#ผลบอล7mคะแนน
Explore tagged Tumblr posts
Text
ผล บ 7m คืออะไร และมีผลต่อการเดิมพันในคาสิโนหรือไม่?
🎰🎲✨ รับ 17,000 บาท พร้อม 200 ฟรีสปิน และโบนัสแคร็บ เพื่อเล่นเกมคาสิโนด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว! ✨🎲🎰
ผล บ 7m คืออะไร และมีผลต่อการเดิมพันในคาสิโนหรือไม่?
"ผลการแข่งขัน บอล 7m" หมายถึงผลลัพธ์ของการแข่งขันฟุตบอลที่สามารถติดตามได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ชื่อ 7m.live ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำให้ผู้บ้านสามารถติดตามผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้มีข้อมูลรายละเอียดได้ทั้งวัน เช่น ผลการแข่งขัน คะแนน สถิติ ฯลฯ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจสถานการณ์ของแมตช์ได้อย่างถูกต้อง และทันที
การติดตามผลการแข่งขัน บอล ผ่าน 7m.live เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่ช่วยให้ผู้บ้านไม่พลาดข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการสตรีมสดไหลของการแข่งขัน ทำให้สามารถดูได้ในเวลาที่ทันสมัย รวมถึงข้อมูลในการเดิมพัน ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ด้วยระบบที่ทันสมัยและข้อมูลที่มีคุณภาพ การติดตามผลการแข่งขัน บอลผ่าน 7m.live เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บ้านที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอล เพื่อความสะดวกสบายและความแม่นยำในการติดตามทุกความเคลื่อนไหวของทีมโปรดของตน"
"ผล บ 7m" เป็นเว็บไซต์ทางการที่มักถูกใช้โดยนักพนันและผู้สนใจทางด้านกีฬาทั่วไป โดยที่คุณสามารถหาราคาบอล สถิติ โปรแกรมการแข่งขัน และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกีฬาต่าง ๆ ได้ในที่เดียว นอกจากนี้ ผล บ 7m ยังมีประโยชน์มากมายต่อผู้ที่ต้องการติดตามผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ โดยที่เว็บไซต์นี้จะแจ้งเตือนผลการแข่งขันอย่างทันที และสามารถดูรายละเอียดของผลการแข่งขันแต่ละเกมได้อย่างละเอียดอ่อน
การใช้งานผล บ 7m ยังช่วยให้นักพนันสามารถวางเดิมพันได้อย่างคาดคะเน และมีโอกาสในการชน���สูงขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ตลอดเวลา นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจแทงบอลก็สามารถเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ และวิเคราะห์บอลได้อย่างถูกต้อง ซึ่งก็จะช่วยให้การตัดสินใจในการเดิมพันของตนเองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในสรุป ผล บ 7m เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักพนันและผู้สนใจทางด้านกีฬา เพราะมีข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ และสามารถช่วยให้การวางเดิมพันของคุณมีความสำเร็จมากยิ่งขึ้น"
ในโลกของการเดิมพันออนไลน์ มีหลายประเภทของบริการที่สามารถเสนอให้ผู้เล่นได้เลือกระหว่าง การเดิมพันกีฬา และ คาสิโนออนไลน์ อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 7m เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีความนิยมและเชื่อถือได้ในการให้บริการในส่วนของผลวิเคราะห์และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกีฬาต่างๆ ที่มาใหม่ทุกวัน ส่วนเกมคาสิโนเป็นการพนันที่ชอบอยู่เป็นอย่างมากเนื่องจากความสนุกสนานและโอกาสในการเล่นได้เพลิดเพลินไปกับเกมมากมาย จากการเปรียบเทียบระหว่าง 7m กับเกมคาสิโน สามารถเห็นได้ว่าทั้งสองมีความเพลิดเพลินและมีความน่าเชื่อถือในด้านของความสนุกสนานและโอกาสในการชนะเชิงลบ.
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นควรพิจารณาถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่เลือกใช้บริการ และไม่ควรละเลยในการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎข้อบังคับของแต่ละเกม และมีการจำกัดความเสี่ยงในการพนัน นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการควบคุมการเล่นพนันอย่างรู้อยู่ในตนเองและรู้จักเล่นอย่างมีอำนาจ เพื่อให้มั่นใจใจในการเดิมพันของตนเองและเพื่อประโยชน์ส่วนตัวในระยะยาว.
การเดิมพันทางออนไลน์กับบริการของ 7m ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในชุมชนการพนันที่มีทั้งผู้เล่นมืออาชีพและผู้เล่นที่เริ่มต้นเล่นเกมกีฬาต่างๆ ผลกระทบของการใช้บริการของ 7m ในการเดิมพันนั้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อผู้เล่นในหลายด้านต่างๆ
หนึ่งในผลกระทบที่สำคัญที่ผู้เล่นต้องระวังคือการสูญเสียเงินจากการเดิมพันที่ไม่สำเร็จ การพนันอาจนำมาซึ่งผลขาดทุนที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินและสังคมได้ นอกจากนี้ผู้เล่นอาจประมาณความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเดิมพันได้ไม่ถูกต้อง ทำให้สูญเสียเงินมากกว่าที่คาดหวัง
อีกกลไกหนึ่งที่สำคัญคือผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต การเดิมพันอาจสร้างความเครียดและความกดดันซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจและสุขภาพทั่วไปของผู้เล่นในระยะยาว
ในสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นควรคำนึงถึงคือการใช้บริการของ 7m ในการเดิมพันอย่างมีสติสติ ควรจำกัดจำนวนเงินที่ใช้เดิมพันและตั้งเป้าหมายในการเล่นอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ควรพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเล่นเกมพนันออนไลน์ด้วยการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อตนเองและความสุขของตนเองอย่างใหม่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การเดิมพันยิ่งเพิ่มอีกเป็นอย่างมาก
ในคาสิโนออนไลน์, ผลบอล 7m เป็นหนึ่งในเกมที่มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยผลของเกมนี้จะมาจากการแข่งขันฟุตบอลจริง และผู้เล่นสามารถวางเดิมพันตามผลของเกมนั้นๆได้
วิธีการใช้ผลบอล 7m ในคาสิโนมีหลายวิธีที่นักพนันสามารถใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ อย่างแรกคือการศึกษาสถิติและการวิเคราะห์ผลของทีมที่จะแข่งขัน นักพนันควรทำความเข้าใจในการลุ้นได้เเละการเสี่ยงที่มีในทีมที่จะวางเดิมพัน
วิธีการอื่นๆ เช่นการวางเดิมพันโดยใช้เทคนิคการวางเดิมพันชนะเท่ากับสเตรค, การวางเดิมพันสูง/ต่ำ หรือการวางเดิมพันครึ่งแรกหรือครึ่งหลัง สามารถช่วยให้นักพนันมีโอกาสในการชนะมากขึ้น
นอกจากนี้, ผลบอล 7m ยังมีความสนุกสนานเเละน่าตื่นเต้น เพราะสามารถติดตามผลของการแข่งขันฟุตบอลภายในเวลาจริง ทำให้นักพนันสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเเละสนุกสนานได้อย่างใกล้ชิด
ดังนั้น, การใช้ผลบอล 7m ในคาสิโนเป็นวิธีที่น่าสนใจที่นักพนันสามารถลุ้นโชคเเละชนะในเกมได้อย่างมั่นใจ
0 notes
Text
บราซิล เซเรียอา | พาราเนนเซ่ เปิดบ้านน็อค บาเฮีย 2-0 ขึ้นที่ 8
บราซิล เซเรียอา | พาราเนนเซ่ เปิดบ้านน็อค บาเฮีย 2-0 ขึ้นที่ 8
รายงานผลฟุตบอล บราซิล เซเรียอา 2023 แอธเลติโก้ พาราเนนเซ่ พบ บาเฮีย
เกมที่สนาม Ligga Arena ผ่านไป 24 นาที แอธเลติโก้ พาราเนนเซ่ ขยับออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เคลเวน จ่ายให้ วิเตอร์ โรเก้ ใส่สกอร์ จากนั้นพวกเขายังบุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมโอกาสยิงจาก วิเตอร์ โรเก้, คริสเตียน และ เซ อิวัลโด้ แต่ยังไม่ผ่านมือ มาร์กอส เฟลิเป้
เข้าสู่นาที 35 เคลเวน จ่ายให้ เอริค ยิงให้ แอธฯ พาราเนนเซ่ ขยับห่างเป็น 2-0 ขณะที่ ���าเฮีย ได้ตอบโต้จาก เอเวรัลโด้ กับ ลูคัส มูญี่ คนละหนึ่งครั้ง แต่ยังตีไข่ไม่แตก แล้วจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ 2-0 ของพาราเนนเซ่
ครึ่งหลัง แอธฯ พาราเนนเซ่ บังครองบอลเหนือกว่า พร้อมโอกาสยิงจาก วิเตอร์ บูเอโน่ กับ วิเตอร์ โรเก้ แต่ยังบวกลูกที่ 3 ไม่ได้ ผ่านไปถึงนาที 64 บาเฮีย ต้องแก้เกมด้วยการส่ง มาเธอุส บาเฮีย กับ อันเดร ลงมาแทน ไรอั้น กับ ซิซินโญ่
หลังปรับแผน บาเฮีย รูปเกมดีขึ้น มาพร้อมโอกาสยิงจาก ตาเซียโน่ (3 ครั้ง) แต่ยังตีไข่ไม่แตก ขณะเดียวกัน พาราเนนเซ่ ได้โจมตีจาก อาตูโร่ วิดาล, โทมัส คูเอลโญ่, คริสเตียน และ ฮูโก้ มูร่า ก็ไม่ได้ประตูเช่นกัน แต่ยังเข้าวินด้วยสกอร์ 2-0
แอธเลติโก้ พาราเนนเซ่ ขึ้นที่ 8
หลังผ่าน 15 นัด แอธเลติโก้ พาราเนนเซ่ เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนน (ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 6) ขยับจากอันดับ 11 ขึ้นมานั่งที่ 8 ร่วมกับ ฟอร์ตาเลซ่า ตามหลังที่ 7 บรากันติโน่ 1 คะแนน โดยเกมที่ 16 พวกเขาต้องรับมือ วาสโก ดากาม่า วันที่ 23 กรกฎาคม
Paranense ครองบอล 52% จ่ายบอล 453 โอกาสยิง 15 (เข้ากรอบ 7) เตะมุม 5 ฟาล์ว 14 ใบเหลือง 2
เคลเวน เจ้าของ 2 แอสซิสต์ สร้างโอกาส 4 ตัดบอล 2 แท็คเกิล 1 โอกาสยิง 1 (8.5 คะแนน)
เอริค เจ้าของสกอร์ 2-0 ชนะลูกโด่ง 4 โอกาสยิง 2 ตัดบอล 2 เคลียร์บอล 1 (8.5 คะแนน)
เบนโต้ (GK) เซฟ 6 รับเข้าซอง 4 เคลียร์บอล 1 (8.5 คะแนน)
บาเฮีย นั่งที่ 16
หลังผ่าน 15 นัด บาเฮีย มีเพียง 13 คะแนน (ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 8) นั่งที่ 16 อยู่ห่างที่ 17 โกยาส 1 คะแนน และตามหลังที่ 15 โครินเธียนส์ (14 นัด) 2 คะแนน โดยเกมที่ 16 พวกเขาต้องรับมือ โครินเธียนส์ วันที่ 22 กรกฎาคม
Bahia ครองบอล 48% จ่ายบอล 450 โอกาสยิง 8 (เข้ากรอบ 6) เตะมุม 3 ฟาล์ว 9 ใบเหลือง 1
มาร์กอส เฟลิเป้ (GK) เซฟ 5 (7.0 คะแนน)
กาเบรียล ซาเวียร์ แท็คเกิล 4 เคลียร์บอล 4 ตัดบอล 3 ชนะลูกโด่ง 1 (7.0 คะแนน)
______________________________________________________________
ติดตามข่าวได้ที่ :: ผลบอล7m
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :: ข่าวฟุตบอลออนไลน์
0 notes
Text
The Audi R8: Origins, Generations, Specifications
All things Audi R8 on Automobile.
Audi R8 Essential History Despite a rich motorsports history with overwhelming success in both rallying and endurance racing, Audi's always remained at arm's length when it came to producing a true sports car. The once-popular Audi TT has most of the right ingredients, but the front-wheel-drive underpinnings pulled primarily from the VW Golf kept it well below the Porsche Boxster, Nissan Z cars, and BMW's assorted roadsters and two-seat coupes.
Since the early 1980s, Audi remained content developing high-performance versions of its premium coupes and sedans, focusing on promoting all-wheel drive technology and turbocharged engines, even if the resulting speed-specials were softer and more road-oriented than the adrenalin-charging weapons from Mercedes-Benz' AMG or BMW's M division.
It was only during the early-2000s when the reality of an Audi supercar began to coalesce, born from Audi's ongoing Le Mans domination and the then-recent acquisition of Lamborghini by the Volkswagen Auto Group. To amortize the cost of development of the nascent Lamborghini Gallardo and to bring Audi a little closer in-line with Mercedes and BMW, the plan for the mid-engine Audi R8—the brand's first supercar—took shape with the Le Mans Quattro concept in 2003.
Audi Le Mans Quattro Concept Visually, the Audi Le Mans Quattro concept was nearly identical to the production R8 that arrived in 2007, though the wild twin-turbo V-10 engine was tossed for a more production-friendly iteration of Audi's naturally aspirated 4.2-liter V-8. Power was reasonable for a mid-engine sports car of the era, with 414 horsepower and 317 lb-ft of torque sent to all-four wheels through either Audi's R-Tronic six-speed automated manual or a gated six-speed manual transmission. Zero-to-60-mph times for these early R8s were around the low four-second mark, with a top speed around 188 mph.
The Audi R8 Goes V-10 For the 2009 model year, the R8's Lamborghini roots shone in full-force, when the updated 5.2-liter V-10 from the Lamborghini LP560-4 was shoehorned into the R8. Fun fact—that Lamborghini V-10 is actually an Audi V-10 pulled from the S6 and S8. So, the R8 V10 actually uses an Audi V-10 pulled from a Lamborghini, but we digress. The V-10 engine increased the R8's output to 518 horsepower and 391 lb-ft of torque, dropping the zero-to-60 mph sprint to 3.9 seconds, and raising top speed to 196 mph.
The Audi R8 Spyder Drop-top Spyder variants launched for both the V-8 and the V-10 models, with the V-8 adding an extra 14 horsepower over the V-8 coupe, growing the total to 428 horsepower, though torque remained unchanged at 317 lb-ft. The limited edition R8 GT arrived in 2011, cutting 220 pounds from the curb weight of the regular R8 V10, while increasing the V-10's output to 552 horsepower and 398 lb-ft of torque. As you'd expect, the R8 GT also brought with it a range of suspension, braking, and aerodynamic upgrades over the regular car to compensate for the additional power and to enlarge the overall performance envelope. Production of the GT was limited to 333 units worldwide, with an additional 333 unit run of the corresponding R8 GT Spyder.
The first-generation R8 received a mid-cycle refresh for 2012 in the rest of the world, arriving in the U.S. in 2013 as a 2014 model year. The refresh brought mostly aesthetic updates, though a few significant mechanical upgrades were also brought to the R8, most significantly a new seven-speed dual-clutch replacing the balky R-Tronic automated manual transmission. Standard magnetic damping was also added for the R8 V10, an optional upgrade for the V-8 models.
The R8 V10 Plus arrived on our shores in 2014, adding a new range-topping trim with extra power and performance in the same vein as the older R8 GT. The same 5.2-liter V-10 as found in the standard R8 V10 was upgraded to 542 horsepower and 398 lb-ft of torque in the R8 V10 Plus, which also got a re-tuned suspension, updated interior, and massaged aesthetics.
Second-Generation Audi R8 After these short-lived upgrades, the first-gen R8 was replaced by an all-new model in 2015 for the 2016 model year. In keeping with the Lamborghini bones of the prior generation, the second-gen R8 shares much of its structural DNA with the Lamborghini Huracan. This includes the familiar 5.2-liter naturally aspirated V-10—the only engine offered at the moment—initially available with either 533 horsepower and 398 lb-ft of torque in the base R8 coupe or 602 horsepower and 413 lb-ft in the R8 V10 Plus coupe. With the exception of the limited-edition R8 RWS (Rear Wheel Series), power is transferred to all-four wheels through a seven-speed dual-clutch transmission.
For 2019, the second-gen R8 was updated with extra power and an aesthetic refresh. Power for the base coupe jumped to 562 horsepower and 413 lb-ft, while the newly renamed R8 Coupe Performance Quattro packs 602 horsepower and 443 lb-ft of torque. Performance for all iterations of the second-gen R8 is impressive; factory-quoted zero-to-60 mph times range between 3.2 seconds and 3.5 seconds, though these times have proven to be conservative in independent tests.
Audi R8 Highlights Time will likely be kind to the Audi R8. The first generation of the supercar consistently ranks at the top of many enthusiast's lists of best designs of the 2000s, and it's only going to get better with time. Although older R8s may carry a bit of a stigma as simply a used supercar, give it time—or pick one up now, while they are at the bottom of their depreciation curve.
Once the first R8s are out of the too-new-to-be-classic but too-old-to-be-cool dead zone, the R8 will be one of the better ways to get into something genuinely exotic for not much more than the price of entry to a loaded mid-size crossover SUV. Early V-8s are particularly inexpensive to purchase, and compared to a Ferrari or Lamborghini of similar vintage, significantly less expensive to keep on the road. As far as upkeep price goes, think more than a BMW or Audi sedan, and less than an Aston Martin—maintenance on a regular Porsche 911 is likely a good comparison.
By design, the R8 of any generation is a more professional, lower-key supercar—if that's even a thing. The current R8 is priced closer to the Porsche 911 Turbo, current Acura NSX, and Aston Martin Vantage than to Lamborghini's Huracán or McLaren's 720s, but in our experience, the R8 doesn't fall far short of those more exotic models in performance or theater. In fact, we'd likely take a new R8 over any of the listed alternatives on the strength of its sound and the vicious launch control. We've also heard whispers that a first-gen Audi R8 V10 with the gated manual transmission is one of the best "exotic" experiences that can be had for less than $100,000, so there's that.
Audi R8 Buying Tips Audi R8s of any generation or spec are fairly robust and shouldn't provide too many undue surprises mechanically. A thick sheaf of maintenance records is always a welcome inclusion with any potential purchase, as is a pre-purchase inspection at a local specialist or dealer. Parts availability for the R8 is high, considering even the oldest R8s still have factory support from Audi—for now. As stated above, expect regular maintenance bills similar to what you'd expect of a Porsche 911.
If you are in the market for a first-gen R8, we highly suggest you seek only those with either the six-speed manual transmission or the later dual-clutch examples. Avoid the R-Tronic at all costs; it's clunky, slow, relatively fragile, and for some enthusiasts, ruins the overall experience. Engine type matters, too, as V-8s will obviously be more affordable than the V-10s, but there is a significant difference in both speed and upkeep between the two engines—as well as a difference in prestige, which can enhance (or detract from) collectibility.
Audi R8 Auctions Despite undeniable desirability, the Audi R8 isn't collectible enough to cross the stage at major auction houses—yet. Bring a Trailer never disappoints, as the healthy record of sold R8s is enough to give an idea of what you might pay for a first generation. For second-generation R8s—the current model—there are enough on Audi lots that you might be better off getting one straight from the source.
This 2009 Audi R8 4.2 w/ six-speed manual and only 8,000 miles sold for $67,000
A 2010 Audi R8 V10 w/ six-speed manual sold for $72,000
This second-gen 2018 Audi R8 RWS claimed $118,000
A late-model first-gen 2015 Audi R8 4.2 with six-speed manual was bought for $80,000
Audi R8 Quick Facts First year of production: 2007 Last year of production: Ongoing Base Price: $171,150 (2020) Audi's first supercar Lamborghini bones for (relatively) cheap Time will be very, very kind to the R8 family We'll take ours with the V-10 and the gated manual, please Audi R8 Articles On Automobile We drove the refreshed first-generation Audi R8 in 2012.
Here's our review of the second-generation Audi R8 V10 Plus.
We sampled the rare Audi R8 RWS as well.
We got our hands on the updated second-gen Audi R8 late last year.
And just for fun, here's a test of the race-ready Audi R8 LMS.
Audi R8 FAQ You have questions about the Audi R8. Automobile has answers. Here are the answers to some of the most frequently asked Audi R8 queries:
Is The Audi R8 A Supercar? Absolutely. With any engine or transmission and from either generation, the Audi R8 is quick, fast, and visually stunning enough to be considered a supercar.
How Fast Does An Audi R8 Go? The early first-gen Audi R8 4.2s topped out at 188 mph, while the latest and greatest Audi R8 V10 Performance Quattro smacks a mighty 206 mph.
How Much Is The New Audi R8? The base 2020 Audi R8 will run you $171,150.
What Year Is The Best Audi R8? Hmm, great question. We reckon it depends on what you want from the car. For an engaging drive, we'd pick the cleanest first-gen V-10 with the gated manual we could find. However, the current R8 is stunningly quick and aurally spectacular as any car we've driven, so perhaps one of the few R8 RWS would find its way into our dream garage. ผลบอล7mคะแนน
Contact us by Line ID: @ufa98v2
#ผลบอล7mคะแนน#ผลบอลสด#บ้านผลบอล#ผลบอล#ผลบอลเมื่อคืน#ผลบอลสดทุกลีก#ทีเด็ดบอลวันนี้#ทีเด็ดบอล#ทีเด็ดฟุตบอล#ทีเด็ดบอลคืนนี้#ทีเด็ดบอลชุด 4 ตัว#แทงบอลออนไลน์#แทงบอล#แทงบอลสเต็ป#แทงบอลสด#สูตรแทงบอล#วิเคราะห์บอล#ราคาบอลไหล#ราคาบอล#ตารางบอลวันนี้#ตารางบอล
0 notes
Text
One Week With the 2020 Maserati Levante Trofeo
This Italian street brawler might just be too much of a gentleman.
LOS ANGELES, CALIFORNIA—I hate to use the Jekyll and Hyde metaphor in a car review, because it's just such an overused trope. But try as I might—and I promise you, I have been trying—I just can't come up with a better way to describe the Maserati Levante Trofeo. (This might have something to do with the way the Levante scrambled my brains when driven in full-on Hyde mode.)
For those unfamiliar, the Levante Trofeo is the top-of-the-line version of Maserati's SUV, and what sets it apart from other Levantes is the Ferrari-built 3.8-liter twin-turbo V-8 under its hood. Actually, that's a fib—the Levante GTS gets the same V-8, but with "only" 550 horsepower instead of the Trofeo's 590 horsepower. The engine is a close relative of the 3.9-liter V-8 found in the Ferrari 488 Pista, SF90 Stradale, and the F8 Tributo that stole my heart a few weeks back.
For those whose eyes just glazed over, allow me to repeat the two salient phrases in the previous paragraph: Ferrari twin-turbo V-8. Five-hundred ninety horsepower.
And if you think such a glorious engine is wasted in a family-friendly SUV, then you clearly aren't familiar with Maserati.
Ferrari Power For A Maserati SUV For starters, it's quick. Like, seriously quick. Seriously, amazingly, astoundingly quick. Maser claims a 3.7-second 0-60 time, but those numbers never tell the real story, which is this: The Levante Trofeo frickin' flies. The way it accelerates defies reality. They used to have to split atoms to make things move this fast.
And the soundtrack? Oh, sweet insert-the-name-of-your-favorite-deity-here, does it sound amazing. Though, to be honest, it took me a while to warm to the noises coming from the Trofeo's V-8. I'm a big fan of the V-6 used in the Ghibli and lesser Levantes, which has an exhaust that snaps, crackles, and pops as if an arsonist snuck into a fireworks factory. The Levante Trofeo's voice seems to come more from the intake and engine itself than its exhaust, and it's a soulful wail, a mechanical opera of the sort that Italians do best. I blasted through the canyons with the windows down, and the echoes off the rock walls made it sound as if I was trackside at a vintage Ferrari race.
As for that blasting through the canyons, the Levante Trofeo is surprisingly good in the turns, and not just good-for-an-SUV. The one caveat is that you must, must, must switch the suspension to Sport mode, otherwise the Levante will wallow up and down on its air springs like an old Ford Country Squire wagon. Tie that suspension down, though, and you're in for the SUV ride of your life. The Levante grips tenuously, keeps body motions in check, and blasts out of the corners like a rocket. When I read the spec sheet and saw that it weights nearly 5,000 pounds, I could hardly believe it—the Levante sure as hell doesn't drive like a two-and-a-half ton SUV. We don't know yet how a Ferrari SUV would drive, but I sure as hell hope it'll be pretty similar to the Levante Trofeo.
So that's the evil side of its personality, and it's the best damn Mr. Hyde I've driven in ages.
The Jekyll Side Of The Maserati Levante Trofeo But what of Dr. Jekyll? Yes, the Levante Trofeo does that well. Perhaps a bit too well.
For one thing, there's the styling. It's subtle, to be sure—racy, maybe, but a bit generic. Certainly not in-your-face-badass like a Mercedes GLE63 AMG or a BMW X5 M. The reverse-facing hood scoops are my favorite detail; they face towards the cabin, letting you see into them from inside, which is cool. But the curb appeal is limited. My neighbors figured I must be driving something special, and when I told them it was a Maserati, they responded with equal parts of surprise and delight. It was the surprise that was the problem, I think: The shape is too tame for a Maserati. When you're a $150,000 super-SUV, there is such a thing as being too subtle.
I would level that same accusation at the interior. Nearly everything in the Levante Trofeo's cabin is wrapped in leather, black with red stitching in the case of my test vehicle, or slathered with (optional) carbon-fiber. The problem is that the other trim pieces were made from plastic of a rather chintzy order, not unlike what I'd expect to find in a Fiat 500. Perhaps if my test car had the optional bright-red interior I might have felt differently, but I just didn't get that best-of-the-best sensation that one experiences in a high-end Mercedes. Screens are limited to a square-ish one for the infotainment system and a small-ish one between the gauges, and the level of infotainment technology is about what you'd expect in a Toyota. (Or perhaps I should say a Dodge, as the software is essentially a reskin of Chrysler's UConnect.)
Is The Maserati Levante Trofeo Too Subtle? The driving experience in Jekyll mode is every bit as good as in Hyde mode, and for all the right (and opposite) reasons: The Levante Trofeo is quiet, comfortable, and relaxed, as understated as a proper English butler. My wife Robin and I spent our first day with the Trofeo taking a distraught friend to the beach, and aside from the ability to pass slow 18-wheelers on two-lane back roads at a single bound, there was nothing to indicate what a monster this thing becomes when whipped up. I suppose that's a good thing, but it's also a problem. I hate to keep bringing up Mercedes, but witness the GLE63 AMG. It's just as smooth and comfortable as the Levante Trofeo when driven calmly, but at least it gives you some indication of the hell-hound waiting within.
As a car fanatic, I know I should appreciate the pure elegance of the Maserati Levante Trofeo's split personality. But I have to put myself in the mindset of someone buying this car (a difficult thing to do on the salary of an automotive journalist), and I have to wonder if the target buyer wants something this purely elegant. I see a fair number of Ghiblis and Quattroportes here in SoCal, and I think part of their success is that they've got attitude—not too much, not too little, but attitude. The Levante Trofeo might be playing its proverbial cards just a little too close to the proverbial vest.
It would be a shame if the Levante Trofeo's subtlety hides its true abilities, because unlike other supposedly-sporty SUVs I can name, the Maserati is an outstanding family hauler and an outstanding performance SUV, powered by an astounding engine with a pedigree that no German automaker can top. In terms of its Italian heritage, it's as authentic as Luciano Pavarotti. This is an SUV that need apologize to no one. Its split personality is an amazing thing to behold—but I wish it were a little more Hyde and a little less Jekyll. ผลบอล7mคะแนน
พึงพอใจติดต่อมาและสอบถามข้อมูลพิ่มเพิ่มเติมพอดีไลน์แอด ID: @ufa98v2
#ผลบอล7mคะแนน#ผลบอล#ผลบอลสด#บ้านผลบอล#ผลบอลเมื่อคืน#ผลบอลสดทุกลีก#ทีเด็ดบอลวันนี้#ทีเด็ดฟุตบอล#ทีเด็ดบอล#ทีเด็ดบอลชุด 4 ตัว#ทีเด็ดบอลคืนนี้#แทงบอลออนไลน์#แทงบอล#แทงบอลสเต็ป#แทงบอลสด#สูตรแทงบอล#วิเคราะห์บอล#ตารางบอล#ราคาบอลไหล#ตารางบอลวันนี้#ราคาบอล
0 notes