Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
เราเที่ยวด้วยกัน เริ่มแล้ววันนี้
เราเที่ยวด้วยกัน เริ่มแล้ววันนี้ รายละเอียดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 กรอบวงเงินรวม 22,400 ล้านบาท โดยรัฐให้การสนับสนุนที่พักในอัตราร้อยละ40 ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับ E-Voucher คืนละ 600 บาท (สูงสุด 5 คืน ) พร้อมสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินในอัตราร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสาร แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 ก.ค. และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 ก.ค.นี้
คุณสมบัติผู้รับสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” คุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ์ แพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” โดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” มาเตรียมไว้
ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 แบบไม่จำกัดจำนวน คือ เข้ามากี่ล้านคนก็ได้ โดยลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวัน จากนั้นจะต้องรอ SMS ยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วต้องรีบเข้าไปจองโรงแรม หรือโฮมสเตย์ เพราะสิทธิ์ดังกล่าวมีจำกัดแค่ 5 ล้านคืนเท่านั้น ดังนั้น ใครได้รับสิทธิ์แล้ว จะต้องรีบไปจองทันที เช่นเดียวกับสิทธิ์การได้รับเงินคืนจากตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ที่จำกัดไว้แค่ 2 ล้านใบ
จำกัดสิทธิ 2 ล้านใบ ใครใช้ก่อนมีสิทธิ์ก่อน และการได้สิทธิ์ตั๋วเครื่องบิน ต้องผูกกับการจองห้องพักผ่านระบบเท่านั้น ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 2 ใบต่อ 1 ห้องพัก ผู้รับสิทธิ์จะต้องจ่ายเงินไปก่อน เมื่อบินแล้วต้องมาแจ้งขอคืนเงิน โดยจะมีการโอนเงินคืนให้ ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน การร่วมรับสิทธิ์ส่วนนี้ต้องรีบเข้ามาลงทะเบียนเพราะจำกัดแค่ 2 ล้านใบ ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้ดูแลระบบ คาดว่า จะเริ่มมีการเข้าพักครั้งแรก จากโครงการนี้วันที่ 21 กรกฎาคม 2563
เงื่อนไข “เราเที่ยวด้วยกัน” 1. มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย 2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน 3. ประชาชนจะได้รับสิทธิ์เมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเองเท่านั้น
การใช้สิทธิ์ โรงแรม สำหรับการจองโรงแรม และใช้สิทธิ์นั้น สามารถทำเป็นกรณี คือ กรณีเข้าพักคนเดียว จองสิทธิ์เต็มทั้ง 5 คืน ในครั้งเดียวเลยก็ได้ หรือ กรณีจองสะสมไว้ 5 คืน แต่คนละสถานที่ เช่น พักเชียงใหม่ 1 คืน ภูเก็ต 1 คืน และพัทยา 3 คืน และกรณีจอง 1 คืน แต่ 5 ห้องพัก เพื่อไปเที่ยวกับญาติ หรือ เพื่อนก็สามารถทำได้ และเมื่อได้จองเสร็จแล้ว ต้องจ่ายเงินผ่าน แอปเป๋าตัง โดยจ่ายแค่ 60% และเมื่อจ่ายเงินแล้วจะยกเลิกไม่ได้
การใช้สิทธิ์ส่วนลดร้านอาหาร จากนั้น ก็เดินทาง ไปเที่ยว และ เช็กอิน เมื่อเช็กอินแล้วจะได้รับ E-Voucher 600 บาทต่อคืน ซึ่งจะผูกกับการจองห้องพัก เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดในการกินอาหารในร้านค้าที่ร่วมโครงการ จากนั้นเมื่อเช็กเอาต์แล้ว E-Voucher จะหมดอายุ เวลา 23.59 น. ภายในวันนั้น โดยสามารถนำมาใช้จ่ายในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการในระหว่างทางที่กลับบ้านจังหวัดใดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ร้านอาหารในที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน
วิธีการลงทะเบียน www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com 1. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 2. อ่านและกดยอมรับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ 3. กรอกข้อมูลและยืนยันรหัส OTP ที่ได้รับทางข้อความ SMS บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจากมาจากผู้ส่งชื่อ “TTogether” 4. รอ SMS แจ้งผลการลงทะเบียน ภายใน 3 วันหลังยืนยันการลงทะเบียน 5. ดาวน์โหลด ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบนแอพพ์เป๋าตัง สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมี G-Wallet เพื่อเตรียมใช้จ่ายสำหรับโครงการ
ขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่าน แอปเป๋าตัง หลังจากได้รับ SMS แล้ว 1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ผ่าน Google Play Store หรือ App Store 2. เมื่อเปิดแอพพ์ขึ้นมา ให้เลือก G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน (กรณีลงทะเบียนแล้ว เลือก เข้าใช้งาน G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน กรณียังไม่ได้ลงทะเบียน เลือก ลงทะเบียน G-Wallet) 3. ยอมรับข้อตกลงการให้ข้อมูลและยินยอมให้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล 4. ยืนยันด้วยบัตรประชาชน 5. ทำการสแกนบัตรประชาชน 6. ยืนยันรหัส OTP จากเบอร์มือถือที่ผูก เป๋าตัง 7. สแกนใบหน้า 8. เข้าสู่หน้าหลัก และ เริ่มการใช้งาน
ช่องทางการจองโรงแรม-ที่พัก 1. Online Travel Agency (OTA) ได้แก่ Agoda , Traveloka 2. Website โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ (ถ้ามี) 3. www.เราเที่ยวด้วยกัน.com โดยไปที่ค้นหากิจการโรงแรม 4. ช่องทางติดต่ออื่นๆ ที่โรงแรมมี เช่น Line , Facebook , เบอร์โทรศัพท์ Cr.ไทยรัฐ,ฐานเศรษฐกิจ,The Bangkok insight
0 notes
Text
วิธีทํา “เจลล้างมือ” ไม่ยาก ป้องกัน ไวรัสโควิด-19
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแจกสูตรทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือด้วยตัวเอง เพื่อให้ประชาชนนำสูตรเหล่านี้ไปทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือใช้ ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด และแอลกอฮอล์เจลหาซื้อได้ยาก หรือบางที่ถือโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายแพงกว่าปกติ โดยมีราย ละเอียดและขั้นตอนต่อไปนี้
ส่วนประกอบ เจลล้างมือ 1.น้ำร้อนจำนวน 142.75 กรัม 2.เอทิลแอลกอฮอล์ 95 % จำนวน 350 กรัม 3.คาร์โบพอล 940 จำนวน 2.5 กรัม 4.ไตรเอทาโนลามีน จำนวน 1.75 กรัม 5.กลีเซอรีน จำนวน 3 กรัม
หมายเหตุ ส่วนผสมเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านเคมี สำหรับทำเครื่องสำอางทั่วไป
วิธีทำ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 1.ค่อยๆ เทคาร์โบพอล 940 ลงในน้ำร้อน คนให้สม่��เสมอจนละลายหมด ก่อนจะปล่อยให้พองตัวเต็มที่ 2.เติม 95 % เอทิลแอลกอฮอล์แล้วคนไปเรื่อยๆ ให้เข้ากัน 3.เติมไตรเอทาโนลามีน เพื่อปรับความเป็นกรดด่าง 4.เติมกรีเซอรีน เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 5.คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นเราจะได้แอลกอฮอล์เจลประมาณ 500 กรัม นำไปใส่ภาชนะที่สะอาดและปิดสนิท
ใช้เจลล้างมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้หากจะใช้แอลกอฮอลล์ล้างมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 2 ครั้ง โดยเริ่มถูที่บริเวณฝ่ามือ ครั้งละ 20 วินาที จากนั้นปล่อยให้แห้งเอง และในระหว่างในไม่ควรสัมผัสสิ่งของใดใด เป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 นาที
ติดต่อสอบถาม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นอกจากนี้กรมวิทยาศาสตร์บริการ ให้บริการถ่ายทอดความรู้วิธีการ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ให้แก่ชุมชนและบุคคลทั่วไป ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถาม กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร สำนักเทคโนโลยีชุมชน เบอร์โทรศัพท์ 02-201-7301 หรือ 02-201-7179 ได้ในเวลาราชการ
Cr.Sanook, Facebook Doctor D,chiangmainews,PPTVHP36
0 notes
Link
คลิปรีวิวการใช้งาน เครื่องอ่าน QR Code ควรปรับคุณภาพวีดีโอเป็น 1080P HD ในการรับชม
0 notes
Photo
เครื่องอ่าน QR Code
ใหม่ล่าสุดอออกแบบล้ำหน้าทั้งซอฟแวร์และตัวอุปกรณ์ ผู้นำด้านประสิทธิภาพการใช้งานและความคุ้มค่าราคา อ่านบาร์โค้ดและอ่าน QR Code รวดเร็วและแม่นยํา (ทั้ง 1D และ 2 D) ถึงแม้นบาร์โค้ดจะชำรุดหรือพิมพ์ออกมาไม่ดีพอก็สามารถอ่านได้ ที่จับถูกออกแบบให้กระทัดรัดและกระชับมือใช้งานง่ายเพียงเสียบสาย USB เข้ากับเครื่องคอมฯ เปิดโปรแกรมที่มีเคอร์เซอร์กระพริบอยู่ เช่น MS Word, MS Excel, Notpad, Wordpad ฯลฯ สามารถใช้งานได้เลย เครื่องอ่าน QR Code รุ่น MS5100 เหมาะกับการใช้งานบริการ การแพทย์ ห้องสมุด คลังสินค้า ไปรษณีย์ ขนส่งพัสดุ ทรัพย์สิน อุตสาหกรรมการผลิตและจัดจำหน่าย ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง และห้างสรรพสินค้า สินค้าผ่านการรับรองมาตารฐาน FCC และ CE ฯลฯ
คุณสมบัติ เครื่องอ่าน QR Code
เทคโนโลยี Omnidirectional scanners อ่านได้ไว
ประมวลผลด้วย High quality image processing
อ่านได้ง่ายรวดเร็ว แม่นยํา อ่านได้หลายมุมโดยทีไม่ต้องปรับบาร์โค้ด
อ่านบาร์โค้ดและ QR Code บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอมือถือได้
อุปกรณ์ป้องกันแบคทีเรีย
อุปกรณ์ทนทาน มาตรฐาน IP43
รองรับบาร์โค้ด (1D) UPC/EAN, UPC/EAN with supplementals, ISSN, BooklandEAN,UCC Coupon Extended Code, Code128, GS1-128, ISBT 128,Code 39 Full, ASCII,Code93,Code11, Matrix 2 of 5, Code 32, Interleaved 2 of 5, Code 39, Trioptic Code 39,Discrete 2of 5, Codabar, MSI, Chinese 2 of 5, GS1 DataBar, ISBT Concat,Korean 3 of 5, Variants
รองรับ QR code (2D) PDF417,MicroPDF417,ompositeCodes,TLC-39,Data Matrix,Maxicode,QR Code,MicroQR,Aztec ABS
อินเตอร์เฟสผ่าน USB สายยาว 2 m
ใช้ไฟลี้ยง DC +5V ± 5% ( ไฟเลี้ยงจาก USB )
กินกระแสไฟฟ้า 450mA
ขนาด 85(L)x70(W)x180(H)mm
น้ำหนัก 160 g
มาตรฐานความปลอดภัย
Electrical Safety: UL60950-1 2nd ed, CSA C22.2 No. 60950-1 2nd ed, EN60950-1/IEC60950-1 2nd ed. LED Safety: IEC/EN60825-1:2001, IEC/EN62471:2006 EMI/RFI: FCC Part 15 Class B, ICES-003 Class B,EN55022 Class B, EN55024 Environmental: Compliant with RoHS directive 2002/95/EEC
คลิปรีวิวการใช้งาน เครื่องอ่าน QR Code ควรปรับคุณภาพวีดีโอเป็น 1080P HD ในการรับชม
สินค้า 1 ชุด ประกอบด้วย
เครื่องอ่าน QR Code รุ่น MS5100
สาย USB
วิธีใช้
1. เชื่อมต่อ เครื่องอ่าน QR Code เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านช่อง USB
2. เปิดโปรแกรมใดก็ได้ที่มีเคอร์เซอร์กระพริบอยู่เช่น Word, Excel ฯลฯ
3. นำตัวเครื่องไปจ่อไว้ที่บาร์โค้ดหรือ QR Code แล้วกดปุ่มสแกน ข้อมูลที่สแกนได้จะถูกส่งไปยังโปรแกรมที่คุณเปิดไว้
สั่งซื้อสินค้าได้ในราคา 3,670 บาท รวมภาษีแล้ว ฟรีค่าจัดส่ง EMS ทั่วประเทศ
ดูสินค้ารุ่นอื่นเพิ่มเติม >> เครื่องอ่าน QR Code
0 notes
Text
เครื่องอ่านบัตรประชาชน
เครื่องอ่านบัตรประชาชน
รุ่นเสียบบัตรแนวนอน กระทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะสำหรับอ่านบัตรประชาชนเพื่อดึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง เป็นทีนิยมของหน่วยงานราชการ และเอกชนนำไปใช้ตรวจสอบประวัติ นอกจากนี้ยังสามารถอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดที่หน่วยงานต่างๆ เช่น บัตรเครดิ��,บัตรเงินสด,บัตร ATM,บัตร Aeon,บัตรพนักงาน,บัตรนักศึกษา,บัตรเจ้าหน้าที ฯลฯ เป็นต้น สินค้าคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐานสากลจาก CE FCC และ RoHS
คุณสมบัติ
เหมาะสำหรับธนาคาร,ไปรษณีย์ไทย,กรมการปกครอง,หน่วยงานราชการ,หน่วยงานทหาร และบริษัทต่าง ๆ
อ่านบัตรสมาร์ทการ์ดต่างๆ เช่น บัตรประชาชน,บัตรเครดิต,บัตรเงินสด,บัตร ATM,บัตร Aeon,บัตรพนักงาน,บัตรนิสิตนักศึกษา ฯลฯ และ บัตรซิมการ์ดมือถือ
รองรับการใช้งานโปรแกรมทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง และ โปรแกรมอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจต่างๆ และ บริษัทเอกชน
ใช้งานง่าย เพียงเชื่อมต่อเข้าเครืองคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต USB แล้วลงโปรแกรมทะเบียนราษฎร์ หรือโปรแกรมอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ที่คุณใช้งานอยู่ เท่านี้ก็อ่านข้อมูลในบัตรได้แล้ว
ระบบปฎิบัติการ Windows (32/64bit) XP/Vista/ 7/8/10 และ Mac OS X
อ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแบบสัมผัส แรงดันไฟฟ้า 5V, 3V และ 1.8V ได้
รองรับบัตรประชาชนและบัตรสมาร์ทการ์ด มาตรฐาน ISO 7816 Class A,B,C
เครื่องอ่านบัตรประชาชน ได้รับรองมาตรฐานสากลจาก ISO-7816 & EMV2 2000 Level 1, CE, FCC, VCCI, CCID, Microsoft WHQL ฯลฯ
ขนาด : กว้าง 65 มม. x ยาว 84 มม. x สูง 20 มม
สาย USB ยาว 940 มม
สินค้า 1 ชุดประกอบด้วย
เครื่องอ่านบัตรประชาชน รุ่น SCR1
ถาดใส่ซิมการ์ด
คู่มือการใช้งาน
หมายเหตุ : โปรแกรมอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ลูกค้าเป็นผู้จัดหามาเอง
วิธีใช้
เชื่อมต่อ เครื่องอ่านบัตรประชาชน เข้ากับเครื่องคอมฯ ผ่านช่อง USB ไฟแดงที่เครืองติดสักครู่แล้วดับลง
ติดตั้งโปรแกรมอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดที่คุณใช้งาน จากนั้นเปิดโปรแกรมอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด
นำบัตรสมาร์ทการ์ด(หงายบัตร)เสียบเข้ากับเครื่องอ่านบัตรประชาชน ตามลูกศร ไฟแดงติดที่เครืองฯ อีกครั้ง สถานะพร้อมใช้งาน
กดปุ่มอ่านบัตรสมาร์ทการ์ดบนโปรแกรม ข้อมูลในบัตรสมาร์ทการ์ดจะถูกแสดงบนโปรแกรมที่คุณเปิดไว้
สั่งซื้อสินค้าได้ในราคา 450 บาท รวมภาษีแล้ว ฟรี่ค่าจัดส่งสินค้า EMS ทั่วประเทศ
ดูสินค้ารุ่นอื่นเพิ่มเติม >> เครื่องอ่านบัตรประชาชน
0 notes
Photo
#เครื่องตรวจจับโลหะพกพา
รุ่นใหม่กระทัดรัดพกพาสะดวก ตรวจจับโลหะขนาดเล็กได้ไวและรวดเร็ว เครื่องตรวจจับโลหะพกพา มาพร้อมกับแบตเตอร์รีในตัว ชาร์ตด้วยอุปกรณ์มือถือ ตรวจจับโลหะได้นานถึง 150 ชั่วโมง เหมาะสำหรับตรวจจับโลหะวัสดุต้องสงสัยขนาดเล็ก โลหะมีค่า อัญมณี ชิ้นเล็ก ทีซุกซ่อนในร่างกาย เช่น ทอง เงิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตะปู หรือ คลิปหนีบกระดาษ ฯลฯ
คุณสมบัติ เครื่องตรวจจับโลหะพกพา
ใช้งานง่าย เล็กกระทัดรัดสะดวกพกพา น้ำหนักเบา ตรวจพบโลหะได้ไวและรวดเร็ว
ออกแบบด้ามจับเรียบง่ายกระชับมือสวยงามและแผงตรวจจับโลหะขนาดใหญ่
วัสดุทำจากพลาสติกคุณภาพสูง ABS แข็งแรงทนทาน ไม่แตกหักเมือตกลงพื้น
ความถี่การส่งคลืนตรวจจับโลหะ 30KHz
วิธีตรวจจับโลหะได้ 2 แบบ 1) เตือนด้วยเสียง 2) เตือนด้วยการสั่นสะเทือน
ปรั��ระดับความไวการค้นหาโลหะจากสวิสต์บนด้านจับ เพื่อปรับระดับให้เหมาะกับสถานะการณ์และสถานที
ระบบประหยัดพลังงาน ใช้งานได้นานขึ้น กินกระแสไฟน้อย
ชาร์จไฟบ้านด้วย ที่ชาร์จแบตเตอร์รีมือถือ (5V USB) หรือ แบตเตอร์รีสำรอง (Power Bank) ชาร์ตผ่านพอร์ต USB
แสดงสถานะการชาร์จไฟ (สีแดงเมื่อกำลังชาร์จไฟ ,สีฟ้าเมือชาร์จไฟเต็มแล้ว)
ระบบป้องกันไฟเวลาชาร์จแบตเตอร์รี เมือไฟเกิน หรือไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องปิดอัตโนมัติปกป้องความเสียหาย
ระยเวลาสแกนโลหะ 120-150 ชั่วโมง และระยะเวลาสแตนด์บาย 250-300 ชั่วโมง
กินกระแสไฟฟ้า 40-80 มิลลิแอมป์ (เมือใช้งาน)
อุณหภูมิในการทำงาน: -15℃ ถึง +55℃
น้ำหนัก 200 กรัม (รวมแบตเตอรี่ โพลิเมอร์ลิเธียม)
ขนาด : ยาว 320 มม. x กว้าง 70 มม. x หนา 40 มม
แอพลลิเคชั่นที่นำไปใช้
สถานทีต้องการความปลอดภัยสูง เช่น สนามบิน ท่าเรือ รถไฟ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ศาล สถานกักกัน(คุก) ฯลฯ
สถานทีเฝ้าระวัง เช่น ธนาคาร สนามกีฬา โรงพยาบาล โรงเรียน สถานศึกษา สถานทีราชการ อาคารสำนักงาน ฯลฯ
ตรวจค้นโลหะมีค่า ทอง เงิน เช่น โรงงานเเครื่องประดับ อัญมณี โรงงานแปรรูปวัสดุ โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
ตรวจหาโลหะปนเปื้อน เช่น โรงงานแปรรูปอาหาร โรงงานอาหารเสริม โรงงานผลิตยา ฯลฯ
ระยะทางตรวจจับ
เข็มหมุด ในระยะ 30 มม
ปืนพกสั้น ในระยะ 120 มม
มีดยาว 6 นิ้ว ในระย 120 มม
ลูกเหล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 มม. ในระยะ 6 มม
เหรียญบาท ในระยะ 70 มม
สมาร์ทโฟน ในระยะ 120 มม
ไฟแช็ค ในระยะ 70 มม
ตะปู ในระยะ 50 มม
คลิปหนีบกระดาษ ในระยะ 20 มม
สถานะแจ้งเตือน
หลอดไฟสีฟ้า หมายถึง พร้อมใช้งาน
หลอดไฟสีแดงติด พร้อมสัญญาณเสียง หมายถึง ตรวจพบโลหะ
หลอดไฟสีแดงติด พร้อมการสั่นสะเทือน หมายถึง ตรวจพบโลหะ
สินค้า 1 ชุดประกอบด้วย
เครื่องตรวจจับโลหะพกพา รุ่น AHS-806
คู่มือการใช้งาน
สายชาร์ต USB
วิธีใช้1. ชาร์จไฟให้เต็มด้วย อุปกรณ์ชาร์จไฟมือถือ ผ่านพอร์ต USB2. เลื่อนสวิตช์ไปที
สัญลักษณ์ "ลำโพง" แล้วนำไปตรวจโลหะ เมื่อสแกนพบโลหะเครื่องจะส่งเสียงดังพร้อมหลอดไฟสีแดงสว่าง
สัญลักษณ์ "การสั่น" แล้วนำไปตรวจโลหะ เมื่อสแกนพบโลหะเครื่องจะสั่นพร้อมหลอดไฟสีแดงสว่าง
สั่งซื้อสินค้าได้ในราคา 2,150 บาท รวมภาษีแล้ว ฟรีค่าจัดส่งสินค้า EMS ทั่วประเทศดูสินค้ารุ่นอื่นเพิ่มเติม >>
เครื่องตรวจจับโลหะ
0 notes
Text
เครื่องตรวจโลหะ สนามบิน ตรวจพบกรรไกรในช่องท้องของ ผู้โดยสาร เกาหลีใต้
เครื่องตรวจโลห�� สนามบิน ตรวจพบกรรไกรในช่องท้องของ ผู้โดยสาร เกาหลีใต้
หากพูดถึง เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector)แล้ว หลายๆคนคงอาจจะเคยได้ยินได้เห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่อาจมีคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้มีโอกาสสัมผัสและใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่ง เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ถูกนำเข้ามาเพื่อใช้งานตรวจหาโลหะสิ่งแปลกปลอมในสินค้าหรือวัตถุดิบ ใช้สแกนโลหะทางโบราณคดีทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งใช้ตรวจโลหะชั้นสูงจำพวก ทองคำ เงิน เครื่องเพชรพลอย หรืออาวุธที่ติดตัวคน เช่น มีดและปืน โดยเฉพาะในหน่วยงานความปลอดภัยของสนามบินมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทีมีเหตุการณ์สแกนโลหะเจอกรรไกรในท้องของผู้โดยสารเครืองบิน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อตรวจพบโลหะเครื่องจะส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนและหลอดไฟ LED จะแสดงสถานะการตรวจจับให้ทราบ
จุดเริ่มต้นประดิษฐ์ เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) สำหรับต้นกำเนิด เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) นั้นสามารถย้อนกลับไปไกลถึงราวปี คศ. 1820 หรือ พศ. 2363 ตรงกับรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบสนามแม่เหล็กจากการปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวด ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของ เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ที่ใช้ในปัจจุบัน ด้วยหลักการนี้ “อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล” เป็นนัก��ระดิษฐ์คนแรกที่สร้าง เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ได้สำเร็จ แต่จุดประสงค์การสร้างในครั้งนั้น ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย แต่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยชีวิตประธานาธิบดี เจมส์ การ์ฟิลด์ ประธานาธิบดีคนที่ 20 ของสหรัฐอเมริกา จากการถูกลอบยิงในปี 1881 ได้ประดิษฐ์เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector) ค้นหาลูกกระสุนปืนที่ถูกฝังอยู่ในร่างกายมนุษย์โดยอาศัยหลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า นั้นเอง
เครื่องตรวจโลหะ ตรวจพบ “กรรไรผ่าตัด” ในช่องท้องผู้โดยสาร เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector) ยังสามารถสแกนโลหะแปลกปลอมในท้องของคนได้อีกด้วย จากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะผู้โดยสารหญิงชาวเกาหลีใต้ นางปาร์ค อายุ 47 ปี เจ้าของบริษัททัวร์คนหนึ่ง เดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ ทำการตรวจเช็คความปลอดภัยที่สนามบิน เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) กลับส่งเสียงดังตลอด จนเจ้าหน้าที่ของสนามบินต้องเรียกตัวไว้พร้อมทำการตรวจค้นแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด จนเจ้าหน้าที่ต้องทำการเอ็กซ์เรย์ และต้องตะลึง พบวัตถุแปลกปลอมเป็น “กรรไรผ่าตัด” อยู่ภายในท้องของเธอ ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เธอจึงได้นำภาพเอ็กซ์เรย์ไปยื่นต่อโรงพยาบาล ทางแพทย์จึงตกใจและรีบทำการผ่าตัดเอากรรไกรนี้ออกให้ทันที
โรงพยาบาล เกาหลีใต้ ลืม “กรรไรผ่าตัด” ในช่องท้องคนไข้ ปลายปีที่แล้ว นางปาร์คเคยเข้ารับการผ่าตัดไขมันในช่องท้องที่โรงพยาบาลในเมืองซูวอน จังหวัดคยองกี เกาหลีใต้ ซึ่งการผ่าตัดแพทย์ครั้งนั้นแพทย์ได้ลืมกรรไกรผ่าตัดอันนี้ไว้ในท้องของเธอ หลังจากผ่าตัดเธอรู้สึกเจ็บเหมือนเข็มทิ่มแทงที่ท้อง จึงไปสอบถามแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ทางแพทย์ก็ไม่ได้จัดการใดๆ ให้ บอกคนไข้ว่าเป็นผลจากหลังการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้วหลังจากสิ้นสุดการผ่าตัดทีมแพทย์ผ่าตัดจะต้องมีการนับจำนวนเครื่องมือในการผ่าตัดด้วยว่ายังมีครบหรือไม่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการผ่าตัดครั้งนั้นทีมแพทย์ไม่ได้ทำตามขั้นตอนพื้นฐาน ปัจจุบันนางปาร์คได้ว่าจ้างทนายความยื่นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว โชคดีทีนางได้เดินผ่าน ระบบรักษาความปลอดภัยและ เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) สแกนโลหะก่อนขึ้นเครื่องบิน จึงได้ตรวจพบเจอสาเหตุที่นางปวดท้องบ่อย ๆๆ
Cr.สนุก
0 notes
Text
รักษาความปลอดภัย ระดับโลก ประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ณ เวียดนาม
รักษาความปลอดภัย ระดับโลก ประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ณ เวียดนาม
ผลความสำเร็จการเจรจร นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือและคณะที่มาประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สองกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ณ บ้านพักรับรองของรัฐบาลเวียดนามหรือโรงแรมเมโทรโปล ประเทศเวียดนาม เมื่อเป็นคนสำคัญระดับที่ใครต่อใครก็เรียกขานว่าผู้นำโลกมาตรการรักษาความปลอดภัยจึงเข้มงวดมากเป็นขั้นซุปเปอร์ระดับโลก ต่างก็มีพื้นฐานมาจากการวางระบบรักษาปลอดภัยที่ใช้ปฏิบัติกันอย่างจริงจัง หลายเรื่องราวที่เราๆอาจเคยเห็นในหนังแอคชั่นหลายต่อหลายเรื่องจนบางทีต้องอุทานออกมาว่า ทำขนาดนั้นเชียว
กล้องวงจรปิด เครื่องตรวจจับโลหะ สุนัขดมกลิ่น เริ่มจากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในเส้นทางและสถานที่ที่ผู้นำคนสำคัญต้องพำนัก เดินทางผ่าน หรือประกอบกิจกรรมตามคำเชิญ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวทุกจอในห้องควบคุม การตรวจสอบก่อนผู้นำเดินทางมาถึงนั้น ชุดล่วงหน้าจะเข้าสแกนพื้นที่ทั้งหมดอย่างละเอียดด้วย เครื่องตรวจจับโลหะ ดีที่สุด (Metal Detector) รวมทั้งเช็กลูกบิดประตู ท่อแอร์ สายไฟ ปลั๊กไฟ ต่างๆ เป้าหมายก็เพื่อตรวจหาอุปกรณ์การดักฟัง หรือกล้องบันทึกภาพ หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นใดที่ไม่ควรมี นอกจากนี้ยังใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อการอารักขา การเดินทางเยือนของผู้นำทั้ง 2 ประเทศในครั้งนั้น
เส้นทางการเดินทางมาเวียดนาม นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิมออกเดินทางที่สถานีรถไฟเปียงยางพร้อมคณะเจ้าหน้าที่อาวุโส รวมทั้งคิม โยจง น้องสาวของเขา ขบวนรถไฟกันกระสุนของเขาเข้าจีนที่เมืองต้านตง จากนั้นแล่นไปตามรางรถไฟของจีน ผ่านกรุงปักกิ่ง ลงไปยังเมืองเจิ้งโจว เมืองอู่ชาง เมืองหนานหนิง แล้วเข้าเวียดนามที่เมืองด่งดัง จากนั้นเปลี่ยนเป็นนั่งรถเบนซ์กันกระสุนมุ่งหน้าเข้ากรุงฮานอยที่อยู่ห่างออกไป 170 กิโลเมตร แต่ละช่วงของการเดินทางแน่นอนว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดดังกล่าวข้างต้นช่วยป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดได้ฉับพลัน รวมทั้งติดตั้งและสแกนโลหะ พร้อมเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยทีมาพร้อม เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) เพื่อตรวจความปลอดภัยแต่ละช่วงของการเดินทาง
รถไฟกันกระสุน & ตระกูลนายคิม จองอึน เหตุทีผู้นำเกาหลีเหนือไม่ขึ้นเครืองบินแต่กลับนั่งรถไฟกันกระสุนและรถกันกระสุน เพราะตระกูลคิมตั้งแต่รุ่นนายคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและปู่ของนายคิม จองอึน จนถึงนายคิม จองอิล บิดาของนายคิม และตัวเขาล้วนชอบการเดินทางด้วยรถไฟ ขบวนรถไฟของนายคิมคล้ายกับที่ปู่และบิดาเคยใช้ มีทั้งหมด 21 ตู้ขบวน มีตู้ประชุมสีขาวล้วน ตู้รับประทานอาหาร ตู้นอน บางตู้มีชุดเก้าอี้หนังสีชมพูเข้ม จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่และผ้าม่านหน้าต่างสีงาช้าง รถไฟขบวนพิเศษนี้เชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม แล่นบนรางรถไฟจีนได้สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกือบสองเท่าของที่ทำความเร็วได้สูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อแล่นบนรางรถไฟเกาหลีเหนือ
คณะผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่อารักขา ความปลอดภัย ระดับโลก ส่วนคณะผู้ติดตามที่เหลือเดินทางมาเวียดนามด้วยเครื่องบินลำเลียงของแอร์โครยอที่เป็นสายการบินแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายราว 100 คนที่ตัดผมและแต่งกายเหมือนกันหมดตบเท้าลงจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานฮานอยก่อนหน้าที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะเดินทางมาถึงเพื่ออารักขาและเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด นอกจากนี้เครื่องบินลำนี้ยังขนรถเบนซ์รถกันกระสุน ที่นายคิมใช้เมื่อซัมมิตครั้งแรกกับทรัมป์ที่สิงคโปร์เมื่อก่อนหน้านี้มาแล้ว กลุ่มทหารในชุดลายพรางพร้อมเครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ดีที่สุด ครบมือกระจายทั่วบริเวณนั้น ทหารอีกหลายกลุ่มเร่งติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสื่อสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ บนหลังคาอาคารใกล้เคียง โดยมีตาข่ายลายพรางคลุมอุปกรณ์ไว้
ผลสำเร็จ ประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ณ เวียดนาม ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการการอารักขาผู้นำทั้ง 2 ประเทศ จะว่าไปแล้วการเป็นบุคคลสำคัญที่ชีวิตมีผลกระทบ��่อความเป็นไปของโลก ก็ดูจะลำบากเหลือเกิน แต่ประเทศเจ้าภาพอย่างเวียดนามก็คงงานหนักเอาเรื่อง เพราะคงไม่อยากให้มีเหตุการณ์อะไรไม่ดี มาเกิดขึ้นกับคนสำคัญในบ้านเมืองของตนเองด้วยเหมือนกัน จึงได้จำเป็นต้องเสริมมาตราการความปลอดภัยให้มั่นใจว่าประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สอง ประสบผลสำเร็จ และเป็นประวัติศาสตร์สำหรับประเทศเจ้าภาพ
Cr.สำนักข่าวไทย,Spring News
0 notes
Text
โตเกียวติดตั้ง เครื่องตรวจโลหะ รถไฟใต้ดิน รองรับ โอลิมปิก 2020
โตเกียวติดตั้ง เครื่องตรวจโลหะ รถไฟใต้ดิน รองรับ โอลิมปิก 2020
ในสนามบินใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เริ่มมีการติดตั้ง เครื่องตรวจโลหะ ชนิด เครื่องสแกนร่างกาย (Full Body Scanner) ที่ผู้โดยสารต้องเข้าไปยืน ยกมืออยู่นิ่งๆ สักพัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูผลการสแกนจากหน้าจอ เครื่องสแกนร่างกายนี้ สามารถตรวจจับโลหะได้ละเอียดขึ้น ไม่เพียงเฉพาะโลหะเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจหาวัตถุอื่นๆ ที่ไม่ใช่โลหะ ที่ซ่อนอยู่ตามร่างกายได้ด้วย ให้ความแม่นยำสูง เครื่องสแกนร่างกายถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายขึ้นหลังโศกนาฏกรรม 9/11 ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นจะทดลองติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายผู้โดยสาร ที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว เพื่อเตรียมความพร้อมความปลอดภัยก่อนหน้ามหกรรมโตเกียวโอลิมปิก 2020
ติดตั้งเครื่องสแกนร่างกาย ตรวจจับโลหะ รถไฟใต้ดิน โตเกียวเมโทร รถไฟใต้ดิน โตเกียวเมโทร ติดตั้งเครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) โดยจะเริ่มติดตั้งที่สถานีคาซูมิกะเซกิ ของเส้นทางรถใต้ดินโตเกียวเมโทรก่อน หนึ่งในสถานีที่คับคั่งที่สุดในกรุงโตเกียว โดยจะติดตั้งเครื่องสแกนที่ประตูตรวจตั๋ว เป็นเวลา 7 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งเวลาเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในช่วงเช้าและเย็น เพื่อทดสอบว่าจะสามารถตรวจจับอาวุธและวัตถุระเบิดที่แอบแฝงมากับผู้โดยสารได้หรือไม่ หน้าจอเครื่องโลหะจะบอกทุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ตามร่างกายป้องกันการแอบเอาวัตถุแปลกปลอมขึ้นรถไฟใต้ดิน โดยไม่ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารติดขัดหรือเกิดความล่าช้า
เครื่องสแกนร่างกาย & เครื่องตรวจโลหะ เครื่องสแกนร่างกายตรวจโลหะ มีข้อดีกว่าเครื่องตรวจโลหะทั่วไป ตรงที่มีความแม่นยำ และมีความรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องถอดแจ็กเกตออกก็ได้ ลดการเสียเวลาของการตรวจค้นร่างกายด้วย เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ไปได้มาก ทั้งการตรวจค้นร่างกายด้วยเครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) และ ตรวจผ่าน เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) หากเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจ ก็จะมีการตรวจค้นอีกครั้ง ด้วย เครื่องตรวจโลหะแบบพกพา และใช้มือค้นตามร่างกาย เป็นการตรวจตามมาตรฐานสากล
ออกกฎ ห้ามนำมีดและของมีคม ขึ้นรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner)นี้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในสนามบิน สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ซุกซ่อนในเสื้อผ้าได้ทั้งหมด มีประสิทธิภาพสูงกว่า เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ทั่วไป กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า การทดลองครั้งนี้เพื่อรวบรวมข้อมูล เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดแทงผู้โดยสารบนรถไฟความเร็วสูงชิงกังเซ็ง เมื่อปีที่แล้ว ทางกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นจึงได้สั่งออกคำสั่งห้ามนำมีดและของมีคมที่ไม่มีปลอกห่อหุ้มขึ้นรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้
ความเป็นส่วนตัว สำหรับ การใช้เครื่องสแกนร่างกาย วัตถุที่สามารถใช้ในการก่อเหตุร้ายได้ ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นอาวุธที่มีส่วนประกอบของโลหะ จึงส่งผลต่อวัตถุโลหะทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องถือติดตัวไปด้วย ทั้งหัวเข็มขัด กระเป๋าสตางค์ เหรียญต่างๆ พวงกุญแจ นาฬิกาข้อมือ รองเท้าบางประเภท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องสแกนร่างกายก็มีความวิตกกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว กระทรวงคมนาคมจึงแจ้งว่า ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะผ่านเครื่องสแกนก็สามารถใช้ทางเข้าที่ประตูอื่นทีใช้เจ้าหน้าทีตรวจวัตถุด้วย เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ส่วนประตูที่ติดตั้งเครื่องสแกนนั้น ผู้โดยสารเพียงแค่เดินผ่านตามปกติ ไม่ต้องหยุด และไม่มีการสแกนสัมภาระ โดยคาดว่าจะในระยะทดลองนี้จะมีผู้โดยสารราววันละ 150,000 คน
ยกระดับความปลอดภัย ก่อน กีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า กำลังศึกษามาตรการ���ละอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยก่อนที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก จำเป็นต้องติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจโลหะ เช่น เครื่องตรวจโลห แบบพกพา เหมาะสำหรับตรวจรักษาความปลอดภัยบุคคล เพื่อตรวจจับโลหะทีเป็นอาวุธและอุปกรณ์ทีมีส่วนผสมของโลหะ เช่น มีด ปืนพก วัตถุระเบิด เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ และ ติดตั้ง เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) ตามสถานีรถไฟต่าง ๆๆ สามารถที่จะแจ้งเตือนได้อัตโนมัติหากพบวัตถุที่มีหน้าตาเหมือนกับที่ระบบได้โปรแกรมไว้ เช่น ปืน, มีด, มีดพับ, กรรไกร, ลูกกระสุน, ฯลฯ บนหน้าจอ รวมถึงวัตถุเสมือนระเบิด หรือวัตถุที่อาจเป็นส่วนผสมของระเบิด ที่ผู้โดยสารอาจนำไปประกอบเป็นระเบิดได้ในภายหลัง
Cr.ผู้จัดการ,Spin9.me
0 notes
Text
สแกนเอกสารลงคอม ง่ายนิดเดียว
สแกนเอกสารลงคอม ง่ายนิดเดียว
ในแต่ละวัน ภาคธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ ได้สร้างเอกสารใหม่ขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งมีแนวโน้มว่ายังคงจะมีมากขึ้นๆ และต้องการพื้นที่เพื่อการจัดเก็บเอกสารเหล่านี้ โชคดีที่ เครื่องสแกนแบบพกพา (PORTABLE SCANNER) ในปัจจุบันสามารถแก้ปัญหานี้ได้สามารถสแกนเอกสารลงคอม เลือกสแกนได้ทั้งเอกสารและรูปภาพสีหรือขาวดำ บันทึกไฟล์เป็น jpg และ pdf มาพร้อมกับแผ่น CD ซอฟแวร์ OCR ที่ช่วยให้คุณสามารถแปลงรูปภาพหรือเอกสารที่มีตัวอักษรอยู่ สามารถนำไปแปะลงบนโปรแกรม Microsoft Word และสามารถแก้ไขตัวอักษรได้เองอย่างสะดวก ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
สแกนเนอร์ & ไฟล์รูปภาพ มันแน่นอนว่า คุณสามารถสแกนเอกสารลงคอมของคุณได้ แต่สแกนเนอร์ทำได้เพียงผลิตไฟล์รูปภาพ (image) ซึ่งเป็นเพียงวิธีการจับข้อมูลอักขระที่ถูกพิมพ์ไว้บนเอกสารกระดาษ ที่ซึ่งไม่สามารถทำการแก้ไขข้อความ โดยใช้โปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วๆไป เช่น Notepad เป็นต้นได้ แต่เจ้าตัวซอฟแวร์ OCR คือเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้เพื่อแยก��้อมูลจำพวกอักษร/อักขระออกมาจากฟอร์มเอกสารที่เป็นรูปภาพ และจากนั้นก็นำมาสร้างเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นใหม่ที่เสมือนถูกทำซ้ำมาจากเอกสารต้นฉบับดังกล่าว
โปรแกรมแปลงไฟล์ OCR ซอฟต์แวร์ OCR นี้ อนุญาตให้คอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูลตัวอักษรที่ผ่านการสแกนเอกสารลงคอมด้วย เครื่องสแกนแบบพกพา (PORTABLE SCANNER) โดยสามารถแยกข้อมูลชนิดข้อความออกจากข้อมูลชนิดรูปภาพ และองค์ประกอบรูปแบบประเภทอื่นๆได้ สามารถเรียนรู้ และวิเคราะห์ข้อมูลชนิดตารางได้ และอื่นๆ หลังจากกระบวนการการรู้จำข้อมูลเสร็จสมบูรณ์ คอมพิวเตอร์จะประกอบข้อมูลใหม่ทั้งเอกสาร ที่มีรูปร่างหน้าตาของโครงสร้างเอกสารจะคล้ายกับเอกสารต้นฉบับเลยทีเดียว! แถมยังเอื้อให้สามารถเกิดการแก้ไขรูปแบบ ตัวอักษร ขนาดของข้อมูลภายในเอกสารที่ถูกสร้างใหม่นี้ได้ด้วย ซึ่งวิธีการนี้ส่งผลให้เกิดความสะดวกมากกว่าวิธีการดั่งเดิมที่ต้องพิมพ์ข้อมูลลงไปในเอกสารใหม่ ด้วยมือ
สแกนเอกสาร PDF & JPG เพื่อให้เห็นภาพของ พลังความสามารถของเจ้าซอฟแวร์ OCR นี้ ให้เราดูที่ตัวอย่างจริง โดยจินตนาการถึง สถานีตำรวจที่มีบันทึกข้อมูลทางอาญาทั้งหมดเก็บไว้ในตู้เอกสารขนาดใหญ่มาก ถึงแม้ว่าการสแกนเอกสารลงคอมจากเอกสารนับล้านแผ่น จะมีต้นทุนราคาที่ค่อนข้างแพง และใช้เวลาเป็นอย่างมาก แต่ประโยชน์ที่ได้จากการใช้ เครื่องสแกนแบบพกพา (PORTABLE SCANNER) สแกนเอกสารเหล่านี้กลับมีค่าอย่างมหาศาล เมื่อได้เจ้าซอฟแวร์ OCR นี้มาช่วยงาน มาทำการแปลงไฟล์ pdf และ jpg ที่ได้จากสแกนเนอร์แล้วสามารถแปลงรูปภาพหรือเอกสารที่มีตัวอักษรอยู่ ให้กลายเป็นข้อความซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถอ่าน และเข้าใจได้
ประหยัดเวลา ค้นหาไฟล์เอกสาร ยกตัวอย่างเช่น พนักงานสืบสวน สามารถค้นหาข้อมูลประวัติอาญากรรมทั้งหมดได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งในทางกลับกัน หากต้องค้นหาระเบียนข้อมูลข้างต้นด้วยตนเอง ด้วยวิธีดั่งเดิม คือค้นหาตามแฟ้มเอกสาร อาจจะไม่ยากเกินไปนัก แต่ละนึกดูว่า หากพนักงานสืบสวนต้องค้นหาทุกระเบียนอาญากรรมที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 8.00 ถึง 8.30 เข้าจะทำอย่างไร และนี่ก็เหตุผลเดียวที่หลาย ๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้มีสแกนเอกสารลงคอมเพื่อการจัดเก็บเอกสารขึ้นบนคอมพิวเตอร์ที่สามารถแก้ไขเอกสารที่ได้จากสแกนเนอร์โดยผ่านเจ้าตัวผู้ช่วยอย่าง เจ้าซอฟแวร์ OCR นี้ ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรบุคคลได้เป็นอย่างมาก
Cr.เอ็นทูเอ็น โซลูชั่น
0 notes
Text
เครื่องตรวจจับโลหะ โรงพยาบาลชลบุรี
เครื่องตรวจจับโลหะ โรงพยาบาลชลบุรี
ความเลือดร้อนของคนเรานั้น มักเกิดให้เห็นค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ย��่งมีโลกโซเชียลฯ ให้ระบายได้ทุกเรื่อง เราก็เลยได้เห็นคลิป หรือภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท เห็นความป่าเถื่อนชัดเจน อย่างกรณีเมื่อปี 59 ช่วงเดือน มิ.ย. คลิปที่ถูกพูดถึงทั่วโลกออนไลน์ วัยรุ่นยกพวกตีเละในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลชุมพร โชคดีที่ หมอ หรือ พยาบาล ไม่โดนลูกหลงไปด้วย ถ้าหากไม่โชคดี...มีใครถูกลูกหลง คนเจ็บก็จะเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เผลอๆ คนที่เจ็บเพิ่ม อาจจะเป็นหมอ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ รวมถึงญาติคนไข้ เพราะพักหลังเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล เกิดขึ้นให้เห็นบ่อย
ความปลอดภัยของหมอ พยาบาล คลิปเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ แล้วเป็นห่วงความปลอดภัยของหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ต้องเผชิญกับภาวะทางอารมณ์ต่างๆ เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อารมณ์ของญาติแต่ละคนไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลชลบุรี โดย นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผอ.โรงพยาบาลชลบุรี มีแนวทางป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายในโรงพยาบาล จึงมีโครงการติดตั้งระบบความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าทีโรงพยาบาล อาทิ เช่น ประตูไฟฟ้า เครื่องตรวจจับโลหะ สแกนวัตถุโลหะตรวจอาวุธ เช่น มีด ปืนพก เป็นต้น แนวคิดนี้คุณหมอบอกว่า ตรงตามมาตรฐานหลักสากล การจัดแวดล้อมในห้องฉุกเฉินให้ปลอดภัย
โรงพยาบาลชลบุรี & เครื่องสแกนโลหะ
โรงพยาบาลชลบุรีมีเครื่องสแกนอาวุธ ก่อนเข้า ER (ห้องฉุกเฉิน) ประกอบไปด้วย เครื่องตรวจจับโลหะ อุปกรณ์สำหรับใช้งานด้านรักษาความปลอดภัยเหมาะสำหรับใช้ตรวจค้นโลหะหรืออาวุธพกพา เช่น มีด ปืนพก เป็นต้น ใช้สำหรับตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เช่น สนามบิน, ท่าเรือ, ศูนย์การค้า, ศูนย์แสดงสินค้าต่างๆ ฯลฯ เครื่องตรวจจับโลหะ มีปลอกหนังหุ้มสามารถใช้ยึดกับเข็มขัดพกพาสะดวก ใช้งานง่ายใส่ถ่าน 9V เปิดสวิตช์ตรวจจับโลหะได้ทันที สามารถตั้งการแจ้งเตือนได้ทั้งแบบสั่น และแบบสัญญาณเสียง ป้องกันการนำอาวุธเข้าห้องฉุกเฉิน เช่นเดียวกับสนามบิน
ห้องฉุกเฉินอุ่นใจ นอกจากมีเครื่องตรวจจับโลหะ แล้วยังมี ประตูอัตโนมัติ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ���ากคีย์การ์ด (Key Card) ไร้สายระยะไกล ป้องกันกันญาติและคู่อริวิ่งเข้ามาในห้องฉุกเฉิน และ ไม้กระดกกั้นประตู ยกอัตโนมัติ แบบเดียวกับทางด่วน กันคนไปยืนออหน้าประตู และบังคับให้เดินผ่านเครื่องตรวจโลหะ และอาวุธ ห้ามนำโลหะเข้ามา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะก่ออันตราย แม้กระทั่งพฤติกรรมญาติบางราย ใช้เก้าอี้ในห้องฉุกเฉินทุ่มใส่หมอ พยาบาล ที่ใช้กันแพร์หลายใน สนามบิน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานทูต ศูนย์การค้า ศูนย์การแสดงสินค้า และการใช้งานในที่ต่าง ๆ ที่มีความต้องการความปลอดภัยสูง ซึ่งเรื่องนี้ช่วยให้หมอ พยาบาลที่ทำงานในห้องฉุกเฉินอุ่นใจมากขึ้น
ความปลอดภัย 24 ชม. ผอ.โรงพยาบาลชลบุรีกล่าวเพิ่มเติมว่าทำแล้วต้องให้ครบวงจร มีรปภ. 24 ชม. ญาติจะเข้าได้เฉพาะคนที่ให้ข้อมูล ไม่มารุมมาตุ้มเหมือนที่เราเห็นภาพกันชินตา เมื่อตรวจอาวุธด้วยเเครื่องตรวจโลหะแล้ว ถ้ารปภ.ไม่สแกนบาร์โค้ดด้วยเครื่องอ่านบาร์โค้ดที่ประตูอีกชั้น ก็ยังเข้าไปไม่ได้ ส่วนไม้กั้นจะเปิดเมื่อเวรเปลเข็นผู้ป่วยเข้ามา ระยะ 10 เมตร เครื่องจะทำงานโดยอัตโนมัติ สแกนบัตรที่เวรเปลใช้คล้องคออยู่ด้วยระบบไฟฟ้า จะเข้าไม่ได้ก็ต่อเมื่อบัตรหาย ลืมบัตร และมีห้องพักญาติ คลายความตึงเครียด ต้องมีระบบเรียกญาติด้วย
โรงพยาบาล แห่ง ความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หนึ่งความคิดเห็นจาก พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา แนะนำว่า ห้องฉุกเฉินวันนี้ ไม่ใช่ที่ๆ ปลอดภัยสำหรับทุกคน จากเดิมเป็นที่รักษาคนไข้ฉุกเฉิน วันนี้บางที่เป็นที่พบความขัดแย้ง ระหว่างคู่อริบุกทำร้ายคนไข้ หรือญาติเมายา สุรา เตะหมอ แทงพยาบาล ข่มขู่ด้วยอาวุธ การมีมาตรการความปลอดภัยมากขึ้นในโรงพยาบาลบางแห่ง ตอบโจทย์ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อยากให้ผู้บริหารเห็นความสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะในห้องฉุกเฉิน แต่รวมถึงการเดินทางไปกลับหอพักยามค่ำคืนด้วยเพื่อความปลอดภัยของหมอและพยาบาล หลังจากที่มีข่าวทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์บ่อยๆ
Cr.ข่าวเดลินิวส์
0 notes
Video
youtube
คลิปรีวิวการใช้ เครื่องวัดไขมันในร่างกาย เพียงยืนบนเครืองฯ วัดผลภายใน 2 นาที ควรปรับคุณภาพวีดีโอ 720P HD ในการรับชม
#เครื่องชั่งน้ำหนัก#เครื่องวัดไขมันในร่างกาย#ดัชนีมวลกาย#มวลไขมัน#มวลกระดูก#มวลกล้ามเนื้อ#ลดน้ำหนัก#เครื่องชั่งน้ําหนัก
0 notes
Photo
ลดน้ําหนัก ให้เห็นผล
เมื่อไหร่ที่เห็นน้ำหนักบนตาชั่ง เครื่องชั่งน้ําหนัก (Digital Weight Scale) เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งหงุดหงิด แล้วจะต้องลดอย่างไรถึงจะเห็นผลจริงสักที ออกกำลังกายก็แล้ว ควบคุมอาหารแทบตายก็แล้ว น้ำหนักก็ไม่ลดลงสักที เห็นเลขน้ำหนักตัวบนตราชั่งแล้วอยากจะร้องไห้! อยากผอม อยากหุ่นดี หลายคนใจร้อนอยากเห็นผลไวๆ จึงใช้วิธีออกกำลังกายเยอะๆ กินอาหารน้อยๆ หรือไม่กินมันซะเลย แย่สุดคือหันไปพึ่งยาลดความ��้วน เพื่อที่จะได้มีน้ำหนักตัวที่ลดลงเห็นผลทันตา
ยาลดความอ้วน แน่นอนว่าวิธีพึ่งยาลดความอ้วนเหล่านั้นช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้จริง แต่ผลลัพธ์มันไม่ได้การันตีว่าร่างกายจะออกมาดูดีอย่างที่คิดไว้ ถึงน้ำหนักตัวจะลดลงแต่ร่างกายกลับดูไม่สมส่วน หน้าตาไม่สดใส ดูเหมือนคนป่วย สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ร่างกายได้สูญเสียกล้ามเนื้อที่เป็นระบบเผาผลาญหลักของร่างกายไหนจะรวมไปถึงน้ำและของเสียในร่างกาย แต่ส่วนที่ลดลงไปน้อยที่สุดคือ ไขมัน การที่ระบบเผาผลาญในร่างกายพังจะส่งผลให้เกิดโยโย่เอฟเฟคต์แทนที่น้ำหนักตัวจะลด กลับทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก
อาหาร ลดความอ้วน ที่มาแรงมากๆสำหรับเทรนด์ลดน้ําหนัก ให้เห็นผล และปลอดภัยของคนญี่ปุ่นในตอนนี้ก็คือ การกินแตงกวา จากการลงตีพิมพ์ในหลายๆบทความว่า มีบางคนกินแต่แตงกวาอย่างเดียวสามารถลดน้ำหนักลงได้ 11 กก.ภายใน 2 เดือนจาก เครื่องวัดไขมันในร่างกาย (Digital Weight Scale) ที่ฮิตกันขนาดนั้นก็เพราะ มีผลวิจัยเพิ่มออกมาว่า แตงกวา เป็นผักที่ มีเอนไซม์ชื่อ "phospholipase" ที่มีคุณสมบัติสลายไขมันและขจัดเซลลูไ��ต์อยู่ในปริมาณมากกว่าผักชนิดอื่น มีเส้นใยอาหารสูง มีแคลอรีต่ำ จึงถือว่าเป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักจากส่วนที่เป็นมวลไขมัน
มวลน้ำ มวลกล้ามเนื้อ มวลไขมัน และมวลกระดูก การลดน้ําหนัก ให้เห็นผล คือ การลดน้ำหนักของร่างกายโดยรวมทั้งหมดให้เบาลง ในร่างกายประกอบไปด้วย มวลน้ำ มวลกล้ามเนื้อ มวลไขมัน อวัยวะและมวลกระดูก มวลน้ำในร่างกายคือสิ่งที่ลดและเพิ่มได้ง่ายมากที่สุด แค่ออกไปวิ่ง ขับถ่ายของเสีย แค่นี้น้ำหนักตัวก็ลดแล้ว ต่อมาคือมวลกล้ามเนื้อก็ลดง่าย แต่ถ้าต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อส่วนนี้ก็จะยากหน่อย แล้วสุดท้ายคือมวลไขมัน เพิ่มได้ง่ายแต่ลดมวลไขมันยากสุด ๆ เพราะฉะนั้นตัวเลขบนตาชั่งเครื่องวัดไขมันในร่างกาย (Digital Weight Scale) เป็นเพียงแค่ตัวช่วยเสริมเพื่อให้เราทราบถึงน้ำหนักมวลรวมที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น
เครื่องชั่งน้ําหนัก มวลน้ำ มวลกล้ามเนื้อ มวลไขมัน การลดมวลไขมัน คือ การกำจัดเอาส่วนของมวลไขมันออกไป แล้วสร้างมวลกล้ามเนื้อขึ้นมาแทนที่ มวลกล้ามเนื้อเมื่อเทียบกับมวลไขมันจะมีขนาดเล็กและกระชับมากกว่า แม้จะเทียบในสัดส่วนน้ำหนักที่เท่ากัน เมื่อคุณขึ้นเหยียบบน เครื่องชั่งน้ําหนัก จะสามารถบ่งบอกได้ถึง น้ำหนักร่างกาย มวลน้ำ มวลไขมัน มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก และดัชนีมวลกาย ดังนั้นเมื่อลดมวลไขมันอาจจะมีน้ำหนักตัวเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม เป็นเพราะร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นแต่จะได้หุ่นที่ดีมีสัดส่วนกระชับ
วิธีออกกำลังกายสลายมวลไขมันแบบง่ายๆ ไม่เชื่อลองดู เพื่อให้ได้หุ่นกระชับ สร้างซิกซ์แพ็ค เน้นการออกกำลังโดยการคาร์ดิโอ กับ 3 ท่าบริหารลดมวลไขมัน แรงกระแทกน้อยแต่มีการทำงานของกล้ามเนื้อ
1. Squat and Shoulder Press
บริหารมวลกล้ามเนื้อแกนลำตัว สะโพก ไหล่ รวม 30 นาทีขึ้นไป
2. Knee Up and Hip Rotation
บริหารมวลกล้ามเนื้อแกนลำตัว ขา รวม 30 นาทีขึ้นไป
3. High Kick
บริหารมวลกล้ามเนื้อแกนลำตัว สะโพก รวม 30 นาทีขึ้นไป
ลดมวลไขมัน ลดน้ําหนัก ให้เห็นผล
สรุปแล้ว การลดน้ำหนักของร่างกายโดยรวมทั้งหมดเพื่อให้น้ำหนักลดลง โดยไม่สนว่าน้ำหนักที่หายไปนั้นคืออะไรบ้าง ขอแค่เลขบนตราชั่งเครื่องวัดไขมันในร่างกาย (Digital Weight Scale) ลดลงเท่านั้น ส่วนลดน้ําหนัก ให้เห็นผล ควรเน้นลดมวลไขมันคือการลดแค่ไขมัน มวลกล้ามเนื้อจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ขอยกตัวอย่างเช่น นักมวยจะลดน้ำหนักเพื่อให้ได้น้ำหนักตามเกณฑ์ที่กำหนดก่อนขึ้นชก นักเพาะกายจะลดไขมันเพื่อโชว์กล้ามเนื้อ หรือ ผู้หญิงจะอยากมีหุ่นที่ผอมเพรียวก็ใช้วิธีลดทั้งไขมันและกล้ามเนื้อ ส่วนผู้ชายจะชอบโชว์กล้ามโชว์ซิกซ์แพ็คจึงใช้วิธีการลดมวลไขมันแล้วเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยวัดการเปลี่ยนแปลงจาก เครื่องชั่งน้ําหนัก
Cr.Timeout,Sanook
0 notes
Photo
แอพใหม่ Wongnai POS สำหรับ ร้านอาหาร ออนไลน์
Wongnai บริการรวมข้อมูลและรีวิวร้านอาหาร เปิดตัวบริการใหม่ระบบการจัดการ���้านอาหารแบบครบวงจร สำหรับคนที่อยากเริ่มทำร้านอาหารหรือคนที่ทำร้านอาหารอยู่แล้วแต่อยากได้ระบบที่จะทำให้จัดการดูแลร้านอาหารได้ดีขึ้น มีแอพพลิเคชั่นเด็ดมาให้ใช้งานเพียบแบบที่ปกติต้องจ่ายปีละเป็นหมื่น แต่นี่ Wongnai เอามาให้ใช้กันฟรีๆไปเลย กับแอพพลิเคชั่นใหม่ Wongnai POS
แอพใหม่ จาก Food Story แอพใหม่ Wongnai POS นี้ทาง Wongnai ได้ร่วมมือกับทีม Food Story ที่ทำแอปพลิเคชันระบบจัดการร้านอาหารอยู่แล้ว ที่ทำแอปด้านนี้ให้เหล่าร้านดังมาช่วยทำระบบให้ มีประสบการณ์ทำให้เชนร้านอาหารชื่อดังมากมาย เช่น Central Food Hall มาเป็นเบื้องหลังให้ ทำให้มั่นใจถึงประสิทธิถาพของแอพพลิเคชั่นได้ โดยทางทีม Wongnai ได้เข้าไปร่วมทุนอัดฉีดทีม Food Story ด้วยเงินถึง 1 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 33 ล้านบาทเลยทีเดียว
เครื่องอ่าน QR Code กับ แอพใหม่ แอพพลิเคชั่น Wongnai POS เป็นระบบการจัดการร้านอาหารออนไลน์ครบวงจรที่ใช้งานง่ายและฟรี แค่มี iPad เครื่องเดียวก็สามารถโหลดลงมาลงทะเบียนแล้วใช้ได้เลย มีหน้าจอและฟีเจอร์จำเป็นในการทำร้านอาหารครบครันทั้งรับออเดอร์ เก็บเงิน สรุบยอดบัญชี และสามารถต่อกับเครื่องปริ้นท์ใบเสร็จ, ลิ้นชักเก็บเงินและ เครื่องอ่าน QR Code เพื่อชำระเงินออนไลน์ได้ทันที เงินเข้าระบบธนาคารหักเงินนำส่งร้านค้าในเวลาถัดมา
อัพเดตโปรโมชั่น ร้านอาหาร ออนไลน์ โดย Wongnai ดังเดิมเป็นบริการค้นหาร้านอาหารและรีวิวร้านอาหารผ่านทั้งทางเว็บ Wongnai และ แอพพลิเคชั่น Wongnai บน iOS และ Android ที่มีผู้ใช้งานอยู่มากถึง 8 ล้านคน ซึ่งร้านค้าที่เปลี่ยนมาใช้งานแอพใหม่ Wongnai POS จะเชื่อมต่อร้านอาหารของเราเข้าไปในลิสต์ของ Wongnai และเข้าไปปรับเปลี่ยนข้อมูลหรืออัพเดตโปรโมชั่นต่างๆของร้านเราใน Wongnai ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการการปรับเมนู, เวลาเปิด-ปิด และโปรโมชั่น ได้บนออนไลน์ เปลี่ยนทีเดียวได้ทั้งเว็บและแอปบนมือ
บริการสั่งอาหาร ออนไลน์ ส่งถึงที่ นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการขายให้ร้านค้าแบบง่ายๆไม่ต้องเปิดสาขาเพิ่ม ด้วยการรองรับระบบรับออเดอร์ผ่าน LINE MAN บริการสั่งอาหารส่งถึงที่ ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ณ ปัจจุบันมีลูกค้าผู้สั่งซื้อมากกว่า 6 หมื่นครั้งต่อสัปดาห์และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก โดยจะรับออเดอร์จากลูกค้าโดยตรงไม่ต้องรอเมสเซนเจอร์มาถึงร้านก่อนผ่านระบบ Food Delivery Notification ในแอปพลิเคชัน Wongnai POS เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านอาหาร
ชำระเงินค่าอาหารผ่าน QR Code และแอปพลิเคชัน Wongnai POS ที่น่าสนใจคือระบบจ่ายเงินค่าอาหารผ่าน QR Code จาก SCB Easy เพียงแค่สแกนผ่าน เครื่องอ่าน QR Code ก็จ่ายเงินได้เลย โดยฟีเจอร์นี้เชื่อมเข้ากับ เครื่องอ่านคิวอาร์โค้ด กับระบบเก็บเงินของร้านค้าทำให้นับยอดได้เลยและมีระบุค่าอาหารไว้ชัดเจนไม่ต้องกลัวจ่ายเงินผิดหรือทอนเงินผิด เพิ่มความสะดวกให้กับทั้งร้านอาหารและลูกค้าสำหรับร้านค้าที่มีระบบเดิมอยู่แล้ว และใช้งานเพียงแค่เก็บเงินเท่านั้น เป็นเรื่องน่าเอาไปคิดนะว่าจะเปลี่ยนมาใช้แอพใหม่ Wongnai POS แทนดีหรือไม่
���อพใหม่ Wongnai POS โหลดฟรี เพราะแอปพลิเคชัน Wongnai POS มันฉลาดขึ้นกว่าเดิมมาก และระบบเดิมเราก็ไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาใช้งานได้เท่าไหร่นัก ร้านอาหารเปลี่ยนมาใช้แอพใหม่ Wongnai POS มันช่วยให้เราสามารถสรุปการดำเนินการ ดูรายงานยอดตัดเงินออนไลน์เข้าบัญชีร้านค้าได้ทันทีแบบเรียลไทม์ รวมถึงตรวจสอบยอดขาย และอื่นๆผ่านเน็ตได้เลยอีกต่างหาก การทิ้งของเก่าหันมาใช้ของใหม่ แค่เสียเวลาติดตั้งลงข้อมูลเมนูนิดหน่อยติดตั้ง เครื่องอ่านคิวอาร์โค้ด ก็ใช้งานได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมโหลดฟรี ก็อาจจะคุ้มค่าดีนะ
Cr.Droidsans
0 notes
Photo
แฟลชไดร์ฟ เล็กที่สุดในโลก
เชื่อว่าหากพูดถึงหน่วยความจําสํารองอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้บันทึกเพลง วีดีโอ บทความ และอื่นๆทุกคนต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว สำหรับตัวเก็บข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่ชื่อว่า แฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive) มีหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลต่างๆ คัดลอกไฟล์ข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์แล้วส่งไปบันทึกบนหน่วยความจำบนแฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)จากนั้นเมื่อนำไปใช้งานในคอมพิวเตอร์เครื่องก็สามารถนำดูข้อมูล แก้ไข ที่คัดลอกมานั้นเอง เพียงแค่พกแฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)ที่มีขนาดเล็กก็สามารถทำงานได้ทุกที่เลย เพิ่มความสะดวกให้ได้หลายเท่าเลย
แฟลชไดร์ฟ หน่วยความจําสํารอง ในปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)เรียกได้ว่าเป็นหน่วยความจําสํารองที่ต้องมีติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องทำงานเกี่ยวกันเอกสารไฟล์งานแบบต่างๆ ก็จำเป็นต้องใช้งานแฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)เพื่อย้ายข้อมูลไปทำ��่อที่บ้านหรือย้ายงานจากที่บ้านมายังที่ทำงานก็เป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นจะถือเอกสารจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ไปไหนมาไหน เพียงแค่พกแฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)ที่มีขนาดเล็กก็สามารถทำงานได้ทุกที่เลย เพิ่มความสะดวกให้ได้หลายเท่าเลย
หน่วยความจําสํารอง เล็กที่สุดในโลก ที่งาน Consumer Electronics Show 2018 (หรือ CES 2018) เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการเก็บข้อมูลระดับโลก ได้เปิดตัวหน่วยความจําสํารองหรือที่เรียกว่า แฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive)ขนาด 1TB (เทระไบต์) ที่เล็กที่สุดในโลก สามารถวัดด้วยเครื่องมือวัด เวอร์เนียร์ดิจิตอล มีขนาดเพียง 75.69 มิลลิเมตร x 75.69 มิลลิเมตร x 10.67 มิลลิเมตร แบบพกพาประสิทธิภาพสูงความจุสูงจับเก็บข้อมูลแบบ SSD ที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์ แซนดิสก์ (SanDisk) ที่มีความก้าวล้ำที่รองรับคอนเทนท์ส่วนบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้มั่นใจได้ว่าประสบการณ์ส่วนตัวและความทรงจำต่างๆ สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกหลายปีข้างหน้า
SanDisk Ultra Fit เวสเทิร์น ดิจิตอล สานต่อความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น โดยการนำอนาคตของ แฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive) มาจัดแสดงอุปกรณ์จับเก็บข้อมูลแบบ SSD (Solid-State Drive) ขนาด 75.69 มิลลิเมตร x 75.69 มิลลิเมตร x 10.67 มิลลิเมตร ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกขนาดความจุ 1TB (เทระไบต์) ซึ่งเป็นโซลูชันแบบ USB แฟลชไดร์ฟ(USB Flash Drive) หัวเชื่อมต่อแบบ Type-C ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถเก็บรักษาคอนเทนท์จำนวนมหาศาลไว้ในอุปกรณ์จัดเก็บที่มีขนาดเล็ก ที่ชื่อว่า SanDisk Ultra Fit™ USB 3.1 Flash Drive แฟลชไดรฟ์ขนาด 256 กิกะไบต์ ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก USB ขนาดจิ๋ว ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มรูปถ่าย วิดีโอ เกม และไฟล์เสียงต่าง ๆ ลงบนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต ทีวี เครื่องเล่นเกม และระบบเครื่องเสียงในรถยนต์
USB 3.1 Flash Drive ด้วยพื้นที่ความจุขนาด 256 กิกะไบต์ของแฟลชไดร์ฟ(USB 3.1 Flash Drive) และเป็นหน่วยความจําสํารอง SSD (Solid-State Drive) เล็กที่สุดในโลก ขนาดเล็กจิ๋วเพียง 2.98 x 2.98 x 0.42 นิ้ว (75.69 มิลลิเมตร x 75.69 มิลลิเมตร x 10.67 มิลลิเมตร) น้ำหนักเพียง 78.9 กรัม สามารถวัดด้วยเครื่องมือวัด เวอร์เนียร์ดิจิตอล ทำให้ผู้คนใช้งานสามารถเก็บคอนเทนท์ต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิมได้ด้วยปลายนิ้วของพวกเขา ซึ่งสามารถเก็บไฟล์รูปถ่ายได้ราว 14,000 ภาพ วิดีโอแบบความละเอียดสูงที่มีความยาว 10 ชั่วโมง และเพลงที่มีจำนวนมากถึง 16,000 เพลง และยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับจัดเก็บไฟล์อื่น ๆ ถึง 64 กิกะไบต์
Cr.Sanook,USB Perfect
0 notes
Photo
ลดอ้วน ด้วย BMR
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดความอ้วนจากการเทียบเกณฑ์ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) ที่ได้จากการคำนวณด้วย น้ำหนัก (หน่วย กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (หน่วย เมตร) ยกกำลังสอง หากคำนวณแล้วได้ค่า BMI มากกว่า 25 ถือว่าอ้วนต้องควบคุมน้ำหนัก ซึ่งนอกจากการใช้ค่า BMI แล้วค่ารอบเอวยังสามารถระบุความอ้วนได้ด้วย โดยกำหนดให้ผู้หญิงมีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้วและผู้ชายมีรอบเอวไม่เกิน 36 นิ้ว หากเกินจะถูกจัดให้อยู่ในเกณฑ์ "อ้วน" เพราะมีไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) มากเกินไป ที่สามารถวัดได้จาก เครื่องวัดไขมันในร่างกาย (Body Fat Scale) หลักการทำงานคือใช้กระแสไฟฟ้าต่ำๆ ไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายแล้ววัดความต้านทานต่อการไหลของกระแสในเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายทำให้สามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบของร่างกายอย่างละเอียดทั้งในส่วนของ มวลไขมัน,มวลกล้ามเนื้อ,มวลกระดูก, และปริมาณน้ำในร่างกาย ความสมดุลและความแข็งแรงของร่างกาย สามารถดูตารางเปรียบเทียบค่าที่เหมาะสมตามช่วงอายุ ด้านล่าง
ดัชนีมวลกาย & ความอ้วน หลังจากที่เราทราบค่าดัชนีมวลกาย (BMI) กันแล้ว ว่าร่างกายของเรานั้นมีน้ำหนักตัวตามค่ามาตรฐานขั้นไหน ผอมหรืออ้วนเกินไปหรือไม่ สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินจากมาตรฐานก็คงจะวางแผนการลดน้ำหนักลดอ้วนแล้วใช่ไหม อย่างที่ทราบกันดีว่าการลดน้ำหนักนั้น หัวใจอยู่ที่การปรับสมดุลการใช้พลังงานและการรับพลังงาน ร่างกายของมนุษย์มีจุดสมดุลพลังงานที่คอยกำหนดว่าในแต่ละวัน แต่ละคน ควรกินอาหารปริมาณเท่าไหร่ โดยพลังงานที่คนปกติใช้ในวันหนึ่งๆ จะขึ้นอยู่กับผลรวมของ ค่าพลังงานสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ หรือ ค่า BMR( Basal Metabolic Rate), ค่าพลังงานสำหรับการดูดซึมและย่อยอาหาร (Energy for Absorp and nutrient storage) และค่าการออกกำลัง���าย (Physical Activity)
อัตราการเผาผลาญพลังงาน BMR ค่า BMR( Basal Metabolic Rate) หมายถึง อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือจำนวนแคลอรี่ขั้นต่ำที่ต้องการใช้ในชีวิตแต่ละวัน เช่น หากคุณมีค่า BMR = 2000 แคลอรี่ หมายถึง ในชีวิตประจำวันของคุณ อัตราการเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ต่อวันเท่ากับ 2000 แคลอรี่ ในภาวะการดำรงชีวิตปรกติ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ซึ่ง ค่า BMR แต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ สัดส่วนมวลกล้ามเนื้อ อายุ เพศ ขนาดร่างกาย และ ฮอร์โมน ยกตัวอย่าง เราเคยสังสัยมั้ยว่า ทำไมไอ้นี่มันกินเยอะแต่ไม่อ้วน ซึ่งหากไปศึกษาร่างกายของเค้าก็จะพบว่า ร่างกายคนเหล่านี้มีมวลกล้ามเนื้อเยอะ และไม่ค่อยมีมวลไขมัน เพราะว่ามวลกล้ามเนื้อสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่ามวลไขมัน 3-5 เท่า
สาเหตุ ความอ้วน สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดความอ้วนมีด้วยกัน 2 ประการ คือ พฤติกรรมการบริโภค และลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งสาเหตุของความอ้วนที่เกิดขึ้นกับคนไทย 99% มาจากการบริโภคอาหารเกินความจำเป็นของร่างกาย เพราะในคนเอเชียจะมีเพียง 1% เท่านั้นที่จะพบคนเป็นโรคอ้วนจากพันธุกรรม ต่างจากพันธุกรรมของคนยุโรปหรือสหรัฐฯ ที่มักมียีนผิดปกติทำให้อัตราการเมทาบอลิซึมลดลง คนในประเทศเหล่านั้นจึงมีโอกาสอ้วนจากพันธุกรรมได้มากกว่าคนในเอเชีย ผลการวิจัยและข้อแนะนำจาก รศ.วิฑูร แสงศิริสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาชีวเคมี ผู้เชี่ยวชาญด้านเมทาบอลึซึม
ลดไขมันเพิ่มกล้ามเนื้อ หากไม่อยากอ้วนจึงต้องบริหารจัดการการกินให้พอเหมาะพอดีกับปริมาณพลังงานที่ร่างกายใช้ หรืออธิบายโดยง่ายคือ ควรกินให้น้อยกว่าหรือเท่ากับพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน มิเช่นนั้นหากอาหารที่ถูกกินเกินปริมาณจะถูกเก็บสะสมเป็นชั้นไขมัน รวมทั้งการออกกำลังกายให้เหมาะสมเพื่อการเผาผลาญพลังงานให้ได้สัดส่วนพอเหมาะและไม่สะสมพลังงานส่วนเกินเป็นมวลไขมัน แต่ควรเพิ่มมวลกล้ามเนื้อแทน ซึ่งมวลกล้ามเนื้อนี้เองจะเป็นตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยจะไปเพิ่ม BMR (Basal Metabolism) หรือ อัตราความต้องการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือจำนวนแคลอรีขั้นต่ำที่ต้องการใช้ในชีวิตแต่ละวัน ทำให้ลดอ้วนส่งผลดีกับสุขภาพ ทั้งนี้ การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เช่น การยกน้ำหนัก วิดพื้น จึงมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดอ้วนและควบคุมน้ำหนัก และหากออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มวลกล้ามเนื้อก็จะไม่ได้ขยายขนาดจนทำให้ผิดสัดส่วนอย่างที่กังวลกัน
สร้างมวลกล้ามเนื้อ (Weight training) การออกกำลังเพื่อลดความอ้วนที่แนะนำมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ การสร้างมวลกล้ามเนื้อและการเผาผลาญมวลไขมัน การสร้างมวลกล้ามเนื้อ (Weight training) ไม่ใช่การเพาะกายแต่เป็นการทำให้มัดกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นเพื่อทำให้สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น การสร้าง��ล้ามเนื้อที่ดีคือการออกแรงต้านกับน้ำหนัก ทั้งน้ำหนักของตัวเอง เช่น การวิดพื้น หรือออกแรงต้านด้วยอุปกรณ์ เช่น ดัมเบล ซึ่งต้องออกแรงให้ได้มากประมาณ 80-100% ที่กล้ามเนื้อมัดนั้นรับได้การสร้างกล้ามเนื้อจึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ โดยให้ยึดหลักทำน้ำหนักมากๆ แต่ยกปริมาณน้อยๆ การออกกำลังกายชนิดนี้ลดอ้วนแล้วยังทำให้มวลกระดูกแข็งแรงขึ้น และระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นด้วย
เผาผลาญไขมัน (Burn Fat) ส่วนการเผาผลาญไขมัน (Burn Fat) ที่ดีที่สุดสำหรับคนลดความอ้วนคือ การออกกำลังแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic) ซึ่งทำได้ทั้งการวิ่ง ว่ายน้ำ พายเรือ ปั่นจักรยาน ในระยะยาวแบบไม่หักโหม เพราะร่างกายจะดึงมวลไขมันไปใช้เมื่อมีการออกกำลังกายไปแล้วเมื่อเวลาผ่านไป 20 นาที ดังนั้นการออกกำลังกายที่ดีจึงควรออกช้าๆ แต่นาน ไม่ควรออกแบบหักโหมเพราะจะทำให้หมดแรงเร็ว และร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลไปใช้ซึ่งผิดวัตถุประสวงค์ที่อยากให้ไมวลไขมันถูกดึงไปใช้แทน โดยใน 1 สัปดาห์ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 92 นาทีหรือมากกว่านั้น โดยไม่ควรต่ำกว่าสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15-30 นาที การออกกำลังกายบ่อย ๆลดอ้วนได้แล้วยังช่วยให้มวลกระดูกแข็งแรงและยังช่วยชะลอโรคกระดูกพรุนได้ด้วย
ลดความอ้วน อยู่กับใจ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับใจ การลดความอ้วนไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินกว่าจะทำได้ เพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพและรูปร่างแล้ว ยังส่งผลต่อโรคภัยไข้เจ็��ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทางที่ดีที่สุด คือ การกินอาหารแบบพอเหมาะ เน้นโปรตีน ลดคาร์โบไฮเดรต อาจเป็นโปรตีนจากถั่วหรือไข่ก็ได้ มีราคาถูกกว่าแต่คุณค่าอาหารเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องลดมื้ออาหารแต่ให้ลดปริมาณลง หากตอนเย็นยังรู้สึกหิวมาก แนะนำให้ทานอาหารเหลวที่มีน้ำหนักและมีคุณค่าอาหารเช่น ไข่ตุ๋น หรือไข่ต้มแทนที่จะเป็นข้าว หมั่นออกกำลังอยู่เสมอลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ แถมยังได้มวลกระดูกที่แข็งแรงเพิ่มมาอีกด้วย และควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 500 กิโลแคลอรี่ เพราะจนถึง ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีวิธีการใดที่วิทยาศาสตร์รองรับและประสบผลสำเร็จลดอ้วนได้เท่าการควบคุมอาหารและการออกกำลัง
Cr.ผู้จัดการ,ข่าวสด,คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
0 notes