อานิสงส์ของการทำบุญ
ไปอ่านเจอบทความสาระดีๆเลยนำมาฝาก หากใครสงสัยว่าต้องทำบุญแบบไหน ทำด้วยอะไร จะได้รับผลเช่นไร เชิญท่านอ่านดูเถิด
#ถวายกฐิน เป็นสุดยอดของทาน เป็นทานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานให้กับมนุษย์ เพราะบุญที่เกิดขึ้นจะปรากฏแก่ผู้ให้และผู้รับเป็นบุญที่หาที่สุดไม่ได้ เมื่อดับขันธ์แล้วจะไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สถิตอยู่ในวิมานแก้วสูง ๕ โยชน์ มีนางเทพอัปสรเป็นบริวารถึง ๑ หมื่นเป็นเทพที่ได้นุ่งผ้าทิพย์ ด้วยอานิสงส์แห่งการทำกฐินนี้เอง (วัดที่จะรับกฐินได้ ต้องมีพระจำพรรษาครบตั้งแต่ ๕ รูปขึ้นไปเท่านั้น)
#ถวายผ้าป่า อานิสงส์ทำให้มีความสุข มีความสมัครสมนาสามัคคี ชีวิตไม่ตกต่ำทั้งภพนี้และภพหน้า มีกินมีใช้อย่างอุดมสมบูรณ์ ทั้งหญิงและชายจะอุดมได้ด้วยโภคทรัพย์ด้วยเครื่องอลังการทั้งข้าวของเงินทอง และข้าทาสบริวารชายหญิงมิได้ขาด เมื่อดับขันธ์ไปแล้วจะเกิดในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
#ถวายองค์พระพุทธรูป อานิสงส์สร้างบารมี มีศักดิ์มีศรีเป็นที่รักและเคารพทั้งเทพและเทวดา ตลอดจนทั้ง ๓ โลก เมื่ออยู่ในโลกทิพย์จะมีรัศมีกายที่สว่างไสวเมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะมีรูปร่างอันงดงามอวัยวะครบถ้วนทั้ง ๓๒ ประการ ทำให้บุคคลผู้นั้นหลุดพ้นจากภยันตราย อันตรายต่างๆ เมื่อดับชีพแล้วจะไม่ไปสู่อบายภูมิ เมื่อยังชีพอยู่ย่อมจะเจริญก้าวหน้าและถึงสิ้นความสำเร็จทั้งปวง สามารถตั้งจิตอธิฐานเข้าสู่พุทธภูมิได้
#ถวายเครื่องบวชพระ (เป็นเจ้าภาพการบวช) ได้รับอานิสงส์อันหาขอบเขตมิได้ บุญกุศลจะถึงบิดา-มารดา บรรพบุรุษ เคราะห์หามยามร้ายจะหมดไป ย่อมได้รับอานิสงส์อันไพศาลทั้งภพนี้และภพหน้า ตราบเข้าสู่พระนิพพาน
#ถวายปัจจัยภิกษุอาพาธ อานิสงส์จะทำให้สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดี ทั้งภพนี้และภพต่อๆ ไป
#ถวายข้าวสาร อานิสงส์จะทำให้มีกินมีใช้ไม่ขาดแคลนในทุกๆ ภพ ทุกๆ ชาติ
#ถวายคำสาธารณูปโภคในวัด (ค่าน้ำ-ค่าไฟ) ทำให้เกิดแสงสว่างสำเร็จซึ่งทิพยจักษุในชีวิตสว่างไสวและร่มเย็นเป็นสุข มีกินมีใช้อุดมสมบูรณ์ทุกๆ ประการ
#ถวายสังฆทาน อานิสงส์ไม่มีโอกาสได้พบสิ่งที่ลำบากยากแค้น มีแต่ความสุขสมบูรณ์ทั้งภพนี้ และภพหน้า แม้ไปเกิดในภพไหนก็มีแต่ความสุขความเจริญ บริบูรณ์ไปด้วยลาภยศ โภคทรัพย์ พ้นทุกข์ทั้งปวงเสวยสุขสมบัติทั้ง ๓ ประการ อย่างเพียบพร้อม คือ มนุษย์สมบัติสวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ เมื่อสิ้นอายุจะเกิดเป็นเทพบุตรเทพธิดา สถิตอยู่ในวิมานทองบนสวรรค์ แม้บุคคลนั้นเข้าสู่นิพพานและอานิสงส์ยังไม่หมดสิ้น
#ถวายสร้างหลังคาวิหาร อานิสงส์จะมีความสุข ความเจริญที่สมบูรณ์ทั้งภพนี้และภพหน้ามีผู้คอยปกป้องดูแลรักษา คอยช่วยเหลือคุ้มครองเมื่อมีภัยมาคุกคามเมื่อสิ้นอายุขัยจะปรากฏในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อุดมด้วยวิมานแก้ว วิมานทอง พร้อมบริวาร
#ถวายธรรมมะ (หนังสือสวดมนต์) จะเป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม สามารถรู้และเข้าใจในสิ่งต่างๆ ได้ดีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ชีวิตไม่ตกต่ำ สามารถเข้าสู่ปกระแสนิพพานได้เร็ว
#สร้างเวจกุฎี (สร้างส้วม) ให้วัด อานิสงส์จะไม่มีความทุกข์โศกโรคภัยเลย เพราะสร้างที่ปลดทุกข์ให้กับมนุษย์ จะมีความสุขความสบายทั้งภพนี้และภพต่อๆ ไป
#ซื้อที่ดินถวายวัด อานิสงส์ผลบุญนี้ จะทำให้มีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาลอีกทั้งมีทรัพย์และบริวาร เมื่อดับขันธ์ไปแล้วจะมีวิมานที่กว้างใหญ่ไพศาลพร้อมด้วยบริวาร มีความสุข ความเจริญทุกๆ ภพ ทุกๆ ชาติ จนถึงพระนิพพาน
#ถวายทุนการศึกษาพระปริยัติธรรม อานิสงส์สามารถเรียนรู้เข้าใจทั้งทางโลกและทางธรรมได้ง่ายศึกษาพระไตรปิฎกสำเร็จโดยเร็ว สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย
#ถวายกองเพล (บูชา) จะมีชื่อเสียง มีเกียรติภูมิทั่วทั้ง ๓ โลก เป็นที่เคารพรักทั้งพรหมโลก เทวโลก มนุษย์โลก ถ้าไปเกิดบนสวรรค์ก็จะได้เสวยทิพยสมบัติ เสยสุขชั่วกาลนาน
#ถวายระฆัง จะมีเสียงดังกังวาน ไพเราะสดใส มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วทั้ง ๓ โลก
#ถวายพระไตรปิฎก ทำไห้เป็นผู้มีปัญญาเลิศล้ำ สามารถที่จะมองเห็นภพภูมิตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ มีอานิสงส์ที่จะประมาณได้ หากได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็จะได้เป็นพระราชาที่ยิ่งใหญ่สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว ดวงแก้ว จักรแก้ว และชั้นดุสิต บริบูรณ์ด้วยวิมานปราสาทแก้ว ถึง ๘๔,๐๐๐ ปรางค์ นับว่าเป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่สุดประมาณ
#สร้างพระอุโบสถ เป็นอานิสงส์ยิ่งใหญ่ไพศาล เมื่อยังชีพอยู่ก็เจริญด้วยอายุวรรณะ สุขะ พละ มีผู้คนชื่นชมยกย่องอุดมไปด้วยเกียรติลาภยศ เต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญเสมอไปทุกที่ เมื่อสิ้นชีพดับขันธ์แล้วจะเสวยสุขอยู่ในสรวงสวรรค์อันเป็นบรมสุข
#สร้างกุฏิ เป็นการส่งเสริมบำรุงพระพุทธศาสนาเพราะเป็นการสร้างที่พำนักอาศัยของพระภิกษุสามเณร จะเป็นบารมีอันยิ่งใหญ่เมื่อเป็นมนุษย์เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วจะเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สถิตอยู่ในวิมานอันงดงามด้วยแก้ว ๗ ประการ แวดล้อมด้วยนางฟ้า นางเทพอัปสรเป็นบริวารเสวยสุขย่างเกษมสำราญ ชั่วกาลนาน
#สร้างศาลา สำหรับเป็นที่ปฏิบัติธรรมและที่พักสำหรับพระภิกษุสงฆ์และกำบังแดดฝนให้คนทั้งหลายที่สัญจรไปมา ย่อมให้เกิดอานิสงส์ทั้งภพนี้และภพหน้า ย่อมอุดมไปด้วยบุญกุศล ถึงซึ่งความสำเร็จที่ปรารถนา
#สร้างเจดีย์ (บูรณะเจดีย์) จะเป็นกุศลจริยาอันประเสริฐ ก่อเกิดประโยชน์สุขแก่ชีวิตคนอย่างมหาศาล เพราะเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ให้คนทั่วไปได้สักการบูชาอานิสงส์ผลบุญนี้ ย่อมประสบความสุขความเจริญบริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ และลาภยศ สรรเสริญ ทั้งภพนี้และภพหน้า
#บูรณปฏิสังขรณ์ ถือเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนา ศาสนสถานถือเป็นอานิสงส์ผลบุญอันยิ่งใหญ่ นำความสุขความเจริญทั้งภพนี้ภพหน้า จนเข้าสู่พระนิพพาน
#ไถ่ชีวิตโค กระบือ อานิสงส์มีอายุที่ยืนยาวปราศจากสรรพทุกข์สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เรื่องคับแค้นใจจะคลายและหายไปเป็นที่เคารพเมตตาทั้ง ๓ โลก (เพราะโค กระบือ เป็นสัตว์ใหญ่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เช่นเดียวกับมนุษย์ อยู่ติดใกล้ชิดกับมนุษย์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างแม่ลูก เหมือนดั่งมนุษย์) เรื่องทุกข์โศกหมดไป
#ปล่อยนก อานิสงส์จะมีอิสรภาพในชีวิตไม่ต���องถูกจองจำ สามารถเดินทางโดยสวัสดิภาพ คดีความจะหลุดรอดพ้นภัย
#ปล่อยปลา อานิสงส์ให้ชีวิตพ้นจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง มีชีวิตยืนยาว (อานิสงส์ในการไถ่ชีวิตโค-กระบือ ปล่อยนก ปล่อยปลานี้ เป็นการให้ชีวิตทั้ง ๓ ทาง คือ สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก (อากาศ) ถือว่าเป็นการทำครบสูตรทุกประการ คือเป็นการสะเดาะเคราะห์อันยิ่งใหญ่)
#ถวายโลงศพ อานิสงส์ดับทุกข์โศกโรคภัย สิ่งอัปมงคลต่างๆ มลายไป มีอายุที่ยืนยาว รอดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
#ปัจจัยให้ผู้ป่วยอนาถา อานิสงส์จะมีสุขภาพดี แข็งแรงทั้งภพนี้และภพต่อๆไป มีผิวพรรณวรรณะสดใส ทั้งกาย-ใจ อุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน
#ให้ทุนการศึกษา นักเรียนนักศึกษา อานิสงส์ทำให้เป็นผู้รู้ เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมไม่ตกต่ำในทุกๆ ภพ ทุกๆ ชาติ อานิสงส์ถึงลูกหลานวงศ์ตระกูล
#มูลนิธิผู้พิการตาบอด อานิสงส์ทำให้มีดวงตาที่แจ่มใส สามารถมองเห็นสัจธรรมได้ทิพยญาณ (จักษุ) มีความสุขทุกภพทุกชาติเข้าสู่กระแสนิพพานได้ง่าย
#มูลนิธิผู้พิการหูหนวก อานิสงส์ทำให้ได้ทิพยโสต (หูทิพย์) ล่วงรู้ถึงจิตใจคน สามารถสำเร็จญาณเข้าสู่กระแสพระนิพพานได้ง่าย
#บริจาคโครงการสาธารณภัย แจกทานผ้าห่ม อานิสงส์จะมีแต่ความสุขสมบูรณ์ มีแต่ความอบอุ่น ไม่ขาดแคลนในทุกภพชาติ บุญกุศลถึงบุตรหลานบริวาร
#แจกยาสามัญประจำบ้าน สุขภาพจะสมบูรณ์แข็งแรง ไม่รู้จักเจ็บป่วยทุกภพทุกชาติ
#แจกเสื้อผ้า อานิสงส์จะมีเครื่องแต่งกายที่เป็นทิพย์มีความสวยสดงดงามมีรัศมีกาย
อานิสงส์ของการทำบุญขอนำเรื่องที่ท่านหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ศิษย์เอกของหลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโค ท่านเล่าไว้นานแล้ว แต่ยังน่าฟังและใช้ได้ตลอดกาล จึงกราบเรียนขออนุญาตท่านไว้ ณ ที่นี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นธรรมทาน เรื่องมีอยู่ว่า
“..เรื่องพระสารีบุตร จากพระไตรปิฎกเล่ม ๒๖ หน้า ๑๖๑ เมื่อพระสารีบุตรท่านเจริญพระกรรมฐานเป็นที่สบายอารมณ์แล้ว ท่านไปแดนเปรตพบหญิงเปรตคนหนึ่งผอมมีแต่ซี่โครง เปลือยกายมีเส้นเอ็นสะพรั่ง ท่านจึงถามว่า
“เธอเป็นใคร”
การถามแบบนี้แสดงว่าท่านทราบว่าเปรตนั้นเป็นใคร แต่ระเบียบของพระรู้แล้วต้องทำเป็นไม่รู้ ระเบียบนี้พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นปกติ
เปรตตอบว่า
“เมื่อก่อนในชาติที่ผ่านมาแล้ว ๑๐๐ ชาติ ฉันเป็นมารดาของท่าน เวลานี้ฉันหิวมาก มีความกระหายในอาหาร เมื่อความหิวเกิดขึ้นก็กินน้ำลาย เสมหะ นํ้ามูก ที่เขาถ่มทิ้ง กินไขมันเหลวจากซากศพที่เขาเผา กินโลหิตของหญิงทั้งหลายที่คลอดบุตร เป็นต้น
ลูกเอ๋ย ลูกจงให้ทานอุทิศส่วนกุศลให้แม่บ้าง แม่จะได้เลิกหิวเสียที”
พระสารีบุตรท่านตั้งใจจะช่วยมารดา เมื่อท่านรับรองว่าจะช่วยแล้วท่านก็มาปรึกษากับพระโมคคัลลานะ พระอนุรุทธ พระกับปินะ หรือที่ชาวบ้านหรือพระนักเทศน์เรียกว่า “พระกบิน” ท่านทั้งหมดช่วยกันสร้างกุฏิ ๔ หลังใน ๔ ทิศ (สร้างกุฏิเพิงหมาแหงน)
และถวายข้าวหยิบมือหนึ่ง กับข้าวหยิบมือหนึ่ง ใส่ใบไม้ และนํ้าหนึ่งฝาบาตร ผ้ากว้างคืบ ยาวคืบ หนึ่งผืน ถวายพระสงฆ์เป็นสังฆทานและวิหารทาน แล้วร่วมกันอุทิศส่วนกุศลให้มารดาพระสารีบุตร (มารดาคนนี้เคยเป็นมารดาพระสารีบุตรเมื่อ ๑๐๐ ชาติที่แล้วมา ไม่ใช่มารดาในชาติปัจจุบันของท่านซึ่งก่อนตายท่านเป็นพระโสดาบัน)
เมื่ออุทิศส่วนกุศลให้แล้ว อานิสงส์บังเกิดดังนี้
ถวายข้าวและนํ้า ทำให้เธอได้ร่างกายที่เป็นทิพย์
ถวายผ้าคืบยาวคืบ เป็นเหตุให้เธอได้เครื่องประดับที่เป็นทิพย์
ถวายกุฏิเพิงหมาแหงน เป็นเหตุให้เธอได้วิมานที่สวยงามมาก
ถวายนํ้า ๑ ฝาบาตร เป็นเหตุให้เธอได้สระโบกขรณี
เมื่อยามราตรีเธอก็ปรากฏกายพร้อมทั้งวิมานและสระโบกขรณีให้พระโมคคัลลานะเห็น
ท่านก็ถามว่า “เป็นใคร”
เธอตอบว่า
“ฉันคือมารดาพระสารีบุตรที่เป็นเปรต ที่พระสารีบุตรถวายสังฆทานและพระคุณเจ้าช่วยกันสร้างกุฏิถวายสงฆ์แล้วอุทิศส่วนกุศลให้”
แสดงว่าคนฉลาดรู้จักทำบุญไม่ต้องสิ้นเปลืองมาก ก็ได้รับอานิสงส์สูง เมื่อให้เขา เขาได้รับ เราผู้ทำก็มีผลเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อให้ใครก็ตามผู้รับก็มีผลไม่บกพร่อง..”
โปรดอย่าลืมว่า การทำบุญที่ได้บุญมากนั้น “เจตนา” นั้นสำคัญมาก เป็นแรงส่งชั้นดี การทำบุญด้วยวัตถุอันเลิศ ให้กับบุคคลอันเลิศ ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองใดๆ ทำไปด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่มั่นคง ประกอบด้วยศรัทธาอันดี ถึงพร้อมด้วยปิติเบิกบานใจ
ผลบุญที่ได้ย่อมไพบูลย์ฉันนั้น
0 notes
คนไทยเล่นเน็ตนานสุดในโลก
คนไทยเล่นเน็ตนานสุดในโลก / โดย ลงทุนแมน
อินเทอร์เน็ตมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศพัฒนาแล้ว
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส
และ อินเทอร์เน็ตเพิ่งเข้ามาในประเทศไทยเพียงกว่า 20 ปี
แต่ในวันนี้คนไทยได้แซงหน้าคนทั่วโลก
ในเรื่องการใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตไปเรียบร้อยแล้ว
คนไทยเล่นเน็ตนานสุดในโลก..
เรื่องนี้เป็นยังไง ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นจะเล่าให้ฟังถึงภาพรวมของโลกว่า คนทั้งโลกใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขนาดไหน
ปัจจุบันโลกเรามีประชากร 7.6 พันล้านคน มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประมาณ 4 พันล้านคน มากกว่าครึ่งของประชากรในโลก
มนุษย์ใช้เวลาในโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อวัน
แสดงว่า ถ้ารวมเวลาใช้งานบนอินเทอร์เน็ตของทุกคนบนโลกใบนี้จะเท่ากับ 24,000 ล้านชั่วโมงต่อวัน
พัฒนาการและการเติบโตของอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อหลายธุรกิจ
บางธุรกิจถูกลบหายไป ในขณะที่บางธุรกิจรุ่งเรืองขึ้นมา
หนึ่งในตัวอย่างธุรกิจที่ได้ประโยชน์ คงจะหนีไม่พ้นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
ปี 2007 ไอโฟน ของแอปเปิ้ลมียอดขาย 1.4 ล้านเครื่อง
ปี 2017 ไอโฟน ของแอปเปิ้ลมียอดขาย 217 ล้านเครื่อง
ในช่วงปี 2007 – 2017 แอปเปิ้ลมียอดขายไอโฟนรวมกันทั่วโลกกว่า 1,250 ล้านเครื่อง
และได้กลายมาเป็นรายได้หลักของบริษัทในปัจจุบัน
รายได้ของแอปเปิ้ลเพิ่มขึ้นจาก 800,000 ล้านบาท เป็น 7,328,000 ล้านบาท
ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นจาก 11,200 ล้านบาท เป็น 1,536,000 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียมากถึง 3.2 พันล้านคน โดยโซเชียลมีเดียที่คนทั่วโลกนิยมใช้ 3 ลำดับแรกคือ
Facebook มีจำนวนผู้ใช้ 2,167 ล้านบัญชี
YouTube มีจำนวนผู้ใช้ 1,500 ล้านบัญชี
WhatsApp มีจำนวนผู้ใช้ 1,300 ล้านบัญชี
แล้วโลกอินเทอร์เน็ตสำหรับประเทศไทยตอนนี้เป็นยังไง?
อินเทอร์เน็ตเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในปี 2539
ประเทศไทยมีประชากร 69 ล้านคน และมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 57 ล้านคน (82% ของประชากรทั้งหมด)
โดยที่คนไทยใช้เฟซบุ๊คกว่า 51 ล้านบัญชี
คนไทยใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน.. ซึ่งมากที่สุดในโลก
และถ้านับผ่านเฉพาะมือถือ คนไทยใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 4 ชั่วโมง 56 นาทีต่อวัน.. ซึ่งก็มากที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน
มีอะไรที่คนไทยยังเป็นอันดับหนึ่งอีก
คำตอบคือประเทศไทยมีเมืองที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊คมากที่สุดในโลก
เมืองนั้นคือ กรุงเทพมหานคร
นิวยอร์ค โตเกียว ลอนดอน ที่เรียกว่ามีคนเยอะแล้ว ก็ยังต้องชิดซ้าย เพราะตัวเลขออกมาบอกว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊คมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 22 ล้านบัญชี
ก็ไม่รู้ว่ามีคนอาศัยอยู่กรุงเทพจำนวนมาก หรือ กรุงเทพเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาก หรือ คนกรุงเทพชอบเปิดบัญชีเฟสบุ๊คหลายบัญชีมากกว่าเมืองอื่นของโลก
แต่ผลลัพธ์ออกมาก็คือเราไม่น้อยหน้าใครในโลกนี้ในเรื่องอินเทอร์เน็ต และ เฟซบุ๊ค
มนุษย์โลก และ มนุษย์กรุงเทพ น่าจะคุ้นเคยกับอินเทอร์เน็ตมาไม่เกิน 20 ปีนี้ แต่มันแทบจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราหลายๆ อย่างจากหน้ามือเป็นหลังมือ
สัก 10 ปีก่อน เราจะซื้ออะไร ต้องออกไปซื้อข้างนอกที่หน้าร้าน แต่วันนี้คนจำนวนมากเลือกที่จะซื้อของออนไลน์
สัก 10 ปีก่อน เราจะทำธุรกรรมการเงิน ก็ต้องไปธนาคาร แต่วันนี้คนจำนวนมากเลือกที่จะใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ
สัก 10 ปีก่อน ใครจะเชื่อว่าบริษัทอย่างเฟซบุ๊คและกูเกิ้ลจะมีรายได้จากโฆษณามหาศาล และไม่ใช่เพราะพนักงานขายโฆษณาของบริษัท แต่เพราะให้ลูกค้าทำเอง
สัก 10 ปีก่อน ใครจะคิดว่าประเทศไทยที่ยังมีภาพลักษณ์ขี่ช้างไปโรงเรียนในสายตาของต่างชาติ มาวันนี้คนไทยจะเล่นอินเทอร์เน็ตนานที่สุดในโลก และกรุงเทพเป็นเมืองที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊คมากที่สุดในโลก
โลกของตอนนี้เปลี่ยนไปมากจาก 10 ปีที่แล้ว
และประเทศไทยตอนนี้ก็เปลี่ยนไปมากจาก 10 ปีที่แล้วเช่นกัน
ถ้า 10 ปีที่แล้ว มีรถมาจอดขวางหน้าบ้าน และคนในบ้านเอาขวานมาทุบรถ ข่าวนี้จะไปไม่ถึงทุกคนได้ในชั่วข้ามคืน แต่ตอนนี้คนทั้งประเทศหลายสิบล้านคนรู้ข่าวนี้ภายใน 1 คืน
ขนาด 10 ปีที่ผ่านมาเรายังเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ก็ไม่รู้ว่าอนาคตโลกจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดไหน
แต่สิ่งนี้น่าจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น..
ทั้งโลกนี้ และ คนไทย จะเล่นอินเทอร์เน็ตนานขึ้นกว่านี้อีกใน 10 ปีข้างหน้า นานจนเราอาจจะแยกไม่ออกว่าเราจะใช้ชีวิตโดยไม่มีอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร..
0 notes