#โปรแกรมคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
Explore tagged Tumblr posts
Text
โปรแกรมคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
โปรแกรมคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
กรอกส่วนสูง
cm.น้ำหนักตัว
kg.อายุ
ปี
เพศคำนวณ BMI
ค่า BMI คืออะไร
ค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body Mass Index) เป็นมาตรวัดสำคัญในการประเมินสมดุลระหว่างน้ำหนักและส่วนสูง ที่วัดด้วยน้ำหนักเป็นกิโลกรัม และส่วนสูงเป็นเซนติเมตร โดยจะประมวลผลรูปร่างตามเกณฑ์ตั้งแต่อ้วนมากไปจนถึงผอมเกินไป เพื่อให้คุณเข้าใจดัชนีมวลกายของคุณ และสามารถประเมินสถานะสุขภาพได้
ทำไมต้องคำนวณ BMI
การรู้ค่า BMI ช่วยให้เราเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองมากขึ้น และสามารถวางแผนดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม หากค่าดัชนีมวลกายสูงเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจรวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การคำนวณ BMI อาจช่วยให้คุณประเมินผลลัพธ์จากการออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก และการควบคุมอาหารของคุณได้
ตารางคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
ค่า BMIอยู่ในเกณท์น้อยกว่า 18.5น้ำหนักน้อย / ผอมระหว่าง 18.5 - 22.9น้ำหนักปกติ (สุขภาพดี)ระหว่าง 23 - 24.90ท้วม / เริ่มอ้วนระหว่าง 25 - 29.90อ้วน30.0 ขึ้นไปอ้วนมาก
สูตรคำนวณ BMI ชาย หญิง
น้ำหนัก (กิโลกรัม)[ส่วนสูง (เมตร)] 2
ตัวอย่าง:ผู้หญิง น้ำหนัก = 59 กิโลกรัม, ส่วนสูง = 165 เซนติเมตร (เท่ากับ 1.65 เมตร)
วิธีคิดดัชนีมวลกาย BMI =59(1.65 × 1.65)
ค่าดัชนีมวลกาย BMI = 21.7
เกณฑ์การวัดค่าดัชนีมวลกาย (BMI)
ค่า BMI ในเกณฑ์น้ำหนักน้อย / ผอมผู้ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักน้อย / ผอม จะมีค่าดัชนีมวลกาย น้อยกว่า 18.50 หมายถึงน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ โรคเรื้อรัง หรือภาวะทางอารมณ์บางอย่าง
ค่า BMI ในเกณฑ์ปกติผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะมีค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 18.50 - 22.90 หมายถึงน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับส่วนสูง และมีสุขภาพที่ดี
ค่า BMI ในเกณฑ์ท้วมผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ท้วม จะมีค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 23 - 24.90 หมายถึงน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ค่า BMI ในเกณฑ์อ้วนผู้ที่อยู่ในเกณฑ์อ้วน จะมีค่าดัชนีมวลกาย ระหว่าง 25 - 29.90 หมายถึงน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานปานกลางถึงมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ค่า BMI ในเกณฑ์อ้วนมากผู้ที่อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก จะมีค่าดัชนีมวลกาย มากกว่า 30 หมายถึงน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ร้ายแรงหลายประการ
ค่า BMI ที่คำนวณได้
น้ำหนักน้อย น้อยกว่า 18.50
ปกติ ระหว่าง 18.5 - 22.9
ท้วม ระหว่าง 23 - 24.9
อ้วน ระหว่าง 25 - 29.9
อ้วนมาก มากกว่า 30
เกณฑ์น้ำหนักน้อย 17.31 kg/m2
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักน้อย / ผอม
ค่าดัชนีมวลกายมีค่าน้อยกว่า 18.50
ข้อแนะนำ
การมีน้ำหนักน้อยเกินไป แม้จะดูผอมเพรียว แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะร่างกายอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอและทำงานได้ไม่เต็มที่ การปรับปรุงพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
คำแนะนำสำหรับผู้มีค่า BMI ในเกณฑ์น้ำหนักน้อย / ผอม
ปรึกษาแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและหาสาเหตุของน้ำหนักน้อยอย่างละเอียด
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
เพิ่มปริมาณอาหาร กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นอาหารที่มีพลังงานสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว และผลไม้
กินอาหารให้บ่อยขึ้น กินอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อ แทนที่จะกินมื้อใหญ่เพียงไม่กี่มื้อ
เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เน้นอาหารที่มีโปรตีน ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำก่อนอาหารจะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น แต่ควรดื่มน้ำหลังอาหารประมาณ 30 นาที เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
ออกกำลังกาย เลือกชนิดและความหนักของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพ โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายเพื่อวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสม
พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเซลล์
ค่า BMI ที่คำนวณได้
น้ำหนักน้อย น้อยกว่า 18.50
ปกติ ระหว่าง 18.5 - 22.9
ท้วม ระหว่าง 23 - 24.9
อ้วน ระหว่าง 25 - 29.9
อ้วนมาก มากกว่า 30
เกณฑ์ปกติ 21.34 kg/m2
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ค่าดัชนีมวลกายมีค่าระหว่าง 18.5 - 22.9
ข้อแนะนำ
สำหรับคนที่ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ปกตินั้น ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่คุณดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดีและสุขภาพแข็งแรงนั้น ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการดูแลตัวเอง
คำแนะนำสำหรับผู้มีค่า BMI ในเกณฑ์ปกติ
เน้นอาหารที่มีประโยชน์: ถึงแม้จะมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว แต่การเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ยังคงสำคัญ ควรเน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ไม่ขาดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว และนม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกัน
ควบคุมปริมาณอาหาร: แม้ว่าจะทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่การทานมากเกินไปก็อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ควรกินอาหารแต่พออิ่ม ไม่กินจนอิ่มเกินไป และสังเกตสัญญาณความหิวและความอิ่มของร่างกาย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย เลือกกิจกรรมที่ชอบและทำได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ หรือการเต้น
พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมักมีโซเดียมและน้ำตาลสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ควรลดการบริโภคอาหารประเภทนี้
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้คุณทราบถึงสภาวะสุขภาพของร่างกาย และสามารถป้องกันโรคต่างๆ ได้
ค่า BMI ที่คำนวณได้
น้ำหนักน้อย น้อยกว่า 18.50
ปกติ ระหว่าง 18.5 - 22.9
ท้วม ระหว่าง 23 - 24.9
อ้วน ระหว่าง 25 - 29.9
อ้วนมาก มากกว่า 30
เกณฑ์ท้วม 24.46 kg/m2
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ท้วม
ค่าดัชนีมวลกายมีค่าระหว่าง 23 - 24.9
ข้อแนะนำ
การมีค่า BMI ในเกณฑ์ท้วมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดน้ำหนักจึงเป็นสิ่งสำคัญ
คำแนะนำสำหรับผู้มีค่า BMI ในเกณฑ์ท้วม
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน: เริ่มต้นด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว และนม ลดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารมัน อาหารหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้พอดี อย่าอดอาหาร เพราะจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและอาจทำให้การลดน้ำหนักยากขึ้น
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันส่วนเกิน เลือกกิจกรรมที่คุณชอบและทำได้อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเข้าคลาสออกกำลังกายต่างๆ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และยังช่วยควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวและความอิ่มอีกด้วย
จัดการความเครียด: ความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดการอยากอาหารและนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักได้ การหาเวลาผ่อนคลาย เช่น การฟังเพลง การทำสมาธิ หรือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ จะช่วยลดความเครียดได้
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีปัญหาในการลดน้ำหนักหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อวางแผนการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับคุณ
ค่า BMI ที่คำนวณได้
น้ำหนักน้อย น้อยกว่า 18.50
ปกติ ระหว่าง 18.5 - 22.9
ท้วม ระหว่าง 23 - 24.9
อ้วน ระหว่าง 25 - 29.9
อ้วนมาก มากกว่า 30
เกณฑ์��้วน 29.36 kg/m2
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์��้วน
ค่าดัชนีมวลกายมีค่าระหว่าง 25 - 29.9
ข้อแนะนำ
สำหรับผู้ที่มีค่า BMI ในเกณฑ์อ้วน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดน้ำหนักเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว การลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ควรเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายควบคู่กันไป
คำแนะนำสำหรับผู้มีค่า BMI ในเกณฑ์อ้วน
ลดปริมาณอาหาร: ควรกินอาหารแต่พออิ่ม ไม่กินจนอิ่มเกินไป และสังเกตสัญญาณความหิวและความอิ่มของร่างกาย
เลือกอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ลดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารมัน และอาหารหวาน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล: เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีแคลอรี่สูง
ทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อ: การทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ และช่วยควบคุมความหิวได้ดีขึ้น
การออกกำลังกาย
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
เลือกกิจกรรมที่ชอบ: การเลือกกิจกรรมที่ชอบจะช่วยให้คุณทำได้อย่างต่อเนื่อง
เพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกาย: ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกายไปเรื่อยๆ
ปรึกษาผู้ฝึกสอน: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มออกกำลังกายอย่างไร ควรปรึกษาผู้ฝึกสอนเพื่อวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสม
ปรึกษาแพทย์ ก่อนเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและขอคำแนะนำ
สิ่งที่ควรระวัง:
อย่าอดอาหาร: การอดอาหารจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
อย่าใช้ยาลดน้ำหนักโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์: ยาลดน้ำหนักบางชนิดอาจมีผลข้างเคียง
อย่าใช้วิธีการลดน้ำหนักที่รวดเร็วเกินไป: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
ค่า BMI ที่คำนวณได้
น้ำหนักน้อย น้อยกว่า 18.50
ปกติ ระหว่าง 18.5 - 22.9
ท้วม ระหว่าง 23 - 24.9
อ้วน ระหว่าง 25 - 29.9
อ้วนมาก มากกว่า 30
เกณฑ์อ้วนมาก 33.50 kg/m2
ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก
ค่าดัชนีมวลกายมีค่ามากกว่า 30
ข้อแนะนำ
สำหรับผู้ที่มีค่า BMI มากกว่า 30 ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดน้ำหนักเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะภาวะอ้วนอาจนำไปสู่โรคต่างๆ การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องอาศัยความอดทนและความพยายาม แต่ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้
คำแนะนำสำหรับผู้มีค่า BMI ในเกณฑ์อ้วนมาก
ปรึกษาแพทย์: ก่อนเริ่มต้นโปรแกรมลดน้ำหนัก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและหาสาเหตุที่แท้จริงของภาวะอ้วน แพทย์จะให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน:
ลดปริมาณแคลอรี่: ลดปริมาณอาหารที่รับประทานลง โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และแป้งขัดสี
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่: เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว และนม
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยในการเผาผลาญ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล: เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน และเครื่องดื่มชูกำลัง
ทานอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อ: จะช่วยให้รู้สึกอิ่มอยู่เสมอและลดความอยากอาหารมื้อใหญ่
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:
เลือกกิจกรรมที่ชอบ: เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ
ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน: หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกาย: เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
นอนหลับให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวและความอิ่ม
ลดความเครียด: ความเครียดอาจทำให้เกิดการกินมากเกินไป ลองหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการฟังเพลง
หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ: ลุกขึ้นมาขยับร่างกายบ่อยๆ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:
นักโภชนาการ: จะช่วยวางแผนอาหารที่เหมาะสมกับคุณ
ผู้ฝึกสอนส่วนตัว: จะช่วยวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสม
สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอและอดทน การลดน้ำหนักต้องใช้เวลาและความพยายาม อย่าท้อแท้หากไม่ได้ผลลัพธ์ในทันที ควรตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และค่อยๆ ปรับปรุงพฤติกรรมไปทีละน้อยคำเตือน:
หากคุณมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก
ข้อแตกต่างของดัชนีมวลกายผู้หญิงและผู้ชาย
แม้ว่าสูตรการคำนวณ BMI จะเหมือนกันสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันในร่างกายของทั้งสองเพศนั้นแตกต่างกัน โดยทั่วไป ผู้ชายจะมีกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าไขมัน ทำให้ดัชนีมวลกายผู้ชายมีค่าสูงกว่าผู้หญิงที่มีไขมันในปริมาณเท่ากัน แม้ว่าสุขภาพโดยรวมจะดีกว่าก็ตาม
ภัยจากการมีดัชนีมวลกายที่ผิดปกติ: จากอ้วนเกินไปถึงผอมเกิน
ค่าดัชนีมวลกายอ้วนเกิน
ระบบเผาผลาญทำงานหนักร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อนำพลังงานไปเลี้ยงส่วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย
ข้อต่อเสื่อม น้ำหนักตัวที่มากกดดันข้อต่อ ทำให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น
ปัญหาทางจิตใจ อาจรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง
ค่าดัชนีมวลกายผอมเกิน
ขาดสารอาหาร ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอต่อการทำงาน ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
ปัญหาทางจิตใจ อาจเกิดจากความไม่พอใจในรูปร่าง หรือความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ
การมีค่า BMI ปกติเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพที่ดี การดูแลสุขภาพโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักตัวและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้
Note!ค่า BMI เป็นเพียงตัว��ี้วัดเบื้องต้นที่คำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูงเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สะท้อนสภาพร่างกายที่แท้จริง เนื่องจากไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น มวลกล้ามเนื้อ ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
โปรแกรมคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) , ดัชนีมวลกาย BMI คืออะไร , ดัชนีมวลกาย , Body Mass Index , BMI , ค่า BMI คืออะไร , วิธีคํานวณค่าดัชนีมวลกาย , เกณฑ์การวัดค่าดัชนีมวลกาย , ค่า BMI สูงเกินไป ความเสื่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ,
วิธีแก้หรือช่วยควบคุมค่า BMI มีอะไรบ้าง , วิธีคํานวณค่า BMI , เกณฑ์การวัดค่าดัชนีมวลกาย , ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) คืออะไร?
CR :: https://www.sanook.com/health/bmi/
#โปรแกรมคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI)#ดัชนีมวลกาย BMI คืออะไร#ดัชนีมวลกาย#Body Mass Index#BMI#ค่า BMI คืออะไร#วิธีคํานวณค่าดัชนีมวลกาย#เกณฑ์การวัดค่าดัชนีมวลกาย#ค่า BMI สูงเกินไป ความเสื่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง#วิธีแก้หรือช่วยควบคุมค่า BMI มีอะไรบ้าง#วิธีคํานวณค่า BMI#ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) คืออะไร?
2 notes
·
View notes