#อยู่
Explore tagged Tumblr posts
Text
Jeff Satur เจฟ ซาเตอร์ : อยู่.. ỳuu (Holding On) - Thai Lyrics / Rom / Eng sub / Esp / Pt-Br [OFFICIAL MV]
youtube
3 notes
·
View notes
Text
Price to pay for science.
Recently, I've been sick and had offline activities to take care of so I hardly have time to draw anything. T_T
I've always wondered how much electricity Lucy actually consumes. I mean, she's always looking for a charging port so her power consumption must be pretty high, right? Laplace used to foot the bill for her electricity while she was there, but after the 1.9 patch she moved in with Vertin. I hope Vertin is prepared. (lol)
ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยส��ายแถมมีเหตุให้ต้องออกไปข้างนอกบ่อยๆ เลยหาเวลาปักหลักวาดรูปได้ยากมากๆ เลย T_T
เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า Lucy ที่ดูเหมือนจะใช้พลังงานไฟฟ้า (เพราะตามท้องเรื่องต้องมองหาปลั๊กชาร์จไฟอยู่ตลอด) จะใช้ไฟเปลืองมากขนาดไหน? ตอน Lucy อยู่ Laplace ค่าไฟทั้งหมด Laplace เป็นผู้รับผิดชอบ แต่หลังจากแพทช์ 1.9 Lucy ย้ายมาอยู่กับ Vertin แล้ว Vertin ก็สู้ๆ นะ (ฮา…)
-devilray- FB and X - dfaxtory
12 notes
·
View notes
Text
Lunar Romance (English version) Fully Voice Otome Game
4 dangerous and handsome men keep coming after me.
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
Game: Lunar Romance
By: Lunar Games
Platform: iOS, Android
Languages: English, Korean, Japanese
Website: http://mylunargames.com/lunar-romance
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
"So you are the mortal girl who gained the power of a god."
Previously an ordinary office worker, "I" suddenly gain the power of a god on the way home from work.
Though I have no interest in things like gods, and would rather live a quiet life as an office worker...
🌙 โรแมนติกแฟนตาซี อยู่ ๆ ฉันก็กลายเป็นเทพ!
ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันซ���่งเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ ได้รับพลังจากสวรรค์แบบไม่คาดคิด
ฉันไม่ได้สนใจเรื่องพระเจ้า ฉันแค่ต้องการใช้ชีวิตธรรมดาอย่างสงบสุข
ชายผู้เย้ายวนทั้งสี่ก็ได้ปรากฏตัว
📣 CAST
✦ Baek CV: Jeon Seung Hwa
CEO, faceless corporate raider.
"My name is Baek. Your destined partner and soulmate."
✦ Yuye CV: Hong Hu Baek
Security Team Director. Taciturn and fiercely loyal.
"My master's wish is my command."
✦ Hwal CV: Ryu Seung Gon
Youngest ever aide. His every move gets posted on the internet.
"I called because I miss you."
✦ Seo Eunhan CV: Kim Min Ju
A mysterious boy who appears unexpectedly. Who is he?
"Hey. How are you?"
🔻 DOWNLOAD 🔻
🔗 Android: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mng.doesgodworkovertime
🔗 iOS: https://apps.apple.com/app/id1586821762
📌 Available on : Korean, US, Canada, UK, New Zealand, Australia store
#Lunar Romance#otome#otome game#乙女ゲーム#โอโตเมะเกม#เกมจีบหนุ่ม#Otome Mobile#오토메게임#เกมจีบหนุ่มเกาหลี#신도 야근을 하나요?#Does God Work Overtime?
23 notes
·
View notes
Text
THIS EVENING, IN THE CAR WITH SINGTO, KRIST POSTED AN MV TO HIS IG STORIES
They were in Pattaya today, likely filming a new episode of Friendship with KristSingto.
[Singto photographing Krist from behind]
The lyrics of the song Krist posted, translated by FUSE, are as follows:
อยู่ด้วยกันแบบนี้
Stay together like this
ประคองกันเดินไป
supporting each other’s steps
รอยยิ้มที่ให้��า
The smile you give me
ยังสวยงามเหนือสิ่งใด
is more beautiful than anything
ที่ทุกข์ก็จางหาย
Misery fades away
ที่ร้ายก็ผ่อนคลาย
The worst gets better
จากร้ายจนดีฉันยังมีเธอ
For better for worse I still have you
ถึงวันสุดท้ายที่หายใจ
until the last day of my life
ความสุขที่แท้
The true happiness
ที่ไขว่คว้าไกลแสนไกล
I’m trying to reach from far away
อยู่ แค่นี้เอง
is actually right here
ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้
Thank you for still being here
ขอบคุณทุกทุกวินาที
Thank you every second
ขอบคุณที่นับจากนี้
Thank you, that from now on,
จะยังคงเดินด้วยกันต่อไป
We will keep walking together.
8 notes
·
View notes
Text
People I want to get to know better
ahhh, thanks for the tag @obsessionmv 💖
Last song: Jeff Satur - อยู่ (holding on) ... i swear i listen to other music sometimes.
Favorite color: It really depends on my mood but it's some shade of green on most days.
Currently watching: dead friend forever is the only thing i've been consistently keeping up with at the moment
Last Movie: ... i don't remember HAHAHA. i know i re-watched the infernal affairs movie with andy lau and tony leung a number of months ago but... have i really not watched any movies since then??? :')
Sweet, spicy, or savory: i'm a fan of them all! but i will go with savory.
Last thing you googled: a theatre's website to see if they updated the cast list on an upcoming play
Relationship status: single
Current obsession: um *gestures vaguely* kp i guess? i feel like i have no time lately but i'm often thinking about the wips i want to be working on 🤡
Selfie/another pic you took: here, look at my triceratops mitten
if you looked at the mitten consider yourself tagged!!!!!! 👈😎👈
7 notes
·
View notes
Text
บัญญัติ 10 ประการ ฉบับคาทอลิก
บัญญัติ 10 ประการ
พระบัญญัติ 10 ประการ หรือ บทบัญญัติ 10 ประการ (อังกฤษ: Ten Commandments; ฮีบรู: עשרת הדיברות; แอราเมอิก: ܥܣܪܐ ܦܘܩܕܢܐ; กรีก : Δέκα εντολές;) คือรายการคำสอนและข้อปฏิบัติตามคัมภีร์ฮีบรู ซึ่งเชื่อว่าพระยาห์เวห์ได้ประทานแก่วงศ์วานอิสราเอล ผ่านทางโมเสส ที่ภูเขาซีนาย บัญญัตินี้สลักไว้บนแผ่นหิน 2 แผ่น บัญญัติ 10 ประการใช้ในศาสนาคริสต์และศาสนายูดาห์
ในภาษายิดดิช ใช้คำว่า Aseret ha-Dvarîm עשרת הדברים ในภาษาฮีบรูและภาษาฮีบรูมิซนะห์ ใช้คำว่า Aseret ha-Dibrot עשרת הדברות ซึ่งทั้งสองคำหมายถึง บัญญัติ 10 ประการ และมีการใช้ในภาษากรีก ซึ่งแปลมาจากภาษาฮีบรูว่า δέκα λόγοι (dekalogoi) หมายถึง คำสิบคำ (the ten words) อีกด้วย
เนื้อหา
ตามคัมภีร์ฮีบรู บัญญัติชุดนี้ปรากฏในหนังสืออพยพและหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ และไม่ได้แบ่งเป็นข้อไว้แต่แรก ในสมัยต่อมาจึงจัดลำดับเป็น 10 ข้อเพื่อความสะดวก อย่างไรก็ตามตำราทางศาสนาคริสต์แต่ละฉบับไล่ลำดับบัญญัติทั้ง 10 ไว้ต่างกัน
ในปัจจุบัน มีการ��รียงลำดับบัญญัติ 10 ประการ ไว้ 7 แบบ ดังนี้
รูปแบบ :
🟣 ซ: เซปตัวจินต์ - ใช้ในนิกายโปรเตสแตนต์ และนิกายออร์ทอดอกซ์ ตามลำดับในพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย
🟣 ฟ: ไฟโล - เหมือนฉบับเซปตัวจินต์ แต่ข้อ "ห้ามฆ่าคน" กับ "ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา" สลับกัน
🟣 ท: ทาลมุด - เอาอารัมภบทเป็นข้อหนึ่ง และรวมข้อ "ห้ามนับถือพระเจ้าอื่น" กับ "ห้ามบูชาเทวรูป" เป็นข้อเดียว ใช้ในศาสนายูดาห์
🟣 อ: ออกัสตินแห่งฮิปโป - ถือตามฉบับทาลมุดที่รวมข้อ "ห้ามนับถือพระเจ้าอื่น" กับ "ห้ามบูชาเทวรูป" เป็นข้อเดียว แต่ไม่นับอารัมภบทเป็นข้อหนึ่ง และแบ่งข้อ "ห้ามโลภ" เป็นสองข้อ ตามลำดับคัมภีร์ไบเบิลฉบับภาษาอังกฤษ ในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 5:21
🟣 ค: คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก - ซึ่งถือตามฉบับนักบุญออกัสติน ใช้ในนิกายโรมันคาทอลิก
🟣 ล: ลูเทอแรน - ยึดตามหนังสือ "The Large Catechism" ของมาร์ติน ลูเทอร์ ซึ่งถือตามฉบับออกัสติน แต่ตัดข้อ "ห้ามบูชาเทวรูป" ออก และเรียงลำดับข้อ 9 และ 10 ตามลำดับคัมภีร์ไบเบิลฉบับภาษาอังกฤษ ในหนังสืออพยพ
🟣 ป: คริสตจักรปฏิรูป - ยึดตามหนังสือ "สถาบันคริสต์ศาสนา" ของฌ็อง กาลแว็ง ซึ่งถือตามเซปตัวจินต์
ฉบับภาษาไทย
บัญญัติ 10 ประการ ได้แปลเป็นภาษาไทยหลายฉบับ โดยมีสำนวนภาษาและลำดับข้อแตกต่างกันไป ดังนี้
บัญญัติ 10 ประการ ฉบับลูเทอแรน
ตามหนังสือ "รากฐานมั่นคงแห่งความเชื่อคริสเตียน" ที่สถาบันศาสนศาสตร์ลูเธอร์แรนจัดพิมพ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2537 มีรายละเอียดดังนี้
1. จงอย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา (อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน)
2. จงอย่าออกพระนามของพระเจ้าของเจ้าอย่างไม่สมควร
3. จงระลึกถึงวันซะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์
4. จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า
5. จงอย่าฆ่าคน
6. จงอย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
7. จงอย่าลักทรัพย์
8. จงอย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
9. จงอย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน
10. จงอย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือ โค ลา ของเขา หรือสิ่งใด ๆ ซึ่งเป็นของเพื่อนบ้าน
บัญญัติ 10 ประการ ฉบับคาทอลิก
สำหรับสำนวนแปลที่คริสตชนโรมันคาทอลิกในประเทศไทยใช้ในปัจจุบัน ตาม "บทภาวนาของคริสตชน (ฉบับปรับปรุง 2010)" มีดังนี้
เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
1. จงนมัสการ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าองค์เดียวของท่าน
2. จงอย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ
3. จงอย่าลืมฉลองวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
4. จงนับถือบ���ดามารดา
5. จงอย่าฆ่าคน
6. จงอย่าผิดประเวณี
7. จงอย่าลักขโมย
8. จงอย่าพูดเท็จใส่ร้ายผู้อื่น
9. จงอย่าปลงใจผิดประเวณี
10. จงอย่ามักได้ทรัพย์สินของผู้อื่น
บัญญัติ 10 ประการ ฉบับโปรเตสแตนต์
สำหรับสำนวนแปลของคริสตชนโปรเตสแตนต์ในประเทศไทย ตาม "พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011" ของสมาคมพระคริสตธรรมไทย มีรายละเอียดดังนี้
เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือจากแดนทาส
1. จงห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
2. จงห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน ห้ามกราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน แต่แสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และรักษาบัญญัติของเราจนถึงนับพันชั่วอายุคน
3. จงห้ามใช้พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าไปในทางที่ผิด เพราะผู้ที่ใช้พระนามของพระองค์ไปในทางที่ผิดนั้น พระยาห์เวห์จะทรงเอาโทษ
4. จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ จงทำงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นห้ามทำงานใดๆไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพราะในหกวันพระยาห์เวห์ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์ทรงอวยพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์
5. จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนยาวบนแผ่นดิน ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าประทานแก่เจ้า
6. จงห้ามฆ่าคน
7. จงห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา
8. จงห้ามลักขโมย
9. จงห้ามเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
10. จงห้ามโลภบ้านเรือนของเพื่อนบ้าน ห้ามโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน
อ้างอิง
อพยพ 34:28, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011, สมาคมพระคริสตธรรมไทย
↑ อพยพ 20 เก็บถาวร 2016-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม, คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์
↑ กระโดดขึ้นไป:3.0 3.1 Catechism of the Catholic Church, Can. 2066
↑ Luther's Large Catechism เก็บถาวร 2013-11-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (1529)
↑ “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือจากแดนทาส
↑ “‘เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือออกจากแดนทาส
↑ “ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
↑ “‘ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
https://th.wikipedia.org/wiki/
บัญญัติ 10 ประการ บัญญัติ 10 ประการฉบับคาทอลิก บัญญัติ 10 ประการฉบับลูเทอแรน บัญญัติ 10 ประการฉบับโปรเตสแตนต์
#บ��ญญัติ 10 ประการ#บัญญัติ 10 ประการฉบับคาทอลิก#บัญญัติ 10 ประการฉบับลูเทอแรน#บัญญัติ 10 ประการฉบับโปรเตสแตนต์
6 notes
·
View notes
Text
Info for writer in Thai series fandom: Lullabies
Some well know song used for lullabies, games, ect.
Notes:
I notice that using lullabies or nursery rhymes in writing is a common occurrence, so in this chapter I will give you something in case you want some Thai songs for that. Oh, but if you are more comfortable using an English song, then I would like to assure you that many of them are well known in Thai. Don't worry.
I added all song links on AO3, but just some here due to the post limit.
lullabies and Children's song
I added some song links on AO3, but not here, sorry.
นกกาเหว่า : nok-ka-wao (Cuckoo song)
กาเหว่าเอย ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก kawao oei khai wai hai mae ka fak The cuckoo lays an egg for the mother crow to hatch.
แม่กาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทร mae ka ko long rak khit wa luk nai uthon The crow fell in love and thought that the egg was her own,
คาบเอาข้าวมาเผื่อ ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน khap ao khao ma phuea pai khap ao yuea ma pon carrying food and prey back to feed it,
ถนอมไว้ในรังนอน ซ่อนเหยื่อมาให้กิน thanom wai nai rang non son yuea ma hai kin cherish it in the nest, and hide the prey for it to eat.
ปีกเจ้ายังอ่อนคลอแคล ท้อแท้จะสอนบิน pik chao yang on khlokhlae thothae cha son bin Your wings are still too weak to teach to fly.
แม่กาพาไปกิน ที่ปากน้ำพระคงคา mae ka pha pai kin thi paknam phra khongkha The mother crow took it to eat at the estuary of the Ganges river.
ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย ปากก็ไซ้หาปลา tin chao yiap sarai pak ko sai ha pla Feet are stepping on algae, and the mouth is searching for fish.
กินกุ้งแลกินกั้ง กินหอยกระพังแมงดา kin kung lae kin kang kin hoi kra phang maengda Eat shrimp and crayfish. Eat mussels and horseshoe crabs.
กินแล้วก็โผมา จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง kin laeoko pho ma chap thi ton wa pho thong Then dart to the Wa Pho Thong tree.
ยังมีนายพราน เที่ยวเยี่ยมเยี่ยมมองมอง yang mi naiphran thiao yiam yiam mong mong There is also a hunter sneaking a peek at them.
ยกเอาปืนขึ้นส่อง จ้องเอาแม่กาดำ yok ao puen khuen song chong ao mae ka dam Raising the gun and staring at the black crow,
ตัวหนึ่งว่าจะต้ม อีกตัวว่าจะยำ tua nueng wa cha tom ik tua wa cha yam one is to boil, another one will be made into yum.
กินนางแม่กาดำ ค่ำวันนี้อุแม่นา kin nang mae ka dam kham wanni u mae na This evening we will eat the mother black crow.
youtube
youtube
*These two clips word some lyrics a little different, but overall, it's the same.
นกขมิ้น : nok-kha-min (Canary song)
เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนเอ๋ย chao nokkhaminlueang-on oei O light yellow canary
ค่ำแล้วจะนอนที่ตรงไหน kham laeo cha non thi trong nai Where will you sleep at night?
จะนอนไหนก็นอนได้ cha non nai ko non dai You can sleep anywhere.
สุมทุมพุ่มไม้ก็เคยนอน sumthum phummai ko khoei non The bushes used to sleep
ลมพระพายชายพัดมาอ่อนๆ lom phra phai chai phat ma on on The gentle wind blows
เจ้าเคยจรมานอนรังเอย chao khoei chon ma non rang oei You used to wander and come to sleep in the nest.
youtube
youtube
วัดโบถส์ (Bot temple)
1
วัดเอ๋ย วัดโบสถ์ wat oei watbot Temple Oey, Bot temple
*Bot means a place for monks to use for rites but is sometimes used as a temple name. Watbot means Bot temple.
ปลูกข้าวโพด สาลี pluk khaophot sali planting wheat
ลูกเขยตกยาก lukkhoei tokyak son-in-law become impoverished
แม่ยายก็พรากลูกสาวหนี maeyai ko phrak luksao ni The mother-in-law took her daughter away.
โอ้ข้าวโพด สาลี o khaophot sali oh wheat
ป่านฉะนี้ จะโรยราเอย panchani cha roira oei Thus far, it will wither
**Normally, khaophot means corn and sali means wheat, but according to La Loubere, khaophot sali here should mean wheat.
-------------------
2
วัดเอ๋ย วัดโบสถ์ wat oei watbot Wat Oey, Wat Bot
มีต้นตะโหนด อยู่ 7 ต้น mi ton ta not yu chet ton There are 7 tanote trees.
เจ้าขุนทองจะไปปล้น chao khunthong cha pai plon Chao Khun Thong is went out to rob
ตะโหนด 7 ต้น ของคนดง ta not chet ton khong khon dong 7 tanodes of the barbarian people
เจ้าขุนทองตายแล้ว chao khunthong tai laeo Chao Khun Thong is dead.
เหลือแต่กระดูกแก้ว ให้คนปอง luea tae kraduk kaeo hai khon pong Only bones left for people to get
มือขว��ถือฉัตร muekhwa thue chat right hand holding a tier
มือซ้ายสะบัดขึ้นถือธง muesai sabat khuen thue thong left hand flutters up to hold the flag.
ตั้งใจจะไปปลง tangchai cha pai plong intend to cremate
ศพเจ้าขุนทอง sop chao khunthong The corpse of Chao Khun Thong
-------------------
3
วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ wat oei watbot Wat Oey, Wat Bot
มีตาลโตนดอยู่7ต้น mi tantanot yu chet ton There are 7 palm tanot trees.
พ่อขุนทองก็ไปปล้น phokhun thong ko pai plon por Khun Thong went to rob *Usually พ่อ(por) means father, but here it is a term use for a younger man with intimacy or affection.
ป่านฉะนี้ไม่เห็นมา panchani mai hen ma even now he still can't be seen came back.
เมียคดข้าวใส่ห่อ mia khotkhao sai ho Wife dip out rice and wrapped it
ถ่อเรือไปตามหา thoruea pai tamha punt out to find him
เขาก็เล่าลือมา khao ko laolue ma people are rumored
ว่าพ่อขุนทองตายแล้ว wa phokhun thong tai laeo that por Khun Thong is dead
เหลืออยู่แต่กระดูกแก้ว luea yu tae kraduk kaeo Only the bone remains
เมียรักจะไปปลง mia rak cha pai plong dear wife will go to cremate
เจ้าขุนศรีจะถือฉัตร chao khun si cha thue chat Chao Khun Sri will hold a tier.
ยกกระบัตรถือธง yokkrabat thue thong raising the flag
ถือท้ายพายเรือหงส์ thuethai phairuea hong steer a swan boat *a state barge with a swan as a figurehead
จะไปปลงศพเจ้าพ่อนา cha pai plongsop chaopho na to go to the funeral of him Na
---------------------
4
วัดเอ๋ย วัดโบสถ์ wat oei watbot Wat Oey, Wat Bot
มีตาลตะโหนด อยู่7ต้น mi tan ta not yu chet ton There are 7 palm tanodes.
เจ้าขุนทอง ไปปล้น chao khunthong pai plon Chao Khun Thong went to rob
ป่านฉะนี้ ไม่เห็นมา panchani mai hen ma its been a long time but he still not came back
คดข้าว ใส่ห่อ khotkhao sai ho dip out rice, wrapped
ถ่อเรือ ไปหา thoruea pai ha punt out to find
เขา ก ร่ำฦๅมา khao kram lue ma people are rumored
ว่าเจ้าขุนทอง ตายแล้ว wa chao khunthong tai laeo that Chao Khun Thong is dead
เหลือแต่ โกศแก้ว luea tae kot kaeo Leave only the glass urn
เมียรัก จักมาปลง mia rak chak ma plong dear wife will come
จักถ่อพาย ท้ายเรือหงส์ chak tho phai thairuea hong Will paddle at the back of the swan boat
ไปปลงศพ อุแม่นา pai plongsop u mae na Go to the funeral u mae na * u mae na is a kind of suffix used in some old songs.
youtube
This is the first one.
youtube
This is the third one.
Originally I knew only 2 versions of this song, but since I found 4 when I searched, I put all 4 here.
The version of this song that mentions Khun Thong actually has political implications. First, is that Khun Thong died fighting for our country and we should honor his action; and then, afterward, Khun Thong kind of became a symbol of the act of a revolutionary, as that name got used in literature about the uprising on October 14th, 1973, and the massacre on October 6th, 1976.
จันทร์เจ้าขา (Moon song)
"Chaokha" is a word used by women to politely call or beg the elderly. It's quite old-fashioned and is rarely used nowadays.
จันทร์เจ้าขา ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า chan chaokha kho khao kho kaeng kho waen thongdaeng phuk mue nong kha Moon Chao Kha, I ask for rice, for curry (soup/stew), and for a copper ring to bind my Nong's hand.
ขอช้าง ขอม้า ให้น้องข้าขี่ ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง khochang kho ma hai nong kha khi kho kao-i hai nong kha nang Asking for an elephant, for a horse, for my Nong to ride, for a chair, for my Nong to sit on.
ขอเตียงตั่ง ให้น้องข้านอน ขอละคร ให้น้องข้าดู kho tiang tang hai nong kha non kho lakhon hai nong kha du Ask for a bed for my Nong to sleep in. Ask for a play for my Nong to watch.
ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง kho yai chu liang nong kha thoet kho yai koet liangtua kha eng ask for granny Chu, take care of my Nong. Ask for Grandma koet, take care of me.
เดือนหงาย (Waxing moon song)
เดือนเอ๋ยเดือนหงายดาวกระจายทรงกลด duean oei dueanngai daokrachai songklot Moon eoi, moonlit night. Star scatter and the moon have halo
อุ้มเจ้าขึ้นใส่รถว่าจะพาไปชมเดือน um chao khuen sai rot wa cha pha pai chom duean carry you in the car to take you to see the moon
พิศแลดูดาวไปดาวก็ไม่งามเหมือน phit lae du dao pai dao ko mai ngam muean Looking at the stars, the stars are not as beautiful.
พิศแลดูเดือนเหมือนนวลอุแม่นา phit lae du duean muean nuan u mae na Look at the moon, its beautiful like you u mae na
น้ำท่วมเมฆ (Flood clouds)
โยกเยกเอย yokyek oei swaying oei *eoi is an apostrophe after a name, or an introductory noun. , or at the end of the poem
น้ำท่วมเมฆ namthuam mek flood of clouds
กระต่ายลอยคอ kratai loikho floating rabbit
หมาหางงอ ma hang ngo bent-tailed dog
กอดคอโยกเยก kot kho yokyek hugging each other neck swaying
ค้างคาว (Bat song)
ค้างคาวเอ๋ย khangkhao oei bat oei
���ินมายืด ๆ bin ma yuet yuet slowly fly over
ค่ำ ๆ มืด ๆ kham kham muet muet late at night
จะไปสวนไหน cha pai suan nai which garden will you go
จะไปสวนนอก cha pai suan nok if going to the garden outside
เอาลูกมะกอกมาฝากบ้างนะ ao luk makok ma fak bang na Do bring some olives back for us.
จิงโจ้ Chingcho
*Chingcho have many meaning such as
Pond Skaters
a type of crib mobile nursery décor.
Female soldiers in the reign of King Rama V
kangaroo
mythical creatures
a type of bird.
I grew up thinking the word Chingcho here meant the bird, but after doing some searching I found a more convincing explanation, which is that the word Chingcho in this song did not refer to anything above but the swaying movement that all things above have in common, and this song is about Chinese people who sailed to Thailand to trade and do the swaying movement in order to sail the ship. จิงเอย จิงโจ้ ching oei chingcho ching oei chingcho มาโล้สำเภา ma lo samphao making the junk sailing along the waves หมาไนไล่เห่า manai lai hao The dog barks จิงโจ้ตกน้ำ chingcho tok nam chingcho falls into water หมาไนไล่ซ้ำ manai lai sam dog repeatedly chasing จิงโจ้ดำหนี chingcho dam ni chingcho dives away, fleeing ได้กล้วยสองหวี dai kluai song wi get two hand of bananas ทำขวัญจิงโจ้ thamkhwan chingcho thamkhwan chingcho *Tham khwan refers to the practice of performing a ceremony to encourage or resurrect spirits after experiencing a loss of khwan.
It can also mean to pay damages or compensation, to give something for consolation (of the people of north Thailand), to perform rites of welcome or to compensate, or to recompense.
กาพย์เห่เรือ ตอน เห่ชมเรือ
เกริ่นโคลง introductory poem
ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย pang sadet prawet dao chalalai ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว song rattana phiman chai king kaeo พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่ phrangphrom phuak phon krai haen hae เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพรายทอง ruea krabuan ton phraeo phroetphring phrai thong
กาพย์ poem ช้าละวะเห่ cha la wa he
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย phra sadet doi daen chon song ruea ton ngam choetchai กิ่งเเก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน king kaeo phraeo phanrai phai on yap chap ngamngon นา��าแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร nawa naen pen khanat luan rup sat saenyakon เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง ruea rio thio thong salon sakhon lan khran khruen fong เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง ruea khrut yut nak hio lio loi ma pha phanphayong พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา phon phai krai phai thong rong ho he o he ma สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา son muk muk si dan phiang phiman phan mekha ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร man krongthong rotna langkha daeng yaeng mangkon สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร samat chai krai kap kaeo saeng waeowap chap sakhon เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน riapriang khiangkhu chon dang ron fa ma daen din สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ suwan hong song phu hoi ngam chotchoi loi lang sin เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม phiang hong song phrom min lin lat luean tueanta chom เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม ruea chai wai wong wing ruatreo ching ying yang lom เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน siang sao rao radom hom thai yoen doen khu kan
This one is a part of a type of poem used for sing while paddling a boat so it isn't excetly a lullaby but some people do used as one including my family. The content of this poem is to admire the beauty of the parade of royal ships. I decided that translating it would be too difficult for me. So I will just leave it at that.
ช้าง (Elephant song)\
ช้างช้างช้าง chang chang chang elephant elephant elephant
น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า nong khoei hen chang rueplao Have Nong ever seen an elephant?
ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวๆ เรียกว่างวง chang man tua to maibao chamuk yao yao riakwa nguang The elephant is very big and has a long nose called a proboscis.
มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา mi khiao tai nguang riakwa nga It has fangs under its trunk called tusks.
มีหู มีตา หางยาว mihu mita hangyao have ears, eyes, long tail
กบเอยทำไมจึงร้อง(Why is the frog crying?)
กบเอยทำไมจึงร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง kop oei thammai chueng rong kop oei thammai chueng rong Why is the frog crying? Why is the frog crying?
จำเป็นต้องร้องก็เพราะว่าท้องมันปวด champen tong rong ko phrowa thong man puat The frog groaned because his stomach ached.
ท้องเอยทำไมจึงปวด ท้องเอยทำไมจึงปวด thong oei thammai chueng puatthong oei thammai chueng puat Why does the frog stomach hurt? Why does the frog stomach hurt?
ท้องมันปวดก็เพราะว่าข้าวมันดิบ thong man puat ko phrowa khaoman dip The frog stomach hurts because the rice is raw.
ข้าวเอยทำไมจึงดิบ ข้าวเอยทำไมจึงดิบ khao oei thammai chueng dip khao oei thammai chueng dip Why is the rice so raw? Why is the rice so raw?
ข้าวมันดิบก็เพราะว่าไฟมันดับ khaoman dip ko phrowa fai man dap The rice was raw because the fire was extinguished.
ไฟเอยทำไมจึงดับ ไฟเอยทำไมจึงดับ fai oei thammai chueng dapfai oei thammai chueng dap Why did the fire go out? Why did the fire go out?
ไฟมันดับก็เพราะว่าฟืนมันเปียก fai man dap ko phrowa fuen man piak The fire was extinguished because the firewood was wet.
ฟืนเอยทำไมจึงเปียก ฟืนเอยทำไมจึงเปียก fuen oei thammai chueng piak fuen oei thammai chueng piak Why is the firewood wet? Why is the firewood wet?
ฟืนมันเปียกก็เพราะว่าฝนมันตก fuen man piak ko phrowa fon man tok The firewood is wet because it rains.
ฝนเอยทำไมจึงตก ฝนเอยทำไมจึงตก fon oei thammai chueng tok fon oei thammai chueng tok Why does it rain? Why does it rain?
ฝนมันตกก็เพราะว่ากบมันร้อง fon man tok ko phrowa kop man rong It's raining because the frogs sing.
กบเอยทำไมจึงร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง kop oei thammai chueng rong kop oei thammai chueng rong Why is the frog crying? Why is the frog crying?
กบมันร้องก็เพราะว่าท้องมันปวด kop man rong ko phrowa thong man puat The frog groaned because his stomach ached.
youtube
หนูมาลี nu mali
หนูมาลีมีลูกแมวเหมียวลูกแมวเหมียวลูกแมวเหมียว nu mali mi lukmaeo miao lukmaeo miao lukmaeo miao Malee has a kitty cat, a kitty cat, a kitty cat
หนูมาลีมีลูกแมวเหมียวขนมันคล้ายสำลี nu mali mi lukmaeo miao khon man khlai samli Malee has a kitty cat. Its fur is like cotton wool.
หนูมาลีจะไปที่ใดไปที่ใดไปที่ใด nu mali cha pai thidai pai thidai pai thidai No matter where Malee goes
หนูมาลีจะไปที่ใดมันตามไปทุกที่ nu mali cha pai thidai man tam pai thuk thi No matter where Malee goes. it follows everywhere.
เป็ดอาบน้ำ bath duck
ก้าบ ก้าบ ก้าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง kap kap kap pet apnam nai khlong Kab Kab Kab Duck bathing in the canal
ตาก็จ้องแลมองเพราะในคลองมีหอย ปู ปลา ta ko chong lae mong phro nai khlong mi hoi pu pla It eyes staring because there were shells, crabs and fish in the canal.
กำมือ fist your hand
กำมือขึ้นแล้วหมุนๆ kammue khuen laeo mun mun ชูมือขึ้นโบกไปมา chu muekhuen bok paima fist your hand, raise it and turn around, raise your hand and wave it back and forth.*2
กางแขนขึ้นแหละลง kangkhaen khuen lae long arms up and down
พับแขนมือแตะไหล่ phap khaen mue tae lai folded arms touching shoulders
กางแขนขึ้นแหละลง kangkhaen khuen lae long arms up and down
ชูมือขึ้นหมุนไปรอบตัว chu muekhuen mun pai roptua Put your hands up and spin around.
โรงเรียนของเราน่าอยู่ Our school is nice
โรงเรียนของเราน่าอยู่ rongrian khong rao na yu Our school is nice
คุณครูใจดีทุกคน khunkhru chaidi thuk khon All teachers are kind.
เด็ก ๆ ก็ไม่ซุกซน dek dek ko mai sukson Children are not naughty.
พวกเราทุกคนชอบมาโรงเรียน phuakrao thuk khon chop ma rongrian We all like to come to school.
ชอบมา ชอบมาโรงเรียน chop ma chop ma rongrian like to, like to come to school
For my entire life, I had never seen anyone sing this song sincerely.
แมงมุมลายตัวนั้น That striped spider
แมงมุมลายตัวนั้น maengmum lai tua nan that striped spider
ฉันเห็นมันซมซานเหลือทน chan hen man somsan lueathon I saw that it looked unbearable.
วันหนึ่งมันเปียกฝนไหลหล่นจากบนหลังคา wan nueng man piak fon lai lon chak bon langkha one day it was wet with rain flowing from the roof
พระอาทิตย์ส่องแสงน้ำแห้งเหือดไปลับตา phra-athit songsaeng nam haenghueat pai lapta the sun shines The dry water ran out of sight.
มันรีบไต่ขึ้นฟ้าหันหลังมาทำตาลุกวาว man rip tai khuen fa hanlang ma thamta lukwao It hurriedly climbed into the sky. Turning around, eyes sparkling.
After some searching, I found out that this one is actually an English song, Itsy Bitsy Spider, translated into Thai, but it is not that match between the two versions, so I am not using the original lyrics here.
songs in children's games
รีรีข้าวสาร Reree Khaosan
รีรีข้าวสาร ri ri khaosan Reree Khaosan
สองทะนานข้าวเปลือก song thanan khaoplueak two pans of paddy
เลือกท้องใบลาน lueak thong bailan choose palm leaves
เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน kepbiataithunran collect the allowance under the store.
คดข้าวใส่จาน khotkhao sai chan crooked rice on a plate
พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี phan ao khon khanglang wai hai di Take the person behind you.
ไอ้เข้ไอ้โขง ai khe ai khon
อ้ายเข้อ้ายโขง aikhe ai khong Ai crocodile
อยู่ในโพรงไม้สัก yu nai phrong maisak live in the hollow of teak
อ้ายเข้ฟันหัก aikhe fan hak Ai crocodile tooth are broken
กัดคนไม่เข้า kat khon mai khao can't biting people
The lyrics in this clip and the lyrics I write are a little different, but the meaning is still the same.
งูกินหาง tail-eating snake
Father Snake :
แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน mae ngu oei kin nambo nai Where does mother snake drink water? Mother Snake :
กินน้ำบ่อโสกโยกไปโยกมา kin nambo sok yok pai yok ma drinking water from the well, rocking and swaying Father Snake :
แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน mae ngu oei kin nambo nai Where does mother snake drink water? Mother Snake :
กินน้ำบ่อหินบินไปบินมา kin nambo hin bin pai bin ma Drink water at stone pond, flying back and forth. Father Snake :
แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน mae ngu oei kin nambo nai Where does mother snake drink water? Mother Snake :
กินน้ำบ่อทรายย้ายไปย้ายมา kin nambo sai yai pai yai ma Drink water at sand wells, move back and forth. Father Snake :
กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว kin hua kinhang kin klang talot tua Eat head, eat tail, eat in the middle to the whole body.
มอญซ่อนผ้า Mon hides the cloth
มอญซ่อนผ้า mon son pha Mon hides the cloth
ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง tukta yu khanglang doll on the back
ไว้นู่นไว้นี่ wai non wai ni keep it right there. Keep it right here
ฉันจะตีก้นเธอ chan cha ti kon thoe I will spank you
จ้ำจี้มะเขือเปราะ chamchi makhuea pro
จ้ำจี้มะเขือเปราะ กระเทาะหน้าแว่น chamchi makhuea pro kratho nawaen chamchi eggplant kratho nawaen
พายเรืออกแอ่น กระแท่นต้นกุ่ม phairuea ok aen krathaen ton kum Rowing until the chest bent. Almost stuck to the kum tree.
สาวๆ หนุ่มๆ อาบน้ำท่าไหน sao sao num num apnam tha nai Where do young people take a bath?
อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด apnam tha wat ao paeng thinai phat Take a bath at the temple's waterside. Where do they get the face powder from?
เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆ มองๆ นกขุนทองร้องฮู้ ao krachok thinai song yiam yiam mong mong nokkhunthong rong hu Where will they get a mirror to use? Sneak a peek secretly. Khun Thong birds sing hoo.
โพงพาง phongphang
โพงพางเอ๋ย ปลาเข้าลอด phongphang oei pla khao lot fish trap oei, the fish enters through.
ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง pla tabot khao lot phongphang A blind fish enters the fish trap.
youtube
*When I was a kid, I actually didn't know this game's name or that it had a song. We call it "live fish, dead fish" and just shout that at the beginning of the game, lol.
เป่ายิ้งฉุบ
ยันยินเยาปั๊กกะเป่ายิ้งฉุบ yan yin yao pak ka pao ying chup
There are actually a lot of songs to sing before Rock Paper Scissors, but the one you saw above is the one almost every version has and also the only thing most people actually use because the other verses are too long. Many times, it gets shortened to the point of using only the last word.
Songs for university activities or camp.
แจว Paddle
แจวมาแจวจ้ำจึก chaeo ma chaeo cham chuek Paddle, come paddle.
น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว *2 namninglailuek nuekthueng khon chaeo Still, water flows deep. Thinking of a rower.
แจวเรือจะไปซื้อ “word” chaeoruea cha pai sue “word” Sailing boats will go buy a "word".
ขอเชิญ “name” ลุกขึ้นมาแจว kho choen “name” luk khuen ma chaeo Invite "name" to come up.
*“word” and “name” must be rhyming words.
youtube
youtube
ไก่ย่าง grilled chicken
ไก่ย่างถูกเผา*2 kaiyang thuk phao *2 The grilled chicken got burnt *2
มันจะถูกไม้เสียบ*2 man cha thuk mai siap *2 It will be skewed *2
เสียบตูดซ้ายเสียบตูดขวา siap tut sai siap tut khwa Plug in the left ass, plug in the right ass
เสียบตูดซ้ายเสียบตูดขวาเอ๊า!! siap tut sai siap tut khwa ao!! Plug in the left ass, plug in the right ass, ah!!
ร้อนจริงๆร้อนจริงๆร้อนจริงๆ ron ching ching *3 extremely hot *3
ตาแดงๆ Red, red eyes
ตาแดง ๆ อย่ามายะน้องแรง น้องเจ็บหัวเข่า *2 tadaeng tadaeng ya ma ya nong raeng nong chep huakhao *2 Red red eyes, don't come fxxk me hard. My knee hurt. *2
น้องบอกอย่ามายะ อย่ามายะ!! *2 nong bok ya ma ya ya ma ya *2 I said, "don't come, don't come !! *2
อย่ามายะน้องแรง น้องเจ็บหัวเข่า ya ma ya nong raeng nong chep huakhao Don't come fxxk me hard. My knee hurt.
ปีหน้าจะมีรำวง *2 pi na cha mi ramwong *2 Next year there will be a dance. *2
น้องกลัวท้องป่อง อย่ามายะ อย่ามายะ nong klua thong pong ya ma ya ya ma ya I'm scared of a big belly. Don't come, don't come.
This one is filthy, but due to its popularity, I chose to put it in. I'm a modest person, I swear.(ノ∀\*)
ฮิปโป Hippo
ฮิป! ฮิป! ฮิป! ฮิปโป Hip! Hip! Hip! hippo Hip! Hip! Hip! hippo
โอ้โห ตัวมันใหญ่มัน o ho tua man yai man Oh, it's big.
เดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ย doen ui-ai man doen ui Walks slowly, it walks slowly.
ลัลล้า ลัลลัลลา ลัลล้ลลา lan la lan lan la lan lon la lalala lalala lalala
ตุ่ม Jar
ตุ่มใส่น้ำใส่น้ำให้เต็มตุ่ม tum sai nam sai nam hai tem tum *2 Water jar, fill the jar with water *2
แล้วเราจะชื่นใจ laeo rao cha chuenchai *2 Then we will rejoice *2
รถตุ๊กๆ Tuk tuk car
รถตุ๊กๆ บรรทุกถ่าน rot tuk tuk banthuk than tuk tuk car, carry charcoal
รถขึ้นสะพาน rot khuen saphan car up the bridge
รถลงสะพาน rot long saphan car down the bridge
รถเลี้ยวซ้าย rot liaosai car turn left
รถเลี้ยวขวา rot liao khwa car turn right
ชักกระตุกๆๆๆ chakkratuk kratuk kratuk kratuk twitch*4
สับปะรด Pineapple
มีตารอบตัว รอบตัว รอบตัว mita roptua roptua roptua have eyes everywhere
มีตัวลายตา ลายตา ลายตา mi tua laita laita laita have dazzling body. Dazzling, dazzling, dazzling.
ฮูลาฮูลา สับปะรด ๆ hu la hu la sapparot sapparot Hula Hula Pineapple.
(เปรี้ยวไหม ๆ? เปรี้ยว!) เปรี้ยวทำยังไง? (priao mai priao mai? Priao!) priao tham yangngai? (Is it sour? Yes!) What if it's sour?
เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ priao ko chim kluea sour, then dipped in salt.
หวานก็จิ้มเกลือ wan ko chim kluea sweet, then dipped in salt.
เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ priao ko chim kluea sour, then dipped in salt.
หวานก็จิ้มเกลือ wan ko chim kluea sweet, then dipped in salt.
ถ้าไม่มีเกลือ ก็ไม่ต้องจิ้ม tha mai mi kluea ko mai tong chim If there is no salt, no need to dip.
หม่ำไปเลย ๆ mam pai loei mam pai loei Eat it up*2
กิ่งก้านใบ Branches, stems, and leaves
กิ่งก้านใบ ชะ ชะ ใบก้านกิ่ง kingkan bai chacha bai kan king Branches, stems, and leaves. Water wash leaves, stems, and branches.
กิ่งก้านใบ ชะ ชะ ใบก้านกิ่ง kingkan bai chacha bai kan king Branches, stems, and leaves. Water wash leaves, stems, and branches.
ฝนตกลงมาจริง ๆ fontok long ma ching ching It's really raining.
ฝนตกลงมาจริง ๆ fontok long ma ching ching It's really raining.
ชะ ชะ กิ่งก้านใบ chacha kingkan bai Branches, stems, and leaves get wash by water
Index
13 notes
·
View notes
Text
Valentine’s day อ่ะเนอะ ดีใจที่ได้เห็นเขาอยู่ฉลองด้วยกัน อยู่ support กันแบบนี้ไปนานเลยนะ 🥰
Cr.ในรูปเลยฮับ
คุณ อุ้ม 🦭🌷
คุณ มีนา 🦈🪼
แอบนอยแฟนมีต มีนเบ้บ นิดนึง คงไม่ได้ไป เรามันสายคอนอ่ะแฟนมีตไม่ค่อยถนัดทำตัวไม่ถูก ถ้ามีวาสนาต่อคู่นี้หวังว่าจะได้มีโอกาส support ทั้ง 2 ต้าว นะค้าบบ 🥰
เป็น ไอแดง ของ อิงล็อต แล้ว เป็น ลูกเม่นของมีนเบ้บด้วย 🥰
#thailand#missgrandthailand2023#aoomtwp#aoom#meenaxrina#meenbabe#อุ้มทวีพร#ควีนอุ้ม#มีนาริณา#มีนเบ้บ#ลูกเม่น
6 notes
·
View notes
Text
รู้ยัง ? ดื่มเบียร์ มีประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้
ปัจจุบันสังคมไทยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเยอะ ในส่วนของการดื่มนั้นมีทั้งโทษ และประโยชน์หากแต่ดื่มแต่พอรู้ก็จะทำให้ร่างการได้รับประโยชน์ หากดื่มเกินกำลังก็จะทำให้กลายเป็นโทษในหลายๆด้านนั่นเองว่ากันว่า งานสังสรรค์ใดที่ขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ย่อมเป็นงานสังสรรค์ขาดสีสันวันนี้เราจะไม่เอ่ยถึงโทษในการดื่มแต่จะเอ่ยถึงประโยชน์ ที่นักดื่มทั้งหลายควรต้องรู้ค่ะ
เชื่อว่ามีหลายคนเลยที่มีความชื่นชอบการดื่ม (สุรา) เพราะงานสังสรรค์ที่ครบเครื่องสำหรับบางคนจะต้องห้ามขาดเครื่องดื่มประเภท แอลกอฮอล์ เป็นเด็ดขาด และ " เบียร์ " ก็ถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว บางคนอาจจะดื่มเบียร์เพียงแค่��่วงเวลาที่มีงานพบปะสังสรรค์ หรือบางคนก็อาจจะชื่นชอบการ ดื่มเบียร์ ในช่วงเวลาที่ผ่อนคลายหลังเลิกงาน เพราะว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มง่าย และมีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ที่ต่ำนั่นเอง ผลหวย
ประเภทและส่วนผสมของเบียร์โดยการที่จะผลิตเบียร์ออกมาให้หลายๆ คนได้ดื่มกันนั้น จะใช่วัตถุดิบในการผลิตหลักๆ อยู่ 4 อย่าง คือ น้ำ ,ฮอปส์ (Hobs) ,มอลต์ (Malt),ยีสต์ (Yeast)
น้ำ คือ วัตถุดิบหลักที่สำคัญของ การผลิตเบียร์ เพราะว่าเบียร์มีส่วนผสมของน้ำมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ความแตกต่างของน้ำที่ใช้ในการผลิตก็จะส่งผลให้รสชาติของเบียร์มีความแตกต่างกันออกไป โดยจะแบ่งได้สองกรณีคือ.. น้ำที่มีแร่ธาตุมาก จะส่งผลทำให้เบียร์มีรสชาติที่เข้มข้นมากกว่า เพราะจะดึงรสฝาดของ ฮอปส์ ออกมาได้มากกว่า น้ำที่มีแร่ธาตุน้อย จะได้เบียร์ที่มีรสชาติที่นุ่มนวลกว่า เพราะมีการดึงรสฝาดออกมาจาก ฮอปส์ ได้น้อยกว่า
ฮอปส์ (Hobs) พืชชนิดหนึ่งที่ใช้ส่วนดอก มาเป็นวัตถุดิบเพื่อให้เบียร์มีรสชาติที่ขม โดยจะเติมไปในขั้นตอนของการต้มเบียร์ นอกจากประโยชน์ของฮอปส์จะช่วยในเรื่องของรสชาติแล้ว ฮอปส์ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของกลิ่น และการยืดอายุในการเก็บรักษาของเบียร์ได้อีกด้วย ดังนั้นขั้นตอนการเลือกพันธุ์ของ ฮอปส์ ยังเป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้เบียร์แต่ละที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป
มอลต์ (Malt) เป็นเมล็ดธัญพืชที่ใช้ในการนำมาผลิตเบียร์ ซึ่งในการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะใช้น้ำตาลที่ได้จาก มอลต์ เพื่อให้ยีสต์ได้เปลี่ยนจากน้ำตาลกลายเป็น แอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในส่วนของมอลต์เองก็มีอยู่หลากหลายประเภท มอลต์จะทำให้เบียร์นั้นมีคุณสมบัติพิเศษมากขึ้น เช่น ลักษณะของสีที่แตกต่าง หรือในส่วนของกลิ่นและรสชาติ
ยีสต์ (Yeast) เป็นจุลินทรีย์ที่มีหน้าที่ทำให้น้ำตาลในมอลต์ เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยีสต์เองยังเป็นตัวที่ใช้แบ่งประเภทหลักๆ ของเบียร์ได้อีกด้วย
ทั้ง 4 อย่างที่ได้กล่าวถึงนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนผสมหลักเพียงเท่านั้น เพราะการผลิตเบียร์ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นเคล็ดลับของแต่ละคนเพื่อให้เอกลักษณ์ของเบียร์นั้นมีความแตกต่าง ผลหวย
คุณค่าทางโภชนาการของเบียร์ เบียร์ 1 ออนซ์ จะได้รับพลังงานอยู่ที่ 12.8 กิโลแคลอรี่
เบียร์ 1 กระป๋อง 356 กรัม จะได้รับพลังงาน 153.1 กิโลแคลอรี่
นอกจากการดื่มเบียร์จะได้รับความสดชื่นและได้รับแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายแล้ว การดื่มเบียร์ยังได้รับสารอาหารจำพวกวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ประโยชน์ที่จะได้รับจากการดื่มเบียร์ มีประโยชน์ต่อหัวใจ มีส่วนในการช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงต่อกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม ลดปริมาณสารก่อมะเร็งในเนื้อสัตว์ ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน มีส่วนช่วยในเรื่องระบบการขับถ่าย ช่วยผ่อนคลายความเครียด
ผลเสียของการดื่มเบียร์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต อาจจะเกิดอาการเสพติดแอลกอฮอล์ มีความเสี่ยงต่อภาวะอาการซึมเศร้า เสี่ยงต่อโรคตับ น้ำหนักขึ้น มีส่วนทำให้ก่อมะเร็งทั้งในลำคอ และปาก
จะว่าไปการดื่มเบียร์ก็มีทั้งผลดีและผลเสียถึงแม้จะมีงานวิจัยมากมายที่กล่าวถึงประโยชน์ของการดื่มเบียร์ แต่ก็มีงานวิจัยมากมายที่กล่าวถึงโทษของการดื่มเบียร์เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็ควรที่จะดื่มเบียร์แต่พอประมาณ เพราะว่าจากที่จะได้รับประโยชน์จากการดื่มเบียร์ก็อาจจะได้รับผลเสียแทนได้
2 notes
·
View notes
Text
does anyone know why Jeff never sings อยู่../Holding On I really like it but i don't think Ive ever seen a video of him singing it live
is it cause it's under a different label and like he doesn't have the rights to it or something? Or does he just not want to sing it? I tried looking and this is the only video i can find of him singing it live :(
#jeff satur#after kinnporsche it was like the second song i had heard of his when i looked him up#i think the first was complicated#there is another video where he sings it in i think a live?#but i mean like live performance in front of people
1 note
·
View note
Text
The Silent Killer 1-2
เรื่องเจนผ่าน AI เหมือนทุกเรื่องช่วงนี้ ยังสนุกกับการทดลองเจนเรื่องแนวต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ อยู่ เรื่องนี้แจ้งก่อนว่าน่าจะติด 18G ถึงไม่ได้โหดแต่ก็มีฉากฆ่ากัน ใครไม่นิยมโปรดผ่านนะครับ
Chapter 1
Inside the dimly lit coffee shop, Dylan sat quietly at a table against the wall, sipping from his cup of cold brew, browsing through the pages of a worn paperback. His eyes darted back and forth between the words and the occasional movements around him – students chatting animatedly, laughter echoing off the old wooden walls, the faint whirring of laptop fans intertwined with clinking cups.
In these moments, Dylan felt strangely comforted, finding solace among familiar faces and unassuming routines despite being surrounded by people. He couldn’t help but feel like he belonged here, amidst the buzzing energy. It was during one such break in conversation when his attention was captured by a peculiar man entering the cafe.
He noticed the way the sunlight played upon the man's face as he made his way towards him; there was an air of mystery surrounding this stranger.
Something inside Dylan told him not to dismiss this chance encounter; perhaps it would lead somewhere interesting. With an easeful smile, the man approached Dylan's table and introduced himself. "Hey there," he said softly, drawing out the word 'hey'. "I don't think we've met before."
Dylan found himself caught off guard momentarily, trying to remember if he had seen this guy somewhere else before. "Ah… maybe? I can't quite place you either." He answered truthfully, genuinely curious now about this enigmatic individual.
The stranger leaned closer, smiling gently, studying Dylan intently. There was a magnetism to him - magnetic charisma, Dylan thought to himself, suddenly aware of how attractive the other person was. Without even thinking, he found himself asking, "So what brings you here?"
With a swiftness that surprised even Dylan, the response came quickly: "Books, actually!" The stranger laughed, displaying perfectly straight teeth beneath a set of full lips.
"Oh, just some casual browsing, really. But tell me, which one do you enjoy most? Are you more inclined toward classics or contemporary works?" The intriguing aura continued to swirl around him, capturing Dylan completely.
For the first time in weeks, he experienced a spark of excitement within him, awakening feelings long buried deep down.
Nodding in agreement, the stranger elaborated further, "Well, you see, I am usually fond of modern literature, though occasionally, I find myself engrossed in classical texts too. What about yourself? Do you prefer any particular genre?"
Dylan smiled slightly as he replied, "It depends on my mood, honestly.
Sometimes I crave a good classic tale filled with rich language and depth, whereas other times, I simply want a quick escape from reality with a fast-paced page turner. Why do you ask?"
The stranger gave a small nod, his voice becoming increasingly deeper and resonant as he spoke. "Perhaps because I sense your thirst for knowledge and adventure, Dylan." Pausing briefly, he added softly, "Apart from discussing our literary interests, do you care to join me later tonight for dinner?
We could continue our discussion over drinks or dessert. Perhaps I might be able to provide you with some recommendations based on your reading habits."
Dylan hesitated, feeling flattered yet uncertain about this strange proposition. Despite his reservations, curiosity got the better of him. Sensing an opportunity to expand his social circle, he agreed tentatively, "Alright, let's meet then.
When and where should we rendezvous?" The stranger paused briefly, contemplating his choice of words carefully. In a smooth tone, he responded confidently, "How about Tomorrow at eight o'clock outside the library? We shall proceed together afterward." This seemed agreeable enough to Dylan, who expressed gratitude and exchanged contact information. As the conversation continued, Dylan became more engaged, finding himself fascinated by this stranger's intellect and easygoing demeanor. He realized that spending the evening in his company held potential for friendship and intellectual growth alike.
"Oh how bad i am, we talk until now but we still not know each one name, I'm Dylan."
He said, introducing himself finally. He looked almost apologetic, but also excited, waiting to hear the answer. "I'm sorry! How remiss of me," the stranger exclaimed playfully, taking a sip of his own drink before replying, "My apologies, Dylan. My name is Adrian, pleased to make your acquaintance." There was something both earnest and teasing in Adrian's expression—a mix of sincerity and subtle humor that endeared him even more to Dylan.
As they talked, hours passed without notice, and soon enough, it was already late afternoon. Dylan glanced at his watch, realizing he needed to head home to prepare for work tomorrow. Reluctantly, he stood up from his seat, thanking Adrian profusely for the delightful conversation. "It was truly wonderful speaking with you, Adrian. I look forward to seeing you tomorrow."
Adrian grinned broadly, waving farewell as Dylan left the cozy confines of the coffee shop. Outside, the sun cast long shadows across the sidewalk, painting the world in golden tones. Dylan took a deep breath, savoring the last lingering traces of autumn in the crisp air.
As he walked briskly along the streets, his thoughts drifted back to Adrian.
Although he wasn't entirely sure why, he felt a growing anticipation for their planned rendezvous. Maybe it was merely because Adrian had piqued his interest with his diverse range of topics, his ability to hold a conversation effortlessly, or the undeniably strong connection they shared. Whatever the reason, he knew it wouldn't hurt to spend more time getting to know him. The prospect of discovering more about this eloquent stranger appealed greatly to Dylan, offering the promise of adventure and companionship he so desperately sought.
Reaching the corner near his apartment building, he slowed his pace, relishing the last few minutes spent daydreaming about Adrian. Climbing the stairs leading to his modest abode, he mentally prepared himself for another night spent alone, indulging in the memories of their remarkable conversation. Yet no matter how hard he tried, he couldn't suppress the anticipation brewing within him for their rendezvous later on.
Arriving at his doorstep, Dylan slipped his key into the lock, opening it to find a surprising silence greeting him.
Typically, he expected to be welcomed by the humming noise of his refrigerator or the low murmur of his television from the living room. However, today, nothing stirred within his apartment save for the ticking clock on his bedroom wall. Glancing down at his phone, he saw that it was well past midnight. Thoughts of Adrian danced through his mind once more, igniting a mixture of nervous anticipation and sheer excitement.
Pushing aside his unease, Dylan decided to settle down for the night.
His anticipation for their date grew stronger, filling him with eagerness for what lay ahead. Before retiring to sleep, however, he reached for his laptop, pulling up Google Maps to double-check the directions to the library. Scrolling through the map, he noted several landmarks and familiar roads, memorizing them in case he got lost along the way. Satisfied with his preparations, he powered down his computer, ready to rest and dream of Adrian until morning arrived.
Morning broke bright and clear, promising a beautiful day ahead.
Dylan awoke early, showered, dressed sharply, and proceeded to put on a layer of cologne, hoping to impress Adrian. Leaving his apartment, he took stock of his surroundings – it appeared that the entire city was alive with activity. People were streaming towards business districts, catching public transportation, and going about their daily routine. On the horizon, the library tower loomed majestic against the blue sky, standing tall as a symbol of education and wisdom. With a surge of determination, Dylan hastened his steps towards their appointed destination.
Along the journey, he admired the grand architecture adorned in various styles, reflecting the city's history. The bustling urban landscape buzzed with energy and purpose, inspiring optimism within him. As he approached the imposing stone edifice known as the university library, he noticed a figure lounging idly against the pillar, a pair of slender legs crossed neatly. Recognition dawned upon him immediately, for this must indeed be Adrian. He strode forward with confidence, eager to embrace this unique experience awaiting him.
As he drew closer, he observed Adrian watching passersby intently, a slight smile playing on his lips as if silently musing over human nature. Greeted by an amiable grin, Dylan extended his hand in introduction, "Hello there, Adrian!"
Smiling warmly, Adrian accepted the gesture, gripping firmly as they shook hands. "Good morning, Dylan! It's nice to finally meet you properly." Their palms remained locked for a moment longer than necessary, holding onto each other's gaze with mutual curiosity. "Thank you for agreeing to meet here," Dylan began, breaking the spell.
Adrian returned his attention to the surrounding environment, gesturing expansively, "Not at all, dear friend! These environs serve as a perfect setting for our little tête-à-tête.
Dylan commented, looking around appreciatively. The library, situated amidst ancient trees and serene courtyards, boasted an atmosphere ripe for intellectual exploration. As they entered, their footsteps echoed off the high ceilings adorned with ornate chandeliers. Books lined countless shelves, forming seemingly endless rows of knowledge. The smell of old paper and leather bound volumes permeated the air, imbuing the space with an almost magical quality.
Dylan led the way to the main entrance, allowing the coolness of the interior to sweep away the lingering heat of the outdoors. Together, they navigated the sprawling labyrinth of shelved literature, choosing works that caught their eye along the way. From philosophy to poetry, fiction to psychology, the breadth of subjects tantalized their imaginations, sparking animated debates and discussions.
Over hours, they covered everything from the existential crisis of modern man to the role of technology in contemporary culture. While most people would consider such discourse banal, it provided solace for two individuals starving for meaningful connections.
Their minds fed, bodies craved sustenance; thus, the duo ventured forth to explore food options available within the vicinity. Upon entering a quaint eatery nearby, they found themselves absorbed by its rustic charm, complete with weathered wood floors and warm lighting illuminating exposed brickwork.
A comforting aroma of freshly ground coffee swirled in the air, adding a pleasant touch to the ambiance. Seated together at a table, they browsed the menu while sipping steaming cups of rich espresso. Engrossed in discussion about the impact of social media on personal identity, they ordered dishes reflecting their contrasting culinary preferences - Dylan opted for a hearty vegetarian soup accompanied by whole wheat crackers, whereas Adrian chose a platter featuring juicy burgers served alongside crunchy fries.
Both settled into comfortable positions, leaning slightly toward one another to better understand the nuances of every point made during their debate.
In between bites, they occasionally paused to glance at each other, sharing moments of understanding that transcended the mundane. For Dylan, it was a revelatory encounter, unveiling layers previously concealed beneath his polished exterior. In turn, Adrian in depth he just laugh inside, how his prey follow his guide.
No emotion, no attachment. Just games, toying like puppet master with strings. After dinner, walking together back to Dylan’s place, a soft drizzle started falling from gray skies above, creating a romantic atmosphere. Hand in hand, the couple strolled under the canopy of trees surrounding the charming neighborhood, feeling at ease, not quite knowing what brought them here tonight, yet strangely connected despite their differences.
Back at Dylan's place, the sensuous vibe continued to intensify.
Chapter 2
As the rain pelted against the windowpane outside, Dylan's skin tingled with awareness and arousal. This was his first time hosting someone at his home, let alone inviting a mysterious stranger. Despite his nerves, the sexual chemistry between them had grown increasingly intense since they left the restaurant earlier that evening. Now, sitting close enough to feel the warmth radiating from Adrian's body, Dylan struggled to maintain composure. How could something so wrong be so right?
Dylan wondered, brushing a tendril of hair behind his ear. His breath hitched when Adrian leaned closer, placing a gentle kiss on his cheekbone, followed by a whispered endearing remark. The warmth of Adrian's lips against his sensitive skin sent tremors through Dylan's core, making him weak in the knees. Unbeknownst to either party, the intensity of their connection seemed destined to spiral further beyond control.
Slowly, tender fingers caressed Dylan's face, eliciting involuntary moans from deep within his throat. As Adrian pressed closer still, their mouths sought one another, hungry for release. Lips entwined passionately, tongues tangled in a dance only heightening the desire coursing through both veins. Emboldened by this newfound freedom, they shifted closer still—their combined strength now a driving force.
Fingers deftly undid buttons and zippers, yielding smooth, bare flesh teasingly revealed. Each subtle motion spoke volumes about the hunger building between them. Gasping, they pulled apart briefly, drawing a line of saliva between their mouths. Drenched in raw, animalistic lust, Dylan surrendered himself fully to the unknown, trusting blindly in Adrian's expertise.
"Oh God, I want you..." he breathed, voice wavering as he succumbed entirely to his desires.
Adrian smiled, nodding encouragement, pressing deeper kisses down Dylan's neck until reaching the valley between his shoulder blades. He ran his tongue slowly across the skin, causing goosebumps to rise in response.
Moans escaped Dylan's lips involuntarily as the pleasure coursed through his body. Unable to hold back any longer, he reached out, grasping Adrian tightly. They both fell to the floor in sheer ecstasy, losing themselves completely in each other's arms.
Dylan clung tightly to Adrian, feeling like he was floating, carried away by the waves of pleasure crashing over him. He felt tears streaming down his face, but whether they were born of joy or sorrow, he couldn't tell. All he knew was that this was unlike anything he had ever experienced before.
Lost in the moment, Dylan hardly realized where they were anymore – trapped in a vortex of desire and oblivion. Adrian too was consumed by their shared passion, relishing in the fact that he held total sway over his prey.
His powerful frame moved confidently with grace, every movement calculated to evoke pure delight. Shifting between delicate and aggressive caresses, he ensnared Dylan even further into his web of intrigue. There was no question, no doubt; nothing mattered except giving and receiving pleasure, immersing themselves in the eroticism that enveloped them.
With renewed vigor, Dylan grabbed onto Adrian's head, pulling him closer for a scorching kiss that ignited flames within his very soul.
Adrian reciprocated eagerly, devouring Dylan's lips greedily, showing no signs of restraint. Their lips danced wildly, their teeth clicking in harmony, fueling the fire raging between them.
As if lost in the euphoria of this moment, neither thought of consequences nor stopped to ask questions about each other's past. It was as though the world outside did not exist, as their passions became intertwined, merging inextricably with one another.
Sweaty palms met feverish skin, sending jolts of electricity surging through both bodies. Nails scratched gently against muscular shoulders, marking their claim upon one another. Every fiber of being yearned to consume the other wholly, driven by an insatiable appetite for fulfillment.
Breathing heavily, Dylan began to rock back and forth, grinding his groin against Adrian's. Their rhythm matched perfectly, pushing them both towards the edge of ecstasy.
Feeling powerless yet utterly satisfied by Adrian's dominance, Dylan closed his eyes, embracing the sensation sweeping through his entire being. His hands wandered upwards along Adrian's sculpted torso, marveling at the hard planes of his abdomen and the play of muscles flexing beneath his palm.
The room echoed with the sounds of wet, passionate gasps mixed with low, husky murmurs. Adrian, ever in control, took charge of guiding their fervent exploration of one another's bodies. With firm hands, he traced exquisite patterns on Dylan's chest, making sure to pay attention to those sensitive areas that drove him wild. Meanwhile, Dylan allowed himself to simply indulge in the pleasure, allowing Adrian to dictate the pace and intensity of their encounter.
After a while of resting in each other arms. Adrian slip off the bed.
He stood facing Dylan, looking deeply into his eyes. "Stay strong," he said quietly, before turning around, removing his clothes piece by piece. His body gleamed with well-defined muscle, evidence of his dedication to fitness. Stripped down to just briefs, he returned to stand beside Dylan, offering him a glass of water. Dylan drained the glass, then set it aside. Closing his eyes, he listened intently to the beat of his own pulse. When he opened them again, Adrian was already waiting expectantly.
His gaze bore into Dylan, conveying a sense of possessiveness that both frightened and excited him.
Desire burned hotter than ever before as Adrian slowly approached Dylan, his movements impossibly fluid. Taking care not to disturb the sheets, he crawled seductively over Dylan's prone form, slithering his way up the contours of his partner's muscular physique.
His hands caressed and massaged every curve, honoring each dip and swell of Dylan's flesh. His touch was slow and deliberate, setting a tantalizing tempo that made Dylan's heart race faster.
With growing excitement, Dylan raised his arms, welcoming Adrian closer. As their skin touched, sparks flew once more, reigniting the fires of desire within them both. Dylan threw caution to the wind, opening himself up completely to whatever lay ahead.
But thing not go as Dylan thought, Adrian both hands was draw on his skin, form the chest up to his bare neck. then his touch turn to warp... his hand warp around Dylan's neck. the warp just tight and tighten until it's grip of death.
Forgetting all the lustful moments they enjoyed earlier, fear flooded Dylan's system, numbing everything else - including reason. His heart raced frantically, trying to break free from what he perceived as impending doom. In a panicked bid to escape, he tried to push Adrian away, flailing helplessly under his suffocating grasp. But Adrian remained unfazed, holding on tighter, his face unreadable as his sinister intent grew clearer by the second.
Time seemed to slow down, each tick of the clock becoming deafeningly loud in Dylan's ears. Panic seized him as comprehension dawned upon him. No, this wasn't supposed to happen! He wanted to scream, but his vocal cords refused to cooperate.
A wave of anger coursed through Dylan as adrenaline fueled his determination to fight back. Summoning every ounce of energy he possessed, he attempted to buck against Adrian's iron grip. But his efforts proved futile as his struggling was easily quashed.
Feeling hopeless and desperate, he looked directly into Adrian's penetrating stare. Something cold and dangerous radiated from Adrian’s gaze, almost as if he could see right through Dylan’s very soul. Paralyzed by terror, he found himself unable to look away from the piercing blue eyes of his captor. Dylan struggled to process the sudden change in circumstances, torn between horror and disbelief. How could things take such a drastic turn? Where had it gone wrong?
4 notes
·
View notes
Text
เริ่มวันใหม่ด้วยฝนโปรยปราย ภารกิจวันนั้นต้องแวะไปสองสถานที่ เรารู้โปรแกรมอยู่แล้ว รู้ขั้นตอนและคิวต่าง ๆ ตอนจะออกจากรัฐสภา รก.มากระซิบว่าเดี๋ยวซูช่วยกล่าวขอบคุณวิทยากรหน่อยนะ เอาแล้วไง ไม่ชอบที่สุดเลย เพราะมันจะตื่นเต้นมาก ๆ เรารับมือไม่เก่งกับอะไรที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน สุดท้ายก็พูดตะกุกตะกัก จนต้องขอโทษรก.อยู่หลายที ว่าพูดได้ไม่ดีเท่าที่ควร ขอแก้ตัวใหม่โอกาสหน้า
ท้องฟ้าจำลองคือที่ที่อยู่ในลิสต์เราว่าอยากมาเที่ยวมาก พอเญาจิ้มว่าจะพานร.ไปที่นี่ด้วย ก็ดีใจ แต่พอฟังแผนเญาว่าโอกาสเข้าไปดูของครูไม่มีคิวนะ เสียสละให้นร. เราก็โอเค ไม่ได้งอแง เป็นเรื่องที่รับได้ เญาก็วางแผนไว้เสร็จสรรพว่าให้ครูคนไหนเข้าไปด้วย พอถึงวันจริง แผนมีการเพิ่มเติมเล็กน้อย ซึ่งเราก็มารู้หน้างาน ก็ไม่ได้งอแงที่ไม่ได้เข้า เพราะทำใจไว้อยู่แล้ว แต่แค่ต้องการอยากรู้เหตุผลของการเพิ่มเติม ที่ชัดเจน พอได้รู้ก็เข้าใจได้ ไม่สานต่ออะไร ซึ่งการได้มีช่วงเวลาข้างนอกร่วมกันกับเพื่อนครูคนอื่นมันช่างเอ็นจอยเว่อร์ ๆ เป็นอีกช่วงเวลาที่เราประทับใจมากเหมือนกัน
วางแผนไว้อยู่แล้วว่าจะเข้ามูจิซื้อผ้าใบสักคู่ ซึ่งก็คอมพลีท แต่เลือกสีอยู่นานมาก ถามจินะแล้วถามจินะอีก จินะก็บอกว่าสีเทานั้นสวยแล้วลูก 😂 แล้วก็มุ่งมั่นหาน้ำหวานคือภารกิจต่อไปในไอคอนสยาม สุดท้ายภารกิจทั้งหมดก็คอมพลีท ตอนหาชานม ก็มีคนส่งรูปท้องฟ้าสวย ๆ บนดาดฟ้ามา ตอนนั้นไม่เอ๊ะใจอะไรเลย คิดแค่ว่า มีคนมองฟ้าแล้วนึกถึงเราด้วย ดีใจจัง ฮ่า ก็ความตั้งใจอยากถ่ายรูปด้วยมันหมดตั้งแต่ที่กวักมือเรียกถ่ายคู่ที่รัฐสภาแล้ว นอยด์รอบนั้นเลยไม่มั่นใจอีก คิดว่าคงไม่อยากถ่ายด้วยกันแล้วแหละ
เรื่องสำคัญอีกอย่างของการมาไอคอนสยามคือภารกิจการดูโชว์น้ำพุ คืนนั้นฟ้าฝนไม่เป็นใจ ภารกิจไม่คอมพลีท แต่ก็ไม่ได้เฟลอะไรมาก เป็นการไม่คอมพลีทที่ยังพอเข้าใจได้ ตอนรอรถมารับกลับโรงแรม อยู่ ๆ ก็มีความรู้สึกหนึ่งแล่นเข้ามาว่าเราพยายามเข้าไปในชีวิตใครมากไปหรือเปล่านะ มากไปจนทำให้ใครอึดอัดใจหรือเปล่า องศาการยืน การหันหน้า การพูดจา เหมือนพยายามจะทิ้งระยะห่างกับเราไว้ คาดเดาการกระทำนั้นไม่ออก แต่แค่รู้สึกถึงความแปลก ๆ นั้น ขึ้นรถกลับเลยเหมือนพลังจะอ่อนลง เซฟความรู้สึกไว้
อยู่ ๆ คืนนั้นก็ชุลมุนวุ่นวายขึ้นมาซะงั้น กินข้าวกับพวกจิ ๆ อยู่ เจ้าหลานคนโตก็มาถึงพอดี เลยรับหิ้วซื้อของจากเซเว่นละกัน จะได้ใช้เวลากับเจ้าหลานช่วงหนึ่ง ถึงแม้จะแค่สั้น ๆ ก็เถอะ
เราเลือกจะเข้าไปนั่งเมาท์มอยกับพี่ ๆ ก่อนการกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง ความตั้งใจหลักแค่อยากทำอะไรฆ่าเวลารอใครบางคน เอ็นจอยเพลิน ๆ ก็มีสายเข้าว่าเหมือนจะมีนร.หายไปนะ ช่วยมาดูหน่อย แล้วภารกิจชุลมุนรอบสองของคืนนั้นก็เริ่มขึ้น หลังเคลียร์ทุกอย่างสิ้น ก็มีเรื่องใหม่ให้ตัดสินใจ กำลังจะเดินผ่านลิฟต์ตัวเล็ก อยู่ ๆ นิ้วก็กดเรียกลิฟต์เพื่อลงไปชั้น 1 ใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว ประหม่าชะมัด น้ำท่าก็ยังไม่อาบ หน้าตาก็ผ่านอะไรมาทั้งวัน แต่อยากลงไปหาจัง ก็ที่พยายามทำอะไรให้ยุ่งวุ่นวายทั้งคืน จนไม่อยากเข้าห้องตัวเอง เพราะอยากเจอกันก่อนนี่นา
‘ตั้งใจลงมารับกลับขึ้นห้องเลยนะ’ ดีใจที่ตอนนั้นสมองสั่งการไว การได้ใช้เวลาไม่นานตรงล็อบบี้ชั้น 1 ด้วยกัน ทำให้ความรู้สึกตอนรอรถกลับรร.มลายสิ้น เราคุยเรื่องทั่วไป แต่รู้สึกพิเศษจัง ดีจัง
‘ดีจังที่ตัดสินใจลงไปหากัน’ คือสิ่งที่ยังรู้สึกอยู่จนถึงวันนี้ เรารู้ว่าวันข้างหน้า ล็อบบี้ชั้น 1 ของทุกรร. จะต้องพาเรากลับไปหาเหตุการณ์วันนั้นแน่ ๆ แต่เราก็เต็มใจและยินดีที่จะนึกถึงกัน ถึงให้ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ก็จะลงไปรับอยู่ดี
2 notes
·
View notes
Text
Random
Rules: put your music on shuffle and list the first 10 songs that come up and tag 10 people
Tagged by @risu442 thank you!
The Prodigy - Black Smoke
Soft Cell - Tainted Love extended version
Sleater-Kinney - Jumpers
Pansy Division - Political Asshole
Jeff Satur - Stranger
MIKA - Grace Kelly
Bridgman-Cooper - Dangerous Feelings
Geri Halliwell - GAY
Kelis - Bossy
Jeff Satur - อยู่
Can't tag anyone, I'll be the dead end)
3 notes
·
View notes
Photo
Nuchy is opening a vintage perfume museum in Bangkok! (peep Oat Montien’s Dan painting from Not Me hanging on the wall!!) And she is coming out with her own perfume in June!
tweet text + google translate:
1. โปรเจคของนุชี่ยังมีพิพิธภัณฑ์น้ำหอมวินเทจ The Perfume Sanctuary ด้วยค่ะ ตอนนี้เปิดให้ชมแบบนัดเข้ามาเท่านั้น เพราะต้องเตรียมน้ำหอมให้ดมประกอบการบรรยายเป็นworkshopให้เข้าถึงศิลปะการปรุงค่ะ ClassแรกคือSex and Perfumery ใครสนใจติดต่อขอข้อมูล นัดหมายได้ที่คุณโก๋ line id: 4201487 ค่ะ Nuchi's project also includes a vintage perfume museum, The Perfume Sanctuary, which is now open for viewing by appointment only. Because I have to prepare perfume for you to smell and accompany the lecture as a workshop to access the art of cooking. The first class is Sex and Perfumery. If anyone is interested, please contact for information. Make an appointment at Khun Koh line id: 4201487
2. แจ้งข่าวคืบหน้าโปรเจคต่างๆค่ะ นอกจากเขียนบท ตอนนี้มีทำน้ำหอมด้วย แรงบันดาลใจจากหนัง/ซีรี่ส์ของนุชี่เองค่ะ ทำกลิ่น #อนธการ อยู่ ยากมาก ดาร์คมาก ซับซ้อนสุด ทำไป 60 ตัวอย่างละค่ะ ยังไม่เสร็จเลย นี่กะว่าจะ launch ช่วงมิถุนา 3 กลิ่น จะทันมั้ยนะ ขอบคุณ lab ของ Tada Perfumeur ด้วยค่ะ Notify me about the progress of various projects. besides writing now there's perfume too. Inspired by Nuchi's own movie/series. Making the smell of #Anthakarn is very difficult, very dark, most complicated. I have done 60 samples each. It's not finished yet. I plan to launch it on June 3. Will the scents be available in time? Thank you Tada Perfumeur's lab too.
4 notes
·
View notes
Text
สุดยอดคุณพ่อ! 'โก๊ะตี๋'โพสต์ข้อความซึ้งถึงลูกบุญธรรม
https://www.naewna.com/entertain/846034 สุดยอดคุณพ่อ! ‘โก๊ะตี๋’โพสต์ข้อความซึ้งถึงลูกบุญธรรม วันศุกร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 19.26 น. ยังคงอบอวลในช่วงเวลาของความสุขกับวันพ่อแห่งชาติ ที่หลายคนยังลงภาพคู่พ่อลูก บอกรักพ่อกันอยู่ ส่วนนักแสดงอารมณ์ขันอย่าง โก๊ะตี๋ อารามบอย ก็ขอลงภาพฉลองวันพ่อเช่นกันแต่เป็ฯภาพตนเองกับลูกบุญธรรมเมื่อครั้งยังเด็กๆ อยู่ โดย โก๊ะตี๋ อารามบอย…
View On WordPress
0 notes
Text
แคปชั่นไว้อาลัย แคปชั่นงานศพ รวมคำไว้อาลัยความหมายดีๆ สดุดีแก่ผู้จากไป
แคปชั่นไว้อาลัย แคปชั่นงานศพ รวมคำไว้อาลัยความหมายดีๆ สดุดีแก่ผู้จากไป
⚫️ คำอาลัยที่หายไปไม่ใช่การลืม แต่เป็นการจำไว้ในหัวใจตลอดไป
⚫️ ความทรงจำเป็นส่วนหนึ่งของการอาลัย เพราะมันเป็นเหตุผลที่เรารักและคิดถึงมันตลอดเวลา
⚫️ ในวันที่แสนเงียบ เรายังคงยินดีได้ฟังเสียงหัวเราะและความทรงจำที่สดใสของคุณ
⚫️ รักและความทรงจำจะอยู่กับเราตลอดไป ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน
⚫️ อาลัยไม่ใช่การพล่ามประสบการณ์ แต่เป็นการนับถอยห่างจากความรักที่เรามีต่อผู้สูญเสีย
⚫️ การอาลัยเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเรากับความทรงจำที่สดใสของคนที่เรารัก เราจะไม่ลืมมันที่เร็ว ๆ นี้
⚫️ ความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับความรักจะส่งท้ายคำอาลัยไปด้วยความสง่างาม
⚫️ ในแสงแดดที่สว่างสดใส เรายังคงรักและจำนวนคุณอยู่เสมอ
⚫️ ความทรงจำจะเป็นพลังงานที่เราจะใช้เป็นแรงผลักดันในการดำเนินชีวิตต่อไป
⚫️ ทุกครั้งที่เราคิดถึงคุณ หัวใจของเราก็เต้นเร็วขึ้น เพราะความรักไม่มีวันสิ้นสุด
⚫️ ชีวิตนี้แสนสั้นเกินกว่าจะเข้าใจได้
⚫️ ทุกหัวใจต้องลิ้มรสความขมขื่นของการจากลา
⚫️ คำไว้อาลัยสำหรับจิตวิ��ญาณที่จากไปเร็วเกินไป
⚫️ รักแท้ไม่มีวันพรากจาก แม้ความตายก็ทำลายไม่ได้
⚫️ ในอ้อมกอดแห่งความทรงจำ คุณจะไม่ถูกลืม
⚫️ ขอบคุณทุกความสุขและรอยยิ้มที่เคยมอบให้
⚫️ อาลัยรักยิ่ง…จากนี้และตลอดไป
⚫️ คิดถึงเหลือเกิน เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของคุณ
⚫️ ความรักของพ่อ/แม่ยังปกป้องลูกๆ อยู่ แม้จากที่แสนไกล
⚫️ จากนี้เราจะเข้มแข็งเพื่อคุณ
⚫️ ความทรงจำจะเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้ต่อไป และความรักจะเป็นแหล่งพลังในการฟื้นฟู
⚫️ ในหัวใจของเรา คุณจะอยู่ตลอดไป แม้ว่าจะไม่มีกาลเวลาที่ต่อเนื่อง
⚫️ ความเคารพและความรักของเราจะอยู่กับคุณตลอดไป ในแต่ละวันและทุกช่วงเวลา
⚫️ ความทรงจำเป็นสำหรับเราที่จะเก็บไว้ และคำอาลัยเป็นวิธีที่เราจะแสดงความเคารพ
⚫️ อาลัยไม่ใช่การลืม แต่เป็นการถือความทรงจำอันสำคัญไว้ในใจตลอดไป
⚫️ เราจะไม่ลืมความทรงจำที่เรามี เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นใครที่เราเป็น
⚫️ แม้ว่าคุณจะไม่อยู่ในโลกแล้ว ความรักของเราจะอยู่ตรงนั้นตลอดไป
⚫️ คำอาลัยไม่ใช่การปล่อยปั่น แต่เป็นการยึดถือความรักและความทรงจำ
⚫️ การอาลัยเป็นการทำให้เราเชื่อมั่นว่าความรักไม่มีวันสิ้นสุด แม้ว่าชีวิตของเราจะสิ้นสุด
⚫️ คำอาลัยเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยความทรงจำให้ไปอยู่ที่สูงสุดของความรัก
⚫️ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของคุณ
⚫️ ท่านจะอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ
⚫️ ขอให้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่สุคติ
⚫️ ความตายพรากท่านไป แต่ความรักของเราจะอยู่ตลอดกาล
⚫️ ไว้อาลัยแด่การจากไปของบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
⚫️ ขอให้ครอบครัวเข้มแข็งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
⚫️ ส่งกำลังใจให้กับครอบครัวและคนที่คุณ…รัก
⚫️ ร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวของผู้จากไปด้วยความจริงใจ
⚫️ คำพูดไม่อาจบรรยายความเศร้าโศกในใจ
⚫️ แบ่งปันความเสียใจกับครอบครัวของผู้ล่วงลับ
⚫️ เราจะเก็บความทรงจำของคุณไว้ในหัวใจตลอดไป และจะไม่ลืมเสียสละ
⚫️ ในสายลมที่พัดผ่านและในแสงแดดที่สดใส เราจะพบความรักและความทรงจำของคุณ
⚫️ ในวันที่เราคิดถึงคุณอย่างมาก เราจะร้องไห้ แต่เรายังคงยิ้มได้ด้วยความทรงจำที่สดใส
⚫️ คำอาลัยไม่ใช่การบอกลา แต่เป็นการเชื่อมโยงและการแสดงความเคารพ
⚫️ การอาลัยคือการปล่อยความทรงจำที่สำคัญให้เป็นอิสระ และการยึดถือความรักอันแข็งแกร่ง
⚫️ อาลัยไม่ใช่การละทิ้ง แต่เป็นวิธีที่เราพูดถึงความรักและความทรงจำ
⚫️ คำอาลัยที่เราให้กับคุณไม่ใช่การลืม แต่เป็นวิธีที่เราแสดงความเคารพ
⚫️ เราจะไม่ลืมความทรงจำที่เรามี และความรักของเราจะอยู่ตรงนั้นตลอดไป
⚫️ ในเวลาที่ยากลำบาก คำอาลัยจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทนทุกข์
⚫️ ความทรงจำจะอยู่กับเราตลอดไป แม้เวลาจะผ่านไป และคำอาลัยจะเป็นวิธีที่เราบอกลา
⚫️ หัวใจสลายเมื่อต้องกล่าวคำลา
⚫️ ท้องฟ้าเศร้ากว่าที่เคย เมื่อโลกสูญเสียดาวดวงนี้ไป
⚫️ ความทรงจำงดงามของคุณจะอยู่ในใจเราเสมอ
⚫️ ไปสู่สุคติ ด้วยรักและอาลัย
⚫️ หลับให้สบายนะคะ/ครับ จะอยู่ในใจตลอดไป
⚫️ แสงเทียนริบหรี่ หัวใจเราสั่นไหวเมื่อคิดถึงคุณ
⚫️ โอบกอดครอบครัวด้วยความรักในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกนี้
⚫️ ความตายพรากคุณไป แต่ความรักจะคงอยู่ตลอดกาล
⚫️ บทเพลงชีวิตของคุณสิ้นสุดลง แต่ทำนองจะดังอยู่ในใจเราตลอดไป
⚫️ แม้กายดับสูญ แต่ความดีงามจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
⚫️ แม้ร่างกายดับสูญ แต่ความทรงจำดีๆจะคงอยู่
⚫️ การจากลาครั้งนี้เจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว
⚫️ ละอองดาวเต็มฟ้าในคืนนี้ คงเป็นคุณที่กำลังมองลงมา
⚫️ ความดีของคุณจะถูกเล่าขานไม่มีวันจบสิ้น
⚫️ โลกอาจสูญเสียดาวไปดวงหนึ่ง แต่มันจะอยู่บนฟ้าและส่องแสงอยู่เสมอ
⚫️ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย
⚫️ การพลัดพรากเป็นบทเรียนสุดท้ายของชีวิต
⚫️ จุดเทียนแห่งความทรงจำ ส่งใจถึงคุณบนสรวงสวรรค์
⚫️ แม้เวลาไม่อาจย้อนคืน แต่ความรักและอาลัยจะไม่มีวันลบเลือน
⚫️ วินาทีที่คุณจากไปคือวินาทีที่หัวใจเราแตกสลาย
แคปชั่นไว้อาลัย แคปชั่นงานศพ ภาษาอังกฤษ
⚫️ In loving memory of a life well-lived and a heart deeply cherished. (ในความทรงจำที่รักของชีวิตที่อยู่อย่างมีคุณค่าและใจที่รักอย่างลึกซึ้ง)
⚫️ We will forever carry your memory in our hearts, where you will always be cherished. (เราจะพาความทรงจำของคุณติดตั้งในหัวใจของเราตลอดไป ที่นั่นคุณจะเป็นสิ่งที่เรารักอย่างลึกซึ้งตลอดเวลา)
⚫️ Gone but never forgotten, your spirit will live on in our hearts. (จากไป แต่ไม่มีใครลืม จิตวิญญาณของคุณจะอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป)
⚫️ In remembrance of a life well-lived and a legacy that will never fade. (เพื่อระลึกถึงชีวิตที่อยู่อย่างมีคุณค่าและมรดกที่จะไม่เคยเลือนลบ)
⚫️ Forever in our hearts, your love and light will guide us through. (ตลอดไปในหัวใจของเรา ความรักและแสงของคุณจะช่วยเราผ่านไป)
⚫️ Though you are no longer with us, your love will continue to illuminate our path. (แม้ว่าคุณจะไม่อยู่กับเราอีกต่อไป ความรักของคุณจะยังคงให้แสงสว่างในทางของเรา)
⚫️ In memory of a beautiful soul, gone from our sight but never from our hearts. (เพื่อระลึกถึงวิญญาณที่สวยงาม ไปจากสายตาของเราแต่ไม่เคยห่างไกลจากหัวใจของเรา)
⚫️ Your presence may be gone, but your memory will forever remain. (การมีคุณอาจจะหายไป แต่ความทรงจำของคุณจะยังคงอยู่ตลอดไป)
⚫️ Though we mourn your loss, we celebrate the life you lived and the love you shared. (แม้เราจะเศร้าในการสูญเสียของคุณ เราก็ยังเฉลิมฉลองชีวิตที่คุณมีและความรักที่คุณแบ่งปัน)
⚫️ In loving memory of someone who touched so many hearts and lives. (ในความทรงจำที่รักของคนที่สัมผัสหัวใจและชีวิตของมากมาย)
⚫️ Though you may be gone, your memory will forever live on in our hearts. (แม้ว่าคุณจะไปแล้ว ความทรงจำของคุณจะอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป)
⚫️ In honor of a life well-lived, may your memory be a blessing to us all. (เพื่อเป็นเกียรติให้กับชีวิตที่อยู่อย่างมีคุณค่า ขอให้ความทรงจำของคุณเป็นพระคุณแก่เราทุกคน)
⚫️ Though we may grieve, your memory brings us comfort and strength. (แม้ว่าเราจะเศร้า ความทรงจำของคุณนำมาให้เราได้ความสบายและความแข็งแรง)
⚫️ In memory of someone who will never be forgotten, forever loved, and dearly missed. (เพื่อระลึกถึงคนที่จะไม่มีใครลืม รักตลอดไป และคิดถึงอย่างลึกลง)
⚫️ Though you may have left us, your memory remains a constant source of love and inspiration. (แม้ว่าคุณจะไปจากเรา ความทรงจำของคุณยังคงเป็นแหล่งรักและแรงบันดาลใจที่ต่อเนื่อง)
⚫️ In loving memory of someone who will always hold a special place in our hearts. (ในความทรงจำที่รักของคนที่จะเป็นคนพิเศษในหัวใจของเราตลอดไป)
⚫️ Though you may be gone, your love remains with us eternally. (แม้ว่าคุณจะไปแล้ว ความรักของคุณยังคงอยู่กับเราตลอดไป)
⚫️ In memory of someone who brought joy to so many, may your light continue to shine. (เพื่อระลึกถึงคนที่นำความสุขให้กับมากมาย ขอให้แสงของคุณยังคงส่องไปต่อไป)
⚫️ Though you may be gone from our sight, your memory will forever be a guiding light. (แม้ว่าคุณจะไปออกจากสายตาของเรา ความทรงจำของคุณจะยังคงเป็นแสงไฟแห่งความแนะนำตลอดไป)
⚫️ In memory of someone who will always be remembered for their kindness and love. (เพื่อระลึกถึงคนที่จะถูกจำไว้เสมอ ด้วยความเมตตาและความรัก)
⚫️ Though you may have left this world, your spirit lives on in the hearts of those who love you. (แม้ว่าคุณจะไปจากโลกนี้ จิตวิญญาณของคุณยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของผู้ที่รักคุณ)
⚫️ In memory of someone who will forever be missed but never forgotten. (เพื่อระลึกถึงคนที่จะคิดถึงตลอดไปแต่ไม่เคยลืม)
⚫️ Though you may no longer be with us, your memory will forever be cherished. (แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไป ความทรงจำของคุณจะยังคงมีค่าตลอดไป)
⚫️ In memory of someone whose presence brought light and love to all who knew them. (เพื่อระลึกถึงคนที่เขานำแสงและความรักมาให้กับทุกคนที่รู้จักเขา)
⚫️ Though you may have left this earth, your legacy of love remains. (แม้ว่าคุณจะไปจากโลกนี้ มรดกของความรักของคุณยังคงอยู่)
⚫️ In memory of someone who left an indelible mark on the lives of all who knew them. (เพื่อระลึกถึงคนที่ทิ้งเครื่องหมายที่ยากจะลบออกได้ในชีวิตของผู้ที่รู้จักเขา)
⚫️ Though you may no longer walk among us, your memory will forever light our way. (แม้ว่าคุณจะไม่ได้เดินเหมือนกับเราอีกต่อไป ความทรงจำของคุณจะยังคงเป็นแสงสว่างในทางของเราตลอดไป)
⚫️ In memory of someone who made the world a brighter and better place. (เพื่อระลึกถึงคนที่ทำให้โลกนี้เป็นสถานที่สดใสและดีขึ้น)
⚫️ Though you may be gone, your memory will forever live on in the hearts of those who loved you. (แม้ว่าคุณจะไปแล้ว ความทรงจำของคุณจะอยู่ในหัวใจของผู้ที่รักคุณตลอดไป)
⚫️ In memory of someone whose love and kindness will forever be remembered. (เพื่อระลึกถึงคนที่ความรักและความเมตตาของเขาจะยังคงถูกจำไว้ตลอดไป)
ประโยคไว้อาลัย 60 ประโยค ที่ไม่ได้มีแค่คำว่า R.I.P.
⚫️ ด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง ขอแสดงความอาลัยในการสูญเสียที่ไม่ทราบจะลืมได้ของคุณ
⚫️ ฉันเข้าใจถึงความสำคัญและความสมบูรณ์แบบที่คนที่เรารักมีต่อชีวิตของเรา
⚫️ ความสูญเสียของคุณเป็นเรื่องที่ยากจะแก้ไขและยากจะลืมไป
⚫️ ขอให้คุณมีความสูญเสียน้อยลงในแต่ละวัน และมีความเชื่อมั่นในความทรงจำที่ดีที่สุด
⚫️ คนที่เรารักจะอยู่ในใจของเราตลอดไป แม้ว่าเขาจะไม่อยู่ที่ข้างเราในทุก ๆ ช่วงของชีวิต
⚫️ ความเสียใจของฉันไปยังคุณและครอบครัวของคุณในช่วงเวลานี้
⚫️ ขอให้คุณมีกำลังใจและความแข็งแกร่งในก���รเผชิญหน้ากับความสูญเสีย
⚫️ คนที่เราสูญเสียไปจะไม่เคยลืม เขาจะอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป
⚫️ ความเสียใจของฉันอยู่กับคุณและครอบครัวของคุณในช่วงเวลานี้ของความทุกข์
⚫️ ขอให้คุณพบความสงบและความเชื่อมั่นในความทรงจำที่สวยงามที่คุณมี
⚫️ ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ความรักและความทรงจำของเราจะไม่เลือนหาย
⚫️ ขอให้คุณและครอบครัวของคุณมีความสูญเสียที่น้อยลงเรื่อย ๆ ในเวลาที่ผ่านไป
⚫️ ความเสียใจของเราถึงคุณในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
⚫️ ความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นในการเผชิญหน้ากับความทุกข์มีอยู่กับคุณ
⚫️ ฉันหวังว่าคุณจะพบความสงบและความสมหวังในวันข้างหน้า
⚫️ ความอาลัยของฉันไปยังคุณและครอบครัวของคุณในเวลานี้
⚫️ ความทรงจำของคุณจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณในอนาคต
⚫️ ขอให้คุณมีความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ วัน
⚫️ ความสูญเสียที่คุณรับมานี้เป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
⚫️ อย่าลืมว่าคุณไม่ได้เดินทางคนเดียวในการเผชิญหน้ากับความเสียใจนี้ ความร่วมมือและการสนับสนุนของ��นรอบข้างจะช่วยให้คุณรับมือได้ดีขึ้น
⚫️ ด้วยหัวใจของเราที่เสียใจ เราขอแสดงความอาลัยในความสูญเสียของคุณ
⚫️ คำอาลัยไม่เพียงพอที่จะแสดงถึงความเสียใจของเราในการสูญเสียคนที่คุณรัก
⚫️ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เราขอส่งความอาลัยและความเห็นอกเห็นใจที่ลึกซึ้ง
⚫️ ความสูญเสียของคุณเป็นความสูญเสียที่มีความหมายอันใหญ่ในชีวิตของเราทุกคน
⚫️ ในสมาชิกคนนี้ที่เสียไป เราเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ร่วมความทรงจำด้วยกันต่อไป
⚫️ ความลึกลับของชีวิตทำให้เราต้องพบกับความสูญเสียและความโศกเศร้า
⚫️ ขอให้คุณมีความสุขในสวรรค์ และคิดถึงความทรงจำที่ดี ๆ
⚫️ ความสูญเสียนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้และไม่สามารถลืมได้
⚫️ ความอดทนของคุณในเวลาที่ดำเนินมานั้นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
⚫️ ความอาลัยที่แสดงออกมานี้เป็นการแสดงถึงความเคารพและความรักที่มีต่อผู้ที่เสียไป
⚫️ ความสูญเสียนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าและต้องมองเผชิญอย่างเต็มที่
⚫️ ขอให้คุณมีความสุขในความทรงจำที่สวยงามของชีวิต
⚫️ ความอาลัยนี้จะตามมากับความหวาดกลัวและความเสียใจที่ลึกซึ้ง
⚫️ แสดงความอาลัยในสมาชิกคนนี้ที่หายไปอย่างหนึ่ง
⚫️ ขอให้คุณมีความสุขในที่สุดของสวรรค์
⚫️ ความทรงจำที่ดี ๆ จะอยู่กับเราตลอดไป
⚫️ ความสูญเสียของคุณเป็นเรื่องที่สร้างเสียงกระซิบให้เราเรียนรู้และเติบโตขึ้น
⚫️ ความหวาดกลัวที่คุณรู้สึกอยู่ขณะนี้เราเข้าใจได้ดี
⚫️ ความทุกข์ใจที่คุณรู้สึกจะได้รับการแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง
⚫️ ขอให้คุณพบความสงบและความสุขในความทรงจำ
⚫️ ความอาลัยที่เราแสดงออกมานี้เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงส่งให้กับคนที่เสียไป
⚫️ ความหวาดกลัวและความทุกข์ใจที่คุณรู้สึกในขณะนี้จะได้รับการเข้าใจ
⚫️ ความอาลัยของเรามาพร้อมกับความเชื่อว่าคนที่เสียไปจะได้พบความสุขในสวรรค์
⚫️ ขอให้คุณพบความสงบในการทรงจำและความรัก
⚫️ ความหวาดกลัวที่คุณรู้สึกนี้เข้าใจได้ดีเสมอ
⚫️ ความทุกข์ใจนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของเรา
⚫️ ความหวาดกลัวและความเสียใจนี้เป็นเรื่องที่เราต้องผ่านพ้นไปด้วยกัน
⚫️ ความอาลัยของเรามาพร้อมกับความหวาดกลัวและความเชื่อมั่น
⚫️ ขอให้คุณพบความสุขในความทรงจำ
⚫️ ความทรงจำที่ดี ๆ จะอยู่กับเราตลอดไป
⚫️ ความหวาดกลัวและความทุกข์ใจที่คุณรู้สึกจะได้รับการให้ความเข้าใจ
⚫️ ความอาลัยนี้เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงส่งให้กับคนที่เสียไป
⚫️ ความทรงจำที่ดี ๆ จะช่วยให้คุณพ้นพินาศจากความทุกข์
⚫️ ขอให้คุณพบความสงบในความทรงจำและความรัก
⚫️ ในเวลานี้ขอให้คุณรับความสงบใจและความสบายใจจากผู้ที่สูญเสียไป
⚫️ ในความเศร้าและความทุกข์ ขอให้คุณพบความสงบใจในความทรงจำของผู้ที่ได้ล่วงเลยไป
⚫️ ด้วยใจเข้มและความเศร้าในใจ ขอให้คุณรับความสงบใจจากผู้ที่ได้รับความสูญเสีย
⚫️ คุณไม่ได้คนเดียวในความเศร้านี้ พวกเราอยู่ข้างๆ คุณ
⚫️ ในเวลาที่สำคัญนี้ ขอให้คุณรับความสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนที่รัก
⚫️ ขอให้คุณและครอบครัวพ้นจากความเศร้าไปด้วยความสุขและความแข็งแรงจากใจ
#แคปชั่นไว้อาลัย # แคปชั่นงานศพ #รวมคำไว้อาลัยความหมายดีๆ #สดุดีแก่ผู้จากไป
ที่มา :: https://www.sanook.com/campus/1422123/ , https://www.suriyafuneral.com/
2 notes
·
View notes