทุกข์นานน้อยลง "
8. การ " แก้กรรม " ที่ดีที่สุด
คือการแก้ไข " ความคิด " " คำพูด "
และ " การกระทำ " ของตัวเอง
9. ความดีเล็ก ๆ ที่ทำไปนาน ๆ
สุดท้ายอาจสร้าง " ปาฏิหารย์ " ให้ชีวิต
10." ไป " ได้เร็วแค่ไหน ก็ถึงเร็วเท่านั้น...
" ปล่อย " ได้เร็วแค่ไหน ก็สุขเร็วเท่านั้น
11. จำไว้ว่า " ความทุกข์ "
และ" ความเจ็บปวด " ทั้งมวล
ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา... เพื่อมอบ " คำสาป "
แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา... เพื่อมอบ " คำสอน "
12. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง " ผู้ตื่น "
คือการหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง " คนอื่น"
แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ใจ " ตัวเอง "
13. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก
" สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ "
แต่มันเกิดจาก
" สิ่งที่คุณคิด ว่าคนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ "
14. ต้องขอบคุณคนที่ทำ " ไม่ดี "
ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ " ดี "
ว่าอะไร " ไม่ควรทำ "
15. ไม่ว่าจะทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน
ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกลไปกว่า " ใจ " ของเราเอง.
16. เกลียดเขา " เราทุกข์ "
เมตตาเขา " เราสุขเอง "
17. คนเราฝึกเดินจนเก่งได้ ฉันใด
ก็สามารถฝึกใจจนเป็นสุขได้ ฉันนั้น.
18. " ความตาย " เป็นเรื่องธรรมดา
แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า
เป็นเรื่อง" อัศจรรย์ "
19. โปรดสังเกตดูให้ดี... ว่าสิ่งที่ทำให้เราทุกข์
บ่อยที่สุดในแต่ละวัน
ไม่ใช่ " พฤติกรรม " ของคนอื่น
แต่คือ " ความคิด" ของเราเอง
20. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร
อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต
ชะตาเรา อย่าให้ใคร มาเขียนขีด
อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ
( แถมให้อีกหนึ่งอัน ! )
21. หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี " เงิน "
วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็หมด หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ " หน้าตา " ดี วันไหนคุณแก่ลง จนหน้าตาไม่ดี คุณค่าคุณก็หมด แต่ตราบใดที่คุณรู้ว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น "่ คนดี "
ตราบใดที่คุณมีความดี
คุณก็จะ " มีคุณค่า "ได้ตลอดไป
#ท่านคมสรณ์ ขออนุโมทนาท่านผู้เขียนบทความ
ฝากส่งต่อ ๆ รับสิ่งดี ๆ ให้กันไป เจริญธรรมนำสุขมาก
0 notes
Photo

"โอม อีง ฮรีง กลีง จามุนดาเย วิชเช โอม" ขอน้อมบูชาพระแม่ทุรคา ผู้ซึ่งมีชัยชนะเหนืออสูรร้าย ขอพระแม่โปรดทรงประทานพระพรมายังผู้ที่ศรัทธาพระองค์ ให้มีความอดทนและกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความทุกข์ กิเลส และความชั่วทั้งปวงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและจิตใจ ขอพระแม่ผู้ทรงชัยและทรงเปี่ยมด้วยพลังแห่งจักรวาลโปรดทรงประทานพระพรที่ดีที่สุดให้เหล่าสานุศิษย์ของพระองค์ด้วยเถิด https://www.instagram.com/p/CPLSRKXp-xL/?utm_medium=tumblr
0 notes