#จงอิน
Explore tagged Tumblr posts
Photo
แต่พอฮยองชานยอลพูดทำไมทำหน้าจะร้องไห้ล่ะ #จงอิน #KAI #EXO
0 notes
Text
[FIC] เธอ ฉัน เขา ตอนที่ 1 (Kai x Taemin x Jongin)
[FIC] เธอ ฉัน เขา ตอนที่ 1 (Kai x Taemin x Jongin)
ร่างสูงโปร่งบอบบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนฟากหนึ่งของเตียงกว้าง ใบหน้าครึ่งซีกจมหายกับหมอนนุ่ม ดวงตากลมโตสดใสถูกปกปิดด้วยเปลือกตาที่ติดจะแดงช้ำ คงเพราะเมื่อคืน.. ชายหนุ่มผู้เฝ้ามองถอนหายใจ สงสาร.. แต่ไม่ใจอ่อน !! หมอนั่นได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ยกเว้นแค่คน �� นี้เท่านั้น.. ที่หมอนั่นจะไม่มีวันได้ไป! . . . . . . . . . . . . . . .
"จงอิน!!" เสียงที่แผดเรียกดังลั่นมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะเปิดประตูบ้านเข้าไปเสียอีก
"เสียงดัง!" คิมจงอินบ่นใส่เพื่อนหน้าหวานที่ยืนอึ้งใบ้รับประทานอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน
"อ้าว! ยืนเซ่ออยู่ได้.. ปิดประตูเซ๊~ นายจะเปิดทิ้งไว้ให้แมลงมันบินเข้ามาในบ้านฉันหรือยังไง"
อีแทมินแบะปากคว่ำกับคำกล่าวหาของอีกฝ่าย เขาปิดประตูแล้วเดินเข้าไปหาหลังจากตั้งสติได้ จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร ก็ในขณะนี้ที่ห้องนั่งเล่นของคิมจงอินเพื่อนสนิทข้างบ้านมีคิมจงอินนั่งอยู่สองคน
เขาไม่ได้เมานมกล้วยนะ! ไม่ตาฝาดแน่นอน!
"นะ.. นี่..ไค? ไคสินะ!"
"ก็ต้องไคอยู่แล้ว เหมือนฉันซะขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ไคแล้วจะเป็นใคร" จงอินว่า
"หน๊อย.. คิมจงอิน ก่อนจะพูดว่าไคเหมือนนาย นายปรึกษาห่วงยางรอบเอวนายก่อนหรือยังห้ะเจ้าหมีบื้อ" แทมินสวนกลับอย่างไม่ยอมกัน
บุคคลที่สามที่นั่งอยู่ได้แต่มองดูอย่างนิ่งเงียบ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเพราะแปลกใจที่ร่างบางตัวขาวหอมกรุ่นทรุดกายลงนั่งข้าง ๆ
"ไคกลับมาเมื่อไหร่ นานหรือยัง นานไหม..นายจะอยู่เกาหลีนานไหม?" แทมินรัวคำถามใส่ก่อนที่ใบหน้าหวานจะเผือดสลดลงไปเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองเขานิ่ง ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ "นายคงจำฉันไม่ได้แล้วละซิ อา..นั่นสินะ! ตั้งยี่สิบกว่าปีแล้วนี่เนอะ!"
"เพิ่งมาถึงเมื่อคืน" คำตอบที่ได้รับเรียกประกายตาสดใสกลับมา ก่อนที่ร่างบางจะส่งยิ้มกว้างเมื่อมือหนาของอีกฝ่ายเอื้อมมาลูบผมเขาเบา ๆ "แทมินน่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ"
"นิสัยดีเหมือนเดิมและหล่อขึ้นมากด้วย" คนได้รับคำชมโอ่ซ้ำ
"กวนโอ๊ยขนาดนี้เรียกนิสัยดีตรงไหน" คิมจงอินกล่าวแทรก
"ก็นายชอบแกล้งฉันก่อน" แทมินว่าก่อนจะหันไปโอดครวญให้อีกคนฟัง "พอไคไม่อยู่หมอนี้ก็เอาแต่แกล้งฉัน ไคอ่า.. มาก็ดีแล้ว ไคต้องเอาคืนให้ฉันนะ"
ไคลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา “ได้สิ! ฉันจะเอาคืน!” เสียงทุ้มรับคำอย่างหนักแน่น
"เฮ้ย ๆ เจอกันไม่ทันไรก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขล��่ย พวกนายจะรุมฉันหรือไง" คิมจงอินโวยพร้อมทำท่าสะดีดสะด��้ง
"แหยะ!!" น้ำเสียงหมั่นไส้ถูกเปล่งออกจากริมฝีปากอิ่มของแทมินพร้อมกลับกล่องกระดาษทิชชูที่ลอยตามมา
จงอินเอี้ยวตัวหลบอย่างไม่ยี่หระ “ว่าแต่นายมาทำไมแต่เช้าเนี้ย”
"จริงสิลืมเลย! คุณแม่ให้มาชวนทานข้าว เพราะจงอินแท้ ๆ มัวแต่ไร้สาระ ป่านนี้แม่บ่นแย่แล้ว" แทมินลุกขึ้นพลางดึงแขนไคให้ลุกตาม "ไคอ่า ไปกินข้าวกันนะ นายอยู่อเมริกาตั้งนานคงคิดถึงอาหารเกาหลีมากแน่ ๆ"
จงอินมองตามร่างบางที่เดินควงแขนผู้มาใหม่ผ่านหน้าออกไป เมินมองไม่ยอมเอ่ยเรียกเขา ก่อนที่ชายหนุ่มยืนยิ้มหัวเราะพรืด เมื่อแทมินหันมาแหวใส่ “เจ้าหมีบื้อ ตามมาเร็ว ๆ เซ๊~” . . . . . “ดูสิ ๆ รูปนี้พวกนายตลกมากเลย ฉันอัดขยายใส่กรอบใหญ่แขวนผนังห้องเลยนะ เอาไว้ดูเวลาเครียด ๆ ตลกจนหัวเราะไม่หยุดเลยล่ะ”
คิมไคยิ้มบาง ๆ กับท่าทีกระตือรือร้นของแทมิน ร่างบอบบางที่นั่งเคียงข้างเอี้ยวตัวยื่นอัลบั้มภาพสมัยเด็กให้ดูจนร่างแทบจะเกยตักเขาอยู่รอมร่อ ชายหนุ่มก้มดูอย่างเอาใจ
ในภาพสีจางเป็นเด็กชายสองคนที่เหมือนกันราวกับส่องกระจก คิมไคแฝดผู้พี่ คิมจงอินแฝดผู้น้อง ทั้งคู่สวมชุดต้นไม้เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่คนนึงมีใบหน้าบูดบึ้ง ส่วนอีกคนดูปลาบปลื้มดีอกดีใจเสียจนออกนอกหน้า
ไคจำได้มันคือวันที่โรงเรียนประถมของพวกเขาจัดงานประจำปี เด็กที่ต้องแสดงละครเวทีเป็นต้นไม้เ���ิดป่วยกระทันหัน คุณครูจึงให้สองพี่น้องขึ้นแสดงแทน จงอินดีใจมากเพราะจะได้แสดงละครกับแทมิน ที่รับบทเด่นเป็นปีเตอร์แพน ส่วนเขาคงไม่มีคำพูดใดบรรยายความรู้สึกได้ เพราะสีหน้าหงิกงอในภาพบ่งบอกได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
ไคไม่ชอบความวุ่นวายไม่ชอบคนเยอะ ๆ แต่ไหนแต่ไรเขามักหงุดหงิดเสมอเมื่อมีคนอื่นมายุ่มย่ามทำตัวน่ารำคาญ ชายหนุ่มมักหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรืองานสังสรรค์ เพราะไม่อยากพบเจอคนประเภทนี้ แต่ทุกสิ่งย่อมต้องมีข้อยกเว้น.. คนเดียวที่ไคยอมให้ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเขาได้ คนเดียวที่ไคยอมทำตามคำพูดเสมอ คนเดียวที่ไคไม่เคยขัดใจอะไรเลย.. อีแทมิน
วัยเด็กของพวกเขาทั้งสามคือภาพฝันวันวานที่แสนสวยงาม ฝ��แฝดมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับแทมิน เวลาไปไหนมาไหนผู้คนมักเอ่ยทักเสมอว่าพวกเขาเป็นแฝดสาม แทมินที่ร่าเริงสดใส จงอินที่ขี้แกล้งชอบเย้าแหย่ ไคที่สุขุมเงียบขรึม
จวบจนวันที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางบ้าน บิดามารดานองฝาแฝดทะเลาะผิดใจกันอย่างรุนแรง นำมาซึ่งการหย่าร้าง ฝาแฝดถูกแยกเอาไปดูแล จงอินอยู่กับมารดาที่เกาหลี ไคติดตามบิดาไปตั้งรกรากใหม่ที่อเมริกา ต่อมาไม่นานมารดาของทั้งคู่ก็เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่อีกครั้ง บิดาเลี้ยงก็รักใคร่เอ็นดูจงอินเป็นอย่างดี ฝาแฝดติดต่อส่งข่าวคราวกันอย่างสม่ำเสมอ สายสัมพันธ์ไม่ได้ห่างเหินตามระยะทางเลยแม้แต่น้อย
"ไคอ่า~ นายจะไม่พักที่บ้านจงอินจริง ๆ เหรอ จะอยู่ที่นี่ให้เปลืองเงินทำไม อีกอย่าง..นายไม่ได้เจอคุณแม่มาตั้งนาน นะ.. น่าจะอยู่ให้ท่านหายคิดถึง" คำพูดที่ท้าย ๆ เริ่มตะกุกตะกัก ก่อนจะกล่าวต่่ออย่างประหม่า “คุณน้าฮโยจู บ่นคิดถึงนายมาตลอดเลยนะ”
"ฉันรู้ว่านายเป็นห่วง แต่มันไม่สะดวกจริง ๆ ถ้าวันไหนฉันเลิกงานดึก หรือต้องเลี้ยงรับรองลูกค้าจนดึกดื่นคงรบกวนแย่"
"ตะ.. แต่ว่าคุณน้าคงไม่คิดว่ารบกวน คุณน้าฮียอลก็ใจดี" แทมินเอ่ยถึงพ่อเลี้ยงของชายหนุ่มสามีใหม่ของแม่
"ไม่ล่ะ!! ฉันไม่สะดวกจริง ๆ" ไคยืนยันหนักแน่นก่อนจะเอื้อมมือไปโยกศีรษะกลมทุยเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป
"ขอโทษที่เซ้าซี้นะ"
"ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย"
อีแทมินส่งยิ้มหวาน “ไคไม่เปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นะ เมื่อก่อนก็แบบนี้ยอมอ่อนข้อให้ฉันตลอดเลย เวลาฉันทะเลาะกับจงอินทีไร..ไคก็เข้าข้างฉันทุกที”
"แล้วไม่ดีหรือไง"
"ดีสิดี!! เอ.. จะว่าไปก็แปลกใจจัง เราคุยกันเหมือนไม่ใช่คนที่ไม่เคยเจอกันตั้งยี่สิบกว่าปีเลยเนอะ"
อีแทมินในวัยต้นสามสิบยังดูเหมือนเด็กหนุ่มวัยแรกรุ่นที่สดใสและร่าเริง ต่างกับไคที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมายในต่างประเทศ
"แล้วนายมาอยู่ที่นี่ทั้งวันไม่เป็นไรหรือ"
"ส่งต้นฉบับแล้ว" นักเขียนอิสระก็ดีแบบนี้แหละ "อยากรำลึกความหลังกับเพื่อนเก่าซะหน่อย นายเบื่อแล้วหรือไง" คนที่หอบอัลบั้มภาพมาหาถึงคอนโดดูเหมือนจะเกิดอาการแง่งอนเสียแล้ว
"ไม่ใช่แบบนั้น..แค่เป็นห่วง" คำพูดนี้เรียก��อยยิ้มแสนหวานของแทมินจนโลกเหมือนกระจ่างจ้ายิ่งกว่าเดิม . . . . . . . . . . ชายหนุ่มร่างสูงผิวสีแทนยืนพิงผนังกระจกจิบไวน์ชมวิวแบบพาโนราม่า กรุงโซลยามค่ำคืนก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ เพื่อนวัยเด็กกลับบ้านไปได้สักพักแล้ว ไคจึงยืนพักหย่อนใจอยู่เพียงลำพัง ชายหนุ่มนึกถึงน้องชายครึ่งชีวิตของตน น่าแปลกที่ความสัมพันธ์ของจงอินกับแทมินไม่มีอะไรคืบหน้าเกินมากไปกว่าคำว่าเพื่อน ทั้ง ๆ ที่จงอินคิดกับแทมินเกินเพื่อนมานานแล้ว อีเมล์ทุกฉบับข่าวคราวที่บอกเล่าทุกครั้งไม่มีที่จงอินจะไม่กล่าวถึงแทมิน สีหน้าครุ่นคิดของชายหนุ่มดูน่าหลงใหล ผู้คนมากมายล้วนอยากจับจองหัวใจของคิมไค คงมีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าเขามอบหัวใจให้ใคร . .. … .. . Tbc. . .. จีจี้ทอร์ค: ฝากคอมเม้นหรือทวิตติดแท็ก #เธอฉันเขาไคแทม ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^;;;
0 notes
Photo
วันที่ 17/03/2018 ไปดูคอน ElyXionInBKK รอบที่2 คอนรอบนี้เรากดบัตรเองได้ด้วยนะ บัตร2500 โซน F ที่นั่ง O17-18 อิอิ เป็นครั้งแรกที่กดเองได้เลยนะเนี่ยยยย ปีนี��ไปเหมือนจะชิล555 ไปถึงประมาณ9โมง รอแลกบัตรก็10โมงกว่า เราเอาของมาแจกด้วย เป็นสตก.นิดหน่อย ก็แจกกันไป แจกเสร็จก็ถึงตาเราไปเอาของเเจกคนอื่นบ้างง555 วิ่งวนทั่วเลยสิ ได้มาบ้างพอสมควร แต่ของเมนดีโอได้น้อยมากฮรือออ นกจริงๆ ละก็มีคนเวียดนามสั่งเข็มกลัดกับเราไว้ ก็มีเเวะเอาไปให้เขาด้วย เอิ้กก. ละก็ไปเดินดูของขายนิดหน่อย ก็ได้สตก.การ์ตูนติดมือมาจนได้555 ละสักพักก็ไปนั่งรอกับเพื่อนเเปปนึง ละพอใกล้เวลางานเเถลงข่าวก็เลยไปหามุมดู5555 ก็ยังมีความพยายาม สุดท้ายก็นกเมนอีกจนได้ มองเห็นเเต่เฉิน กับเเบคนิดหน่อย คยองโดนเสาบังฮาาา เห็นเเค่หัวมุดผ่านไป เสียจุยยยย ละทีนี้ก็เอากล้องไปฝากจนท. อยากจะเเอบเอาเข้าแต่ก็นะ เสี่ยงเกิน555555 จากนั้นก็ไปต่อเเถวเข้าคอนจร้าาาา เข้าคอนมาเเย้ววว รอแปปนึง อันตัวข้านี้ไม่มีเเท่งไฟแบบใหม่อะนะ ก็โบกแท่งเก่าวนไป5555 เสียใจปีนี้ไม่มีลูกเล่นไฟผ่านไวไฟอะะะ. ขอติเกี่ยวกับคอนหน่อยนะ55 คือแบบว่า โปรดักส์ชั่นมันดร้อปลงเยอะมากเลยย มันไม่อลังเท่าคอนสามอะ55 แต่มันก็สวยอยู่นะแต่แค่ไม่สุด ไม่รู้เราได้มุมไม่ดีรึเปล่า55 ส่วนอันวิดิโอเปิดตอนเบรก กับช่วงพัก มันทิ้งช่วงห่างไปหน่อย แบบเปิดเยอะอะ ละเหมือนได้โชว์น้อยลง จะไม่พูดเรื่องธีมคอนเพราะไม่ค่อยรู้ที่มา55 ก็นะไม่ได้ตามมาสักพักส่วนใหญ่ฟังเเต่เพลง เอาจริงก็ดำน้ำได้ทุกเพลงอะ แต่บางทีก็รุ้สึกถ้าคนไม่ค่อยฟังอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่ส่วนตัวก็ชอบแหละ555 รู้สึกขัดแย้ง คือเพลงมันเยอะมากอะเนอะก็ต้องเน้นเพลงบั้มใหม่อยู่แล้ว ละส่วนช่วงเพลงแบบคลับอะ โอยยย อยากลุกจะแย่แต่ไม่มีใครลุกเลย เก็บกดมากกกฮืออ ไม่สุดก็ตรงนี้ ฟคไม่มันส์กันรึไงนะ555 ส่วนโปรเจคเปลี่ยนสีเเท่งไฟเองก็ดีมากเลย สวยๆ แต่เราก็ได้แค่ใช้ผ่านมือถือ5555 ส่วนการร้อง ร้องสดทั้งคอนเนอะ คือผู้มีพลังเยอะทุกคน ทับใจมากกก ใส่เต็มที่สุด งานนี้โฟกัส คยอง แบค จงอิน เซฮุน หนักมาก55555 ชอบเวลา��ยองทำเสียงเเปลกๆ หรือท่อนที่นางร้องด้วย ส่วนการทอร์คเราจำไม่ได้ 555 หาคลิปเอานะ จำได้แต่ ออเจ้า อย่าชม้อยชะม้ายชายตาให้ชายอื่น 555 เรียกกลับด้อมไปอีกกกก พอละ สรุปให้คะเเนน 7/10 55555 ขอแท่งไฟสั่งด้วยไวไฟกลับคืนมาาาาาาา
2 notes
·
View notes
Text
โมเม้นท์กับฮันบิน >w<
ตอนใกล้สว่าง ฝันฟินมาก มีโมเม้นท์กับน้องฮันบิน
ตื่นมาเลยรีบมาพิมพ์เก็บไว้คือฝันดีจริงๆ ฮ่าๆ
คือในฝันนี่เป็นงานเฟสอะไรสักอย่างคือใหญ่มาก ประมาน Asian song fest อะไรแบบนั้น คือสถานที่ใหญ่มากกกกกก แล้วในฝันคือรู้แค่ว่ามีเอ็กโซกับไอค่อนมา
ทีนี้ก็แบบติ่งแหลก คือได้ที่นั่งริมขอบ แบบขอบสุดๆ ไปนั่งโซนที่ใกล้ทางเดินเข้าออกห้องรับรองของศิลปิน แล้วแบบแสตนที่นั่งยกระดับขึ้นมา เริ่มมีคนเดินออกมาแล้วที่เห็นคือเห็นหัวดำๆของจงอิน เดินออกมาจากทางเดินมายังสนามเพื่อจะเดินไปเตรียมตัวหลังเวที แล้วนี่ก็เลยเรียกน้อง
“จงอิน”
จงอินเงยหน้ามามอง เหมือนจะตกใจนิดๆ แล้วก็ยิ้มน้อยๆ น้อยจริงๆ
นี่เลยบอกไปว่า
“บ๊ายบาย” เสียงสูงมาก ตนแบบโดนคแซว ว่าเสียงแอ๊บ 555
ในฝันคือเอ็กโซโชว์เป็นตัวแทนศิลปินเกาหลี
แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะไฮไลท์ที่รอคือ ไอค่อน
ในฝันคือ ไอค่อน จะขึ้นแสดงในฐานะฝั่งญี่ปุ่น (ความศิลปินญี่ปุ่นไปอีก คือต้องรอคัมแบคเกาหลีน้องนานขนาดไหน ในฝันถึงได้แซะได้ขนาดนี้ 5555)
ไม่นานก็ได้ยินว่าไอค่อนกำลังจะขึ้นเป็นรายการต่อไป นี่มองจากจุดที่ยืนอยู่คือเห็นด้่นข้างเอียงๆ แล้วแบบไกลมาก ก็เลยปฎิบัติการแซกซึมไปตามที่นั่งโซนวีไอพีต่างๆ
ในงานเหมือนจะมีที่นั่งสำหรับวีไอพี สื่อๆ คนอื่นๆที่เหมือนเป็นผู้ชมงานที่มีแบรนดฺสินค้ามาออกบูธร่วมงานด้วยอะไรอย่างงี้
นี่ก็รีบๆ เดินไปหาที่ว่างตามที่ต่างๆ จนแบบได้มุมประมาณนึงคือ ตรงกลางตรงกับเวทีแต่ไกลมาก ดอยมาก
เลยแบบใช้นวัตกรรมกล้องรูปแบบใหม่มาซูม ในฝันคือกล้องซูมได้โคตรใกล้อ่ะ อย่างกะดิสแพทมาเอง 555 คือซูมดีมาก แต่รูปลักษณ์กล้องนัน้มาใสรูปแบบซองน้ำผลไม้ ที่แบบเป็นซองเงินๆอ่ะ แล้วมีจุกบิดให้ดูดกินได้ (ความแปลกไปอีก)
หลงัจากลองซูมๆ ไอค่อนก็เริ่มขึ้นแสดงแล้ว รู้สึกแบบไม่อยากซูม มันซูมแล้วมือต้องนิ่งมากไง คนก็เดินผ่านตัดหน้า เรารีบวิ่งไปหาทางเอาข้างหน้า
แล้วแบบเป็นจังหวะพอดีที่ เป้นเวิรส์ของฮันบินที่น้องรแร็พแล้วเดินลงมาเล่นกันคนดูที่นั่งอยู่โซนหน้าสุด นี่วิ่งแบบแทรกๆคน แบบไม่คิดชีวิตไปโซนหน้าเลนจ้า แล้วแบบไปโผล่จ๊ะเอ๋กับฮันบินพอดี คือคนที่นั่งเก้าอี้แถวนั้นไม่ใช่ติ่งอ่ะ เลยไม่ค่อยอะไรกับน้อง
พอเจอหน้าน้องปุ๊บ นี่ก็เ��ียกทันที
“ฮันบิน”
ฮันบินเงยหน้ามามอง ยิ้มให้ด้วย โคตรน่ารักเลย พอเห็นแบบนั้นนี่ก็กำลังจะก้าวเข้าไปหาแบบไปใกล้ๆอีกอ่ะ แต่น้องแบบว่ายกมือขึ้นมาเบรกเอี๊ยดดด ปางห้ามญาติมาเลย น้องยกมือขวาขึ้นมาห้ามแล้วสะบัดออกนอกตัว ถ้านี่เป็นหมาคือน้องโบกประมาณว่า ชิ้วๆ ไปๆ อะไรแบบนั้นเลย คือพอน้องทำแบบนั้น คือช๊อกมากอ่ะ นี่สตั้น ตัวแข็งยืนอยู่กับที่ไปหลายวิ โคตรเสียใจ เหมือนน้องกลัวว่านี่เข้าใกล้ไปอะไรแบบนัน้
แล้วฮันบินก็จับไมค์ร้องต่อ เดินเลาะๆไปตามช่องว่างเก้าอี้ นี่ก็ได้แต่ยืนขาตาย แต่ตัวหันไปตามทางที่น้องเดินไปซ้ายทีขวาที แต่ก้ามขาไม่ได้ไง ถ้าก้าวกลัวน้องจะโกรธ แล้วแบบน้องแม่งเหมิอนแกล้งอ่ะ เดินผ่านหน้าไปเลยจ้า แล้วแบบตอนชั่วงเดินผ่านมีการมองหน้ากันด้วยนะ นี่ก็ได้แต่ยืนขาตายทำตาละห้องมองน้องอ่ะ
แล้วน้องก็เดินหันหลังจะเดินกลับไปเมนสเต็จ แต่เดินไปได้ 5-6 ก้าว ระยะห่างประมาณนึง น้องก็หันกลับมาแล้วมองมาทางนี้ นี่ก็มองอยู่ แล้วสิ่งที่น้องทำคือ น้องกำอากาศที่อกซ้ายแล้วโยนมาให้ เช่ๆๆๆๆๆๆ นี่ช็อกหนักกว่าเดิน พอน้องโยนมานี่ก็รีแอคไวเกิน ยื่นมือไปคว้าอากาศหมับ (เข้าใจใช่ป่ะ ฟิลแบบน้องโยนใจมาให้) โอ๊ยยยย อีนี่บ้า หุบยิ้มไม่ได้แล้ว
คือตอนแรกจะคว้ามากินเข้าปาก แต่แบบจะทำละแต่ทำไม่ทันน้องเดินกลับไปแล้ว
แล้วแบบที่การ์ดแถวนั้นแซวไปอีกว่า ยิ้มใหญ่เลยนะ
แหมพี่เจอโมเม้นท์นี่ไม่ยิ้ม ไม่ฟิน ก็เสาหินแล้ว
หลังจากจบเพลงนั้น ไอค่อนก็ขึ้นแสดงเพลงพิเศษ กับ แบล็คพิงค์ งานแฟมมิลี่ก็มา เพลง Run to you ได้ยินประกาศแบบนี้
ก็ไม่ได้ดูอะไรมาก ตัดมาที่หลังจากน้องๆแสดงเสร็จ
ฮันบินเดินลงจากเวทีมาพร้อมบัตรในมือ คือน้องเหมือนเดิมมาที่บู่ธอะไรสักอย่างแล้วบอกว่าให้มาเล่นเกมแล้วจะมีการแจกบัตร โหยยย นี่ก็รีบวิ่งไปดู กลัวน้องจำได้ก็กลัว กลัวน้องจะหนีก็กลัวแต่ก็ฟินมาก เพราะน้องเดินโชว์บัตรในมือเองเลย
น้องพูดสักพักก็กลับ ส่งต่อให่้พี่พิธีกรในบุธพ��ดกติกาแจกบัตรต่อ
จบฝันประมาณนี้
แบบว่าฟินเหลือเกิน โมเม้นท์ๆๆๆๆๆๆ
เป็นฝันที่โดนเมนแกล้งอีกแล้ว
2 notes
·
View notes
Video
instagram
170114. สุขสันต์วันเกิดความสุขของหนู♡ จงอิน จงอิน ไม่มีวันไหนไม่พูดชื่อนี้เลย รู้สึกว่าตอนนี้ความสุขของเราผูกติดอยู่กับคุณทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่เคยเจอคุณเลยซักครั้ง แต่ก็อยากให้รู้ว่าทุกอย่างที่คุณกำลังตั้งใจทำเป็นกำลังใจอย่างดีให้กับเรา คุณทำให้เรามีความสุข เราก็อยากให้คุณมีความสุขเจอแต่สิ่งดีดีในทุกๆวันเช่นกัน ที่สำคัญคือสุขภาพปีที่ผ่านมาที่ค่อนข้างสาหัส อยากให้คุณแข็งแรงไม่เจ็บป่วย สำหรับเราคุณคือสิ่งที่พระเจ้าปั้นออกมางดงามที่สุดโดยเฉพาะตอนเต้นที่เป็นความสุขของคุณ ซักวันเราก็จะหาความสุขที่เป็นของตัวเองให้เจอนะ. ขอบคุณที่เกิดมาเป็นคิมจงอินและเอกโซไ��- รัก♡
0 notes
Text
You Are My Lemon soda
หลังจบคำเชื้อเชิญของเด็กที่ยังไม่ผ่านวันบรรลุนิติภาวะ บทลงโทษของจงอินก็เริ่มขึ้น บนดาดฟ้าที่คืนนี้มีแค่พวกเขาเป็นเจ้าของ
ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าหาใบหน้าอ่อนเยาว์ราวแม่เหล็กต่างขั้วที่มีแรงดึงดูดกันและกัน อิเล็กตรอนของขั้วทั้งสองที่หันเข้าหากันนั้นมีการหมุนรอบตัวเองไปในทิศทางเดียว เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติที่ทำให้เกิดการดึงดูด จนกระทั่งวินาทีที่ริมฝีปากสัมผัสกัน ราวกับตกอยู่ในห้วงอวกาศ เขาลอยเคว้งท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ
ผู้ชายวัยสามสิบเอ็ดคนนี้อันตรายต่อหัวใจเป็นบ้า
คยองซู��ิดในใจระหว่างจูบตอบสัมผัสอ่อนโยนที่เพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงปรารถนาที่ลุกโชนในห้วงอารมณ์ จงอินต้อนงับริมฝีปากเขาเหมือนนักล่าวิ่งไล่เหยื่อให้จนมุมจนศีรษะติดกำแพง ก่อนยกปืนยิงโป้งเดียวด้วยลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาเกี่ยวกระหวัดให้อ่อนแรง คยองซูยกแขนคล้องคอพรานป่าแสนเซ็กซี่ของเขาในค่ำคืนนี้เอาไว้เป็นหลักยึดด้วยกลัวว่าจะตกแคร่ไม้เพราะหมดแรงเสียก่อน
ทั้งที่ขึ้นมาบนดาดฟ้าเพื่อคลายร้อนแท้ๆ ทว่าตอนนี้อุณหภูมิทั้งคู่กลับสูงขึ้นจนเหงื่อไหลซึมตามร่างกาย เห็นชัดที่สุดก็คือจงอินที่ท่อนบนนั้นสะท้อนแสงจันทร์แผดเงาตกกระทบพอดี
ร่างสูงผละริมฝีปากปล่อยให้คยองซูได้หายใจ ก่อนเบียดลงมาใหม่เช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รสชาติน้ำมะนาวโซดาติดปลายลิ้นเล็กทำให้จงอินรู้สึกกระหายอยากจะดื่มด่ำความหวานอมเปรี้ยวนี้ไปเรื่อยๆ
กล้ามเนื้อภายใต้เสื้อนอนแขนยาวสีดำหดเกร็ง เมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาลากนิ้วผ่านบริเวณหน้าท้อง ขยี้จุดไวสัมผัสจนเขาต้องเผยอปากหอบหายใจในตอนที่เป็นอิสระแล้ว
“อา…”
เรียวนิ้วขยุ้มเรือนผมสีปีกกาหลังริมฝีปากแดงเจ่อไม่ใช่ความต้องการของจงอินอีกต่อไป ความร้อนที่หลอมละลายเขาให้เหลวเป็นขี้ผึ้งครอบลงบนตุ่มไตสีชมพูติดจะคล้ำเล็กน้อย เพราะถูกร่างสูงตรงหน้ารังแกอยู่บ่อยครั้ง แนวฟันคมงับติ่งเนื้อเล็กๆ ที่แข็งสู้ลิ้นเขาด้วยความหมั่นเขี้ยวจนใบหน้าอ่อนเยาว์แดงซ่าน
“อย่ากัด”
“มันเขี้ยว” บอกพึมพำระหว่างที่ซุกหน้าสูดความหอมจากลำคอขาว “น่ากัดไปหมดเลยค่ะ”
“อื้อ ผมเจ็บ” คยองซูเบ้หน้า คมฟันขาวกัดผิวเนื้อตรงแอ่งชีพจรก่อนจะดูดจนเกิดรอยช้ำน่ากลัว
ขณะที่มืออุ่นร้อนของคุณสถาปนิกฟอนเฟ้นทั่วร่างอวบอิ่มที่จับตรงไหนก็นุ่มลื่นไปหมดทุกส่วนนั้นเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ กระทั่งนิ้วมือซนๆ เกี่ยวขอบกางเกงยางยืดลง เผยให้เห็นเนินบั้นท้ายขาวอวบแทนที่จะเป็นอันเดอร์แวร์สีโปรดของเจ้าเด็กม.ปลายนี่สักตัว จงอินยิ้มกริ่ม ดูท่าว่าคยองซูจะติดนิสัยไม่��อบใส่กางเกงในนอนเสียแล้ว
ซึ่งมันเป็นผลดีกับเขา ที่ไม่ต้องเสียเวลาถอดหลายชิ้น
อะไรๆ มันก็สะดวกไปเสียหมด…
คยองซูไม่รู้ว่ากางเกงนอนขาสั้นตัวย้วยตกมาอยู่ปลายข้อเท้าข้างหนึ่งตอนไหน อาจเพราะด้วยความมากประสบการณ์ของคนอายุสามสิบเอ็ด กว่าเขาจะรู้ตัว กางเกงนอนลายทางของจงอินก็ร่นมาอยู่ตรงหน้าขา อวดความเป็นชายที่ขนาดเติบโตเต็มที่ของมันทำคยองซูเผลอกลืนน้ำลายทุกครั้งที่เห็น
สถาปนิกหนุ่มอุ้มเจ้าของเรือนร่างขาวนวลขึ้นและเขาเป็นฝ่ายนั่งลงไปแทนที่ จงอินวางคยองซูลงบนตักให้สองขาแน่นตึงเกี่ยวรอบเอวสอบ
“อ๊ะ…”
ร่างเล็กขยับตัวเงอะงะอยู่บนร่างกายแข็งปั๋งของคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ แกนกายที่จงอินแสนจะภูมิใจนักหนามันทิ่มแก้มก้นขาวอมชมพูของคยองซูจนเกิดรอยบุ๋ม มือใหญ่จับแท่งเนื้อขนาดกำลังน่ารักพอดีชักรูดสร้างความหฤหรรษ์ให้เด็กหนุ่มบิดตัวด้วยความทรมานกับความรู้สึกเสียวกระสัน คยองซูหอบครางสลับกัดฟันเมื่อมือที่กอบกุมความเป็นชายของเริ่มชักนำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
นัยน์ตาหวานหยดช้อนมองชายหนุ่มขณะลูบสันกรามคมราวกับจะบาดเขาให้เลือดซิบยามแตะสัมผัสมัน ก่อนรั้งให้ใบหน้าหล่อเหลาเข้ามารับจูบที่เขาป้อนให้อย่างออดอ้อนถึงปาก เสียงครางเครือในลำคอดังประสานกับเสียงหอบหายใจเป็นจังหวะเดียวกัน เมื่อจงอินแหวกร่องก้นขาวเพื่อเปิดทางให้ความดุดันสอดแทรกเข้ามาหลอมรวมพวกเขาเป็นหนึ่งเดียว โดยไม่ผ่านการสอดนิ้วเพื่อเบิกทาง
คนที่ห่างเซ็กส์มานานจึงตอดรัดจนตัวตนของจงอินแน่นจบแทบจะถึงฝั่งฝัน มือขาวดึงทึ้งเส้นผมนุ่มราวขนแมวของชายหนุ่มที่พยายามกระแทกกระทั้นกายใส่เขาอย่างหนักแน่น ช่องทางรักร้อนรุ่มดั่งไฟจากแรงเสียดสีเผาไหม้ลามเลียให้เขาละลายทีละน้อย ความรู้สึกคยองซูเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ในตอนนั้น
“เด็กดี”
“อ่า… อื้อ” ร่างเล็กเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้เล็ดลอดจากริมฝีปากอิ่มแดงเจ่อ เพียงแค่เสียงกระทบกระทั่งกันของเนื้อดังแข่งกับเสียงแคร่ไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดนั่นก็หน้าอายพอดูอยู่แล้ว ยิ่งมีเสียงทุ้มแหบครางเครือด้วยความกระสันซ่านด้วยแล้ว เขาคิดว่าคงไม่น่าฟังเท่าไหร่
“ฮึ่ม… ซี้ดด” เสียงสัตว์ป่าคำรามดุดันหลังกรงเล็บฉีกทึ้งร่างกระต่ายน้อยขนปุยแตกเป็นเสี่ยงๆ จงอินขยับเคลื่อนไหวรุนแรงจนร่างเล็กบนตักหัวสั่นหัวคลอน ใบหน้าน่ารักแหงนรับแสงนวลผ่องของพระจันทร์ที่ขับให้ผิวขาวๆ นั่นน่าฝากรอยไว้ให้เป็นตำหนิ นัยน์ตาคมจ้องมองคนที่กัดปาดร้องซี้ดซ้าดข่มอารมณ์หวามไหวด้วยความรู้สึกเอ็นดูปนหมั่นเขี้ยวจนเผลอกัดลงบนแผงอกเนื้อหนั่น ก่อนทิ้งรอยจูบอุ่นๆ ตรงลูกกระเดือก
“อื้อ… จงอิน เร็วอีก” น้ำเสียงแหบพร่าออกคำสั่งหลังจากขย่มกายสู้กับคนใต้ร่างที่สาละวนอยู่กับหน้าอกเขา ทั้งกัดทั้งดูดจนเต่งตึงไปหมด
“โอเค ได้ตามที่ขอ”
เขาบอกพลางพลิกให้ร่างเล็กทอดกายลงบนแคร่ไม้โดยที่แก่นกายยังเชื่อมติดกันไว้ คยองซูขบกรามแน่นในตอนที่จงอินแทรกกลางอยู่หว่างขา พร้อมกับดึงท่อนเนื้อออกจนเกือบสุดยาว คาปลายหัวกลมไว้จากนั้นก็กระแทกกลับเข้ามาใหม่ ร่างสูงทำแบบนั้นซ้ำๆ จนคนใต้ร่างแอ่นสะโพกพลางร้องบอกเสียงสั่นระริกด้วยความเสียวซ่านว่า “ไม่ไหวแล้ว”
จงอินจึงใส่แรงเพิ่มมากขึ้นโดยไม่กลัวว่าช่องทางบวมแดงนั่นจะปริขาด มือเล็กจิกลงบนท่อนแขนแน่นด้วยมัดกล้ามอย่างเสียวกระสัน ความจริงนี่ไม่ใช่ประสบการณ์มีเซ็กซ์ครั้งแรก แต่สัมผัสของจงอินมันไม่เหมือนกับครั้งไหนที่เขาเคยลิ้มรสมา คล้ายเรือไวกิ้งที่เริ่มต้นด้วยความนุ่มนวล ก่อนจะเพิ่มแรงเหวี่ยงให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น…
คยองซูตื่นเต้นและรู้สึกเสียววูบวาบตลอดเวลาที่ทำรัก
ก่อนจงอินจะปิดท้ายด้วยการพาเขาไปถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ แล้วดิ่งลงมาด้วยการเหวี่ยงสะโพกเข้าออกอย่างหนักหน่วง หวาดเสียวจนเขาต้องแอ่นร่างขึ้นในท่าสะพานโค้งพร้อมร้องครางเสียงครางยาวดัง
“อ่า…”
เมื่อจงอินพาเขามาสุดปลายทางแล้ว…
ต่อในเด็กดีค่ะ
0 notes
Text
[unlimited]เบบี๋-SEHUN × Baby
“ฮึก..ฮุงง ฮืออ...ฮุงงงง” เสียงเล็กแหลมเปล่งเสียงเรียกคุณพ่อตัวขาวสุดหล่อพร้อมสะอื้นไห้ปานจะขาดใจเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาไม่เจอ
“ฮึกๆ...ฮุง พ่อฮุงต๋า..ฮือ” เด็กน้อยวัยขวบกว่ายังคงร้องไห้เรียกชื่อคุณพ่อของตนอย่างน่าสงสาร นั่งตัวสั่นจากแรงสะอื้นหนักๆที่ไม่มีท่าทีจะหยุดง่ายๆถ้าเจ้าของชื่อที่เอ่ยเรียกออกไปยังไม่มา
“จ๋าๆ ฮุนมาแล้ว..โอ๋ๆ” ฮุน เซฮุน หรือชื่อเต็มๆ โอเซฮุน คุณพ่อตัวขาวหน้าหล่อของเด็กชายตัวน้อย โอเบบี๋ ที่ตื่นมาร้องไห้เสียงดังลั่นจากการไม่เจอคุณพ่อ
เซฮุนที่พึ่งกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเพราะไปซื้อข้าวของเข้าสำหรับทำอาหารเข้าบ้านกลัวว่าลูกชายตัวน้อยของเขาตื่นมาแล้วจะหิว และอีกอย่างวัตถุดิบในการทำอาหารในตู้เย็นก็เหลือน้อยแล้ว ตอนลงจากรถยนต์คันหรูได้ยินเสียงร้องไห้ดังลั่นบ้านจากห้องของตนก็รีบปรี่เข้าบ้านวางของที่ซื้อมาอย่างเร่งรีบ แล้ววิ่งไปหาลูกชายในห้องนอน จับเด็กชายตัวน้อยเข้ามากอดสู่อ้อมอกอุ่นและปลอดภัยที่ร้องไห้จนตัวโยนน้ำสีใสไหลรินอาบแก้มอย่างน่าสงสารเพราะตื่นมา��ม่เจอตน
“ไม่ร้องนะครับคนเก่ง ฮุนมาแล้ว ฮุนไม่ได้หนีไปไหน หยุดร้องนะครับ” เสียงอ่อนโยนน่าฟังเอ่ยปลอบโยนลูกน้อยให้หยุดร้องไห้พร้อมกับลูบที่หลังแผ่วเบาเป็นปลอบประโลม
“อึก..ฮุงต๋า..ฮึก” เด็กน้อยเรียกพ่ออย่างกลัวว่าจะหายไป เสียงร้องไห้เบาลงเหลือเพียงอาการสะอึกสะอื้นเล็กน้อย แขนเล็กสั้นของเบบี๋โอบกอดพ่อฮุนจ๋าไว้แนบแน่น ซบหน้าลงกับอกอุ่นแข็งแรงและปลอดภัย
“พ่อฮุนขอโทษ พ่อฮุนไปซื้อกับข้าวมาไว้ทำให้หนูทานไงครับ ซื้อขนมที่หนูชอบกินมาด้วย พ่อไม่ได้หนีหนูไปไหนนะครับคนเก่ง” บอกจุดประสงค์ที่ตนเองนั้นไม่อยู่ตอนลูกตื่นให้ลูกชายฟังอย่างเข้าใจ เบบี๋ไม่ใช่เด็กเลี้ยงยากอะไร อายุเพียงขวบกว่าก็สามารถฟังรู้เรื่อง เข้าใจทุกอย่างในสิ่งที่เขาพูดแล้ว เขาจะคุยกับลูกด้วยเหตุผล บอกความจริงกับลูก พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนอุ้มเขามาแนบอกตนเองพร้อมกับกอดไว้แล้วพูดบอกความจริงอย่างเช่นเมื่อกี้ที่เซฮุนทำ มันอาจจะดูมากหรือดูเว่อร์เกินไปที่เด็กน้อยอายุเพียงเท่านี้รู้เรื่องและเข้าใจในสิ่งทุกเขาบอกจริงหรือเปล่า แต่ตั้งแต่มีเด็กน้อยคนนี้เขาก็ทำแบบนี้มาตลอด เขาอยู่กับเบบี๋ลูกตัวน้อย ตัวเล็กน่ารัก ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ทำคนเห็นก็บอกว่าเป็นลูกสาวกันไปซะส่วนใหญ่ เขาเลี้ยงลูกเอง แต่ในบางครั้งบางคราวเขาไม่ว่างมีธุระอะไรเร่งด่วนก็จะไปอยู่กับคุณย่าหรือคุณแม่ของเขาเอง แล้วพูดกับเบบี๋บอกกับลูกชายด้วยความจริง และมันก็ได้ผลทุกครั้ง เบบี๋จะหยุดร้องไห้ เชื่อฟังและสงบลงไม่มีมางอแงต่อ ลูกชายเขาน่ะร้องไห้แค่ตอนตื่นมาไม่เจอตนอยู่ในกรอบสายตาเท่านั้น ต่อให้มีคนอยู่ด้วย แต่ถ้าไม่ใช่ตัวเขาเองเด็กน้อยก็ร้องไห้อยู่ดี มันก็เป็นเหมือนธรรมชาติของเด็กทั่วไปนั่นแหละ เมื่อตื่นมาไม่เจอหน้าพ่อหน้าแม่ก็ร้องไห้งอแงกลัวว่าจะโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว และลูกเขาก็เป็นแบบนั้น :)
♡
“นอนเต็มอิ่มหรือยัง หืม” คุยกับลูกชายที่ซบอยู่บนอก เบบี๋ตื่นง่ายแต่หลับยาก ได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆที่ดังมานิดหน่อยก็ตื่นแล้ว เเสงนิดนึงถ้าแยงตารบกวนเวลานอนก็ตื่น จะให้หลับตาง่ายๆต้องกล่อมให้หลับตั้งแต่ตื่นอย่างสะลึมสะลือ ไม่ได้ตื่นเต็มตาแบบตาสว่างถ้าเป็นแบบนั้นตัวเขาเองนี่แหละจะไม่ได้นอน เพราะต้องมากล่อมลูกชายที่รักสุดใจให้หลับ เซฮุนถึงจะหลับต่อได้ และพอตื่นนอนไม่เต็มอิ่มก็จะงอแงเเละดื้อเป็นพิเศษ ซึ่งโหมดนั้นทำเขาเอาใจลูกยากเหมือนกัน
ศีรษะเล็กพยักหน้าลงเบาๆว่าตัวเองนอนเต็มอิ่ม���ล้ว
“ฮุง พ่อฮุงต๋า” เบบี๋ที่ยังพูดจาไม่ชัดแต่ช่างพูดช่างจาเข้าใจออดอ้อนเรียกพ่อฮุนจ๋าอย่างน่ารัก
“จ๋า จ๋า เรียกแบบนี้จะอ้อนเอาอะไรครับหื้ม” เซฮุนนั่งขัดสมาธิจับเบบี๋นั่งบนตักตนเอง แขนแกร่งทั้งสองข้างประครองไว้ตรงหลังลูกชายกันหงายลงไป
“งือออ ไปเดินน เย่นๆง่ะ” เบบี๋บอกอย่างบอกไม่ถูกว่าไปไหน รู้แค่ว่าไปเดินเล่น มีของเล่น มีต้นไม้เยอะๆ
“เดินเล่น เดินเล่นไหนครับเบบี๋ หน้าบ้านหรอครับ” เอียงคอถามลูกตัวน้อยแบบไม่เข้าใจ
“ม่าายช่าย เย่นๆง่า”
“อ่ออ สวนสาธาระณะที่พ่อพาไปวันนั้นน่ะหรอ”
“ช่ายย ไปๆ ไปนะ” เบบี๋ลุกขึ้นยืนบนตักคนเป็นพ่อมือน้อยๆสองข้างวางบนไหล่เป็นหลัก
“ครับๆ เดี๋ยวเย็นๆจะพาไปดีมั้ยครับ” สองแขนกอดลูกชายเอาไว้หลวมๆ
“ดีๆๆๆ” มือน้อยๆตบเข้าหากันอย่างดีใจปากน้อยยิ้มกว้างโชว์ฟันไม่กี่ซี่
คุณพ่อตัวขาวยิ้มเต็มแก้มดวงตาคมฉายความสุขสดใสออกมาเต็มเปี่ยม ก่อนจะรวบตัวลูกชายตัวน้อยมากอดแนบอก ปากเรียวกดจูบลงไปที่แก้มอูมๆของเบบี๋อย่างมันเขี้ยวกับความน่ารักสดดั่งดวงอาทิตย์ตอนเช้า
“บู้ววว ฮุงต๋าา” เบบี๋ซบหน้าลงกับไหล่กว้างแขนเล็กย้ายมากอดคอคุณพ่อ
“จ๋า ลูกจ๋า”
“บิ๋คิดถึง อาจะงิน อาชังยอลล” อาจะงิน อาชังยอลของน้องเบบี๋ก็คือ อาจงอิน อาชานยอล เพื่อนสนิทเซฮุนเองนี่แหละ
“อืมม งั้นเดี๋ยวพ่อฮุนโทรให้อาจงอินอาชานยอลมาหาเบบี๋ที่บ้านวันนี้เลยดีไหมครับ” เป็นเดือนแล้วเหมือนกันที่พวกมันสองคนไม่ได้มาหาลูกชายเขา สองคนนั้นก็คงงานล้นมือไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ ก็เป็นประธานบริษัทใหญ่โตทั้งสามคนรวมเขาไปด้วย แต่เนื่องจากตัวเขามีลูกชาย จึงต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสม แบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน หากเร่งด่วนจริงๆเขาจะคุยกับลูกชายด้วยเหตุผลอย่างที่เขาเคยบอกไป
"ดี~~~ โทรเยยนะฮุง นะฮุงต๋า~” ศีรษะเล็กถูไปมากับไหล่กว้างคนพ่ออย่างอ้อนๆ ทำเอาคนเป็นพ่ออย่างเซฮุนอดจะใจอ่อนให้ไม่ได้ แถมหอมแก้มนุ่มนิ่มลงไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว
มือเรียวของเซฮุนหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยทรงสีเหลี่ยมมนสีดำเงาออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดหาเบอร์เพื่อนรักเพื่อนสนิททั้งสองคนเป็นการประชุมสายจะได้ไม่ต้องโทรหาทีละคน รอสายสักพักทั้งสองคนก็รับสายและกรอกเสียงออกแนวกระแทกนิดๆมาทันที
(ฮัลโห���!) สองเสียง��ระสานกันดังออกจากโทรศัพท์
“นี่พวกแกอารมณ์เสียอะไรกันหรือเปล่าวะ กระแทกเสียงมาซะ”
(อารมณ์เสียสิวะ นี่กูนั่งอ่านเอกสารห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ที่มีเข้ามาให้เซ็นต์เยอะแยะไปหมด และมึงก็โทรมาขัดเวลาอ่านเอกสารกู!) ชานยอลว่าให้ยาวเหยียด ถ้าเขารู้ว่าจบมาแล้วการไม่คิดจะเรียนโทต่อเพราะต้องการพักสักปีสองปีให้สมองผ่อนคลาย จะโดนคุณนายปาร์คและคุณชายปาร์คของบ้านดันให้มาดูแลบริษัทแทน ไม่อย่างนั้นเขาจะขอเรียนโท เรียนเอกไปยาวๆเลย
(เออ กูนี่ก็เหมือนกัน เอกสารเยอะไม่ว่า บางอันแม่งต้องอ่านให้ละเอียดและรายละเอียดเยอะๆหลายๆแผ่นพากูปวดหัวตาลายจะอ้วกออกมาเป็นตัวอักษร ไอ้ห่า) จงอินบ่นออกมาทันทีเหมือนกันหลังจากชานยอลพูดจบ เขาเองก็เหนื่อยไม่ใช่เล่น งานเยอะรัดตัวไปหมด รู้งี้หาแฟนตั้งแต่เรียนเสียก็ดี คนที่ดูจะเฉยๆไม่เดือดไม่ร้อน ก็คงจะเป็นไอ้เซฮุนนั้นแหละ ใช่ซี่ มีลูกน้อยน่ารักซะขนาดนั้น แค่เห็นหน้าน้องเบบี๋ลูกชายตัวเล็กน่ารักของมันคงจะหายเหนื่อยจากงานที่ทำอยู่เป็นปลิดทิ้ง เนี่ย ว่าไปแล้ว เขาล่ะทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไส้
(ละสรุปมึงโทรมามีไรวะ แถมมากงมาแก มาแปลกนะมึง กูขนลุกโว้ยยย) ชานยอลถามถึงจุดประสงค์ที่ไอ้เพื่อนลูกหนึ่งโทรมาก่อนที่จะพากันนอกเรื่องพร้อมกับถามว่าทำไมมันถึงได้พูดจาดีนัก ได้ยินแล้วขนลุก
(นั้นดิ ปกติไม่เคยจะโทรมา ไมรอบนี้โทรมาวะ และยังพูดเพราะ หรือว่าอยู่กับสา--) ไม่ทันที่จงอินจะว่าจบประโยค เสียงของคนที่เงียบไปพักหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาทำเอาคนในสายทั้งสองคนเลิกอ่านเอกสารตรงหน้าแล้วหยิบกุญแจรถเพื่อจะไปบ้านมันทันทีหลังฟังจบ
“เบบี๋คิดถึง อยากเจอพวกแก ไม่ได้อยู่กับสาว ไม่ได้มาแปลกอะไรทั้งนั้น” เซฮุนตอบตัดบท ไม่ให้พวกมันคิดอะไรไปมากกว่านี้ ที่พูดเพราะ ก็เพราะกลัวลูกฟังแล้วเอาไปพูด ส่วนสาวก็ไม่ได้มีทั้งนั้น เขาพอใจที่ทั้งชีวิตจะมีลูกชายและเขาเพียงสองคน อย่างน้อยๆก็ในเวลานี้ ในตอนนี้น่ะนะ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน อาจจะมีหรือไม่มีมันก็คือเรื่องของอนาคต เขาไม่หา ไม่สนใจ ถ้าวันหนึ่งมันจะมามันจะมีเขาก็โอเค เขาไม่ได้ปิดกั้นอะไร เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ ในเวลานี้มันยังไม่มา และยังไม่มี อีกอย่างเขากับลูกมีความสุขดี แค่นี้เซฮุนก็พอใจแล้ว
(โอเค กูเข้าใจแล้ว รับทราบ กูจะรีบไป!) เสียงชายอลตอบ��ลับมาอย่างรีบร้อน หลานอยากเจอ และเขาดันเป็นอาที่ไบแอสหลานสุดๆเลยด้วยสิ งานที่กองอยู่เอาไว้ก่อนแล้วกันนะ
(มึงๆๆ กูอยากคุยกับหลานอะ ขอกูคุยกับหลานก่อนได้ปะ) ใครบอกกันว่าชานยอลมันไบแอสหลานคนเดียว จงอินเองก็ไม่ได้ต่างกันหรอก หลานอยากได้อะไรอาจงอินคนนี้จะหามาให้
“คนเก่งครับ อาจงอินอยากคุยด้วย หนูคุยไหม” ถามลูกชายเสียงนุ่มที่ตอนนี้นอนเอาแก้มกลมๆยุ้ยๆน่าฟัดซบหลงบนไหล่หันหน้ามาทางคอพร้อมแขนสั้นๆกอดคอเขาเอาไว้
“งินน อางินต๋าา” ใบหน้าน่ารักเรียกชื่ออาที่ตนคิดถึง เมื่อฮุนจ๋าเอาโทรศัพท์มาแนบหูหลังจากตัวเองพยักหน้าหงึกๆไปสองทีเป็นการตอบรับว่าอยากคุยด้วย
(อาคิดถึงหนูจังเลย) จงอินใช้น้ำเสียงโทนอ่อนโยนทันทีที่ได้คุยกับหลานตัวเล็ก
“งือ คิดถึงๆ งินต๋าา” เด็กน้อยตอบกลับเสียงใส
(จ๋า หนูอยากได้อะไรไหมคนเก่ง อาจะซื้อไปให้) ถามหลานที่เรียกเสียงหวานหูน่าฟัง ตอนนี้เขาออกจากบริษัทมาแล้ว และมันผ่านห้างสรรพสินค้าก่อนจะไปถึงบ้านหลาน ไหนๆก็จะซื้อขนมของชอบเบบี๋ไปฝากอยู่แล้ว ขอถามกับหลานเองเลยแล้วกันว่าอยากได้อะไรเพิ่มไหม
“หนม! อางินเอาหนมๆนะ นะ” ตอบไปอย่างออดอ้อน จนคนฟังทั้งสามคน เซฮุน จงอิน ชานยอล อยากจะเหมาขนมอร่อยๆที่มีอยู่บนโลกทั้งหมดเอามาให้หลาน
(โอยยย หลานอา อาจะเอามาให้หนูหมดเลย) จงอินพูดเหมือคนเพ้อ หลานเขาน่ารักเสียขนาดนี้นี่เนอะ
“ฮื่อ งินต๋า”
(จ๋า)
“ไม่เอาเยอะๆ”
(ไม่เอาเยอะๆแล้วเอาอะไรคะ)
“เอาอย่อยๆง่ะ แฮะ” เบบี๋ไม่ได้อยากได้เยอะๆ แค่อยากได้ที่มันอร่อยยย~ พร้อมฉีกยิ้มน้อยๆและทำเสียงแฮะ
(โอเคค่ะ เดี๋ยวอาซื้อไปให้นะ) เอาเป็นว่าหลานขอขนมอร่อยๆ ไม่พ้นเหล่าขนมเค้ก เจลลี่ ช็อคโกแลต ของโปรดเจ้าตัวนั่นแหละ ไม่ได้อยากได้อะไรเพิ่มเป็นพิเศษเลย เจ้าอ้วนเอ้ย
“คั้บป๋ม!”
(งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ อาขับรถก่อน)
“งินขับดีๆ จุ้บจุ้บ" เบบี๋บอกให้อาหนุ่มขับรถดีๆ ทำเสียงจุ้บเหมือนได้จุ้บที่แก้มของอาจงอินจริงๆอีก ส่วนจงอินนั้นวางสายไปแล้วหลังเบบี๋พูดจบ
(อะแฮ่ม หนูเบบี๋ อาชานก็อยู่นะครับ) ชานยอลกระแอมไอเบาๆ แล้วเอ่ยบอกให้อีกฝ่ายได้ยิน เป็นเชิงว่าตัวเขาก็ยังอยู่ในสายนะ หลานรักสนใจอาชานยอลคนนี้ด้วย
“อาชังยอล!!” เด็กน้อยเรียกอย่างดีใจ
(ครับ อาชานยอลเอง แต่อาคงคุยไม่ได้แล้วครับ อาต้องขับรถก่อน เจอกันที่บ้านนะครับเบบี๋)
“คับป๋มม อาชังขับดีๆ จุ้บๆ” บอกเหมือนกันกับอาจงอินที่เพิ่งวางสายไป ไม่ให้น้อย��น้ากัน
(ครับผม~ เดี๋ยวอาซื้อขนมไปฝากด้วย แค่นี้นะครับ) พูดจบชานยอลก็วางสาย มุ่งหน้าขับรถอย่างสบายใจเพื่อมาหาหลานรักที่บ้าน
♡
“คุยกันลืมพ่อฮุนจ๋าของหนูไปเลยนะครับเบบี๋”เซฮุนว่า แกล้งทำน้ำเสียงอย่างงอนๆ
“งื้ออ พ่อฮุงต๋าา” แก้มอูมๆถูไปมาบนอกพ่อฮุนจ๋าเป็นการง้อ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย ไม่ให้นอนด้วยแล้วดีไหม” แขนแกร่งกอดลูกชายเอาไว้แล้วโยกตัวเบาๆ
“มั่ยเอานะ!!” ไม่เอาหรอก นอนคนเดียวไม่มีอ้อมกอดอันอบอุ่นของพ่อฮุนมันไม่น่านอนสักนิด
“ทำไมครับ”
“มั่ยเอาา นอนกับฮุง” กอดฮุนจ๋าแน่นราวกับกลัวว่าคืนนี้จะไม่ได้นอนด้วยกัน ทั้งๆที่เซฮุนเพียงแค่พูดเล่น นอนโดยไม่มีเบบี๋กอดในอ้อมอกเขาทำไม่ได้หรอก ก็จัลมานอนซบอกตั้งแต่เกิดแล้วนี่นะ จะให้เลิกทำง่ายๆได้ยังไง
“ฮุง”
“ครับคนเก่ง”
“หม่ำๆ นี้” นิ้วเล็กจิ้มลงไปบริเวณบนอก
“หม่ำๆอะไรครับ เดี๋ยวอาจงอิน อาชานยอลก็ซื้อขนมมาให้หนูแล้ว”
“ฮื่ออออ มั่ย เอานี้” จิ้มลงไปที่เดิมว่าจะเอาตรงนี้
“เบบี๋... พ่อไม่มีนมให้หนูกินนะ” เซฮุนถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อรู้ว่าลูกชายจะเอาอะไร
“ฮึก..ฮุงต๋า อึก ม่ะยักบิ๋.. ฮือออ” เบบี๋เริ่มร้องไห้งอแงเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
เซฮุนที่ไม่ถูกกับน้ำตาลูกชายตัวน้อยใช้มือปลอบหลังเล็กที่เริ่มสะอื้นขึ้นเรื่อยๆจากการร้องไห้
“ไม่เอาครับคนเก่ง ไม่ร้องนะ โอเคครับๆ พ่อให้หนูก็ได้” โอเค เขายอมให้น้องบี๋ดูดนมเขาก็ได้ แม้ว่ามันจะไม่มีน้ำนมให้กินก็เถอะ แต่จะให้เขาทนฟังลูกชายร้องไห้ เขาทนไม่ได้
“ฮึก หม่ำๆ”
“ครับๆ หม่ำนะหม่ำๆ” มือเรียวข้างซ้ายเลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ดพอแค่ให้เปิดได้กว้าง ก่อนจะจับลูกชายนอนตามขวางบนตักตน แขนขวาสอดไว้ใต้หลังให้ศีรษะเล็กอยู่ตรงข้อพับแขน เบบี๋หันหน้าเข้าหาอกแกร่ง ปากน้อยๆอ้าออกงับเอายอดอกคนเป็นพ่อเข้าปากแล้วดูดกินเหมือนดูดนมจากอกแม่ เสียงสะอื้นไห้ที่เคยดังเงียบลงไปแล้ว นิ้วยาวเกลี่ยเอาน้ำตาบนใบหน้าลูกชายออกแผ่วเบาอย่างทะนุถนอม
“เด็กดื้อ” บอกอย่างมันเขี้ยว จริงๆมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกนั่นแหละ ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่เบบี๋เป็นแบบนี้ รู้ว่ามันไม่อะไรออกมาก็ยังดื้อจะเอาให้ได้ เด็กดื้อเอ้ย ปากเรียวกดจูบลงบนหน้าผากเบาๆ ส่งความรัก ความอบอุ่นและความมันเขี้ยวเล็กๆผ่านจูบเมื่อกี้
เบบี๋ที่ได้ดูดนมดั่งใจ ยิ้มออกมาจนตาหยี ปลดปล่อยความสดใสให้พ่อฮุนจ๋าได้���ห็น
ปี้ดดด ปี้ดด
เสียงบีบแตรรถดังมาจากหน้าบ้าน ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็สองหนุ่มเพื่อนรักที่บอกว่าจะรีบมานั่นแหละ
“เบบี๋ลูก ปล่อยก่อนครับ พ่อฮุนจะไปเปิดประตูให้อาจงอิน อาชานยอล” จะให้ออกไปทั้งแบบนี้ได้โดนพวกมันล้อไม่เลิกกันพอดี
ลูกชายตัวเล็กที่ได้ยินอย่างนั้นก็ส่ายหัวโดยเร็ว ต่อให้มันไม่มีน้ำนมออกมาเขาก็ยังไม่อยากปล่อยตอนนี้
“แล้วพ่อฮุนจะไปเปิดประตูได้ยังไงครับลูก ไม่ดื้อนะ เดี๋ยวคืนนี้พ่อให้หนูดูดทั้งคืนเลย”
“ฮึก..” เบบี๋เริ่มงอแงอีกแล้ว ปากน้อยเบะออก น้ำใสๆเริ่มปริ่มที่ตาบอกให้รู้ว่าจะร้องไห้ในอีกไม่กี่วินี้ และนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลย
“โอ๋ๆ ไม่ปล่อยครับ ไม่ปล่อย เดี๋ยวพ่อโทรไปบอกเอาก็ได้” สุดท้ายเซฮุนเองก็ขัดใจลูกชายไม่ได้ รู้ว่ามันจะทำให้เบบี๋ติดเป็นนิสัย แต่ปากน้อยที่เบะออก ดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ ก็อดจะตามใจไม่ได้ เขาไม่ชอบมันนี่นะ จะให้ขัดใจได้ยังไง
เซฮุนกดโทรศัพท์เพื่อจะโทรไปบอกไอ้เพื่อนสองคนว่าออกไปเปิดประตูให้ไม่ได้ให้ลงมาเปิดกันเอง ทว่ายังไม่ทันได้กดโทรออกก็มีเสียงไอ้จงอินและชานยอลพร้อมกับเปิดประตูห้องนอนเขาโดยไม่ได้เคาะประตูขัดไว้เสียก่อน
“จ๊ะเอ๋! เบบี๋--!” จงอินและชานยอลเปิดประตูห้องนอนไอ้เพื่อนตัวขาวมาโดยไม่ได้เคาะประตูเพราะอยากเซอร์ไพรส์หลาน แม้ว่าหลานอาจจะรู้แล้วเพราะพ่อมันคงบอกตอนพวกเขาบีบแตรรถ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเขาสองคนเองที่โดนเซอร์ไพรส์ เพราะว่ามันให้เบบี๋ดูดนมที่อกมันอยู่นั่นไง!
“เฮ้ย!!!” เซฮุนเองที่ตกใจเหมือนกันรีบหันหลังให้มันสองคนทันที ไม่คิดว่ามันจะเปิดประตูเข้ามาเลยแบบนี้ แถมมาตอนน้องบี๋กำลังดูดนมเขาอยู่ด้วย โอ้ยย ไอ้เซฮุนเอ้ย ไม่น่าตามใจลูกจนให้พวกมันมาเห็นจนได้เลย นอกจากจะโดนล้อคงยังโดนพวกมันซักไซ้อีกว่าทำไมถึงให้ดูด ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย น้ำนมก็ไม่มี
จงอินที่ทั้งช็อกทั้งตกใจและตาค้างกับภาพที่เห็นอยู่รีบสะบัดหัวไล่มันออกไป ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นอกมัน เวลาพวกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเวลาเล่นกีฬา หรือเวลาไปออกกำลังกายอย่างว่ายน้ำก็เห็นอยู่ออกบ่อย มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นเนื้อหนังมัน แต่ไม่เคยเห็นมันโหมดนี้ โหมดที่ปลดกระดุมเพียงสองเม็ดให้ลูกมันดูดนมน่ะ มันค่อนข้างจะดูอีโรติกหน่อยๆน่ะสำหรับเขา
“อ--เอ่อ เซฮุน มึงมีน้ำนมให้เบบี๋กินด้วยหรอ”ชานยอลเองที่ก็พึ่งตั้งสติได้เหมือนกัน ตอนเห็นก็ตกใจอยู่ว่ามันมีน้ำนมให้ลูกกินด้วยหรอ ยิ่งท่าทางของมันที่ดูเฉยๆไม่รู้สึกร้อนรู้สึกหนาว��ั่นอีก เหมือนว่ามันให้ลูกดูดบ่อยๆจนชินไปแล้ว
“โอ้ย!”
“ไอ้เซฮุนมันเป็นผู้ชายไหมมึง ที่พูดนี่คิดนานไหม ควาย!” เขาล่ะปวดหัวกับคำถามของมัน เลยจัดการตบหัวมันไปหนึ่งทีเผื่อจะให้มันคิดได้ว่าเพื่อนมึงเป็นผู้ชายไหมล่ะชานยอล ถามคำถามอะไรควายๆจริงๆ
“ก็กู-- โว้ยๆๆ เออๆ ไม่ถามแล้ว” ชานยอลยกมือเป็นเกาะป้องกัน เอี้ยวตัวหนีมือหนักๆของไอ้จงอินเมื่อมันจะฟาดลงมาอีกรอบ อะไรวะ เขาสงสัยไหม สงสัยอะสงสัย ปาร์คนชานยอลคนนี้ไม่เข้าใจ ก็แค่จะถามว่าถ้าไม่มีแล้วทำไมถึงให้ดูดเท่านั้นเอง ไอ้คนข้างกายเขานี่ก็จะตบเขาอย่างเดียวเลย ถ้ากลับไปทำงานด้วยสมองเบลอๆมึนๆ เหมือนเอ๋อจะกินนี่โทษมันเลย
“พวกกูลงไปรอข้างล่างแล้วกัน ยังไงมึงก็มาเล่าให้พวกกูฟัง ห้าม-ปิด-บัง โอเคนะ” เขาไม่ถามหรอก ให้ตัวมันเล่าให้ฟังเองดีกว่า ถึงมันจะเล่าเพราะความบังคับของเขาก็เถอะ แต่แล้วยังไง ความอยากรู้มันไม่เข้าใครออกใคน หรือง่ายๆก็คือเขาเสือกนั่นแหละ จงอินก็อยากรู้ว่าทำไมมันถึงให้เบบี๋ดูดนมมัน ดูท่าทางจะให้มานานด้วย แค่พวกเขาไม่รู้
“เออ! เดี๋ยวลงไป พวกแกลงไปกันได้แล้ว” เซฮุนออกปากไล่ทันที นี่เขาต้องไปเล่าให้พวกมันฟังจริงๆใช่ไหม มันใช่เรื่องที่พวกมันต้องมารับรู้ไหมเนี่ย โว้ย ไอ้พวกนี้
“เบบี๋ครับ ปล่อยก่อนได้ไหมลูก คืนนี้พ่อจะให้ทั้งคืนเลย พ่อฮุนสัญญา” เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงปนขอร้อง ถ้าเบบี๋ไม่ปล่อยเขาจะลงไปยังไง อายแย่ที่ต้องลงไปทั้งแบบนี้
“ฮุงม่ะยักบิ๋” เด็กชายตัวเล็กบอกอย่างน้อยใจตามประสา เด็กน้อยปล่อยปากออกจากอกคนเป็นพ่อ หันหน้าหนีด้วยความน้อยใจเพราะโดนขัดใจ
“เบบี๋ พ่อรักหนูนะครับ หันมาหาพ่อหน่อยเร็ว” เบบี๋เป็นเด็กเลี้ยงง่ายก็จริง ว่าง่าย ฟังรู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าดื้อไม่เป็น และโหมดดื้อสุดๆก็คือตอนนี้ ตอนที่เบบี๋เริ่มไม่เอาอะไรทั้งนั้น นอกจากให้ผู้เป็นพ่อตามใจตน และแน่นอนว่าโหมดนี้เซฮุนไม่ชอบที่สุด เขาตามใจลูกก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะดุว่าไม่เป็น บางทีมันก็ต้องสอนกันบ้าง มันผิดที่เขาเองแหละ ตามใจเบบี๋จนจะเสียนิสัย
“เบบี๋” เสียงทุ้มที่เคยอ่อนโยนน่าฟัง ตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นน้ำเสียงเข้มขึ้น อย่างต้องการให้ลูกชายรับรู้ว่าถ้ายังดื้ออยู่แบบนี่จะโดนทำโทษแล้ว
0 notes
Text
shared: knees
“รู้จักคิม จงอินด้วยเหรอ”
เซฮุนไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนออกไปตอนที่ได้ยินคำถามนั้น เพราะอีกฝ่ายสวนกลับมาแทบจะทันที “เฮ้ย ไม่ต้องเขิน แค่จะฝากของไปให้มันหน่���ย”
คนฟังไอสำลักค่อกแค่ก โชคดีแค่ไหนที่เส้นรามยอนไม่ไหลออกมาทางจมูกด้วย กระดาษทิชชู่ห่อเล็กที่ซื้อมาเมื่อช่วงพักตอนเช้าถูกหยิบออกมาใช้ เพราะรู้สึกเหมือนน้ำซุปรสกลมกล่อมยังค้างอยู่ในโพรงจมูก
“ฝากด้วยนะ มีเรียน แต่มันต้องรีบใช้”
พอพูดจบ อีกฝ่ายก็วิ่งฉิวหายไป โดยที่เซฮุนยังไม่ได้ตอบรับอะไรด้วยเลยสักคำ
มีเพียงถุงพลาสติกสกรีนชื่อร้านขายยาวางทิ้งไว้ มือขาวถือวิสาสะเปิดออกดู มีเพียงยานวดคลายกล้ามเนื้อกับแผ่นแปะแก้ปวดนอนนิ่งอยู่ข้างใน เพราะโดนกำชับว่าเป็นเรื่องด่วน เขาคิดว่าจงอินเจ็บป่วยร้ายแรง��รือเป็นโรคประจำตัวเสียอีก
เด็กหนุ่มวางถุงพลาสติกไว้้ข้างตัว รามยอนต๊อกของโปรดยังเหลืออีกครึ่งค่อนชาม คิม จงอินคงไม่ถึงกับตายเพราะปวดกล้ามเนื้อหรอก
คีบต๊อกชิ้นหนึบเข้าปาก เคี้ยวจนแก้มขาวพองกลมเหมือนแฮมสเตอร์อมเมล็ดทานตะวัน ริมฝีปากสีอ่อนยื่นยาวออกมา ของโปรดไม่อร่อยเหมือนอย่างที่เคย มือขาวจึงวางตะเกียบลงกับถาดไม้ ความอยากอาหารจากไปพร้อมกับคนแปลกหน้าสักคนที่พูดถึง คิม จงอิน ขึ้นมา
เซฮุนยังจดจำภาพนั้นได้ดี ไม่สิ... ที่จำได้คือความรู้สึกต่างหาก
กายร้อนผ่าวบดเบียดเข้ามาภายใน เร่าร้อนราวกับจะเผาตัวเขาให้เหลือแต่เถ้าถ่าน จังหวะเคลื่อนกายที่ไร้ความปราณี ผนวกกับเสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์กระสัน เซฮุนไม่ได้เห็นภาพนั้น เขาไม่ได้เห็นสีหน้าของจงอินด้วยซ้ำ หากเพียงแค่เสียงกับสัมผัสก็มากพอจะทำให้ใจเต้นโลดรุนแรง ระรัวเสียจนกลัวว่าจะหยุดเต้นลงกลางคัน
คิม จงอินเกือบฆ่าเขาตายแล้ว น่าแปลกที่เซฮุนไม่รังเกียจเลย
เพราะอับอายเหลือเกิน และไว้ใจชานยอลไม่ได้อีกต่อไป นับตั้งแต่วันนั้น เซฮุนไม่พาตัวเองไปให้ชานยอลและจงอินพบ หรือทำอะไรต่อมิอะไรกับเขาได้อีกเลย
เด็กหนุ่มเก็บตัวเงียบในห้องนอนของตัวเองเสมอเหมือนอยู่ในช่วงใกล้สอบตลอดเวลา หากสมาธิไม่ได้อยู่กับเขาในห้องเล็ก ๆ ห้องนั้น มันล่องลอยแผ่วหวิว คงลอดผ่านช่องหน้าต่างออกไปเหมือนมวลอากาศเบาบาง มีแค่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
ว่างเปล่า... จนเผลอคิดไปว่า เหงา
สิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับเซฮุน คือการเสาะหาข้อดีที่อาจยังพอมีเหลือในเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่ไม่ควรต้องประสบ มองหาราวกับสำคัญเทียบเท่าผู้รอดชีวิตในซากตึกพังทลาย
รู้ทั้งรู้ แต่เซฮุนก็ยังค้นหามันอยู่ดี
เพราะหวัง...ว่าชานยอลคงไม่ได้ตั้งใจ หวัง...ว่าจงอินเพียงคึกคะนองเพราะภาพที่ได้เห็นก็เท่านั้น
เซฮุนยังอยากอภัยให้ปิศาจร้ายภายในจิตใจทั้งสองคนอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นฝ่ายต้องหวนคิดถึงเรื่องนี้อยู่เพียงลำพังก็ตาม
เพราะว่างเปล่า จึงต้องการถูกเติมจนเต็มเหลือเกิน
เซฮุนไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของจงอิน และเขาไม่อยากถามหาจงอินจากคนอื่น
สองเท้าในรองเท้าผ้าใบคู่โปรดเดินมาตามทางเดิน มุ่งหน้าไปยังสน��มฟุตบอลที่อยู่ไกลออกไปไม่เกินสองร้อยเมตร หากไม่พบคนที่อ้างว่าต้องรีบใช้ยาคลายกล้ามเนื้อที่นี่ เซฮุนจึงตั้งใจจะเอาไปแขวนไว้ที่ลูกบิดประตูห้องนอนของเจ้าตัว
คงจะดีที่สุดหากไม่ต้องพบหน้ากัน แต่ก่อนจะคิดหันหลังกลับไป เซฮุนกลายเป็นฝ่ายถูกพบเสียก่อน
“เฮ้!”
จงอินร้องทัก ก่อนจะวิ่งตรงมาหาแทบจะทันที
“นั่น วอนชิกฝากมาให้ใช่มั้ย?” เฮาส์เมทยื่นมือมารับของ ทั้งที่เซฮุนไม่ได้ยื่นให้ “เซฮุน?”
ลืมคำพูดไปราวกับเป็นใบ้ กลิ่นกายของคนที่กำลังเล่นกีฬาลอยแตะจมูก ย้ำให้รู้ว่าอยู่ห่างกันน้อยยิ่งกว่าเอื้อมมือ
ไม่ต่างกับวันนั้นเลย
เซฮุนไม่ใช่คนที่สันทัดเรื่องเซ็กส์มากนัก เพียงแต่สถานการณ์พาให้เขาเลยเถิดไปกับคนถึงสองคนแล้ว หนำซ้ำทั้งคู่ยังไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจสักนิดที่ทำให้เขาว้าวุ่น ไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบที่ทำให้เซฮุนเปลี่ยนไปเพราะถูกบังคับให้ก้าวเข้าสู่โลกที่ตัวเองไม่รู้จัก
สิ่งที่จงอินยัดเยียดให้นั้นไม่สวยงามเลยในทีแรก เจ้าของร่างกายที่โดนรุกล้ำต่อต้านจนกระทั่งต้องจำยอม เขาสู้ไม่ได้ทั้งพละกำลังและหัวใจที่เอนเอียง ถูกกระตุ้นจนต้องยอมรับว่ารู้สึกดีทั้งที่จงอินบังคับและใช้กำลัง
แตกต่างจากชานยอล ชายหนุ่มรุ่นพี่ปากร้าย หากการกระทำอ่อนโยนเสมอ ชานยอลตามใจ และบางครั้งก็ถึงกับเอาใจเขา ไม่เคยลืมว่าเซฮุนจะรู้สึกอย่างไร จะสุขสมจากสิ่งที่เขาทำให้หรือไม่ แน่นอนว่าเด็กหนุ่มเองก็โอนอ่อนตาม และตอบแทนชานยอลกลับไปได้สมน้ำสมเนื้อทุกครั้ง
ยังมีก้อนความรู้สึกที่ตกตะกอนขุ่นอยู่ในความคิด เซฮุนไม่อยากรู้สึกแบบนี้ เขาคิดว่าคนปกติคงไม่คิดแบบนี้
เซ็กส์ของชานยอลตอบโจทย์ของความต้องการเขาได้เสมอ แต่เมื่อคิม จงอินเข้ามาเกี่ยวข้องในกิจกรรมที่ไม่น่าป่าวประกาศออกไปในครั้งก่อน ร่างกายของเซฮุนตอบสนองรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ชานยอลเคยเข้ามาในตัวเขาเสียอีก เขาบีบรัด ปั่นป่วนจนแทบคลั่ง หากลืมความอายไปจนหมดสิ้นได้จริง ๆ เซฮุนคิดว่าเขาอาจร้องขอให้จงอินรุนแรงกับเขามากกว่านั้นอีก
เพราะเอาแต่คิดเรื่องน่าอายจนไม่อยากสู้หน้า มือขาวจัดยื่นถุงพลาสติกของร้านยาให้ อยากให้ธุระจบลงแค่นี้
“ขอบใจ” จงอินมองหน้าเพื่อนร่วมห้องเช่าที่ก้มงุด คิดว่าพอเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร
เซฮุนเดินออกมาหลายก้าวแล้ว ตอนที่จงอินร้องเ��ียก “ต้องไปไหนต่อมั้ย”
คนถูกถามส่ายหัว เขาไม่ได้มีธุระ เพียงแต่ไม่อยากยืนกับคิม จงอินพร้อมกับความคิดที่ไม่ควรคิดในหัวให้นานไปกว่านี้
“อ๊ะ เดี๋ยว”
เซฮุนร้องประท้วงเมื่ออีกฝ่ายกึ่งลากกึ่งจูงเขาออกมา ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ยิ่งลับตาคนมากขึ้นเท่านั้น เด็กหนุ่มสังหรณ์ใจ และไม่รู้ว่าต้องการให้สิ่งที่คาดการณ์ไว้ถูกต้องหรือไม่
จงอินดันเขาเข้าไปในห้องน้ำของนักกีฬา ไม่มีใครอยู่เพราะไฟปิดมืดสนิท พลันแตะสวิทช์ให้สว่างวาบขึ้นไฟกลับกะพริบเหมือนหลอดใกล้ขาดเต็มทน เซฮุนสาวเท้าเดินตามอีกคนไปที่ห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านในสุด พื้นกระเบื้องสีหม่นยังเฉอะแฉะ
“ช่วยทีสิ อึดอัดเป็นบ้า”
คำขอร้องหยาบกระด้าง กางเกงฟุตบอลทีมเชลซีพร้อมชั้นในสีเข้มถูกร่นลงโดยไม่รอคำตอบรับ แทนที่จงอินจะกระดากอายบ้าง กลับเป็นเซฮุนที่ใบหน้าร้อนเห่อขึ้นมา
ทว่า นับเป็นเรื่องสุดประหลาดที่เซฮุนคุกเข่าลงแม้กางเกงจะต้องเปียกแฉะ อวัยวะส่วนนั้นของคนที่ท่อนล่างเปลือยเปล่าปรากฏอยู่ในระดับสายตา มันยังไม่ตื่นตัวเต็มที่เลย
ข้อมือขาวขยับรูดตามความยาว เสียงจงอินแหบพร่า เขาแสดงออกตรง ๆ ด้วยท่าทางว่าต้องการปลดปล่อย เซฮุนเร่งทำให้ตามที่ขอ สังเกตสีหน้าคนที่ยืนอยู่แล้วนึกสนุกที่ปฏิกิริยาตอบรับสอดคล้องกับการกระทำของตัวเอง คิม จงอินซื่อสัตย์กับสัญชาตญาณยิ่งกว่าเขาเสียอีก
“ปาก ซี้ด... ใช้ปากสิ” คนพูดสูดปากด้วยแรงอารมณ์
ลิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปาก ลำคอแห้งจนต้องกลืนน้ำลายดับกระหายชั่วครู่ เสียงของแองเจิลกับเดวิลตีกันในหัวจนเซฮุนแยกไม่ออกอีกแล้วว่าใครเป็นฝ่ายยั่วยุ ริมฝีปากบางอ้าออกและโอบรับส่วนแข็งขืน โทนเสียงของจงอินไต่สูงขึ้นตามความรู้สึก น้ำลายหนืดคงคั่งในปากเพราะเซฮุนได้ยินเสียงเมื่อลมหายใจลอดผ่านไรฟัน
คนปรนเปรอเร่งกระตุ้นด้วยมือและปากอยู่ไม่นานนัก จงอินก็ร้องเตือนว่าใกล้ถึงปลายทางเต็มทน ก่อนจะหันไปปล่อยคราบขุ่นอีกทาง บางส่วนกระเด็นเปื้อนผนังกระเบื้องเพราะถอยออกมาไม่ทัน
ในขณะที่อีกฝ่ายจัดการตัวเองและทำความสะอาด เซฮุนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพราะหน้าที่จบลงแล้ว จึงไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรอีก
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่บอกพี่ชานยอลหรอก”
จงอินหันกลับมา��ระจัญหน้าเมื่อเขาบิดวาลว์ปิดน้ำแล้ว กางเกงฟุตบอลกลับขึ้นมาอยู่บนเอวเข้าชุดกันกับเจอร์ซีสีน้ำเงิน สีหน้าคล้ายว่าจะสดใสกว่าเมื่อครู่
“ฉัน...ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น” เขาพูดพลางเช็ดมือกับขากางเกงด้วยความประหม่า
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าบอกได้เหรอ”
เซฮุนนิ่งคิดไป แล้วส่ายหัว “ไม่บอกดีกว่า”
“ตามนั้น” จงอินยักไหล่ “ขอบใจ”
ดวงตาเรียวจับจ้องคนตรงหน้า จงอินคงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าต้องการปลดปล่อย และอาจเป็นเพราะว่าเซฮุนอยู่ตรงนั้นพอดี หลังจากได้ยินคำว่า ‘ขอบใจ’ เด็กหนุ่มก็ยังไม่รู้ว่าควรตอบรับอย่างไร และยังไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรถึงยอมทำตามคำขอห้วน ๆ เหมือนบังคับของจงอิน ทั้งที่การปฏิเสธก็คงไม่ได้ทำยากกว่าตอบรับเลย
พวกเขาไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน เซฮุนไม่รู้ว่าจงอินไปที่ไหนต่อตอนที่เขาขึ้นรถไฟและมุ่งหน้ากลับมายังที่พัก
ตั้งใจจะรีบเข้าห้องไปเก็บตัวเงียบ ๆ เหมือนเดิม หากเมื่อเด็กหนุ่มก้มถอดรองเท้าผ้าใบวางบนชั้น เขาเห็นยีซซีบูสท์ 350 คู่ใหญ่คุ้นตาวางอยู่ไม่ไกล พลันสายตาก็หันไปมองที่ประตูห้องของเจ้าของรองเท้าคู่นั้นทันที
“พี่ชานยอล...”
เสียงเรียกไม่ดังนัก เพราะรู้ว่าหากชานยอลยุ่งอยู่แล้วถูกรบกวน ชายหนุ่มรุ่นพี่จะออกอาการหัวเสียทันที
หากท่าทางสบาย ๆ ที่เซฮุนเห็นก็พอทำให้โล่งอกบ้าง ร่างสูงในเสื้อยืดธรรมดาสีดำกับกางเกงยีนส์พร้อมรอยขาดบนเข่าเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่อ่านอยู่ เขาเลิกคิ้วแทนคำถาม
“คือ...จงอินยังไม่กลับเหรอ”
เซฮุนเม้มปาก เผื่อจะกลบเกลื่อนการโกหกที่ไม่แนบเนียนได้บ้าง
“ยัง มีธุระกับมันเหรอ”
“เปล่า...” สองเท้าขยับเข้าไปใกล้ชานยอลอีกก้าว
ที่นอนข้างตัวชานยอลยวบลงตามน้ำหนักเข่าที่เซฮุนวางลง เข่าที่อยู่ใต้ผ้ากางเกงยังชื้นเป็นดวง ในเวลาไม่ถึงนาที ขาสองข้างของคนอายุน้อยกว่าก็คร่อมอยู่เหนือตักกว้าง แววตาใสเว้าวอน และคำถามใด ๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปเมื่อริมฝีปากทั้งสองดึงดูดเข้าหากัน
ชานยอลเองก็แปลกใจในทีแรกที่ได้เห็นใบหน้าหวานเจือความประหม่าของน้องเล็กของบ้านอีก เขารู้ว่าเซฮุนไม่พอใจเขาที่ชักชวนจงอินให้มาร่วมด้วยเหมือนเรื่องที่ทำกันนั้นเป็นแค่เรื่องสนุกไม่สำคัญ ถึงจะพูดออกไปว่าหวง แต่คำพูดนั้นจะมีน้ำหนักตรงไหน เซฮุนไม่ใช่ของของเขาเสียหน่อย
จูบหวานหวามบ่งบอกว่าคนที่อยู่บนตักต้องการเหลือเกิน
เซฮุนปิดปากสนิท และจงอินก็คงไม่ได้พูด ชานยอลจึงไม่ได้เอะใจเลยว่าเด็กหนุ่มที่เรียกร้องการเติมเต็มจากเขาเสมอเมื่อกลับจากมหาวิทยาลัย ตามรูมเมทรุ่นน้องเขาไปในที่ห่างไกลผู้คนทุกครั้งเมื่อจงอินเรียกหา
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทุกอย่างดำเนินตามปกติ พระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าแจ่มใสแทบไม่มีเมฆ ชานยอลออกไปทำงานช่วงสายและกลับมาแต่งรูปที่ห้องในตอนเย็น ทำงานไปได้แค่ครึ่งเดียวเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น และจงอินไม่เคยมีมารยาทขั้นพื้นฐานอย่างการเคาะประตูก่อนเข้าห้องมาก่อน เจ้าของห้องจึงไม่แปลกใจที่เห็นเซฮุนเดินเข้ามา
เซฮุนต้องการเขามากจนคล้ายว่าจะได้กลิ่นความปรารถนาอยู่ในอากาศ ร่างผอมกลับนุ่มนิ่มด้วยผิวเนียนมือ เสื้อผ้าแฟชั่นของนักศึกษาปลดออกจากกายด้วยตัวผู้ใส่เอง สะโพกขาวกลมกลึงหันหาชานยอลอย่างไม่รอช้า บทรักในครั้งหลัง ๆ แทบไม่ต้องใช้แรงเล้าโลมมากมายเพื่ออารัมภบท เซฮุนพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม
“อาห์...”
ชานยอลครางต่ำเมื่อแทรกกายเข้าไปภายใน เสียดสีความร้อนกับผนังเนื้อนุ่ม ร่างกายของเซฮุนไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ชายหนุ่มจึงไม่เคยคิดจะปฏิเสธเมื่ออีกฝ่ายร้องขอ ไม่มีสิ่งใดเลยที่เขาเสียเปรียบ
“พี่ชานยอล อือ...” มือขาวเร่งขยับอยู่ตรงหว่างขาตัวเอง ส่วนกลางลำตัวของเขาทั้งรุ่มร้อนและสั่นไหว แก้มนุ่มซบลงบนหมอนของชานยอล เข่าทั้งสองที่จมในฟูกช่วยรับแรงกระแทกจากด้านหลัง บีบรัดตัวตนของชานยอลไว้เหมือนเคย
รู้อยู่เต็มอกว่าชานยอลกำลังถนอมเขา แม้อาจจะทะนุถนอมไว้เพื่อทำลายให้สาแก่ใจในวันหน้าก็เป็นได้
แต่เซฮุนต้องการให้ชานยอลทำลายเขาเลยตอนนี้
“พี่ชานยอล...พี่ทำแรง ๆ อื้อ...ได้มั้ย”
คำขอแสนหวานเจือเสียงครวญครางจากริมฝีปากเจ่อช้ำช่างยั่วยวน สะโพกของคนขอยกสูงขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าต้องการมากเพียงใด เอวคอดบอบบางตรงหน้าเหมือนจะหักลงได้หากชานยอลไม่ยั้งแรงไว้อย่างที่กำลังทำอยู่
แต่หากเจ้าตัวยินยอม และถึงขั้นร้องขอออกมาด้วยตัวเอง ชานยอลก็คงโง่แสนโง่เต็มทีหากไม่ทำไปตามนั้น
เสียงหอบสั่นถี่กระชั้นขึ้นเมื่อจังหวะกายของร่างที่อยู่ด้านบนเร่งขึ้น เซฮุนหวีดครางสุดเสียงเมื่อชานยอลแทรกกายเข้ามาลึกจนแนบชิดกันกับบั้นท้ายของเขา อาจเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มรับชานยอลไว้ทั้งหมด ลึกซึ้งเสียจนเจ็บจุกอยู่ภายใน หากถึง���จอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ชายรุ่นพี่มีส่วนสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตร ฝ่ามือที่โอบรั้งบั้นเอวเขาไว้จึงใหญ่โตตามขนาดตัว มือที่เล็กกว่าวางทาบบนมือหนา กดเล็บสั้นลงระบายความเจ็บปวดแสนสุขที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
ภาพตรงหน้ากระจัดกระจายเพราะถูกแต้มด้วยสีขาวโพลน ลมหายใจหนัก ๆ กับเสียงครางทุ้มของชานยอลยิ่งทำให้เซฮุนปั่นป่วนมวนท้อง ในวินาทีที่คิดว่าจะเอื้อมแตะฝั่งฝันได้ เสียงไขกุญแจดังแกร่กก็ดังขึ้นอย่างไม่นึกเกรงใจว่าห้องถูกล็อคอยู่เพราะอะไร
“ขอร้อง...นะ อึ้ก อย่าให้จงอินเข้ามา..” บางสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกสั่งให้พูดออกไปแบบนั้น “อยากได้..อยากได้ชานยอลคนเดียว”
0 notes
Video
vine
โอ้ย~น่ารัก~ ไม่ไหวแล้ว ทำไมมันละมุน มันดีกับใจขนาดนี้!!!!!😭😭😭😭 #แทโอลูกไค #แทโอ #จงอิน #ohmybaby
2 notes
·
View notes
Video
vine
150621 Lucky อยากจะดึงกระดาษออกทันทีมากกกก ผู้ชายกำลังใส่กางเกงโอ้ยยยยยยยย #ชานยอล #แบคฮยอน #จงอิน #EXOluXioninBKKDay2
0 notes
Text
[OS]พี่การ์ดของน้อง-BAEKHYUN ft. Sehun,Jongin
★[OS]พี่การ์ดของน้อง-BAEKHYUN ft. Sehun,Jongin★
คฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางเมืองของเกาหลีใต้ ที่ตอนนี้ภายในบริเวณบ้านเต็มไปด้วยบอดี้การ์ดมากมาย เนื่องจากเจ้าของบ้านมีหน้าที่การงานที่ใหญ่โต มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตระกูลนี้คือตระกูลอู๋ หรือ อู๋ อี้ฝาน ผู้เป็นประมุขของบ้าน และเป็นเจ้านายของลูกน้องอีกหลายร้อยคนหรืออาจจะมากกว่านั้น
ตระกูลอู๋มีลูกชายคนเดียวชื่อ อู๋ แบคฮยอน ละมีภรรยาที่ดีอย่าง อู๋ อี้ชิง คุณนายหญิงของบ้านนั้นเอง นายหญิงเป็นคนสวยละค่อนข้างที่จะเข้มงวด แต่จะอ่อนโยนมากเวลาอยู่กับคุณหนูของบ้าน อย่างคุณหนูแบคฮยอน นายท่านกับนายหญิงจะตามใจลูกชายตัวเองมาก แต่ก็ไม่ได้ตามใจไปเสียทุกเรื่อง เรื่องอะไรที่ขัดได้ ก็จะขัด ไม่ได้ตามใจไปเสียทุกอย่างจนเสียคนจนกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจที่อยากได้อะไรก็ต้องได้
คุณหนูแบคฮยอนในตอนนี้อายุยี่สิบปีเป็นเด็กน่ารักนิสัยดี เอาแต่ใจเล็กน้อย เพราะเป็นลูกคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นการเอาแต่ใจของแบคฮยอนก็ไม่ได้ดูน่ารำคาญหรือน่าหงุดหงิดใจเสียเท่าไหร่ ค่อนไปทางน่ารักน่าทะนุถนอมมากกว่าจะดุว่าซะมากกว่า
♡♡♡
“คุณป๋าขาา~” เสียงใสกังวาลแว่วมาให้ได้ยินแต่ไกล ก้าวเท้าออกไปหาคุณป๋าที่กำลังนั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ส่วนฝั่งทางเดินประตูด้านใน ก็มีบอดี้การ์ดคนสนิทที่อี้ฝานไว้ใจให้ดูแลงานในบางเรื่องและยกตำแหน่งหัวหน้าในการดูแลการ์ดคนอื่นๆและเหล่าลูกน้องทั้งหมด แล้วก็อีกตำแหน่งคือการเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวพ่วงด้วยเพื่อนเล่นของคุณหนูแบคฮยอนอย่างโอเซฮุนและคิมจงอินยืนอยู่เช่นกัน
แบคฮยอนเดินไปนั่งข้างคุณป๋าก่อนจะสอดแขนเล็กของตัวเองควงแขนคุณป๋าไว้อย่างออดอ้อน
“คุณป๋า แบคฮยอนอยากออกไปเที่ยวข้างนอก ไปได้ไหมฮะ” เสียงใสเอ่ยถามทันทีพลางเอียงคอเล็กน้อยเพื่อฟังคำตอบ
“ไปได้ครับคนเก่ง แต่แบคฮยอนต้องให้เซฮุนกับจงอินไปด้วยนะครับ” อี้ฝานวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วหันไปพูดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหว��ของตัวเองอย่างอ่อนโยน ถึ���แม้ว่าภายนอกจะดูเข้มขรึม ต่อหน้าคนอื่นหรือต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆจะเข้มงวดและดูโหดขนาดไหน แต่กับลูกชายคนดีหรือนายหญิง อี้ฝานจะอ่อนโยนสุภาพและอบอุ่นเสมอ
“ฮับผมม จะให้เซฮุนกับจงอินไปด้วย แบคฮยอนจะไม่ดื้อ จะไม่ไปไหนคนเดียวอีกแล้วฮะ” แบคฮยอนฉีกยิ้มหวานให้คุณป๋าอย่างน่ารัก ครั้งนึงเขาเคยไปเที่ยวข้างนอกคนเดียวโดยไม่มีบอร์ดี้การ์ดสองคนไปด้วย วันนั้นดันเกิดอุบัติเหตุยิงกันขึ้นมาโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ดีที่จงอินและเซฮุนสะกดรอยตาม ตามมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นคุณหนูของบ้านคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้
“คุณป๋าให้ไปแล้ว ลองไปถามสองคนนู้นดูด้วยว่าจะพาคนเก่งของป๋าไปหรือเปล่า” อี้ฝานยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วหันไปมองบอดี้การ์ดคนสนิททั้งสองของตัวเอง
“ฮื่ออ” แบคฮยอนครางฮือในลำคอแล้วยู่ปากลงอย่างงอแง
“ไม่ถามได้หรือเปล่าฮะคุณป๋า คุณป๋าถามแทนแบคฮยอนได้หรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้ครับคนเก่ง แบคฮยอนอยากไป แบคฮยอนก็ต้องขอเองสิครับ” ประมุขของบ้านเอ่ยอย่างใจเย็นกับลูกชายของตัวเองที่นั่งกอดอกปากเล็กคว่ำลงอย่างงอแงอยู่ข้างๆ อี้ฝานไม่รู้ว่าวันนี้คนเก่งของเขาเป็นอะไรถึงได้งอแงไม่อยากจะคุยกับสองคนนั้น ทั้งๆที่ปกติป่านนี้ไปออดอ้อนกอดแขนให้พาไปข้างนอกแล้ว
“ไหนคนเก่งบอกป๋าสิ ทำไมวันนี้ถึงไม่ขอเองเหมือนทุกที” แบคฮยอนช้อนตามองบอดี้การ์ดคนสนิทของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงประตู ก่อนจะค่อยๆเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแง่งอน
“ก็เมื่อคืนจงอินกับเซฮุนไม่ไปนอนกับแบคฮยอน ไม่ไปเล่านิทานให้แบคฮยอนฟัง ทั้งๆที่สัญญากันแล้วว่าจะนอนกับแบคฮยอน จะเล่านิทานให้ฟังด้วย”
“โธ่.. เรื่องแค่นี้เอง” อี้ฝานกล่าวอย่างเอ็นดูลูกชายตัวเล็กของตัวเองแล้วเอื้อมมือไปยีผมนุ่มจนมันยุ่งไม่เป็นทรง
“เรื่องแค่นี้ที่ไหนกันฮะคุณป๋า สัญญาไม่เป็นสัญญาเลยฮะ คนนิสัยไม่ดี!” พูดจบก็ทำปากยื่นปากงอใส่จงอินกับเซฮุน จนคนเห็นกลั้นขำอย่างอดไม่ได้ มีอย่างที่ไหนงอนเขา แต่ดันทำตัวน่ารักใส่แบบนี้ งอนไม่จริงจังเสียเลย
“เอ้าๆ คุยกันเองนะ ป๋าถือว่าป๋าอนุญาตแล้ว” พูดเสร็จก็ลุกออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที แต่ก่อนจะออกไปอี้ฝานหันไปพูดกับสองหนุ่มผิวขาวและผิวเข้มว่า
“แบคฮยอนน่ะ ง้อไม่ยากหรอก แค่เอาขนมมาล่อก็หายแล้ว ใช่มั้ยคนเก่งของป๋า” ประโยคแรกพูดกับบอดี้การ์ดคนสนิท ส่วนประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟา
“คุณป๋า!!” แบคฮยอนได้ยินยิ่งงอนเข้าไปใหญ่ กอดอกนั่งยู่หน้าเบะปากจนบอดี้การ์ดทั้งสองอยากจะบีบปากที่ยื่นออกมากับแก้มแ��งๆนั้นสักทีสองที อี้ฝานหัวเราะร่วนแล้วหลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเพื่อให้ทั้งสามคนได้คุยกัน
♡♡♡
ทางฝั่งชายหนุ่มสองคนเมื่อเห็นว่าคุณท่านเดินลับหายไปกับตาแล้ว จึงก้าวเท้าไปหาคุณหนูตัวเล็กที่นั่งกอดอกงอนเขาสองคนที่ไม่ยอมไปหาตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ แล้วจงอินก็ย่อตัวนั่งคุกเข่าชันขาลงกับพื้นหนึ่งข้างที่ตรงหน้าคนตัวเล็กจับมือนิ่มที่มีนิ้วเรียวยาวสวยดุจผู้หญิงมากุมไว้ในมือหนาของตัวเอง ส่วนเซฮุนนั่งข้างๆฝั่งขวาแบคฮยอนก่อนจะใช้แขนแกร่งของตัวเองกอดเอวเล็กไว้อย่างหลวมๆ
“แบคฮยอนนงอนจงอินกับเซฮุนหรอหื้ม” จงอินเป็นคนเอ่ยบทสนทนาถามคนตัวเล็กขึ้นมาก่อน เมื่อบรรยากาศมันเงียบไป
“ไม่ต้องมาพูดจาดีกับแบคฮยอนเลยนะจงอิน! จงอินกับเซฮุนผิดสัญญา ไม่ยอมมาหาแบคฮยอนตามที่ตกลงกันไว้” แบคฮยอนเหวใส่คนผิวเข้มที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าตัวเอง หันหน้าไปทางซ้ายหนีสายตาและหน้าคมของเซฮุนที่วางบนไหล่ขวาของตัวเอง
“แบคฮยอนนา เมื่อคืนเซฮุนกับจงอินน่ะ ไม่ได้ผิดสัญญานะ แต่เรามีงานต้องทำละกว่ามันจะเสร็จก็เลยเวลานอนของแบคฮยอนมาแล้ว เลยไม่อยากขึ้นไปรบกวน ไม่ได้ตั้งใจผิดสัญญาเลยจริงๆ ไม่งอนนะครับ” เซฮุนพูดออกมาบ้างเมื่อได้ยินคำตอบของคนตัวเล็กที่หาว่าเขาสองคนผิดสัญญา
“งานมันสำคัญกว่าแบคฮยอนมากเลยหรอ แล้วถ้ามาไม่ได้ทำไมไม่ส่งข้อความมาบอกกัน หรือตอนเช้าก็ควรมาปลุกไหมฮะ” คนตัวเล็กซบศีรษะทุยของตัวเองวางทับบนศีรษะของเซฮุนที่วางอยู่บนไหล่อีกที มือนิ่มที่โดนคนผิวเข้มกุมไว้บีบมือของฝ่ายเบาๆ น้ำเสียงที่อ่อนลงบ่งบอกได้ดีว่าคุณหนูของเขาทั้งสองคนเริ่มจะใจอ่อนแล้ว
“จงอิน/เซฮุน ขอโทษ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันอย่างรู้สึกผิด พวกเขาลืมอะไรพวกนี้ไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นงานมันกะทันหันมาก หลังจากเสร็จงานก็เหนื่อยและหมดแรงเกินกว่าจะทำอะไรไหว ได้แค่คิดว่าคุณหนูของตัวเองจะเข้าใจถ้าเจออีกฝ่ายในวันรุ่งขึ้นและได้บอกเหตุผลที่ตัวเองไปตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้
“ฮึ่ยย~ แบคฮยอนไม่งอนแล้วก็ได้ แต่คราวหน้าถ้ามีแบบนี้อีกอย่าลืมส่งข้อความมาบอกกันนะ จงอินกับเซฮุนรู้มั้ยแบคฮยอนนอนรอทั้งคืนเลยว่าเมื่อไหร่จะมา” แบคฮยอนยกศีรษะตัวเองออกจากศีรษะของเซฮุนแล้วหันไปมองหน้าของบอดี้การ์ดทั้งสองคนคนละที
“โอเคครับ ถ้าหายงอนแล้วแบคฮยอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเราไปเที่ยวกันนะครับ” เซฮุนตอบรับ แล้วเอ่ยกับคนตัวเล็กให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวกัน ก่อนที่ทั้งสองจะยื่นหน้าของตัวเองให้ใกล้กับแก้มนุ่มแล้วฝังจมูกโด่งเป็นสันลงไปสูดดมเอาความหอม���่อนๆเฉพาะตัวของแบคฮยอนจนดังฟอดคนละหนึ่งที
ฟอดด~ ฟอดด~
แบคฮยอนยิ้มกว้างแล้วจับแขนให้ทั้งสองคนขึ้นไปบนห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
♡♡♡
ต่ออีก5%
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยตอนนี้พวกเขาจงอิน เซฮุน และคุณหนูแบคฮยอนของบ้านอยู่ในรถยนต์คันหรู ที่ออกมาแบบมาเพื่อป้องกันลูกกระสุนอย่างดีทั้งกระจกและตัวรถ
“แบคฮยอนอยากไปเที่ยวไหนครับ หืม” จงอินถามแบคฮยอนที่นั่งอยู่เบาะหลัง จงอินมีหน้าที่ขับรถเพราะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ค่อนข้างจะใจเย็นละมีสติมากกว่าเซฮุนที่มักจะใจร้อน มีอารมณ์ฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดง่าย ถึงแม้ทั้งสองคนจะต่างกันอย่างไร แต่ถ้าพูดเรื่องการต่อสู้หรือการป้องกันตัวล่ะก็ พวกเขาสูสีกันอย่างไม่มีใครยอมใครแน่นอน
ส่วนเซฮุนนั่งเบาะข้างคนขับ ไม่ใช่ว่าเซฮุนขับรถไม่เป็น แต่ก็นั้นแหละอย่างที่บอก เขาเป็นคนใจร้อน อีกอย่างเลยคือขี้เกียจ ให้ไอ้หมีดำหน้าง่วงเป็นคนขับไปนั้นแหละ
“ตอนนี้กี่โมงแล้วฮะ” แบคฮยอนยื่นหน้าตัวเองไปอยู่ช่องว่างตรงกลางระหว่างเบาะ มือทั้งสองเกาะขอบเบาะซ้ายขวาไว้กันหน้าทิ่ม
“พึ่งจะสิบเอ็ดโมงเองแบคฮยอน นอกจากแดดจะร้อนแล้วเวลานี้ก็คงยังไม่มีที่ไหนน่าไปนอกจากห้าง กับสวนสนุก” เซฮุนตอบเสียงห้วนเล็กน้อย พลางหันหน้ามองแบคฮยอนเล็กน้อยแล้���หันกลับไปหน้าตรงเหมือนเดิม
“ทำไมเซฮุนต้องทำเสียงห้วนแบบนั้นด้วยอะ ยังไม่หายโกรธแบคฮยอนอีกหรอฮะ” อะไรอ่ะ เขาก็แค่ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นตัวใหม่แค่นี้เอง ยังไม่หายโกรธกันอีกหรอ จะไปเที่ยวไม่ได้ไปทำงานซะหน่อย ทำไมต้องแต่งตัวเป็นระเบียบขนาดนั้น ไปเที่ยวมันก็ต้องทำตัวสบายๆสิ จริงไหม
“…”
“โอเซฮุนนี่! อย่าเงียบใส่แบคฮยอนนะ!!” คนตัวเล็กแหวใส่ร่างสูงที่นั่งทำหน้าตายไม่หันมามองมาคุยกับเขา ปากเล็กเบะออกอย่างเอาแต่ใจคิ้วขมวดเข้าหากันจนเป็นปม
ทั้งจงอินและเซฮุนแอบขำในใจกับความหงุดหงิดเอาแต่ใจของแบคฮยอน ถึงจะโกรธแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังเรียกโอเซฮุนนี่อยู่ดี นี่โกรธกันแล้วจริงๆใช่หรือเปล่า เป็นการโกรธที่น่ารักเหลือเกิน แต่หลังจากนี่คงไม่น่ารักแล้วล่ะ เมื่อมีเสียงของเนื้อมือประทับที่แขนขวาอย่างแรงของเซฮุน
เพี๊ยะ! เพี๊ยะๆๆ!
“ย่าาห์ นี่แหน่ะๆๆ” มือเรียวที่เคยบอกว่าสวยตอนนี้ได้แปลงกลายเป็นฝ่ามือออรหันต์ฟาดลงที่ต้นแขนหนาไม่ยั้งแทน
“โอ๊ะ!” เซฮุนร้องอย่างตกใจที่ตัวเองโดนตี ขอคืนคำที่บอกว่าแบคฮยอนน่ารักเมื่อกี้!
“แบค แบคฮยอนครับหยุด���่อน หยุดตีไอ้เซฮุนก่อนนะคนเก่ง เซฮุนมันจับแล้วเห็นไหมนั้น” จงอินรีบผละมือข้างซ้ายไปจับมือเรียวที่กำลังฟาดต้นแขนอีกคนรวบมาไว้ทางฝั่งของตัวเองกันไม่ให้ตีลงไปอีก
“ก็จงอิน จงอินดูเซฮุนสิฮะ”
“ครับๆ จงอินรู้แล้ว แต่เซฮุนมันเจ็บแล้วไงครับ เจ็บมากๆแล้วนั้น แบคฮยอนไม่สงสารมันหรอ” ร่างหนาพูดอย่างใจเย็น แบคฮยอนน่ะเหมือนไฟเวลาไม่ได้ดั่งใจตัวเอง หรือเอาแต่ใจแบบเมื่อกี้ ต้องใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ไอ้เซฮุนมันก็รู้นั้นแหละ แต่ก็ยังทำมึนตึงไม่สนใจ เพราะหลังจากนี้มันจะต้องโดนอ้อนแบบมากๆไงล่ะ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร ไอ้คนเจ้าเล่ห์!!
เซฮุนหันไปมองแบคฮยอนที่เริ่มอ่อนลงจากคำพูดของไอ้จงอินเพื่อนสนิทหมีดำหน้าง่วงนั้น เขารู้ว่าแบคฮยอนไม่ชอบให้เมินใส่ แต่เขาเลือกที่จะเมินเพื่อหวังอะไรที่มันมากกว่านี้ รู้จักไหม อดเปรี้ยวไว้กินหวานน่ะ ก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับไอ้จงอินแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เพียงเสี้ยววิก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับที่หน้าตัก
ฟึ่บ!
แบคฮยอนที่สำนึกผิดขืนมือออกจากการกอบกุมของจงอินได้ก็ข้ามจากเบาะหลังมาเบาะหน้า ย้ายตัวเองมานั่งตักหันหน้าเข้าหาคนตัวสูงแทน แขนเล็กโอบกอดรอบคอของอีกฝ่าย ซบหน้าลงกับลาดไหล่อุ่น
“เซฮุนฮะ แบคฮยอนขอโทษฮะ เจ็บมากไหม” แบคฮยอนพูดเสียงแผ่ว พลางใช้มือซ้ายลูบแขนเซฮุนข้างที่ตัวเองตีเบาๆ
เซฮุนทำเพียงมองคนตัวเล็กซบหน้าลงกับไหล่เขาอย่างออดอ้อน เอาจริงๆก็หายโกรธไปตั้งนานแล้ว แต่เวลาแบคฮยอนอ้อนมันก็เป็นอะไรที่น่ารักมากๆเหมือนกัน อ้อ! อีกอย่างคือเขาอยากแกล้งไอ้จงอินมันเฉยๆที่ไม่ได้โดนคนตัวเล็กอ้อนแบบนี้ เพราะแค่เห็นคุณหนูเริ่มเบะปากก็ใจอ่อนเข้าไปโอ๋แล้ว
“โอเซฮุนนี่… ตอบแบคฮยอนหน่อยสิฮะ อย่าเงียบใส่กันแบบนี้ เซฮุนก็รู้ว่าแบคฮยอนไม่ชอบให้เงียบใส่ แบคฮยอนง้อแล้วนะฮะ” แก้มนิ่มที่เคยอยู่เฉยๆตอนนี้ถูไปมาเบาๆที่ไหล่เพื่อจะให้อีกฝ่ายตอบกัน ละแน่นอนว่าเซฮุนไม่ใช่คนใจร้ายที่จะโกรธคนตัวเล็กได้นานขนาดนั้น แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว
“เซฮุนหายโกรธแบคฮยอนแล้วครับ เซฮุนไม่โกรธแล้ว” คนตัวสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมลูบศีรษะทุยคนตัวเล็กเบาๆ ส่วนแขนอีกข้างก็กอดเอวเล็กไว้
“แล้วแบคฮยอนรู้ไหมครับว่าเซฮุนโกรธแบคฮยอนเรื่องอะไร”
“โกรธที่แบคฮยอนให้เปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดาใช่ไหมฮะ”
“อันนั้นก็นิดนึง แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอกนะ แบคฮยอนจำได้มั้ยว่าตอนนั้นตัวเองพูดกับจงอินเซฮุนยังไง”
“อ่า แบคฮยอนตะคอกใส่แล้วก็ทำตัวไม่น่ารักกับจงอินเซฮุน…” แบคฮยอนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ก็ตอนนั้นสองคนนี้ขัดใจเขาอะ ละด้วยความที่เป็นคนเอาแต่ใจ มันก็เลยเผลอไปบ้าง แต่เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆนี่หน่า
“ทำผิดแล้วต้องทำไงครับ หืม” จงอินเป็นฝ่ายถาม หลังจากให้สองคนนั้นง้องอนกันคุยกันจนเหมือนลืมไปแล้วว่าไม่ได้อยู่กันสองคน เขาก็นั่งขับรถอยู่ตรงนี้ ฮัลโหล~ ยังเห็นเขาอยู่หรือเปล่า ไอ้เซฮุนนี่ได้ทีก็เอาใหญ่ คอยดูเถอะ จะเอาคืนให้หนักกว่านี้เลย นี่มันก็แค่อ้อนเลเวลเบสิคเท่านั้นแหละ
“ฮือ แบคฮยอนขอโทษฮะ แบคฮยอนจะพยายามไม่ทำตัวไม่น่ารักแบบนั้นอีกแล้ว”
“น่ารักมากครับ วันนี้รถติด เราไปเดินห้างแล้วตอนเย็นไปเมียงดงกันแบบนั้นโอเคไหมครับ” เซฮุนบอกพลางใช้มือลูบศีรษะทุยที่ซบอยู่บนอกเบาๆ หลังจากที่ดูการจราจรตอนนี้ที่เดี๋ยวขยับไปได้นึดนึงละก็ติดไปอีกยาว ละก็หยุด คงจะไปไหนไม่ได้ไกลมาก
“อ..อือ โอเคฮะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงงัวเงียเหมือนจะหลับ ก็บอกแล้วว่าเมื่อคืนน่ะรอสองบอดี้การ์ดทั้งคืน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน รู้แค่ว่ามันดึกมากคงจะตีหนึ่ง-ตีสองได้ บวกกับการโดนลูบหัวจากมืออุ่นของเซฮุนและแอร์ที่เปิดเบาๆมันทำให้เขาเคลิ้มเหลือเกิน
“จ..จงอินฮะ”
“หืม ว่าไงครับคนเก่ง” จงอินตอบเสียงนุ่ม ร่างหนาละสายตาจากจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนด้านหน้า มาสนใจคนตาปรือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ที่นั่งอยู่บนตักของบอดี้การ์ดผิวขาวอย่างโอเซฮุน
“น้องแบคฮยอน งึม ง่วงฮะ” คนตัวเล็กพยายามฝืนตอบร่างหนา ถึงแม้ว่าจะหลับขนาดไหนก็ขอให้ได้บอกจงอินก่อน มันติดเป็นนิสัยไปแล้วเพราะทุกคืนจงอินจะเป็นคนเล่านิทานให้เขาฟัง กอดเขาจากด้านหลัง พอคล้ายว่าตัวเองจะหลับก็จะบอกก่อนว่าตัวเองง่วงแล้ว
“งั้นน้องแบคฮยอนนอนนะครับ ถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก” ฟังไม่ผิดหรอกที่แทนตัวเองว่าพี่ กับไอ้เซฮุนเองก็ด้วย แล้วแบคฮยอนแทนตัวเองว่าน้อง เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กที่รู้จักกันแล้วก็เริ่มสนิทกัน คุณหนูของบ้านน่ะต่อให้ดื้อ เอาแต่ใจสักแค่ไหน แต่เวลาง่วงก็เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้น เหมือนตอนเด็กๆไม่มีผิด
จงอินกับเซฮุนยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ก่อนทั้งสองจะหอมหัวคนตัวเล็กที่หลับปุ๋ยไปแล้วคนละทีอย่างแผ่วเบา เมื่อคืนคงไม่ได้นอนเพราะรอพวกเขาทั้งคืนอย่างที่เจ้าตัวบอกมา
อ้อ! อีกอย่างนึง ถึงเขากับเซฮุนจะแย่งกันอยากให้แบคฮยอนง้อ ออดอ้อนใส่ใครมากกว่ากัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ถูกกัน จะแย่งกันหรือทำดีต่อหน้าแบคฮยอนนะ มันก็แค่ความรู้สึกหมั่นไส้เท่านั้นแหละ สุดท้ายแล้วไม่ว่าใครจะได้แบบไหนมากกว่าน้อยกว่า ตราบใดที่ยังเป็น อู๋ แบคฮยอน คนที่พวกเขาทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งเป็นห่วง จะได้มากน้อยก็ไม่สำคั���อยู่ดี
♡♡♡
“แบคฮยอน แบคฮยอนตื่นได้แล้วครับคนเก่ง ถึงห้างแล้ว” เซฮุนกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูเล็กของแบคฮยอน หลังจากที่คนตัวเล็กหลับไปก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกว่าจะผ่านพ้นการจราจรที่แสนจะติดขัดบนท้องถนนได้ ตอนนีัเป็นเวลาที่ยงกว่าๆจวนจะบ่ายโมงเขาต้องปลุกแบคฮยอนให้ตื่นแล้วพาไปทานข้าวไม่งั้นเจ้าตัวจะงอแงไม่อยากจะทานข้าวห่วงแต่จะเดินเล่นจนลืมแน่นอน
“น้องแบคฮยอนครับตื่นได้แล้วนะ” จงอินพูดขึ้นมาบ้างเมื่อแบคฮยอนยังคงนอนนิ่งไม่กระตุกกระติกหรือพูดอะไรออกมามีเพียงลมหายใจที่สม่ำเสมอและใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับใหลอย่างเป็นสุข บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังนอนอย่างมีความสุขเพียงใด แต่ไม่ได้ ยังไงก็ต้องปลุกให้ตื่น
“แบคฮยอนตื่นครับ” เซฮุนปลุกอีกทีด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าเดิม
“อือออ อีกแปปนึงได้มั้ยฮะ”
“ไม่ได้ครับ” เซฮุนตอบทันทีที่คนตัวเล็กพูดจบ
“เซฮุนนี่ใจร้าย ขออีกแปปนึงนะฮะ นะ..” แบคฮยอนขุดลูกไม้การอ้อนที่มีมาใช้กับคนตัวสูง
“หนึ่ง”
“...”
“สอง”
“สา--”
“ตื่น! แบคฮยอนตื่นแล้วฮะ” ยังไม่ทันที่เซฮุนจะนับถึงสามคนตัวเล็กที่นอนซบไหล่อยู่ในตอนแรกก็ดีดตัวเองขึ้นนั่งตาสว่างหายง่วงอย่างเป็นปลิดทิ้ง
♡♡♡
“จงอินฮะ” แบคฮยอนที่เดินกอดแขนร่างหนามาตลอดทางตั้งแต่ลงจากรถเรียกจงอินเสียงแผ่ว
“ครับ?” จงอินมองหน้าคุณหนูตัวเล็กพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าเจ้าตัวเรียกเขาทำไม
“แบคฮยอนว่าเราไปเดินกันสองคนได้ไหมฮะ”
“ทำไมละ หืม”
“ฮื่อ จงอินดูหน้าเซฮุนสิ แบคฮยอนกลัวอะ..” คนตัวเล็กเบะปากออกเล็กน้อยเมื่อพูดจบ ก็ดูบอดี้การ์ดผิวขาวของเขาทำหน้าสิ ใบหน้าคมเข้มที่เวลาปกติก็ดูน่ากลัวอยู่แล้วยิ่งเวลาไม่สบอารมณ์ยิ่งทำให้ดูเรียบนิ่งเหมือนยักษ์ที่พร้อมอาละวาดเข้าไปอีก
แบคฮยอนกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้เลยทำได้เพียงเดินเกาะแขนบอดี้การ์ดผิวเข้มมาตั้งแต่ลงจากรถจนตอนนี้ จงอินที่พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ก็นึกอะไรดีๆขึ้นมาในหัวทันที เมื่อตอนอยู่บนรถมันทำอะไรกับเขาไว้ล่ะ ได้เวลาเขาเอาคืนไอ้คนหน้านิ่งนี่แล้วสินะ หึ!
“ไปสิครับ งั้นเราไปเดินกันสองคนเนอะ แบคฮยอนยังไม่ได้ทานข้าวหนิ เราไปหาอะไรทานกันเนาะคนเก่ง” เอ่ยออกมาเสียงดังนิดหน่อยที่พอให้ได้ยินไปถึงบุคคลที่สามที่ยังทำหน้าตายกอดอกเหมือนไม่สนใจอะไร แต่เมื่อพูดจบใบหน้านิ่งที่ไม่สนใจอะไรหันมามองพร้อมจ้องหน้าเขาเขม่งอย่างจะฆ่าจะแกงกันทันที
จงอินทำเพียงยักไหล่ใส่อย่างไม่แคร์ว่าไอ้เซฮุนจะมองเขาด้วยสายตาเฉือดเฉือนกันขนาดไหน ก่อนจะเปลี่ยนจากที่แบคฮยอนกอดแขนในตอนแรกให้มาจับมือประสานเข้าด้วยกันแล้วเดินไปหาร้านอาหารที่คนตัวเล็กชอบทาน
♡♡♡
ภายในร้านอาหารเจ้าอร่อยเจ้าเดิมที่คุณหนูแบคฮยอนชอบ ทุกครั้งที่ได้มาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้จำเป็นต้องมาทานร้านนี้ทุกครั้ง เนื่องจากมีอาหารมีรสชาติอร่อยและถูกปากแบคฮยอน เลยเลือกมาทานร้านนี้แทนการไปลองร้านอื่นเพราะกลัวว่ารสชาติจะไม่ถูกปากแล้วทำให้ความรู้สึกในการอยากอาหารลดลงไป
ขนาดร้านเป็นขนาดพอดีกับพื้นที่ไม่กว้างมากและไม่ใหญ่จนเกินไป พนักงานและการบริการจัดว่าดีในทีเดียวสำหรับพวกเขาทั้งสามคน แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าในการมาครั้งนี้ไม่มีใครคนหนึ่งทำหน้าเหมือนยักษ์จะอาละวาดแผ่รังสีความน่ากลัวออกตลอดทางที่เดินมาร้านอาหาร แม้แต่ตอนเข้าร้านมาก็ยังไม่เลิกทำหน้านิ่ง จนหญิงสาวหลายคนที่อยู่ในร้านมองเพราะสะดุดตาในความหล่อคมเข้มต้องเบนสายตาหนีเพราะมองนานจนคนโดนมองรู้สึกได้แล้วหันไปเห็นพอดี แต่นั่นแหละ เพราะวันนี้เจ้าตัวดันอารมณ์ไม่ดีจึงไม่ได้ยิ้มให้กลับตามมารยาทดั่งทุกครั้ง
“แบคฮยอนครับ” จงอินเรียกคนข้างกายตัวเอง ตั้งแต่เข้ามานั่งในร้านสั่งอาหารจนเรียบร้อยแล้วคนตัวเล็กก็ยังไม่ปริปากพูดอะไรออกมาอีก สงสัยจะกลัวเซฮุนจริงๆ ไอ้นี่ก็ไม่รู้จะทำหน้านิ่งไปอีกนานแค่ไหน เห็นแล้วเมื่อยหน้าแทน เขาจะรอดูว่ามันจะทนทำหน้านิ่งไม่คุยกับคุณหนูที่แสนน่ารักขี้อ้อนขนาดนี้ได้นานแค่ไหนกันเชียว
“ฮะ” ขานรับเสียงแผ่วแล้วหันหน้าไปมองคนที่เรียกตน
“มีอะไรติดผมแหน่ะ เดี๋ยวจงอินเอาออกให้นะ” มีแกร่งยกขึ้นมาจะหยิบสิ่งที่ติดผมออกให้คนตัวเล็ก แม้ว่าความจริงมันจะไม่มีอะไรติดก็ตาม เขาก็แค่อยากลองใจคนปากแข็งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันกับแบคฮยอนนิดหน่อยเท่านั้นเอง หากแต่แค่นั้นมันก็ไม่สนุกน่ะสิ
“เหมือนจะเป็นแมลงแต่ตัวมันเล็ก จงอินมองไม่เห็นเลยครับ ขยับมาใกล้ๆหน่อยสิคนเก่ง”
“แมลงหรอฮะ!!” แบคฮยอนอ้าปากทำตาอย่างตกใจเมื่อจงอินบอกว่ามีแมลงติดผม คุณหนูแบคฮยอนผู้กลัวแมลงทุกชนิดรีบขยับตัวเข้าไปใกล้บอดี้การ์ดหนุ่มผิวเข้มทันที พร้อมซบหน้าลงกับอกแข็งแรงด้วย เนื่องจากโต๊ะที่เลือกอยู่ด้านในสุดของร้านดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคนมากนักทำให้ไม่ค่อยมีคนเห็น
“ใช่ครับ อยู่นิ่งๆนะ เดี๋ยวมันหนีเข้าไปในเสื้อ” ใบหน้าหล่อก้มลงมองหาแมลงปลอมๆแถวไรผมช่วงต้นคอของคนตรงอก แต่หางตาก็เหลือบมองบอดี้การ์ดอีกคนไปด้วย
“ฮื่อ จงอินเอามันออกไปหรือยังฮะ”
0 notes
Text
[KAIBAEK] KISS KISS KISS Special Chap. - Morning Kiss Cut Scene
ริมฝีปากบางบดเบียดกลีบปากนุ่มที่สัมผัสเกือบทุกวันอย่างโหยหา พวกเขาไม่ได้จูบกันมากี่วันแล้วนะ
จากเพียงจูบแผ่วเบากลับกลายเป็นร้อนแรงเมื่อมือหนาเลื่อนมาบีบคลึงสะโพกสวยไปพร้อมกัน ริมฝีปากร้อนเผยออ้าออกแล้วลากลิ้นสัมผัสกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือหนาข้างหนึ่งยกประคองลำคอสวย เอียงหน้ารับจูบให้แนบแน่น เสียงดังจาบจ้วงไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุด แต่กลับเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาให้ลิ้นร้อนฟาดฟันกันหนักขึ้น
ริมฝีปากหนาดึงดูดอย่างเอาแต่ใจ ไม่ได้สนใจน้ำใสที่ไหลเปรอะที่ขอบปาก ต่างฝ่ายต่างบรรเลงรสจูบ กะเอาให้ตายกันไปข้าง ดูดดึงร้อนแรงแต่ก็มีที่ผ่อนแรงให้จังหวะอ่อนโยนเข้ามาแทนที่
แบคฮยอนถดลิ้นหนีออกมาด้านนอกราวกลับจะกลั่นแกล้ง แต่ก็เพียงอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศให้ลิ้นได้มาสัมผัสกันนอกโพรงปากบ้างเท่านั้น
ริมฝีปากบางดูดดึงลิ้นหนาของจงอินเสียงดังก่อนจะหัวเราะอย่างขบขันเมื่อจงอินกระทำคืนบ้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรัวลิ้นฟาดกันอย่างถี่กระชั้นนอกโพรงปาก
ฝ่ามือหนาที่เคยอยู่ที่สะโพกก็ถดเลื่อนเข้าไปในเสื้อนอนตัวบางไล้วนอยู่แถวแผ่นหลังก่อนจะขยับลง สอดลึกไปในกางเกงนอนที่ไร้ซึ่งชั้นใน
แบคฮยอนเองก็ไม่ยอมแพ้ มือเรียวสวยสัมผัสไปทั่วแผ่นอกของคนรัก ก่อนจะลากสะเปะสะไปลงไปใต้กางเกงผ้า กอบกุมส่วนกลางลำตัวที่มักจะดึ๋งดั๋งอยู่ทุกเช้า แอบบดเบียดสะโพกให้แนบชิด บ้างก็ยกก้นตามมือหนาที่คลึงไม่ยอมปล่อย
“อืม… ตัวเล็กครับ… จัดการนี่ให้หน่อยสิครับ” นิ้วเรียวยาวถูกจ่อไว้ที่ริมฝีปากบาง น้ำใสที่เคลือบริมฝีปากไว้ทำเอาจงอินอยากกดจบหนักๆไปอีกซักรอบ แต่คงไม่ทันในเมื่อหมาน้อยของเขารับนิ้วสามนิ้วของเขาเข้าปากสวยไปเรียบร้อย ลิ้นเล็กลากเลียไปทั่วนิ้วยาว ดูดดึงเพลิดเพลินราวกับขนมหวาน
คุณหมีที่ครางอื้ออึงเพราะมือสวยยังคงขยับรูดรั้งด้านล่างและลิ้นเล็กที่ไล่เลียไปตามข้อนิ้วแทบจะหายใจติดขัด แค่ลองคิดดูว่าถ้าเป็นลิ้นเล็กๆนั่นกับความอุ่นร้อนในโพรงปากที่ครอบครองส่วนล่างไว้ เจ้าหนูของเขาก็ฟิตปั๋งซะยิ่งกว่าเก่า
ส่วนคนตัวเล็กก็ไม่ต่างกัน สะโพกงอนยกสูงยามที่นิ้วเรียวยาวอีกข้างลากผ่านช่องทางรัก ส่วนด้านหน้าก็พยายามบดเบียดกับส่วนเดียวกันของอีกผ่ายจนต้องซู้ดปาก นิ้วยาวที่ขยับอยู่ในโพรงปากเองก็ทำให้รู้สึกดี แต่หากเปลี่ยนจากนิ้วยาวเป็นอย่างอื่นแทนก็คงจะดี
แบคฮยอนจุดยิ้มมุมปาก ดึงนิ้วยาวออกจากริมฝีปากก่อนจะกดจูบจงอินเร็วๆ ขยับตัวดึงกางเกงนอนของตัวเองทิ้งไว้ข้างเตียงก่อนจะพลิกตัวกลับหันหน้าไปทางปลายเตียง แล้วเอียงสะโพกเข้าไปใกล้หน้าคนรัก
“หึหึ” จงอินหัวเราะในลำคอเมื่อรู้จุดประสงค์ของคนน่ารัก หมาน้อยของเขาซนไม่เคยเปลี่ยน นิ้วยาวที่ชโลมไปด้วยน้ำใสสะกิดเบาๆที่ช่องทางรัก ลูบไล้ไปมาราวกับจะขออนุญาต ช่องทางที่ขมิบตอบรับมันยั่วยวนซะเขาทนไม่ไหวต้องสอดนิ้วยาวเข้าไปสำรวจ
“อา…” คนตัวเล็กที่ตั้งท่ารออยู่แล้วครางอย่างสุขสม แต่แค่นิ้วน่ะมันไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่ามันยังไม่ถึงเวลาเพราะตอนนี้น่ะเป็นเวลาของออเดิร์ฟ
แบคฮยอนปล่อยให้คุณหมีรุกล้ำเอกราชทางด้านหลังไป ส่วนเขาน่ะ ตอนนี้ขอจัดการน้องหมีตรงหน้าก่อนละกัน กางเกงของคุณหมีที่ยังไม่ได้ถอดออกไปเขาก็จะคาไว้อย่างนี้ละกัน อะไรที่แกล้งคนตัวสูงได้เขาก็จะแกล้ง
มือเรียวสวยไล้มือไปตามความยาวของสัดส่วนตรงหน้าผ่านเนื้อผ้า ความยาวแข็งขืนพาดเอียงไปทางซ้ายเขาก็จับโยกมาตรงๆ ลูบไล้ขึ้นลงแผ่วเบาแต่เน้นหนักตรงส่วนปลายราวกลับจะกลั่นแกล้งคนที่แทงนิ้วเข้าออกอยู่ที่ส่วนหลัง แบคฮยอนซู้ดปากยาวตอนที่นิ้วยาวสอดลึก เด้งสะโพกสวนกลับยามนิ้วยาวสวนแทงเข้ามา
แต่มือเรียวสวยก็ยังไม่ยอมแพ้ จับๆลูบๆคลำๆจนส่วนนั้นของคุณหมีแทบจะแทงทะลุเนื้อผ้า
“อา… แบคฮยอนครับ… อืม…” แบคฮยอนยกยิ้มเมื่อลองลากลิ้นสัมผัสไปตามความยาวแล้วร่างสูงครางออกมาอย่างพอใจ แต่จะเรียกว่าพอใจก็ไม่ได้ ในเมื่อแบคฮยอนยังไม่ได้ทำในสิ่งที่จงอินต้องการ
“ฮิฮิ จงอินรู้ไหมครับว่าเช้าๆเนี่ยเราต้องกินอะไร” แบคฮยอนดึงขอบกางเกงนอนของร่างสูงลงต่ำ ค่อยๆเลื่อนตามลิ้นเล็กที่ลากเลียจากปลายสู่โคนจนกางเกงเลื่อนไปกองที่หน้าขา แอบกัดเบาๆตรงกล้ามเนื้อแน่นตรงต้นขาให้จงอินเจ็บเล่น คนขี้แกล้งหัวเราะคิกคักเมื่อคนตัวสูงสะดุ้งแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นครางเสียงดังเมื่อถูกคนด้านล่างแก้แค้นด้วยริมฝีปากชื้นที่กำลังครอบครองแก่นกายของเขาอยู่
แบคฮยอนกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ หันไปมองคนที่ทำตาทะเล้นใส่ทั้งที่ยังอมส่วนนั้นไว้ในปาก ส่งสายตาฟาดฟันกันกลางอากาศก่อนแบคฮยอนจะหันกลับมาเอาคืนกับส่วนร้อนตรงหน้า
ต่างคนต่างปรนเปรอให้อีกฝ่าย แกล้งขบกัดต้นขาบ้าง แกล้งเร่งจังหวะรัวเร็วแล้วผ่อนกะทันหันบ้าง แต่หากก็ทำมันด้วยความรักและความสุขที่แผ่กระจายอยู่รอบเตียง
“อือ… อืม…” แบคฮยอนครางอย่างพอใจเมื่อลิ้นร้อนไล่เลียถูกจุด มือเรียวสวยกอบกุมความยาวขยับขึ้นลง ริมฝีปากบางครอบทับส่วนหัว ลิ้นเล็กไล่เลียไปตามรอยหยัก ดูดดึงจนเกิดเสียก่อนจะละริมฝีปากออกมา แต่มือเรียวก็ยังคงขยับถี่เร็วไม่ยอมหยุด
“อ๊า… จงอิน…” คนตัวเล็กครางกระเส่าเมื่อคนตัวสูงแกล้งดูดส่วนปลายของเขาแรงๆ ก่อนจะลากลิ้นร้อนผ่านช่องทางด้านหลังให้แบคฮยอนเสียวเล่น
“แบคฮยอน..อา… ใกล้แล้ว… อืม..” จงอินครางเรียกชื่อคนตัวเล็กไม่ยอมหยุดเมื่อริมฝีปากบางกดจบตรงส่วนปลาย เขาใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มทีแล้ว ไม่ต่างกับของคนตัวเล็กที่ร้อนได้ที่ เตรียมปล่อยความสุขออกมา
“อื้ม… จงอินยังไม่ตอบ.. เลยนะ อ่ะ… ว่าตอนเช้า… ต้องกินอะไร..” แบคฮยอนถามทั้งที่ลิ้นเล็กยังไล่เลียไปทั่วส่วนปลายรับน้ำรักขาวขุ่นที่���ริ่มแฉะเข้าปากอย่างไม่นึกรังเกียจ
จงอินละปากออกมาตอบว่าไม่รู้ให้คนตัวเล็กได้ยิ้มกริ่ม
‘หึ เจอหมัดนี้เข้าไป นายน็อคแน่จงอิน’
มือเล็กขยับรูดแก่นกายใหญ่เร็วขึ้น ริมฝีปากยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัดแล้วก้มหน้ารับน้ำรักของคนรักอย่างไม่รังเกียจ
“กินนมไงล่ะ นมตราหมีดีต่อสุขภาพนะ”
จงอินกระตุกอย่างแรงเมื่อได้ฟังคำตอบ ท่าทางยั่วยวนของคนรักใช่ว่าจะไม่เคยเจอ แต่ไอ้ท่าทางกับคำพูดยั่วยวนที่มาพร้อมกันนี่ทำเอาหัวใจเต้นหนัก มันทั้งเขินอายทั้งสุขสมทั้งอยากสัมผัสคนตัวเล็กเร็วขึ้น แต่ก่อนจะสัมผัสคนตัวเล็ก เขาก็ปล่อยให้คนน่ารักจัดการกินนมสมใจ
โอ๊ยยยย จงอินคงตายเร็วขึ้นซักสิบปี ถ้าคนตัวเล็กของเขายังน่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้
อ่านต่อได้ที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=968577&chapter=3
5 notes
·
View notes
Photo
ปกฟิคคุณชายนี่วาดสุดฝีมือ - -" พึ่งจะเคยทำตัวโตๆแบบนี้ครั้งแรกก็แปลกดี
ชอบสีแนวหวานๆแบบนี้จัง ใสๆสมฟิคเราจริงๆ
cr:R-mazaya-Ne'
#คุณชายใบชา#จงอิน#ไค#เซฮุน#โอเซอุน#ดีโอ#คยองซู#โด้#โดคยองซู#ชานยอล#ชยอล#ไคฮุน#เซไค#ชานโด้#ชานซู#jongin#sehun#oh sehun#kim jongin#chanyeol#park chanyeol#do kyungsoo#kyungsoo#DO#kaihun#chansoo#chando#sekai#exo#exo k
5 notes
·
View notes
Photo
จงอินอ่าา ~ <3
16 notes
·
View notes
Text
[SF]My First love is You-KAIBAEK
“หมีงินน~~~” คนตัวเล็กเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของชายหนุ่มผิวสีเข้มอย่าง ‘คิม จงอิน’ หรืออีกชื่อที่ไว้ใช้กับคนที่สนิทเรียกคือ ‘ไค’
ตอนนี้กำลังนอนหลับตาอยู่บนเตียงฟังเสียง���ฟนตัวเล็กเรียกชื่อเขาอยู่ ก็คือน้องแบค หรือ ‘แบคบี อู๋ แบคบี’ เด็กผู้หญิงตัวเล็กที่เป็นเจ้าของหัวใจของจงอินเพียงคนเดียว
คิม จงอิน ชายหนุ่มผิวสีเข้มทายาทห้างK ONE ย่านกังนัม เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลคิม ในวัยเพียงยี่สิบห้าปี นักธุรกิจไฟแรง ที่อายุยังน้อย แต่ความสามารถไม่น้อย ด้วยบุคลิกสุขุม มาดนิ่ง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสาวมาชอบอยู่ดี
ส่วนอู๋ แบคบี หญิงสาวอายุสิบแปดปี ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลอู๋ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์นาฬิกาอย่าง WU BRAND ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียวทุกคนจึงค่อนข้างตามใจกันซะส่วนใหญ่ แต่ก็ยกเว้นไว้คนนึงคือ ‘อู๋อี้ฟาน’ หรืออีกชื่อที่ไว้ใช้กับคนสนิทว่า ‘คริส’
“พี่ไคขาา น้องบีอยากไปช็อปปิ้ง พาน้องบีไปหน่อยนะคะ” แบคบีพูดด้วยน้ำเสียงสดใส พร้อมกับดึงผ้าห่มให้คนผิวเข้มหงายตัวมาหาเขา
จงอินนอนหงายหันหน้าไปมองแบคบีที่นั่งทำหน้าตาน่ารัก อ้อนเขาให้พาไปช็อปปิ้ง “ตัวเล็กอยากไปช็อปปิ้งไหนครับ เดี๋ยวเค้าพาไป” “น้องบีอยากไปห้างค่ะ! ไปหาอะไรทาน ไปเที่ยวกับพี่ไค” คนตัวเล็กพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เปร่งประกาย แล้วซบหัวลงไปบนอกแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของแฟนหนุ่ม
จงอินลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มที่วางแหมะอยู่บนอกของตัวเอง แล้วยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบน่าเอ็นดูของแฟนตัวเล็ก “คิสๆกันก่อนครับ เดี๋ยวเค้าไปอาบน้ำแล้วเราไปช็อปปิ้งกัน” แบคบีฉีกยิ้มกว้าง พร้อมรับคิสอันหอมหวานจากจงอินอย่างเต็มใจ “ฮื่ออ คิสเค้านานไปแล้ว ลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ!” จงอินหัวเราะร่วนกับท่าทางน่ารักของคนตัวเล็ก ยกมือขึ้นสองข้างพร้อมกับพนักหน้าขึ้นลง อย่างยอมแพ้ ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้แฟนตัวเล็กนั่งงอแง หูแดงด้วยความเขินอาย
คนผิวเข้มเดินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่พบคนตัวเล็กอยู่ในห้องแล้ว เลยเดินไปแต่งตัว และออกไปดูด้านนอก เห็นแ���นตัวเล็กของตัวเองนั่งหน้าบูดอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี จงอินเลยนั่งลงข้างๆสอดแขนไปโอบเอวเล็กไว้ “ตัวเล็กเป็นอะไรครับ งอนอะไรเค้า หื้ม” “ฮื่ออ! งินแกล้งน้องบี คิสๆทีไรลามปามทุกทีเลย” พูดจบก็จัดการตีลงไปที่แขนแกร่งของจงอิน “โอ้ยๆ! ตัวเล็กครับไม่เอานะ ไม่ตีเค้า" แล้วรวบแขนเล็กๆทั้งสองข้างแนบไว้ที่หน้าอกเนินนูนตามประสาเด็กผู้หญิงวัยสิบแปดปีของแบคบี “ก็ปากตัวเล็กจะหอมหวานน่าจูบเองทำไมครับ แบบนี้เค้าก็ทนไม่ให้ไม่ลามปามไม่ได้สิ” เขาพูดออกมาหน้าตาเฉย ถ้ามองที่แก้มของแบคบีดีๆ ก็จะเห็นแก้มที่เคยขาวบัดนี้มันขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ด้วยความเขินอายจากคำพูดตรงไปตรงมาของแฟนหนุ่มผิวเข้ม
“หมีงินคนหื่น!” เนื่องจากเถียงคนโตกว่าไม่ได้ เลยพูดออกไปตามใจคิด “หื่นก็รักน้องบีคนเดียวนะครับ” พร้อมกับฟัดแก้มยุ้ยๆนั้นไปหนึ่งที “งืออ พอแย้วว” คนตัวเล็กยู่หน้าลงจนปากจู๋ ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งน่ารัก คนผิวเข้มเลยจุ้บลงไปที่ปากสีสดนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว “งึ้ย งินอ่าา” กล่าวเสียงน่ารักแล้วเอนศีรษะลงไปซบกับอกแกร่งของจงอิน “หื้ม ว่าไงครับตัวเล็ก แล้วไหนบอกจะไปช็อปปิ้งไงคะ นี่ก็บสิบโมงครึ่งแล้วนะ เมื่อไหร่จะไปแต่งตัว หืม” เอ่ยเสียงอ่อนโยนพลางลูบศีรษะทุยบนอกไปด้วย “พี่ไคอุ้มน้องบีไปหน่อยได้เปล่าคะ” ว่าเสียงอ่อยก่อนจะเงยหน้ามองคนผิวเข้ม ส่งสายตาหวานเพื่ออ้อนแฟนตัวสูงให้อุ้มเธอไปแต่งตัว “มองกันแบบนี้ ใช้สายตาแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ทำอย่างอื่นแทนไปช็อปปิ้งหรอกค่ะน้องหนูแบคบีคนดี”
0 notes