#นมผงเด็ก
Explore tagged Tumblr posts
Text
เด็กทารกควรถ่ายทุกวันหรือไม่
พ่อแม่มือใหม่อาจจะกังวลและสงสัยว่าการขับถ่ายที่ดีของเด็กทารกมีลักษณะอย่างไร วันนี้ดรามีคำตอบมาให้ โดยปกติแล้วเราจะไม่สามารถนับจำนวนครั้งที่ถ่าย หรือจำนวนวันที่ถ่ายเป็นหลักสำคัญในการตัดสินการเกิดขึ้นของโรคท้องผูกได้ ยกตัวอย่างเช่น ทารกที่ดื่มนมแม่จะถ่ายอุจจาระเฉลี่ย 6-10 ครั้งต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นต้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาช่วยคุณพ่อคุณปรับความเข้าใจเกี่ยวกับการขับถ่ายที่ดีของเด็กทารก
หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการที่เด็กที่ถ่ายทุกวัน ก็สามารถเป็นโรคท้องผูกได้
เนื่องจากทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อมก็เห็นว่ามีอุจจาระเปื้อนติดผ้าอ้อมหรือกางเกงชั้นในมาด้วยทุกครั้ง ซึ่งลักษณะนี้คืออาการของโรคท้องผูก ที่กำลังจะกลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรัง เพราะมีอุจจาระก้อนใหญ่ แห้งและแข็งขวางอยู่ที่ปลายลำไส้ใหญ่ ทำให้อุจจาระใหม่ที่มีลักษณะดีคือมีความเหลว ไม่สามารถถูกเบ่งออกมาได้ จึงไหลออกทางด้านข้างของก้อนอุจจาระใหญ่ ทำให้เกิดเป็นรอยเปื้อนอุจจาระที่ผ้าอ้อมหรือกางเกงชั้นใน จนทำให้คุณพ่อคุณแม่คิดว่าลูกถ่ายอุจจาระเป็นประจำ
วิธีแก้ไขอย่างถูกต้องหากลูกมีอาการท้องผูกเรื้อรัง
ลูกไม่ถ่าย คุณพ่อคุณแม่อย่าทดลองสวนทวารลูกด้วยตัวเอง เพราะมีโอกาสที่จะทำให้เกิดแผลบริเวณทวารหนัก และเชื้อโรคจากอุจจาระที่ปลายลำไส้ใหญ่จะสามารถเข้าสู่แผลและเกิดการติดเชื้อได้ และที่สำคัญห้ามซื้อยาถ่ายให้ลูกรับประทานเองเด็ดขาด คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปปรึกษาและขอรับการรักษาจากแพทย์ และขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังจากที่ลูกรักษาอาการท้องผูกหาย ซึ่งหลัก ๆ คือควรเพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ และน้ำสะอาดให้มีความเหมาะสมกัน
หรือถ้าหากลูกยังอยู่ในวัย 6 เดือนคุณหมออาจจะแนะนำให้คุณแม่บำรุงน้ำนมใหม่เพื่อให้ลูกได้กลับมากินนมแม่ จะช่วยให้ลำไส้ของลูกทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเสริมสร้างภูมิต้านทานภายในร่างกาย หรือถ้าหากลูกสามารถทานนมผงได้แล้ว สามารถเลือกนมผงเด็กที่เหมาะสมกับช่วงวัย และเลือกสารอาหารบำรุงสุขภาพเด็กให้แข็งแรงนับว่าก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อลูกไม่ถ่าย การจะสังเกตว่าลูกเป็นโรคท้องผูกหรือไม่ จึงไม่ควรนับจำนวนวันที่ไม่ถ่ายเป็นหลัก แต่ควรจะสังเกตลักษณะของอุจจาระเมื่อลูกถ่ายออกมาว่ามีลักษณะอย่างไร รวมไปถึงอาการอื่น ๆ ของลูกว่ามีอาการท้องอืดบ่อย ๆ หรือไม่ หรือเบื่ออาหารบ้างหรือเปล่า และกลิ่นลมหายใจหรือกลิ่นปากเริ่มมีกลิ่นเหม็นหรือยัง เพราะโดยทั่วไปแล้วเด็กทารกที่ยังไม่มีฟัน หรือมีเพียงไม่กี่ซี่จะไม่มีกลิ่นปากที่รุนแรง
นอกจากนั้นสามารถอ่านบทความวิธีรับมือ เมื่อลูกมีอาการท้องเสีย เพื่อเตรียมความพร้อมสำรหับลูกรักได้ที่ > คลิกเลย <
0 notes
Photo
โปรโมชั่น โปรโมชั่น ซีเจ เอ็กซ์เพรส สินค้าราคาพิเศษ (วันนี้-10 ก.ค 60)
โปรโมชั่น ซีเจ เอ็กซ์เพรส สินค้าราคาพิเศษ 25 มิ.ย – 10 ก.ค 60 มาแล้วจ้า
จัดหนักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเอาใจสายธรรม ชาวพุทธศาสนิกชน เพราะชาวพุทธอย่างเราๆต้องเตรียมตัวทำบุญเข้าพรรษา นอกเหนือจากนี้ยังมีสินค้าราคาพิเศษอื่นๆอีกเพียบ ถูกจริง ถูกกว่า ถูกทุกวัน นมผงเด็กก็ลดนะคะ คุณแม่มาเร้ววว!!!
#นมผงเด็ก#รวมโปรโมชั่น#ราคาพิเศษ#ลดราคา#เครื่องสำอาง#โปรโมชั่น 2017#โปรโมชั่น 2560#โปรโมชั่น kapowchic.com#โปรโมชั่น คนนิยม#โปรโมชั่น คุ้มสุด ๆ#โปรโมชั่น ซีเจ เอ็กซ์เพรส กุมภาพันธ์ 2560#โปรโมชั่น ดีดี#โปรโมชั่น พิเศษวันนี้#โปรโมชั่น ลดจัดหนัก#โปรโมชั่น ล่าสุด#โปรโมชั่น วันนี้#โปรโมชั่น สัปดาห์นี้#โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ#โปรโมชั่น สินค้ามาใหม่#โปรโมชั่น สุดคุ้ม#โปรโมชั่น สุดพิเศษ#โปรโมชั่น เด็ดๆวันนี้#โปรโมชั่น เดือนนี้#โปรโมชั่น แจ่ม ๆ#โปรโมชั่นซีเจ
0 notes
Text
นมผงสำหรับเด็กแต่ละสูตรแตกต่างกันอย่างไร
นมผงสำหรับเด็กที่มีอยู่ในท้องตลาดแบ่งได้ 4 สูตร ตามช่วงวัยของลูกน้อย แม่ควรศึกษาความแตกต่างของนมผงแต่ละสูตร เพื่อโภชนาการที่เหมาะสมของลูกแต่ละช่วงวัย
ความแตกต่างของนมผงแต่ละสูตร
นมผงสำหรับเด็กที่มีอยู่ในท้องตลาดจะแบ่งได้เป็น 3 สูตร ตามช่วงวัย ดังต่อไปนี้
นมผงเด็กสูตร 1 สำหรับทารกวัยทารก – 1 ปี
สำหรับเด็กแรกเกิดตั้งแต่แรกกำเนิดถึง 6 เดือนนั้น นมที่ดีที่สุดคือ นมแม่ ในกรณีที่แม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ และก็จำเป็นต้องใช้นมผงสำหรับลูก สามารถเลือกใช้นมสูตร 1 ซึ่งเป็นสูตรสำหรับเด็กทารกตั้งแต่แรกกำเนิดถึง 12 เดือน ดังนี้แม่ควรจะขอความเห็นบุคลากรด้านการแพทย์ ในเรื่องของโภชนาการที่เหมาะสมกับลูก
นมผงเด็กสูตร 2 สำหรับเด็กวัย 6 เดือน – 3 ปี
นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับเด็กอ่อนรวมทั้งเด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี (นมผงสูตร 2) นมผงดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกแล้วก็เด็กเล็ก (นมผงสูตร 2) เป็นนมผงที่ เหมาะกับเด็กที่อายุ 6 เดือนถึง 3 ปี มีจำนวนโปรตีนมากขึ้นจากนมผงสูตร 1 โดยอาจมีสัดส่วนของโปรตีนเคซีนที่ย่อยยากมากขึ้น แคลเซียมและธาตุฟอสฟอรัส โซเดียม ก็เพิ่มขึ้นจากนมผงสูตร 1 ในกรณีที่เดิมทานนมผงสูตร 1 อยู่ หลังจากลูกอายุ 6 เดือน จำเป็นจะต้องรีบเปลี่ยนเป็นนมผงสูตร 2 หรือเปล่า? ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในช่วงอายุ 6-12 เดือนนั้น สามารถจะใช้นมผงสูตร 1 หรือ 2 ก็ได้ ถึงแม้นมผงสูตร 1 จะมีปริมาณโปรตีนน้อยกว่า แต่เพราะเด็กแรกเกิดในวัยนี้สมควรได้รับอาหารตามวัยที่เหมาะสมซึ่งมีปริมาณโปรตีนที่พอเพียงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทานนมที่มีโปรตีนสูงมากมายอะไร
นมผงเด็ก
สูตร 3 สำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป แล้วก็ทุกคนในครอบครัว
นมผงสูตร 3 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปี และทุกคนในครอบครัว มีปริมาณโปรตีนรวมทั้งแคลเซียมที่ใกล้เคียงกับนมวัว เพื่อให้ได้รับสารอาหารในปริมาณที่พอเพียงนั่นเอง และก็มีการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง เสริมสร้างกระดูกให้เเข็งแรง เหมาะกับช่วงวัยและก็พัฒนาการของลูก
อย่างไรก็แล้วแต่ นมแม่นั้นยอดเยี่ยมสำหรับเด็ก และถ้าหากไม่สามารถให้นมแม่ได้ ต้องขอคำแนะนำบุคลากรทางด้านการแพทย์เพื่อการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม และ ลูกจะต้องได้รับสารอาหารตามวัยอย่างครบถ้วน และก็มีการสนับสนุนพัฒนาการอย่าง��หมาะสมด้วย
วิธีเลือกนมผงให้ลูก อย่าลืม! เรื่องสารอาหาร
���มื่อลูกอยู่ในวัยที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งทางด้านร่างกาย ด้านสมอง และด้านพัฒนาการ ก็เลยต้องการสารอาหารหลากหลายชนิด นมผงก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งสารอาหารจำเป็น ซึ่งสารอาหารจำเป็นสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัย มี
แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก และก็ฟัน ให้ลูกมีการเจริญเติบโตเหมาะสมกับช่วงวัยอย่างมีคุณภาพ ถ้าหากลูกได้รับแคลเซียมอย่างพอเพียง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนแล้วก็กระดูกเสื่อมอีกด้วย
โปรตีน ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของร่างกาย รวมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่างๆที่่สึกหรอ ช่วยสร้างเสริมให้ร่างกายเติบโตโดยการผลิตเนื้อเยื่อใหม่ แล้วก็มีส่วนช่วยกระดูกอ่อน ผม เล็บ รวมทั้งทุกส่วนของสมองให้มีพัฒนาการตามวัย
DHA ช่วยในการพัฒนาระบบประสาทรวมทั้งสมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ เรียนรู้ไว และจำได้แม่นยำ รวมถึงช่วยพัฒนาจอประสาทตารวมทั้งการมองเห็น
โอเมก้า 3 6 9 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถที่จะทำขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการกินอาหารเท่านั้น ซึ่งโอเมก้า 3 6 9 มีส่วนช่วยให้เซลล์ประสาท รวมทั้งสมองของลูกทำงานเป็นปกติ ทำหน้าที่เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยไม่เจ็บป่วย รวมทั้งยังกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้มีคุณภาพ
วิตามินต่างๆหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการ เพราะว่าเป็นส่วนที่ทำให้กระบวนการของระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งวิตามินที่สำคัญสำหรับเด็กทุกวัย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินซี รวมทั้งวิตามินบีต่างๆ
ใยอาหาร ช่วยสำหรับในการขับถ่ายของลำไส้ใหญ่ ใยอาหารไม่ละลายน้ำสามารถช่วยเพิ่มเนื้อของอุจจาระได้ เพราะไม่สลายตัวลำไส้ใหญ่และก็ยังสามารถจับกับน้ำได้ด้วย ถ้าหากลูกน้อยได้รับใยอาหารในจำนวนที่พอเพียง จะช่วยทำให้���ารทำงานของลำไส้ดีขึ้น ลดปัญหาอาการท้องผูก รวมทั้งช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานตามปกติได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นมแม่คือสุดยอดสารอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูก แต่ในกรณีที่มีความจำเป็น คุณแม่ไม่สามารถที่จะให้นมลูกได้จริงๆแนะนำให้ขอคำแนะนำบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถ้าหากมีความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์นมผงดัดแปลง จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และก็ใส่ใจกับสารอาหารที่ลูกจะได้รับ เพื่อให้สอดคล้องกับความอยากทางด้านโภชนาการในแต่ละช่วงวัย
ขอบคุณบทความดีๆ จาก เนสท์เล่ https://www.nestlemomandme.in.th/how-to-choose-the-infant-formula
Tags : นมผง
1 note
·
View note
Text
10 ยี่ห้อนมปรุงแต่งสำหรับทารกที่ดีที่สุด
10 ยี่ห้อนมปรุงแต่งสำหรับทารกที่ดีที่สุด
Enfamil
Enfagrow
Dumex
Hi-Q1
NAN
Nutramigen
S-26
Similac
Nestle Bear Brand ตราหมี
Isomil AI-Q Plus
แม้ว่านมแม่จะดีที่สุดสำหรับทารกตัวน้อย แต่ในบางกรณีคุณแม่ก็ไม่อาจให้นมลูกได้ตามปกติ หรือเด็กทารกอาจต้องการสารอาหารอื่นเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องหันมาพึ่งนมปรุงแต่งสำหรับทารก (Baby Formula Milk) ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถทดแทนนมแม่ได้ พร้อมด้วยสารอาหารครบถ้วนตาม��ี่ทารกต้องการ นมผงเด็ก
รูปแบบของนมปรุงแต่งสำหรับทารก
โดยส่วนใหญ่แล้ว นมสูตรสำหรับเด็กแรกเกิดหรือเด็กทารกมักจะอยู่ในรูปแบบของผง แต่นอกจากในรูปแบบของผงแล้ว ยังมีนมปรุงแต่งในรูปแบบอื่น ๆ อยู่ด้วย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
นมสูตรสำเร็จพร้อมดื่ม (Ready-To-Use Formula)
ปกติเราจะไม่ค่อยได้เห็นนมสำหรับเด็กแรกเกิดในรูปแบบนี้นัก เพราะส่วนใหญ่จะใช้ในโรงพยาบาล และใช้กับเด็กทารกแรกเกิดได้อย่างปลอดภัย พร้อมยังถูกสุขลักษณะอีกด้วย เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำผสม ไม่ต้องกลัวเรื่องการปนเปื้อนของน้ำ นมสูตรสำเร็จพร้อมดื่มนับเป็นรูปแบบนมที่สะดวกที่สุด เพราะไม่ต้องตวงส่วนผสม และผสมอะไรเลย สามารถเปิดแล้วดื่มได้เลยตามชื่อของมัน อย่างไรก็ตามถึงจะมีประโยชน์มาก แต่อายุการเก็บรักษาต่ำมาก ต้องใช้ภายใน 48 ชั่วโมง หรือภายใน 2 วันเท่านั้น
นมปรุงแต่งแบบผง (Powdered Formula)
นมปรุงแต่งแบบผงเป็นแบบที่เรามักจะคุ้นเคยกันมากที่สุด ทั้งนี้ก็ด้วยราคาที่ไม่แพง และมีหลายสูตรให้เลือกตามอายุและความต้องการของเด็กทารก แต่จำเป็นที่จะต้องตวงส่วนผสมและผสมเข้ากับน้ำตามปริมาณที่ระบุไว้ในฉลาก รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลากอย่างระมัดระวัง
นมปรุงแต่งแบบน้ำ (Liquid Concentrate)
นมปรุงแต่งแบบน้ำคล้ายกันกับนมปรุงแต่งแบบผงตรงที่ต้องตวงและผสมกับน้ำเอง นมปรุงแต่งแบบน้ำราคาจะถูกกว่าแบบสูตรสำเร็จพร้อมดื่ม แต่จะแพงกว่านมปรุงแต่งแบบผง
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับนมปรุงแต่ง
แคลอรี่ในนมปรุงแต่งเท่ากันกับนมแม่
คุณแม่หลายคนอาจจะกลัวว่านมปรุงแต่งจะให้ปริมาณแคลอรี่ที่มากกว่านมแม่ แต่ความจริงแล้วนมปรุงแต่งก็มีแคลอรี่ที่ไม่ต่างกับนมแม่ ซึ่งตกประมาณ 20 แคลอรี่ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่ากับนมแม่ที่มีปริมาณแคลอรี่ 8-20 แคลอรี่ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามก็แล้วแต่ละสูตร นมปรุงแต่งบางสูตรอาจมีเพียงแค่ 9 แคลอรี่ต่อออนซ์ ความต่างกันเพียงแค่ไม่กี่แคลอรี่อาจไม่มีผลในเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักปกติ แต่อาจส่งผลกับเด็กแรกเกิดที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าเกณฑ์ ซึ่งคุณแม่จะต้องทำการอ่านดูคุณค่าทางโภชนาการให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
นมที่ชงแล้วอยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
หลังจากที่ชงนมแล้ว ควรวางไว้ในที่อุณหภูมิห้องและไม่ควรวางทิ้งไว้นานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ถ้าภายใน 1 ชั่วโมงนมยังคงอุ่นอยู่ก็จะสามารถวางทิ้งไว้ได้อีก 1 ชั่วโมง แต่ไม่ควรนำไปอุ่นซ้ำ เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเติบโตของแบคทีเรีย ในกรณีที่เด็กกินนมจากขวด แต่กินไม่หมด นมที่เหลือในขวดจะอยู่ได้อีกแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ห��กเกินภายในชั่วโมงแล้วห้ามนำมาป้อนเด็กอีก เพราะหลังจากที่เด็กกินนมจากขวดแล้วจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรียในน้ำนม
สำหรับนมปรุงแต่งแบบน้ำหรือแบบสูตรสำเร็จพร้อมดื่มหากกินไม่หมด ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและยังสามารถนำออกมาป้อนเด็กได้ภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าเป็นนมปรุงแต่งแบบผง เมื่อชงแล้ว ให้เก็บไว้ในตู้เย็นได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ส่วนตัวนมผงเมื่อเปิดกระป๋องแล้วควรทานให้หมดภายใน 30 วัน
นมปรุงแต่งสูตรพิเศษเหมาะกับเด็กที่แพ้โปรตีนนมวัว
โปรตีนที่ถูกย่อยสลายละเอียด (Extensively hydrolyzed protein) เป็นโปรตีนที่ส่วนประกอบโปรตีนได้รับการย่อยสลายลงแล้ว ดังนั้นสำหรับนมปรุงแต่งสูตรพิเศษซึ่งได้แก่สูตรโปรตีนย่อยสลายละเอียดจะมีปริมาณ��ปรตีนเปปไทด์เล็ก (Extensively hydrolyzed protein formula) และสำหรับในสูตรกรดอะมิโน (Amino acid-based formula) ตัวโปรตีนจะถูกทำลายย่อยสลายให้เล็กที่สุด กลายเป็นกรดอะมิโน นมปรุงแต่งทั้งสองสูตรคือตัวช่วยสำหรับเด็กทารกที่มีภาวะแพ้โปรตีนจากนมวัว ถึงทั้งสองสูตรจะมีรสชาติดีเท่ากับนมปรุงแต่งที่ผลิตจากนมวัวเท่าไหร่ แต่ก็นับว่าโชคดีที่ต่อมการรับรสในเด็กทารกยังไม่ได้รับการพัฒนา จึงไม่ต้องห่วงเรื่องรสชาติ เด็กจะสามารถรับรสชาติใหม่ของนมปรุงแต่งได้
นมปรุงแต่งสูตรพิเศษยังเหมาะกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมักจะต้องการแคลอรี่มากกว่าปกติ ดังนั้นนมปรุงแต่งสูตรพิเศษสำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด จึงค่อยข้างมีความจำเป็น เด็กที่คลอดก่อนกำหนดอาจต้องการสารอาหารมากกว่าเด็กที่คลอดตามปกติ โดยเฉพาะแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน โซเดียม โปแตสเซียม และแร่ธาตุอื่น ๆ อย่างธาตุเหล็ก ซิงก์ และทองแดง นมปรุงแต่งสูตรพิเศษจะอุดมไปด้วยสารอาหารเหล่านี้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การคำแนะนำและการดูแลจากกุมารแพทย์ เพื่อที่จะกำหนดระยะเวลาในการให้นมปรุงแต่งสูตรพิเศษนี้ได้ตามความเหมาะสม
ไม่ควรให้นมวัวกับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ แม้เด็กจะได้ทานนมปรุงแต่งจากนมวัวได้ก็ตาม
เพราะเด็กแรกเกิดที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบนั้นไม่สามารถย่อยนมวัวได้อย่างเต็มที่ และโปรตีนในนมวัวยังจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร อีกทั้งนมวัวยังมีปริมาณธาตุเหล็ก กรดไลโนลิก วิตามินซี วิตามินอี และสารอาหารอื่น ๆ ไม่เพียงพอตามที่เด็กต้องการ รวมทั้งยังมีปริมาณโซเดียม โปแตสซียม และโปรตีนมากเกินไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงนมปรุงแต่งจากนมวัว แต่ก็ถูกทำให้มีแร่ธาตุ วิตามิน และโปรตีน ไขมันเลียนแบบนมแม่ในปริมาณที่พอเหมาะ และจะให้เด็กดื่มนมวัวได้ก็หลังจากอายุ 1 ขวบขึ้นไปแล้ว
ถ้ากินนมปรุงแต่งจากนมวัวไม่ได้ ลอง ‘นมถั่วเหลือง’ ดู
ในกรณีที่เด็กไปกันได้ไม่ค่อยดีกับนมปรุงแต่งจากนมวัว สามารถใช้เป็นนมปรุงแต่งจากถั่วเหลืองได้ ถึงแม้ว่าจะยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับเรื่องผลที่อาจจะเกิดกับฮอร์โมนก็ตาม อย่างไรก็ดี การจะเปลี่ยนมาใช้นมปรุงแต่ง��ี่ผลิตจากนมถั่วเหลืองนั้นจะต้องปรึกษากับกุมารแพทย์ก่อน
ผช.ศจ. ซาร่า ดอสส สาขากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยโลโยล่า ชิคาโกได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนมปรุงแต่งจากถั่วเหลืองไว้ว่า หายากมากที่จะมีเด็กสามารถย่อยแลคโตสในนมวัวได้ รวมทั้งยังไม่มีข้อมูลว่าถั่วเหลืองจะทำให้เกิดอาหารจุกเสียด และกุมารแพทย์จะไม่แนะนำให้ใช้นมปรุงแต่งจากถั่วเหลืองแทนเพื่อรักษาโรคหรืออาการอื่น ๆ
อย่าซื้อนมมาตุนไว้ก่อนลูกจะเกิด
ถ้าพ่อแม่คนไหนที่วางแผนไว้ว่าจะใช้นมปรุงแต่งเลี้ยงลูก ก่อนอื่นต้องปรึกษากุมารแพทย์ก่อน แต่ต้องไม่ซื้อมาตุนไว้ทีละมาก ๆ จนกว่าลูกจะเกิด ทั้งก็เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเด็กจะเหมาะกับสูตรนั้นหรือไม่ หรือจะสามารถทานสูตรนั้นที่ซื้อมาตุนได้นานเท่าไหร่ ระหว่างนั้นเด็กอาจมีสัญญาณอาหารเกิดแก๊สในกระเพาะ ท้องเสีย หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนยี่ห้อ หรือเปลี่ยนสูตรนม
10 ยี่ห้อนมปรุงแต่งสำหรับทารกที่ดีที่สุด
Enfamil
Enfamil เป็นหนึ่งในยี่ห้อนมปรุงแต่งสำหรับเด็กแรกเกิดชั้นนำ ซึ่งได้รับการแนะนำจากกุมารแพทย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตร Enfamil Infant Formula เพราะเป็นสูตรที่ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่มากที่สุด และเป็นสูตรที่ให้สารอาหารที่ครบถ้วนตามที่เด็กแรกเกิดจนถึง 12 เดือนต้องการ พร้อมทั้งมี พรีไบโอติกส์ (prebiotics) ดีเอชเอ (DHA) และโคลีน (choline) ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง
เว็บไซต์ : www.enfamil.com
back to menu ↑
Enfagrow
สำหรับเด็กอายุระหว่าง 1-3 ขวบนับเป็นช่วงวัยที่สำคัญเพราะเป็นช่วงของการพัฒนา จึงเป็นสิ่งสำคัญต้องใส่ใจเรื่องของอาหารเป็นพิเศษ Enfagrow A+ สูตรสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป มี DHA สูง พร้อมวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยการทำงานของระบบประสาทและสมอง พร้อมผสมใยอาหารสูตรใหม่ PDX สารอาหารที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ทั้งระบบ
เว็บไซต์ : www.enfababy.com
back to menu ↑
Dumex
จากงานวิจัยที่พิสูจน์ว่า สุขภาพลำไส้ที่ดีส่งผลต่อพัฒนาการรอบด้านของลูกน้อย ดูเมกซ์จึงใส่ใจที่จะพัฒนานมปรุงแต่งเพื่อดูลำไส้ที่ดีที่ของเด็ก ล่าสุดจึงพัฒนาเป็น ดูเม็กซ์โกลด์พลัส แอดวานซ์ นิวทรี โฉมใหม่ ซึ่งมีทรีโอ้ ไฟเบอร์ ใยอาหาร 3 ชนิด ดีเอชเอ โอเมก้า 3,6,9 วิตามินบี 12 สูง ซึ่งมีส่วนช่วยใน การทำงานของระบบประสาทและสมอง วิตามินซีและอีสูง ช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุม��ลอิสระ แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง และวิตามินดีสูง เพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
เว็บไซต์ : www.dumex.co.th
back to menu ↑
Hi-Q1
ภายใต้แนวคิดว่าโภชนาการที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญที่ช่วย ให้ลูกทุกวัยเติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพดี ไฮคิววันจึงผลิตภัณฑ์นมผงที่ไม่เฉพาะสำหรับทารกแรกเกิด เด็กเล็ก เด็กโตเท่านั้น แต่ยังคิดค้นสูตรสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อดูแลลูกน้อยตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ ซึ่งพัฒนาและวิจัยโดยสถาบันวิจัย Nutricia
เว็บไซต์ : www.hifamilyclub.com
back to menu ↑
NAN
อีกแบรนด์นมปรุงแต่งจากเครือเนสเล่ อีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำและได้รับการยอมรับจากคุณแม่ทั่วโลก พร้อมด้วยสูตรใหม่ ออฟติโปรเอชเอ 2 สำหรับเด็ก 6 เดือน ถึง 3 ปี สูตรไฮโปอัลเลอเจนิก ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น ละลายง่ายและมีความขมลดลง นอกจากนี้ยังพัฒนาให้ย่อยและดูดซึมง่าย
เว็บไซต์ : www.tops.co.th
back to menu ↑
Nutramigen
หากเด็กมีปัญหาแพ้นมวัว นูทรามีเจนก็เหมาะที่จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะนูทรามีเจน มีสูตรไฮโปรอัลเลอเจนิก ฟอร์มูลา สำหรับทารกที่แพ้นมวัวโดยเฉพาะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยแลคโตส ด้วยโปรตีนที่ถูกย่อยสลายละเอียด (Extensively hydrolyzed protein) ช่วยให้สามารถดูดซึมได้ดี ปราศจากแลคโตส พร้อมช่วยลดภาวะแพ้โปรตีนนมวัวอีกด้วย
เว็บไซต์ : www.tops.co.th
back to menu ↑
S-26
หากต้องการให้การสร้างเซลล์ประสาทและการเชื่อมต่อของสมองในช่วง 1,000 วันแรกเป็นได้ด้วยดี ก็จำเป็นที่จะต้องมั่นใจว่าไมอีลีน ซึ่งมีส่วนสำคัญการสร้างเซลล์ประสาทและการเชื่อมต่อของสมองสามารถสร้างได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแอส-26 โปรเกรสโกลด์ จึงเป็นนมปรุงแต่งที่เหมาะสมกับเด็กวัยหนึ่งขวบขึ้นไป ด้วยมีสฟิงโกไมอีลีน ซึ่งหนึ่งในสารอาหารสำคัญในการสร้างไมอีลิน พร้อมด้วยสารอาหารและวิตามินอื่น ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้เด็กสามารถเกิดการพัฒนาทั้งส่วนสมองและร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เว็บไซต์ : www.s-momclub.com
back to menu ↑
Similac
ซิมิแลค 3 เอไอ คิว พลัส อินเทลลิ-โปร นมปรุงแต่งชนิดผงสำหรับเด็กวัย 6 เดือน – 3 ปี อุดมไปด้วยสารอาหารสมองและลูทีนในระบบ AI-Q ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง พร้อมมีนิวคลีโอไทด์ พรีไบโอติก และไพรโบโอติก ทำให้ร่างกายแข็งแรง ท้องไม่ผูก อุจจะระนิ่มขับถ่ายง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม พร้อมยังให้เจริญเติบโตดี นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจากผลวิจัยทางกา��แพทย์ จึงมั่นใจได้ในความปล��ดภัยและคุณภาพ
เว็บไซต์ : www.lazada.co.th
back to menu ↑
Nestle Bear Brand ตราหมี
ตราหมี โพรเทคชั่น นมปรุงแต่งชนิดผง สำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป มีส่วนผสมของ “LGG” จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์สายพันธุ์แล็กโทบาซิลลัส แรมโนซัส พร้อมด้วยใยอาหารจากธรรมชาติ พรีไบโอวัน (PREBIO 1) ดีเอชเอ (DHA) เออาร์เอ (ARA) โอเมก้า 3,6,9 (OMEGA 3,6,9,) วิตามินเอ ดี ซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก
เว็บไซต์ : www.nestlebaby.in.th
back to menu ↑
Isomil AI-Q Plus
นมปรุงแต่งชนิดผงจากโปรตีนถั่วเหลืองสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 1 ขวบ พร้อมสารอาหารที่เด็กแรกเกิดต้องการ ทั้งเอเอชเอ (AHA) เออาร์เอ (ARA) ลูทีน แบต้าแคโรทีน ใยอาหารฟรุกโตโกลิโอแซกคาไรด์ และที่สำคัญคือไม่มีน้ำตาลแลคโตสที่อาจทำให้ระบบการย่อยมีปัญหา เหมาะสำหรับเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว
เว็บไซต์ : www.tops.co.th
อาการแพ้นมวัวเป็นอย่างไร ?
เราต่างก็รู้ว่าเด็กแรกเกิดมักอาการแพ้นมวัวเป็นเรื่องปกติ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กมีอาการแพ้นมวัว
ท้องเสีย : มักจะเป็นอาการแรกที่เกิดขึ้นทันทีเกิดขึ้นหลังจากที่ดื่มนมเข้าไป โดยจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายไม่หยุด
อาเจียน : ให้สังเกตว่าหลังจากที่กินนมเข้าไปจะอาเจียนออกมาทุกครั้ง
ร้องไห้แม้จะท้องอิ่มแล้ว : ปกติถ้าเด็กท้องอิ่มก็จะไม่ร้องไห้งอแง แต่ถ้ายังร้องไห้งอแงหลังจากกินอิ่มแล้ว แสดงว่านมที่ดื่มเข้าไปทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง และอาจเป็นอาการของการแพ้นมวัว
ผื่นขึ้น : ผื่นที่ขึ้นจะมีลักษณะเป็นผื่นเล็ก ๆ ตามใบหน้า ศีรษะ หน้าผาก ในเด็กบางคนอาจมีผื่นขึ้นตามแขนขา และลำตัว ผื่นที่เกิดจากอาการแพ้จะคงอยู่นาน และไม่มีทีท่าว่าจะยุบ แต่ก็มีในบางกรณีที่เป็น ๆ หาย ๆ
ถ่ายเป็นมูกเลือด : สังเกตอุจจาระของลูกเวลาถ่าย ถ้าหากอุจจาระถ่ายออกมาเป็นมูกเลือด หรือมีเลือดผสมอยู่ด้วย ให้สันนิษฐานไว้ว่าอาจเกิดจากการแพ้นมวัว และให้รีบพาไปพบกุมารแพทย์อย่างเร็วที่สุด เพื่อหาสาเหตุ
น้ำมูกไหล : บางครั้งอาจจะมีอาการน้ำมูกไหล คล้ายการเป็นหวัด แต่อาการแพ้นมวัวก็ทำให้น้ำมูลไหลเรื้อรังได้เช่นกัน
หอบ หายใจติดขัด : หากสังเกตว่าเด็กมีอาการหายใจหอบ หรือหน้าอกกระเพื่อมแรงเวลาหายใจ นั่นอาจเป็นเพราะแพ้นมวัว ให้รีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
0 notes
Text
มีเดียไหนรุ่ง มีเดียไหนร่วง? MI เผยผลวิเคราะห์จากตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของบ้านเราเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในตอนนี้ทางองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเตรียมปล่อยของกันอย่างเต็มที่ในปีหน้า แต่ก่อนจะลงทุน มาดูกันก่อนดีกว่าว่า จะจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายเม็ดเงินไปกับมีเดียไหนดี
คุณ ภ��ัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (MI) ได้เผยข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขจากการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่า ตัวเลขในการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 (ต้นปี – เดือนพ.ย.) นั้น ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 13.9% จาก 91,451 ล้านบาทในปี 2016 เหลือเพียง 78,755 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ 12,695 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 สามารถแบ่งตามประเภทสื่อต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.TV สื่อโทรทัศน์ (ทั้งหมด) 44,491ล้านบาท ยังคงเป็นสื่อที่มีตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณาสูงที่สุด ในบรรดาสื่อทั้งหมด
2.Radio สื่อวิทยุ (กทม.) 3,459 ล้านบาท
3.Print สื่อสิ่งพิมพ์ 7,738 ล้านบาท ตัวเลขจกฮวบลงมาจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
4.Cinema โฆษณาโรงภาพยนตร์ 1,877 ล้านบาท
5.OOH สื่อนอกสถานที่ 10,012 ตัวเลขค่อนข้างคงที่
6.Internet สื่อออนไลน์ 11,179 เปรียบเสมือนพระเอกของงาน เป็นสื่อที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากปี 2016
และทางบริษัท MI ได้คาดการณ์แนวโน้มของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าว่า จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10.3% ด้วยสาเหตุว่า ปีหน้ายังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อธุรกิจในภาครวม โดยประเภทสื่อที่จะมีตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัดในปีหน้า ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ (ทุกประเภท) และ สื่อออนไลน์
นอกจากนี้ทาง MI ได้เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2017 โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ Nielson ดังนี้
หากไม่นับภาครัฐแล้ว Top 9 อุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงได้แก่ โทรศัพท์มือถือ(Mobile Phone), รถยนต์ (Cars), เครื่องดื่ม(Beverage), การโทรคมนาคม (Telecom), อุตสาหกรรมธนาคาร (Banking), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุชภาพ (Vitamin-Health) และ นมผงเด็ก (Powder Milk)
ซึ่งแน่นอนว่าในยุคที่สื่อออนไลน์กำลังมาแรง อุตสหกรรมที่ผลิต Device สำหรับการใช้งานอย่าง โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom) ย่อมต้องคึกคักตามเป็นธรรมดา และจากกระแสการพัฒนาระบบ Mobile Banking ในปี 2017ก็ทำให้อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศไทยก็เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่ยังคงมาแรงไม่หยุด อุตสาหกรรมในหมวดเครื่องดื่ม (Beverage) โดยเฉพาะหมวด Soft Drink และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Vitamin – Health) นั้นก็ยังคงมีการใช้จ่ายเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อ���นื่อง
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมนมผงนั้นอาจเรียกว่าเป็นขาลงก็เป็นได้ ด้วยข้อกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าในเรื่องของการห้ามโฆษณา ก็ทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณา ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับ ว่าในปี 2018นี้ ธุรกิจของบ้านเราจะคึกคักขึ้นตามการคาดการณ์หรือไม่
via Marketing Oops! http://ift.tt/2BibkSR
Posted by | View Post | View Group
from WordPress http://ift.tt/2yubEbT via IFTTT
0 notes
Photo
5 สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากขณะนี้ 1.อาหารแห้ง 2.น้ำดื่ม 3.ยาสามัญประจำบ้าน 4.นมผงเด็ก แพมเพิด ผ้าอนามัย 5.ไฟฉาย ยากันยุง #น้ําท่วมภาคใต้
0 notes
Link
นมผงเด็ก ญี่ปุ่น Morinaga Hagukumi นมผงจากญี่ปุ่นจากบริษัท Morinaga เป็นนมผงประเภท Powder ละลายน้ำได้ดีแม้น้ำต้มสุกอุ่นๆ Hagukumi ( ฮากุคุมิ ) สำหรับน้องแรกเกิด เป็นนมผง (นมวัว) ที่พิสูจน์และผ่านการรับรอง จากสถาบันอาหารและยาจากญี่ปุ่น ว่ามีส่วนผสมวิตามินเกลือแร่ ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด
0 notes
Text
มีเดียไหนรุ่ง มีเดียไหนร่วง? MI เผยผลวิเคราะห์จากตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของบ้านเราเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในตอนนี้ทางองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเตรียมปล่อยของกันอย่างเต็มที่ในปีหน้า แต่ก่อนจะลงทุน มาดูกันก่อนดีกว่าว่า จะจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายเม็ดเงินไปกับมีเดียไหนดี
คุณ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (MI) ได้เผยข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขจากการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่า ตัวเลขในการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 (ต้นปี – เดือนพ.ย.) นั้น ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 13.9% จาก 91,451 ล้านบาทในปี 2016 เหลือเพียง 78,755 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ 12,695 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 สามารถแบ่งตามประเภทสื่อต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.TV สื่อโทรทัศน์ (ทั้งหมด) 44,491ล้านบาท ยังคงเป็นสื่อที่มีตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณาสูงที่สุด ในบรรดาสื่อทั้งหมด
2.Radio สื่อวิทยุ (กทม.) 3,459 ล้านบาท
3.Print สื่อสิ่งพิมพ์ 7,738 ล้านบาท ตัวเลขจกฮวบลงมาจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
4.Cinema โฆษณาโรงภาพยนตร์ 1,877 ล้านบาท
5.OOH สื่อนอกสถานที่ 10,012 ตัวเลขค่อนข้างคงที่
6.Internet สื่อออนไลน์ 11,179 เปรียบเสมือนพระเอกของงาน เป็นสื่อที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากปี 2016
และทางบริษัท MI ได้คาดการณ์แนวโน้มของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าว่า จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10.3% ด้วยสาเหตุว่า ปีหน้ายังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อธุรกิจในภาครวม โดยประเภทสื่อที่จะมีตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัดในปีหน้า ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ (ทุกประเภท) และ สื่อออนไลน์
นอกจากนี้ทาง MI ได้เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2017 โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ Nielson ดังนี้
หากไม่นับภาครัฐแล้ว Top 9 อุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงได้แก่ โทรศัพท์มือถือ(Mobile Phone), รถยนต์ (Cars), เครื่องดื่ม(Beverage), การโทรคมนาคม (Telecom), อุตสาหกรรมธนาคาร (Banking), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุชภาพ (Vitamin-Health) และ นมผงเด็ก (Powder Milk)
ซึ่งแน่นอนว่าในยุคที่สื่อออนไลน์กำลังมาแรง อุตสหกรรมที่ผลิต Device สำหรับการใช้งานอย่าง โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom) ย่อมต้องคึกคักตามเป็นธรรมดา และจากกระแสการพัฒนาระบบ Mobile Banking ในปี 2017ก็ทำให้อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศไทยก็เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่ยังคงมาแรงไม่หยุด อุตสาหกรรมในหมวดเครื่องดื่ม (Beverage) โดยเฉพาะหมวด Soft Drink และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Vitamin – Health) นั้นก็ยังคงมีการใช้จ่ายเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมนมผงนั้นอาจเรียกว่าเป็นขาลงก็เป็นได้ ด้วยข้อกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าในเรื่องของการห้ามโฆษณา ก็ทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณา ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับ ว่าในปี 2018นี้ ธุรกิจของบ้านเราจะคึกคักขึ้นตามการคาดการณ์หรือไม่
via Marketing Oops! http://ift.tt/2BibkSR
Posted by | View Post | View Group
from WordPress http://ift.tt/2AKK3c4 via IFTTT
0 notes
Text
มีเดียไหนรุ่ง มีเดียไหนร่วง? MI เผยผลวิเคราะห์จากตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของบ้านเราเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในตอนนี้ทางองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเตรียมปล่อยของกันอย่างเต็มที่ในปีหน้า แต่ก่อนจะลงทุน มาดูกันก่อนดีกว่าว่า จะจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายเม็ดเงินไปกับมีเดียไหนดี
คุณ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (MI) ได้เผยข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขจากการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่า ตัวเลขในการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 (ต้นปี – เดือนพ.ย.) นั้น ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 13.9% จาก 91,451 ล้านบาทในปี 2016 เหลือเพียง 78,755 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ 12,695 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 สามารถแบ่งตามประเภทสื่อต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.TV สื่อโทรทัศน์ (ทั้งหมด) 44,491ล้านบาท ยังคงเป็นสื่อที่มีตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณาสูงที่สุด ในบรรดาสื่อทั้งหมด
2.Radio สื่อวิทยุ (กทม.) 3,459 ล้านบาท
3.Print สื่อสิ่งพิมพ์ 7,738 ล้านบาท ตัวเลขจกฮวบลงมาจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
4.Cinema โฆษณาโรงภาพยนตร์ 1,877 ล้านบาท
5.OOH สื่อนอกสถานที่ 10,012 ตัวเลขค่อนข้างคงที่
6.Internet สื่อออนไลน์ 11,179 เปรียบเสมือนพระเอกของงาน เป็นสื่อที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากปี 2016
และทางบริษัท MI ได้คาดการณ์แนวโน้มของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าว่า จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10.3% ด้วยสาเหตุว่า ปีหน้ายังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อธุรกิจในภาครวม โดยประเภทสื่อที่จะมีตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัดในปีหน้า ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ (ทุกประเภท) และ สื่อออนไลน์
นอกจากนี้ทาง MI ได้เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2017 โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ Nielson ดังนี้
หากไม่นับภาครัฐแล้ว Top 9 อุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงได้แก่ โทรศัพท์มือถือ(Mobile Phone), รถยนต์ (Cars), เครื่องดื่ม(Beverage), การโทรคมนาคม (Telecom), อุตสาหกรรมธนาคาร (Banking), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุชภาพ (Vitamin-Health) และ นมผงเด็ก (Powder Milk)
ซึ่งแน่นอนว่าในยุคที่สื่อออนไลน์กำลังมาแรง อุตสหกรรมที่ผลิต Device สำหรับการใช้งานอย่าง โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom) ย่อมต้องคึกคักตามเป็นธรรมดา และจากกระแสการพัฒนาระบบ Mobile Banking ในปี 2017ก็ทำให้อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศไทยก็เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่ยังคงมาแรงไม่หยุด อุตสาหกรรมในหมวดเครื่องดื่ม (Beverage) โดยเฉพาะหมวด Soft Drink และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Vitamin – Health) นั้นก็ยังคงมีการใช้จ่ายเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมนมผงนั้นอาจเรียกว่าเป็นขาลงก็เป็นได้ ด้วยข้อกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าในเรื่องของการห้ามโฆษณา ก็ทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณา ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับ ว่าในปี 2018นี้ ธุรกิจของบ้านเราจะคึกคักขึ้นตามการคาดการณ์หรือไม่
via Marketing Oops! http://ift.tt/2BibkSR
Posted by | View Post | View Group
from WordPress http://ift.tt/2yuJNby via IFTTT
0 notes
Text
มีเดียไหนรุ่ง มีเดียไหนร่วง? MI เผยผลวิเคราะห์จากตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของบ้านเราเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในตอนนี้ทางองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเตรียมปล่อยของกันอย่างเต็มที่ในปีหน้า แต่ก่อนจะลงทุน มาดูกันก่อนดีกว่าว่า จะจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายเม็ดเงินไปกับมีเดียไหนดี
คุณ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (MI) ได้เผยข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขจากการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่า ตัวเลขในการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 (ต้นปี – เดือนพ.ย.) นั้น ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 13.9% จาก 91,451 ล้านบาทในปี 2016 เหลือเพียง 78,755 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ 12,695 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 สามารถแบ่งตามประเภทสื่อต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.TV สื่อโทรทัศน์ (ทั้งหมด) 44,491ล้านบาท ยังคงเป็นสื่อที่มีตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณาสูงที่สุด ในบรรดาสื่อทั้งหมด
2.Radio สื่อวิทยุ (กทม.) 3,459 ล้านบาท
3.Print สื่อสิ่งพิมพ์ 7,738 ล้านบาท ตัวเลขจกฮวบลงมาจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
4.Cinema โฆษณาโรงภาพยนตร์ 1,877 ล้านบาท
5.OOH สื่อนอกสถานที่ 10,012 ตัวเลขค่อนข้างคงที่
6.Internet สื่อออนไลน์ 11,179 เปรียบเสมือนพระเอกของงาน เป็นสื่อที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากปี 2016
และทางบริษัท MI ได้คาดการณ์แนวโน้มของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าว่า จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10.3% ด้วยสาเหตุว่า ปีหน้ายังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อธุรกิจในภาครวม โดยประเภทสื่อที่จะมีตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัดในปีหน้า ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ (ทุกประเภท) และ สื่อออนไลน์
นอกจากนี้ทาง MI ได้เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2017 โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ Nielson ดังนี้
หากไม่นับภาครัฐแล้ว Top 9 อุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงได้แก่ โทรศัพท์มือถือ(Mobile Phone), รถยนต์ (Cars), เครื่องดื่ม(Beverage), การโทรคมนาคม (Telecom), อุตสาหกรรมธนาคาร (Banking), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุชภาพ (Vitamin-Health) และ นมผงเด็ก (Powder Milk)
ซึ่งแน่นอนว่าในยุคที่สื่อออนไลน์กำลังมาแรง อุตสหกรรมที่ผลิต Device สำหรับการใช้งานอย่าง โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom) ย่อมต้องคึกคักตามเป็นธรรมดา และจากกระแสการพัฒนาระบบ Mobile Banking ในปี 2017ก็ทำให้อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศไทยก็เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่ยังคงมาแรงไม่หยุด อุตสาหกรรมในหมวดเครื่องดื่ม (Beverage) โดยเฉพาะหมวด Soft Drink และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Vitamin – Health) นั้นก็ยังคงมีการใช้จ่ายเม็��เงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมนมผงนั้นอาจเรียกว่าเป็นขาลงก็เป็นได้ ด้วยข้อกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าในเรื่องของการห้ามโฆษณา ก็ทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณา ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับ ว่าในปี 2018นี้ ธุรกิจของบ้านเราจะคึกคักขึ้นตามการคาดการณ์หรือไม่
via Marketing Oops! http://ift.tt/2BibkSR
Posted by | View Post | View Group
from WordPress http://ift.tt/2AKK3J6 via IFTTT
0 notes
Text
มีเดียไหนรุ่ง มีเดียไหนร่วง? MI เผยผลวิเคราะห์จากตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยรวมของบ้านเราเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าในตอนนี้ทางองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเตรียมปล่อยของกันอย่างเต็มที่ในปีหน้า แต่ก่อนจะลงทุน มาดูกันก่อนดีกว่าว่า จะจัดสรรงบประมาณใช้จ่ายเม็ดเงินไปกับมีเดียไหนดี
คุณ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (MI) ได้เผยข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขจากการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
จากผลวิเคราะห์จะเห็นว่า ตัวเลขในการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 (ต้นปี – เดือนพ.ย.) นั้น ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 13.9% จาก 91,451 ล้านบาทในปี 2016 เหลือเพียง 78,755 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่ 12,695 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปี 2017 สามารถแบ่งตามประเภทสื่อต่าง ๆ ได้ดังนี้
1.TV สื่อโทรทัศน์ (ทั้งหมด) 44,491ล้านบาท ยังคงเป็นสื่อที่มีตัวเลขเม็ดเงินในการใช้จ่ายโฆษณาสูงที่สุด ในบรรดาสื่อทั้งหมด
2.Radio สื่อวิทยุ (กทม.) 3,459 ล้านบาท
3.Print สื่อสิ่งพิมพ์ 7,738 ล้านบาท ตัวเลขจกฮวบลงมาจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
4.Cinema โฆษณาโรงภาพยนตร์ 1,877 ล้านบาท
5.OOH สื่อนอกสถานที่ 10,012 ตัวเลขค่อนข้างคงที่
6.Internet สื่อออนไลน์ 11,179 เปรียบเสมือนพระเอกของงาน เป็นสื่อที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากปี 2016
และทางบริษัท MI ได้คาดการณ์แนวโน้มของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาในปีหน้าว่า จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10.3% ด้วยสาเหตุว่า ปีหน้ายังไม่มีปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อธุรกิจในภาครวม โดยประเภทสื่อที่จะมีตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัดในปีหน้า ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ (ทุกประเภท) และ สื่อออนไลน์
นอกจากนี้ทาง MI ได้เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขการใช้เม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2017 โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของ Nielson ดังนี้
หากไม่นับภาครัฐแล้ว Top 9 อุตสาหกรรมที่กำลังมาแรงได้แก่ โทรศัพท์มือถือ(Mobile Phone), รถยนต์ (Cars), เครื่องดื่ม(Beverage), การโทรคมนาคม (Telecom), อุตสาหกรรมธนาคาร (Banking), ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุชภาพ (Vitamin-Health) และ นมผงเด็ก (Powder Milk)
ซึ่งแน่นอนว่าในยุคที่สื่อออนไลน์กำลังมาแรง อุตสหกรรมที่ผลิต Device สำหรับการใช้งานอย่าง โทรศัพท์มือถือ (Mobile Phone) และ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecom) ย่อมต้องคึกคักตามเป็นธรรมดา และจากกระแสการพัฒนาระบบ Mobile Banking ในปี 2017ก็ทำให้อุตสาหกรรมธนาคารในประเทศไทยก็เป็นอีกดาวรุ่งที่น่าจับตามอง และด้วยเทรนด์รักสุขภาพที่ยังคงมาแรงไม่หยุด อุตสาหกรรมในหมวดเครื่องดื่ม (Beverage) โดยเฉพาะหมวด Soft Drink และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Vitamin – Health) นั้นก็ยังคงมีการใช้จ่ายเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดอุตสาหกรรมนมผงนั้นอาจเรียกว่าเป็นขาลงก็เป็นได้ ด้วยข้อกฎหมายที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้าในเรื่องของการห้ามโฆษณา ก็ทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณา ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะครับ ว่าในปี 2018นี้ ธุรกิจของบ้านเราจะคึกคักขึ้นตามการคาดการณ์หรือไม่
via Marketing Oops! http://ift.tt/2BibkSR
Posted by | View Post | View Group
from WordPress http://ift.tt/2yuH2Xx via IFTTT
0 notes
Photo
โปรโมชั่น TOPS Market ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก : สิทธิพิเศษเฉพาะ สมาชิก The 1 Card เท่านั้น!! (วันนี้ -25 เม.ย 60)
ว้าวๆๆๆ โปรโมชั่นนี้ ❗️❗️ โดนใจคุณแม่คุณลูกแน่นอนน !!! 👩👶
ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก : สิทธิพิเศษเฉพาะ สมาชิก The 1 Card เท่านั้น!! รับบัตรของขวัญมูลค่าสูงสุด 200.- *เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ
วันนี้ -25 เม.ย 60
📜 เงื่อนไข
• เมื่อช็อปสินค้าที่ร่วมรายการ: นมผงเด็ก (ยกเว้น นมผงเด็กสูตรทารกและสูตรต่อเนื่อง สูตร 1 ��ละ 2, ผงชงดื่มไมโลและโอวันติน) เอนฟาโกร, เอนฟา สมาร์ทพลัส, ดูเม็กซ์, ไฮคิว, ดูมิลค์, ดูโกร, เอส 26 พีอีโกลด์, เอส 26 โปรเกรสโกลด์, ซิมิแลค, ตราหมี, คาร์เนชั่น, ดีจี 3, แลคโตเย่น, พีเดียชัวร์, เจ็นไอ 3 นมผงสำหรับแม่ แอนลีน, แอนมัม, ไฮคิวมาม่า, ซิมิแลคมัม, แอนลีนโกลด์, เอนฟามาม่า, ดูเม็กนูทรีเซียมาม่า, ดูเม็กดูมัม, เอส 26 มัม, ตราหมี มาม่า, นมยูเอชที (ยกเว้น นมพาสเจอร์ไรส์, นมยูเอชทีนำเข้า, นมยูเอชทีจิตรลดา, นมยูเอชทีไทยเดนมาร์ค, นมเอชทีน้มนม และนมยูเอชทีวาริช), ตราหมี, ดัชมิลล์, ดีน่า, ดีมอลต์, โอวัลติน, แอนลีน, แอนมัม, เอนฟาโกร, เอนฟาสคูล, อะแลคต้า, ไฮคิว, ดูโกร, ดูเม็กซ์, แลคตาซอย, ไวตามิ้ลค์, วีซอย, โฟร์โมสต์, โยโมสต์, โชคชัย, มาลีไอคอร์น, มาลีนิวเทรียน, ศิริชัย, โฮมซอย, วีฟิท, โปรฟิท, โฟร์โมสต์ สคูลสมาร์ท, โฟร์โมสต์คิดส์, เนเจอรี่, ฟอร์แคร์ บาลานซ์, ไมโล, แคมปัสมอลต์, เบเนคอล, หนองโพ, แมกโนเลีย, 137 ดีกรี, นมสเตอริไลส์ ตราหมี และตราหมีโกลด์ อาหารเสริมสำหรับเด็ก ซีรีแลค, กูลเซอนาเอสอาร์, เอนชัวร์, ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ยี่ห้อมามี่ โพโค, เบบี้เลิฟ, เมอร์รี่ส์, มูนนี่, กูนน์, ฮักกี้ส์, พีเจ้นท์ ครบ 350 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ รับคูปองส่วนลดรวมมูลค่า 880 บาท และเมื่อช็อปครบ 500 บาท / ใบเสร็จ รับฟรี บัตรของขวัญมูลค่า 50 บาท ที่จุดบริการลูกค้าท็อปส์ เดลี่ ทุกสาขา และซูเปอร์คุ้มสาขาที่ร่วมรายการ (สาขาหายโศก, หนองเม็ก, ทุ่งฝน, ศรีธาตุ, ไชยวาน, บ้านแดง, พันดอน, สร้างคอม, บ้านจีต, เชียงยืน, เชียงเพ็ง, สร้างก่อ, ทับกุง, กุดจับ, แม่บัวแดง, น้ำโสม, โนนหวาย, บ้านธาตุ, ขามทะเลสอ, อุบลรัตน์, เมืองคง, วังสามหมอ, ขามสะแกแสง, บัวใหญ่, หนองวัวซอ, ด่านขุนทด, ชัยบุรี, เมืองเก่าพัฒนา, นายูง, บ้านห้วย, บ้านดุง บ้านผือ ชัยบุรี)
• ยอดซื้อคำนวณจากมูลค่าหลังหักส่วนลดทุกชนิดแล้ว • การแลกรับบัตรของขวัญจะยึดตามข้อมูลในระบบเป็นหลัก • ลูกค้าต้องแจ้งหมายเลขเดอะวันคาร์ดและบัตรประจำตัวประชา��น เพื่อแลกรับบัตรของขวัญ ได้ที่จุดบริการลูกค้าเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ และซูเปอร์คุ้มสาขาที่ร่วมรายการ ภายในวันที่ 29 มี.ค. – 15 พ.ค. 2560 • บัตรของขวัญไม่สามารถโอนสิทธิ์ แลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสด รวมทั้งไม่สามารถเปลี่ยนเป็นของรางวัลอื่นๆ ได้ • บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขรายการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
0 notes
Photo
5 สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากขณะนี้ 1.อาหารแห้ง 2.น้ำดื่ม 3.ยาสามัญประจำบ้าน 4.นมผงเด็ก แพมเพิด ผ้าอนามัย 5.ไฟฉาย ยากันยุง #น้ําท่วมภาคใต้ "มีโอกาสได้มาติดน้ำท่วมกับพี่ #พจน์สุวรรณพันธ์ นักร้องอีกท่าน เราเลยมารวมตัวกันอีกทางในการเดินสายเป็นเสียง��ห้ชาวบ้านบอกจุดช่วยเหลือ และร่วมมาแจกสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุด ขอบคุณพี่พจน์สุวรรณพันธ์มากคะ (ที่ หน้าราม ท้ายสำเภา นครศรีธรรมราช)
0 notes