#จัดฟันคืออะไร
Explore tagged Tumblr posts
Text
การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ รวมข้อมูลการดัดฟันที่ต้องรู้
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน หรือ Orthodontics ประกอบไปด้วยรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ ‘Orthos’ ซึ่งแปลว่า แก้ไข/ให้ตรง ส่วน ‘Dontics’ แปลว่า ฟัน การจัดฟันเป็นทันตกรรมเฉพาะทางแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเน้น การวินิจฉัย การป้องกัน และการแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การสบฟัน ตำแหน่งและขนาดของกระดูกขากรรไกร
การดัดฟันมีจุดประสงค์เพื่อการบดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดฟันสึก รวมทั้งยังทำให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสในการเกิดโรคทางทันตกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่ายังช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับคุณได้
การจัดฟันมีกี่แบบ?
การจัดฟันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ ได้แก่ ติดเครื่องมือแบบใช้ยาง O-ring เช่น การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก และการติดเครื่องมือแบบไม่ใช้ยาง (Self-ligating) เช่น การจัดฟันแบบดามอน (Damon)
การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เช่น จัดฟันใส Invisalign หรือ ดี-aligner
การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันในแต่ะละชนิด จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับ lifestyle และงบประมาณของคุณ วันนี้เรามาเรียนรู้การจัดฟัน และโปรจัดฟันในแต่ละประเภทกันดีกว่า
1. จัดฟันแบบโลหะ
คลินิกจัดฟันที่ราคาถูกที่สุด โปรจัดฟันเพียบ คุณหมอมีตัวช่วยเยอะเหมาะกับเคสซับซ้อน สนุกกับการเลือกเปลี่ยนสียางโอริงได้ทุกเดือน
การจัดฟันแบบโลหะ หรือ การจัดฟันแบบเหล็ก (Metal Bracket) เป็นวิธีดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่าย แบบสบายกระเป๋า
ข้อดีอีกอย่างของจัดฟันแบบโลหะธรรมดา คือ เหมาะสำหรับเคสที่ยากหรือซับซ้อน เนื่องจากคุณหมอสามารถควบคุม และปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนฟันของคุณในยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย และยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เสริม หรือการรักษาอื่นๆ เช่น การปักหมุดจัดฟัน, การดึงยาง มาเป็นตัวช่วยได้อีกด้วย
2. จัดฟันแบบเซรามิก
เหมือนแบบโลหะ แต่ Bracket สีใส เหมาะกับเคสซับซ้อน ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา
การจัดฟันแบบเซรามิก คือ การจัดฟันที่มีวิธีการเคลื่อนตำแหน่งฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่เปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) โลหะ ให้เป็นเซรามิกใส ซึ่งสังเกตได้ยากเพราะมีสีคล้ายกับฟันธรรมชาติ ดูสวยงามกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพ หรือความต้องการที่จะคงบุคลิกภาพที่ดี ดูเป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ฟันที่เรียงตัวผิดปกติเยอะ เป็นเคสยาก และต้องอาศัยการออกแรงดึงฟันที่ซับซ้อน รวมทั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันอื่นๆ มาช่วยเคลื่อนฟันเพิ่มเติม
ข้อดีอีกอย่างนอกจากความสวยงามคืออุปกรณ์จัดฟันที่เป็นเซรามิกจะมีความเรียบ และโค้งมนกว่าแบบโลหะ ลดโอกาสไปเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลร้อนในได้
3. จัดฟันแบบดามอน
ใช้ตัวล๊อคแบบพิเศษ ไม่ต้องมีโอริง เจ็บน้อยกว่า จัดฟันเสร็จเร็วกว่า
จัดฟัน damon หรือ จัดฟันแบบดามอนคือ รูปแบบหนึ่งของการจัดฟันชนิดที่เรียกว่า ‘Self-Ligating Braces’ โดยคุณหมอจะไม่ใช้โอริง (o-ring) ในการยึดลวดเข้ากับอุปกรณ์จัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ที่ติดอยู่กับฟัน แต่จะใช้ Bracket แบบพิเศษซึ่งมีตัวล๊อคเปิดปิดได้เป็นตัวยึดลวดจัดฟัน
ข้อได้เปรียบของการจัดฟันแบบดามอนคือ ลวดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไม่ถูกยึดอยู่กับที่ด้วยโอริง แรงที่กระทำต่อฟันจะคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บน้อยกว่า เคลื่อนฟันได้นุ่มนวล รักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า โอกาสที่เศษอาหารติดก็จะลดลง ทำให้จัดฟันเสร็จไวกว่า และไม่ต้องเสียเวลามาพบคุณหมอบ่อยๆ
4. จัดฟันแบบใส
มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ดูเป็นผู้ใหญ่ คงลุค��ืออาชีพอยู่ตลอด สามารถถอดได้ แปรงฟันง่าย รับประทานอาหารสะดวก ไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีโปรจัดฟันใส ราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อน
หากคุณไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ และการมี Bracket ติดอยู่ที่ฟันนั้นเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน หรือคุณต้องการลุคที่ดูเป๊ะ เป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา การจัดฟันแบบใส หรือดัดฟันใส เป็นคำตอบของคุณ การที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันด้วย
การจัดฟันแบบใสในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ได้แก่
Invisalign – เป็นยี่ห้อจัดฟันใสจากอเมริกา มีจำนวนคนไข้ถึง 12 ล้านคน รวมทั้งเปิดให้บริการมายาวนานถึง 25 ปี Invisalign ถือเป็น Gold Standard ในการจัดฟันใส ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง invisalign ราคาเริ่มต้นที่ที่ 69,000 บ. ซึ่งจำกัดระยะเวลารักษาที่ 6 เดือน เคลื่อนฟันได้ถึงฟันกรามน้อยเท่านั้น และราคาจะแพงขึ้นตามความยากของเคสและเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันใส
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันแบบใส invisalign เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
จัดฟันใส d-aligner – เป็นแบรนด์จัดฟันใสแบบใหม่ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ใช้เทคโนโลยีจัดฟัน และวางแผนจากอเมริกาเช่นกัน แต่คลินิกสามารถใช้เทคโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ผลิตชิ้นงานขึ้นมาได้เอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้คุณเข้าถึงการจัดฟันใสได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณหมอประจำตัวคอยดูแล และให้คำปรึกษากับคุณจนจัดฟันเสร็จ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความ จัดฟันใส d-aligner เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
จัดฟันใสยี่ห้ออื่นๆ ปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Zenyum, BeforeDent, Clear Correct ฯลฯ
สมัยก่อนการจะจัดฟันใสนั้นมีค่าใช้จ่ายแพงมาก บางเคสต้องควักกระเป๋าจ่ายเป็นแสนบาท แต่เพราะ เราอยากรู้ว่าการจัดฟันมีข้อดีจำนวนมาก เราจึงอยากให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการจัดฟันใสในราคาที่สมเหตุสมผล Smile Seasons ได้นำเทคโนโลยี Digital Dentistry ระดับโลกมาใช้ เราภูมิใจที่จะขอแนะนำ แบรนด์จัดฟันใส ‘ดี-aligner’ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่สามารถผลิตจัดฟันใสขึ้นมาได้เองใน คลินิกทันตกรรม
ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน ?
การจัดฟันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัว และการสบฟันที่ผิดปกติแบบใดได้บ้าง
ฟันซ้อน ฟันเอียง หรือ บิด – ปัญหาเหล่านี้เป็นประเด็นหลักที่นำคนไข้เข้ามารับการรักษา หากฟันซ้อนกันมากๆ คุณหมออาจจำเป็นต้อง ถอนฟัน บางซี่ออก มีการตะไบฟัน หรือขยายขากรรไกรเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟัน
ฟันห่าง – ปัญหาฟันห่าง สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
ฟันเบี้ยว หรือ ฟันกัดเบี้ยว – เป็นภาวะที่กึ่งกลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สามารถแก้ฟันเบี้ยวได้ด้วยการจัดฟันเช่นกัน
Deep bite หรือ ฟันสบลึก เป็นภาวะที่ฟันบนสบลงมาฟันล่างลึกเกินไป
Cross bite หรือ ฟันสบคร่อม เป็นภาวะที่ฟันล่างคร่อมฟันบน
Open bite หรือ ฟันสบเปิด เป็นภาวะที่ฟันบนและฟันล่างไม่สามารถสบสัมผัสกันได้ หรือที่เรียกกันว่า ฟันไม่สบกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการเรียงตัวของฟัน
สงสัยกันไหมว่าทำไมคนเดี๋ยวนี้ถึงมีฟันเรียงตัวผิดปกติกันเยอะ อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงกันแน่
วิวัฒนาการของมนุษย์ – อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว จากการศึกษาโครงกระดูกของมนุษย์ เราจะพบว่าบรรพบุรุษของเรานั้นมีฟันที่เรียงตัวดี และแทบไม่มีฟันคุดอยู่เลย ที่เป็นแบบนั้นเพราะขากรรไกรของมนุษย์สมัยก่อนนั้นใหญ่กว่าในปัจจุบัน การปฎิวัติการเกษตร และอุตสาหกรรมทำให้เราปรุงอาหารได้ดีขึ้น มีอุปกรณ์ในการหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กลง ทำให้จำนวนครั้งในการเคี้ยวน้อยลงตามไปด้วย ขนาดของขากรรไกรในมนุษย์จึงหดเล็กลงเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่ของฟันน้อยลง แต่จำนวนฟันเท่าเดิม เกิดเป็นการเรียงตัวที่ผิดปกติของฟัน จนต้องลงเอยที่การจัดฟัน
ฟันล้ม – หากคุณเคยถอนฟันมาก่อนและไม่ได้บูรณะทดแทนฟันด้วย รากฟันเทียม สะพานฟัน หรือฟันปลอม ฟันซี่ข้างเคียงก็จะเคลื่อน และล้มเข้ามาในช่องว่างที่เกิดขึ้น
โดนฟันคุดดัน – สาเหตุหนึ่งที่คุณหมอแนะนำให้ถอนฟันคุดออกเพราะ ฟันคุดสามารถดันฟันซี่อื่นให้เอียง หรือขยับมาซ้อนกันได้
พฤติกรรมบางอย่าง – การหย่าขวดนมช้า การดูดนิ้ว ภาวะลิ้นดุนฟัน อาจทำให้การเรียงตัวของฟันผิดปกติ
ควรจัดฟันดีไหม จัดฟันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าการจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาด้านความสวยงามเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ที่การมีฟันเรียงสวยนั้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพของคุณในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับคุณหมอแล้ว การจัดฟันยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น
ช่วยลดปัญหาทันตกรรมอย่างอื่น เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือ ฟันผุ – ทั้งนี้เนื่องจากฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบนั้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และทั่วถึงกว่า การจัดฟันจึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้
ช่วยในการย่อยอาหาร – การสบฟันที่ดีขึ้นสามารถทำให้��ุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดกว่า ลดภาระของระบบทางเดินอาหารลง บอกลาอาการท้องอืด ปวดจุกท้อง และลดโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อน
ลดโอกาสการละลายของกระดูกขากรรไกร – กระดูกขากรรไกรที่ปกติจะได้รับแรงจากฟันที่สบกันเวลาเคี้ยวอาหาร แรงสบฟันจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกได้
ช่วยให้พูดชัดขึ้นได้ – พยัญชนะเช่น ฟ ส ซ หรือตัว S ต้องใช้การออกเสียงผ่านฟัน ซึ่งผู้ที่ฟันเรียงตัวผิดปกติอาจออกเสียงได้ไม่ชัดเจน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน
ช่วยลดความอูมของริมฝีปาก – จะยิ่งเห็นชัดเจนในเคสที่มีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน
เพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ – คนไข้ที่จัดฟันเสร็จแล้วมักจะมีความมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เป็นเสน่ห์และความสดใสที่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต
ข้อดี และ ข้อจำกัดของการจัดฟัน
ข้อดีในการจัดฟัน
การจัดฟันมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่างดังนี้
สุขภาพช่องปากดีขึ้น – ฟันที่เรียงสวย ตรง และเป็นระเบียบจะทำให้คุณสามารถรักษาสุขอนามัยของช่องปากได้ดีมากขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและฟันผุ
การเคี้ยวและการพูดดีขึ้น – ฟันที่เรียงไม่ตรงอาจมีปัญหาในการสบฟันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด หรือมีช่องว่างทำให้ออกเสียงพูดได้ไม่ชัดเจน ซึ่งการจัดฟันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
ยิ้มสวยมากขึ้น – แน่นอนว่าการจัดฟันสามารถทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง
ป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต – การจัดฟันสามารถแก้ไขฟันที่เก เรียงตัวไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ปวดกราม ปวดหัวเรื้อรัง หรือ ฟันสึก
สุขภาพโดยรวมดีขึ้น – สุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสุขภาพโดยรวมของคุณ ดังนั้น การปรับปรุงสุขภาพฟันด้วยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นด้วย
ข้อจำกัดในการจัดฟัน
แม้ว่าการจัดฟันจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
ระยะเวลาในการรักษา – การจัดฟันมักใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะหลายปีจนกว่าจะเสร็จ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน คุณต้องปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอ และมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนการรักษา
ความเจ็บปวด – คนไข้มักรู้สึกปวดในระหว่างการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 วันแรกของการปรับเครื่องมือจัดฟัน (ในกรณีจัดฟันแบบติดแน่น) หรือการเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันใส
ข้อจำกัดด้านอาหาร – เมื่อจัดฟัน คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หรือปรับเปลี่ยนประเภทอาหารในระหว่างจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็ก หรืออุปกรณ์จัดฟันเสียหาย ในกรณีจัดฟันแบบใส คุณสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ลดข้อจำกัดของ��ัวเลือกในการรับประทานอาหารลง
ค่าใช้จ่าย – การจัดฟันแต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกัน คุณควรพิจารณาตัวเลือก และงบประมาณที่เหมาะสมกับคุณ
การเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม – หากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หลังจัดฟันเสร็จ ฟันของคุณมีความเสี่ยงในการเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิม
สุขอนามัยในช่องปาก – การรักษาความสะอาดในช่องปากเป็นเรื่องท้าทายขึ้น เมื่อมีเหล็กดัดฟัน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในช่องปาก คุณต้องหมั่นแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
ควรเลือกเทคนิคการจัดฟันแบบไหนดี ?
การจัดฟันปัจจุบันมีหลากหลายเทคนิคโดยแบ่งเป็นการจัดฟันแบบติดแน่น เช่น การจัดฟันแบบโลหะแบบทั่วไป ซึ่งโดดเด่นที่ราคาถูก สามารถจัดได้ในเคสยากซับซ้อน และสามารถเปลี่ยนสีโอริงได้ หรืออยากเรียบร้อยขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นแบบเซรามิกซึ่งใช้หลักการเดียวกัน แต่อุปกรณ์จัดฟันจะสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากคุณต้องการจัดฟันให้เสร็จเร็ว เจ็บน้อยลง และไม่อยากถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน คุณอาจเขยิบไปจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบใสอย่างเช่น ดี-aligner หรือ invisalign เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่รบกวนบุคลิกภาพ ยังสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ และถอดออกตอนแปรงฟันกับรับประทานอาหารได้ ทำให้สุขภาพช่องปากดีกว่า รวมทั้งลดข้อจำกัดในการทานอาหาร นอกจากนี้ยังไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ อีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหน การจัดฟันราคาเท่าไหร่ อยากได้ข้อมูลการจัดฟัน เราแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ : จัดฟันมีกี่แบบ ? ควรเลือกอย่างไร บอกข้อดีข้อเสียแบบหมดเปลือก!
อยากจัดฟันครั้งแรกต้องเริ่มต้นอย่างไร
เมื่อเรารู้จักการจัดฟันชนิดต่างๆ แล้ว สำหรับคนที่จัดฟันครั้งแรก คุณหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ในคลินิก เพื่อตรวจประเมินสภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด สิ่งที่คุณจะใช้รับจากการปรึกษาจัดฟันครั้งแรกกับคุณหมอที่ Smile Seasons คือ
สุขภาพช่องปากของคุณ – มีฟันผุหรือไม่ มีเหงือกอักเสบหรือเปล่า มีฟันคุดที่ควรต้องจัดการก่อนเริ่มการจัดฟันไหม
เอ็กซเรย์ภายนอกและภายในช่องปาก – เพื่อช่วยในการวางแผนการรักษา
เลือกชนิดของการจัดฟัน – คุณอาจจะมีตัวเลือกการจัดฟันอยู่ในใจ แต่การมาพบคุณหมอ คุณก็จะได้ข้อมูลทางคลินิกเพิ่มเติม และสามารถปรึกษากับคุณหมอเพื่อเลือกชนิดของการจัดฟันที่เหมาะสมสำหรับคุณ
แผนการรักษาคร่าว ๆ – คุณอาจสามารถจัดฟันได้เลย แต่บางคนอาจจะต้องมีการถอนฟัน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการเรียงฟัน ในบางครั้งอาจต้องใช้เครื่องมือจัดฟันพิเศษ เช่น มินิสกรูหรือหมุดจัดฟัน (Mini screw) เป็นต้น
ราคาจัดฟันครั้งแรก – คุณหมอและเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก สามารถประเมินราคาค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ช่องปาก จัดฟัน ตามแผนการรักษาให้คุณได้
การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ในบางครั้งความ��ิดปกติของฟันจะเกี่ยวข้องกับ��ำแหน่งของขากรรไกรที่ผิดปกติด้วย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ถึงจะสามารถแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติได้
การผ่าตัดสามารถทำแค่ขากรรไกรล่างอย่างเดียว หรือทำทั้งบนและล่าง ขึ้นอยู่กับปัญหาทางคลินิกของคุณ โดยส่วนใหญ่คุณจะต้องเข้ารับการจัดฟันไปสักระยะหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยทำการผ่าตัดซึ่งต้องทำในโรงพยาบาล เมื่อการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย คุณจะต้องจัดฟันต่ออีกหลายเดือนถึงจะเสร็จสิ้นการรักษา หากคุณเคยได้รับการวินิจฉัยว่าควรต้องจัดฟันร่วมกับการผ่��ตัด คุณสามารถติดต่อเราเพื่อทำนัดพบกับคุณหมอจัดฟันเฉพาะทางจากเราได้
ทำความรู้จักกับเครื่องมือจัดฟัน
การจัดฟันเป็นการรักษาที่ใช้เวลารักษานานจึงเป็นการดีหากคุณรู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์จัดฟันแบบติดแน่นที่จะอยู่กับคุณไปเป็นเวลาหลายเดือน หรือบางกรณีก็หลายปี
ส่วนประกอบหลักของเครื่องมือจัดฟัน
Bracket – Bracket เป็นส่วนที่ติดแน่นอยู่บนผิวฟันด้วยกาวทางทันตกรรมแบบพิเศษ ทำหน้าที่ส่งผ่านแรงจากลวดจัดฟันมาที่ตัวฟัน Bracket นั้นมีทั้งที่ลักษณะเป็นโลหะ ซึ่งมักทำจาก Stainless Steel หรือมีลักษณะเป็นสีใสดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นเซรามิกที่ทำจาก Sapphire
ลวดจัดฟัน (Archwire) – ลวดจัดฟันเป็นส่วนสำคัญในการออกแรงเคลื่อนฟัน มีหลายขนาด หลายเบอร์ รวมถึงทำจากวัสดุหลายชนิด ทันตแพทย์จะเป็นคนดัดลวดจัดฟันรวมถึงเลือกชนิดและขนาดที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันของคุณให้เป็นไปตามแผนการรักษา
ตัวรัด (Ligature) – เป็นส่วนที่ยึด Bracket กับลวดจัดฟันเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจใช้ลวดขนาดเล็กๆ หรือใช้ยางโอริงที่มีสีสันสวยงามแบบที่เห็นกันทั่วไปก็ได้ การจัดฟันชนิดดามอนซึ่งเป็นระบบ Self ligating system สามารถล๊อคลวดจัดฟันเข้ากับ Bracket แบบพิเศษได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้ตัวรัดเพิ่มเติม
อุปกรณ์เสริมของเครื่องมือจัดฟัน
บางครั้งแค่อุปกรณ์หลักก็ไม่เพียงพอที่จะออกแรงเคลื่อนฟันไปตามแผนการรักษาได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าคุณหมอมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบซึ่งถือเป็นข้อดีหนึ่งของการจัดฟันแบบโลหะ ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมมีดังนี้
ยางดึงฟัน (Elastic) – มักใช้ดึงฟันไปแนวหน้าหลัง หรือแนวดึ่งเพื่อแก้ไขการสบฟัน โดยคุณหมอจะแนะนำวิธีการคล้องยางดึงฟันให้กับคุณ ซึ่งโดยปกติจะต้องเปลี่ยนยางทุกๆ 1-2 วัน
เชนดึงฟัน (Power Chain) – ไว้ดึงฟันในแนวหน้าหลังเช่นกัน มีหลายสี คุณหมอเป็นคนใส่ให้ และห้ามถอดออกเอง คนไข้จัดฟันไม่จำเป็นต้องใช้เชนดึงฟันทุกคน ฉะนั้นหากคุณหมอไม่ใส่เชนให้ก็ไม่ต้องตกใจไป
สปริง (Spring) – เอาไว้ดึง หรือดันฟันไปยังตำแหน่งต่างๆ โดยสปริงจะออกแรงอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับเชนดึงฟันที่แรงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
หมุดจัดฟัน (Miniscew) – ใช้เป็นหลักยึดที่แ��็งแรง เพื่อนำอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มายึดเพื่อเคลื่อนฟันในเคสที่ซับซ้อน
ตัวหนุนฟัน (Raise Bite หรือ Bite turbo) – เป็นวัสดุสีฟ้า หรือสีเหมือนฟัน เพื่อยกฟันแยกจากกัน เพื่อแก้ไขการสบฟันในแนวดิ่ง ระหว่างนี้คุณอาจจะเคี้ยวอาหารยากขึ้นนิดหน่อย
Orthodontics , จัดฟันคืออะไร , จัดฟันมีกี่แบบ , การดัดฟัน , ข้อดีของการดัดฟัน , ข้อเสียของการดัดฟัน
CR :: https://www.smileseasons.com/orthodontics/
3 notes
·
View notes
Text
การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ข้อดี/เสีย
การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ข้อดี/เสีย
การจัดฟันคืออะไร?
การจัดฟัน (Orthodontic treatment) เป็นการเคลี่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความสวยงามและการทำหน้าที่
โดยอาศัยเครื่องมือบางชนิด ซึ่งมีทั้งแบบถอดได้และแบบที่ยึดติดอยู่กับตัวฟันแบบที่อยู่ในช่องปากและแบบที่อยู่นอกช่องปากแบบที่มีสีจากโลหะและแบบที่มีสีเดียวกับฟันธรรมชาติ
การจัดฟันยังรวมไปถึงการแก้ไขลักษณะนิสัยที่ผิดปกติในการบดเคี้ยว การเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกรอีกด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านความสวยงาม และการทำหน้าที่
ทำไมต้องจัดฟัน?
การจัดฟันเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันเหยินได้ และปัจจุบันก็เป็นที่นิยมทำกันมาก
การมีฟันเก ฟันห่าง ฟันที่เรียงซ้อนกัน หรือฟันที่สบกันไม่พอดี อาจจะส่งผลให้มีปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรที่ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร ทำให้ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารลดลง และยังเป็นอุปสรร��ต่อการทำความสะอาด ส่งผลต่อสุขภาพของเหงือกและฟันตามมา ซึ่งสาเหตุของฟันที่สบกันไม่พอดีนี้อาจมาจากนิสัยบางอย่าง เช่น การชอบดูดนิ้วตอนเด็ก การถอนฟันแท้ในช่วงก่อนโตเป็นผู้ใหญ่ หรือเกิดจากพันธุกรรม
ดังนั้น การจัดฟันจึงมีผลดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะเมื่อฟันเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ การทำความสะอาดจะง่ายขึ้น ช่วยป้อง��ันการเกิดฟันผุ และโรคเหงือก
นอกจากนี้ ฟันที่สบกันสนิทจะทำให้เคี้ยวอาหารได้อย่างละเอียด ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการพูดที่เกิดจากการสบของฟัน
การจัดฟันทำโดยการติดเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งจะทำให้เกิดแรงกดลงไปที่ฟัน ทำให้ฟันเกิดการเคลื่อนย้ายไปในทิศทางที่ต้องการและค่อยๆ ขยับเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการสบกันระหว่างฟันบนกับฟันล่างด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและสุขภาพของช่องปากและฟัน
นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยเพิ่มความสวยงามของฟัน ทำให้พูดหรือยิ้มได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ประเภทของการจัดฟัน
ประเภทของการจัดฟัน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
การจัดฟันแบบใช้เหล็กดัด
กับการจัดฟันโดยไม่ใช้เหล็กดัด แต่จะใช้เป็นพลาสติกใสๆ ครอบไปที่ตัวฟันแทน
โดยที่เราจะเปลี่ยนชิ้นพลาสติกนี้ไปเรื่อยๆ ฟันก็จะขยับไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ต้องมีเหล็กดัดติดอยู่ที่ฟันของเรา การจัดฟันแบบนี้เรียกว่า การจัดฟันแบบใส Invisalign
ข้อดี
การบดเคี้ยวอาหาร การจัดฟันจะทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น และย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากการบดเคี้ยวเป็นขั้นแรกในการย่อยอาหาร
ทำให้ปัญหาต่างๆ ทางทันตกรรมลดลง
ฟันซ้อนเกจะทำให้เราทำความสะอาดหรือแปรงฟันได้ยาก และไม่ทั่วถึง ส่งผลให้มีคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์รวมทั้งหินปูนมาเกาะจับที่ตัวฟันอยู่เยอะ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้
ฟันซ้อนเกจะทำให้เมื่อเราใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารประจำวัน จะเกิดการสึกของฟันในตำแหน่งที่ไม่ควรจะเกิด ทำให้การสบฟันผิดจากตำแหน่งปกติที่ควรจะเป็น จึงส่งผลให้ยิ่งนานไป ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อตัวฟัน เหงือกและข้อต่อขากรรไกร
ความสวยงาม การจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงาม เป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจแก่ตัวเองอีกด้วย
ข้อเสีย
1. ฟันผุ เหงือกอักเสบ เนื่องจากการที่เรามีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปาก จะทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ยาก ส่งผลให้เกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย ผู้ที่จัดฟันจึงควรแปรงฟันอย่างสะอาดทั่วถึงหลังจากมื้ออาหารทุกมื้อ
2. อาการแพ้สาร ที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องมือจัดฟัน บางคนแพ้สารนิเกิลที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องมือจัดฟัน แต่พบได้น้อยมาก
3. อาการเจ็บ พบได้เกือบทุกคนที่จัดฟัน อาการเจ็บนี้มักเกิดจากการเคลื่อนตัวของฟัน หรือเกิดจากเครื่องมือจัดฟันไปทิ่มกับเนื้อเยื่อภายในช่องปาก อาการเจ็บจะเป็นในบางช่วงของการจัดฟันเท่านั้น
4. อาการปวดข้อต่อขากรรไกร อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการจัดฟัน เนื่องจากฟันเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมต่อการบดเคี้ยว
5. ฟันตายหรือรากฟันมีการละลายตัว พบได้ไม่บ่อยนักในผู้ที่มีการจัดฟัน อย่างไรก็ตามเราพบว่าในระหว่างการจัดฟันนั้น ฟันที่ตายไปแล้ว อาจจะย้อนกลับมามีชีวิตดังเดิมได้ และในคนปกติที่ไม่ได้จัดฟันรากฟันก็จะมีการละลายตัวได้เองอยู่แล้ว
เมื่อไหร่จึงเริ่มจัดได้
การจัดฟันสามารถกระทำได้ทั้งในเด็กที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบและในผู้ใหญ่ที่ฟันแท้ขึ้นครบทุกซี่แล้ว ทั้งนี้อาจจะมีจุดมุ่งหมายและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไปบ้าง
การจัดฟันในเด็กอาจจะมีผลทำให้รูปหน้าและรูปร่างของกระดูกขากรรไกรเปลี่ยนแปลงไปได้
ในขณะที่ในผู้ใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะการเรียงตัวของฟันเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของใบหน้าได้มากนักและมีข้อจำกัดต่างๆมากกว่าในเด็ก
ในบางครั้งการจัดฟันเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถแก้ไขการสบฟันและรูปร่างใบหน้าให้สมบูรณ์ได้ จึงต้องมีการถอนฟันออกไปบางซี่ หรือในรายที่มีความผิดปกติรุนแรง อาจจะต้องทำการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดกระดูกขากรรไกร (Orthognathic surgery)
ขั้นตอนทั่วไปในการจัดฟัน
X-Ray โครงสร้างฟัน
พิมพ์ปาก แยกฟัน
ติดเครื่องมือในสัปดาห์ต่อมา จากนั้นจะนัดพบทันตแพทย์จัดฟัน ทุก 3 - 4 สัปดาห์ ต่อครั้ง จนกระทั่งสภาพฟัน เป็นที่น่าพอใจ ใช้เวลาประมาณ ปีครึ่ง - 2 ปี จึงถอดเครื่องมือ
ใส่ Retainer 9 ต่อจนฟันคงสภาพในตำแหน่งที่จัดอีก 1-2 ปี ซึ่งจะนัดตรวจเป็นระยะ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี
ระยะเวลาที่ต้องใช้
ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันนั้น จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย โดยเฉลี่ยการจัดฟันแบบติดแน่นนั้นใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2.5 ปี แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันแตกต่างกันไป ดังนี้
ผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า มักจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันมากกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า
การจัดฟันที่มีการถอนฟันร่วมด้วย มักจะใช้เวลาในการจัดฟันมากกว่าการจัดฟันที่ไม่มีการถอนฟันร่วมด้วย
การจัดฟันที่มีการผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย มักจะใช้เวลามากกว่าการจัดฟันที่ไม่มีการผ่าตัดขากรรไกร
การผิดนัดบ่อยๆ ย่อมทำให้เวลาในการจัดฟันนานขึ้น
การไม่ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่ง เช่น การใส่ยางหรือการใส่���ครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ ย่อมทำให้เวลาในการจัดฟันมากขึ้น
การรับประทานอาหารโดยการไม่ระมัดระวัง จะทำให้เหล็ก ยางหรือลวดจัดฟันหลุด หรือเสียหาย ย่อมทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันมากขึ้น
ความสำเร็จในการจัดฟัน
การใส่เครื่องมือบางชนิดในช่องปากด้วยตัวเองจนถึงการใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ถ้าปราศจากการร่วมมือที่ดีจากผู้ป่วยแล้ว การจัดฟันอาจจะใช้เวลานานกว่าปกติและไม่ประสบผลสำเร็จ หรือผลที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ
จะต้องอาศัยความร่วมมืออย่างสูงจากผู้ป่วยตั้งแต่การมาให้ตรงเวลานัดโดยทั่วไป
จะต้องมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 3-4 สัปดาห์เพื่อทำการปรับเครื่องมือ
การรักษาความสะอาดในช่องปาก
ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว
แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และรักษาความสะอาดฟันและช่องปากให้ดี
ปฏิบัติตัวตามที่ทันตแพทย์สั่งโดยเคร่งครัด เช่น การใส่ยาง การใส่ retainer การมาตามนัดที่กำหนด
งดอาหารบางประเภท
อาหารที่แข็งมาก เช่น อ้อย น้ำแข็ง
อาหารเหนียว เช่น หมากฝรั่ง ตังเม เนื้อที่เหนียวมากๆ
อาหารหวานจัด เช่น ลูกอม ช็อคโกแลต
Orthodontics , จัดฟันคืออะไร , จัดฟันมีกี่แบบ , การดัดฟัน , ข้อดีของการดัดฟัน , ข้อเสียของการดัดฟัน
CR :: https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/376
3 notes
·
View notes
Text
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นสาขาหนึ่งทางทันตกรรมเพื่อความงาม (cosmetic dentistry) ในการวิเคราะห์ วินิจฉัยและวางแผนป้องกันรักษาความผิดปกติของการเรียงฟัน การสบฟัน รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับขากรรไกรที่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับใบหน้า เป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากฟันเรียงตัวผิดปกติ และหลีกเลี่ยงการเกิดรอยสึกของฟันจากการเรียงฟันหรือการสบฟันที่ไม่เหมาะสม
อีกหนึ่งข้อสำคัญสำคัญไม่แพ้กัน การจัดฟันยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม เสริมบุคลิกภาพ จากการที่มีฟันเรียงกันสวยงาม ซึ่งการจัดฟันจำเป็นต้องทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ในคลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง หรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้นถึงจะดูแลรักษาฟันของเราให้มีความสวยงามและปลอดภัย
จัดฟันมีกี่แบบ?
รูปแบบชนิดของการจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ : เป็นวิธีจัดฟันที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เครื่องมือทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ
การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ : เป็นการจัดฟันแบบ��อดได้ ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน ผู้มารับบริการ หลายคนอาจคุ้นกันในชื่อ Invisalign
โดยทั้ง 2 ประเภทนี้ มีชนิดของเครื่องมือจัดฟันให้เลือกได้เหมาะสมกับตามความต้องการ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แบบดังนี้
จัดฟันแบบโลหะ Metal
เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดครับ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นจะเลือกการจัดฟันวิธีนี้ ซึ่งจะเป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน ใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน ทำให้การจัดฟันติดแน่น และต้องมีการปรับเครื่องมือทุก ๆ เดือน
ข้อดี : การจัดวิธีนี้จะเป็นการติดเครื่องมือที่ทำด้วยวัสดุที่เป็นโลหะ ผิวเรียบเป็นมันวาว ทำให้คราบอาหารและ จุลินทรีย์ติดได้ยากกว่าวัสดุชนิดอื่นครับ และยังเป็นการติดด้านนอกของฟัน จึงทำให้การทำความสะอาดได้ง่าย สะดวกขึ้น ราคาไม่แพง ถือว่าเป็น การจัดฟัน ราคาค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าตัวอื่น ระยะเวลาในการจัดฟัน 2 ปีขึ้นไป
เหมาะกับใคร: การจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่มีงบประมาณจัดฟันจำกัด และผู้ที่มีเวลาสามารถมาพบทันตแพทย์ได้บ่อย ๆ
จัดฟันแบบเซรามิก Ceramic
จัดฟัน เซรามิก (Ceramic) เป็นการจัดฟันโดยใช้วัดสุแบบเซรามิกใส ที่ยึดติดกับผิวฟันด้านหน้า แล้วใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางแบบใสรัดเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน เพื่อช่วยควบคุมทิศทางการเคลื่อนตัวของฟัน มีสีใกล้เคียงกับสีฟัน ทำให้ฟันเรียงตัวสวย
ข้อดี : เครื่องมือจัดฟันประเภทนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้สีและความใสใกล้เคียงสีฟันมากที่สุดครับ ดังนั้นจึงมองไม่ค่อยเห็นว่าคนไข้กำลังจัดฟันอยู่
เหมาะกับใคร : การจัดฟันแบบจัดฟันเซรามิก เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่อยากให้คนสังเกตชัดเจน เนื่องจากมีหน้าที่และบุคลิก ในการทำงาน คนไข้ต้องมาปรับเครื่องมือจัดฟันทุก ๆ 1 เดือน ใช้ระยะเวลาการจัดฟัน 2 ปีขึ้นไป
จัดฟันแบบใส Invisaliagn
จัดฟันแบบใส หรือ เครื่องมือ จัดฟัน Invisalign เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ เน้นความสวยงามเป็นหลักครับ เพราะใช้เครื่องมือโปร่งใสช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้จาก USA ข้อดี : การจัดฟันประเภทนี้จะมองไม่เห็นเครื่องมือ สะดวก ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น สามารถถอดใส่ง่าย รับประทานอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
เหมาะกับใคร : การจัดฟันประเภทนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มดารา นักธุรกิจที่ต้องใช้หน้าตา และความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถจัดฟันได้โดยไม่ต้องใส่เหล็กดัดฟัน สามารถพูด หรือออกเสียงได้อย่างชัดเจน โดยระยะเวลา
การจัดฟันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เดือน-2 ปีขึ้นไป สามารถแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
Invisalign i7
Invisalign lite
Invisalign moderate
Invisalign full
จัดฟันแบบดามอน Damon
จัดฟันแบบดามอน เป็นการจัดฟันด้วย Bracket ชนิดดามอนซิสเต็ม เป็นการจัดแบบใหม่ไม่ต้องใช้ยางรัด มีประสิทธิภาพสูง มีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ยึดกับลวดอย่างหลวม ๆ เพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัว
ข้อดี : การจัดฟันดา��อน (Damon) ไม่ต้องใช้ยาง ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องยางขาด หรือยางเสื่อมสภาพและแทบไม่ต้องถอนฟันออกสักซี่ เพราะใช้เทคโนโลยีแบบ self-ligating ลักษณะจะเป็นบานพับเปิดปิด ลดแรงเสียดทาน ส่งผลให้ฟันเคลื่อนที่ไว ซึ่งได้รับการรับรองจากแพทย์ว่าช่วยลดระยะเวลาในการจัดฟันน้อยลง เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ และขณะเดียวกันตอนปรับเครื่องมือยังเจ็บน้อยกว่า เนื่องจากไม่ได้ใช้ยางมัด จัดฟันดามอน มี 2 รุ่นคือ
Damon Q ที่เป็นโลหะ
Damon clear เป็นแบบใส
เหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะสามารถดูเเลความสะอาดฟันได้ง่าย ลดโอกาสการเกิดฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบได้
การจัดฟันครั้งแรก เริ่มต้นอย่างไร
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการจัดฟัน สำหรับคนที่เข้ารับการจัดฟันครั้งแรก หมอแนะนำให้เลือกทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันโดยเฉพาะได้รับการรับรองจากสมาคมจัดฟันแห่งประเทศไทยครับ เพื่อให้ทันตแพทย์ช่วยพิจารณาวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล อาทิ ความจำเป็นจะต้องถอนฟันหรือไม่
ถ้าจำเป็นต้องถอน จะต้องถอนกี่ซี่ หรือบางคนไม่จำเป็นต้องถอน สามารถใช้เครื่องมืออื่น เช่น มินิสกรู (miniscrew) ในการช่วยรักษาจัดฟันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องประเมินจากโครงสร้างฟันและใบหน้าของแต่ละคนครับ โดยทันตแพทย์ของเราจบจัดฟันจากมหิดลครับ (เฉพาะทางจัดฟันในระบบ) ได้รับการรับรองว่าเป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดฟันจากสมาคมจัดฟันแห่งประเทศไทย
ดังนั้นคนไข้จึงสามารถเชื่อมั่นและเชื่อใจในตัวหมอของเราได้ครับนอกจากนี้ยังมีวิธีการจัดฟันให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบก็มีรายละเอียดข้อดีและราคาแตกต่างกันไป ดังนั้นคนไข้ที่ต้องการจัดฟันควรศึกษาให้ดีก่อนจัดฟัน
ปัญหาการเรียงตัวของฟัน
หลาย ๆ คนอาจมีข้อสงสัยว่าทำไมการเรียงตัวของฟันของแต่ละคนถึงแตกต่างกันหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง สาเหตุของความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงแบ่งออกได้ 3 ปัจจัยคือ
กรรมพันธุ์ : การเรียงตัวของฟันแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์เป็นตัวกำหนด ซึ่งมีผลต่อขนาด รูปร่างและความสัมพันธ์ระหว่างขากรรไกร ขนาดของฟันใหญ่หรือเล็กในแต่ละบุคคล ฟันยื่น ฟันซ้อนเก ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้มากที่สุดครับ
จำนวนซี่ฟันที่หายไปหรือเกิน : จำนวนฟันที่มี หากขาดหายไป ทั้งจากการถอนฟันหรืออุบัติเหตุ ก็อาจทำให้ฟันที่เหลืออยู่ขาดสมดุล เกิดล้มหรือเอียงได้ครับ อีกกรณีคือมีฟันเกิน จนเกิดการเบียดอยู่ในช่องปากทำให้เรียงตัวไม่สวยงาม
นิสัยบางอย่างที่มีผลต่อฟัน : เช่น การดูดนิ้ว กัดเล็บ การกลืนโดยเอาลิ้นดุนฟัน การหายใจทางปาก อาจทำให้ ฟันห่าง ฟันยื่น หรือการถอนฟันน้ำนมก่อนเวลาที่สมควร ก็มีผลต่อการเรียงตัวของฟัน
จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1. การจัดฟันช่วยให้การเรียงฟันเป็นระเบียบสวยงามมากยิ่งขึ้นครับ ใครที่สงสัยว่าปัญหาของตนเองแก้ไขด้วยการจัดฟันดีไหม ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยประเมินปัญหา เช่น
มีปัญหา ฟันเก (Over Crowding)
ภาวะสบลึก (Deep overbite)
ภาวะสบเปิดหรือการสบฟันหน้าไม่สนิท (Open bite)
ขากรรไกรบนยื่น (Overjet)
ขากรรไกรล่างยื่น(Under-bite)
การสบฟันแบบไขว้ (Cross-bite Occlusion)
การจัดฟันสามารถปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ และช่วยรักษาสุขภาพช่องปากดีขึ้น ลดปัญหาฟันผุได้ เพราะฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบนี้ เป็นที่มาของเศษอาหาร ที่ไปติดอยู่ตามซอกหลืบของฟัน สาเหตุหลักของฟันผุครับ
2. ช่วยให้การดูแลรักษาฟันเป็นเรื่องง่ายขึ้น เมื่อฟันเรียงตัวดี อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นครับ ช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟันในอนาคต ทำให้ฟันอยู่กับเราได้ยาวนาน
3. ช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่ การจัดฟันทำให้ใบหน้าเข้าที่มากขึ้น แก้ปัญหาการฟันสบ ฟันล่างยื่น หรือฟันเหยินได้ ส่งผลให้เจ้าของใบหน้ามีความมั่นใจ กล้าพูด กล้ายิ้มมากขึ้น
ขั้นตอนการจัดฟัน
ขั้นตอนการจัดฟันเบื้องต้นมีวิธีการคล้าย ๆ กันครับ แต่อาจมีข้อ���ตกต่างในแต่ละประเภท คือ การจัดฟันด้วยเครื่องมือเเบบติดเเน่น และการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ แต่การเตรียมตัวก่อนจัดฟันคล้ายกัน แบ่งเป็น 8 ขั้นตอนดังนี้
ปรึกษาทันตแพทย์ เมื่อตัดสินใจจัดฟันครั้งแรก ต้องปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันโดยตรงครับ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยปัญหาของแต่บุคคล ตรวจรูปหน้า โครงสร้างกระดูกขากรรไกรและฟัน พร้อมทั้งซักประวัติ เช่น มีโรคประจำ ประวัติการแพ้ยา หรือยาที่กำลังใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันในช่วงเวลานี้ ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันในแต่ละวิธีการให้ทราบ เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจว่าแบบไหนตรงความต้องการมากที่สุด
วางแผนการจัดฟัน เมื่อคนไข้เลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะกับตนเองได้เเล้ว ทันตแพทย์จะแจ้งแผนการรักษาคร่าว ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษา และทำการพิมพ์ปาก สร้างแบบจำลองฟัน
ถ่ายภาพ x-ray คนไข้ต้องทำการพิมพ์ฟัน และ x-ray ได้แก่ Panoramic, Lateral cephalometric หรือ PA cephalometric (ถ้าจำเป็น) เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการวินิจฉัย ประเมินฟัน กระดูกขากรรไกรบนและล่าง ดูการสบของฟัน และออกแบบการจัดฟันเพื่อให้เข้ารูปสวยงาม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เคลียร์ช่องปาก การเคลียร์ช่องปาก คือการเตรียมให้ช่องปากของเราพร้อมที่จะจัดฟัน โดยทันตแพทย์ต้องเช็ค��ุขภาพในช่องปากก่อนเริ่มการจัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน หรือผ่าฟันคุด เป็นต้น เพราะถ้าได้ติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว แล้วต้องทำการอุดฟัน หรือทำการรักษาฟันใด ๆ จะทำให้การรักษานั้นยุ่งยาก และช่วยให้การจัดฟันประสบผลสำเร็จได้ด้วยดี ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานในบางคนครับ หากมีปัญหาฟันผุ หรือเหงือกอักเสบมาก ๆ
นัดติดเครื่องมือ ขั้นตอนนี้จะแยกออกเป็น 2 รูปแบบ
จัดฟันโดยติดเครื่องมือ เมื่อทันตแพทย์ทำการติดเครื่องมือแล้ว จะมีการนัดหมายเพื่อปรับเครื่องมือทุก ๆ 1-2 เดือน ตามประเภทเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งในช่วงแรกอาจจะเจ็บบ้างเล็กน้อยในช่วงนี้ครับ
จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ หรือจัดฟันใส ทันตแพทย์จะนัดใส่เครื่องมือจัดฟัน พร้อมแนะนำวิธีการดูแลระหว่างใส่ เพราะการจัดฟันวิธีนี้สามารถถอดออกได้ระหว่างจัดฟัน โดยเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อจัดระเบียบกล้ามเนื้อ และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกร โดยเครื่องมือจัดฟันจะส่งแรงกดไปบนฟันอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่บนกระดูกขากรรไกร จากนั้นทันตแพทย์จะนัดเปลี่ยนชุดเครื่องมือตามแผนที่วางไว้ครับ ในการนัดหมายแต่ละครั้ง คนไข้ควรจะต้องมาให้ตรงตามนัด เพื่อให้แผนการรักษาไม่คลาดเคลื่อน
การดูแลช่องปากและฟันหลังจัดฟัน ในระหว่างจัดฟันจำเป็นต้องการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างดีครับ เช่น แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเ��มอ เข้าพบทันตแพทย์ตรวจเช็คช่องปาก ขูดหินปูน ทุก 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดเหงือกอับเสบระหว่างการจัดฟัน
นัดถอดเครื่องมือ เมื่อแผนการจัดฟันเป็นไปตามที่วางไว้ ทันตแพทย์ก็จะนัดถอดเครื่องมือจัดฟัน และจะให้ใส่รีเทนเนอร์ครับ แนะนำคนไข้จะต้องใส่ต่อเนื่องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงามตลอดไป
ติดตามผล ทันตแพทย์จะนัดติดตามการใส่รีเทนเนอร์ทุก ๆ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และทุก ๆ 1 ปี
เมื่อผ่านขั้นตอนการจัดฟัน คุณหมอขอแนะนำให้คนไข้ศึกษาวิธีการดูแลหลังจัดฟัน
เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวย มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น
Orthodontics , จัดฟันคืออะไร , จัดฟันมีกี่แบบ , การดัดฟัน , ข้อดีของการดัดฟัน , ข้อเสียของการดัดฟัน
ขอบคุณที่มา :: https://smileandcodentalclinic.com/orthodontic/
2 notes
·
View notes