#วัคซีน2เข็ม
Explore tagged Tumblr posts
Video
youtube
EP. 9 วัคซีน Sinovac, AstraZeneca, Pfizer กับ โควิดสายพันธุ์อินเดีย (เดล...
EP 9 โควิด -19 ปัจจุบันได้มีการกลายพันธ์ เป็นหลายสายพันธุ์ โดยจะเรียกสายพันธุ์เป็นสัญลักษณ์แทนชื่อประเทศ สายพันธุ์อัลฟา คือ สายพันธุ์ อังกฤษ สายพันธุ์เบต้า คือ สายพันธุ์ แอฟริกาใต้ สายพันธุ์แกมมา คือ สายพันธุ์ บลาซิล สายพันธุ์เดลต้า คือ สายพันธุ์ อินเดีย โดยเมื่อปีก่อน สายพันธุ์ที่ระบาด ระลอก 1 และ 2 คือสายพันธุ์ G หรือสายพันธุ์อู่ฮั่น ส่วนระลอก 3 ช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมาเป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ซึ่งจะเป็นสายพันธุ์ที่จะระบาดหลักในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังพบสายพันธุ์เบต้า (แอฟริการใต้) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่า สายพันธุ์เดิม อีกทั้งยังหลบหลีกภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เกิดปอดอักเสบได้มากขึ้น และมีผลต่อวัคซีน ทำให้ประสิทธิภาพลดลง วัคซีนที่มีในท้องตลาดปัจจุบัน และที่ประเทศไทยใช้ เป็นหลัก คือ Sinovac, AstraZeneca, Sinophram เมื่อมีอาการศึกษา พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น เช่น Pfizer, Moderna, J&J, Novavax ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์เดลต้า (อังกฤษ) และสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ค่อนข้างสูง การเปิดประเทศ ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ เช่น Pfizer, Moderna, J&J ย่อมทำให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และยั่งยืนกว่า ขณะนี้ พบว่ามีอัตราการป่วยโควิด สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับอัตราการเสียชีวิตก็ยังคงสูงทุกวัน จำนวนเตียงโรงพยาบาลที่สามารถรับผู้ป่วยมีจำกัด ทำให้ผู้ป่วยบางส่วนไม่ได้เข้ารับการรักษาที่เหมาะสม และมีข่าวการเสียชีวิตที่บ้าน ผู้เชี่ยวชาญฮ่องกง แนะนำให้ฉีดวัคซีน Sinovac เข็ม 3 เพราะภูมิคุ้มกันที่ได้ น้อยกว่าการการฉีด Pfizer 2 เข็ม หวังว่า ประเทศจะผ่านวิกฤตโควิดไปได้ ด้วยดี และมีวัคซีนทางเลือก เช่น Moderna , Pfizer and J&J เข้ามาโดยเร็ว Credit. Work point today Sanook.com สาระวิทย์ ข่าวช่อง 3 The Standard
https://www.youtube.com/watch?v=DtiOXjdeGm8
KS clinic หมอกิตติศักดิ์ - หมอสีชมพู หมอรักษาปอด หมอรักษาตา อุดรธานี โทรสอบถาม 0926-361-362 LineID: @ksclinic.udon (มี @ ด้วยนะคะ)
ติดตามเราได้ที่ เฟชบุ๊ค: https://www.facebook.com/ksclinic.udon/ https://www.tumblr.com/blog/ksclinicudon/ https://ksclinicudon.blogspot.com/ https://www.instagram.com/ksclinicudon/
ที่อยู่ https://goo.gl/maps/8yjDMnAbPRUdiYXs6
KS clinic หมอกิตติศักดิ์ - หมอสีชมพู หมอรักษาปอด หมอรักษาตา อุดรธานี นพ.กิตติศักดิ์ อาจารย์แพทย์ประจำโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี คลินิกแพทย์เฉพาะทาง อายุรศาสตร์ระบบทางเดินหายใจ และภาวะวิกฤตระบบหายใจ ประจำโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี รักษาโรคทางอายุรกรรมระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ไข้หวัด ไอ หอบเหนื่อย เอกซเรย์ปอดผิดปกติ ก้อนในปอด ส่องกล้องปอด นอยกรน ฉีดวัคซีน ภูมิแพ้ และ โรคทั่วไป (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปวดข้อ ฯลฯ)
โดยเเพทย์ผู้มีประสบการณ์ ปลอดภัยได้มาตราฐาน
สอบถาม • นัดคิว • ปรึกษา• KS clinic หมอกิตติศักดิ์ - หมอสีชมพู หมอรักษาปอด หมอรักษาตา อุดรธานี โทรสอบถาม 0926-361-362 LineID: @ksclinic.udon (มี @ ด้วยนะคะ)
ติดตามเราได้ที่ เฟชบุ๊ค: https://www.facebook.com/ksclinic.udon/ https://www.tumblr.com/blog/ksclinicudon/ https://ksclinicudon.blogspot.com/ https://www.instagram.com/ksclinicudon/
ที่อยู่ https://goo.gl/maps/8yjDMnAbPRUdiYXs6
ที่อยู่ 140/19-20 ไพร์มสแควร์ ถนนหน้าสถานีรถไฟ ต.หมากแข็ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี 41000
ทางคลินิกเปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00น - 20.00น วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตกฤษ์ เวลา 10.00น - 20.00น. ( ปิดทำการทุกวันพุธ )
0 notes
Link
0 notes
Photo
วัคซีน โควิด เข็ม2 แล้วครับ รอบนี้ฉีดที่แขน ครับ เพราะว่าเท็ดดี้บอกว่าฉีดที่ขา เดินไม่สะดวก รอบนี้ลุงหมอเลยจัดที่แขนให้ครับ เท็ดดี้ ร้อง 1แอ๊ะ ตอนลงเข็ม แล้วก็หยุด ลุงหมอชมว่าเก่งเท็ดดี้เก่งมากเลยครับ (at โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ( Samitivej Srinakarin Hospital )) https://www.instagram.com/p/ClGC2c9Pr4g/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
Photo
ลานนมสามย่าน กลับมาแล้วแบบ #newnormal #samyanmitrtown #ลานนมสามย่าน #วัคซีน2เข็ม #atk เรามีเพื่อความสบายใจ (at Samyan Mitrtown) https://www.instagram.com/p/CX4tDRXvYQunkSlJn9MHaMvi5CzLn9GymxXZaM0/?utm_medium=tumblr
0 notes
Text
COVID-19: เปิดผลวิจัยล่าสุดชี้ วัคซีน ‘ซิโนแวค’ 3 เข็ม ไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการป้องกันไวรัสโอไมครอน
มหาวิทยาลัยฮ่องกงเปิดผลวิจัยล่าสุดชี้ วัคซีน ‘ซิโนแวค’ 3 เข็ม ไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการป้องกันไวรัสโอไมครอน แนะผู้ได้รับวัคซีนของซิโนแวคครบ 2 เข็ม ฉีดเข็มกระตุ้นเป็นยี่ห้ออื่นแทน วันที่ 24 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มหาวิทยาลัยฮ่องกงและมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงเผยผลการวิจัยระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อ ‘โคโรนาแวค’ ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำนวน 2 เข็ม…
View On WordPress
0 notes
Text
รายงานพิเศษ : ‘วัคซีน2เข็ม-ATKทุก7วัน’ ภาคธุรกิจโอด ‘ยังไม่พร้อม’ #SootinClaimon.Com
#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า https://www.naewna.com/likesara/600839 รายงานพิเศษ : ‘วัคซีน2เข็ม-ATKทุก7วัน’ ภาคธุรกิจโอด‘ยังไม่พร้อม’ วันพฤหัสบดี ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564, 06.00 น. ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหลายประเทศในโลกเริ่มปรับนโยบายสู่การ “อยู่ร่วมกับโควิด” เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถสร้างสิ่งที่เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd…
View On WordPress
0 notes
Text
ทั่วทั้งโลกรอคอยลุ้น "วัคซีน COVID-19" เชื่อไม่เกินปีต่อไป..ได้ใช้
นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจการบ้านการเมืองแล้ว มั่นใจว่าวันนี้ อีกหัวข้อที่ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างคอยลุ้น น่าจะเป็นวัคซีนคุ้มครอง COVID-19 ซึ่งหลายประเทศกำลังเดินหน้ารีบศึกษาค้นคว้า ปรับปรุง ด้วยหวังว่าจะ ผลิตออกมาใช้กับชาวโลกที่กำลังพบเจอกับโรคเกิดใหม่จากวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสได้
ปัจจุบัน สำนักข่าวรอยเตอร์ กล่าวว่า คราวหลังการขอคำแนะนำระหว่างนายวิคเตอร์ วัวโรเนลลี เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศเม็กซิโก กับ นายมาร์เซโล อีบราด รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศเม็กซิโก นายมาร์เซโลได้ทวีตเนื้อความแสดงความพอใจที่จะทดลองกับคนไม่ใช่น้อยเพื่อมีวัคซีนในประเทศเม็กซิโกอย่างรวดเร็วที่สุด โดยมั่นใจว่าการดำเนินงานทดลองวัคซีนต้านทานวัววิด-19 ของรัสเซียเพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในความพากเพียรเป็นอย่างมากของละตินอเมริกา สำหรับเพื่อการหายาที่มีคุณภาพสำหรับในการควบคุมการระบาดของวัววิด-19 นอกเหนือจากความร่วมแรงร่วมใจกับรัสเซียในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 แล้ว ประเทศเม็กซิโกยังได้ร่วมมือกับ AstraZeneca บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ รวมทั้งมหาวิทยาลับออกซ์ฟอร์ด ปรับปรุงวัคซีนเพื่อป้อนให้กับละตินอเมริกา นอกเหนือจากนี้ประเทศเม็กซิโก ยังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเพื่อทดลองกับคนโดยส่วนใหญ่ สำหรับวัคซีนที่ปรับปรุงโดยบริษัท Johnson & Johnson ของสหรัฐอเมริกา และก็บริษัทจีนอีก 2 ราย
ส่วนจีน รายงานข่าวสารจากสำนักข่าวต่างชาติ บอกว่า วัคซีนต่อต้านวัววิด-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดย China National Pharmaceutical Group (Sinopharm) บริษัทผู้ผลิตยาของจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองกับคนไม่ใช่น้อยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมองคุณภาพของการดูแลรักษา และก็ความปลอดภัยในคน มีความก้าวหน้าไปๆมาๆก ดังนี้ China National Biotec Group (CNBG) โดยมีซีโนฟาร์ม เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของ CNBG นั้น ได้ปรับปรุงวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 โดยมีโรงงาน 2 แห่งที่อู่ฮั่น แล้วก็เมืองปักกิ่ง มีกำลังในการผลิตรวมกันได้มากกว่า 200 ล้านโดสต่อปี โดยเมื่อผลิตได้คงจะขายในราคาราวกว่า 1,000 หยวน หรือกว่า 4,500 บาท ในการฉีด 2 เข็ม
ข่าวสารดังกล่าวข้างต้นสะท้อนให้มีค��ามเห็นว่า เดี๋ยวนี้ประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งกันปรับปรุงวัคซีนต้านทานวัววิด-19 เพื่อช่วงชิงอิทธิพล รวมทั้งเกียรติยศของความเป็นประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่ประเทศด้อยพัฒนา เพียงอยากทำให้มั่นใจว่า จะมีการกระจัดกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม
เว็บหนังสือพิมพ์ The New York Times เผยข้อมูลการพัฒนาวัคซีนโรควัววิด-19 ซึ่งตอนนี้มีมากยิ่งกว่า 140 ตัวที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยทีมวิจัยจากทั้งโลก ซึ่งในขั้นตอนธรรมดาของการพัฒนาวัคซีนรักษาโรคนั้น จะต้องมีการศึกษาเรียนรู้รวมทั้งทดสอบก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เอาไปใช้กับผู้เจ็บป่วย แม้กระนั้นสำหรับโรควัววิด-19 นั้น เป็นกรณีเร่งด่วนที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกจำต้องรีบวิธีการปรับปรุงแล้วก็ทดลอง เพื่อสามารถผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพและก็ความปลอดภัยได้ตามวัตถุประสงค์ด้านในปีถัดไป
การพัฒนาวัคซีนวัววิด-19 เริ่มหนแรกในมกราคม ด้วยการถอดรหัสข้อมูลกรรมพันธุ์ (Genome) ของเชื้อไวรัสวัวโรนาสายชนิดใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ที่เป็นต้นเหตุของโรควัววิด-19 ก่อนที่จะไปสู่ขั้นทดสอบในมนุษย์ หรือทดสอบทางสถานพยาบาลแบบไม่มีอันตรายเป็นครั้งแรกในมีนาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา
แม้กระนั้นผลของการทดสอบที่ไม่แน่นอนทำให้ครั้งคราวมศึกษาค้นคว้านั้นล้มเหลวหรือสำเร็จลัพธ์ที่กำกวม รวมทั้งมีเพียงแค่ไม่กี่กลุ่มเพียงแค่นั้นที่ไปถึงเป้าหมาย ถึงขนาดทำให้วัคซีนสามารถกระตุ้นระบบภูมิต้านทานรวมทั้งสร้างสารภูมิคุ้มกันออกมาต่อสู้กับเชื้อไวรัส
ปัจจุบันที่น่าดึงดูดหมายถึงวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 ของรัสเซีย ในชื่อ “สปุตนิก 5” (Sputnik V) ซึ่งตั้งตามชื่อของดาวเทียมดวงแรกของโลกของรัสเซียนั้น มีการประเมินว่า น่าจะเป็นวัคซีนต้านทานวัววิด-19 ตัวแรก ที่จะผลิตออกสู่ตลาด แล้วก็จะเปิดตัวสิ้นเดือนนี้ โดยรัสเซียได้ผลิตวัคซีนชุดแรก แม้ว่ายังมิได้ทดลองระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะท้ายที่สุด เพื่อทดลองความปลอดภัย รวมทั้งสมรรถนะของวัคซีน แต่ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติให้ผลิตได้แล้ว
ปัจจุบันนี้มีทีมงานวิจัยเอกชนหลายรายใน สหรัฐอเมริกา จีน ประเทศเกาหลีใต้ อังกฤษ ประเทศฝรั่งเศสแล้วก็เยอรมนี ที่ปรับปรุงวัคซีนในลักษณะนี้ โดยทีมงานวิจัยที่มีความเจริญสูงที่สุด อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 เป็นต้นว่า บริษัท Moderna ของสหรัฐอเมริกา, ทีมนักวิจัยรวมจากบริษัท BioNTech ของเยอรมนี, Pfizer ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง Fosun Pharma ของจีน รวมทั้งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนของอังกฤษ
โดยแนวทางที่ได้รับการยินยอมรับรวมทั้งคาดว่าน่าจะมีการบรรลุผลมากมายสุดหมายถึงViral Vector Vaccines เป็นการปรับปรุงวัคซีนด้วยการใช้เชื้อไวรัสที่ทำให้อ่อนลงและไม่นำมาซึ่งโรค มาตัดต่อใส่สารพัดธุบาปของเชื้อไวรัสวัวโรทุ่งนา 2019 เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน ซึ่งปัจจุบันนี้มี 3 ทีมงานนักวิจัยที่กำลังนำวัคซีนที่ปรับปรุงด้วยแนวทางนี้ ไปทดลองในมนุษย์ อย่างเช่น ทีมนักวิจัยของ AstraZeneca ผู้สร้างยารายใหญ่ของอังกฤษรวมทั้งประเทศสวีเดน ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด โดยทีมงานนักวิจัยนี้มีความรุ่งเรืองถึงขนาดทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 แล้วก็ได้รับการช่วยสนับสนุนงบประมาณจากโครงงาน Warp Speed ซึ่งคาดว่าบางทีอาจส่งวัคซีนรีบด่วนได้ตั้งแต่ต.ค.
ทีมนักวิจัยของบริษัท Can-Sino Biologics จากจีนที่ร่วมมือกับสถาบันชีววิทยา ของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีน ซึ่งมีความเจริญก้าวหน้าในการพัฒนาถึงกับขนาดทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 รวมทั้งมีข้อมูลว่าผลของการปรับปรุง สามารถทำให้วัคซีนกระตุ้นการโต้ตอบของภูมิต้านทานก้าวหน้า จนถึงทำให้กองทัพจีนอนุมัติการใช้วัคซีนนี้ข้างในกองทัพตอนวันที่ 25 เดือนมิถุนายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาแล้วก็ทีมงานวิจัยจากสถาบันวิจัย Gamaleya ซึ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย เริ่มการทดลองวัคซีนมนุษย์ ระยะที่ 1 ในตอนมิถานายนก่อนหน้านี้
กับอีกแนวทางหนึ่งหมายถึงWhole-Virus Vaccines ที่ปรับปรุงโดยใช้เชื้อไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนลงหรือเปล่าปฏิบัติงานเพื่อกระตุ้นการโต้ตอบของระบบภูมิต้านทาน การพัฒนาวัคซีนด้วยแนวทางลักษณะนี้ในเดี๋ยวนี้ มีเพียงแต่ 3 ทีมนักวิจัยจากจีน ตัวอย่างเช่นบริษัท Sinopharm ของรัฐบาลจีน, บริษัท Sinovac Biotech แล้วก็สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีน ที่อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ โดย Sinopharm สมัครเว็บts911 นั้นส่งผลทดลองที่ค่อนข้างจะดีแล้วก็อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3
สิ่งที่น่าเร้าใจที่สุดเป็น การสร้างวัคซีนที่จำเป็นต้องประยุกต์ใช้กับคน 7,000 ล้านคนบนโลก เกิดเรื่องที่ท้าเป็นอย่างมากที่จำต้องคอยลุ้นกันถัดไป.
0 notes
Text
ทั่วทั้งโลกคอยลุ้น "วัคซีน COVID-19" เชื่อไม่เกินปีถัดไป..ได้ใช้
นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจการบ้านการเมืองแล้ว มั่นใจว่าวันนี้ อีกหัวข้อที่ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างรอคอยลุ้น น่าจะเป็นวัคซีนคุ้มครองป้องกัน COVID-19 ซึ่งหลายประเทศกำลังเดินหน้ารีบศึกษาค้นคว้า ปรับปรุง ด้วยหวังว่าจะ ผลิตออกมาใช้กับชาวโลกที่กำลังพบเจอกับโรคเกิดใหม่จากวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสได้
ปัจจุบัน สำนักข่าวรอยเตอร์ กล่าวว่า วันหลังการปรึกษาหารือและขอคำแนะนำระหว่างนายวิคเตอร์ วัวโรเนลลี เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศเม็กซิโก กับ นายมาร์เซโล อีบราด รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศเม็กซิโก นายมาร์เซโลได้ทวีตใจความแสดงความพึงพอใจที่จะทดลองกับคนเป็นจำนวนมากมายเพื่อมีวัคซีนในประเทศเม็กซิโกโดยด่วนที่สุด โดยมั่นใจว่าการทำงานทดลองวัคซีนต้านทานวัววิด-19 ของรัสเซียเพราะเหตุว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในความมานะบากบั่นอย่างมากของละตินอเมริกา สำหรับเพื่อการหายาที่มีคุณภาพสำหรับในการควบคุมการระบาดของวัววิด-19 เว้นเสียแต่ความร่วมแรงร่วมใจกับรัสเซียในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 แล้ว ประเทศเม็กซิโกยังได้ร่วมมือกับ AstraZeneca บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ แล้วก็มหาวิทยาลับออกซ์ฟอร์ด ปรับปรุงวัคซีนเพื่อป้อนให้กับละตินอเมริกา นอกจากนั้นประเทศเม็กซิโก ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อทดลองกับคนไม่ใช่น้อย สำหรับวัคซีนที่ปรับปรุงโดยบริษัท Johnson & Johnson ของสหรัฐอเมริกา แล้วก็บริษัทจีนอีก 2 ราย
ส่วนจีน รายงานข่าวสารจากสำนักข่าวต่างชาติ บอกว่า วัคซีนต้านทานวัววิด-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดย China National Pharmaceutical Group (Sinopharm) บริษัทผู้ผลิตยาของจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองกับคนส่วนมากในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมองสมรรถนะของการดูแลและรักษา รวมทั้งความปลอดภัยในคน มีความก้าวหน้าไปๆมาๆก ดังนี้ China National Biotec Group (CNBG) โดยมีซีโนฟาร์ม เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของ CNBG นั้น ได้ปรับปรุงวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 โดยมีโรงงาน 2 แห่งที่อู่ฮั่น รวมทั้งเมืองปักกิ่ง มีกำลังในการผลิตรวมกันได้มากกว่า 200 ล้านโดสต่อปี โดยเมื่อผลิตได้คงจะขายในราคาราวๆกว่า 1,000 หยวน หรือกว่า 4,500 บาท สำหรับในการฉีด 2 เข็ม
ข่าวสารดังที่กล่าวมาข้างต้นสะท้อนให้มีความคิดเห็นว่า เวลานี้ประเทศมหาอำนาจกำลังชิงชัยก��นปรับปรุงวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 เพื่อแย่งอิทธิพล รวมทั้งเกียรติของความเป็นประเทศมหาอำนาจ เวลาที่ประเทศด้อยพัฒนา แค่เพียงอยากทำให้มั่นใจว่า จะมีการกระจัดกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม
เว็บหนังสือพิมพ์ The New York Times เผยข้อมูลการพัฒนาวัคซีนโรควัววิด-19 ซึ่งปัจจุบันนี้มีมากยิ่งกว่า 140 ตัวที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยทีมวิจัยจากทั่วทั้งโลก ซึ่งในขั้นตอนธรรมดาของการพัฒนาวัคซีนรักษาโรคนั้น จะต้องมีการศึกษาเรียนรู้วิจัยแล้วก็ทดสอบก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์กับคนป่วย แต่ว่าสำหรับ��รควัววิด-19 นั้น เป็นกรณีเร่งด่วนที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วทั้งโลกจำต้องรีบวิธีการปรับปรุงแล้วก็ทดลอง เพื่อสามารถผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพและก็ความปลอดภัยได้ตามจุดมุ่งหมายด้านในปีถัดไป
การพัฒนาวัคซีนวัววิด-19 เริ่มหนแรกในม.ค. ด้วยการถอดรหัสข้อมูลกรรมพันธุ์ (Genome) ของเชื้อไวรัสวัวโรนาสายประเภทใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ที่เป็นต้นเหตุของโรควัววิด-19 ก่อนที่จะไปสู่ขั้นทดสอบในมนุษย์ หรือทดสอบทางสถานพยาบาลแบบไม่เป็นอันตรายเป็นครั้งแรกในมีนาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
แม้กระนั้นผลของการทดสอบที่ไม่แน่นอนทำให้บางเวลามศึกษาค้นคว้านั้นล้มเหลวหรือเห็นผลลัพธ์ที่ไม่แน่ชัด รวมทั้งมีเพียงแค่ไม่กี่กลุ่มเพียงแค่นั้นที่ประสบความสำเร็จ ถึงขนาดทำให้วัคซีนสามารถกระตุ้นระบบภูมิต้านทานรวมทั้งสร้างสารภูมิคุ้มกันออกมาต่อสู้กับเชื้อไวรัส
ปัจจุบันที่น่าดึงดูดหมายถึงวัคซีนต่อต้านวัววิด-19 ของรัสเซีย ในชื่อ “สปุตนิก 5” (Sputnik V) ซึ่งตั้งตามชื่อของดาวเทียมดวงแรกของโลกของรัสเซียนั้น มีการประเมินว่า น่าจะเป็นวัคซีนต้านทานวัววิด-19 ตัวแรก ที่จะผลิตออกสู่ตลาด รวมทั้งจะเปิดตัวสิ้นเดือนนี้ โดยรัสเซียได้ผลิตวัคซีนชุดแรก ถึงแม้ว่ายังมิได้ทดลองระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะในที่สุด เพื่อทดลองความปลอดภัย แล้วก็ความสามารถของวัคซีน แต่ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติให้ผลิตได้แล้ว
ปัจจุบันนี้มีทีมงานวิจัยเอกชนหลายรายใน สหรัฐอเมริกา จีน ประเทศเกาหลีใต้ อังกฤษ ประเทศฝรั่งเศสแล้วก็เยอรมนี ที่ปรับปรุงวัคซีนในลักษณะนี้ โดยทีมนักวิจัยที่มีความรุ่งเรืองเยอะที่สุด อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 ตัวอย่างเช่น บริษัท Moderna ของสหรัฐอเมริกา, ทีมงานนักวิจัยรวมจากบริษัท BioNTech ของเยอรมนี, Pfizer ของสหรัฐอเมริกา และก็ Fosun Pharma ของจีน และก็มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนของอังกฤษ
โดยแนวทางที่ได้รับการยินยอมรับแล้วก็คาดว่าน่าจะมีการบรรลุเป้าหมายมากมายสุดเป็นViral Vector Vaccines เป็นการปรับปรุงวัคซีนด้วยการใช้เชื้อไวรัสที่ทำให้อ่อนลงและไม่ส่งผลให้เกิดโรค มาตัดต่อใส่สารพัดธุบาปของเชื้อไวรัสวัวโรที่นา 2019 เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน ซึ่งเดี๋ยวนี้มี 3 ทีมนักวิจัยที่กำลังนำวัคซีนที่ปรับปรุงด้วยวิธีการแบบนี้ ไปทดลองในมนุษย์ ดังเช่น ทีมนักวิจัยของ AstraZeneca ผู้สร้างยารายใหญ่ของอังกฤษแล้วก็ประเทศสวีเดน ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด โดยทีมนักวิจัยนี้มีความรุ่งโรจน์ถึงขนาดทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 รวมทั้งได้รับการส่งเสริมงบประมาณจากโครงงาน Warp Speed ซึ่งคาดว่าบางทีอาจส่งวัคซีนรีบด่วนได้ตั้งแต่ต.ค.
ทีมงานนักวิจัยของบริษัท Can-Sino Biologics จากจีนที่ร่วมมือกับสถาบันชีววิทยา ของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีน ซึ่งมีความรุ่งเรืองในการพัฒนาถึงขนาดทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 รวมทั้งมีข้อมูลว่าผลของการปรับปรุง สามารถทำให้วัคซีนกระตุ้นการโต้ตอบของภูมิต้านทานเจริญ กระทั่งทำให้กองทัพจีนอนุมัติการใช้วัคซีนนี้ด้านในกองทัพตอนวันที่ 25 เดือนมิถุนายนก่อนหน้าที่ผ่านมารวมทั้งทีมงานนักวิจัยจากสถาบันวิจัย Gamaleya ซึ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย เริ่มการทดลองวัคซีนมนุษย์ ระยะที่ 1 ในตอนมิ.ย.ก่อนหน้านี้
กับอีกแนวทางหนึ่งเป็นWhole-Virus Vaccines ที่ปรับปรุงโดยใช้เชื้อไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนลงหรือเปล่าดำเนินการเพื่อกระตุ้นการโต้ตอบของระบบภูมิต้านทาน สมัครts911 การพัฒนาวัคซีนด้วยแนวทางแบบนี้ในปัจจุบันนี้ มีเพียงแต่ 3 ทีมงานนักวิจัยจากจีน เช่นบริษัท Sinopharm ของรัฐบาลจีน, บริษัท Sinovac Biotech และก็สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีน ที่อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ โดย Sinopharm นั้นส่งผลทดลองที่ค่อนข้างจะดีแล้วก็อยู่ระหว่างการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเป็น การสร้างวัคซีนที่จำเป็นต้องประยุกต์ใช้กับคน 7,000 ล้านคนบนโลก เกิดเรื่องที่ท้าอย่างยิ่งที่จะต้องคอยลุ้นกันถัดไป.
0 notes
Text
ตารางการฉีดวัคซีนเด็กเกิดใหม่และเด็กตัวเล็กๆ วัคซีนแต่ละประเภทมีบทบาทกันโรคอะไรบ้าง
เรื้องนี้จะต้องอ่าน รวมตารางฉีดวัคซีนเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่ง 12 ปี เสริมเกราะคุ้มครองโรคให้ลูกน้อยก่อนที่จะสายเหลือเกิน
การฉีดวัคซีนเด็กวัยทารกจนกระทั่งอายุ 12 ปี ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่บิดามารดา ผู้ปกครองจึงควรปฏิบัติ ไม่สมควรปล่อยปละละเลย เพราะว่าการฉีดวัคซีนเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันโรคของเด็กเพื่อกันโรคร้ายต่างๆที่บางทีอาจเกิดขึ้นแล้วทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กได้
วัคซีนในแต่ละชนิดนั้นผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์ด้วยกรรมวิธีทางด้านการแพทย์จนไม่สามารถที่จะนำไปสู่โรคได้แล้ว แม้กระนั้นจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายของเด็กมีการสร้างภูมิคุ้มกัน สำหรับกันไม่ให้เกิดโรคร้ายๆได้ในอนาคต
หมายกำหนดการฉีดวัคซีนเด็กในวัยต่างๆ
การฉีดวัคซีนของเด็กต้องเป็นไปตามแบบแผนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ สำนักโรคติดต่อทั่วๆไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีการช่วยเหลือให้ฉีดวัคซีน " ฟรี " สำหรับเด็กทุกคนในปี 2561 จำนวน 9 ประเภท สามารถควบคุมโรคได้ถึง 11 โรค ดังเช่น
ลำดับการฉีดวัคซีนเด็ก
1. วัคซีนเด็กสำหรับเด็กแรกเกิด
* BCG ป้องกันวัณโรค: ให้ก่อนออกมาจากโรงพยาบาล
* HB1 กันโรคตับอักเสบบี: ต้องฉีดวัคซีนตัวนี้ให้เร็วที่สุดภายใน 1 วันหลังคลอด
2. วัคซีนเด็ก อายุ 1 เดือน
* HB2 ป้องกันโรคตับอักเสบบี
3. วัคซีนเด็ก อายุ 2 เดือน
* DTP-HB1 วัคซีนรวมกันโรคคอตีบ บาดทะยัก โรคไอกรน รวมทั้งตับอักเสบบี
* OPV1 ป้องกันโรคโปลิโอประเภทรับประทาน โดยใช้หยอดข้างปาก
4. วัคซีนเด็ก อายุ 4 เดือน
* DTP-HB2 วัคซีนรวมเพื่อกันโรคคอตีบ โรคบาดทะยัก ไอกรน แล้วก็ตับอักเสบบี
* OPV2 ป้องกันโรคโปลิโอ แบบรับประทาน 1 ครั้ง
* IPV1 กันโรคโปลิโอ โดยต้องให้แบบฉีด 1 เข็ม
5. วัคซีนเด็ก อายุ 6 เดือน
* DTP-HB3 วัคซีนรวมกันโรคคอตีบ โรคบาดทะยัก ไอกรน รวมทั้งตับอักเสบบี
* OPV3 กันโรคโปลิโอ แบบ���ับประทาน 1 ครั้ง
6. วัคซีนเด็ก อายุ 9 เดือน
* MMR1 วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม แล้วก็โรคเหือด ซึ่งถ้ามิได้ฉีดวัคซีนตามที่กำหนด จำเป็นต้องรีบฉีดโดยเร็วที่สุด
7. วัคซีนเด็ก อายุ 1 ปี
* LAJE1 กันโรคไข้สมองอักเสบเจอี ชนิดเชื้อเป็นแบบอ่อนฤทธิ์
8. วัคซีนเด็ก อายุ 1 ปี 6 เดือน
* DTP4 วัคซีนรวมกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และก็ไอกรน
* OPV4 กันโรคโปลิโอ แบบกิน 1 ครั้ง
9. วัคซีนเด็ก อายุ 2 ปี 6 เดือน
* LAJE2 ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี ประเภทเชื้อเป็นแบบอ่อนฤทธิ์
* MMR2 วัคซีนรวมกันโรคหัด คางทูม และก็หัดเยอรมัน
10. วัคซีนเด็ก อายุ 4 ปี
* DTP5 วัคซีนรวมกันโรคคอตีบ บาดทะยัก รวมทั้งโรคไอกรน
* OPV5 กันโรคโปลิโอ แบบรับประทาน 1 ครั้ง
11. วัคซีนนักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 1
* MMR วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม และโรคเหือด
* HB ป้องกันโรคตับอักเสบบี
* LAJE ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี ประเภทเชื้อเป็นแบบอ่อนฤทธิ์
* IPV กันโรคโปลิโอ โดยจำเป็นต้องให้แบบฉีด 1 เข็ม
* DT ป้องกันโรคคอตีบแล้วก็บาดทะยัก
* OPV กันโรคโปลิโอ ประเภทกิน 1 ครั้ง
* BCG ป้องกันโรควัณโรค
12. วัคซีนเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5
* วัคซีน HPV1 และก็ HPV2 กันโรคมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อ HPV
13. วัคซีนนักเรียนประถมศึกษาชั้นปีที่ 6
* วัคซีน DT กันโรคคอตีบและโรคบาดทะยัก
* วัคซีนเด็กเป็นการฉีดเพื่อให้เด็กให้มีภูเขามิป้องกันจากโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ภายหลังอายุทารกจนถึง 12 ปี ถือว่าเป็นผลในด้านที่ดีกับตัวเด็กอย่างยิ่ง แล้วก็วัคซีนก็ไม่ใช่ยารักษาโรค��้วยด้วยเหมือนกัน
ด้วยเหตุนั้นเพื่อเกิดประโยชน์อย่างมาก พ่อแม่ หรือผู้ปกครองควรใส่ใจพาบุตรหลานทุกช่วงอายุ ไปฉีดวัคซีนให้ครบตามที่ได้มีการกำหนดที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างไม่ตกหล่น หรือขาดไป
แม้กระนั้นถ้าพวกเราไม่อาจจะพาเด็กไปฉีดวัคซีนตามที่ได้มีการกำหนดดังที่กล่าวมาข้างต้น อาจเกิดจากการลืม หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่อาจจะไปรับวัคซีนได้ ยกตัวอย่างเช่น ต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนเนื่องจากว่าเด็กมีอาการเจ็บป่วยอย่างหนักจนถึงจำเป็นต้องเลื่อนการได้ฉีดวัคซีนออกไป ให้รีบพาไปฉีด และไม่จำเป็นต้องเริ่มฉีดวัคซีนใหม่ตั้งแต่เข็มแรกแต่ว่าให้นับต่อไปได้เลย
หากวัคซีนนั้นจำเป็นต้องให้มากยิ่งกว่า 1 ครั้ง เมื่อได้วัคซีนเด็กไปบ้างแล้วไม่อาจจะให้ครั้งต่อมาตามกำหนดได้ก็ให้ฉีดวัคซีนต่อได้เลยโดยไม่ต้องเริ่มนับเข็มที่ 1 ใหม่ด้วยเหมือนกัน
ในกรณีที่เด็กไม่สามารถที่จะไปฉีดวัคซีนตามกำหนด ช้า หรือเปล่าครบถ้วนสมบูรณ์นั้น รวมทั้งเด็กที่มิได้ฉีดวัคซีนตามที่มีการกำหนดครบภายในช่วงระยะเวลา 1 ปี สามารถให้วัคซีนตลอดตามที่ได้กำหนดในหมายกำหนดการให้วัคซีนตามปกติ
ถ้าหากมีเหตุจำเป็นและก็เพื่อเด็กได้รับประโยชน์จากวัคซีนอย่างเต็มที่ หมอจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดวัคซีนตามความเหมาะสมต่อไป
https://www.honestdocs.co/vaccination-schedules-of-newly-born-and-children
Tags : วัคซีนเด็ก,วัคซีนสำหรับเด็ก
0 notes
Text
youtube
EP.12 Review ฉีดวัคซีนโควิด 5 เข็ม ภูมิคุ้มกันเป็นยังไง ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น เนื่องจากช่วงปี 2020-2021 มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ได้มีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย เริ่มมีผู้ป่วยคิดโควิดจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้มีการนำเข้าวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Sinovac) ��ข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ กลไกการต่อสู้กับโควิด มี ทั้งแบบภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ และภูมิคุ้มกันสารน้ำ (antibody) โดยการวัคระดับภูมิคุ้มกันในคลิปนี้ ตรวจเฉพาะภูมิคุ้มกันแบบสารน้ำ (Antibody) (ผมจ่ายเงินส่งตรวจเลือดที่เอกชนเอง) ซึ่งที่สามารถส่งตรวจได้ จะเป็นภูมิคุ้มกันสารน้ำ antibody แบบรวม (Total IgG) ไม่ได้ตรวจ Neutralized antibody ต่อ COVID โดยตรง เราเชื่อว่าถ้าภูมิคุ้มกันโดยรวมเราสูง ค่า Neutralized antibody ต่อ COVID เราน่าจะสูงตามไปด้วยฃ โดบข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย ระดับภูมิคุ้มกันจะไม่สูง หลังจากนั้นมีการนำเข้า วัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ เข้ามา และให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าฉีดกระตุ้น จึงได้ฉีดกระตุ้น เป็นเข็มที่ 3 ระดับภูมิคุ้มกัน total IgG 200 (หลังฉีด Sinovac เข็ม 2 เป็นเวลา 2 เดือน) หลังจากฉีด ไฟเซอร์ 4 สัปดาห์ ตรวจภูมิคุ้มกันแบบรวมต่อโควิด ได้ 12,500 ผ่านไป 2 เดือน ระดับลดลงเหลือ 2500 จึงตัดสินใจฉีด mRNA Moderna 2 เข็ม ที่จองจาก รพ. เอกชน ต่อ ผลข้างเคียงที่พบ ปวดบริเวณที่ฉีดมากๆ ยกแขนไม่ขึ้น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก ไข้ เพลีย ท้องเสีย ผลข้างเคียงที่ต้องระวัง คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประเมินอาการ และให้การรักษาเบื้องต้น
KS clinic หมอกิตติศักดิ์ - หมอสีชมพู หมอรักษาปอด หมอรักษาตา อุดรธานี นพ.กิตติศักดิ์ อาจารย์แพทย์ประจำโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี คลินิกแพทย์เฉพาะทาง อายุรศาสตร์ระบบทางเดินหายใจ และภาวะวิกฤตระบบหายใจ ประจำโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี รักษาโรคทางอายุรกรรมระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ไข้หวัด ไอ หอบเหนื่อย เอกซเรย์ปอดผิดปกติ ก้อนในปอด ส่องกล้องปอด นอยกรน ฉีดวัคซีน ภูมิแพ้ และ โรคทั่วไป (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปวดข้อ ฯลฯ)
โดยเเพทย์ผู้มีประสบการณ์ ปลอดภัยได้มาตราฐาน
สอบถาม • นัดคิว • ปรึกษา• KS clinic หมอกิตติศักดิ์ - หมอสีชมพู หมอรักษาปอด หมอรักษาตา อุดรธานี โทรสอบถาม 0926-361-362 LineID: @ksclinic.udon (มี @ ด้วยนะคะ)
ติดตามเราได้ที่ เฟชบุ๊ค: https://www.facebook.com/ksclinic.udon/ https://www.tumblr.com/blog/ksclinicudon/ https://ksclinicudon.blogspot.com/ https://www.instagram.com/ksclinicudon/
ที่อยู่ https://goo.gl/maps/8yjDMnAbPRUdiYXs6
ที่อยู่ 140/19-20 ไพร์มสแควร์ ถนนหน้าสถานีรถไฟ ต.หมากแข็ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี 41000
#ksclinicหมอกิตติศักดิ์#หมอกิตติศักดิ์หมอปอดอุดร#อายุรศาสตร์ระบบทางเดินหายใจอุดร#ภาวะวิกฤตระบบหายใจอุดร#อุดรธานี#รักษาโรคทางอายุรกรรมระบบทางเดินหายใจอุดร#หอบหืดอุดร#ถุงลมโป่งพองอุดร#ไข้หวัดอุดร#ไออุดร#หอบเหนื่อยอุดร#เอกซเรย์ปอดผิดปกติอุดร#ก้อนในปอดอุดร#ส่องกล้องปอดอุดร#นอนกรนอุดร#ฉีดวัคซีนอุดร#ภูมิแพ้อุดร#เบาหวานอุดร#ความดันโลหิตสูงอุดร#ปวดข้ออุดร#หมอปอดอุดร#หมอรักษานอนกรน#หมอรักษาถงลมโป่งพองอุดร#หมอรักษาหอบหืดอุดร#รักษาปอดอุดร#รักษาถุงลมโป่งพอง#รักษาหอบเหนื่อย#รักษาหอบหืด#รักษาภูมิแพ้#Youtube
0 notes
Text
https://fb.watch/qE_HOEU0qd/
EP.12 Review ฉีดวัคซีนโควิด 5 เข็ม ภูมิคุ้มกันเป็นยังไง ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
เนื่องจากช่วงปี 2020-2021 มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ได้มีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย เริ่มมีผู้ป่วยคิดโควิดจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้มีการนำเข้าวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Sinovac) เข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้
กลไกการต่อสู้กับโควิด มี ทั้งแบบภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ และภูมิคุ้มกันสารน้ำ (antibody) โดยการวัคระดับภูมิคุ้มกันในคลิปนี้ ตรวจเฉพาะภูมิคุ้มกันแบบสารน้ำ (Antibody) (ผมจ่ายเงินส่งตรวจเลือดที่เอกชนเอง) ซึ่งที่สามารถส่งตรวจได้ จะเป็นภูมิคุ้มกันสารน้ำ antibody แบบรวม (Total IgG) ไม่ได้ตรวจ Neutralized antibody ต่อ COVID โดยตรง เราเชื่อว่าถ้าภูมิคุ้มกันโดยรวมเราสูง ค่า Neutralized antibody ต่อ COVID เราน่าจะสูงตามไปด้วยฃ
โดบข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย ระดับภูมิคุ้มกันจะไม่สูง
หลังจากนั้นมีการนำเข้า วัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ เข้ามา และให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าฉีดกระตุ้น จึงได้ฉีดกระตุ้น เป็นเข็มที่ 3 ระดับภูมิคุ้มกัน total IgG 200 (หลังฉีด Sinovac เข็ม 2 เป็นเวลา 2 เดือน) หลังจากฉีด ไฟเซอร์ 4 สัปดาห์ ตรวจภูมิคุ้มกันแบบรวมต่อโควิด ได้ 12,500 ผ่านไป 2 เดือน ระดับลดลงเหลือ 2500 จึงตัดสินใจฉีด mRNA Moderna 2 เข็ม ที่จองจาก รพ. เอกชน ต่อ
ผลข้างเคียงที่พบ ปวดบริเวณที่ฉีดมากๆ ยกแขนไม่ขึ้น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก ไข้ เพลีย ท้องเสีย
ผลข้างเคียงที่ต้องระวัง คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประเมินอาการ และให้การรักษาเบื้องต้น
#โควิด19 #วัคซีนโควิด #วัคซีน #ภูมิคุ้มกันโควิด #ปอดอักเสบ #ผลข้างเคียงวัคซีน #ปอดอักเสบ
ดูน้อยลง
#ksclinicหมอกิตติศักดิ์#หมอกิตติศักดิ์หมอปอดอุดร#อายุรศาสตร์ระบบทางเดินหายใจอุดร#ภาวะวิกฤตระบบหายใจอุดร#อุดรธานี#รักษาโรคทางอายุรกรรมระบบทางเดินหายใจอุดร#หอบหืดอุดร#ถุงลมโป่งพองอุดร#ไข้หวัดอุดร#ไออุดร#หอบเหนื่อยอุดร#เอกซเรย์ปอดผิดปกติอุดร#ก้อนในปอดอุดร#ส่องกล้องปอดอุดร#นอนกรนอุดร#ฉีดวัคซีนอุดร#ภูมิแพ้อุดร#เบาหวานอุดร#ความดันโลหิตสูงอุดร#ปวดข้ออุดร#หมอปอดอุดร#หมอรักษานอนกรน#หมอรักษาถงลมโป่งพองอุดร#หมอรักษาหอบหืดอุดร#รักษาปอดอุดร#รักษาถุงลมโป่งพอง#รักษาหอบเหนื่อย#รักษาหอบหืด
0 notes
Text
"สปส." พร้อมแล้ว ฉีด "วัคซีน" เข็ม 2 ให้แก่ผู้ประกันตน "ม.33" #SootinClaimon.Com
“สปส.” พร้อมแล้ว ฉีด “วัคซีน” เข็ม 2 ให้แก่ผู้ประกันตน “ม.33” #SootinClaimon.Com
#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก https://www.komchadluek.net/news/politic/478505 “สปส.”พร้อมแล้ว ฉีด”วัคซีน”เข็ม 2 ให้แก่ผู้ประกันตน “ม.33” 12 สิงหาคม 2564 – 14:50 น. “สปส.”พร้อมแล้ว ฉีด”วัคซีน”เข็ม 2 ให้แก่ผู้ประกันตน “ม.33” เริ่ม 16 สิงหาคม นี้ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 แพทย์หญิงนิธยาพร ลิมปะพันธุ์…
View On WordPress
0 notes
Text
ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนที่จำเป็นที่จะต้องฉีด รวมทั้งวัคซีนเสริมที่น่าสนใจ
วัคซีน (Vaccine) เป็น สารที่มีคุณสมบัติบางประการราวกับเชื้อโรค เมื่อวัคซีนไปสู่ร่างกาย ร่างกายก็เลยเกิดการตอบสนองต่อสารนั้นเสมือนในขณะที่ร่างกายเราได้รับเชื้อ โน่นเป็นมีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อนั้นๆขึ้นทำให้เมื่อถึงเวลารับเชื้อโรคจริงๆร่างกายก็จะหลั่งภูมิคุ้มกันออกมาได้เร็ว วัคซีนก็เลยเป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อโรคของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม
แต่ การจะฉีดวัคซีน 1 เข็ม ต่อ 1 โรคก็บางทีอาจไม่สบายนัก ก็เลยมีการสร้างสรรค์วัคซีนรวมต้านทานเชื้อหลายชนิดขึ้นในเข็มเดียวเพื่อลดช่วงเวลาแล้วก็ลดการเจ็บปวดของผู้ป่วย
แม้กระนั้น ไม่ใช่ว่าทุกวัคซีนจะรวมกันได้เสมอไปเพราะเชื้อบางเชื้อก็ไม่ถูกกัน บางเชื้อรวมกันแล้วมีการนอนก้น หรือเมื่อจับเข้าด้วยกันแล้วทำให้เชื้อนั้นๆมีรูปร่างลักษณะที่เปลี่ยนไป ทำให้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายก็สร้างแอนติบอดีมาจับกับเชื้อได้ไม่ถูกจำต้อง หรือเรียกว่าเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไม่ถูกเชื้อนั่นเอง
ตอนนี้ประเทศไทยมีวัคซีนรวม 6 โรค ใน 1 เข็ม ดังเช่นว่า
* โรคคอตีบ (Diphtheria)
* โรคไอกรน (Pertussia)
* โรคบาดทะยัก (Tetanus)
* โรคตับอักเสบบี (Hepatitis B)
* โรคโปลิโอ (Polio)
* โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (Hib)
วัคซีนรวมข้างต้นบางทีก็อาจจะไม่ได้ครอบคลุมสำหรับทุกสิทธิ์การรักษา ส่วนวัคซีนรวมที่ครอบคลุมในสิทธิ์รับรองสุขภาพถ้วนหน้าจะเป็นวัคซีนสำหรับเด็ก ตัวอย่างเช่น วัคซีนรวม หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) รวมทั้งคอตีบ-โรคบาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์ (DTwP)
วัคซีนที่ควรจะฉีด
วัคซีน BCG
วัคซีนป้องกันโรควัณโรค (Tuberculosis) ซึ่งเป็นโรคระบาดในประเทศไทย ด้วยเหตุผลดังกล่าวเด็กทุกคนจำต้องได้รับวัคซีนนี้เป็นการป้องกันแต่ว่าเนิ่นๆเพราะตัวโรควัณโรคอาจจะส่งผลให้ถึงแก่กรรมได้ ยิ่งถ้าเกิดเชื้อติดในเด็กที่ภูมิคุ้มกันต่ำอยู่ เชื้อบางครั้งก็อาจจะไปทำลายได้หลายระบบ ส่วนใหญ่ติดผ่านทางระบบหายใจไปเป็นวัณโรคปอด แม้เข้าสู่กระแสโลหิตก็ลุกลามไประบบย่อยอาหาร ระบบต่อมน้ำเหลืองได้
* วัคซีนตับอักเสบบี (HBV)
วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสตับอักเสบประเภทบี ซึ่งติดต่อผ่านทางแม่สู่ลูก หรือสารคัดหลั่งต่างๆเชื้อไวรัสตับอักเสบถือเป็นโรคระบาดในประเทศไทยด้วยเหมือนกัน อาการโรคจะมีได้ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนกระทั่งตับวายจนเกิดเป็นตับแข็งได้ โดยการฉีดป้องกันนั้น เป็น ฉีดตั้งแต่แรกกำเนิดและเมื่อมีอายุ 1 เดือน ต่อจากนั้นจะฉีดเป็นเข็มรวมกับวัคซีน คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์และก็วัคซีนโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียฮิบ (Hib) ที่อายุ 2, 4 และ 6 เดือน แล้วให้กระตุ้นวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-โรคไอกรนจำพวกทั้งเซลล์ ที่ 18 เดือน และก็ 4-6 ปี อีก 2 ครั้ง หลังจากนั้นให้วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักที่ 11-12 ปี และทุก���10 ปี
* วัคซีนโปลิโอแบบกิน
วัคซีนป้องกันโรคกล้ามลีบโปลิโอซึ่งจะให้วัคซีนนี้ตอนอายุ 2, 4 และก็ 6 เดือน แล้วต่อจากนั้นให้กระตุ้นที่อายุ 18 เดือน และ 4-6 ขวบ อีก 2 ครั้ง
วัคซีน (MMR) หรือวัคซีนป้องกันคางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี (JE)
วัคซีนนี้จะให้ที่อายุโตขึ้นมาหน่อยคือ อายุ 9-12 เดือน รวมทั้ง 2 ปีถึง 2 ปีครึ่ง ทั้งปวง 2 เข็ม โดย ซึ่งโรคสองโรคนี้มักติดต่อผ่านทางสารคัดเลือกหลั่งของร่างกาย ปัจจุบันไม่ค่อยพบเนื่องจากระบบป้องกันเชื้อค่อนข้างดียิ่งขึ้นมาก
* วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
เป็นวัคซีนป้องกันที่จะต้องได้รับทุกๆปี โดยคราวแรกของชีวิตให้ที่อายุตอน 6-24 เดือน โดยให้ 2 เข็มห่างกัน 1 เดือน หลังจากนั้นจำต้องมารับวัคซีนทุกปี เนื่องจากว่าเชื้อโรคจะมีการกลายพันธุ์ไปจากเดิม และก็ผู้คิดค้นวัคซีนก็จะมีการปรับปรุง ปรับปรุง เพื่อให้สามารถยับยั้งเชื้อพวกนั้นได้
* วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV vaccine)
เป็นโรคที่อยู่ในอวัยวะสืบพันธุ์ชายแต่จะไม่ก่อโรคในเพศชาย ะติดต่อได้ทางเพศชมรม ซึ่งมองเห็นได้ว่า ตามแผนผังเป็น ให้เริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 11 ปี แม้กระนั้นถ้าเกิดคนไหนยังไม่เคยได้รับวัคซีนนี้ ให้ฉีดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์คราวแรก จากงานวิจัยพบว่า จะได้ผลการปกป้องที่ดีมากยิ่งกว่าโดยฉีดทั้งสิ้น 2 เข็ม เข็มลำดับที่สองห่างจากเข็มแรก เป็นระยะเวลา 6เดือน
วัคซีนเสริมที่น่ารู้และเพิ่มเติมจากวัคซีนที่จำเป็นต้องฉีด
วัคซีน PPSV23 และก็ PCV13
ป้องกันโรคที่มีต้นเหตุเนื่องมาจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae ซึ่งเป็นเชื้อที่มักก่อโรคบริเวณทางเดินหายใจเป็นหลัก ดังเช่น ปอดอักเสบ การฉีดวัคซีนนั้นเริ่มจากจะฉีดวัคซีน PCV13 1 ครั้ง ตอนอายุ 6-18 ปี รวมทั้งคนแก่ที่มีการเสี่ยง ได้แก่ อายุมากกว่า 59 ปี ติดเชื้อโรคไวรัสไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อย่างเช่น คนเจ็บที่จำเป็นต้องตัดม้าม หรือเป็นโรคอื่นๆทางภูมิคุ้มกัน จากนั้นให้มากระตุ้นโดยฉีด PPSV23 2 ครั้ง เว้นระยะห่างกัน 5 ปี
* วัคซีนอีสุกอีใส (VZV)
ความจริงโรคอีสุกอีใสสามารถหายได้เองแล้วก็ฉีดวัคซีนก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่มีจังหวะติดเชื้อโรคอีก วัคซีนอีสุกอีใสจึงจัดเป็นวัคซีนเสริมที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อรับวัคซีนเอง ถ้าต้องการฉีดให้ฉีดในช่วง 1-4 ขวบ จำนวน 2 เข็ม
* วัคซีนไข้เลือดออก (DEN)
เป็นอีกวัคซีนที่มิได้บังคับฉีดเพราะเหตุว่าแม้ว่าจะฉีดและก็ไม่อาจจะป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ ถ้าหากจะฉีดวัคซีนนี้จะทำในช่วงอายุ 9-15 ปี ปริมาณ 2 เข็ม ห่างกัน 6-12เดือน
ข้อมูลดีๆ จาก www.honestdocs.co/vaccine
0 notes
Text
ทำความรู้จักกับวัคซีนปอดอักเสบ จำเป็นหรือไม่
วัคซีนปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจแบบฉับพลันที่มักพบ โดยยิ่งไปกว่านั้นใ��คนที่มีภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ ดังเช่น เด็กตัวเล็กๆ ผู้สูงวัย หรือคนป่วยที่พักฟื้นในโรงพยาบาล โรคปอดอักเสบมักมีเหตุมาจากการได้รับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย แล้วก็เชื้อรา
ที่พบมากที่สุดคือการรับเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae หรือเรียกอีกอย่างว่าเชื้อ Pneumococcus แบคทีเรียประเภทนี้นอกเหนือจากการที่จะทำให้เป็นโรคปอดอักเสบแล้ว บางทีอาจแผ่ขยายจนกระทั่งเกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบรวมทั้งติดเชื้อโรคในกระแสโลหิตได้
ดังนี้ก็เลยมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบขึ้น สำหรับป้องกันการรับเชื้อและก็อันตรายร้ายแรงจากเชื้อดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
วัคซีนปอดอักเสบเป็นยังไง?
วัคซีนปอดอักเสบ หรือ วัคซีนนิวโมคอกคัส (Pneumococcal vaccine) เป็นวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อ Streptococcus pneumoniae ซึ่งเป็นเชื้อที่มาของโรคปอดอักเสบที่มีมากกว่า 90 สายพันธุ์ องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนะให้มีการฉีดวัคซีนปอดอักเสบในเด็กเล็กเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วก็ยังกำหนดให้วัคซีนจำพวกนี้เป็นหนึ่งในบัญชียาจำเป็นจะต้องขององค์การอนามัยโลกอีกด้วย
วัคซีนปอดอักเสบมีกี่ประเภท
วัคซีน PCV (Pneumococcal conjugate vaccine) เป็นการนำเชื้อแบคทีเรียมาจับกับโปรตีนที่เป็นตัวนำส่ง ตัวที่นิยมใช้คือ PCV 13 ซึ่งครอบคลุมการป้องกันเชื้อ pneumococcus 13 สายพันธุ์ สามารถฉีดได้อีกทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และก็คนชรา
วัคซีน PPSV (Pneumococcal polysaccharide vaccine) จะใช้คาร์โบไฮเดรตขนาดใหญ่เป็นตัวนำส่ง ทำให้มีความจำเพาะ รวมทั้งมีประสิทธิภาพสูง ตัวที่นิยมใช้คือ PPSV 23 ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อได้ 23 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่แนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
ใครบ้างมีความเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบ
* ผู้ที่มีโอกาสติดโรค Pneumococcus และก็มีอาการป่วยด้วยปอดอักเสบได้สูงดังเช่น
* ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคปอดอักเสบแผ่ขยาย
* คนที่มีภูมิต้านทานต่ำอย่างเช่น เด็กเล็ก ผู้สูงวัย ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ตัดม้ามออกแล้ว คนที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ คนที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน ฯลฯ
* ผู้ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังดังเช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคตับ โรคเบาหวาน โรคปอด น้ำในสมองรั่วแล้วก็ไขสันหลังรั่ว ฯลฯ
* ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและก็มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
* คนที่ได้รับการฝังเครื่องมือแพทย์ที่หูชั้นในหรือ���ังประสาทหูเทียม
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบ
* สำหรับทารกที่ยังปราศจากความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอักเสบควรได้รับวัคซีนPCV จำนวน 3 เข็ม ในตอนปีแรกข้างหลังคลอด คือ ที่อายุ 2, 4 แล้วก็ 6 เดือน แล้วจึงฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็มเมื่ออายุ 12 เดือน
* สำหรับคนที่แก่ 2 ปีขึ้นไป และก็มีความเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบควรจะฉีดวัคซีน PCV 1-2 เข็ม (ห่างกัน 8 อาทิตย์) แล้วก็ฉีดกระตุ้นอีก 1 เข็ม โดยห่างจากเข็มในที่สุด 8 อาทิตย์
* สำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปแพทย์อาจชี้แนะให้ฉีดวัคซีนทั้งจำพวก PCV และ PPSV โดยฉีดวัคซีน PCV ก่อน 1 เข็ม และก็ตามด้วย PPSV โดยห่างกัน 12 เดือน
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนอื่น ถ้าหากต้องฉีดวัคซีนปอดอักเสบทั้ง 2 ชนิด คือ PCV แล้วก็ PPCV ห้ามฉีดวัคซีนทั้งสองประเภทนี้พร้อมหรือข้างในวันเดียวกัน ควรจะฉีดวัคซีน PCV ก่อนแล้วจึงและก็ตามด้วย PPSV ในวันอื่น ห่างกันขั้นต่ำ 8 สัปดาห์ เนื่องจากว่าจากการเรียนพบว่าการฉีด PCV ก่อน จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคปอดอักเสบสูงขึ้นมากยิ่งกว่า การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
* ในเด็กอาจจะส่งผลให้เกิดไข้สูงกระทั่งเกิดอาการชักได้ (febrile seizures)
* ในผู้ใหญ่ การฉีดด้วยกันสามารถทำได้ แต่จากการเรียนรู้ในผู้ที่อายุสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 65 ปีพบว่าการฉีดด้วยกันหรือภายในวันเดียวกันทำให้ภูมิคุ้มกันต่อทั้งยังเชื้อปอดอักเสบรวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่บางสายพันธุ์ลดน้อยลง
ด้วยเหตุดังกล่าวโรงพยาบาลโดยมากก็เลยเลี่ยงการให้วัคซีนปอดอักเสบกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อม หรือในวันเดียวกัน เพื่อประสิทธิผลสูงสุดของวัคซีน รวมทั้งหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
การฉีดวัคซีนปอดอักเสบร่วมกับวัคซีนอื่นๆ
ในผู้ใหญ่ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการให้วัคซีน PCV ร่วมกับวัคซีนอื่นในวันเดียวกัน อาทิเช่น วัคซีนป้องกันบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน (Tdap) วัคซีนป้องกันงูสวัด (Zoster vaccine)[br] แม้จะมีการศึกษาพบว่า การให้วัคซีนปอดอักเสบประเภท PPCV กับ วัคซีนงูสวัด ในวันเดียวกัน ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันโรคงูสวัดลดน้อยลงเมื่อเทียบกับการให้ห่างกัน 4 อาทิตย์[br] หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา (CDC) ยังคงเสนอแนะให้รับวัคซีนงูสวัด และก็ PPCV ในวันเดียวกันได้ เพื่อส่งเสริมให้ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน
โดยสรุป ถ้าจะต้องได้รับทั้งวัคซีนปอดอักเสบ PCV และ PPCV ร่วมกับ วัคซีนงูสวัด ควรจะให้วัคซีน PCV ร่วมกับวัคซีนงูสวัดก่อน แล้วจึงให้วัคซีน PPCV ในวันหลังห่างกันอย่างน้อย 8 อาทิตย์ หรือห่างกันอย่างต่ำ 1 ปี ในคนอายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีภาวการณ์ภูมิคุ้มกันปกติ
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ
วัคซีนปอดอักเสบอาจส่งผลให้เกิดผลใกล้กันเหมือนกับวัคซีนอื่นๆอาทิเช่น มีอาการปวด บวม รอบๆผิวหนังที่ฉีด มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ้วก อาการกลุ่มนี้สามารถรับประทานยาลดไข้เพื่อบรรเทาอาการได้ นอกจากนั้นผู้รับวัคซีนบางรายอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังเช่น แพ้วัคซีน มีผื่นขึ้นตามตัว ใบหน้าแล้วก็ตาบวม หายใจลำบาก ซึ่งเจอได้น้อยมาก แม้กระนั้นถ้ากำเนิดอาการกลุ่มนี้ให้รีบมาพบแพทย์โดยเร็ว
ใครไม่สมควรฉีดวัคซีนปอดอักเสบ?
* คนที่มีอาการ���พ้หรือมีปฏิกิริยารุนแรงต่อวัคซีนปอดอักเสบสำหรับในการฉีดครั้งก่อน
* ผู้ที่มีลักษณะอาการแพ้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ
* ผู้ที่มีลักษณะอาการป่วยไข้ ติดโรค ควรจะเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อนจนกว่าจะหาย ภูมิต้านทานปอดอักเสบหลังจากฉีดวัคซีนอยู่ได้นานมากแค่ไหน?
วัคซีนปอดอักเสบชนิด PCV เป็นวัคซีนที่ตอบสนองต่อการผลิตภูมิคุ้มกันได้ดีในคนวัยชรา และระดับภูมิคุ้มกันจะน้อยลงภายหลังการฉีดวัคซีนโดยประมาณ 5-10 ปี
https://www.honestdocs.co/vaccines-for-pneumonia-vaccination-against-disease-injectable-at-all-ages
Tags : วัคซีนปอดอักเสบ,-
0 notes
Text
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก จำเป็นไหม ทำไมจำเป็นต้องฉีด?
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก นับเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนจำเป็นที่จะต้องได้รับ ด้วยเหตุว่าโรคกลุ่มนี้เป็นโรคร้ายแรง โดย���ฉพาะแม้เกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที อาจจะส่งผลให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ในประเทศไทยได้กำหนดให้เด็กทุกคนฉีดยาป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ซึ่งช่วยลดจำนวนผู้เจ็บป่วยทั้งสามโรคลงได้มาก
โรคคอตีบเป็นอย่างไรมีลักษณะอาการเช่นไร
โรคคอตีบ (Diphtheria) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheriae ที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของคนไข้ ติดต่อกันได้โดยง่ายผ่านทางการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือสิ่งของเครื่องใช้ของคนเจ็บ นับเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นฉับพลันรวมทั้งร้ายแรง โดยมากจะพบในเด็กอายุต่ำยิ่งกว่า 10 ปี[br] [br] ลักษณะของโรคจะแสดงภายหลังจากการรับเชื้อราว 2-5 วัน คนเจ็บจะมีไข้สูง หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ คออักเสบ กลืนของกินทุกข์ยากลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืน คอบุ๋ม หอบ หายใจไม่สะดวก หากอาการร้ายแรงมากอาจทำให้หายใจไม่ออก จนถึงเป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าตรวจคอบางทีอาจพบแผ่นฝ้าสีขาวผสมเทา (White-grayish membrane) ขึ้นบริเวณลำคอ ต่อมทอนซิล หรือลิ้นไก่ อาการแทรกซ้อนสำคัญคือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) รวมทั้งเส้นประสาทอักเสบ (Neuritis) เดี๋ยวนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอย่างล้นหลาม นำมาซึ่งการทำให้อัตราการเกิดโรคคอตีบลดน้อยลงอย่างมาก
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักเป็นอย่างไรมีกี่ประเภท
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นวัคซีนศูนย์รวมในเข็มเดียว สร้างขึ้นมาจากเชื้อหรือพิษของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อเกิดโรค โดยเอามาผ่านกระบวนการทำให้เชื้อหมดความสามารถในการก่อโรค จึงปลอดภัยและก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูง ดังนี้วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก แบ่งได้ 2 กลุ่มสำคัญๆ
* วัคซีนDTwP หรือจำพวกทั้งยังเซลล์ วัคซีนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย ท็อกซอยด์ (พิษของเชื้อโรคที่ทำให้หมดฤทธิ์ แต่ว่ายังสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อยู่) คอตีบแล้วก็บาดทะยัก รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคไอกรนที่ตายแล้ว
* วัคซีนDTaP หรือจำพวกไม่มีเซลล์ วัคซีนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย ทอกซอยด์คอตีบรวมทั้งบาดทะยัก แล้วก็แอนติเจนจากผนังเซลล์ของเชื้อไอกรนปริมาณ 2 จำพวก เป็น Inactivated lymphocytosis promoting factor (LPF) และ Filamentous hemagglutinin (FHA)
ดังนี้พบว่า คุณภาพสำหรับการป้องกันโรคของวัคซีนทั้งคู่กลุ่มนี้ไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่วัคซีน DTwP ได้ผลข้างๆสูงยิ่งกว่า คนที่ได้รับวัคซีนบางรายอาจมีไข้สูง มีลักษณะอาการชัก มีภาวะตัวอ่อน และไม่ตอบสนองด้านใน 48 ชั่วโมงภายหลังได้รับวัคซีน ซึ่งแม้มีอาการดังที่กล่าวมานี้ เมื่อถึงกำหนดฉีดยาคราวต่อมา หมอบางทีอาจให้ยาลดไข้หรือยาป้องกันการชัก หรือบางทีอาจเปลี่ยนแปลงมาให้วัคซีน DTaP แทน เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักต้องฉีดเวลาใดจะต้องฉีดกี่เข็ม
โดยทั่วไป วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก จะเริ่มฉีดให้เด็กแรกคลอดตั้งแต่อายุ 2 เดือน โดยฉีดรอบๆต้นขาข้างหน้า ทั้งหมด 5 เข็ม ตามระยะเวลาดังนี้
* ครั้งที่1 อายุประมาณ 2 เดือน
* ครั้งที่2 อายุโดยประมาณ 4 เดือน
* ครั้งที่3 อายุราว 6 เดือน
* ครั้งที่4 อายุราวๆ 18 เดือน
* ครั้งที่5 อายุราว 4-7 ปี
อาการข้างๆของวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักมีอะไรบ้าง
การฉีดยาทุกหมวดหมู่ย่อมนำมาซึ่งการก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างออกไป โดยวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก อาจส่งผลให้เกิดลักษณะของการปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด บางรายอาจมีอาการอ่อนแรง จับไข้ต่ำๆอ้วก โดยส่วนใหญ่อาการนี้จะเกิดขึ้นด้านใน 1 วันภายหลังจากได้รับวัคซีน การดูแลแค่เพียงประคบด้วยผ้าเย็นรอบๆที่ปวด หากจับไข้ให้รับประทานยาลดไข้ และก็อาการจะหายได้ด้านใน 2-3 วัน เว้นแต่ว่าในรายที่มีอาการร้ายแรง ดังเช่นว่า เป็นไข้สูงจัด ชัก ตัวอ่อน ไม่ตอบสนอง ซึ่งเจอได้น้อยมากโดยประมาณ 1 ใน 50,000 ราย ผู้ดูแลควรรีบพามาพบหมอในทันที เนื่องจากอาจมีการเสี่ยงที่จะแพ้วัคซีนได้
ใครไม่ควรฉีดยาคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก
ถึงแม้ว่าวัคซีนจะเป็นประโยชน์ และกระทรวงสาธารณสุขจะกำหนดเป็นมาตรฐานว่าเด็กทุกคนจำเป็นต้องได้รับวัคซีนนี้ แต่ก็มีความจำกัดสำหรับเพื่อการฉีดวัคซีนด้วยเหมือนกัน ดังต่อไปนี้
* คนที่มีภาวะไม่ดีเหมือนปกติทางสมองหรือชัก ซึ่งยังควบคุมอาการไม่ได้
* ผู้ที่เคยมีประวัติต่อต้านหรือแพ้วัคซีนประเภทนี้มาก่อน
* เด็กที่มีอายุมากกว่า 7 ปีและคนแก่ ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนจำพวกนี้มาก่อน ถ้าเกิดปรารถนาป้องกันโรค ควรจะฉีดยาป้องกันคอตีบแล้วก็บาดทะยัก (ไม่มีเชื้อ ไอกรน) คนป่วยที่มีไข้ควรจะเลื่อนการฉีดวัคซีนแล้วก็รอคอยให้หายป่วยแล้วก็ค่อยกลับมาฉีดยา
ควรต้องฉีดยาคอตีบ ไอกรน บาดทะยักซ้ำ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือไม่
ถึงแม้ในวัยเด็กพวกเราอาจได้รับวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยักครบตามที่กำหนดแล้ว แต่ว่าก็ควรฉีดกระตุ้นด้วยเหมือนกัน เพราะเมื่อโตขึ้น ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายเคยสร้างไว้อาจถดถอยลง โดยส่วนใหญ่จะฉีดกระตุ้นอีกรอบในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี ซึ่งเดิมวัคซีนที่ใช้ฉีดกระตุ้นจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคคอตีบและก็บาดทะยัก (ไม่มีไอกรน) เพราะเหตุว่าวัคซีนที่มีไอกรนบางทีอาจส่งผลข้างๆในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ได้ค่อนข้างจะมากมาย แต่ว่าตอนนี้ได้มีการพัฒนาวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก สำหรับคนแก่โดยดัดแปลงแก้ไขให้วัคซีนบริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ มีจำนวนเชื้อไอกรนลดลง ซึ่งช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดอาการข้างเคียงลงได้ม��ก
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ราคาเท่าใด
วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข แบ่งสรรให้สำหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 12 ปีทุกคน เข้ารับการฉีดวัคซีนเหมาะโรงพยาบาลเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้กระนั้นสำหรับคนแก่ที่ปรารถนาฉีดวัคซีนกระตุ้น สามารถเข้ารับการฉีดยาเหมาะโรงหมอรัฐและเอกชนทั่วไป โดยรายจ่ายในการฉีดวัคซีนเริ่มต้นที่ 512 บาท (อ้างอิงจากราคาของโรงพยาบาลศิริราช)
โรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ถึงแม้ฟังมองบางทีอาจไม่ร้ายแรงเท่าโรคร้ายอื่นๆแต่กาลครั้งหนึ่งก็เคยเป็นสาเหตุสำคัญของการตายในเด็กอ่อน โดยเหตุนั้นผู้ดูแลควรพาบุตรหลานไปฉีดยาให้ครบตามที่กำหนดเวลา เพื่อป้องกันการเสี่ยงที่บางทีอาจตามมาในวันหลัง นอกนั้นถึงแม้คนแก่บางบุคคลอาจเคยได้รับวัคซีนครบแล้ว แต่ว่าก็ไม่สมควรนอนใจ ด้วยเหตุว่าภูมิต้านทานของร่างกายอาจเสื่อมลงตามระยะเวลา จะต้องฉีดกระตุ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเสนอแนะว่าควรฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลจากโรค
https://www.honestdocs.co/tdap-vaccine
Tags : วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก,-,-
0 notes