#ดอกบัว

[asprinkleofpeppermint]

Beautiful pink lotus and peach-colored lotus in southern Thailand.

Vlog: Exploring lotus wetland and lotus root recipes

[prapasara]

วันลอยกระทง 2567 ประวัติวันลอยกระทง ตำนานและความเชื่อประเพณีลอยกระทง

วันลอยกระทง 2567 (Loy Krathong Festival)

ลอยกระทง เป็นพิธีอย่างหนึ่งที่มักจะทำกันในคืนวันเพ็�� เดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 อันเป็นวัน��ระจันทร์เต็มดวง และเป็นช่วงที่น้ำหลากเต็มตลิ่ง โดยจะมีการนำดอกไม้ ธูป เทียนหรือสิ่งของใส่ลงในสิ่งประดิษฐ์รูปต่างๆ ที่ไม่จมน้ำ เช่น กระทง เรือ แพ ดอกบัว ฯลฯ แล้วนำไปลอยตามลำน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์ และความเชื่อต่างๆ กัน ในปีนี้ วันลอยกระทง ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567

ประเพณีลอยกระทง (Loy Krathong Festival) มิได้มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ในประเทศจีน อินเดีย เขมร ลาว และพม่า ก็มีการลอยกระทงคล้ายๆ กับบ้านเรา จะต่างกันบ้าง ก็คงเป็นเรื่องรายละเอียด พิธีกรรม และความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น แม้แต่ในบ้านเราเอง การลอยกระทง ก็มาจากความเชื่อที่หลากหลายเช่นกัน ซึ่งกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้รวบรวมมาบอกเล่าให้ทราบกันดังต่อไปนี้

ทำไมถึงลอยกระทง

การลอยกระทง เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า ปฏิบัติกันมาแต่เมื่อไร เพียงแต่ท้องถิ่นแต่ละแห่ง ก็จะมีจุดประสงค์และความเชื่อในการลอยกระทงแตกต่างกันไป เช่น ในเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ก็จะเป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส���, เป็นบูชารอยพระพุทธบาท ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา ซึ่งปัจจุบันคือแม่น้ำเนรพุททาในอินเดีย หรือต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งไปโปรดพระพุทธมารดา

วัตถุประสงค์ของวันลอยกระทง

นอกจากนี้ ลอยกระทง ก็ยังมีวัตถุประสงค์ เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระที่บำเพ็ญบริกรรมคาถาในท้องทะเลลึก หรือสะดือทะเล บางแห่งก็ลอยกระทง เพื่อบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของตน บางแห่งก็เพื่อแสดงความขอบคุณพระแม่คงคา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งขอขมาที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไป ส่วนบางท้องที่ ก็จะทำเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ หรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ลอยทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ และส่วนใหญ่ก็จะอธิษฐานขอสิ่งที่ตนปรารถนาไปด้วย

พระยาอนุมานราชธน ได้สันนิษฐานว่า ต้นเหตุแห่งการลอยกระทง อาจมีมูลฐานเป็นไปได้ว่า การลอยกระทงเป็นคติของชนชาติที่ประกอบกสิกรรม ซึ่งต้องอาศัยน้ำเป็นสำคัญ เมื่อพืชพันธุ์ธัญชาติงอกงามดี และเป็นเวลาที่น้ำเจิ่งนองพอดี ก็ทำกระทงลอยไปตามกระแสน้ำไหล เพื่อขอบคุณแม่คงคา หรือเทพเจ้าที่ประทานน้ำมาให้ความอุดมสมบูรณ์ เหตุนี้ จึงได้ลอยกระทงในฤดูกาลน้ำมาก และเมื่อเสร็จแล้ว จึงเล่นรื่นเริงด้วยความยินดี เท่ากับเป็นการสมโภชการงานที่ได้กระทำว่า ได้ลุล่วงและรอดมาจนเห็นผลแล้ว ท่านว่าการที่ชาวบ้านบอกว่า การลอยกระทงเป็นการขอขมาลาโทษ และขอบคุณต่อแม่คงคา ก็คงมีเค้าในทำนองเดียวกับการที่ชาติต่างๆ แต่ดึกดำบรรพ์ได้แสดงความยินดี ที่พืชผลเก็บเกี่ยวได้ จึงได้นำผลผลิตแรกที่ได้ ไปบูชาเทพเจ้าที่ตนนับถือ เพื่อขอบคุณที่บันดาลให้การเพาะปลูกของตนได้ผลดี รวมทั้งเลี้ยงดูผีที่อดอยาก และการเซ่นสรวงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ เสร็จแล้วก็มีการสมโภชเลี้ยงดูกันเอง

ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความเจริญแล้ว การวิตกทุกข์ร้อน เรื่องเพาะปลูกว่าจะไม่ได้ผลก็น้อยลงไป แต่ก็ยังทำการบวงสรวง ตามที่เคยทำมาจนเป็นประเพณี เพียงแต่ต่างก็แก้ให้เข้ากับคติลัทธิทางศาสนาที่ตนนับถือ เช่น มีการ��ำบุญสุนทานเพิ่มขึ้นในทางพุทธศาสนา เป็นต้น แต่ที่สุ�� ก็คงเหลือแต่การเล่นสนุกสนานรื่นเริงกันเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น การลอยกระทงจึงมีอยู่ในชาติต่างๆทั่วไป และการที่ไปลอยน้ำ ก็คงเป็นความรู้สึกทางจิตวิทยา ที่มนุษย์โดยธรรมดา มักจะเอาอะไรทิ้งไปในน้ำให้มันลอยไป

ทำไมกระทงส่วนใหญ่เป็นรูปดอกบัว 

ในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือตำนานนางนพมาศ ซึ่งเป็นพระสนมเอก ของพระมหาธรรมราชาลิไทยหรือพระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย ได้กล่าวถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองว่า เป็นเวลาเสด็จประพาสลำน้ำ ตามพระราชพิธีในเวลากลางคืน และได้มีรับสั่งให้บรรดาพระสนมนางในทั้งหลาย ตกแต่งกระทงประดับดอกไม้ธูปเที��น นำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง ในคราวนั้น ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศพระสนมเอก ก็ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษ ที่บานในเวลากลางคืนเพียงปีละครั้งในวันดังกล่าว สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีป ลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็น ก็รับสั่งถามถึงความหม��ย นางก็ได้ทูลอธิบายจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า "แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน 12 ให้นำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน" ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นโคมลอยรูปดอกบัวปรากฏมาจนปัจจุบัน 

ตำนานและความเชื่อวันลอยกระทง 

จากที่กล่าวมาข้างต้นว่า การลอยกระทง ในแต่ละท้องที่ก็มาจากความเชื่อ ความศรัทธาที่แตกต่างกัน บางแห่งก็มีตำนานเล่าขานกันต่อๆมา ซึ่งจะยกตัวอย่างบางเรื่องมาให้ทราบ ดังนี้

เรื่องแรก ว่ากันว่าการลอยกระทง มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาพุทธนั่นเอง

กล่าวคือก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประทับอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ใกล้แม่น้ำเนรัญชรา กาลวันหนึ่ง นางสุชาดาอุบาสิกาได้ให้สาวใช้นำข้าวมธุปายาส (ข้าวกวนหุงด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำอ้อย) ใส่ถาดทองไปถวาย เมื่อพระองค์เสวยหมดแล้ว ก็ทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า ถ้าหากวันใดจะ��ำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ก็ขอให้ถาดลอยทวนน้ำ ด้วยแรงสัตยาธิษฐาน และบุญญาภินิหาร ถาดก็ลอยทวนน้ำไปจนถึงสะดือทะเล แล้วก็จมไปถูกขนดหางพระยานาคผู้รักษาบาดาล

พระยานาคตื่นขึ้น พอเห็นว่าเป็นอะไร ก็ประกาศก้องว่า บัดนี้ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุบัติขึ้นในโลกอีกองค์แล้ว ครั้นแล้วเทพยดาทั้งหลายและพระยานาค ก็พากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และพระยานาคก็ได้ขอให้พระพุทธองค์ ประทับรอยพระบาทไว้บนฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อพวกเขาจะได้ขึ้นมาถวายสักการะได้ พระองค์ก็ทรงทำตาม ส่วนสาวใช้ก็นำความไปบอกนางสุชาดา ครั้นถึงวันนั้นของทุกปี นางสุชาดาก็จะนำเครื่องหอม และดอกไม้ใส่ถาดไปลอยน้ำ เพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำเสมอมา และต่อๆ มาก็ได้กลายเป็นประเพณีลอยกระทง ตามที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

ในเรื่องการประทับรอยพระบาทนี้ บางแห่งก็ว่า พญานาคได้ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า ไปแสดงธรรมเทศนาในนาคพิภพ เมื่อจะเสด็จกลับ พญานาคได้ทูลขออนุสาวรีย์จากพระองค์ไว้บูชา พระพุทธองค์จึงได้ทรงอธิษฐาน ประทับรอยพระบาทไว้ที่หาดทรายแม่น้ำนัมมทา และพวกนาคทั้งหลาย จึงพากันบูชารอยพระพุทธบาทแทนพระองค์ ต่อมาชาวพุทธได้ทราบเรื่องนี้ จึงได้ทำการบูชารอยพระบาทสืบต่อกันมา โดยนำเอาเครื่องสักการะใส่กระทงลอยน้ำไป ส่วนที่ว่าลอยกระทงในวันเพ็ญ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้า เสด็จกลับมาสู่โลกมนุษย์ หลังการจำพรรษา 3 เดือน ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงอภิธรรมโปรดพุทธมารดานั้น ก็ด้วยวันดังกล่าว เหล่าทวยเทพและพุทธบริษัท พากันมารับเสด็จนับไม่ถ้วน พร้อมด้วยเครื่องสักการบูชา และเป็นวันที่พระพุทธองค์ได้เปิดให้ประชาชนได้เห็นสวรรค์ และนรกด้วยฤทธิ์ของพระองค์ คนจึงพากันลอยกระทง เพื่อเฉลิมฉลองรับเสด็จพระพุทธเจ้า

สำหรับคติที่ว่า การลอยกระทงตามประทีป เพื่อไปบูชาพระเกศแก้วจุฬามณี บนสรวงสรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น ก็ว่าเป็นเพราะตรงกับวันที่พระพุทธเจ้า เสด็จออกบรรพชาที่ริมฝั่งแม่น้ำอโนมา ทรงใช้พระขรรค์ตัดพระเกศโมลีขาด ลอยไปในอากาศตามที่ทรงอธิษฐาน พระอินทร์จึงนำผอบแก้วมาบรรจุ แล้วนำไปประดิษฐานไว้ในจุฬามณีเจดีย์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ตามประทีป คือ การจุดประทีป หรือจุดไฟในตะเกียง /โคม หรือผาง-ถ้วยดินเผาเล็กๆ) ซึ่งทางเหนือของเรา มักจะมีการปล่อยโคมลอย หรือโคมไฟที่เรียกว่า ว่าวไฟ ขึ้นไปในอากาศเพื่อบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีด้วย

เรื่องที่สอง ตามตำราพรหมณ์คณา��ารย์กล่าวว่า

พิธีลอยประทีปหรือตามประทีปนี้ แต่เดิมเป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ ทำขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสามคือ พระอิศวร พระนารายณ์และพระพรหม เป็นประเภทคู่กับลอยกระทง ก่อนจะลอยก็ต้องมีการตามประทีปก่อน ซึ่งตามคัมภีร์โบราณอินเดียเรียกว่า “ทีปาวลี” โดยกำหนดทางโหราศาสตร์ว่า เมื่อพระอาทิตย์ถึงราศีพิจิก พระจันทร์อยู่ราศีพฤกษ์เมื่อใด เมื่อนั้นเป็นเวลาตามประทีป และเมื่อบูชาไว้ครบกำหนดวันแล้ว ก็เอาโคมไฟนั้นไปลอยน้ำเสีย ต่อมาชาวพุทธเห็นเป็นเรื่องดี จึงแปลงเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท และการรับเสด็จพระพุทธเจ้า ดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยมักถือเอาเดือน 12 หรือเดือนยี่เป็งเป็นเกณฑ์ (ยี่เป็งคือเดือนสอง ตามการนับทางล้านนา ที่นับเดือนทางจันทรคติ เร็วกว่าภาคกลาง 2 เดือน) 

เรื่องที่สาม เป็นเรื่องของพม่า

เล่าว่า ครั้งหนึ่งในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมีพระประสงค์จะสร้างเจดีย์ให้ครบ 84,000 องค์ แต่ถูกพระยามารคอยขัดขวางเสมอ พระองค์จึงไปขอให้พระอรหันต์องค์หนึ่ง คือ พระอุปคุตช่วยเหลือ พระอุปคุตจึงไปขอร้องพระยานาคเมืองบาดาลให้ช่วย พระยานาครับปาก และปราบพระยามารจนสำเร็จ พระเจ้าอโศกมหาราช จึงสร้างเจดีย์ได้สำเร็จสมพระประสงค์ ตั้งแต่นั้นมา เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 12 คนทั้งหลายก็จะทำพิธีลอยกระทง เพื่อบูชาคุณพระยานาค เรื่องนี้ บางแห่งก็ว่า พระยานาค ก็คือพระอุปคุตที่อยู่ที่สะดือทะเล และมีอิทธิฤทธิ์มาก จึงปราบมารได้ และพระอุปคุตนี้ เป็นที่นับถือของชาวพม่า และชาวพายัพของไทยมาก 

เรื่องที่สี่ เกิดจากความเชื่อแต่ครั้งโบราณในล้านนาว่า

เกิดอหิวาต์ระบาด ที่อาณาจักรหริภุญชัย ทำให้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก พวกที่ไม่ตายจึงอพยพไปอยู่เมืองสะเทิม และหงสาวดีเป็นเวลา 6 ปี บางคนก็มีครอบครัวอยู่ที่นั��น ครั้นเมื่ออหิวาต์ได้สงบลงแล้ว บางส่วนจึงอพยพกลับ และเมื่อถึงวันครบรอบที่ได้อพยพไป ก็ได้จัดธูปเทียนสักการะ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคดังกล่าวใส่ สะเพา ( อ่านว่า “ สะ - เปา หมายถึง สำเภาหรือกระทง ) ล่องตามลำน้ำ เพื่อระลึกถึงญาติที่มีอยู่ในเมืองหงสาวดี ซึ่งการลอยกระทงดังกล่าว จะทำในวันยี่เพง คือ เพ็ญเดือนสิบสอง เรียกกันว่า การลอยโขมด แต่มิได้ทำทั่วไปในล้านนา ส่วนใหญ่เทศกาลยี่เพงนี้ ชาวล้านนาจะมีพิธีตั้งธัมม์หลวง หรือการเทศน์คัมภีร์ขนาดยาวอย่างเทศน์มหาชาติ และมีการจุดประทีปโคมไฟอย่างกว้างขวางมากกว่า (การลอยกระทง ที่ทางโบราณล้านนาเรียกว่า ลอยโขมดนี้ คำว่า “ โขมด อ่านว่า ขะ-โหมด เป็นชื่อผีป่า ชอบออกหากินกลางคืน และมีไฟพะเหนียงเห็นเป็นระยะๆ คล้ายผีกระสือ ดังนั้น จึงเรียกเอาตามลักษณะกระทง ที่จุดเทียนลอยในน้ำ เห็นเงาสะท้อนวับๆ แวมๆ คล้ายผีโขมดว่า ลอยโขมด ดังกล่าว)

เรื่องที่ห้า กล่าวกันว่าในประเทศจีนสมัยก่อน

ทางตอนเหนือ เมื่อถึงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมเสมอ บางปีน้ำท่วมจนชาวบ้านตายนับเป็นแสนๆ และหาศพไม่ได้ก็มี ราษฎรจึงจัดกระทงใส่อาหารลอยน้ำไป เพื่อเซ่นไหว้ผีเหล่านั้นเป็นงานประจำปี ส่วนที่ลอยในตอนกลางคืน ท่านสันนิษฐานว่า อาจจะต้องการความขรึม และขมุกขมัวให้เห็นขลัง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผีๆสางๆ และผีก็ไม่ชอบปรากฏตัวในตอนกลางวัน การจุดเทียนก็เพราะหนทางไปเมืองผีมันมืด จึงต้องจุดให้แสงสว่าง เพื่อให้ผีกลับไปสะดวก ในภาษาจีนเรียกการลอยกระทงว่า ปล่อยโคมน้ำ (ปั่งจุ๊ยเต็ง) ซึ่งตรงกับของไทยว่า ลอยโคม จากเรื่องข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า การลอยกระทง ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงความกตัญญู ระลึกถึงผู้มีพระคุณต่อมนุษย์ เช���น พระพุทธเจ้า เทพเจ้า พระแม่คงคา และบรรพชน เป็นต้น และแสดงความกตเวที (ตอบแทนคุณ) ด้วยการเคารพบูชาด้วยเครื่องสักการะต่างๆ โดยเฉพาะการบูชาพระพุทธเจ้า หรือรอยพระพุทธบาท ถือได้ว่าเป็นคติธรรมอย่างหนึ่ง ที่บอกเป็นนัยให้พุทธศาสนิกชน ได้เจริญรอยตามพระบาทของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงามทั้งปวงนั่นเอง

ประเพณีลอยกระทง นอกจากจะเป็นประเพณีที่มีคุณค่า ในเรื่องการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีพระคุณดังที่กล่าวมาแล้ว ประเพณีนี้ยังมีคุณค่าต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และศาสานาด้วย เช่น ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ทำให้ชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดงาน หรือในบางท้องที่ที่มีการทำบุญ ก็ถือว่ามีส่วนช่วยสืบทอดพระศาสนา และในหลายๆ แห่งก็ถือเป็นโอกาสดีในการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในแม่น้ำลำคลองไปด้วย

Loy Krathong  ,  Loy Krathong Festival ,   วันลอยกระทง

ที่มา   ::           https://www.sanook.com/campus/910912/  ,  https://prinkotakoon.blogspot.com/2024/10/loy-krathong.html

[malonenuny]

ดอกไม้มงคลประจำ 12 ราศี

ดอกไม้เป็นพืชสวยงาม และแฝงความหมายไว้ในตัวเอง การให้ดอกไม้แก้ผู้อื่นก็เช่นกัน ตามประเพณีไทยและความเชื่อตั้งแต่อด��ต มีความเชื่อเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดแตกต่างกัน ความหมายของดอกไม้อาจ��ับผลกระทบมาจากเหตุการณ์ เล่นหวยออนไลน์ หรือวันสำคัญต่างๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ วันนี้ จะมาแนะนำดอกไม้ประจำราศีทั้ง12มีความหมายอย่างไรไปดูกัน😍🌹

ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ประจำราศีมังกร

เบญจมาศเป็นดอกไม้ตัวแทนชนชั้นสูง ราชวงศ์ หรือกษัตริย์ ทนนานและมีพลังฉลาดแฝงอยู่มากเป็นพิเศษ คนราศีมังกรจึงเต็มไปด้วยความฉลาด มีความคิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เป็นดอกไม้แห่งความสำเร็จจึงมักจะมีผู้ให้การช่วยเหลือหรืออุปถัมภ์ตลอด

คนราศีมังกรมักเป็นนักวางแผนที่ดี มีการวางแผนด้า��การเงินเป็นเลิศ จึงเหมาะกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ อาชีพที่เหมาะคือ วิศวกร สถาปนิก ผู้ผลิตรายการสื่อต่าง ๆ งานเกี่ยวกับการเงิน ด้านความรักเป็นคนที่จริงใจและซื่อสัตย์ เพราะคนราศีมังกรจะเป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อมาก

ดอกกล้วยไม้ เป็นดอกไม้ประจำราศีกุมภ์

กล้วยไม้เป็นไม้ที่ต้องการการดูแลอย่างดี เป็นตัวแทนของการเอาใจใส่ดูแลอย่างลึกซึ้ง กล้วยไม้มักจะถูกจัดไว้ในที่ที่โดดเด่นโดยมี ดอกไม้อื่นแวดล้อม ชาวราศีกุมภ์จึงเต็มไปด้วยการเอื้ออาทรผู้คนรอบข้าง มีความฉลาดในตัวเอง รักธรรมชาติ ใจกว้าง

ชาวราศีกุมภ์จะชอบสิ่งของไฮเทค จึงเหมาะกับงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โทรทัศน์ นักเขียน ศิลปิน อีกด้านก็สนใจเรื่องศาสนา ประวัติศาสตร์ และของโบราณ เขาสามารถผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้ากันได้อย่างดี ด้านความรักจะชอบยึดมั่นในคำสัญญา ซื่อสัตย์และจงรักภักดีมาก

ดอกคาร์เนชั่นแดง เป็นดอกไม้ประจำราศีมีน

ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเป็นตัวแทนของศิลปิน เป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ มีความคิดจินตนาการสูง อาชีพที่เหมาะสมจะเป็นพวกนักแสดง นักเขียน จิตกร นักแต่งเพลง นักวิจารณ์อาหาร นักสังคมสงเคราะห์

คนราศีมีนมีอารมณ์ปรวนแปรง่าย ด้านความรักก็มักจะอ่อนไหว อารมณ์รักปรวนแปรแต่ก็เขาก็เป็นคนมีเสน่ห์เร้าใจใช่เล่น มีความชอบส่วนตัวในเรื่องศาสนา และมีสัมผัสพิเศษด้านจิตวิญญาณ หรือ มีสัมผัสที่ 6

ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ประจำราศีเมษ

ลิลลี่เป็นดอกไม้แห่งความโดดเด่นและการเป็นผู้นำ นับเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มักจะถูกวางไว้ในจุดที่สูงส่ง แต่ถึงแม้จะอยู่ในจุดที่ไม่สูงนักแต่ความเด่นของดอกลิลลี่ก็มักจะเป็นจุดสนใจเสมอ เหมือนกับคนราศีเมษที่จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น

นักบริหารธุรกิจ นักแสดง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนักประดิษฐ์คิดค้นต่าง ๆ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีเมษ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก ชอบการครอบครองและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

ดอกลีลาวดี เป็นดอกไม้ประจำราศีพฤษภ

บุคลิกของดอกลีลาวดีคือการรอคอยสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง มีการคิดและวางแผนระยะยาวอย่างรอบคอบและสุขุม รักสงบและมองโลกในแง่บวก จึงเป็นคนโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ

คนราศีพฤษภจะใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและเป็นนักลงทุนที่ดี เหมาะที่จะทำอาชีพแพทย์ สถาปนิก วิศวกร โบรกเกอร์หุ้น มัณฑนากร เขาเป็นพวกชอบความงามตามธรรมชาติและมีสัมผัสพิเศษในเรื่องปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ส่วนเรื่องความรักจะเป็นคนรักษาสัญญา เห็นอกเห็นใจและปกป้องคู่รักดี

ดอกเล็บมือนาง เป็นดอกไม้ประจำราศีมิถุน

เล็บมือนางเป็นดอกไม้ที่มีความงามเฉพาะตัว มีเสน่ห์แบบง่าย ๆ คนราศีนี้จึงมีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่นสูง อาชีพที่เด่นและเหมาะที่สุดคือการเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักดนตรี ศัลยแพทย์ ช่างภาพ นักกวีและงานที่เกี่ยวกับศิลปะทุกชนิด

แต่คนราศีมิถุนเป็นพวกรสนิยมสูงรายได้ต่ำ จึงมักจะสร้างหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่บ่อยครั้ง ด้านความรักเป็นคนอ่อนไหวง่าย ชอบหว่านเสน่ห์และเจ้าชู้ เนื่องจากชอบความรักแบบตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา

ดอกบัว เป็นดอกไม้ประจำราศีกรกฎ

ดอกบัวจัดเป็นดอกไม้แสนสวย อ่อนหวานและสงบ เรียบร้อย เป็นระเบียบ แต่ก็มักจะจมปลักอยู่กับความฝันอันสวยงามที่วาดขึ้นโดยไม่ยอมตื่น ขึ้นมาพบกับความจริงของชีวิต และมักจะคาดหวังสูง ให้ความใส่ใจในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์

คนราศีกรกฎเป็นคนไม่ชอบความฟุ่มเฟือยนัก แต่หากเป็นเรื่องของการตกแต่งบ้านชาวดอกบัวจะยอมทุ่มไม่อั้น อาชีพที่เหมาะสมคือ นักจิตวิทยา นักลงทุนในตลาดหุ้น หรืองานที่ช่วยประสานงานโครงการต่าง ๆ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก รักคนยาก แต่ถ้าลองได้รักแล้วก็จะซื่อสัตย์มาก ชอบความรักแบบไม่หวือหวาโลดโผน

ดอกทานตะวัน เป็นดอกไม้ประจำราศีสิงห์

ดอกทานตะวันจะเต็มไปด้วยความเป็นมิตร ร่าเริง สนุกสนาน ชาวราศีสิงห์ยังเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่ชอบเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะเขาต้องการแสวงหาความสุขใส่ตัวมากกว่าการต้องระวังตัวท่ามกลางคนหมู่มาก

คนราศีสิงห์เป็นคนรักและชื่นชอบธรรมชาติ แต่ดันชอบของฟุ่มเฟือย อาชีพที่เหมาะสมคือการเป็นนักเขียน ทนายความ นักพูด ส่วนความรักมักจะไม่ชอบการผูกมัด แต่ชอบแสดงออกเรื่องรักและเป็นคนโรแมนติก เรียกว่าเป็นคนเจ้าชู้เล็ก ๆ ก็ว่าได้

ดอกทิวลิป เป็นดอกไม้ประจำราศีกันย์

ดอกทิวลิปเป็นตัวแทนของความนิ่มนวล และการถูกขัดเกลาอย่างดี ชาวราศีกันย์จึงเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าคนในราศีใด ๆ ชอบเห็นใจผู้อื่น และฉลาดหลักแหลม นอกจากนี้ยังเจ้าระเบียบ และตรงต่อเวลาอย่างมาก

จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นที่อิจฉาของใครๆ ของคนราศีกันย์ก็คือเป็นคนที่เก็บเงินเก่ง อาชีพที่เหมาะ คือ แพทย์ บรรณารักษ์ นักวิจารณ์ละครและงานศิลปะ สำหรับเรื่องความรักนั้นจะเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ประจำราศีตุลย์

กุหลาบเป็นดอกไม้ที่ประณีต สวยงาม โดดเด่น คนราศีตุลย์จึงมีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก อาจจะรกรุงรังมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

ราศีตุลย์อาจเป็น นักดนตรีระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีนี้ที่สุด เขายังเป็นคนมีความเชื่อด้านความรักอย่างลึกซึ้ง ความรักของเขาจึงเต็มไปด้วยความโรแมนติกและอ่อนหวาน แต่ก็ให้อิสระด้านความคิด

ดอกกระบองเพชร เป็นดอกไม้ประจำราศีพิจิก

ดอกกระบองเพชรมีความลึกลับทั้งด้านการเกิดและกลีบดอก ชาวดอกกระบองเพชรจึงมีความลับเยอะ และสิ่งนี้ที่ส่งให้เขามีเสน่ห์น่าค้นหาตลอดเวลา เป็นคนเงียบ ๆ เก็บงำเรื่องราวของตนเองไว้โดยไม่บอกให้ใครรู้ ไม่ชอบออกงานสังคม

ราศีพิจิกเหมาะที่จะทำอาชีพนักโบราณคดี ทนายความ ที่ปรึกษาการลงทุน เภสัชกร ศัลยแพทย์ ด้านความรักจะเป็นคนเข้มงวดมาก เจ้าอารมณ์ แต่ก็มีความอ่อนไหวและลึกซึ้ง เขายังมีเสน่ห์ดึงดูดใจเรื่องบนเตียงเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นคู่รักที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความปรารถนา

ดอกเบิร์ด ออฟ พาราไดส์ เป็นดอกไม้ประจำราศีธนู

ผู้เกิดราศีนี้จะมีความสนุกสนานในชีวิต ชีวิตเต็มไปด้วยความพยายามและทะเยอทะยาน แต่ก็มีอารมณ์ผ่อนคลายและยืดหยุ่น จึงเป็นคนมองโลกในแง่ดี

ราศีธนูเหมาะที่จะเป็นนักเดินทาง นักวาดการ์ตูน นักแสดงตลก นักการเมือง สัตวแพทย์ และนักบิน ด้านความรักจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว มีความซื่อสัตย์ในรัก และชอบการผจญภัย

[kitthikarmavdi]

ศาลเจ้าพ่อเสือ ไหว้ที่ไหนดี พร้อมวิธีการไหว้ขอพรเสริมสิริมงคล

ศาลเจ้าพ่อเสือ ความเชื่อของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีน มักออกแบบสถาปัตยกรรมตามศาลเจ้าทางภาคใต้ของประเทศจีน มีเทพเจ้าประจำศาล คือ เจ้าพ่อเสือ (เสียนเทียนซั่งตี้) หรือตั่วเล่าเอี๊ย ซึ่งเป็นเทพเจ้าประจำศาลเจ้าพ่อเสือ โดยมีการนำเอาเถ้ากระดูกเสือใส่ไว้บริเวณแท่นของรูปปั้นเสือ และได้ทำพิธีเรียกดวงวิญญาณเสือ เพื่อให้ช่วยดูแลคุ้มครองราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้อยู่อย่างสงบสุข นอกจากนี้อาจจะมีรูปเคารพเทพเจ้ากวนอู เจ้าแม่ทับทิม และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ด้วย

โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่ที่มาไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือจะนิยมมาขอพรในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน โชคลาภ เสริมอำนาจบารมี สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง ขอบุตร และเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็จะกลับมาแก้บนอีกครั้ง

วิธีการไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ วิธีไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ สามารถเดินทางไปสักการะได้ในช่วงเวลาที่ศาลเจ้าเปิดให้บริการ โดยเตรียมของบูชาศาลเจ้าพ่อเสือมาเองก็ได้ ได้แก่ ของบูชาศาลเจ้าพ่อเสือ ธูป 18 ดอก

เทียนแดง 1 คู่

พวงมาลัย 1 พวง

เครื่องเซ่นไหว้ ได้แก่ หมูสามชั้น ไข่สด และข้าวเหนียวหวาน ในกรณีที่ต้องการจะขอพรเฉพาะเจาะจง ควรเตรียมอาหารชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ขอพรเรื่องการมีบุตร ส่วนใหญ่จะนิยมถวายสิงโตถั่วที่ทำจากธัญพืช และขอเรื่องการค้าขาย ให้ถวายสิงโตน้ำตาลหรือเจดีย์น้ำตาล นอกจากนี้ หากต้องการสักการบูชาเพื่อเสริมอำนาจบารมีและเพิ่มความเป็นสิริมงคลต่อตนเอง สามารถใช้สิ่งของที่มีความหมายมงคลเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการไหว้ขอพร เช่น

กระดาษเงิน กระดาษทอง มีความหมายมงคลคือ หวยเด็ด ทำให้โชคดี มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ร่ำรวยมีโชคลาภ

ดอกบัว เป็นสิ่งที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ ความเลื่อมใสศรัทธา

ผลไม้มงคล อาจจะใช้ผลไม้มงคล 5 ชนิด เช่น กล้วย แก้วมังกร องุ่นแดง ลูกพลับ ส้ม เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่ถวายแล้วสามารถลาเพื่อนำมาแบ่งปันกันกิน เสริมสิริมงคลร่วมกับคนในครอบครัวก็ได้

วิธีไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ

เดินตามลูกศรที่กำหนด

ปักธูป 3 ดอก ใน 6 กระถาง

ปักเทียน และวางเครื่องเซ่นไหว้ไว้ในบริเวณที่วางไว้

ตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรให้เจ้าพ่อเสือปกปักรักษา

[mtbbywpb9397]

จังหวัดอุบลราชธานี

ประวัติ จังหวัดอุบลราชธานี เมืองริมฝั่งโขง ธรรมชาติสวยแปลกตา เราอาจรู้จัก อุบลราชธานี ในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวริมฝั่งโขงที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุด Unseen และ วัดสวย แต่ความจริงแล้วที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน ตามเรามาเปิด ประวัติ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดแห่งภาคอีสานที่ลงท้ายด้วย "ราชธานี" เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยกัน

ประวัติ จังหวัดอุบลราชธานี อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี ในอดีตเคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรขอม แต่หลังจากที่อาณาจักรขอมเสื่อมอำนาจไป ดินแดนแห่งนี้ก็ได้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงศรีอยุธยา ผ่านมาจนกระทั่งสมัยกรุงธนบุรี ท้าวคำผง (พระประทุมวรราชสุริยวงศ์) ท้าวทิศพรหม และท้าวก่้า บุตรพระวอ พระตา หนีภัยสงครามจากเวียงจันทน์ มาที่ เมืองอุบลราชธานี ที่สมัยนั้นยังเป็นเพียงชุมชน���ี่กลุ่มชนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเท่านั้น

จนกระทั่งสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 มีพระราชประสงค์ที่จะรวมพลเมืองเพื่อเป็นกำลังของประเทศ โดยทรงมีพระราชกำหนดว่า หากเจ้าเมืองใดหรือบุคคลใดสามารถรวบรวมไพร่พลและตั้งเมืองได้เป็นปึกแผ่นจะแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองนั้น ท้าวคำผง หรือ พระปทุมสุรราช ในสมัยนั้นก็สามารถยกทัพปราบกบฏจนได้รับชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าแต่งตั้งพระปทุมสุรราชเป็น พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ เป็นเจ้าเมืองคนแรกของอุบลราชธานีเมื่อปี พ.ศ. 2335

ที่มาของชื่อ อุบลราชธานี เหตุผลที่อุบลราชธานี มีคำว่า "ราชธานี" ลงท้าย แม้จะไม่เคยเป็นเมืองหลวงของไทยเลยก็ตาม มาจากการที่สมัยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นมา อุบลราชธานีเป็นที่ตั้งกองบัญชาการมณฑลอีสานมาโดยตลอด จึงเปรียบเสมือนเป็นราชธานีของแดนอีสานค่ะ แต่ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ก็ได้มีการยกเลิกระบบมณฑลในปี พ.ศ. 2468 อุบลราชธานี ก่อนจะมีการรวบรวมเป็นระบบจังหวัดนับแต่นั้นมา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น จังหวัดอุบลราชธานี ก็ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่แห่งภาคอีสานที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รวมถึงธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา

คำขวัญจังหวัด อุบลราชธานี "เมืองแห่งดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฏร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

คำว่า "เมืองแห่งดอกบัวงาม" หมายถึงการที่อุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่นับถือพุทธศาสนาอย่างมั่นคงมาตลอด 200 ปี ซึ่ง ดอกบัว หมายถึงความบริสุทธิ์และความดีงามที่ชาวอุบลราชธานีมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตำแหน่งของจังหวัดยังเป็นที่บรรจบกันระหว่าง แม่น้ำมูล และ แม่น้ำโขง จึงทำให้เกิดเป็น แม่น้ำสองสี ที่มีพันธุ์ปลานานาชนิดแหวกว่ายอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์

แน่นอนว่าอุบลราชธานีเป็นมีแหล่งธรรมชาติที่เป็นแก่งหินและหาดทรายอยู่หลายแห่ง ได้แก่ แก่งสะพือ แก่งตะนะ หาดศรีภิรมย์ หาดวิจิตรา และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีแหล่งธรรมชาติที่มีอายุยาวนานมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์อย่าง อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ยังเป็นจังหวัดที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงาม และมี ประเพณีแห่เทียนพรรษา สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน

ที่เที่ยว อุบลราชธานี ปัจจุบัน ��ุบลราชธานี เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของทางภาคอีสาน มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางชมธรรมชาติสวยๆ ที่หาชมได้ยากจากที่อื่น ไฮไลท์ของอุบลราชธานีที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองไทยที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 10 กิโลเมตร จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มิถุนายนของทุกปี และจะจมลงสู่ใต้แม่น้ำโขงอีกครั้งเมื่อเข้าฤดูฝน

นอกจากนี้ก็ยังมี อุทยานแห่งชาติผาแต้ม แหล่งธรรมชาติสุด Unseen ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ อย่าง เสาเฉลียง นี่ก็เรียกว่ามีอายุยาวนานมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์เลย ต้นนึงตั้งแต่สมัยยุคครีเตเซียส มีอายุกว่า 130 ล้านปี ส่วนอีกต้นก็สมัยยุคไดโนเสาร์ อายุกว่า 180 ล้านปีเลยทีเดียว แล้วก็ห้ามพลาดไปชมแสงแรกของประเทศไทยที่ ผาชะนะได จุดที่พระอาทิตย์จะสาดแสงในยามเช้าเป็นที่แรกของประเทศไทย ขอบอกว่าวิวสวยปัง เอกซ์คลูซีฟสุดๆ

อุบลราชธานี ไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นถิ่นของวัดวาอารามที่ผู้คนมักจะนิยมไปทำบุญกัน เช่น วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว วัดพระธาตุหนองบัว วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน แห่เทียนพรรษา เป็นประเพณีใหญ่ของจังหวัดในทุกๆ ปีอีกด้วย ถือเป็นจังหวัดที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ครบจบให้ที่เดียวจริงๆ แทงหวย

[nimo003]

ดอกไม้ประจำ 12 ราศี

เราอาจรู้จักชื่อดอกไม้และความหมายบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับดอกไม้ประจำราศีทั้ง 12 ราศี วันนี้เรามาดูความหมายและดอกไม้ประจำราศีทั้ง 12 ราศีกันดีกว่านะคะ <<<เยี่ยมชม>>>

ราศีมังกร: ดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ตัวแทนแห่งความสูงส่ง ราชวงศ์ หรือกษัตริย์ ทนทานและมีพลัง ซ่อนเร้น รวบรวมความหมายมากมาย ด้วยเหตุนี้ผู้ราศรีมังกรจึงอยู่ในราศีที่เปี่ยมด้วยสติปัญญา มีความคิดลึกซึ้ง และเป็นคนมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน นอกจากนี้ดอกเบญจมาศยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จอีกและมีเพื่อนพ้องที่ดีพร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอ

ราศีกุมภ์: ดอกกล้วยไม้

กล้วยไม้เป็นดอกไม้ที่ต้องการการดูและถนุถนอมเป็นอย่างดี จึงเป็นตัวแทนในเรื่องของการดูแลเอาใจใส่ เวลานำกล้วยไม้ไปจัดแต่งจึงถูกจัดไว้ในจุดที่โดดเด่นที่สุด และมีดอกไม้อื่นๆ อยู่รอบๆ เสมือนเป็นเกราะกำบัง ชาวราศีกุมภ์จึงเต็มไปด้วยการเอื้ออาทรจากคนรอบข้าง เป็นคนรักธรรมชาติ ฉลาด ใจกว้างมากเลยทีเดียว

ราศีมีน: ดอกคาร์เนชั่นแดง

ดอกคาร์เนชั่นแดง เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของศิลปิน แห่งความฝันอันลึกลับ และจินตนาการที่ไม่เคยหยุด อาชีพที่คู่ควรกับการแสดง นักเขียน ศิลปิน นักแต่งเพลง นักวิเคราะห์อาหาร นักสังคมสงเคราะห์ ฯลฯ ผู้ที่เกิดในราศีมีน จะอ่อนไหวต่อความรักแต่พวกเขาก็มีเสน่ห์ หลงใหล เคร่งครัด และมีสิ่งที่เรียกว่าความงามทางจิตวิญญาณ ประการที่ 6

ราศีเมษ: ดอกลิลลี่

ลิลลี่เป็นเป็นตัวแทนความโดดเด่นและความเป็นผู้นำ ถือเป็นดอกไม้อีกประเภทหนึ่งที่มักถูกพาขึ้นที่สูงเสมอแต่แม้จะไม่สูงมากแต่ความโดดเด่นก็ยังดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างเสมือนคนที่เกิดในราศีเมษ ดังนั้นคือ โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ แล้วในเรื่องความรัก คนเกิดราศีเมษนี้ มักจะเต็มไปด้วยอารมณ์ ชอบควบคุมคู่ และพยายามเป็นเจ้าของคู่อยู่เสมอ

ราศีพฤษภ: ดอกลีลาวดี

ดอกลีลาวดีเป็นตัวแทนผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ที่เป็นคนมีบุคลิกเป็นผู้จัดการที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง มีความคิดและแผนระยะยาว รักธรรมชาติ มองโลกในแง่ดี และไม่ค่อยโกรธผู้อื่น น่านับถือที่สุด ผู้ที่เกิดในราศีพฤษภมักจะใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดและเป็นนักลงทุนที่ดีคู่ควรกับการทำงานเป็นแพทย์ สถาปนิก วิศวกร นายหน้า หรือมัณฑนากร ส่วนเรื่องความรักเขาเป็นคนที่รักษาสัญญา เข้าใจ เข้าใจตับ และปกป้องคู่รักเป็นอย่างดี

ราศีเมถุน: ดอกเล็บมือนาง

เล็บมือนางเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ จึงสามารถเป็นตัวแทนของชาวราศีเมถุนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่นสูง และอาชีพที่โดดเด่นและเหมาะสมที่สุดสำหรับบุคคล���ี้คือ นักข่าว นักดนตรี แพทย์ ศัลยแพทย์ ช่างภาพ กวี และศิลปินทุกชนิด

ราศีกรกฎ: ดอกบัว

ดอกบัวจะมีความอ่อนหวาน สงบ เรียบร้อย เป็นระเบียบอยู่ในตัว แต่มักจะชอบจมปลักอยู่ในโลกแห่งความฝันเสียมากกว่า เพราะความฝันมันสวยงาม จึงไม่กล้าตื่นมาเผชิญหน้ากับความจริงในชีวิต และมักคาดหวังในเรื่องต่างๆ ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังใส่ใจศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์อีกด้วย ส่วนความรักเขาเป็นคนโรแมนติกมันไม่ง่ายเลยที่จะรักใครสักคน รักอย่างจริงใจ ไม่หันเหหนี แม้ว่าคุณจะไม่รักตัวเองก็ตาม

ราศีสิงห์ : ดอกทานตะวัน

ดอกทานตะวันจะเต็มไปด้วยความเป็นมิตร สดใส ร่าเริง มีชีวิตชีวา ซึ่งตรงกับบุคลิกของชาวราศีสิงห์ นอกจากนี้ยังเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่ชอบเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะเขาต้องการแสวงหาความสุขด้วยตัวเอง

ราศีกันย์ : ดอกทิวลิป

ทิวลิปเป็นดอกไม้ตัวแทนความอ่อนหวาน นิ่มนวล และการถูกขัดเกลาอย่างดี ชาวราศีนี้จึงเป็นคนที่อ่อนโยน เห็นอกเห็นใจ ใส่ใจและแคร์ความรู้สึกของคนอื่นอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีความเจ้าระเบียบอยู่ค่อนข้างมาก เคร่งครัดเรื่องเวลา ฉลาดหลักแหลม ส่วนเรื่องความรักก็เต็มไปด้วยความหวานและรู้จักกินตับเอาใจคู่จิ้นเป็นอย่างดีใครได้ไปถือว่าโชคดีจริงๆ

ราศีตุลย์ : ดอกกุหลาบ

กุหลาบเป็นตัวแทนของความสวยงามและโดดเด่น ชาวราศีตุลย์จึงมีเสน่ห์เวลาพูดคุย หรืออยู่ในวงสนทนาอยู่เสมอ ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก แต่เป็นคนที่เชื่อและศรัทธาในเรื่องความรักอย่างลึกซึ้ง เขาจึงเต็มไปด้วยความโรแมนติค อ่อนหวาน ในเรื่องความรักเขาเป็นคนมีความเชื่อมั่นในอารมณ์อย่างลึกซึ้งความรักของเขาจึงเต็มไปด้วยอารมณ์และความหวานแต่ยังให้อิสระทางจิตใจแก่คู่ครองไม่ชอบควบคุมความหึงหวง

ราศีพิจิก : ดอกกระบองเพชร

กระบองเพชรเป็นตัวแทนของความลึกลับ มีความลับเยอะ และสิ่งนี้เองส่ง��ลให้ชาวราศีนี้มีเสน่ห์น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา เป็นคนเงียบๆ ชอบความเป็นส่วนตัว มักไม่ค่อยเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตให้ใครรับรู้มากนัก และยังไม่ชอบออกงานสังคมอีกด้วย ส่วนเรื่องความรัก เป็นคนจริงจัง เข้มงวด ดุดัน แต่ยังมีความอ่อนโยนและอารมณ์ลึกซึ้งมากมาย แถมยังมีเสน่ห์ดึงดูดนิทานก่อนนอน รวมถึงคู่รักที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและราคะ

ราศีธนู : ดอกเบิร์ด ออฟ พาราไดส์

เบิร์ด ออฟ พาราไดส์ เป็นดอกไม้ตัวแทนความสนุกสนาน สดใส ชาวราศีธนูจึงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สนุกกับทุกวัน เต็มไปด้วยพลังความพยายามและทะเยอทะยาน แถมเป็นคนมีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย รู้จักยืดหยุ่น มองโลกในแง่ดีค่ะ ส่วนความรักเขาเป็นคนอ่อนโยน ซื่อสัตย์ แต่เขาอยากใช้ชีวิตแบบนักผจญภัยมากกว่าคิดถึงคู่รัก

[kimkimbooboo]

ประวัติ พระแม่ลักษมี เทพีแห่งความงามผู้ประทานพรด้านความรัก-โชคลาภ

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

ตามตำนานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่า พระแม่ลักษมี (Lakshmi) มีกำเนิดจากฟองน้ำ ในคราวที่เหล่าเทวดาและอสูรกวนเกษียรสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤต โดย��ณะที่ผุดขึ้นมานั้นทรงประทับนั่งในดอกบัวและพระหัตถ์ถือดอกบัวด้วย จึงมีอีกพระนามว่า ปัทมา หรือ กมลา แต่ด้วยขณะที่กวนเกษียรสมุทรนั้น ได้เกิดของวิเศษผุดขึ้นมาตามลำดับ ได้แก่ พิษ เพชร พระแม่ลักษมี จันทรา ช้าง ม้า วัว และกระบือ ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระแม่ลักษมีทรงนำเพชรขึ้นมาก่อน ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูจึงเชื่อกันว่าพระองค์ยังเป็นเทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภ

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

พระแม่จะประทานทรัพย์สินเงินทอง ความมั่งคั่งร่ำรวย และความสำเร็จในการทำมาค้าขาย เการจรจาต่อรอง และการประกอบธุรกิจให้แก่ผู้บูชาและประกอบความดีอยู่เป็นนิจ นอกจากนี้พระแม่ลักษมี เป็นพระชายาคู่บารมีของพระวิษณุ ไม่ว่าพระองค์จะอวตารไปอยู่ในปางไหน พระแม่ก็จะอวตารไปเป็นชายาของพระองค์เสมอ เช่น อวตารไปเป็นพระนางสีดาคู่กับพระราม อวตารไปเป็นพระนางรุกมิณี หรือพระนางธาราเทวี คู่กับพระกฤษณะ เป็นต้น ด้วยความรักอันมั่นคงของทั้ง 2 พระองค์ จึงทำให้ผู้คนนิยมมาขอพรในเรื่องของความรัก ชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว อีกด้วย

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

เทวีแห่งความงามของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตามคติความเชื่อของชาวอินเดียกล่าวกันว่า พระแม่ลักษมีทรงเป็นเทวีแห่งความงาม และทรงงามเลิศกว่าเทวนารีใด โดยรัศมีแห่งองค์พระแม่ สุกปลั่งเป็นประกายอย่างสายฟ้าแลบ และกลิ่นหอมจากพระวรกายนั้น ประหนึ่งกลิ่นดอกบัว หอมจรุงไปไกลถึงหลายร้อยโยชน์

นอกจากนี้สิ่งที่พระแม่ลักษมีทรงถืออยู่ที่เห็นกันบ่อยที่สุด คือ ดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ และมักจะถือไว้ 2 ดอก หรือไม่ก็ทรงถือ หม้อน้ำ พระหัตถ์หนึ่ง อีก พระหัตถ์หนึ่งหงายลงสู่พื้น มีเหรียญทองโปรยปราย ลงจากใจกลางพระหัตถ์ หรือไม่ก็เทออกมาจากในหม้อ เป็นสัญลักษณ์ของเทวีแห่งโชคลาภและความร่ำรวย บางครั้งก็ทรงอาวุธบ้าง เช่น จักร อันบ่งความหมายถึงพระวิษณุเทพนั่นเอง

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

ส่วนพาหนะขององค์พระแม่ลักษมี คือ ช้าง เพราะคนอินเดียถือว่า ช้าง เป็นสัญลักษณ์แห่งบุญญาธิการ พลังอำนาจ และความมั่งคั่ง ดังกำเนิดพระลักษมีที่มีช้างโปรยน้ำถวาย

กำเนิด พระแม่ลักษมี จุดเริ่มต้นหญิงสู่ขอชาย อย่างไรก็ตามด้วยความที่พระแม่งามเลิศกว่าเทวนารีใด ทำให้มีเทพเจ้าและอสูรมากมายที่หมายปอง จนองค์พระพรหมต้องเสด็จมารับและให้นางเลือกคู่ ครองเอง จนพระนางเลือกพระวิษณุเป็นเทพสวามี ตรงนี้เองเป็นที่มาของพิธีวิวาห์แบบหนึ่งที่หญิงต้องไปสู่ขอผู้ชายจากผู้ใหญ่ฝ่ายชาย หรือเป็นผู้เลือกฝ่ายชายเป็นสามีเองที่เรียกกันว่า สยุมพร

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

อย่างไรก็ตามประเพณีนอกจากจะพบในอินเดียแล้ว ยังคงพบในบางจังหวัดของประเทศไทย อย่างจังหวัดแพร่แถบอำเภอสอง ก็ยังมีประเพณีทำนองนี้ให้พบเห็นอยู่

พระแม่โพสพ ตามความเชื่อของไทย ที่จริงแล้วมีความเชื่อหนึ่งของไทยที่มีความเกี่ยวพันกับ "พระแม่ลักษมี" อยู่ด้วย โดยสันนิษฐานว่าปางหนึ่งของพระแม่ลักษมี ชื่อว่า พระธัญญลักษมี คือ "พระแม่โพสพ" ที่คนไทยให้ความเคารพนับถือกันนั่นเอง

ตามตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเกิดทุกขภัยแห้งแล้งกันดารขึ้นในโลก เวลานั้นแสงอาทิตย์ร้อนแรงจนผู้คนออกจากบ้านไม่ได้ เมื่อถึงยามค่ำคืนบรรดาเกษตรกรจึงพากันบูชา พระวิษณุ แต่เวลานั้นพระวิษณุบรรทมหลับอยู่ ไม่ได้ยินเสียงวิงวอนของผู้คนในโลก

ขอบคุณภาพสวยๆจาก เว็บ Kapook

พระแม่ลักษมี ทรงได้ยิน เนื่องจากไม่กล้าปลุกบรรทม จึงแบ่งภาคมาเป็น พระธัญญลักษมี หรือ พระแม่โพสพ ตามความเชื่อของไทยนั่นเอง เพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก โดยทรงนำมหาสังข์ใส้น้ำมาโปรยปรายเป็นฝน และเนรมิตข้าวในนาให้เจริญงอกงาม ความเป็นไปเป็นมาคร่าวๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีคนที่ชอบเสี่ยงโชค หรือหาแนวทางในการแทงหวยก็มาขอโชคขอลาภกับพระแม่ลักษมี เยอะมาก ขอจะมีสมหวังบ้างไม่สมหวังบ้างแต่ส่วนมากคือคนที่มูคือปังเกือบทุกคน อย่าลืมไปหาสถานที่ไปมูกันนะคะ

[wasan-suttikasem]

"8"

90 x 120 cm

mixed media on canvas

เลข 8 เป็นเลขมงคลในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เชื่อว่าเป็นเลขแห่งความโชคดี ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จ เลข 8 เป็นเลขคู่ที่ประกอบด้วยวงกลม 2 วง ที่หมายถึงการเริ่มต้นและสิ้นสุด จึงเป็นสัญลักษณ์ของวัฏจักรชีวิต เลข 8 ยังถูกมองว่าเป็นเลขแห่งความสมดุลและความมั่นคง เพราะเป็นเลขที่อยู่ตรงกลางระหว่างเลข 7 และเลข 9 ซึ่งเลข 7 เป็นเลขแห่งปัญญา และเลข 9 เป็นเลขแห่งความสำเร็จ เลข 8 จึงถูกมองว่าเป็นเลขที่รวมเอาทั้งปัญญาและความสำเร็จเข้าไว้ด้วยกัน

ความเชื่อเรื่องเลข 8 มีอยู่ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ในจีน เลข 8 เป็นเลขมงคลสูงสุด เชื่อว่าจะนำความโชคดีมาสู่ทุกด้านของชีวิต เช่น ธุรกิจ การเงิน ความรัก และสุขภาพ ในญี่ปุ่น เลข 8 ก็เป็นเลขมงคลเช่นกัน เชื่อว่าจะนำความร่ำรวยและโชคลาภมาสู่ผู้ครอบครอง ชาวเกาหลี ชาวเวียดนาม และชาวไต้หวัน ก็เชื่อว่าเลข 8 เป็นเลขมงคลเช่นกัน

ความเชื่อเรื่องเลข 8 ในประเทศไทยก็มีอยู่เช่นกัน เชื่อว่าเลข 8 เป็นเลขมงคล จะนำความโชคดีมาสู่ผู้ครอบครอง หลายคนจึงนิยมใช้เลข 8 ในชีวิตประจำวัน เช่น ทะเบียนรถ หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บ้าน รวมไปถึงชื่อและนามสกุล

เลข 8 ยังเป็นเลขมงคลที่มักถูกใช้ในงานมงคลต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ และงานฉลองวันเกิด ตัวอย่างเช่น ประดับงานแต่งงานด้วยดอกไม้ที่มีเลข 8 เช่น ดอกบัว 8 ดอก ดอกกุหลาบ 8 ดอก

***SOLD***

[mamushi25]

#สวัสดีตอนเช้าจ้า #วันพระ🙏 #บัว #ดอกบัว #ธรรมชาติ (at บ้านตรีวัฒน์_home Mamushi) https://www.instagram.com/p/B3Qcb05BLm-FOy8ewx7pfhCBm_kQpFQi-IWm3M0/?igshid=hdkrq5rcxack

[ekaponu]

#ดอกบัว #บัว #ไหว้พระ #ทำบุญ #วัดเจดีย์ซาวหลัง #ลำปาง #lotus #lampang #thailand (at วัดเจดีย์ซาวหลัง)

[prapasara]

ชื่อจริงลูกชาย-ลูกสาว สำหรับเด็กเกิดวันศุกร์  รวมชื่อความหมายดี เสริมสิริมงคล

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเกิดวันศุกร์ กำลังมองหาชื่อเพราะ ๆ ความหมายดี ถูกโฉลก ไม่เป็นกาลกิณี เราก็มีไอเดียชื่อลูกมาฝากกันอีกเช่นเคย ซึ่งตามหลักโทษาปกรณ์ที่ใช้ยึดปฏิบัติในการตั้งชื่อลูกชาย-ลูกสาวเกิดวันศุกร์ จะใช้อักขระในวรรคบริวาร อายุ เดช ศรี มนตรี อุตสาหะ มูลละ ดังนี้

บริวาร : ศ ษ ส ห ฬ ฮ

อายุ : อ สระ (อา อิ อี อุ อู เอ โอ)

เดช : ก ข ค ฆ ง

ศรี : จ ฉ ช ซ ฌ ญ

มนตรี : บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม

อุตสาหะ : ด ต ถ ท ธ น

มูลละ : ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

กาลกิณี : ย ร ล ว

การตั้งชื่อลูกชายเกิดวันศุกร์จะนิยมใช้อักขระวรรคเดช (เสริมอำนาจ วาสนา บารมี ลาภ ยศ สรรเสริญ เกียรติ ศักดิ์ศรี ชื่อเสียง อิทธิพล ตำแหน่ง หน้าที่การงาน) ได้แก่ ก ข ค ฆ ง ส่วนการตั้งชื่อลูกสาวเกิดวันศุกร์ จะนิยมใช้วรรคศรี (เสริมโชคลาภ สิริมงคล สำเร็จ สมหวัง เสน่ห์ เมตตามหานิยม เงินทอง คุณงามความดี) ได้แก่ ตัว จ ฉ ช ซ ฌ ญ นำหน้าหรือตามหลัง หรือใช้อักขระวรรคอื่น ๆ นำหน้าชื่อก็ได้ แต่ห้ามใช้อักษรที่เป็นกาลกิณี คือ ย ร ล ว โดยเด็ดขาด ลิสต์มาเป็นไอเดียกันถึง 600 ชื่อ ให้คุณพ่อคุณแม่เลือกไปตั้งชื่อลูกกัน 

ตั้งชื่อลูกชาย เกิดวันศุกร์

ก

กชเมธ / กด-ชะ-เมด / ความรู้อันประเสริฐ

กฤษฎิ์ / กริด / ฉลาด

กฤชณัท / กริด-ชะ-นัด / มีความรู้เฉียบคม

กฤติน / กริด-ติน / ผู้คงแก่เรียน

กฤติมา / กริด-ติ-มา / นักปราชญ์

กฤติธี / กริด-ติ-ที / นักปราชญ์

กฤตนัน / กริด-ตะ-นัน / ผู้มีประสบการณ์อันยิ่งใหญ่

กฤตัชญ์ / กริ-ตัด / ผู้รู้คุณคนอื่น กตัญญู

กฤตภาส / กริด-ตะ-พาด / สร้างแสงสว่าง สร้างความรุ่งเรือง

กาญจน์ธนัศ / กาน-ทะ-นัด / เจ้าแห่งทรัพย์ มีค่าดั่งทองคำ

กัญจน์ / กัน / ทอง

กันต์พัทธ์ / กัน-พัด / เป็นที่รักที่ผูกพัน

กันตภณ / กัน-ตะ-พน / พูดดี

กันตินันท์ / กัน-ติ-นัน / ยินดีในความรัก

กันตพิชญ์ / กัน-ตะ-พิด / ปราชญ์ ผู้เป็นที่รัก

กันติทัต / กัน-ติ-ทัด / ผู้ให้ความรัก ผู้ให้ความพอใจ

กันดิศ / กัน-ดิด / เจ้าแห่งความรัก กามเทพ

กษิดิศ / กะ-สิ-ดิด / เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

กิตติภพ / กิด-ติ-พบ / มีเกียรติ

กิตติพศ / กิด-ติ-พด / มีชื่อเสียง อำนาจ

กิตติพิเชษฐ์ / กิด-ติ-พิ-เชด / มีชื่อเสียงประเสริฐสุด

กิตติทัต / กิด-ติ-ทัด / ผู้ให้เกียรติ ผู้ให้ชื่อเสียง

กิตติภู / กิด-ติ-พู / มีชื่อเสียงในแผ่นดิน

กิตติ์ธนัญนภ / กิด-ทะ-นัน-นบ / มีเกียรติ ร่ำรวย 

กิตติ์ธนา / กิด-ทะ-นา / มีทรัพย์ ชื่อเสียง

โกเมศ / โก-เมด / ดอกบัว

ข

ขมนัต / ขะ-มะ-นัด / มีความอดทน

ขันธ์ธิปก / ขัน-ทิ-ปก / ผู้เป็นใหญ่เหนือกรมกอง

เขมินท์ / เข-มิน / มีความเกษมอันยิ่งใหญ่ ปลอดภัย

เขมทัต / เข-มะ-ทัด / ผู้ให้ความเกษม

เขมทิน / เข-มะ-ทิน / ผู้ให้ความเกษม

ค

คณนาถ / คะ-นะ-นาด / ผู้เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย

คเณศ / คะ-เนด / เป็นใหญ่ในหมู่ 

คณิน / คะ-นิน / เป็นใหญ่ในคณะ เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย

คณพิชญ์ / คะ-นะ-พิด / ��ู้เรื่องหมู่ รู้เรื่องคณะ

คณุฒน์ / คะ-นุด / ประเสริฐกว่าคนทั้งหลาย

คณาธิป / คะ-นา-ทิบ / ผู้เป็นหัวหน้า

คุณานนต์ / คุ-นา-นน / มีคุณธรรมดี 

คุณัชญ์ / คุ-นัด / ผู้รู้คุณธรรม ผู้รู้ความดี

คมชาญ / คม-ชาน / ฉลาดเฉียบแหลม

จ

จิณณ์ / จิน / ประพฤติดี 

จิณณทัต / จิน-นะ-ทัด / ผู้มีความประพฤติตามแบบแผน

เจตนิพิฐ / เจด-นิ-พิด / มีความคิดมั่นคง

เจตนิพัทธ์ / เจด-นิ-พัด / มีความคิดมั่นคง

เจตน์ / เจด / ความคิด ความตั้งใจ

ฉันทพัฒน์ / ฉัน-ทะ-พัด / เจริญด้วยฉันทะ เจริญด้วยความพอใจ

ฉันทัช / ฉัน-ทัด / ผู้เกิดมาด้วยความพอใจ

ช

ชญานนท์ / ชะ-ยา-นน / ยินดีในความรู้

ชญานิน / ชะ-ยา-นิน / นักปราชญ์

ชนน / ชะ-นน / การเกิด เชื้อสาย

ชนนน / ชะ-นะ-นน / การสืบเชื้อสาย

ชนุตม์ / ช��-นุด / คนที่สูงสุด

ชนกันต์ / ชะ-นะ-กัน / เป็นที่รักของคนทั้งหลาย

ชนกชนม์ / ชะ-นก-ชน / เกิดจากบิดา

ชนสิษฎ์ / ชะ-นะ-สิด / เป็นที่รักของชาติตระกูล

ชานนท์ / ชา-นน / เพลิดเพลิน ยินดีในความรู้

ชนาธิป / ชะ-นา-ทิบ / ผู้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย

ชินสีห์ / ชิน-นะ-สี / ผู้ชนะ

ชิติพัทธ์ / ชิ-ติ-พัด / ชัยชนะอันมั่นคง

ชุติพนธ์ / ชุ-ติ-พน / ความรุ่งเรืองมั่นคง

ฐ

ฐานทัต / ถา-นะ-ทัด / ให้หลักแหล่งมั่นคง

ฐิติพันธ์ / ถิ-ติ-พัน / เชื้อสายที่มั่นคง

ฐิติชาญ / ถิ-ติ-ชาน / เชี่ยวชาญ ตั้งมั่น

ฐิติสุทธิ์ / ถิ-ติ-สุด / ผู้ตั้งมั่นอยู่ในความบริสุทธิ์

ญ

ญาณพัตน์ / ยา-นะ-พัด / เจริญด้วยความรู้

ญาณพัฒน์ / ยา-นะ-พัด / เจริญด้วยความรู้

ญาณาธิป / ยา-นา-ทิบ / เป็นใหญ่ด้วยความรู้

ญาณัช / ยา-นัด / เกิดมาเพื่อความรู้

ญาณัท / ยา-นัด / ผู้ให้ความรู้

ณกานต์พิทักษ์ / นะ-กาน-พิ-ทัก / เป็นที่รัก รักษาไว้

ณพิชญ์ / นะ-พิด / นักปราชญ์

ณนันท์ / นะ-นัน / ยินดีในความรู้

ณศักต์ / นะ-สัก / สามารถทางความรู้

ณิชพน / นิด-ชะ-พน / มีใจบริสุทธิ์

ณัช / นัด / เกิดมาเพื่อความรู้ ผู้ให้เกิดความรู้

ณัท / นัด / ให้ความรู้

ณัฏฐ์ / นัด / ผู้ตั้งอยู่ในความรู้ นักปราชญ์

ณัฐกฤต / นัด-ถะ-กริด / สร้างให้เป็นนักปราชญ์

ณัฏฐกิตติ์ / นัด-ถะ-กิด / เกียรติของนักปราชญ์

ณัฐกิตติ์ / นัด-ถะ-กิด / ผู้รุ่งเรืองเพราะความรู้

ณัฐนันท์ / นัด-ถะ-นัน / เป็นที่ชื่นชมยินดีของนักปราชญ์

ณัฐชนน / นัด-ชะ-นน / เกิดมาเป็นนักปราชญ์

ณัฐธัญ / นัด-ทัน / ปราชญ์ผู้โชคดี

ณัฐภัค / นัด-ถะ-พัก / ปราชญ์ผู้มีโชค

ณัฐภาส / นัด-ถะ-พาด / ความรุ่งเรืองของนักปราชญ์

ณัฐสม / นัด-ถะ-สม / เสมอด้วยนักปราชญ์ สมกับนักปราชญ์

ณัฐสิทธิ์ / นัด-ถะ-สิด / ความสำเร็จของนักปราชญ์

ณัฐสุต / นัด-ถะ-สุด / ลูกนักปราชญ์

เดชทัต / เด-ชะ-ทัด / ผู้ให้เดช มีเดชมาก

ต

ติณห์ / ติน / กล้าแข็ง แหลมคม

ติณณภพ / ติน-นะ-พบ / ผู้ข้ามภพได้ ชื่อของผู้บรรลุธรรม

เตชัส / เต-ชัด / เดช อำนาจ

เตชินท์ / เต-ชิน / เป็นใหญ่ด้วยเดช มีเดชยิ่งใหญ่

เตชิษฐ์ / เต-ชิด / ฉลาดที่สุด

เตชิต / เต-ชิด / คมกล้า ฉลาดเฉียบแหลม

เตชทัต / เต-ชะ-ทัด / ให้เดช มีเดชมาก

เตชสิทธิ์ / เต-ชะ-สิด / สำเร็จด้วยเดช

เตโชดม / เต-โช-ดม / มีเดชสูงสุด

ท

ทิธิติ / ทิด-ทิ-ติ / รัศมีความสว่าง กระจ่าง

ทีฆทัศน์ / ที-คะ-ทัด / สายตายาว คาดการณ์ได้ไกล

ทีฆทัสน์ / ที-คะ-ทัด / เห็นการณ์ไกล

ทัดธน / ทัด-ทน / ผู้ให้ทรัพย์ ผู้มีทรัพย์ที่คนอื่นให้

ทัพพ์ / ทับ / ทรัพย์สมบัติ

ทักษ์ / ทัก / ขยัน ฉลาด มีทักษะ

ทัตเทพ / ทัด-เทบ / เทพประทาน

ทินกฤต / ทิน-นะ-กริด / กลางวัน พระอาทิตย์

ทินโชติ / ทิน-นะ-โชด / แสงอาทิตย์

ทิษณุ / ทิด-สะ-นุ / การให้ การบริจาค

ทีปต์ / ทีบ / รุ่งเรือง

เทพทัต / เทพ-พะ-ทัด / ผู้ที่เทวดาประทานมา

เทพฤทธา / เทบ-ริด-ทา / มีฤทธ์ดั่งเทพ

ธ

ธนิน / ทะ-นิน / มีทรัพย์

ธนัช / ทะ-นัด / เกิดจากทรัพย์ คนร่ำรวย

ธนภูมิ / ทะ-นะ-พูม / พื้นที่แห่งทรัพย์

ธนเดช / ทะ-นะ-เดด / มีทรัพย์เป็นอำนาจ

ธนกฤต / ทะนะกริด / การสร้างทรัพย์สมบัติ

ธนานพ / ทะ-นา-นบ / มีทรัพย์ใหม่

ธนาธิป / ทะ-นา-ทิบ / เจ้าแห่งทรัพย์

ธเนษฐ / ทะ-เนด / ร่ำรวยสุด

ธนชิต / ทะ-นะ-ชิด / ชนะด้วยทรัพย์

ธนโชติ / ทะ-นะ-โชด / รุ่งเรืองด้วยทรัพย์

ธนทัต / ทะ-นะ-ทัด / มีทรัพย์

ธนพนธ์ / ทะ-นะ-พน / รวบรวมทรัพย์สิน

ธนภูมิ / ทะ-นะ-พูม / พื้นที่แห่งทรัพย์

ธนะดี / ทะ-นะ-ดี / ทรัพย์ดี

ธนัตถ์ / ทะ-นัด / มีความสำเร็จด้วยทรัพย์ มีกำไรคือทรัพย์

ธนิก / ทะ-นิก / มีทรัพย์ ผู้ร่ำรวย

ธนัญสิชณ์ / ทะ-นัน-สิด / ความสำเร็จในการสร้างทรัพย์

ธนัท / ทะ-นัด / ผู้ให้ทรัพย์ ผู้ร่ำรวย

ธฤติพันธ์ / ทะ-ริด-ติ-พัน / ส่งใจมั่น

ธมเชษฐ์ / ทม-เชด / ผู้เป็นใหญ่

ธมธเนศ / ทม-มะ-เนด / ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าแห่งทรัพย์

ธมนณัฐ / ทะ-มน-นัด / นักปราชญ์ผู้มีจิตใจดีงาม

ธามนิธิศ / ทาม-นิ-ทิด / ขุมทรัพย์แห่งยศศักดิ์

ธามเมธี / ทาม-เม-ที / ปราชญ์ผู้มียศศักดิ์

ธิติ / ทิ-ติ / ความเพียร ความรู้ ความอดทน

ธิติฏฐ์ / ทิ-ติด / ผู้ดำรงอยู่ในความเพียร ความรู้

ธิปก / ทิ-ปก / ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหัวหน้า

ธิษณ์ / ทิด / ฉลาด

ธีทัต / ที-ทัด / ให้ปัญญา

ธีธัช / ที-ทัด / มีปัญญาเป็นธงชัย

ธีภพ / ที-พบ / มีปัญญา

ธีมา / ที-มา / ผู้มีปัญญา

ธัญกฤษฏิ์ / ทัน-ยะ-กิด / ฉลาดเป็นเสิศ

ธัญพิสิษฐ์ / ทัน-พิ-สิด / โชคดีเป็นพิเศษ

ธัญพิสิฏฐา / ทัน-พิ-สิด-ถา / โชคดี เจริญ

น

นภนต์ / นะ-พน / สุดขอบฟ้า

นฤชิต / นะ-รึ-ชิด / ผู้ชนะ

นฤพัทธ์ / นะ-รึ-พัด / สิริมงคล

นฤเบศ / นะ-รึ-เบด / ยอดชาย

นพพิชญ์ / นบ-พิด / นักปราชญ์ ผู้สดชื่นเสมอ

นิกม์ / นิก / ปรารถนา

นิชฌาน / นิด-ชาน / การเพ่งพินิจ ปัญญา

นิทธันต์ / นิด-ทัน / ผู้ขจัดมลทิน ขจัดความชั่ว

นิพิฐ / นิ-พิด / ตั้งมั่น ตั้งใจ

นิพิฐพนธ์ / นิ-พิด-พน / ผูกพัน มั่นคง

นิพพิชฌน์ / นิบ-พิด / ปัญญา เข้าใจทะลุปรุโปร่ง ตรัสรู้

นิธาน / นิ-ทาน / เก็บไว้ ตั้งมั่น

นิธิป / นิ-ทิบ / รักษาขุมทรัพย์

นิธิศ / นิ-ทิด / เจ้าแห่งขุมทรัพย์

นิปุณ / นิ-ปุน / มีฝีมือ ฉลาด ละเอียด

นนทพัทธ์ / นน-ทะ-พัด / ผูกพันด้วยความสุข

นันทพัทธ์ / นัน-ทะ-พัด / ผูกพันกับความสุข

นันทิพัฒน์ / นัน-ทิ-พัด / เจริญด้วยความสุข

นันท์ทัต / นัน-ทัด / ให้ความบันเทิง ให้ความสุข

นันทิศ / นัน-ทิด / เจ้าแห่งความสุข

นันทิช / นัน-ทิด / ผู้เกิดมาเพื่อความสุข เพลิดเพลิน

บ

บัญญพนต์ / บัน-ยะ-พน / ผู้มีปัญญา

บัณฑัต / บัน-นะ-ทัด / ผู้ให้ทรัพย์สิน

บัณฑิต / บัน-ดิด / ผู้ทรงความรู้

บุญสิทธิ์ / บุน-ยะ-สิด / มีความดี อำนาจ

ป

ปพน / ปะ-พน / บริสุทธิ์

ปณิธิ / ปะ-นิ-ทิ / ความตั้งใจแน่วแน่

ปทิต / ปะ-ทิด / รุ่งเรือง

ปธานิน / ปะ-ทา-นิน / ผู้มีความเพียรอันยิ่งใหญ่

ปฏิพน / ปะ-ติ-พน / ผู้มีความสามารถ

ปสุต / ปะ-สุด / ผู้ขยันขันแข็ง

ปฤษฎี / ปริด-สะ-ดี / รัศมี สัมผัส

ปาณัท / ปา-นัด / ให้ชีวิต มีจิตเมตตา

ปุญญพัตน์ / ปุน-ยะ-พัด / เจริญด้วยบุญ

ปัณณทัต / ปัน-นะ-ทัด / ให้ความรู้

ปัญญ์คคนานต์ / ปัน-คะ-คะ-นาน / ปัญญาดั่งท้องฟ้า

ปัญญพนต์ / ปัน-ยะ-พน / ผู้มีปัญญา

ปุญญพัตน์ / ปุน-ยะ-พัด / เจริญด้วยบุญ

ปุณณัตถ์ / ปุน-นัด / ผู้สมปรารถนา สมประสงค์

ปุณมนัส / ปุน-มะ-นัด / มีใจสะอาด

เปมทัต / เป-มะ-ทัด / ผู้ให้ความรัก

โปษัณ / โป-สัน / การเลี้ยงดู การอบรม

ปองคุณ / ปอง-คุน / มุ่งหวังสิ่งที่ดีงาม

พ

พฤทธิ์ / พะ-ริด / ความเจริญ

พสิษฐ์ / พะ-สิด / ดีที่สุด ร่ำรวยที่สุด

พนินห์ / พะ-นิน / เมฆ 

พิจักษณ์/ พิ-จัก / มีปัญญาเห็นประจักษ์ ผู้ฉลาดยิ่ง

พิชญ์ / พิด / นักปราชญ์

พิชญะ / พิด-ชะ-ยะ / นักปราชญ์

พิชญุตม์ / พิด-ชะ-ยุด / ฉลาด ยิ่งใหญ่

พิชเญศ / พิด-ชะ-เยด / จอมปราชญ์

พิชาญเมธ / พิ-ชาน-เมด / ผู้ชำนาญ มีปัญญา

พิเชฐชญณ์ / พิ-เชด-ชน / ความรู้ประเสริฐสุด

พิเชฐธนัท / พิ-เชด-ทะ-นัด / ร่ำรวยอย่างประเสริฐสุด

พิพิธธน / พิ-พิด-ทน / มีทรัพย์มากมาย 

พิมุกต์ / พิ-มุก / ผู้หลุดพ้น

พิภู / พิ-พู / มีอำนาจ

พิสิษฐ์ / พิ-สิด / ดีเลิศ

พงษ์พิชญ์ / พง-พิด / ตระกูลนักปราชญ์

พงศ์พิสุทธิ์ / พง-พิ-สุด / มีสกุลไม่ด่างพร้อย

พงศ์เทพ / พง-เทบ / ผู้มีสกุลสูง เทวดา

พฤกษ์ / พรึก / ต้นไม้

พุทธนิพิชญ์ / พุด-ทะ-นิ-พิด / มีปัญญาดั่งผู้ตรัสรู้

พุฒิเมธ / พุด-ทิ-เมด / เจริญด้วยปัญญา

พศุตม์ / พะ-สุด / มีอำนาจสูงสุด

โพธิพงศ์ / โพ-ทิ-พง / สกุลแห่งปัญญา

ภ

ภาม / พาม / เดช

ภาคิน / พา-คิน / ผู้มีโชค มีกำไร

ภาณุเมศธนัน / พา-นุ-เมด-ทะ-นัน / ร่ำรวย ยิ่งใหญ่ ดุจพระอาทิตย์

ภีมพศ / พี-มะ-พด / มีอำนาจ น่าเกรงขาม

ภูชิต / พู-ชิด / ผู้ชนะ แผ่นดิน

ภูดิศ / พู-ดิด / เจ้าแห่งความเจริญ

ภูสิทธ์ / พู-สิด / ผู้สำเร็จ แผ่นดิน

โภคิน / โพ-คิน / ผู้มีทรัพย์สมบัติ

ม

เมธาสิทธิ / เม-ทา-สิด / สำเร็จด้วยปัญญา

โมกข์ / โมก / ผู้เป็นหัวหน้า ความหลุดพ้น

มหัทธนะกิตติ์ / มะ-หัด-ทะ-นะ-กิด / มีชื่อเสียง ร่ำรวยยิ่ง

เมธัส / เม-ทัด / ผู้มีปัญญา นักปราชญ์

ศ

ศดิศ / สะ-ดิด / เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย

ศตคุณ / สะ-ตะ-คุณ / ผู้มีความดี มีความรู้ 

ศักดิธัช / สัก-ดิ-ทัด / เข้มแข็ง เป็นเลิศ

ศักดิ์ธนธัช / สัก-ทะ-นะ-ทัด / มีอำนาจ มีทรัพย์

ศักดินนท์ / สัก-ดิ-นน / ยินดีในอำนาจ

ศุภ์กฤศธเนส / สุ-กริด-ทะ-เนด / มีการกระทำที่ดี ร่ำรวย

ศุภเสกข์ / สุ-พะ-เสก / นักศึกษาผู้ดีงาม

โศธิน / โส-ทิน / มีความผ่องแผ้ว

ศุภกฤต / สุ-พะ-กริด / สร้างสิริมงคล สร้างความสุข

ศุภณัฐ / สุ-พะ-นัด / นักปราชญ์ผู้ดีงาม

ศุภสัณห์ / สุ-พะ-สัน / ผู้ดีงาม ละเอียดสุขุม

ศุภสิน / สุ-พะ-สิน / สินทรัพย์ที่ดีงาม

ศุทธ์ชนิภัส / สุด-ชะ-นิ-พัด / บริสุทธิ์ รุ่งเรือง

ส

สมิทธ์ / สะ-มิด / ความสำเร็จ

สมัชญ์ / สะ-มัด / มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง

สมัตถ์ / สะ-มัด / ผู้สามารถ องอาจ

สหัส / สะ-หัด / เข้มแข็ง มีชัย

สาธน / สา-ทน / นำไปสู่ความสำเร็จ

สาธิก / สา-ทิก / สำเร็จสมประสงค์

สาธิน / สา-ทิน / ได้รับความสำเร็จ

สาธิษฐ์ / สา-ทิด / ช่ำชอง ได้รับความสำเร็จ

สิทธินันท์ / สิด-ทิ-นัน / ยินดีในความสำเร็จ

สุกนต์ธี / สุ-กน-ที /มีปัญญา เป็นที่น่าปรารถนายิ่ง

สุกฤษฎิ์ / สุ-กริด / นักปราชญ์ที่ดี

สุชญาน / สุด-ชะ-ยาน / ความรู้ดี

สุชัจจ์ / สุ-ชัด / มีเชื้อชาติดี เกิดมาดี

สุตนันท์ / สุ-ตะ-นัน / ผู้ยินดีในความรุ้ที่ได้เรียนมา

สุทธญาณ / สุด-ทะ-ยาน / มีความรู้อันบริสุทธิ์

สุทมาตม์ / สุด-ทะ-มาด / ข่มใจตนเองได้ดี ดูแลตนเองได้ดี 

สุทธิฉันท์ / สุด-ทิ-ฉัน / มีความพอใจ 

สุทักษ์ / สุ-ทัก / เชี่ยวชาญ สามารถ ฉลาด เข้มแข็ง

สุธิต / สุ-ทิด / มีคุณประโยชน์

สุธินันท์ / สุ-ทิ-นัน / ความยินดีของนักปราชญ์

สุธี / สุ-ที / มีปัญญา นักปราชญ์

สุนิติ / สุ-นิ-ติ / มีระเบียบกฏเกณฑ์ที่ดี

สุศันส์ / สุ-สัน / มีชื่อเสียงดี

สุศาสิต / สุ-สา-สิด / อยู่ในระเบียบดี

สุศิษฏิ์ / สุ-สิด / ผู้ช่วย ประเสริฐ

สุสถิต / สุ-สะ-ถิด / สุขภาพดี อยู่ดี

สัณห์พิชญ์ / สัน-พิด / นักปราชญ์ ผู้ละเอียดอ่อน

สังสิต / สัง-สิด / ได้รับการสรรเสริญ

สัญชิต / สัน-ชิด / ผู้ชนะ

สัณหณัฐ / สัน-หะ-นัด / นักปราชญ์ผู้ละเอียดอ่อน

สัทคุณ / สัด-ทะ-คุณ / ลักษณะดี

สัทชน / สัด-ทะ-ชน / คนดี มีคุณธรรม

โสนนท์ / โส-นน / ยินดีในความดี

อ

อธิคม / อะ-ทิ-คม / ความสำเร็จ

อธิช / อะ-ทิด / เกิดมายิ่งใหญ่

อเนกศักดิ์ / อะ-เหนก-สัก / มีความสามารถ

อภิทัต / อะ-พิ-ทัด / ให้ความยิ่งใหญ่

เอกนฤน / เอก-นะ-ริน / คนดี

โอบนิธิ / โอบ-นิ-ทิ / ขุมทรัพย์ ร่ำรวย

โอสธี / โอ-สะ-ที / ดาวประกายพรึก

ตั้งชื่อลูกสาว เกิดวันศุกร์

ก

กชนิภา / กด-ชะ-นิ-พา / เสมือนดอกบัว บริสุทธิ์เหมือนดอกบัว

กชนันท์ / กด-ชะ-นัน / ดอกบัว น่ารัก

กณิกนันต์ / กะ-นิก-นัน / ละเอียดที่สุด เล็ก จิ๋ว

กณิศ / กะ-นิด / รวงข้าว

กนกพิชญ์ / กะ-หนก-พิด / ปราชญ์ ผู้มีค่าประดุจทอง

กนกนิภา / กะ-หนก-นิ-พา / เหมือนทอง

กนิษฐา / กะ-นิด-ถา / น้องสาวคนเล็ก นิ้วก้อย

กฤตินี / กริด-ติ-นี / ผู้ที่ทำสำเร็จแล้ว

กัญญชุดา / กัน-ยะ-ชุ-ดา / หญิงผู้มีความรุ่งเรือง

กาญจน์ณัฏฐา / กาน-นัด-ถา / ปราชญ์ ผู้มีค่าดั่งทองคำ

กานจน์พิธุนัน / กาน-พิ-ทุ-นัน / ดั่งทองคำ แสงจันทร์

กานต์พิชชา / กาน-พิด-ชา / มีความรู้เป็นที่รัก

กานต์มณี / กาน-มะ-นี / แก้วมณีที่น่ารัก แก้วงาม

กานต์สินี / กาน-สิ-นี / สาวงามผู้น่ารัก

กานต์สุทธภา / กาน-สุ-ทะ-พา / บริสุทธิ์ รุ่งเรือง เป็นที่รัก

กาญจน์ญาดา / กาน-ยา-ดา / ปราชญ์ ผู้มีค่าดั่งทองคำ 

กาญจน์สิเนห์ / กาน-สิ-เน / รักใคร่เสน่หาเท่าทองคำ

กานดาภา / กาน-ดา-พา / เป็นที่รักที่รุ่งเรือง

กานต์ชนิด / กาน-ชะ-นิด / สิ่งที่เป็นที่รัก

กิตติมา / กิด-ติ-มา / ผู้มีเกียรติ

กุสุมนิภา / กุ-สุม-นิ-พา / งามเหมือนดอกไม้

กุสุมภ์ / กุ-สุม / ดอกคำ

เกณฑ์ญดา / เกน-ยะ-ดา / นักปราชญ์ ผู้มีกฏเกณฑ์

เกตุชฎา / เกด-ชะ-ดา / เครื่องหมายแห่งความสูงส่ง

ข

ขนิษฐภา / ขะ-นิด-ถะ-พา / น้องสาวผู้เจริญ

เขมฉมา / เขม-ฉะ-มา / มีความสุข สงบ หนักแน่น

เข็มชมพู / เข็ม-ชม-พู / ดอกเข็มสีชมพู

เขมฐิดา / เขม-ถิ-ดา / มั่นคงยินดี

เขมพิชชา / เขม-พิด-ชา / มีความรู้ความสบายใจ

เขมิกา / เข-มิ-กา / มีความเกษมสันต์

เขษมบุษป์ / ขะ-เสม-บุด / เป็นดั่งดอกไม้ที่นำความสบายใจมาให้

แขไข / แข-ไข / พระจันทร์ ส่องสว่าง

ไขนภา / ไข-นะ-พา / แสงสว่าง

ไขแสง / ไข-แสง / ความสว่างไสว

ค

คคนานต์ / คะ-คะ-นาน / ท้องฟ้า

คคนางค์ / คะ-คะ-นาง / ท้องฟ้า

คันธมาทน์ / คัน-ทะ-มาด / ภูเขาที่หน้าผามีกลิ่นหอม

คุณัญญา / คุ-นัน-ยา / ผู้รู้ธรรม ผู้รู้ความดี

คุณิตา / คุ-นิ-ตา / ผู้มีคุณงามความดี

ง

งามทักข์ / งาม-ทัก / เห็นว่างาม

จังคนิภา / จัง-คะ-นิ-พา / มีรัศมีงดงาม

จันทกานต์ / จัน-ทะ-กาน / ราตรีกาล งามดั่งพระจันทร์

จันทนา / จัน-ทะ-นา / จันทร์ขาว

จันทนิภา / จัน-ทะ-นิ-พา / แสงจันทร์

จันทมณี / จัน-ทะ-มะ-นี / แก้วมณีสีรุ้งดังพระจันทร์

จันทมาส / จัน-ทะ-มาด / พระจันทร์

จันทัปปภา / จัน-ทับ-ปะ-พา / แสงจันทร์

จิณณพัต / จิน-นะ-พัด / ผู้ประพฤติตามระเบียบแบบแผน

จิณภัค / จิน-นะ-พัก / โชคดีเสมอ

จิณัฐตา / จิ-นัด-ตา / ผู้ฉลาด

จิดาภา / จิ-ดา-พา / รุ่งเรืองมาก

จินต์จุฑา / จิน-จุ-ทา / มีความคิดเป็นเลิศ

จิณห์นิภา / จิน-นิ-พา / เครื่องหมายอันงดงาม

จินต์ศุจี / จิน-สุ-จี / ผู้มีความคิดบริสุทธิ์

เจตสุภา / เจด-สุ-พา / ผู้มีความคิดดีงาม

ฉ

ฉันท์ชนิต / ฉัน-ชะ-นิด / ก่อให้เกิดความพอใจ

ฉันท์ชนก / ฉัน-ชะ-นก / ผู้ให้เกิดความพอใจ

ฉันทชา / ฉัน-ทะ-ชา / เกิดจากความพอใจ ให้เกิดความพอใจ

ฉันทนิษฐ์ / ฉัน-ทะ-นิด / ความรู้อันน่าพึงพอใจ

ฉันทพิชญา / ฉัน-ทะ-พิด-ชะ-ยา / ผู้รู้แจ้งความพอใจ

ฉันท์สินี / ฉัน-สิ-นี / ความพอใจของหญิงงาม หญิงงามผู้มีความใฝ่ดี

ฉันทิกา / ฉัน-ทิ-กา / มีความพอใจ

ฉันทิศา / ฉัน-ทิ-สา / มีความพอใจเป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ด้วยความใฝ่ดี

ฉันทิสา / ฉัน-ทิ-สา / ยิ่งใหญ่ด้วยความใฝ่ดี

ช

ชญานี / ชะ-ยา-นี / ผู้มีความรู้

ชญานันท์ / ชะ-ยา-นัน / ยินดีในความรู้

ชนาพร / ชะ-นา-พอน / ผู้ประเสริฐ

ชนิดาภา / ชะ-นิ-ดา-พา / ให้เกิดรัศมี

ชนินาถ / ชะ-นิ-นาด / เป็นที่พึ่งของมารดา

ชมพูนิกข์ / ชม-พู-นิก / แท่งทอง

ชมพูเนกข์ / ชม-พู-เนก / แท่งทอง

ช่อทิพย์ / ช่อ-ทิบ / ดอกไม้จากสวรรค์

ชัญญา / ชัน-ยา / ผู้ประเสริฐ ผู้รู้

ชนัญชิดา / ชะ-นัน-ชิ-ดา / ผู้ชนะคนอื่น

ชนันญภัค / ชะ-นัน-ยะ-พัก / ผู้มีความรู้ มีความโชคดี

ชนม์นิภา / ชน-นิ-พา / เสมอด้วยชีวิต รักปานชีวิต

ชนรดี / ชน-ระ-ดี / เป็นที่รักแห่งปวงชน

ชิษณุชา / ชิด-สะ-นุ-ชา / เกิดจากผู้ชนะ

ชุติมณฑน์ / ชุ-ติ-มน / มีความรุ่งเรืองเป็นเครื่องประดับ

โชติกา / โช-ติ-กา / ผู้รุ่งเรือง

โชติชนิต / โชด-ชะ-นิด / ผู้ให้เกิดความรุ่งเรือง

โชษิตา / โช-สิ-ตา / ความสุข ความบันเทิง สตรี

ญาณิน / ยา-นิน / ผู้มีความรู้

ญาณี / ยา-นี / ผู้มีความรู้

ญาณิดา / ยา-นิ-ดา / มีความรู้

ญาณิศา / ยา-นิ-สา / เป็นใหญ่ด้วยความรู้

ญาดา / ยา-ดา / ผู้รู้ นักปราชญ์

ฐ

ฐปนา / ถะ-ปะ-นา / การสถาปนา การดำรงอยู่

ฐานิตา / ถา-นิ-ตา / ผู้มีฐานะ

ฐาณญา / ถา-นะ-ยา / ความรู้ความมั่นคง

ฐานนันท์ / ถา-นะ-นัน / ยินดีในฐานะของตน

ฐานิกา / ถา-นิ-กา / ผู้ดำรงมั่น

ฐานิต / ถา-นิด / มีฐานะ มั่นคง

ฐิตาภา / ถิ-ตา-พา / รัศมีมั่นคง รุ่งเรืองนาน

ฐิติกานต์ / ถิ-ติ-กาน / ผู้ที่รักมั่นคง

ฐิติชญา / ถิ-ติ-ชะ-ยา / ผู้มีความมั่นคง ผู้รู้ชีวิต

ฐิติญาดา / ถิ-ติ-ยา-ดา / มีความรู้ที่ตั้งมั่น

ณ

ณกานดา / นะ-กาน-ดา / เป็นที่รัก

ณธิดา / นะ-ทิ-ดา / ลูกสาวมีความรู้

ณัชชา / นัด-ชา / เกิดเพื่อความรู้

ณัฐณิชา / นัด-นิ-ชา / ฉลาด บริสุทธิ์

ณัฐธิดา / นัด-ทิ-ดา / ธิดาของนักปราชญ์ ธิดาผู้ฉลาด

ณัฐกฤตา / นัด-กริ-ตา / ผู้สร้างให้เป็นนักปราชญ์

ณัฐนพิน / นัด-นะ-พิน / นักปราชญ์ผู้สดชื่น หนุ่มสาวเสมอ

ณัฐนิช / นัด-ถะ-นิด / ฉลาดเป็นตัวของตัวเอง

ณัฐพาณี / นัด-ถะ-พา-นี / ปราชญ์ผู้ฉลาดพูด

ณัทกาญจน์ / นัด-ถา-กาน / ความรู้มีค่าดั่งทองคำ

ณิชนันทน์ / นิด-ชะ-นัน / มีความเพลิดเพลินยินดีที่บริสุทธิ์

ณิช / นิด / สะอาด บริสุทธิ์

ณิชกัญญา / นิด-ชะ-กัน-ยา /หญิงผู้บริสุทธิ์

ณิชกานต์ / นิด-ชะ-กาน / บริสุทธิ์ เป็นที่รัก

ณิชมน / นิด-ชะ-มน / มีใจบริสุทธิ์

ณิชา / นิ-ชา / สะอาด บริสุทธิ์

ด

ดมิสา / ดะ-มิ-สา / พระจันทร์

ต

ต้องใจ / ต้อง-ไจ / เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น

ติณณา / ติน-นา / ผู้ข้ามพ้นความทุกข์

เตชินี / เต-ชิ-นี / ผู้มีเดช มีความรุ่งเรือง

ท

ทิพปภา / ทิบ-ปะ-พา / รุ่งเรืองดียิ่ง

ทิพานัน / ทิ-พา-นัน / ผู้มีใบหน้าสวยงาม

ทัตพิชา / ทัด-พิ-ชา / ผู้ได้รับประสาทวิชาความรู้ ผู้ได้รับความรู้

ทินมณี / ทิน-มะ-นี / แก้วมณีแห่งวัน พระอาทิตย์

ทิพนาถ / ทิบ-พะ-นาด / พระอาทิตย์

ธ

ธนัญญา / ทะ-นัน-ยา / มีความรู้เรื่องทรัพย์

ธนัชญา / ทะ-นัด-ชะ-ยา / รู้เรื่องทรัพย์สมบัติ

ธนันชา / ทะ-นัน-ชา / เกิดมามั่งคั่งร่ำรวย

ธนิกานต์ / ทะ-นิ-กาน / มีทรัพย์ น่ารัก

ธมน / ทะ-มน / กำจัดมลทิน สวย ขมิ้น

ธมนต์ / ทะ-มน / กำจัดมลทิน

ธมนันท์ / ทม-มะ-นัน / น่าเพลิดเพลินเหมือนดวงจันทร์ สวยเหมือนพระจันทร์

ธฤดี / ทะ-รึ-ดี / มั่นคง ตั้งมั่น

ธัญชนก / ทัน-ชะ-นก / ให้เกิดสิริมงคล ให้เกิดโชค

ธัญชนิต / ทัน-ชะ-นิด / ผู้ให้เกิดโชคดี ให้เกิดสิริมงคล

ธัญนันทน์ณิศา / ทัน-ยะ-นัน-นิ-สา / ยินดีในโชค ความรู้อันยิ่งใหญ่

ธัญพิชชา / ทัน-พิด-ชา / มีความรู้ยิ่งดี

ธัญสินี / ทัน-สิ-นี / หญิงที่มีผิวขาวงามและมีโชค

ธิญดา / ทิ-ยะ-ดา / นักปราชญ์

ธิบดิ์ณญานันท์ / ทิบ-ยะ-นา-นัน / ยินดีในความรู้อันยิ่งใหญ่

ธีนิดา / ที-นิ-ดา / ผู้ถูกนำไปด้วยความรู้ ผู้ได้รับการแนะนำเพื่อปัญญา

น

นิฏฐา / นิด-ถา / สำเร็จ

นิษฐา / นิด-ถา / สำเร็จ สมบูรณ์ จุดหมายปลายทาง

นันท์นภัส / นัน-นะ-พัด / มีความสุขดุจสวรรค์

นงนภัส / นง-นะ-พัด / นางผู้เป็นประดุจฟ้า

นพนันท์ / นบ-พะ-น��น / เพลิดเพลินในสิ่งใหม่

นันท์มนัส / นัน-มะ-นัด / มีใจเพลิดเพลิน

นันทิกานต์ / นัน-ทิ-กาน / น่ารัก น่ายินดี

นันทิชา / นัน-ทิ-ชา /  เกิดมาเพื่อความสุข เกิดมาเพื่อความเพลิดเพลิน

นันทิมา / นัน-ทิ-มา / มีความเพลินเพลิน

นิกข์นิภา / นิก-นิ-พา / เสมือนแห่งทอง

นิกษ์นิภา / นิก-นิ-พา / เสมือนแห่งทอง

นิชกานต์ / นิด-ชะ-กาน / เป็นของตนเป็นที่รัก

นิดานุช / นิ-ดา-นุด / หญิงสาวผู้ได้รับการอบรม

นิตา / นิ-ตา / ผู้ได้รับการแนะนำ ได้รับการอบรมอย่างดี

นิธินันท์ / นิ-ทิ-นัน / มีขุมทรัพย์ที่น่ายินดี

นิศามณี / นิ-สา-มะ-นี / พระจันทร์

นุชนพิน / นุด-นะ-พิน / หญิงสาวผู้เป็นสาวเสมอ

บ

บุญสิตา / บุน-สิ-ตา / ผู้อาศัยบุญ ผู้อยู่ด้วยความดี

บุญชนิด / บุน-ชะ-นิด / ให้เกิดความดี สร้างความดี

บุญญา / บุน-ยา / การกระทำความดี

บุญญิสา / บุน-ยิ-สา / ยิ่งใหญ่ด้วยบุญ

บุญฐิสา / บุน-ทิ-สา / ยิ่งใหญ่ด้วยบุญ

เบญญา / เบน-ยา / ฉลาด

บัณฑิตา / บัน-ดิ-ตา / ผู้ฉลาด ผู้มีความรู้

เบญญาภา / เบน-ยา-พา / รุ่งเรืองด้วยปัญญา

ป

ปณิดา / ปะ-นิ-ดา / ได้รับการสรรเสริญ

ปณิตา / ปะ-นิ-ตา / ได้รับการสรรเสริญ ประณีต

ปทิตตา / ปะ-ทิด-ดา / รุ่งเรืองแล้ว ส่องแสงแล้ว

ปพิชญา / ปะ-พิด-ชะ-ยา / ผู้รู้แจ้ง

ปภานัน / ปะ-พา-นัน / มีใบหน้าสวยงาม

ปภาพินท์ / ปะ-พา-พิน / ประสบแสงสว่าง

ปัณฑ์ชนิต / ปัน-ชะ-นิด / ให้เกิดปัญญา

ปัณฑา / ปัน-ดา / ปัญญา

ปัณฑิตา / ปัน-ทิ-ตา / ผู้ฉลาด

ปัณณชิสา / ปัน-นะ-ชิ-สา / เป็นใหญ่ด้านหนังสือ

ปัณณิกา / ปัน-นิ-กา / ประกอบด้วยหนังสือ

ปิญชาน์ / ปิน-ชา / ทองคำ

ปิณิดา / ปิ-นิ-ดา / ทำให้พอใจ เป็นที่รักที่พอใจ

ปิ่นปินัทธ์ / ปิ่น-ปิ-นัด / ประดับปิ่น

ปิ่นมนัส / ปิ่น-มะ-นัด / จอมใจ ยอดดวงใจ

ปีตมณี / ปี-ตะ-มะ-นี / มณีสีเหลือง บุษราคัม

ปีติชา / ปี-ติ-ชา / ก่อให้เกิดปีติ

เปมิกา / เป-มิ-กา / ผู้มีความรัก ผู้เป็นที่รัก

ปุญญิสา / ปุน-ยิ-สา / ผู้มีบุญยิ่งใหญ่

ปุณณมา / ปุน-นะ-มา / จันทร์เพ็ญ

ปุณณาสา / ปุน-นา-สา / สมปราถนา

ปุณิกา / ปุ-นิ-กา / มีบุญ มีคุณงามความดี

ปูชิดา / ปู-ชิ-ดา / ผู้ที่เขาบูชา

พ

พิจักขณา / พิ-จัก-ขะ-นา / มีปัญญาเห็นประจักษ์ ผู้ฉลาดยิ่ง

พิชชา / พิด-ชา / ความรู้

พิชชาภา / พิด-ชา-พา / มีความรู้รุ่งเรืองด้วยความรู้

พิชฌน์ฐภา / พิด-ถะ-พา / แสงแห่งความรู้ที่ตั้งมั่น

พิชฌาภัช / พิด-ชา-พัด / ดีงามด้วยความรู้

พิชญาภา / พิด-ชะ-ยา-พา / แสงสว่างของนักปราชญ์

พิชญานิน / พิด-ชะ-ยา-นิน / ผู้ทรงความรู้

พิชญธิดา / พิด-ชะ-ยะ-ทิ-ดา / ลูกสาวผู้เป็นนักปราชญ์

พิชญ์สินี / พิด-สิ-นี / หญิงงามผู้ฉลาด

พิชญา / พิด-ชะ-ยา / นักปราชญ์

พิชญานันท์ / พิด-ชะ-ยา-นัน / มีความรู้อย่างน่ายินดี

พิชญาภัค / พิด-ชะ-ยา-พัก / นักปราชญ์ผู้โชคดี

พิชามญธุ์ / พิ-ชา-มน / ผู้งดงามด้วยความรู้

พนิตนันท์ / พะ-นิด-นัน / ชอบความรื่นเริง มีความยินดีอันเป็นที่รัก

พนิตพิชา / พะ-นิด-พิ-ชา / มีความรู้เป็นที่รัก

พนิตสุภา / พะ-นิด-สุ-พา / หญิงงามน่ารัก

พนิตอนงค์ / พะ-นิด-อะ-นง / กามเทพผู้เป็นที่รัก

พิตตินันท์ / พิด-ติ-นัน / เพลิดเพลินในทรัพย์

พิธุนิภา / พิ-ทุ-นิ-พา / เหมือนพระจันทร์

พิสินี / พิ-สิ-นี / ดอกบัว

พุฒิธิดาภา / พุด-ทิ-ดา-พา / มีความรู้ความเข้าใจที่รุ่งเรือง

พาณิภัค / พา-นิ-พัก / มีโชคทางคำพูด พูดดีมีสิริมงคล

พจณิฌา / พด-จะ-นิ-ชา / มีคำพูดบริสุทธิ์

พสชนัน / พด-ชะ-นัน / ให้เกิดอำนาจ

พสิกา / พะ-สิ-กา / ผู้อยู่ในอำนาจ ว่านอนสอนง่าย

พัชนี / พัด-ชะ-นี / หญิงงาม

พัฑฒิดา / พัด-ทิ-ดา / เจริญแล้ว

พัณณิน / พัน-นิน / ผู้มีผิวพรรณดี

พัทธ์ธนามาศ / พัด-ทะ-นา-มาด / ผูกพันกับความมั่งคั่งและทองคำ

พัศธนัญญา / พัด-ทะ-นัน-ยา / มีทรัพย์ความรู้และกล้าหาญ

พาทินธิดา / พา-ทิน-ทิ-ดา / ลูกสาวผู้ฉลาด

ภ

ภัคนันท์ / พัก-คะ-นัน / ยินดีในโชค

ภัคนันทา / พัก-คะ-นัน-ทา / ยินดีมีโชค

ภัคธีมา / พัก-คะ-ที-มา / ผู้ฉลาดในสิ่งที่เป็นมงคล

ภาสินี / พา-สิ-นี / มีความรุ่งเรืองสว่างไสว

ภานิชา / พา-นิ-ชา / มีความรุ่งเรืองเป็นของตนเอง

ภาพิต / พา-พิด / ผู้ได้รับการอบรมแล้ว

ภูษณิศา / พู-สะ-นิ-สา / เจ้าแห่งเครื่องประดับ งามเลิศ

ภูษิตา / พู-สิ-ตา / ประดับประดาแล้ว

ม

มณีณดา / มะ-นี-นะ-ดา / ดั่งแก้วมณีมีค่า

มณีญาภา / มะ-นี-ยา-พา / แสงความรู้ดั่งแก้วมณี

มณีนุช / มะ-นี-นุด / น้องแก้ว

มานิดา / มา-นิ-ดา / ผู้ที่คนนับถือ

เมธินี / เม-ทิ-นี / ปราชญ์สตรี

มนตกานต์ / มน-ตะ-กาน / มีมนต์เป็นที่รัก

มนพัทธ์ / มะ-นะ-พัด / ผูกพันใจ เป็นที่รักแห่งใจ

มนสิชา / มน-สิ-ชา / เกิดในใจ ความรัก

มนัสนันท์ / มะ-นัด-สะ-นัน / มีใจสุขสำราญ

มโนชา / มะ-โน-ชา / โอชะแห่งใจ เกิดขึ้นในใจ ความรัก

มหัทธนิน / มะ-หัด-ทะ-นิน / มีทรัพย์มาก

มณฑิตา / มน-ทิ-ตา / ประดับตกแต่งแล้ว

มณิฐกานต์ / มะ-นิ-ถะ-กาน / เป็นที่รักดั่งมณีอันมีค่า

เมธินี / เม-ทิ-นี / ปราชญ์สตรี

มัญชุภา / มัน-ชุ-พา / รัศมีอันงาม

มัณฑิตา / มัน-ทิ-ตา / ประดับประดาแล้ว

มัทนา / มัด-ทะ-นา / คำสดุดี

มุกตาภา / มุก-ตา-ภา / แสงแห่งไข่มุก

ศ

ศุภิณนันท์ / สุ-พิน-นัน / ดีงามเพลิดเพลินยิ่ง 

ศกุนิชญ์/ สะ-กุ-นิด / รู้นิมิตที่นำโชคดีสิริมงคลมาให้

ศกุนิศ / สะ-กุ-นิด / เจ้านก พญาครุฑ

ศจิษฐา / สะ-จิด-ถา / ที่มีอำนาจมากที่สุด

ศฐา / สะ-ถา / สรรเสริญ

ศศิชา / สะ-สิ-ชา / เกิดจากดวงจันทร์ ดาวพุธ

ศศินิภา / สะ-สิ-นิ-พา / เหมือนจันทร์ แสงจันทร์

ศุทธนุช / สุด-ทะ-นุด / หญิงผู้บริสุทธิ์

ศุนธนา / สุน-ทะ-นา / การทำให้บริสุทธิ์

ศุนธา / สุน-ทา / ปราศจากมลทิน

ศุภกานต์ / สุ-พะ-กาน / ดีงาม เป็นที่รัก

ศุภดา / สุ-พะ-ดา / ความงาม

ศุภนุช / สุ-พะ-นุด / หญิงสาวผู้ดีงาม หญิงสาวผู้โชคดี

ศุภ์ปชัญญา / สุ-ปะ-ชัน-ยา / ดีงาม มีความรู้

ศุภานัน / สุ-พา-นัน / มีใบหน้าสวย ท่าทางดี

ศุภาพิชญ์ / สุ-พา-พิด / นักปราชญ์ผู้งดงาม

โศธิดา / โส-ทิ-ดา / ผ่องแผ้ว หมดจด

โศภชา / โส-พะ-ชา / เกิดมาสวย

โศภนิศ / โส-พะ-นิด / เจ้าแห่งความงาม

โศภิษฐา / โส-พิด-ถา / ผู้งามยิ่ง

โศภีพัทธ์ญาดา / โส-พี-พัด-ยา-ดา / ปราชญ์ผู้มีความงาม

ส

สคณ / สะ-คน / แวดล้อมด้วยบริวาร

สจิต / สะ-จิด / ฉลาด

สฎา / สะ-ดา / แสงสว่าง เรืองรอง

สนิฎา / สะ-นิ-ดา / ที่รัก เมตตา

สนิดา / สะ-นิ-ดา / ของขวัญ การได้รับ

สมัชญา / สะ-มัด-ชะ-ยา / มีเกียรติ มีชื่อเสียง

สมิดา / สะ-มิ-ดา / ยิ้มแย้ม แป้ง

สหิษฐา / สะ-หิด-ถา / ทรงอำนาจที่สุด

สัณห์สินี / สัน-สิ-นี / สาวงามผู้ละเอียดอ่อน

สัตจิต / สัด-ตะ-จิด / จิตใจงาม

สาธกา / สา-ทะ-กา / ให้สำเร็จสมประสงค์

สาธนี / สา-ทะ-นี / ให้สำเร็จประโยชน์

สาธิกา / สา-ทิ-กา / ผู้ให้สำเร็จสมประสงค์

สาธิดา / สา-ทิ-ดา / ให้สำเร็จสมประสงค์

สุทัชชา / สุ-ทัด-ชา / ผู้ให้สิ่งดี

สุธีกานต์ / สุ-ที-กาน / นักปราชญ์ผู้เป็นที่รัก

สุพิชญา / สุ-พิด-ชะ-ยา / ฉลาดยิ่ง

สิฏฐิณิศา / สิด-ถิ-นิ-สา / เจ้าแห่งความรู้และความร่ำรวย

สิตานัน / สิ-ตา-นัน / มีใบหน้ายิ้มแย้ม เบิกบาน

สิทธา / สิด-ทา / ผู้สำเร็จแล้ว ผู้มีชื่อเสียง

สิทธินี / สิด-ทิ-นี / มีความสำเร็จ

สินธุนาถ / สิน-ทุ-นาด / มหาสมุทร

สุนีต / สุ-นีด / มีความประพฤติดี

สุนีถา / สุ-นี-ถา / ประพฤติดี ซื่อตรง

สุเนตตา / สุ-เนด-ตา / ตางาม

สุพนิต / สุ-พะ-นิด / น่ารักยิ่ง

สุพิชชา / สุ-พิด-ชา / มีความรู้ดี

สุภคญา / สุ-พะ-คะ-ยา / โชคดีมีความรู้

ห

หงสนาถ / หง-สะ-นาด / ชื่อเทพ��ิดา

หฤทัสถ์ / หะ-รึ-ทัด / ที่อยู่ในใจ

หฤษิดา / หะ-รึ-สิ-ดา / พอใจแล้ว ยินดีแล้ว

หสิดา / หะ-สิ-ดา / การหัวเราะ คันธนู กามเทพ

หัสนา / หัด-สะ-นา / ขบขัน

หิติดา / หิ-ติ-ดา / กรุณา

อ

อติกานต์ / อะ-ติ-กาน / เป็นที่รักยิ่ง

อติญา / อะ-ติ-ยา / พิเศษ

อนันตญา / อะ-นัน-ตะ-ยา / ผู้รู้ไม่สิ้นสุด

อตินุช / อะ-ติ-นุด / หญิงสาวผู้ยิ่งใหญ่  

อภิกขณา / อะ-พิก-ขะ-นา / เนืองนิจ

อภิชญา / อะ-พิด-ชะ-ยา / รู้ยิ่ง ฉลาด

อภิษฎา / อะ-พิด-สะ-ดา / เป็นที่รักยิ่ง เป็นที่ปราถนา

อภิษฐา / อะ-พิด-ถา / เป็นที่รักยิ่ง เป็นที่ปราถนา

อสมา / อะ-สะ-มา / ไม่มีใครเหมือน

เอกนุช / เอก-กะ-นุด / ลูกหนึ่ง ลูกคนเดียว

อักษิกา / อัก-สิ-กา / มีรัศมีแห่งดวงตา

อังคนา / อัง-คะ-นา / ผู้หญิง

อัจจนา / อัด-จะ-นา / นับถือ บูชา

อัญชเกศ / อัน-ชะ-เกด / ผมดำสลวย

อนงคณะ / อะ-นง-คะ-นะ / ไม่มีกิเลส

อันนา / อัน-นา / ข้าว

อนันตญา / อะ-นัน-ตะ-ยา / ผู้รู้ไม่สิ้นสุด

อัพชินี / อับ-พะ-ชิ-นี / กอบัว

อัฐภิญญา / อัด-ถะ-พิน-ยา / มีความรู้ยิ่งแปดประการ

อัมพกา / อัม-พะ-กา / แม่ นามมารดาของท้าวธตราษฎร์

อธิกัญญ์ภัค / อะ-ทิ-กัน-พัก / หญิงผู้มีโชคยิ่งใหญ่

อนงค์ศุภิษดา / อะ-นง-สุ-พิด-สะ-ดา / หญิงผู้งดงามน่าปรารถนา

อินทุนิพา / อิน-ทุ-นิ-พา / เสมือนจันทร์

อุนนดา / อุน-นะ-ดา / สูงเด่น ยิ่งใหญ่

อุษณิษา / อุ-สะ-นิ-สา / มงกุฎ

Auspicious Name   ,  Good Name  ,  Thai Name

CR    ::  https://www.the1.co.th/en/the1today/articles/5757

[tiidatk]

Start new real life , June | 1 มิ.ย เริ่มใหม่ ขอให้ทุกอย่างดีขึ้น | 새로운 실생활을 시작하다 유월 #fatpom #ดอกบัว อ่างที่บ้าน ม่วงสวยๆ 💜 (ที่ The Grand Thaisomboon) https://www.instagram.com/p/CA4KYWbH42r/?igshid=fcjj5496abbf

[ctwoskateshop]

แผ่นสเก็ตบอร์ดแบรนด์ TECHNE GOLDEN LOTUS SKATEBOARD DECK 8.25” ราคา : 2,200 บาท (มีบริการส่ง EMS) ———————————————————— Contact : ติดต่อสั่งซื้อ Phone : 089-200-8340 นุ 📱Line@ : https://lin.ee/s73jJ1j 📸IG : https://www.instagram.com/ctwoskateshop Facebook : https://m.facebook.com/C2SkateShop #แผ่นสเก็ตบอร์ด #ลายไทย #CtwoSkateShop #CtwoOnlineShop #ctwo #ขายสเก็ตบอร์ด #ThaiSkate #รับสอนสเก็ตบอร์ด #อนุบาลสเก็ตบอร์ด #ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ #ร้านสเก็ตบอร์ด #หาซื้อสเก็ตบอร์ด #SkateShopThailand #SkateShopBangkok #สินค้าพร้อมส่ง #สเก็ตบอร์ด #Skate #Skateboard #ดอกบัว (ที่ CTWO SKATE SHOP จำหน่าย อุปกรณ์สเก็ตบอร์ด PennySkateboard Rastaclat) https://www.instagram.com/p/B_T2AgBD2xc/?igshid=sk62hz3sbi24

[third3rdthird]

🥀 #ดอกบัว #ThePerception #การตระหนักรู้ (at หอศิลป์จามจุรี) https://www.instagram.com/p/B2trOrGnS7r/?igshid=1a6e2yg38xlnc

[myremainingtime]

Lotus ดอกบัวในอ่าง ดอกไม้ในสวน #ดอกบัว #ดอกไม้ #ดอกไม้ในสวน #lotus #flower #flowers (at SuperBall Home)

[myfoodsflowers]

Lotus / Water Lily / ดอกบัว