Tumgik
#อาการแพนิค
worakonigoal2 · 2 years
Text
โรคแพนิค คืออะไร
โรคแพนิค หรือโรคตื่นตระหนกนั้นเป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติโดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วนจึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกันเช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก igoal ท้องไส้ปั่นป่วน วิงเวียน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันแม้ไม่มีสาเหตุหรือมีเรื่องให้ต้องตกใจ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวตื่นตระหนกเป็นอย่างมากไม่กล้าออกไปไหนหมกมุ่นเรื่องสุขภาพจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมาดูกันเลย
โรคแพนิค ไม่อันตรายแต่ควรรักษา
โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติหรือการตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีนั้นจะต้องมีการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปด้วย ปรับแนวคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยรวมถึงคนรอบข้าง igoal88 คนใกล้ชิด ควรทำความเข้าใจกับโรคนี้และให้กำลังใจผู้ป่วยการฝึกการหายใจเพื่อควบคุมสติ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเองนอกจากนี้ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผ่อนคลายจากความเครียดรับประทานพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา ทางเข้า igoal88 อาจหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ รวมทั้งการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไปแม้ว่าโรคนี้จะไม่รุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตแต่อาการของโรคอาจไปสัมพันธ์คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง อื่นๆเช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคระบบหลอดเลือดหัวใจและหัวใจวายเฉียบพลันดังนั้น หากสงสัยว่ามีอาการของโรคแพนิค ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
โรคแพนิคอาการเป็นอย่างไร
- ใจสั่น แน่นหน้าอก
- หัวใจเต้นแรง 
- หายใจหอบ หายใจถี่
- เหงื่อออกมาก เหงื่อแตก
- ตัวสั่น
- ปั่นป่วนในท้อง
- วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม
- หวาดกลัว รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง 
- มือสั่น เท้าสั่น
- ตัวชา ควบคุมตัวเองไม่ได้
อาการแพนิคจะเกิดที่ไหนเมื่อไรก็ได้และคาดเดาได้ยากโดยขณะเกิดอาการผู้ป่วยมักกลัวและรีบไปโรงพยาบาลซึ่งแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินมักตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก ซึ่งผู้ป่วยก็มักยอมรับไม่ได้และปฏิเสธว่าไม่ได้เครียด
ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแพนิค
กรรมพันธุ์ คนที่มีญาติหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคแพนิค มีแนวโน้มเป็นได้มากกว่าคนทั่วไป
การใช้สารเสพติด
ความผิดปกติของฮอร์โมน อาจทำให้สารเตมีในสมองเสียสมดุลได้
มีประสบการณ์ เคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต
พฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น ทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ เผชิญความกดดัน อยู่ในสภาวะที่เร่งรีบ เครียดวิตกกังวล ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย
เครียดสะสม เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งเครียด อยู่ในสภาวะกดดันเป็นประจำ
เริ่มต้นดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยการงดพฤติกรรมเหล่านี้
- การใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ
- กินนอนไม่เพียงพอและไม่เป็นเวลา
- ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
0 notes
digitalmore · 1 year
Text
อาการแพนิค (Panic disorder) คืออะไร
อาการแพนิค (Panic disorder) เป็นอาการที่ตัวเองรู้สึกกลัวหรือตื่นกลัวอย่างรุนแรง โดยมักเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น อาจเกิดขึ้นในขณะที่เดินเข้าไปในร้านค้าหรืออยู่ในสถานที่แออัด แ… อ่านเพิ่ม from BangkokStyle https://ift.tt/2rbnZjO
0 notes
digitalmore · 1 year
Text
0 notes
digitalmore · 1 year
Text
0 notes
worakonigoal2 · 2 years
Text
โรคแพนิค
โรคแพนิค (Panic Disorder) หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (Automatic Nervous System) ทำงานผิดปกติ โดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วน จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน igoal เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ท้องไส้ปั่นป่วน วิงเวียน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันแม้ไม่มีสาเหตุหรือมีเรื่องให้ต้องตกใจ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ไม่กล้าออกไปไหน หมกมุ่นเรื่องสุขภาพ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
โรคแพนิค อาการเป็นอย่างไร?
- ใจสั่น แน่นหน้าอก
- หัวใจเต้นแรง 
- หายใจหอบ หายใจถี่
- เหงื่อออกมาก เหงื่อแตก
- ตัวสั่น
- ปั่นป่วนในท้อง
- วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม
- หวาดกลัว รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง 
- มือสั่น เท้าสั่น
- ตัวชา ควบคุมตัวเองไม่ได้
อาการแพนิค จะเกิดที่ไหนเมื่อไรก็ได้ igoal88 และคาดเดาได้ยาก โดยขณะเกิดอาการผู้ป่วยมักกลัวและรีบไปโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินมักตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก ซึ่งผู้ป่วยก็มักยอมรับไม่ได้และปฏิเสธว่าไม่ได้เครียด
ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแพนิค
อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวที่เร���ยกว่า “อะมิกดาลา” (Amygdala) ทำงานผิดปกติ
กรรมพันธุ์ คนที่มีญาติหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคแพนิค มีแนวโน้มเป็นได้มากกว่าคนทั่วไป
การใช้สารเสพติด
ความผิดปกติของฮอร์โมน อาจทำให้สารเตมีในสมองเสียสมดุลได้
มีประสบการณ์ เคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต
พฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น ทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ เผชิญความกดดัน อยู่ในสภาวะที่เร่งรีบ เครียดวิตกกังวล ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย
เครียดสะสม เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง สล็อตออนไลน์ เคร่งเครียด อยู่ในสภาวะกดดันเป็นประจำ
โรคแพนิค ไม่อันตรายแต่ควรรักษา
โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ หรือ การตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีนั้นจะต้องมีการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปด้วย ปรับแนวคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย รวมถึงคนรอบข้าง คนใกล้ชิด ควรทำความเข้าใจกับโรคนี้และให้กำลังใจผู้ป่วย
การฝึกการหายใจเพื่อควบคุมสติ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง  นอกจากนี้ ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผ่อนคลายจากความเครียด รับประทาน พักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา อาจหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ รวมทั้งการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
แม้ว่าโรคนี้จะไม่รุนแรง หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อาการของโรคอาจไปสัมพันธ์คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง อื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ และหัวใจวายเฉียบพลัน ดังนั้น หากสงสัยว่ามีอาการของโรคแพนิค ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
เริ่มต้นดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยการงดพฤติกรรมเหล่านี้
- การใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ
- กินนอนไม่เพียงพอและไม่เป็นเวลา
- ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
0 notes