#หิวมาก
Explore tagged Tumblr posts
Text
Singapore 2023
ว่าง... เลยนึกอยากเล่าทิ้งๆไว้เฉยๆกับการไปเที่ยวต่างประกะเพื่อนครั้งแรกในชีวิต ก็ไม่ได้ว่าไปไกลอะไรหรอก สิงคโปร์เนี่ยยย
อยากลองเป็น writer เผื่อพอจะเขียนหนังสือแนวประสบการณ์ท่องเที่ยวได้บ้าง ซื้ออ่านเยอะละ อยากลองเขียนเองมั่ง ก็คงเอาไว้อ่านเอง55555
ว่าจะเกริ่นหน่อยว่าไปไงมาไง แต่ขี้เกียจอ่า เอาเป็นว่าสมาชิกมี 3 คนคือกุ อิทราย อิฟรอยด์ (3 คนที่ดั้นดนจะไปให้ได้เลยยยย ต่างประเทศเนี่ย) ตกลงหาตั๋วเลือกวันจองที่พักกันปุบปับ ตกลงว่าได้ไปช่วงกลางเดือนกันยา 2023 (กุเลือกเอง ตรงกับวันเกิดตัวเอง มีงานแข่ง F1 ด้วย ใครจะไปรู้ อาจจะเจอรักแท้ในวัยแรกแย้ม 25 ก็ได้) แต่ลืมคิดไปว่าพอเป็นสัปดาห์ที่นักท่องเที่ยวเยอะ เค้าก็อัพราคาทุกอย่างขึ้นเยอะมากกกก อืม แต่ช่างมันเถอะ
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน อิฟรอยด์บินมากทม.ก่อน มานอนห้องกุแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะออกไปพร้อมกัน ไม่ปูเตียงให้เพื่อนด้วยเพราะนอนคืนเดียวขี้เกียจซักพูดตรงนี้เลย55555 ก็นอนเบียดกะกุนี่แหละ
Day-1
เช้าวันเดินทางต้องตื่นแต่เช้าเพราะกลัวรถติดแล้วไปไม่ทัน อาบน้ำ get ready กันใกล้จะเสร็จอิทรายก็เรียกรถเลย พอรถมากุรับบทนางเตือนเพื่อนเลย อย่าลืมไรนะ ลืมไรก็ได้แต่ต้องไม่ลืมพาสปอร์ต! ไหนชูของตัวเองกันซิ ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง เคร! ครบ! ออกห้อง ล็อคประตู กดลิฟต์ อืม... ��ปลกๆ ขาดอะไรไป... กระเป๋า! กุลืมกระเป๋าลากทั้งใบ เหี้ยมากกกกก เตือนชาวบ้านแต่ตัวเองลืม อะพอครบจริงๆก็ออกเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพิ่งเคยเห็นสุวรรณภูมิข้างนอกว่ามันใหญ่มาก ถนนเยอะงงๆ พวกกุก็งง คนขับก็งง ก็จอดมั่วๆ พวกกุก็เดินเข้ามั่วๆ เดินไปเดินมาหาเคาเตอร์ Check in มั่วๆ เวลาค่อนข้างพอดีไปหมดเลยต้องรีบเดิน สับๆๆๆ แต่ก็ไม่ลืมจะถ่าย content ถือพาสปอร์ตแนบตั๋ว พอขึ้นเครื่องไปก็นั่งเรียงติดกันเลยสามคน บินประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง
A few moments later...
สามชั่วโมงผ่านไปเราก็มาถึงสิงคโปร์ อย่างแรกเลยนะ หิวมาก ตามแพลนอิทรายแล้วเราต้องกิน Shake Shack เบอร์เกอร์เจ้าดัง ถามว่าที่ไทยก็มีแต่ก็ไม่ได้จะเคยพยายามไปกินอะไร - - แต่นั่นแหละ หิว เพื่อนเสนอมาก็กินไป ไม่แย่ ส่วนตัวชอบเบอร์เกอร์เนื้อเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน กินเสร็จแล้วก็ต้องออกไปจากที่นี่เพราะแพลนเที่ยวค่อนข้างแน่น ต้องออกจาก Jewel ไปตึก Changi แล้วนั่ง MRT ออกไปที่พักในเมือง แต่กว่าจะออกจากสนามบินได้ก็เดินวนกันอยู่อย่างนั้นนานพอจนจะเรียกว่าเสียเวลาได้อยู่ -0- พอถึง MRT ที่ใกล้ที่พักสุด(ซึ่งก็ไม่ได้ใกล้มาก) ก็เปิดแอพ Citymap เรียกได้ว่าเป็นแอพที่จริงใจในการเดินทางครั้งนี้ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีแอพนี้จะเป็นไง อืม มันขนาดนั้นเลยแหละ
การเดินทางในสิงคโปร์ ถ้าเอาแค่รถสาธารณะ หลักๆเลยจะมี MRT Bus และเดิน ซึ่งในทริปนี้หลักๆที่ใช้จะเป็น MRT และการเดิน เพราะไม่กล้าขึ้นบัส ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งๆที่บัสบ้านเค้ามันสบายและง่ายกว่าบ้านเราตั้งเยอะ แค่ขึ้นตามแอพแนะนำ ซึ่งแอพแม่นยำมาก อีกกี่นาทีมา ขึ้นตรงไหน ลงตรงไหน จ่ายก็แค่แตะบัตรขึ้นลง ก็งงว่าทำไมพวกกุไม่กล้าขึ้นวะ เออสรุปก็คือเดินจ่ะ! จาก MRT ไปที่พัก เดินไกลมากกกก ระหว่างทางมึงนึกภาพนะ ตอนนั้นกลางวัน แดดร้อนๆ คนแทบไม่มี ร้านค้าไม่เปิด จนกุงงว่ากุอยู่ถูกย่านท่องเที่ยวปะวะ ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวเลย คนแถวนี้ก็มีแต่คนอินเดีย อะก็เดินๆไปถึงที่พักปุ๊บ พนักงานขอพาสปอร์ตของทั้งสามเท่านั้นแหละ อิฟรอยด์... หาพาสปอร์ตไม่เจอ... นั่งค้นดูดีๆก็แล้ว หาในกระเป๋าเพื่อนก็แล้ว ���อเค หายจริง... ความชิบหายแรกได้เกิดขึ้นแล้ว พนักงานก็แนะนำให้ไปสถานีตำรวจ เลยรีบเช็คอินขึ้นห้อง หาเส้นทางไปสถานีตำรวจจากแอพคู่ใจ อิทรายสรุปให้ว่าเราจะเดินกันไป(อีกแล้ว) ก่อนไปก็ขอเอนหลังนิด เติมหน้าหน่อย
เริ่มออกเดินทาง เดิน เดิน เดินไปเรื่อยจนเจอสถานีตำรวจ เดินขึ้นลิฟต์ไป เชื่อปะ จังหวะประตูลิฟต์เปิดแล้วจะเจอตำรวจนั่งอยู่ตรงหน้าเลย แล้วตำรวจก็คืองานพรีเมี่ยมเลย ทุกคนเห็นตรงกัน นึกภาพตามนะ ผิวขาว ผมเซ็ทเสยปัดข้างเกาหลีเลย หน้าตาขาวสะอาดสะอ้าน เหมือนในซีรี่ส์เกาหลีเลยหละ พวกกุก็รีบปรี่เข้าไปเลย แย่งกันตอบคำถามสุดๆ พูดเป็นไม่เป็นไม่รู้ รู้แต่อยากสปีกกะคุณตำหนวดสุดๆ สื่อสารกันงูๆปลาๆ ได้ความว่าต้องไปติดต่อสถานทูตไทย แต่สถานทูตปิดเสาร์อาทิตย์(ซึ่งคือวันนี้และพรุ่งนี้ไปไม่ได้ละ) ต้องไปวันจันทร์ ซึ่งตามแพลนวันจันทร์จะไป Sentosa กัน ส่วนวันอังคารก็วันบินกลับ ก็ต้องเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะแพลนยืดหยุ่นได้อยู่ เสร็จธุระก็กลับมา Follow แพลนเที่ยวต่อ ซึ่งเย็นละยังไม่ได้ไปซักอัน... อยากเข้าเมืองไปเจอผู้คนใจจะขาดแล้ว เมอร์ไลองไลอ้อนเอย มาริน่าบงมาริน่าเบย์ อะก่อนอื่นก็เดิน(ตามเคย)ไปขึ้น MRT ก่อน
ที่แรกตามแพลนก็คือจะไปโซน Marina Bay พอลง MRT ตกใจกับปริมาณคนในโซนนั้นมาก คือก่อนมาก็จินตนาการอยู่ว่าคนจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะสนามแข่ง F1 ก็อยู่ตรงนั้น แลนด์มาร์คเช็คอิน Merlion ก็อยู่ตรงนั้น แต่เจอจริงๆคือ อหหหห เยอะแบบหามุมถ่ายรูปเก๋ๆคนเดียวไม่ได้เลย หื้มมม! หลบไม่ได้ก็ถ่ายมันด้วยกันหมดเนี่ยแหละ! -/\- แล้วมึงจะต้องรับบทเป็นตากล้องให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆด้วย สลับกันถ่ายไปมา ซึ่งก็ถ่ายกันค่อนข้างนานมากมากกก จนคิดว่าน่าจะพอได้ซักรูปที่ใช้งานได้แล้วก็เดินหาร้านข้าวเย็นกันต่อ ตามแพลนแล้วอิฟรอยด์อยากได้ร้านที่วิวดี เอาให้ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวทั้งหมดของ Marina Bay (ตอนแรกมันบอกจะไป Rooftop ด้วยซ้ำ กุกับอิทรายเครียดละ ยังไงน้อ จะตกคนละเท่าไหร่ แต่โชคดีไปที่ร้านส่วนมากจองเต็มไปแล้ว คิดว่าเพราะงาน F1) ก็เลยได้เดินหาร้านแถบริมแม่น้ำ ซึ่งโอเคเลย รู้สึกว่าบรรยากาศดีมากๆ หาโต๊ะที่อิฟรอยด์พอจะทำคอนเท้นต์อย่างว่าได้ จบที่ร้าน OverEasy เปิดเพลงดี ชอบ เครื่องดื่มด็โอเค Singapore Sling ที่ว่าเป็นซิกเนเจอร์ก็ได้ลอง จำได้ว่าอร่อย แต่ตอนนี้ลืมละว่ารสชาติประมาณไหน เสร็จแล้วก็กลัวว่าจะไม่มี MRT รอบดึกกลับ บวกกับวันต่อไปแพลนแน่นมากๆ เลยกลับเลย ตอนเดินกลับโรงแรมสังเกตเห็น จำได้มั้ยที่บอกว่าแถวโรงแรมมันเงียบไม่มีคนอะ ปรากฎว่าตื่นละ คือมันเป็นย่านของกินตอนกลางคืนอะ คนก็เยอะทุกร้าน เออสบายใจละ(สบายใจไร? ไม่รู้) แล้วก็จบวันด้วยมาม่าคัพมื้อดึกที่โรงแรม ซึ่งมาม่าที่นี่บางยี่ห้อไม่มีส้อมให้ ต้องกินอย่างยากลำบาก ในส่วนของรสชาติไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกใจนัก พอกินได้ถ้าหิวมากๆ
Day-2
วันที่ 2 อะหรอ ขอนึกก่อน เป็นวันที่ค่อนข้าง chaos อยู่พอสมควร เริ่มที่แพลนว่าจะเริ่มกันตอน 8 โมง เพ���าะจะไปหลายที่ สรุปเช้านั้นตื่นลืมตากันตอน 10 โมง กว่าจะได้ออกอีก ทีนี้ทางสนามบินโทรมาแจ้งว่าเจอพาสปอร์ตอิฟรอยด์แล้ว ให้มารับที่สนามบินได้ มีคิวแทรกอีกหนึ่งละ ก็พากันออกเดินทางกลับไปที่สนามบินรับพาสปอร์ต เสร็จแล้วไปไหนต่อวะ เออก่อนออกก็ไปซื้อ llaollao ไอติมโยเกิร์ต อ่านว่า "เหยาเหยา" ไม่ใช่ "เหลาเหลา" ดังที่อิฟรอยด์กล่าวอ้าง... อร่อย ชอบมากมากกก นึกแล้วก็อยากกินอีก แต่ที่ไทยเห็นว่ามีที่เดียว ซึ่งอยู่ที่แพลตตินั่ม รู้สึกว่าจะไกลกุอยู่พอสมควร อดแดก... อืม กลับมา ออกจากสนามบินแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ไชน่าทาวน์ เพื่อไปหาอาหารเช้า+เที่ยงกิน ตั้งใจจะไปกิน SONG FA ร้านบักกุ๊ดเต๋เจ้าดัง(อิฟรอยด์บอกมา) อร่อยมั้ยหรอ ก็หน้าตาพรีเมี่ยม รสชาติพอได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้ว้าวมาก แต่เพื่อนชอบนะ กินเสร็จก็พากันไปโซนหลักๆของไชน่าทาวน์ ที่มีร้านขายของฝากเต็มไปหมด เสียเวลาที่นี่เยอะมากกกกกก จนแพลนเคลื่อนหมด55555 ยืนเลือกกันไม่จบไม่สิ้น เพื่อนได้ของให้ใครบ้างไม่รู้ แต่กุเลือกไม่ได้ ช็อคโกแลตก็เฉยๆ พวงกุญแจก็เฉยๆ คิดไม่ออก ไม่ซื้อ ตัดจบ เลิก สบายใจละ(สุดท้ายได้ผ้าพันคอมา 2 ผืนจะให้ยายผืนนึงอีกผืนคิดก่อนจะให้แม่หรือเอาไว้ใช้เองดี) เสร็จแล้ว next stop คือ Coach Cafe ที่เพื่อนฟรอยด์อยากไป เดินกันอีกแล้ว พอไปถึงคาเฟ่แม่งยังไม่เปิดให้เข้าอีก คือมึงจะเปิดเย็นแค่ไหนวะ จำได้ว่าไปถึงนี่ก็เย็นละนะ เลยถ่ายรูปกันหน้าร้านแม่งเลย ถ่ายเสร็จก็เดินกลับ ไปไหนต่อนะ อ่อจำได้ละ เดินผ่านสวน Gardens by the Bay จะไป Art Science Museum พอไปถึง ปิดละ... มาช้าไป ก็เลยขึ้นไปชั้นที่ไม่มีตั๋วก็ชมได้ พอขึ้นไปก็ เอ่อ... ให้ดูไรอ่า...มะมีไรเลย ลงไปคืน ไปหาที่เปลี่ยนชุดเล็กน้อยเพราะแต่ละคนมีปัญหาปัญหาคอสตูมมาก55555 เปลี่ยนแล้วก็หาถ่ายรูปทำคอนเท้นต์แปปนึง แล้วก็จะหาอะไรกินก่อน แล้วจะไป Gardens by the Bay เวอร์ชั่นกลางคืน (แปลว่าต้องเดินกลับไปสินะ) ณ จุดนั้น ขาคืองอแงละ อิทรายถึงขั้นทรุดลงที่พื้น ถอดถุงเท้ามาเช็คว่าตีนยังอยู่ดีมั้ย และหิวมากมากกกก ก็เลยจบที่ Shake Shack ตอนนั้นคือขอแค่ได้นั่งพักขาคือพอใจมากแล้วจริง พอมีแรงแล้วเลยไปเก็บภาพ Gardens by the Bay ซักหน่อย สภาพทุกคนคือไม่ไหวแล้ว แต่!! จำได้ว่าก่อนเดินมาที่นี่มีสาวฝรั่งนางหนึ่งชีถามว่ารู้มั้ยว่าพลุ F1 จุดกี่โมง ตอนนั้นก็ไม่รู้ไร อยู่ดีๆก็นึกอยากรู้ ถามกูเกิลชีบอกว่าทันทีที่ผู้ชนะเข้าเส้นชัย พลุจะเริ่มทันที ก็คือช่วง 4 ทุ่ม แสดงว่าถ้าจะดูพลุก็ยังทัน แต่จุดที่จะชมพลุได้คือแถวริมอ่าวมาริน่า และจุดที่ดีที่สุดคือ Helix Bridge (ก็คือกุต้องเดินกลับไปอีก) บอกตรงว่าตอนนั้นกุคิดว่า Helix Bridge คือทางผ่านไป MRT ที่จะกลับโรงแรม เลยโอเครอดูพลุก่อนกลับก็ได้ ก็แค่นั่งรอ อะไรที่ไม่ต้องเดินตอนนี้รับได้หมด ก็เดินไปที่เดิมกันทีนี้ รอจน 4 ทุ่ม จู่ๆพลุดังขึ้นรัวๆ จิตวิญญาณ Content Creator อิฟรอยด์มันมาพากุวิ่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นสะพานฮีลิกซ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมาก ถุงของฝากร่วงเริ่งไปหมด เหมือนกุจะเหยียบของตัวเองด้วย รีบเกินอิเหี้ย5555 ถ่ายพลุกันรัวๆๆๆซึ่งโชว์พลุนานมาก ณ ตอนนั้นอิทรายคือรับหน้าที่นั่งเฝ้าของอยู่ด้านล่าง เพราะชีคงวิ่งไม่ทันบวกกับขาชีระบมมากมาก ดูพลุเสร็จได้เวลากลับละ พอเพื่อนบอกปะเดินกลับ MRT... เค... ทางไหน? ทางเดิม... ทางเดิมคือ... ทาง Gardens by the Bay ที่เราเดินผ่านมาไง ...ไม่จริง...ไม่จริงใช่มั้ย... (ไม่อยากจะเชื่อว่าต้องเดินกลับจริงๆ เลยถามคนแถวนั้น สรุปว่ามีทางอื่นไปอยู่ ในใจตอนนั้นคือต่อให้ทางใหม่ไกลกว่าทางการ์เด้น กุก็จะไปเพราะกุเบื่อการเดินไปมาในสวนนั้นแล้ว มันเหมือนเดินที่เดิมไปๆมาๆ มันทำให้รู้สึกปวดขามากขึ้น จริงๆนะะะ) ตอนนั้นใจกุอยู่บนเตียงที่โรงแรมแล้วเอาจริง จบเดย์สองที่แสนวุ่นวาย
Day-3
เอาจริงมะ นั่งพิมพ์อย��่ตอนนี้คือผ่านมาเดือนนึงได้ละนะ กะมาเล่าแค่ตอนมีฟิวลิ่ง (เท่ากับ ตอนลงเวรไนท์แล้วยังไม่อยากอาบน้ำ ทำไมกุทำตัวสกปรกแบบนี้! แต่ๆ จริงๆนะ อาบน้ำเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ฟิวลิ่งมากกว่าอะไรทั้งปวงจริงๆ)
อะ นึกแปป อ่ออ วันที่ 3 คือวันที่ไป Universal Studios นี่เอง ก็คือสวนสนุกมันเปิดสายๆ รู้สึกจะ 11 โมง เลยตื่นสายกันได้ ก่อนออกไปก็พากันกินอาหารแนวๆบักกุ๊ดเต๋หน้าปากซอยโรงแรม ก็พอกินได้ ไม่ได้ว้าว ไม่ได้แย่ ตอนแรกบอกรับแต่เงินสด ต้องขอร้องว่าพวกไอไม่มีเงินสดเลยนะ บัตรไม่ได้จริงๆเหลอ ถึงยอมเอาเครื่องรูดบัตรออกมา จบ. วันนี้นึกครึ้มอะไรไม่รู้ อยากจะลองขึ้นบัสกันดูบ้าง เพราะไม่มีแรงตีนจะเดินไป MRT แล้ว และได้ค้นพบว่ามันลดเวลาและลดแรงไปมากกกก ไปอยู่ไหนมาฟร้ะ ไม่ใช่บัสนะ พวกกุเนี่ย! ก็นั่งยาวๆไปลงห้างที่มันมีรถรางไฟฟ้า? ไป Sentosa ไปถึงก็ต่อแถวซื้อตั๋ว 3 ใบ ไปถึงจุดติ๊ดบัตร ควาย 3 ตัวได้หยิบบัตรเงินตัวเองมา ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ขึ้นรถ แล้วยืนมองหน้ากัน... อย่าบอกนะว่า... ควาย! แล้วจะไปต่อแถวซื้อบัตรกันทำไม ถ้าจะมาตัดบัตรอยู่ดี เสียดายเงินว่ะTT ก็นึกว่าตั๋วแม่งเอาไปเข้าสวนสนุก ที่ไหนได้เป็นตั๋วรถ ยังจะพยายามมองแง่บวกว่าเราอาจจะเอาไว้ใช้ขากลับได้ (ลึกๆรู้ ว่ามันไม่ด้ายยย!)
มาถึงสวนสนุกอย่างแรกเลยก็ต้องถ่ายรูปกับป้าย Universal Studios ที่มันเป็นลูกโลกใหญ่ๆหมุนไปเรื่อยๆอะ นั่นแหละ ก็ถ่ายกันอยู่นมนาน จบที่คู่รักเกาหลีชุดคู่ที่มาถ่ายให้เรา ถ่ายดีมากกกกก โคตรโปร มุม ความสมมาตร การบรีฟ คือเริ่ด ใส่ใจรายละเอียด มีความเดี๋ยวรอคำว่า Universal Studios หมุนมาก่อน รู้สึกผิดเลยพวกกุ ก่อนหน้านี้ถ่ายให้เค้าลืมมองว่ามันเห็นตอนป้ายหมุนมามั้ยว้า ถ่ายเสร็จเริ่มไปต่อแถวเครื่องเล่นเลย จะไม่รีวิวไรมากนะ เพราะค่อนข้างลืม ลำดับการเล่นก็จำไม่ค่อยได้ ที่เล่านี่ก็อาจจะผิดด้วย 5555 จำได้ว่าอันแรกอิทรายบอกต้องไปเลย Transformers ใส่แว่น 3D เข้าไปโอโหเหมือนจริงมากกก เหวี่ยงกุไปมา กุก็อินจัด แหกปากกันลั่น เล่นเสร็จถอดแว่นออกฟิวเหมือน กุนั่งเฉยๆยังไงให้เหนื่อย 5555 เอ๊ะหรือรถมันเคลื่อนที่เยอะจริงๆวะ เอ้อช่างมันเหอะ เสร็จแล้วไปต่อที่มัมมี่ อันนี้จำได้เพราะทางเดินเข้ายาวมากก กุวิ่งตามฝรั่งหน้าตาดี 2 อัตรา ในใจ���ด้แต่ภาวนาว่าขอให้ได้ไปรอบด้วยกัน สรุปไม่ได้ จะแม่นบ���มีวาสนาคัก! จบ มัมมี่จำได้แค่นี้แหละ เสร็จแล้วไปนั่งอิโต๊ะกลมๆหมุนๆเวียนหัวเล่นไม่ถึง 2 นาที แล้วก็ต่อด้วย(มั้ง)ไดโนเสาร์บินลอยขึ้นลอยลง ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนั้นอยากนั่ง เสร็จแล้วมานั่งเถียงกันอยู่นานเรื่องเล่นน้ำ ลืมแล้วว่า issue คืออะไร แต่สุดท้ายก็ไปต่อแถว แล้วก็ท้อ แล้วก็ออกแถวมา แล้วกุก็อยากเล่น Battlestar มากกกก รู้สึกมาสวนสนุกต้องเล่นอะไรที่มันหน้าตาแบบนี้มันถึงจะสุดดด แต่เพื่อนไม่อิน เลยไปคนเดียว เพื่อนไปหาไรกินรอ ต่อแถวโคตรนานอิดอก กุยืนแล้วยืนอีก แล้วแบบเหงาปากสาด คนอื่นเค้ามากับเพื่อนกับแฟนกับด่าง มึงนึกออกมั้ยยย กุต่อแถวจนเปื่อย ในที่สุดก็ได้เล่น อิเครื่องนี้มันนั่งคู่ใช่ปะ ใจกุก็แบบ คู่ฝรั่งที่จริงใจได้มั้ยย ในความเมื่อยล้ามีสิ่งดีๆได้มั้ยยย ใช่ กุหมกมุ่นกับการเจอรักแท้ทุกวินาที5555 สรุปได้นั่งกะผชจีนตัวสูง คุยกัน 2-3 ประโยคเป็นพิธี พอไม่awkward เล่นเสร็จรู้สึกเพลียมากกกกกกก แบบมากกกกกก จนไม่มีแรงจะถ่ายภาพเอาคอนเทนต์อะไรแล้ว(แต่ก็ถ่ายอยู่ดี เอาหน่อย มาทั้งที ถ่ายแบบไม่มีเอเนอจี้เนี่ยแหละ) เดินตามเพื่อนพอ พวกมึงถ่ายเลย กุเยาแล้ว ตัดจบเลยนะ ก่อนออกจาก Sentosa ก็กิน llaollao ซักถ้วยให้ชื่นใจ เข้าเมืองมาไปตามล่าหมูกรอบแถวไชน่าทาวน์ ไปแถว Clark Quay ที่เคยอยากมาตั้งแต่วันแรกๆ กะหาไรกินจอยๆ สรุปไม่มีไรถูกจริต บวกกับตีนไม่เป็นตีนแล้ว อยากนอนยกขาสูงเท่านั้น ก็เลยไปกินไอติมแปปนึงแล้วกลับแถวโรงแรม ก่อนเข้าโรงแรมเดินผ่านร้านข้าวต้มกบจำนวนมาก ดังนักใช่มั้ยยย อะลองหน่อย ก็สั่งๆๆๆๆเลยสิ คนมันหิวอะเนาะ อาหารเริ่มเสิร์ฟเต็มโต๊ะ จู่ๆนึกสงสัยตัดบัตรได้มั้ยวะ กุมั่นใจมากร้านใหญ่เบอร์นี้รูดบัตรได้อยู่แล้ว ถามไปได้ความว่า... Cash only... ชิบหาย หน้าเสียทั้งลูกค้าทั้งพ่อค้า เลยบอก No cash เค้าอลุ่มอล่วยบอก THB cash ก็ได้ เอ่อ... THB cash พวกกุก็ไม่พออยู่ดี... อิทรายเริ่มแดกไม่ลงละ พ่อค้าบอกไม่เป็นไรๆกินก่อนๆค่อยว่ากัน มันมี ATM แถวนี้อยู่ ด้วยความหิวก็กินกันจนหมด แล้วตกลงกันอีกทียังไงดีเรา มัดจำเค้าด้วยพาสปอร์ตละกัน จะเดินไป ATM กันหมดเนี่ยแหละ สรุปเค้าบอกโอ้ยพาสปอร์ตไม่��้องๆ ไปกดกันเลย เออร้านนี้แม่งใจว่ะ เลยพากันเดินไป ATM ซึ่งไกลมากกกกกกกกกกกกกก เทียบกับประเทศเราที่มีอยู่ทุกหัวมุมตาม 7-11 แต่นี่คือเดินไปแทบสุดถนนใหญ่ กดเสร็จเดินกลับมาจ่ายเรียบร้อยกลับโรงแรม กุเพลียสุดๆอาบน้ำแบบรีบเสร็จมาทิ้งตัวนอน
Day-4
ตื่นมามึงเอ้ยยย ปวดไปทั้งตัวว หัวก็ปวด ตัวก็ร้อน นี่กุใช้ร่างกายหนักขนาดนั้นเลยหรอวะ! คือไม่ไหวอะ เช้านั้นไม่อาบน้ำเลย หนาวมากรู้สึกจะตาย เปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าไม่แต่งไม่สนใจไรแล้ว ออกโรงแรมมากุตามหาพาราอัดทุก 4 ไปเลย มาถึงสนามบิน อิฟรอยด์ติดด่านอีกเรื่องไม่ได้ถอนแจ้งความพาสปอร์ตหายอีก กว่าจะออกมาได้
ตัดจบแลนดิ้งไทยแลนด์เลยละกัน แอบขกเล่าละ มาถึงตั้งใจมากจะไปกิน Hotpotman ครั้งแรกตื่นเต้น เค้าบอกอร่อยนักอร่อยหนา กินไปก็ไม่แย่ ก็เริ่ดเลยแหละ ตกดึกมา สั่งบัวลอยมากินกันเม้ามอยพลางๆซักพักเพื่อนเซอเค้กวันเกิดย้อนหลัง
เช้าวันต่อมายังหยุดอีกวันเกิดอาการ เจ็บคอ... แต่เมื่อวานไปกินหม่าล่ามา อาจจะเป็น Side Effect ผงนัวร์ซัมติง
วันต่อมาต้องไปทำงานตั้งแต่เช้ามาคัดจมูก คิดในใจเชี่ย กุใช้งานร่างกายหนักจริงๆนอนน้อย เดินเยอะ เล่นเยอะ ไข้แดก แต่ก็ไปทำงาน เพื่อนร่วมงานแอบกลัวนิดหน่อย เพราะคัดจมูกมากกกก เสียงนาสิกสุด ลงเวรกะว่าจะไปซื้อยากินไม่ไหวละ อีกใจก็นึกเภสัชถามแน่เลยว่าโควิดมั้ย สวอปซักหน่อยละกันจะได้พูดเต็มปากว่า Neg ค่ะ พอดีมี Covid test เหลืออันนึงเลยจิ้ม...จุ่ม...หยด...
ปิ๊ง!... 2 ขีดจ่ะ จบ โทรลางาน พรุ่งนี้ไปโรงบาลเท่านั้น ปิดทริป!
0 notes
Photo
Yummy Monday with seafood boiled rice หิวมาก เลยมาแก้เย็นด้วยข้าวต้มร้อนๆ เผ็ชๆ #foodie #foodporn #yum #boiledrice #seafood #shrimp #squid #ivygourdleaves #pepper #vinegar #chilli #fishsauce #streetfood #canteen #breakfast #ข้าวต้มกุ้ง (at Bangkok, Thailand) https://www.instagram.com/p/CoBUGNTPO8K/?igshid=NGJjMDIxMWI=
#foodie#foodporn#yum#boiledrice#seafood#shrimp#squid#ivygourdleaves#pepper#vinegar#chilli#fishsauce#streetfood#canteen#breakfast#ข้าวต้มกุ้ง
0 notes
Photo
ยังคงไม่มูฟออนจากยำปลากระป๋อง ไข่ต้ม และขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ (ใส่กล่องเป็นมื้อกลางวัน) #ของในตู้เย็น 🤪 #หิวมาก! (at The plant แจ้งวัฒนะ) https://www.instagram.com/p/CTgN2jXMOAa7GcGxsoqwM_0w8ts097G0rzX2Gw0/?utm_medium=tumblr
0 notes
Photo
#ThrowBack #Yayoi #Sukiyaki #Beef #Set #กินเมื่อวานโพสต์ตอนนี้ #หิวมาก #Calamri #FriedSquid #แข็งไปหน่อย
1 note
·
View note
Photo
นอนไม่หลับเพราะมัวคิดถึงเด็กที่กำลัง #หิวมาก 😩 #เจพี่รักหนูนะลูก ❤️ #Jaylerr ❤️🤫 #gotzyredlips 👄 https://www.instagram.com/p/BvW3KJyheC-/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=1014lqhu80wq9
0 notes
Photo
#มื้อรวมเช้ากลางวัน #หิวมาก #ต้องถอนไหม🍺😂✌🏼️ #อื้นๆ (ที่ ซ.เรวดี) https://www.instagram.com/p/Bs2P28WnPvKpjIXm74zOvZM7l2_7YMaqpaiELs0/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=1j2a9be9pji0m
0 notes
Text
Ep.8 Lunisolar JAKEHOON AU FANFICTION [END]
.
7 ปีต่อมา
ณ สถานีอวกาศ NASA
ร่างหนาในชุดยูนิฟอร์มของสถานีอวกาศนานาชาติแห่งสหรัฐอเมริกาที่มีป้ายห้อยคอว่า 'NASA' ตัวโตๆ กำลังมีท่าทีเคร่งเครียด ปลายนิ้วเรียวยาวรัวแป้นคีย์บอร์ดเพื่อคีย์ข้อมูลกู้ระบบของดาวเทียมที่ทีมของเขาเพิ่งปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อสามเดือนที่แล้วอย่างตึงเครียด ลูกหมาตัวโตที่คอยวิ่งตามตูดของศิวกรณ์ต้อยๆในวันนั้นตอนนี้กลายเป็นหมาป่าหนุ่มอย่างเต็มตัวแล้ว พร้อมกับพ่วงด้วยตำแหน่งผู้ช่วยวิศวกรการบินและอวกาศด้านดาวเทียมโทรคมนาคม หรือ ที่รู้จักกันในนามดาวเทียมสื่อสารนั้นเกิดเหตุขัดข้องระหว่างการโครจรรอบโลก เมื่อสุมหัวตรวจสอบกันอย่างวุ่นวายไปทั้งทีม ในที่สุดก็พบต้นตอเสียที นั่นเพราะเจคไปใส่โปรแกรมบางตัวที่สามารถเก็บข้อมูลทางอวกาศได้มากขึ้น หลังจากที่ทดสอบกันมานับครั้งไม่ถ้วนจนมั่นใจว่าสามารถปล่อยออกสู่อวกาศได้ แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อไม่��ี่วันที่ผ่านมานี้ เกิดลมสุริยะพัดเอาเศษของหินอวกาศเข้ามาปะทะกับดาวเทียมเข้า แล้วอีเศษชิ้นส่วนเล็กๆนั่นมันดันเข้าไปติดที่ข้อต่อของเสาอากาศ ทำให้ศูนย์บนพื้นโลกไม่สามารถดึงสัญญาณจากดาวเทียมได้
แล้วถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับโปรแกรมที่เจคใส่ลงไป นั่นเพราะว่า เมื่อหินไปติดอยู่ที่เสาอากาศ อีโปรแกรมที่เขาเขียนมันดันเข้าใจว่าให้หยุดการส่งสัญญาณน่ะสิ เขาเขียนคำสั่งแก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่ได้ผลจนตอนนี้นั่นแหละ
"เห้อ.." เจคถอนหายใจแล้วถอดแว่นป้องกันแสงจากหน้าจอมคอมพิวเตอร์ออก มือหนายกขึ้นนวคลึงสันจมูกบริเวณกระบอกตาเพื่อคลายความล้า ตอนนี้เขาแทบไม่รู้เดือนรู้ตะวันแล้วเพราะเขาขลุกอยู่ในศูนย์แห่งนี้มาหลายวันแล้วเช่นกัน
"เป็นยังไงบ้าง พอจะมีหนทางไหม" อีธาน เพื่อนร่วมทีมของเขาเดินเข้ามาหาหลังจากที่ออกไปหาอะไรกิน ก่อนหน้านี้เขาชวนเจคออกไปด้วยกันแล้วแต่ร่างสูงบอกว่าขอลองดูอีกหน่อย
"มีสองทาง" เจคสวมแว่นกลับเข้าไปดังเดิมแล้วหันเก้าอี้ไปสนทนากับคนมาใหม่ ก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาประกอบการเล่า "ทางแรก ปลดประจำการเคซีออสก่อนกำหนดและเรียกกลับมายังโลก ทางที่สองคือให้นักบินอวกาศสักคนไปแคะอิเศษหินนั่นออกซะ"
"อำป้ะเนี่ย ปลดประจำการยานที่เพิ่งปล่อยขึ้นไปเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ"
"นั่นแหละ เหลือแค่ต้องให้คนไปแงะมันออกแล้ว" เจคยืดตัวบิดขี้เกียจไปมา เขาควรเตรียมตัวไปกินข้าวได้แล้วก่อนจะมาหารือข้อสรุปของเรื่องนี้กับทีมอีกครั้ง "หิวมาก ผมไปละ"
เจคกระดกขวดนมจืดยี่ห้อหนึ่งเดินออกมา จับมือถือครั้งแรกในรอบกี่วันแล้วก็ไม่รู้ เจคเข้าโปรแกรมแชทและสายเรียกเข้าทันทีซึ่งมันก็ไร้การเคลื่อนไหวจนเขานึกสงสัยจนต้องกดโทรออกยังเบอร์ล่าสุด รอสายอยู่เกือบนาทีปลายสายก็กดรับ "ที่รัก~ คิดถึงจังเลยย"
(ใครโทรมาครับ โทรมาทำไมครับ ไม่อยากคุยครับ) ปลายสายตอบกลับมาอย่างนิ่งเรียบ
"โหยย พี่ศิ ผมเอง ผัวพี่งายยย" เจคโอดครวญราวกับลูกหมาโดนรังแก คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองตามเมื่อได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนของหนุ่มหล่อสุดฮ็อตประจำสถานีที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
(ขอโท��ที พอดีผัวผมมันตายห่าไปแล้ว คุณมึงโทรผิดแล้วล่ะครับ)
"โอ๊ยย มันเจ็บที่หัวใจจี๊ดเลย ผมยังไม่ตายค้าบ อย่าใจร้ายกับผมนักสิที่รักจ๋า ตอนนี้อยู่ไหนคะ หื้ม" เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างทีเล่นทีจริง แมวขาวของเขากำลังงอนอยู่แน่ๆ
(อ้ออ งั้นเหรอครับ ผมก็นึกว่ามันตายห่าไปแล้ว ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ เล่น��ายหัวไร้การติดต่อเป็นเดือนๆ ถ้าไม่รู้ว่ามึงทำงานอะไรนี่กูคงโทรแจ้งความคนหายไปร้อยรอบแล้ว)
"แหะ แหะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงครับ ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะรายงานที่รักทุกครั้งที่จับโทรศัพท์เลยครับ"
(มึงก็พูดอย่างงี้ตลอดนั่นแหละไอ้เด็กหน้าหมา)
ศิวกรณ์ปลงตกตั้งนานแล้วแหละกับการที่เวลาว่างไม่ตรงกันของพวกเขา และเขาก็เข้าใจดีจึงไม่ได้เซ้าซี๊อะไรมาก ตอนนี้ร่างบางเองก็ลาออกจากสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้วเพราะไอ้เด็กหน้าหมาของเขามันมาออดอ้อนออเซาะขอให้เขาย้ายไปอยู่กับมันที่อเมริกา ซึ่งมันก็ชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมจนเขาใจอ่อนยอมมาอยู่กับมัน แต่อยู่ด้วยกันได้ปีกว่าๆ ไอ้เด็กนั่นมันก็มีงานรัดตัวมากยิ่งขึ้นจนแทบจะกินนอนอยู่ที่ศูนย์นาซ่าอยู่แล้ว พวกเราจึงได้มาทำข้อตกลงร่วมกัน โดยมันเสนอว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีของเขาในตลอดช่วงที่เราไม่ได้เจอหน้ากัน ซึ่งมันหายหัวไปทีก็เป็นเดือนๆ มากสุดก็สองถึงสามเดือน ในตอนแรกเขาก็เอ่ยปฏิเสธไปเพราะไม่อยากทำเหมือนเกาะเด็กกิน แต่ไอ้เด็กนั่นมันกลับบอกว่า 'ไม่เป็นไรน่า ผมรวย พี่มาช่วยผมใช้เงินเล่นก็ได้ นะครับ' เท่านั้นแหละ ด้วยความหมั่นไส้เขาก็เลยแล้วแต่มันเลย
"แล้วสรุปตอนนี้พี่อยู่ไหนครับ หืม"
(ถามแบบนี้มึงจะมาหากูหรอ) คนตัวบางเอ่ยถาม (ตอนนี้กูอยู่ญี่ปุ่น ตามมาสิ)
"จริงดิ ไปกับใครครับ" เจคเอ่ยถามเสียงเข้มขึ้น เขาก็อยากไปเที่ยวกับร่างบางบ้าง ตอนนี้ไม่ว่าใครที่ได้อยู่กับพี่ศิของเขา เจคก็รู้สึกหึงหวงไปหมดนั่นแหละ มันเป็นอิจฉาตาร้อน
(มากับเพื่อนสมัยเรียน มันเห็นกูว่าง มันเลยชวนมาไหว้พระขอพร มันอยากมีลูก ได้ยินว่าวัดที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มันก็เลยชวนมา) ศิวกรณ์เอ่ยตอบตามความจริง ช่วงนี้เขารู้สึกว่างมาก ว่างเกินไป มีผัวก็เหมือนไม่มี ร่างบางหันมาทำงานเกี่ยวกับการเขียนบทความลงคอลัมน์นิตยสารให้กับ National Geographic ซึ่งมันทำออนไลน์ได้ ต่อให้อยู่ที่มุมไหนของโลก ร่างบางก็ยังสามารถทำงานได้แค่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง
"แล้วพี่ล่ะ อยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างไหมครับ" เจคเอ่ยถามอย่างไม่คิดอะไร
(ทำไม มึงอยากมีเหรอ อยากมีก็หาเมียเป็นผู้หญิงนะน้องนะ) จบแค่นั้นแล้วสายก็ตัดไปทันที
"พี่ศิ ทำไมเงียบไปล่ะ ฮันโหล....อ้าว....นี่เราพูดอะไรผิดไปรึเปล่าวะ" เจคเกาหัวงงๆ แล้วก็เก็บโทรศัพท์ไว้ในล็อกเกอร์ดังเดิมก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในศูนย์บัญชาการ
หลังจากที่หารือกันว่าควรทำอย่างไรกับดาวเทียมสื่อสาร ทุกคนลงความเห็นกันว่าต้องให้ใครสักคนออกไปยังนอกโลกตามคาด
"เจค ยูขึ้นไป" จู่ๆอีธานเอ่ยชื่อของเขาออกมากลางที่ประชุม
"โหย ผมไม่ไปหรอก" เจคเอ่ยปฏิเสธแทบจะทันที ก่อนจะโอดครวญออกมา "ผมไม่ใช่นักบินอวกาศนะ เรื่องแค่นี้ให้นักบินที่อยู่ใกล้ที่สุดไปเขี่ยออกให้ก็ได้ไหม"
แต่นักบินที่ใกล้ที่สุดตอนนี้อยู่ที่ฐานประจำการบนดวงจันทร์ กว่าพวกเค้าจะเดินทางไปถึงดาวเทียมเคซีออสก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ ส่งคนจากพื้นโลกยิงตรงขึ้นไป ใช้เวลาโดยเฉลี่ยแค่สามวัน" อีธานอธิบาย "และที่สำคัญปัญหามันติดอยู่ที่บัคของยู"
"ให้ตายเถอะอีธาน" เจคทำท่าเหมือนกำลังเจอวันสิ้นโลกอยู่ตรงหน้า
"ไอได้ยินว่ายูกำลังจะขอแฟนแต่งงาน" อีธานเอ่ยต่อรอง "ไอมีตั๋วบินเที่ยวรอบโลกอยู่สองใบ ถ้ายูยอมขึ้นไปทำภารกิจครั้งนี้ ไอจะยกมันให้ยูฟรีๆเลย"
เจคหูผึ่งทันทีเมื่อได้ฟังข้อเสนอที่น่าสนใจนั้น ตั๋วของทัวร์เที่ยวบินรอบโลกที่ว่าคือ การขึ้นยานบินออกไปยังจักรวาลแล้วบินอยู่เหนือโลกเป็นเวลาสองอาทิตย์ก่อนจะกลับลงมาบนผืนโลก ซึ่งราคาของตั๋วนั้นสูงลิ่วและเศรษฐีทั่วโลกต่างก็ต้องต่อแถวแย่งชิงมันมาทั้งนั้น จะขอพี่ศิแต่งงานทั้งที เจคต้องเล่นใหญ่ให้สุดทางสิ เขาจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ไปเลยว่าภรรยาในอนาคตของเขาน่าอิจฉาขนาดไหน
"โอเคตกลง" ไม่ต้องใช้เวลาคิดนานเขาก็ตอบรับภารกิจทันที
ก่อนขึ้นบินเจคต้องเตรียมตัวเพื่อปรับสภาพร่างกายให้พร้อมอยู่ในพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง สมาชิกทุกคนที่ทำงานในองค์การนาซ่าจะต้องเข้าร่วมการฝึกเหมือนกันกับนักบินอวกาศโดยไม่มีข้อยกเว้น เผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่ก็แค่ฝึกเพื่อเป็นควาามรู้��ท่านั้น ไม่ได้ฝึกจริงจังเหมือนนักบินอวกาศตัวจริง
ก่อนที่ร่างสูงจะออกบินหนึ่งวัน มีเวลาให้ไปร่ำลาครอบครัว ตั้งแต่ที่เจคคุยกับพี่ศิวันนั้น เขาก็ยังไม่ได้ติดต่อไปหาร่างบางอีก มือหนาจับเครื่องมือสื่อสารเครื่องบางขึ้นมาต่อสายหาคนที่เขาคิดถึงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าร่างบางยังงอนเขาอยู่รึเปล่า
(มีอะไร) เสียงหวานตอบรับหลังจากรับสาย
"พี่ศิตอนนี้อยู่ไหนครับ"
(อยู่ข้างนอก ว่าจะไปหาผัวใหม่แล้ว ถ้ามึงยังไม่โผล่หน้ามาให้กูเจอ) เจครู้สึกว่าเสียงของปลายสายคล้ายดังเข้ามาใกล้ราวกับว่าคนตัวบางอยู่แถวนี้อย่างนั้นแหละ (โอ๊ยไอ้หมาโง่ หันหลังมานี่ กูอยู่นี่)
"พี่ศิ!!!" ร่างหนาหันไปตามเสียงแล้วก็พบกับคนตัวบางผิวขาวที่ตอนนี้สีผมได้เปลี่ยนไปเป็นสีบลอนด์เงินเรียบร้อยแล้วอยู่ตรงโถงทางเดินกำลังทำสีหน้าบูดบึ้งเล็กน้อยใส่เขาอยู่ ไม่รอช้าเจ้าหมาตัวโตก็วิ่งเข้าไปหาแล้วโถมตัวกอดศิวกรณ์เอาไว้แน่น "คิดถึงมากกกก"
"แหงสิ ลองมึงไม่คิดถึงดูสิ กูฟาดหัวหลุดแน่" ศิวกรณ์ดึงหูของคนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะจูบที่ริมฝีปากหยักสักครู่แล้วกอดตอบกลับไปด้วยความคิดถึงเช่นกัน ร่างบางกลับมาถึงอเมริกาได้สองสามวันแล้วแต่แฟนเด็กของเขามันก็ยังคงหายจ๋อมไปกับกลีบเมฆ วันนี้เขาจึงตั้งใจมาลากคอมันกลับไปนอนบ้านบ้าง "เมื่อไหร่มึงจะได้หยุดกับเค้าบ้างเนี่ยห๊ะไอ้หมา ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ดูซิตาโบ๋ยิ่งกว่าผีอีก"
"เพิ่งได้หยุดวันนี้กับพรุ่งนี้ เดือนหน้าผมลาพักร้อนไว้แล้ว ถึงตอนนั้นพี่ศิไปเที่ยวกับผมนะ" แขนแกร่งโอบเอวบางพลางเดินไปยังลานจอดรถพร้อมกันด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข จมูกโด่งฉวยแก้มนุ่มนิ่มของคนข้างๆมาหอมแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เจคอดใจที่จะไม่ฟัดแก้มของพี่ศิไม่ได้เลย ทำไมถึงได้น่ารักมากขึ้นทุกวันแบบนี้นะ
"คนเยอะแยะ หัดอายชาวบ้านเค้าบ้าง" มือเรียวฟาดไปที่อกแกร่งด้วยความเขินอาย ถึงจะคบกันมานานขนาดนี้แล้วแต่ศิวกรณ์ก็ยังไม่ชินสักที อีกทั้งพวกเขาได้ไปเที่ยวด้วยกันอย่างมากเพียงปีละครั้งเองมั๊ง ร่างบางจึงค่อนข้างจะตื่นเต้นปนระแวงเมื่อแฟนเด็กเอ่ยชวน เพราะแต่ละทริปที่มันไปสรรหามาทำเอาเขาลืมไม่ลงเลยสักปี ยกตัวย่างเมื่อสามปีก่อน มันพาเขาไปปีนยอดเขาเอเวอเรสต์เพื่อจะเล่นสกี ยังดีตรงที่มันไปเค้า���ม่อนุญาตให้เล่น เกือบตายบอกเลย "เที่ยวที่ไหน"
"ไม่บอกหรอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรซ์" เจคยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วขึ้นไปขับรถให้คนตัวบา���นั่ง เขากำลังคิดอยู่ว่าจะบอกร่างบางยังไงเรื่องที่กำลังจะบินออกไปนอกอวกาศ "เอ้อนี่พี่ศิครับ"
"หื้ม?"
"ผม....จะต้องไปทำงานสำคัญ กลับมาผมมีเรื่องบางอย่างจะขอกับพี่ด้วย....ถึงตอนนั้นพี่ช่วยฟังผมให้จบด้วยนะ" เจคกัดริมฝีปากล่างอย่างประหม่า
"ละทำไมต้องรอขอตอนนั้น ขอตอนนี้เลยไม่ได้รึไง"
"ไม่เอา ผมถือฤกษ์ยามมงคล" ร่างสูงบ่ายเบี่ยง
"ไอ้เจค มึงเป็นคริสต์ มึงจะมาถือฤกษ์งามยามดีอะไร" แล้วเจคก็โดนอุ้งแมวไปอีกหนึ่งปาบเพราะความกวนตีน สุดท้ายเจคก็ไม่ได้บอกศิวกรณ์ไปว่าเขาออกมาทำภาระกิจที่นอกโลก
ร่างหนาในชุดอวกาศที่ตอนนี้ยืนท้าวเอวรออยู่หน้าจอควบคุม เมื่อยานที่เขาใช้โดยสารมาเทียบจอดใกล้กับดาวเทียมเป้าหมาย เขาจึงป้อนคำสั่งให้ดาวเทียมเข้ามาภายในยานก่อนจะออกไปสำรวจดูความเสียหาย สายตาคมไล่มองทุกจุดที่เขาคิดว่าอาจจะเกิดปัญหาแทรกซ้อนขึ้นได้ ใกล้กันนั้นก็มีโรบอทสแกนข้อมูลของยานดาวเทียมทั้งหมดเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วย เมื่อสแกนเสร็จมันก็ส่งสัญญาณเตือนให้นักบินเพียงหนึ่งเดียวหันไปมอง "อ่า ติดที่เสาอากาศจริงๆด้วย"
เจคหยิบไขควงเดินเข้าไปตรงจุดมาร์กที่โปรแกรมระบุไว้ สายตาคมหยุดลงตรงข้อต่อที่มีเศษหินอวกาศติดอยู่ตรงช่องว่างนั้นอย่างพอดิบพอดี "แหม ขนาดพอดีเป๊ะเลยนะไอ้หนู"
มือหนาสอดปลายไขควงเข้าไปช้าๆเพื่อที่จะแงะเอาเศษหินเจ้าปัญหานั้นออก ซึ่งมันติดอยู่แน่นพอสมควรเลย ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหินอวกาศนี่จะมีความแข็งขนาดนี้ เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะเอามันออกมาได้ เศษหินอวกาศที่เป็นผลึกแวววาวราวกับแร่คาร์บอนประเภทเพชรที่มีสีฟ้าอความารีน และมันส่องสว่างโดดเด่นมากขึ้นเมื่อต้องกับแสงสุริยะที่ลอดผ่านกระจกของยานอวกาศเข้ามาตกกระทบ "นี่คงเป็นสรรค์ลิขิต"
รอยยิ้มผุดพรายขึ้นที่ใบหน้าหล่อคมก่อนที่เจคจะเก็บเจ้าเศษหินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือนั่นเข้ากระเป๋า พร้อมรีเซ็ตระบบของดาวเทียมใหม่ทั้งหมดแล้วจึงส่งสัญญาณกลับไปยังพื้นโลก "นี่คือเคซีออส ผมคือเจค ซิม วิศวกรอวกาศนาซ่า ขอติดต่อศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน"
[นี่คือศูญบัญชาการภาคพื้นดินนาซ่า เราได้รับสัญญาณแล้ว ทุกอย่าง���ป็นปกติดี รีเซ็ทข้อมูลสำเร็จ คุณสามารถปล่อยดาวเทียมเข้าสู่วงโครจร เสร็จแล้วก็ตรงกลับมายังศูนย์ได้เลยครับคุณเจค ซิม]
"รับทราบครับ" สิ้นสุดคำสั่ง ร่างสูงก็ปล่อยเจ้าเด็กตัวน้อยกลับคืนสู่วงโครจร แล้วหันหัวยานกลับสู่พื้นโลกทันที
สี่สัปดาห์ต่อมา
มือเรียวรั้งแขนของแฟนหนุ่มเอาไว้ขณะยืนรอขึ้นยานบินของสเปซเอ็กซ์ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนประหม่า ตั้งแต่เกิดมาศิวกรณ์ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะออกไปนอกโลกเลยสักครั้ง แค่ท่องเที่ยวบนโลกให้ครบทุกที่ยังทำไม่ได้เลย "กูเปลี่ยนใจไม่ไปแล้วได้ไหมเจค"
"มีผมอยู่ทั้งคน พี่ไม่ต้องกลัวนะครับ" เจคกระชับตัวของคนร่างบางเข้ามากอดเอวไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
ทริปนี้มีมหาเศรษฐีและผู้นำประเทศโดยสารไปด้วยหลายคน หนึ่งในนั้นคือเพื่อนของเขาเอง เจย์รับหน้าที่เป็นหัวหน้าวิศวกรประเมินสภาพแวดล้อมของเที่ยวบิน ส่วนบลูพายแฟนของมันก็อยู่ในรายชื่อของผู้ช่วยกัปตันในครั้งนี้ด้วย ที่แท้ก็มาเฝ้าเมีย
"Hey! what's up bro!" เจย์เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาหาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน "กว่าจะเจอตัวยูได้แม่งโคตรยากเลยรู้ไหม สวัสดีครับมาดาม"
"อ่า...สวัสดี" ศิวกรณ์ยื่นมือไปจับกับคนที่มาใหม่อย่างงงๆ เขาเคยเจอกับหนุ่มผมบลอนด์คนนี้เมื่อตอนที่ย้ายมาอยู่อเมริกาแรกๆแค่ไม่กี่ครั้ง แล้วมันก็เรียกเขาว่ามาดามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม่งน่าจับมัดและเตะโด่งพอกันเลยกับเจ้าลูกหมาของเขา ตอนหลังเพราะทั้งศิวกรณ์และเจ้าหมาตัวโตข้างๆยุ่งๆกันทั้งคู่เลยไม่ได้เจอกันอีกเลย
"ขอให้สนุกกับทริปที่แสนพิเศษนี้นะครับ" เจย์กล่าวกับคนตัวบางแล้วหันไปขยิบตาส่งซิกกับเพื่อนชาวออสซี่ของตัวเองก่อนจะเดินไปเตรียมตัวขึ้นยานเช่นเดียวกัน
22,300 ไมล์จากพื้นโลก
ขณะนี้ยานโดยสารที่บรรทุกลูกเรือรวมทั้งหมด 15 ชีวิต กำลังลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ดวงตากลมโตของศิวกรณ์จ้องมองออกไปยังนอกบานกระจก ภาพตรงหน้าคือดาวเคราะห์สีฟ้าที่เหล่าสิ่งมีชีวิตจำนวนมากอาศัยอยู่ โลกที่กว้างใหญ่ขนาดนั้นในตอนนี้กลับดูเล็กลงไป เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยจริงๆว่าจะได้ออกมามองมันด้วยตาตัวเองจากข้างนอกโลกแบบนี้ คราแรกออกตัวยาน เขาทั้งเกร็งทั้ง���ื่นเต้นจนฉี่แทบราด แต่พอพ้นชั้นบรรยากาศโลกแล้วค่อยรู้สึกหายใจหายคอโล่งขึ้นมาหน่อย ตอนนี้ยานกำลังค่อยๆโครจรรอบโลก เรามีกำหนดอยู่บนนี้สองอาทิตย์ก่อนจะเคลื่อนยานกลับไปที่ๆจากมา เหล่าลูกเรือที่เป็นมหาเศรษฐีและผู้นำประเทศบางคนกำลังตื่นเต้นกับภาพบรรยากาศเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแฟนเด็กของเขาทำงานที่นาซ่าก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้มาเที่ยวในที่แบบนี้รึเปล่า
แรงสัมผัสบางเบาปัดผ่านแก้มนวลก่อนที่อ้อมแขนของใครบางคนจะโอบกอดเอวบางจากทางด้านหลัง คางมนเกยกับไหล่ของคนรักเงียบๆก่อนจะกระซิบถามที่ข้างหู "พี่ศิชอบไหมครับ"
"อื้ม มันสวยมาก อยู่ตรงนี้เห็นดาวชัดสุดๆเลย"
"สิ่งสวยงาม ทั้งชีวิตผมเคยเจอมามากมาย และมันไม่เคยเป็นของผมเลย" มือเรียวสวยเลื่อนมาจับมือของคนที่กำลังกอดเอวเขาไว้แล้วค่อยๆเอียงใบหน้าหวานไปซบคนด้านหลังและฟังสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดต่อ "แต่มันมีสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่งที่ผมอยากลองคว้ามาเป็นของตัวเองดู"
"......." ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยถามอะไรออกไป ทันใดนั้นเองไฟในตัวยานก็ค่อยๆหรี่ลงเหลือเพียงแสงสะท้อนจากดาวเคราะห์สีฟ้าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เท่านั้นที่ส่องเข้ามาในยาน
เรียวแขนแกร่งค่อยๆคลายออกจากเอวบางก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของศิวกรณ์ ดวงตากลมกระพริบมองอย่างไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังจะทำอะไร จนมือหนาเลื่อนมาจับมือเรียวเอาไว้ พร้อมทั้งสายตาคมที่จ้องมองมาอย่างสื่อความหมาย ในตอนนั้นภายในใจของศิวกรณ์สั่นไหวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
"ในชีวิตผมพบเจอสิ่งที่สวยงามมาแล้วมากมาย ทั้งข้างในและนอกโลก แต่พี่ศิคือสิ่งสวยงามที่สุดในชีวิตผมที่ผมอยากจะเก็บรักษาเอาไว้ตลอดไป" เข่าข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มค่อยๆย่อลงตรงหน้าของคนที่เขารักมากที่สุด น้ำตาเม็ดเล็กค่อยๆไหลลงอาบแก้มใสด้วยความรู้สึกที่หลากหลายภายในนั้น จนกระทั่งเจคล้วงเอากล่องคริสตัลสีใสที่บรรจุแหวนวงหนึ่งออกมาเปิดและยื่นไปตรงหน้า "ไม่ว่าพี่ศิต้องการอะไรผมพร้อมจะหามาให้พี่ได้ทุกอย่าง ถ้าพี่ศิต้องการดาวบนฟ้า ผมก็สามารถเอามาให้พี่ได้....พี่ศิแต่งงานกับเจคนะ"
มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดใบหน้าหวานที่เปื้อนน้ำตาเอาไว้ก่อนจะพยักหน��ารับรัวๆ "ไม่แต่งกับเจคแล้วพี่จะไปแต่งกับใครล่ะ"
เมื่อร่างบางตอบตกลง เจ้าหมาตัวโตก็ยิ้มร่าทันที แล้วจึงค่อยๆสวมแหวนฝังอัญมณีสีฟ้าที่ได้จากสะเก็ดดาวสักดวงที่เขาเคยเก็บออกมาจากดาวเทียมนั่นเองเ��้าไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของศิวกรณ์พร้อมทั้งรวบตัวคนตรงหน้ามากอดเอาไว้แน่น เสียงปรบมือแสดงความยินดีดังขึ้นโดยรอบ และในตอนนั้นเอง ยานโดยสารของพวกเขาเข้าขนาบกับโลกดวงอาทิตย์และดวงจันทร์พอดี หรือก็คือพวกเขาอยู่ตรงกลางของปรากฏการณ์จันทรุปราคาอย่างประจวบเหมาะเป็นที่สุดราวกับมีใครคำนวนมาแล้ว
โดยภาพเหตุการณ์การขอแต่งงานบนอวกาศและปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้นได้ถูกบันทึกภาพและถ่ายทอดสดสู่สายตาชาวโลกไปแล้วเรียบร้อยโดยเจย์เพื่อนรักของเจคที่พ่วงตำแหน่งวิศวกรการบินอวกาศของตัวยานลำนี้ด้วยนั่นเอง ป่านนี้คนคงรู้กันทั้งโลกแล้วว่าศิวกรณ์กำลังจะมีผัว
หลังจากกลับลงมาที่พื้นโลกได้ประมาณหนึ่งเดือน พิธีแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามคำขอของร่างบางในสเปซเซ็นเตอร์ของนาซ่า แต่คำว่าเรียบง่ายนั้นไม่มีอยู่จริงในพจนานุกรมของเจคซิม ชายหนุ่มจัดการเนรมิตงานแต่งของตัวเองด้วยคอนเซ็ปต์ทางช้างเผือกที่แสนยิ่งใหญ่ในเวลาอันสั้น นอกจากงานแต่งงานที่แสนอลังการที่ถูกพูดถึงจนติดฮ็อคเสิร์ชแล้ว สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือแหวนแต่งงานที่ทำมาจากสะเก็ดดาวจากอวกาศที่เจ้าบ่าวทำขึ้นมาให้มีเพียงสองวงบนโลกเท่านั้น ซึ่งมันไม่สามารถตีมูลค่าของมันได้เลย และศิวกรณ์ก็ได้กลายเป็นบุคคลหนึ่งที่น่าอิจฉาที่สุดไปแล้วเรียบร้อย
The End
3 notes
·
View notes
Photo
#ลาบไก่ #หิวมาก #ร้านอาหารติดอันดับความอร่อยในหลวงพระบาง #แนะนำ #หลวงพระบาง #ลาว (ที่ Bamboo VatSene Lao Authentic Restaurant) https://www.instagram.com/p/BrIFqyQg_fS/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=n3mi6om02o2o
0 notes
Photo
เด่วจะว่ามาไม่ถึง #หิวมาก #เดินตีนแตก (at Ichiran Ramen@Harajuku) https://www.instagram.com/p/Bpy3v-6l5cr/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=1eas8p28s03ji
0 notes
Photo
หาหมอเสร็จคุณย่าก็จะโหยๆแบบนี้ #รอติด #มื้อเย็น #หิวมาก (ที่ บะหมี่บ้านโป่งเจ๊แดง)
0 notes
Photo
This is not your first time here, me neither. #ไกลมาก #หลงมาก #หิวมาก #เหนื่อยมาก So Hight So Cold #ยิ่งสูงยิ่งหนาว Tag #Chris ผู้ไม่มี Social #9ho9hoyoung 0.0 (at วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม - วัดพระขาว อ.ปากช่อง)
0 notes
Photo
Australian Marble Pan Fried Steak #Homemade #Throwback #Steak #PanFried #อร่อยลืมอิ่ม #หิวมาก #กินเมื่อวานโพสต์ตอนนี้
1 note
·
View note
Photo
เปิดมาเห็นคนนี้กิน @air.apiradee ลงไปต้มมาม่ากินตามเลยจ้า #หิวมาก #ยังไม่อิ่มเลย 🤣🤣🤣
0 notes
Photo
ร้านที่ 9 Bun ga ก๋วยเตี๋ยวไก่ที่เส้นเป็นขนมจีน อร่อย กินบนฟานสิปัน หิวมาก!!! เดินลงจากยอดมาห้องอาหารเพื่อจะลงเคเบิลคาร์ไปข้างล่าง (at Phan Xi Păng) https://www.instagram.com/p/CkaMY3XPmQq/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
Photo
มื้อเช้าแสนอร่อย หิวมาก https://www.instagram.com/p/BnImhOkljeiL4KyqdbYgq5GIGNs9-IKScj39N40/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=125nzcev3253h
2 notes
·
View notes