machinestheme

[machinestheme]

เทปน้ำหยด เป็นยังไง รวมทั้ง ข้อดีและข้อเสียของระบบน้ำหยด

ระบบน้ำหยด เป็นการให้น้ำแก่พืชโดยการส่งน้ำผ่านระบบท่อและปล่อยน้ำออกทางหัวน้ำหยด ซึ่งจะติดตั้งไว้บริเวณโคนของต้นพืช รวมทั้งน้ำจะหยดซึมลงมาที่รอบๆรากพืชอย่างช้าๆและบ่อย เหมาะกับดินซึ่งร่วนซุย ทำให้ดินมีความชุ่มชื่นคงที่ในระดับที่พืชอยาก แล้วก็ส่งผลให้พืชเจริญวัยอย่างมีคุณภาพ

ระบบน้ำหยด เป็นวิธีหนึ่งในหลายวิธี ระบบน้ำหยดมีลักษณะเป็นน้ำหยด จากหัวน้ำหยดหรือท่อน้ำหยด/ท่อน้ำพุ่ง/เทปน้ำหยด และแนวทางการทำให้น้ำด้วยระบบสเปร์ขนาดเล็ก หรือหัวพ่นหมอก 

ระบบน้ำหยด คือระบบการปล่อยน้ำในจำนวนช้าๆตามตำแหน่งที่ต้องการอย่างตรงจุด เทปน้ำหยด เหมาะสำหรับ ไร่อ้อย มันสำประหลัง ข้าวโพด แตงโม เมล่อน อื่นๆอีกมากมาย

https://www.youtube.com/watch?v=J_mZzI32HiY

เทปน้ำหยด แบ่งได้ 2 ประเภทเป็น

1. เทปน้ำหยดแบบแบน คุณลักษณะเด่น คือ ราคาน้อยมากกว่า ม้วนเก็บสายง่ายยิ่งกว่า เนื่องมาจากไม่มีกิ๊บข้างใน แต่ว่าเวลาวาง จะต้องวางให้ถูกต้อง โดยวางตะเข็บหงายขึ้น จะหยดดี หยดไว 2. เทปนน้ำหยดแบบกลม (กิ๊บ) ลักษณะเด่นเป็นเกษตรกรผู้คนจำนวนมากถูกใจเทปกลมเพราะ การวางสายจะง่ายดายกว่า

จุดเด่นของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยดหมายถึง​เทปน้ำหยดราคาไม่แพง

ความประหยัดอดออมด้วยการใช้น้ำได้อย่างมีคุณภาพเนื่องจากว่าให้น้ำพืชในปริมาณที่พอเหมาะพอควรและก็ตรงจุดหรือ ละแวกที่พืชอยาก ทำให้พืชเติบโตได้ดิบได้ดี ส่วนวัชพืชที่ไม่อยากให้เจริญวัยนั้นก็จะขาด แคลนลานน้ำไปตามภาวะ เหมาะกับพืชต้นเล็กถึงปานกลางหรือเกษตรกรบางรายก็ปรับเปลี่ยนทำเป็นวงกลมแล้ว เทปน้ำหยดปล่อยน้ำหยดหลายจุดให้กับพืชต้นเดียวสำหรับพืชยืนต้นที่มีลำต้นใหญ่และรัศมี รากกว้าง

ข้อด้อยของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยดหมายถึงน้ำจำต้องสะอาด

จำเป็นต้องทำระบบกรองน้ำให้กับระบบ ด้วยเหตุว่ารูน้ำหยดตันง่าย ปั๊มที่ใช้ควรเป็นปั๊มที่มีแรงกดดันสูงอย่างเช่น ปั๊มรุ่น 4020 แรงดันสูงสุด 7.2 บาร์ เมื่อท่านวางระบบเป็นระเบียบเรียบร้อยระวังอยู่ 2 อย่างคือ หนูท้องนา กับไฟป่าให้ตรวจเช็คทุกๆอาทิตย์ ถ้าเกิดฝังดิน หนูจะกัดขาด ระบบน้ำหยด

จุดเด่นของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด (แยกเป็นข้อๆ)

1. คุณภาพการให้นํ้าสูงมากมาย เพราะว่าสามารถควบคุมนํ้าได้ทุกขั้นตอน และก็มีการสูญเสียโดยการระเหยน้อย

2. ค่าครองชีพสำหรับในการให้นํ้าน้อยเพราะว่าไม่ต้องใช้แรงงานสำหรับเพื่อการให้นํ้ามาก

3. สามารถให้ปุ้ยรวมทั้งสารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือสารเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ

4. ไม่มีปัญหาโรคพืชหรือแมลงที่เกี่ยวโยงจากการเปียกแฉะของใบ

5. ลดปัญหาของการแพร่ระบาดของวัชพืชด้วยเหตุว่านํ้าที่ให้แก่พืชจะเปียกผิวดินเป็นรอบๆแคบๆเพียงแค่นั้น

6. ไม่มีปัญหาเรื่องลมแรงที่จะพัดพานํ้าไปตกที่อื่น

7. ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบส่งนํ้าขนาดใหญ่หรือเครื่องสูบนํ้าที่มีแรงม้าสูง

8. ด้วยเหตุว่าการให้ปุ๋ยอินทรีย์แล้วก็สารเคมีโดยการผสมลงไปกับนํ้า ด้วยเหตุนั้นค้าใช้จ่ายสําหรับปุ๋ยธรรมชาติและสารเคมีก็จะน้อยลงด้วย

9. ระบบการให้นํ้าอย่างงี้จะมีระยะเวลาการใช้งานที่ช้านานยกเว้นหัวข้อการอุดตันของหัวจ่ายนํ้า

10. สามารถทําการติดตั้งการให้นํ้าแบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายๆ ดังเช่น ให้นํ้าตามกําทีดขณะที่ตั้งไว้ หรือให้นํ้าเมื่อความชุ่มชื้นของดินในเขตรากลดน้อยลงถึงระดับหนึ่งฯลฯ

11. ไม่มีปัญหาเรื่องอัตราการซึมของนํ้าเข้าไปในดิน เพราะอัตราการให้นํ้าจะไม่มากพอที่จะทําให้ดินเปียกชุ่มเป็นบริเวณกว้างอยู่แล้ว

12. เพราะเหตุว่าจำนวนนํ้าที่ให้รวมทั้งที่สูญเสียไปโดยการระเหยน้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวการสะสมของเกลือที่ติดมากับนํ้าในเขตรากพืชจึงไม่มากมาย

จุดบกพร่องของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด

1. มีปัญหาหัวข้อการตันที่ศีรษะจ่ายนํ้ามากมายเนื่องจากขี้ตะกอนทรายตะไคร่นํ้า หรือเนื่องมาจากการสะสมตัวของสารเคมีในนํ้า

2. เพราะว่าบริเวณที่ชื้นแฉะไม่กว้างขวางนัก ความเข้มข้นของเกลือซึ่งมักจะเกิดขึ้นในบริเวณนอกของส่วนที่เปียกชื้นจึงมักจะสูงรวมทั้งบางครั้งก็อาจจะเป็นอันตรายต่อพืชได้

3. สามารถให้ปุ๋ยรวมทั้งสารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยหรือเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ

4. ค่าลงทุนทีแรกค่อนข้างจะสูงเนื่องจากต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือหลายแบบ

การบริหารระบบน้ำหยดให้สำเร็จสูงสุด มี 3 ประการ เป็น

1. การให้น้ำปริมาณที่เหมาะสม กับความอยากได้ของพืชแต่ละประเภท

2. การให้ปุ๋ยปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะละลายผ่านเข้าระบบ

3. การวางแผนการบำรุงรักษาระบบ เพื่อให้ได้ประโยชน์นานที่สุด

การที่จะใคร่ครวญที่จะนําระบบการให้นํ้าหยดมาใช้ ควรจะมีการพิจารณา ดังต่อไปนี้

1. เมื่อมีการให้นํ้าแล้ว จำนวนและก็คุณภาพของผลผลิตจะเพิ่มขึ้นมากมายน้อยเท่าใดคุ้มหรือเปล่า

2. ราคาของผลิตผลนั้นคุ้มกับค้าใช้จ่ายที่เสียไปหรือเปล่ากับการที่จะลงทุนติดตั้งระบบการให้นํ้าพืช

3. จำเป็นต้องมั่นใจแล้วว่า แหล่งนํ้าที่มีอยู่นั้นมีเพียงพอกับการให้นํ้าตลอดฤดูเพาะปลูกค้าใช้จ่ายการติดตั้งระบบการให้นํ้าหยด โดยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 ถึง 15,000 บาท/ไร่ เป็นราคาเครื่องไม้เครื่องมือและก็ค่าติดตั้งทั้งหมด

[machinestheme]

ประโยชน์จากน้ำหมักชีวภาพ ขั้นตอนการทำน้ำหมักชีวภาพ งอกเร็ว ต่อต้านโรค เพิ่มผล ผลิต

นํ้าหมักชีวภาพ เป็นน้ำหมักที่ได้จากการดองเศษซากพืช ซากสัตว์ หรือสารอินทรีย์ประเภทต่างๆที่หาได้ในท้องถิ่นด้วยจุลินทรีย์เฉพาะ ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาล

น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ ปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ ตามแต่จะเรียก เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากการหมักดองเศษพืช หรือสัตว์ กับสารที่ให้ความหวาน จนถึงถูกเสื่อมสภาพโดยจุลินทรีย์ ซึ่งเมื่อผ่านแนวทางการแล้วจะได้สารละลายเข้มข้นสีน้ำตาล ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ แล้วก็สารอินทรีย์หลายแบบ

แนวทางการหมักของ น้ำหมักชีวภาพ จะมีเหตุมาจากการสลายตัวสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ โดยใช้กากน้ำตาล แล้วก็น้ำตาลจากสารอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งเป็น 2 แบบ เป็น

2. การดองแบบไม่ได้อยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์จำพวกที่ไม่อยากออกซิเจนสำหรับแนวทางการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน และก็ของกินให้แก่เซลล์ การหมักดองประเภทนี้จะกำเนิดเป็นส่วนใหญ่ในกรรมวิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็น คาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ส่วนพวกเมอเคปเทนและก๊าซซัลไฟด์ปล่อยออกมาน้อย

วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ

กระบวนการทำน้ำหมักชีวภาพจะเลือกใช้สิ่งของใดสำหรับเพื่อการหมักนั้น ควรที่จะเลือกใช้อุปกรณ์หมักซึ่งสามารถหาได้ง่ายในครอบครัว แปลงเกษตรของตัวเองหรือหาได้ง่ายในเขตแดน ท่อนหัวเชื้อสามารถเลือกใช้สารเร่งพด.2 หรือ พด.6 ตามจุดหมายสำหรับเพื่อการนำไปใช้เป็นหลัก

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 1

หมักจากผักแล้วก็ผลไม้ ปริมาณ 50 ลิตร (หมัก 7 วัน)

– ผัก หรือผลไม้ 4 ส่วน เช่น 40 กก.

– กากน้ำตาล 1 ส่วน เช่น 10 ลิตร

– น้ำ 1 ส่วน เป็นต้นว่า 10 ลิตร

– สารเร่ง พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม) ใช้หมักได้ 50 ลิตร

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 2

หมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ ปริมาณ 50 ลิตร (หมัก 21 วัน)

– ปลา 3 ส่วน

– กากน้ำตาล 1 ส่วน

– ผลไม้ 1 ส่วน

– น้ำ 1 ส่วน

– สารเร่ง พด.6 หรือ พด.2 ปริมาณ 1 ซอง (25 กรัม)

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร น้ำหมักผลไม้

– ฟักทอง 1 ผล (3-4 กิโลกรัม)

– กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี

– สัปปะรด 1 ลูก

– มะละกอสุก 1 ลูก

– กากน้ำตาล 1 ลิตร

– น้ำดื่ม 20-30 ลิตร

– ถังหมักขนาด 50 ลิตร

แนวทางการทำน้ำหมักผลไม้

1.สับผลไม้แต่ละประเภทตามภาพ โดยไม่ต้องสับละเอียดมาก เนื่องจากว่าจะก่อให้เวลากรองเอากากออกทำเป็นยาก 2.เอาผลไม้ที่สับเสร็จแล้วลงในถังหมักที่ได้เตรียมไว้ 3.เติมกากน้ำตาลแล้วก็เติมน้ำกินตามลงไป แล้วหลังจากนั้นกวนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เหมาะเพื่อกากน้ำตาลละลายปิดฝาถัง 4.หมักในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้มีการเปิดกวนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง 5.หมักกระทั่งครบ 2 อาทิตย์แล้วกรองเอากากออกด้วยที่กรอง กรอกน้ำหมักผลไม้ที่ได้ใส่ขวดหรือแกนลอนปิดฝาให้มิดชิด จากนี้ก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย ถ้าหากขวดหรือแกนลอนมีก๊าซ ให้หมั่นระบายก๊าซ��อกเดือนละ 1-2 ครั้ง

ข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการหมัก

การดองควรใช้ถังแบบมีฝาปิดสนิท เพราะว่าอาจมีเแมลงวันลงไปไข่ใส่จนถึงทำให้มีหนอนได้ ส่วนการปรับปรุงสำหรับผมเป็น หาเทปใสพันฝาถังรอบๆ

การใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสมในตัวหมักจะก่อให้ได้น้ำหมักที่มีสีน้ำตาลเข้ม แต่ว่าถ้าหมักด้วยอินทรีย์วัตถุเพียงอย่างเดียวจะได้น้ำหมักเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือตามสีของวัตถุที่เติมลงหมัก

ชนิดของน้ำหมักชีวภาพ

น้ำหมักชีวภาพแบ่งตามชนิดวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ชนิด คือ

1. น้ำหมักชีวภาพจากพืช

แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

– ประเภทที่ใช้ผัก แล้วก็เศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรหลังการเก็บ และก็คัดแยกผลิตผล น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมสดชื่น มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค แล้วก็ฮอร์โมนโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี

– ประเภทที่ใช้ขยะแฉะ เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครอบครัว ดังเช่นว่า เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าประเภทแรก แล้วก็มีกลิ่นหอมสดชื่นน้อยกว่า บางเวลาอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างน้อย จำต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ

2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์

เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆเป็นต้นว่า เนื้อปลา เนื้อหอย เป็นต้น น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น จะต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม

3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช แล้วก็เนื้อสัตว์รวมกัน ส่วนใหญ่มักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครอบครัวเป็นหลัก

ลักษณะน้ำหมักชีวภาพที่หมักบริบูรณ์

1. น้ำหมักชีวภาพมีลักษณะสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มใส ไม่ขุ่นดำ น้ำหมักจะอยู่ส่วนบน ส่วนกากจะตกลงข้างล่าง 2. น้ำหมักชีวภาพไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนสุราหมักหรือมีกลิ่นของกากน้ำตาลแล้วก็กลิ่นเหม็นเปรี้ยว 3. น้ำหมักชีวภาพจะต้องมีฟองแก๊สไหมมีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถ้าหากมีการหมักสิ่งของจนกระทั่งหมดแล้ว 4. น้ำหมักชีวภาพจะมี��่าความเป็นกรด-ด่าง ราวๆ 3-4

คุณสมบัติ���องน้ำหมักชีวภาพ

1. มีฮอร์โมนที่นำมาใช้ต่อการเจริญเติบโตของพืชหลากหลายประเภท ดังเช่น ออกซิน ไซโตตไคนิน รวมทั้งจิบเบอร์เรลลิน

2. กรดอินทรีย์จำพวกต่างๆอาทิเช่น กรดอะซีตำหนิก กรดแลคติก กรดอะมิโน แล้วก็กรดฮิวไม่ก

3. มีวิตามินบี วิตามินซี วิตามินเอ และก็อื่นๆขึ้นกับประเภทของสิ่งของหมัก

4. มีความเป็นกรดที่ pH ราวๆ 3-4

1. ด้านการเกษตร

ด้านการเกษตร น้ำหมักชีวภาพ มีธาตุอาหารสำคัญ ทั้งยังไนโตรเจน ธาตุฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม กำมะถัน ฯลฯ ก็เลยสามารถนำไปเป็นปุ๋ย เร่งอัตราการเจริญเติบโตของพืช เพิ่มประสิทธิภาพของผลิตผลให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังสามารถใช้ไล่แมลงศัตรูพืชได้ด้วย

– ใช้ เครื่องพ่นยาฉีดพ่นหรือเพิ่มเติมในดินหรือน้ำ ช่วยปรับให้สภาพความเป็นกรด-ด่าง ในดิน และก็น้ำ

– ใช้เติมในดิน ช่วยทำให้ปรับภาวะโครงสร้างของดิน ทำให้ดินซึ่งร่วนซุย อุ้มน้ำเจริญ รวมทั้งช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในดิน และก็น้ำ

– ช่วยเพิ่มอัตราการสลายตัวสารอินทรีย์ในดิน รวมทั้งน้ำ

– ใช้รดต้นพืชหรือแช่เมล็ดพันธุ์ ท่อนพันธุ์เพื่อเร่งการเกิดราก และก็การเติบโตของพืช

– เป็นสารที่ปฏิบัติภารกิจราวกับฮอร์โมนพืช กระตุ้นการเกิดราก และก็การเติบโต ทำให้ผลผลิต แล้วก็คุณภาพสูงขึ้น

– ใช้ เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นในแปลงเกษตร ช่วยต้านแมลงศัตรูพืช แล้วก็ลดจำนวนแมลงศัตรูพืช

– ใช้ เครื่องพ่นยาฉีดพ่นในแปลงผัก ผลไม้ หรือผลผลิตต่างๆเพื่อคุ้มครองการทำลายผลผลิตของแมลง

2. ด้านปศุสัตว์

ด้านปศุสัตว์ สามารถช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น น้ำเสียจากฟาร์มสัตว์ได้ ช่วยป้องกันโรคระบาดต่างๆในสัตว์แทนการ ใช้ยาปฏิชีวนะ ทำให้สัตว์แข็งแรง มีแรงต้านทานโรค ช่วยกำจัดแมลงวัน ฯลฯ

– ใช้ เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นตามพื้นดินในฟาร์มเพื่อลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ในฟาร์ม

– ใช้เพิ่มในน้ำเสียเพื่อกำจัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สำหรับเพื่อการย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสีย

– ใช้เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นตามพื้นหรือตัวสัตว์เพื่อคุ้มครองป้องกัน แล้วก็ลดปริมาณของจุลินทรีย์ก่อโทษ แล้วก็เชื้อโรคต่างๆ

– ช่วยคุ้มครองแมลงวัน และก็การเจริญเติบโตของหนอนแมลงต่างๆ

– ใช้ผสมอาหารสัตว์พวกต้นหญ้าเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ในกระเพาะอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง

– ใช้หมักหญ้า ฟางข้าวหรือหญ้าอาหารสัตว์เ��ื่อให้มีการย่อยง่าย

3. ด้านการประมง

ด้านการประมง ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วยจัดการกับปัญหาโรคพยาธิในน้ำ ช่วยรักษาโรคแผลต่างๆในปลา กบ ตะไข้ได้ ช่วยลดจำนวนขี้เลนในบ่อ ช่วยให้เลนไม่เน่า ใช้ในด้านการประมงมักใช้น้ำหมักชีวภาพเพิ่มเติมในบ่อเลี้ยงปลาเพื่อคุณประโยชน์ในด้านต่างๆคือ

– เพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง

– เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สำหรับในการสลายตัวสิ่งสกปรกในบ่อปลา

– เพื่อต่อต้าน แล้วก็ลดจำนวนเชื้อโรคที่ก่อโทษในสัตว์น้ำ

– เพื่อรักษาแผลของสัตว์น้ำ

– ช่วยลดปริมาณขี้เลนในบ่อ ด้วยการช่วยสลายตัวสิ่งเน่าเสียข้างล่างบ่อ

4. ด้านสภาพแวดล้อม

ด้านสภาพแวดล้อม น้ำหมักชีวภาพ สามารถช่วยบำบัดรักษาน้ำเสียจากการกสิกรรม ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และก็สถานประกอบการทั่วๆไป แถมยังช่วยดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะ การเลี้ยงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม แล้วก็ชุมชนต่างๆนอกนั้นยังช่วยทำให้สภาพภูมิอากาศที่เสียให้มีชีวิตชีวา แล้วก็มีสภาพดียิ่งขึ้น

– ใช้เพิ่มเติมในระบบบำบัดรักษาน้ำเสียจากการกสิกรรม ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม และก็ชุมชน

– ใช้เพิ่มในบ่อขยะ ช่วยในการย่อยสลายขยะ แล้วก็ดับกลิ่นเหม็น

– ใช้ปรับภาวะของเสียจากครอบครัวก้่อนเอาไปใช้ผลดีสำหรับในการเกษตร

5. ประโยชน์ในครัวเรือน

เราสามารถนำน้ำหมักชีวภาพ มาใช้สำหรับการชะล้างทำความสะอาดแทน สบู่ ผงซักผ้า แชมพู น้ำยาล้างจาน และใช้ขจัดกลิ่นในห้องอาบน้ำ โถส้วม ท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำ อื่นๆอีกมากมาย ได้ด้วย

กระบวนการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อวิธีซักล้าง

น้ำหมักชีวภาพ สามารถประยุกต์ใช้คุณประโยชน์สำหรับในการชะล้างได้ โดยมีสูตรให้นำผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝักส้มป่อย , มะคำดีควาย , มะนาว อื่นๆอีกมากมาย) 3 ส่วน น้ำตาลหรือน้ำตาลอ้อย 1 ส่วน แล้วก็น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท โดยให้เหลือช่องว่างไว้โดยประมาณ 1 ใน 5 ของขวด/ถัง แล้วหมั่นเปิดฝาคลายก๊าซออก โดยจะต้องวางไว้ภายในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงอาทิตย์ หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้��้ำหมักชีวภาพ สำหรับซักผ้า หรือล้างจานได้ ซึ่งสูตรนี้ถึงแม้ผ้าจะมีราขึ้น หากนำผ้าไปแช่ทิ้งเอาไว้ในน้ำหมักชีวภาพก็จะสามารถซักออกได้

วิธีการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อกำจัดกลิ่น

สูตรหนึ่งของวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพมาดับกลิ่น คือ ใช้เศษอาหาร พืชผัก ผลไม้ที่เหลือทิ้ง 3 ส่วน กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 ส่วน แล้วก็น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพใช้ขจัดกลิ่นในห้องสุขา โถส้วม ท่อที่มีไว้ระบายน้ำ กลิ่นฉี่สุนัข อื่นๆอีกมากมาย ได้อย่างดี

ข้อควรพิจารณาสำหรับเพื่อการใช้ น้ำหมักชีวภาพ

1. ถ้าใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืช จะต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะเหตุว่าถ้าความเข้มข้นสูงเหลือเกิน อาจจะทำให้พืชหยุดการเจริญเติบโต แล้วก็ตายได้

2. ระหว่างหมัก จะกำเนิดแก๊สต่างๆในภาชนะ โดยเหตุนั้นต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายแก๊ส แล้วปิดฝากลับให้สนิทในทันที

3. ถ้าหากใช้น้ำประปาสำหรับในการหมัก จำต้องต้มให้สุก เพื่อไล่คลอรีนออกไปก่อน เพราะว่าคลอรีนบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่ใช้เพื่อการหมัก

4. พืชบางประเภท ตัวอย่างเช่น เปลือกส้ม ไม่เหมาะสำหรับการทำน้ำหมักชีวภาพ เนื่องจากน้ำมันที่ฉาบผิวเปลือกส้มเป็นพิษต่อจุลินทรีย์

[machinestheme]

11 เครื่องมือการเกษตร ทุ่นแรง ทุ่นเวลา

เครื่องมือการเกษตร หมายถึง เครื่องไม้เครื่องมือช่วยทุ่นแรงสำหรับการดำเนินการ เป็นอุปกรณ์ที่ให้ปฏิบัติงาน���กี่ยวกับพืชและดิน ใช้เพื่อการทำงานด้านการเกษตรกรรม ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของงานที่ทำ ช่วยทำให้ทำสวนทำได้เร็วและได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น พวกเราควรจะรู้จักเครื่องมือการเกษตร และศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือการเกษตรแต่ละชนิด เพื่อนำไปใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานที่ทำ ถ้าหากใช้เครื่องมือการเกษตรที่ไม่เหมาะสมกับกับงาน ก็อาจจะทำให้พังเสียหาย แล้วก็อาจเกิดโทษต่องานที่ทำด้วย

ตัวอย่างของเครื่องมือการเกษตร เป็นต้นว่า ช้อนปลูก ส้อมพรวนดิน เสียม คราด พลั่ว บุ้งกี๋ จอบ บัวรดน้ำ กรรไกรตัดต้นหญ้า กรรไกรตัดกิ่ง มีดดายต้นหญ้า เป็นต้น

https://www.youtube.com/watch?v=nIjW-K1K2Mk

คำเสนอแนะก่อนจะมีการใช้และก็หลังจากที่มีการใช้งานเครื่องมือการเกษตร

ควรตรวจภาวะ เครื่องมือการเกษตร ก่อนใช้งานทุกคราว ถ้าอยู่ในสภาพทรุดโทรมไม่พร้อมใช้งาน ควรซ่อมแซมให้เป็นระเบียบก่อนเอาไปใช้งาน และหลังจากที่ใช้เครื่องมือการเกษตร ควรทำความสะอาด แล้วก็จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยและก็สบายสำหรับในการจับใช้งานในคราวถัดมา

วิธีบำรุงเครื่องมือการเกษตร

ไม่ทิ้งควรจะเครื่องมือให้ตากแดดตากฝน เนื่องจากว่าจะมีผลให้กำเนิดสนิมสึกกร่อนง่าย เมื่อใช้เครื่องไม้เครื่องมือเสร็จแล้วควรจะล้างและเช็ดให้แห้งเสียก่อน

เครื่องมือการเกษตรที่ใช้สำหรับทำเกษตรมีหลายประเภท พวกเรามารู้จะอุปกรณ์ต่างๆกันเลยจ้ะ

ช้อนปลูก

ช้อนปลูก มีลักษณะแหลมและออกจะคม ใช้สำหรับขุดย้ายต้นกล้า ขุดหลุมปลูก หรือใช้ขุดแล้วก็ตักต้นกล้า เพื่อนำไปปลูกไว้ในหลุมที่จัดแจงไว้การใช้ช้อนปลูกจะช่วยทำให้ต้นกล้ามิได้รับความกระทบกระเทือน ข้างหลังการใช้ควรล้างทำความสะอาด เช็ดถูให้แห้ง ทาน้ำมันกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย

ส้อมพรวน

ส้อมพรวน ใช้สำหรับกระพรวนดิน เหมาะกับดินที่ร่วนซุย ใช้สำหรับพรวนดินรอบๆต้นพืช ไม่สมควรใช้พรวนในดินแข็ง เพราะเห��ุว่าจะหักและก็งอง่าย เมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาด เช็ดถูให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันกันสนิม เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

เสียม

เสียม ใช้สำหรับขุดหลุมเตรียมเพื่อปลูกต้นไม้ นิยมใช้ขุดหลุมขนาดเล็กและลึก เหมาะสมในการขุดหลุมขนาดเล็ก ก่อนใช้ควรตรวจภาวะของเสียมเสียก่อน เมื่อใช้แล้วควรล้างชำระล้าง ถูให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อกันสนิม เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

คราด

คราด ใช้สำหรับย่อยดินแล้วก็เก็บเศษหญ้า แต่งแปลงปลูก และใช้เก็บเศษหญ้าบนห��้าดิน ก่อนใช้ควรจะตรวจสอบว่าคราดอยู่ในภาวะที่ ใช้ได้หรือเปล่า ขณะใช้ควรรอบคอบไม่ให้ด้ามคราดไปถูกคนใกล้เคียง หลังจากที่ได้มีการใช้แล้วล้างทำความสะอาดและก็ใช้ผ้าเช็ดถูให้แห้ง ทาน้ำมันป้องกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย

พลั่ว

พลั่ว ใช้สำหรับตักสิ่งของที่ใช้เพื่อสำหรับในการเกษตร ยกตัวอย่างเช่น ดิน ปุ๋ย หรือขุดหลุมขนาดเล็กๆไม่ลึก เมื่อใช้แล้วควรจะล้างชำระล้าง เช็ดถูให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันการเป็นสนิม เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

ปุ้งกี๋

ปุ้งกี๋ ใช้สำหรับขนดิน ปุ๋ย หรือเศษหญ้าเศษใบไม้

จอบ

จอบ ใช้สำหรับขุดดิน ถากต้นหญ้าขุดแปลง หรือใช้สำหรับขุดหลุมใหญ่ๆก่อนใช้ควรตรวจสอบว่าจอบเข้าด้ามแน่นหนาหรือเปล่า หลังใช้แล้วล้างชำระล้างแล้วก็ใช้ผ้าถูให้แห้ง ทาน้ำมันกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

บัวรดน้ำ

บัวรดน้ำ ใช้รดน้ำต้นกล้าหรือต้นไม้ที่มีขนาดเล็กลำต้นอ่อน น้ำที่ออกจากฝักบัวจะเป็นสายขนาดเล็ก ช่วยทำให้น้ำกับพืชได้ทั่วถึงรวมทั้งต้นไม้ไม่ระบม เมื่อใช้แล้วล้างทำความสะอาดเก็บเศษหญ้าออกมาจากบัวรดน้ำเพื่อไม่ให้ตันฝักบัวเมื่อใช้ประโยชน์รดน้ำครั้งถัดมา คว่ำให้น้ำแห้งแล้วเก็บเข้าที่

กรรไกรตัดหญ้า

กรรไกรตัดหญ้า ใช้ตัดต้นหญ้าที่���ม่สูงนัก หรือใช้ ตัดแต่งต้นหญ้าให้เรียบเท่ากัน

กรรไกรตัดกิ่ง

กรรไกรตัดกิ่ง ใช้สำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ขนาดเล็ก ใช้ตัดแต่งกิ่งไม้ให้ได้รูปทรงตามต้องการ ตัดใบพืชที่แห้ง ตัดใบพืชที่เป็นโรคทิ้ง ตัดแต่งต้นไม้ที่มีใบหนาเหลือเกิน เมื่อใช้แล้วควรจะเช็ดชำระล้างแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันสนิมแล้วก็หยอดน้ำมันสปริงขากรรไกร เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

มีดดายต้นหญ้า

[machinestheme]

10 เครื่องมือช่าง สำหรับปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมเครื่องใช้ด้านในภายบ้าน

เครื่องมือช่าง เป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเรา เพราะว่าพวกเราไม่มีวันทราบเลยว่าวันนี้วันพรุ่งนี้ที่บ้านพวกเราจะมีอะไรเสียหรือพังบ้าง ด้วยเหตุผลดังกล่าวการมีเครื่องมือช่างประจำบ้านไว้งานย่อมดีมากกว่า ซึ่งหากว่าเรียกช่างก็คงจะเสียเงินไม่น้อย แค่มีเครื่องมือช่างพื้นฐานซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างมากมาย

ก็ช่วยให้พวกเราปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้แล้ว เราควรต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเราสามารถจะซ่อมบำรุงหรือบำรุงรักษาบ้านหรือเครื่องใช้สอยต่างๆด้วยตัวเรา 

เพราะฉะนั้น การมีเครื่องมือช่างประจำบ้านไว้เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน วันนี้เราจะบอกตัวอย่าง เครื่องมือช่างพื้นฐานที่เราควรจะมีติดบ้านไว้กันเวลาประสบปัญหา พวกเราก็สามารถลงมือแก้ไขได้ในทันที

กล่องเครื่องไม้เครื่องมือก็เลยมีความจำเป็นด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าเมื่อพวกเรามีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆพวกเราก็ควรเก็บเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้นให้เป็นระเบียบ เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการใช้งานและก็ป้องกันการสูญหาย รวมทั้งนี่เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีประจำบ้านไว้

https://www.youtube.com/watch?v=nvK4rF8zp08

อย่างเช่น 1.ไขควง 2.ค้อน 3.ตลับเมตร 4.คีม 5.มีดคัดเตอร์ 6.ประแจ 7.ที่วัดระดับน้ำ 8.ไฟฉาย 9.สว่านไฟฟ้า 10.เลื่อยวงเดือน 11.เครื่องขัดกระดาษทราย 12.เครื่องดูดฝุ่น แล้วก็นี้เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ควรมีติดบ้านไว้กันเวลาเผชิญปัญหา ที่จะช่วยให้คุณสามารถลงมือแก้ไขปัญหาขั้นแรกได้ทันที

[machinestheme]

บทความเกี่ยวกับวิธีสำหรับการเลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง ก่อนการใช้งาน

เครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง เหมาะกับตัดต้นหญ้าลำต้นสูงๆได้แก่พวกหญ้าคาที่ขึ้นตามข้างถนน มีคุณลักษณะเด่นอยู่ที่กำลังแรงของเครื่องสำหรับตัดต้นหญ้ายาวๆและก็อายุการใช้งานที่ยาวนานของเครื่องจักรกล แต่ว่าไม่เหมาะสมสำหรับใช้งานในบ้าน เพราะว่าจำเป็นต้องสะพายไว้บนบ่า แม้ว่าจะมีน้ำหนักไม่เท่าไรนัก แม้กระนั้นสะพายไว้นานๆก็ไม่ไหวเช่นเดียวกัน และก็ที่สำคัญเป็น เรื่องของความปลอดภัย

รีวิว เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า 4 จังหวะ รอบจัด ประหยัดแรง https://www.youtube.com/watch?v=_soXNVMa5qs

เครื่องตัดหญ้าสะพายหลังต้องการความเก่งของผู้ใช้เครื่องค่อนข้างสูง จังหวะที่เศษหญ้า หรือเศษก้อนกรวดก้อนดินจะกระเด็นใส่ตาของผู้ใช้มีค่อนข้างมากมาย หรือบางทีอาจกระเด็นโดนรถโดนกระจกเสียหาย จึงไม่ชี้แนะผู้ที่ปราศจากความเชี่ยวชาญให้ใช้เครื่องประเภทนี้

การใช้งานและการดูแลรักษา เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า 2 จังหวะ 2.4 แรงม้า วีโกเทค https://www.youtube.com/watch?v=FsnUR8fnZVI

ถ้าเกิดอยากได้ใช้ เครื่องตัดหญ้า จริงๆวัสดุอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นต้องซื้อหามาใช้พร้อมกันไปด้วยคือ แว่นสายตานิรภัย ให้สวมใส่ครั้งใดก็ตามใช้เครื่อง คุ้มครองปกป้องเศษกิ่งไม้หรือก้อนหินกระเด็นเข้าตา รวมทั้งก่อนตัดทุกคราว จำต้องเดินตรวจสอบพื้นที่ เก็บเศษหินเศษปูนออกให้หมดสนามก่อนเสมอ ถ้าหากอยากได้ความทนทานขอชี้แนะ เครื่องตัดหญ้า อาจกล่าวได้ว่า ซื้อเครื่องเดียวใช้ไปตลอดชีพก็ว่าได้ มีอีกทั้งแบบเครื่องจักร 2 จังหวะ แล้วก็ 4 จังหวะให้เลือกตามทักษะ

ชี้แนะ เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า วีโกเทค มีคุณภาพและคุ้มค่า

[machinestheme]

สิ่งที่ต้องระวังในเวลาที่เราใช้งาน เครื่องฉีดยาแบตเตอรี่ สำหรับการฉีดพ่นสารเคมีและสารฆ่าแมลง

ในเวลาที่เราใช้งาน เครื่องฉีดยาสะพายหลัง เกี่ยวกับฉีดสารเคมี ทำลายแมลง หรือสารเคมีฆ่าแมลงทุกประเภทนั้น คือ เป็นสารพิษต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ฉันนั้น เมื่อจะใช้งานเครื่องฉีดยาสะพายหลังเหตุด้วยพ่นสารเคมีทำลายแมลง จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และทำงานตามข้อแนะนำ อย่างเอาจริงเอาจัง ด้วยลดอันตรายจากการเครื่องฉีดยาแบตเตอรี่พ่นสารเคมีขจัดแมลง

ก่อนใช้งานเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ต้องสวมหน้ากากและถุงมือยาง ใส่เสื้อผ้าปิด ร่างกายให้มิดชิด ระแวดระวังละอองสารเคมีมิให้เข้าปาก จมูกและถูกร่างกาย ต้องก้าวเดินสะพายเครื่องพ่นยาพ่นสารเคมีให้กระจายตามลมหรือ ขวางทิศทางของลม ห้ามเดินหวนกลับลม ต้องไม่เดินผ่านฝ้ายที่ฉีดพ่นสารเคมีแล้วในขณะ กำลังพ่นสารเคมี คือ ให้เดินถอยหลัง สำหรับการฉีดพ่น สารเคมีที่ต้องพ่นในแถวฝ้ายที่ใกล้ตัว ขณะพ่นยาหยุดสูบบุหรี่ขณะฉีดสารเคมี และควรล้างมือ ให้เกลี้ยงก่อนการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร เมื่อหัวเครื่องฉีดพ่นยาสะพายหลังอุดตัน ห้ามปากเป่า ควรถอดออก ล้างน้ำให้สะอาด

ทดสอบก่อนส่ง เครื่องพ่นยา มอเตอร์ไฟฟ้าแบบพกพา 100 บาร์ วีโกเทค https://www.youtube.com/watch?v=qAVI_Wv0BXc

เมื่อใช้งานเครื่องฉีดยาสะพายหลังฉีดสารเคมีเสร็จแล้ว ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำชำระล้างร่างกาย ฟอกสบู่ให้สะอาดทุกคราว เสื้อผ้าที่ใช้งานในการปฏิบัติงานควรซักให้สะอาดด้วยทุกครั้ง ควรมีน้ำสะอาด สบู่หรือผงซักฟอกเตรียมไว้ ให้เพียงพอใกล้ๆ กับที่ฉีดพ่นสารเคมี ด้วยว่าจะได้ล้างตัวและเครื่องฉีดยาสะพายหลังได้ทันที เมื่อมีท่าทางแน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ ผะอืดผะอม หรือเกิดอาการผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่างการฉีด สารเคมี หรือหลังการฉีดสารเคมี ให้หยุดปฏิบัติการทันที เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบไปปรึกษาแพทย์ที่อยู่ใกล้ที่ สุดโดยเร็ว

เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ 25 ลิตร วีโกเทค มอเตอร์ปั๊มคู่X2 14.4บาร์ รุ่นใหม่ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.youtube.com/watch?v=HOa_hhYxMrw

ภาชนะทีบรรจุสารเคมีทำลายแมลง เช่น ขวด กระป๋อง ถุง ฯลฯ เมื่อหมอแล้วให้กำจัดทิ้งเสีย อาจ จะวิธีฝังดินก็ได้ ห้ามนำไปบรรจุอาหารหรือน้ำดื่ม เป็นอันขาด เพราะถึงแม้จะล้างอย่างไร ก็ไม่สามารถ ทำให้สารพิษที่ติดอยู่หมดไปได้ เก็บสารเคมีทำลายแมลงและเครื่องฉีดพ่นยาในที่ที่มิดชิด ให้พ้นมือ เด็กและห่างจากสัตว์เลี้ยง ควรมีห้องเก็บต่างหากเหตุด้วย ความปลอดภัย เครื่องพ่นยาและอุปกรณ์การฉีดสารเคมีฆ่าแมลงเมื่อใช้งาน แล้ว ไม่ควรนำเครื่องฉีดยาแบตเตอรี่ไปล้างในบ่อน้ำหรือแหล่งเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งอาจเป็นพิษภัยต่อสัตว์น้ำและผู้น้ำนั้น

ชี้แนะ เครื่องพ่นยาสะพายหลัง วีโกเทค มีคุณภาพและคุ้มค่า

[machinestheme]

thank you

เครื่องมือที่ใช้พ่นยา

เครื่องพ่นยา  หรือ ถังฉีดยา คือ  เครื่องมือที่ใช้ร่วมกับสารพ่นยาต่างๆ เพื่อพ่นให้กับต้นไม้ เพื่อทำให้ต้นไม้ออกผลตามที่ต้องการ เครื่องพ่นยามีหลายแบบ เช่น 1. เครื่องพ่นยาแบบมือโยก หรือ ถังฉีดยามือโยก เป็นเครื่องพ่นยา ราคาถูก ราคาเพียงหลักร้อยบาท และมีความทนทานสูง แต่มีข้อตำหนิคือไม่สามารถฉีดพ่นในระยะไกลๆได้ และ การโยกคัน โยกบ่อยๆจะทำให้อ่อนเพลียแขนได้ วิธีการใช้เครื่องพ่นยามือโยก คือ ขณะฉีดยาให้โยกคันโยกที่ติดกับตัวเครื่อง เพื่อต้องการพ่นน้ำยาออกมา 2. เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ หรือ เครื่องพ่นยาไฟฟ้า เป็นเครื่องพ่นยาที่ใช้แบตเตอรี่ในการพ่นยาออกมา ไม่ต้องใช้คันโยก  มีความแรง แรงยิ่งกว่า เครื่องพ่นยาแบบมือโยก  และไม่เมื่อยแขน ด้วย แต่ก็จะมีราคาที่แพงกว่า อายุการใช้งานของเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ก็จะแล้วแต่อายุของแบตเตอรี่ส่วนมากอายุการใช้งานจะอยู่ที่ 1-2 ปี ก็ถือว่าคุ้มแล้ว 3. เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์ เป็นเครื่องพ่นยาที่กำลังเครื่องยนต์พ่นน้ำยาออกมา เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์ สามารถฉีดน้ำยาออกได้ไกลที่สุด และราคาแพงที่สุด แต่ก็เหมาะสำหรับ เกษตรกรที่ต้องการพ่นยา ในอาณาบริเวณใหญ่ๆ เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์ มี3ประเภท คือ เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์แบบพกพา กับ เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์แบบสะพายหลัง และ เครื่องพ่นยาแบบ เครื่องยนต์ 3 สูบแบบตั้งพื้น

สำหรับการเลือกซื้อเครื่องพ่นยา ควรเลือกซื้อให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ เครื่องพ่นยาสะพายหลังจะมีหลายขนาด ตั้งแต่ 1ลิตร 5ลิตร 8ลิตร 10ลิตร 16ลิตร 18ลิตร 20ลิตร 25ลิตร 30ลิตร และ สูงสุด50ลิตร สำหรับเครื่องพ่นยาที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ เครื่องพ่นยาของวีโกเทค เพราะมีการประกอบที่แข็งแรง ราคาถูก มีบริการหลังการขายดี และมีอะไหล่ครบทุกชิ้นส่วน ทำให้อุ่นใจได้เลยว่าถึงจะใช้ไปได้ นานๆก็จะมีอะไหล่เปลี่ยนแน่นอน ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องซื้อเครื่องใหม่ เครื่องพ่นยาคือส่วนใดส่วนหนึ่งของอุปกรณ์การเกษตรเท่านั้น ยังมีอุปกรณ์การเกษตรอีกมากมายให้เลือกใช้ เครื่องมือการเกษตร หรือ อุปกรณ์การเกษตร เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยให้การทำงานของเกษตรกร  ชาวไร่ ชาวนา ให้สามารถทำงานได้เร็วและสะดวกยิ่งขึ้น และช่วยทุ่นกำลังของเกษตร เครื่องมือการเกษตร หรือ อุปกรณ์การเกษตร มีหลายชนิด หลายประเภท แบ่งตามการใช้งาน อุปกรณ์การเกษตร เป็นเครื่องมือที่ช่วยเอื้ออำนวยให้การปฏิบัติงานเกษตรมีความสะดวกและรวดเร็ว ลดแรงของเกษตรกร อุปกรณ์การเกษตรแบ่งตามชนิดวัสดุมีทั้งที่ทำจากโลหะ ทำจากพลาสติก ทำจากไฟเบอร์ หรือแม้แต่ทำ จากวัสดุธรรมชาติ หากแบ่งอุปกรณ์การเกษตรตามลักษ��ะการใช้งานจะสามารถแบ่งได้เป็นอุปกรณ์งานหนักและอุปกรณ์งานเบา แบ่งตามลักษณะใช้งาน ได้แก่ เครื่องมือใช้งานกับดิน เครื่องมือใช้งาน ในการให้น้ำพืช และเครื่องมือที่ใช้ในการดูแลตัดแต่งกิ่ง ตัวอย่างอุปกรณ์การเกษตร เช่น เครื่องตัดหญ้า จอบขุด เครื่องพ่นยา เสียมพรวน เครื่องปั่นไฟ บัวรดน้ำ ปั๊มน้ำ กรรไกตัดกิ่ง รถไถ รถเกี่ยว เป็นต้น

[machinestheme]

ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเมืองตรังฟุบแย่งลูกค้า  เนื่องราคายางตกต่ำ

ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเมืองตรังยังโงหัวไม่ขึ้น ยอดขายทรุดต่อเนื่อง 3 ปี เหตุราคายาง/ปาล์มตกต่ำ-ห้างยักษ์เข้ามาแย่งลูกค้า เอเย่นต์ปรับตัวหนีตายสุดฤทธิ์ ยอมหั่นราคาสินค้าลดกำไรน้อยลง งดเครดิตซื้อสินค้าด้วยเงินสด ด้านกลุ่มผู้รับเหมาในท้องถิ่นนั่งตบยุง ทุนใหญ่ส่วนกลางเมินใช้บริการ

นางแสงเพ็ญ โชคกอบกิจกุล ผู้จัดการร้านเพ็ญพานิช ผู้แทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทุกชนิด อ.เมือง จ.ตรัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดวัสดุก่อสร้างจังหวัดตรังอยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่องกันมากว่า 3 ปีแล้ว แต่ปีนี้ถือว่าแย่กว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเกือบทุกรายได้รับ���ลกระทบจากยอดขายที่ลดลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้สาเหตุหลักน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและตลาดโลกไม่ดี โดยเฉพาะทางภาคใต้ ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน ประกอบกับประชาชนทั่วไปสะสมหนี้ไว้เยอะ เมื่อราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำจึงกลายเป็นภาระที่หนักมาก ทำให้มีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย อำนาจซื้อจึงลดลงและส่งผลกระทบไปยังธุรกิจต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"ร้านของตนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างมานาน ปีนี้ถือว่าไม่ดีเท่าปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันยอดขายตกไปกว่า 30% แต่ก็ยังมีลูกค้าเก่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาทั่วไปยังใช้บริการกันอยู่ แม้ว่ายอดสั่งซื้อจะไม่มากนัก แต่ก็พอที่จะพยุงกิจการต่อไปได้เพราะงานก่อสร้างในปัจจุบันนี้ก็ไม่มากนัก โดยทางร้านงดเครดิตทั้งหมด ลูกค้าต้องซื้อสินค้าด้วยเงินสดเท่านั้น" นางแสงเพ็ญกล่าวและว่า ในส่วนของราคาวัสดุก่อสร้างนั้น ลดราคาลงหลายตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเฉลี่ยประมาณ 30% ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้น ฮาร์ดแวร์ทั่วไป แต่สินค้าในท้องถิ่น เช่น หิน ทราย ราคายังทรงตัว อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหายอดขายตก ทางร้านก็ต้องมีการปรับตัว ประคับประคองธุรกิจบริหารจัดการอย่างรอบคอบไม่ให้มีหนี้เสีย ทั้งนี้ต้องยอมรับว่านอกจากเศรษฐกิจจะไม่ดีแล้ว การเข้ามาเปิดให้บริการของห้างใหญ่ อย่างโฮมโปรหรือไทวัสดุ ก็ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในท้องถิ่นไม่น้อย

"การทำตลาดก็เน้นดูแลลูกค้าเก่าและเปิดตลาดลูกค้าใหม่ โดยการปรับราคาลดลงให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีกำไรลดลงก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ส่วนแนวโน้มในปี 2559 มองว่าต้นปียังไม่น่าจะดีขึ้น น่าจะหนักกว่าเดิมเพราะเป็นช่วงเปิดเทอมและเป็นช่วงหยุดกรีดยาง ช่วงนี้บริษัทแม่ก็ไม่ได้กำหนดเป้าการขายแต่อย่างใด" นางแสงเพ็ญกล่าว

แหล่งข่าวจากผู้รับเหมาก่อสร้างเก่าแก่รายหนึ่งของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์จังหวัดตรังในปีนี้ ถือว่ายังทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่งานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เช่น ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม จะเป็นทุนจากส่วนกลางและต่างจังหวัด ซึ่งมีผู้รับเหมาจากส่วนกลางรับเหมามาแล้ว จึงไม่มีผลต่องานของผู้รับเหมาในท้องถิ่น

นอกจากนี้ วัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะนำมาจากส่วนกลาง และบางรายนำเข้าจากประเทศจีนโดยตรงทำให้ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ไม่ได้รับประโย��น์จากโครงการใหญ่ ๆ จึงมองว่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดตรังจะยังคงเงียบเหงาต่อไปจนถึงกลางปีหน้า

[machinestheme]

ตอกเข็มรถไฟไทย-จีนปั้นที่ภูธรพุ่งอีกรอบ

ที่ดินภูธรพุ่งรับรถไฟไทย-จีนกรุงเทพฯ-หนองคาย หลังรัฐบาลทั้ง2 ฝ่ายลั่นตอกเข็มพ.ค. 59 สถานีรถไฟจังหวัดอุดรธานี หลังบริเวณยูดีทาวน์ ปั่นราคาที่ดินพุ่งไร่ละกว่า 60 ล้านบาท ร.ฟ.ท.เตรียมนำที่ดินบริเวณรอบสถานีมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ขณะที่สระบุรีรัศมี 5 กม. จากตัวสถานี พุ่ง 100% ส่วนโคราช-ขอนแก่นขยับตัวรอปักธงอีกรอบปี 59ด้านแอล.พี.เอ็น. ลั่น! ชะลอลงทุนเมืองภูธรดูท่าทีเศรษฐกิจ

ราคาที่ดินแนวรถไฟความเร็วปานกลางไทย จีน ราคาที่ดินแนวรถไฟความเร็วปานกลางไทย จีน กระแสการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนสายกรุงเทพ-หนองคาย กลับมาคึกคักอีกครั้งในรัฐบาลยุคพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่ล่าสุด เริ่มต้นเดินหน้าการลงทุนอีกครั้งในราวกลางปี 2559 จากล่าสุดได้เริ่มเปิดศูนย์เดินรถจากความร่วมมือของรัฐบาลไทย-จีน จากเดิมจะมีการเดินหน้าก่อสร้างได้ในเดือนธันวาคมนี้ เมื่อมีการประกาศชัดเจนว่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนต่อเพื่อเชื่อมโยงทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับไทยและประเทศ ส่งผลให้ราคาที่ดิน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 ที่อุดรคึกปลายสถานีไร่ละ60ล.

นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่านับเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดที่อยู่ในแนวของรถไฟความเร็วปานกลางสายกรุงเทพ-สระบุรี-นครราชสีมา-หนองคายอย่างมาก จากเดิมที่ซบเซาและชะลอการลงทุน อย่างไรก็ดีเมื่อรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนมีความชัดเจนที่จะเดินหน้าก่อสร้างช่วงกลางปี 2559 ก็มองว่ากระแสนี้จะทำให้ราคาที่ดินมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งแต่ไม่น่าจะสูงไปกว่าที่ผ่านมา

โดยราคาซื้อขายท��่ดินรัศมีรอบสถานีรถไฟปลายทางก่อนที่จะไปเชื่อมกับจังหวัดหนองคาย และเป็นสถานีใหญ่ที่เชื่อมทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วปานกลาง ปัจจุบันราคาที่ดินเอกชนอยู่ที่ กว่า 60 ล้านบาทต่อไร่ จากช่วงที่ผ่านมา 3-4ปีก่อนช่วงที่บริษัทแอลพีเอ็นดีเวล็อปเม้นท์จำกัด(มหาชน)ซื้อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 1,300 หน่วย ราคาไร่ละ10 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดี บริเวณสถานีรถไฟซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองปัจจุบันกลางเป็นทำเลทองเพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นเข้ามาลงทุนอาทิ แอลพีเอ็น ยูดีทาวน์ ฯลฯ อีกทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จะนำที่ดินบริเวณรอบสถานีมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ให้เช่า และอนาคตอันใกล้แอลพีเอ็นเตรียมพัฒนาพื้นที่ที่เหลือเป็นคอมมูนิตี้มอลล์

รัศมี5กม.รอบสถานีสระบุรีพุ่ง100%

สอดรับกับนายนภดล ธรรมวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสระบุรี ที่ระบุว่าเป็นผลดีต่อราคาที่ดิน อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาช่วงมีกระแสข่าวที่รัฐบาลผลักดันโครงการร่วมกับจีน ราคาที่ดินจังหวัดสระบุรีขยับราคาขึ้น 100% จากราคา 1-2 ล้านบาท เป็น 2-4 ล้านบาท โดยเฉพาะรัศมีโดยรอบตัวสถานี ประมาณ 5 กิโลเมตร และแนวโน้มจะขยับขึ้นอีกแต่ต้องดูภาวะเศรษฐกิจด้วยซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจชะลอตัว อาจส่งผลต่อราคาที่ดินที่ขยับขึ้นได้ไม่มาก หรือขยับขึ้นแต่ขึ้นได้น้อย ส่วนการกำหนดทิศทางของเมือง นั้น เนื่องจาก สระบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่มาก โดยเฉพาะชายกรุงเทพที่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก ดังนั้น สระบุรี จึงอาจจะเน้นเมืองที่อยู่อาศัยก็คงยังไม่ชัดเจนนัก แต่ ปัจจุบันจะเป็นเมืองอุตสหกรรมโดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง

 โคราช-ขอนแก่นรอปักธงอีกรอบ

ขณะเดียวกันนายกฤช หิรัญกิจ ประธานที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมารอโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่จะเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางสายกรุงเทพ-หนองคาย ซึ่งจะพาดผ่านพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะช่วยให้ภาคการลงทุนและการซื้อขายกลับมาคึกคักอีกครั้งคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปี 2559 เม็ดเงินน่าจะเข้ามาสู่ระบบและเกิดการก่อสร้าง คาดว่าราคาที่ดินจะกลับมาขยับอีกครั้งอาทิ บริเวณสถานีจิระซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จะขยับจาก ไร่ละ4ล้านบาทเป็น 6 ล้านบาท

ต่อเรื่องนี้นายชาญณรงค์ บุริศตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัทอีสานพิมานกรุ๊ปจำกัด และประธานชมรมผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีความคึกคักมากขึ้นเนื่องจากมีความชัดเจนในโครงการรถไฟฟ้า

นายสมิง ยิ้มศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า ราคาที่ดินของจังหวัดขอนแก่นขยับขึ้นมาหลายรอบจากกระแสรถไฟสายกรุงเทพ-หนองคาย นับจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาจนกระทั่งรัฐบาลปัจจุบัน ล่าสุดที่ดินติดถนนมิตรภาพทางไ��มหาวิทยาลัยขอนแก่นราคาบอกขายอยู่ที่ ไร่ละ 25 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีคนสนใจซื้อแต่เจ้าของที่ดินไม่ยินยอมขาย และในเวลาต่อมา ได้ขายไปในราคา ไร่ละ 20 ล้านบาท โดยนักธุรกิจจากกรุงเทพมหานครเพื่อนำไปลงทุนทำโชว์รูทรถยนต์ฯลฯ จาก 3-4 ปีก่อนราคาเพียง 9 ล้านบาท

หนองคายได้3แรงบวกขยับ2เท่า

แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย จะได้อานิสงค์จาก 3 แรงบวก ได้แก่ การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย และล่าสุดโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางสายกรุงเทพ-หนองคายร่วมกับรัฐบาลจีน กลางปี 2559 นับเป็นกระแสบวกต่อราคาที่ดินและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนธุรกิจอสังหาฯ รวมทั้งทำให้ราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ที่จะเริ่มใช้รอบบัญชีใหม่วันที่ 1มกราคม 2559 สูงขึ้นเฉลี่ย 20% อย่างไรก็ดี เมื่อรถไฟดังกล่าวจะเริ่มก่อสร่าง คาดว่าราคาที่ดินของเอกชนที่ขนานไปกับบริเวณสถานี นาทา และสถานีใหญ่ปลายทางหนองคาย ขยับสูงขึ้นอีก 1-2 เท่าตัว ซึ่งปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 2-5 ล้านบาทต่อไร่ ขณะที่ที่ดินรอบห้างเทสโก้โลตัส ติดถนนมิตรภาพ ราคา 40 ล้านบาทต่อไร่ แนวโน้มปี 2559 จะขยับขึ้นอีกแต่อาจจะไม่มาก ส่วนใหญ่ที่ดินที่หนองคายนายทุนจากกรุงเทพจะซื้อเก็งกำไร

 LPN รอดูเศรษฐกิจฟื้น

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน )หรือ LPN กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทไม่การเปิดขายโครงการใหม่ที่ต่างจังหวัดเลย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้นบริษัทจึงหยุดที่จะพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดชั่วคราว ในส่วนของจังหวัดอุดรธานี ส่วนโครงการ ลุมพินี เพลส ยูดี-โพศรี ที่เปิดขายเมื่อปี 2556 ปัจจุบันขายหมดแล้วทั้ง 1,300 หน่วย

 สำรวจที่ดินภูธร ปี58 ราคาขยับ

จากการสำรวจราคาที่ดินซื้อขายในตลาดของบริษัทโมเดิร์นพร็อพเพอร์ตี้คอนซัลแตนท์ จำกัด เปรียบเทียบจากช่วงเดือนธันวาคม 2557 และช่วงเดียวกันของปี 2558 เริ่มจากจังหวัดหนองคาย ปี2557 ถนนเสด็จ(ย่านการค้าอาคารพาณิชย์) ราคา 26,250บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 37,500 บาทต่อตารางวา ริมแม่น้ำโขง (ตลาดพรชัย) ปี2557 ราคา 20,000 บาทต่อตารางวาปี 2558 ราคา 25,000 บาท ต่อตารางวา ถนนมิตรภาพแยกการเคหะฯ ปี 2557 ราคา 13,000 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 18,750 บาทต่อตารางวา ถนนเลี่ยงเมือง ปี 2557 ราคา 11,875 บาทต่อตารางว่า ปี 2558 ราคา 17,500 บาทต่อตารางวา

ส่วนจังหวัดอุดรธานี ถนนโพธิ์ศรีจากแยกบิ๊กซี-ห้าแยกน้ำพุ ปี 2557 ราคา 80,000 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 180,000 บาทต่อตารางวา ถนนทหาร ปี 2557 ราคา 80,000 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 160,000 บาทต่อตารางวา ถนนมิตรภาพ ปี 2557 ราคา 62,500 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 135,000 บาทต่อตารางวา ถนนเลี่ยงเมืองปี 2557 ราคา 40,000 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 50,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่จังหวัดขอนแก่นถนนศรีจันทร์ย่านธุรกิจ ปี 2557 ราคา 155,000 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 200,000 บาทต่อตารางวา ถนนมิตรภาพย่านเซ็นทรัล ปี 2557 ราคา 52,500 บาทต่อตารางวา ปี 2558 ราคา 100,000 บาทต่อตารางวา

ลุยตอกเข็มกลางปี 59

ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟสา��กรุงเทพ-หนองคาย พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลจีนได้เสนอพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วปานกลาง ความเร็ว 180 กม./ชม. สายหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 873 กม. เพื่อเชื่อมโยงกับรถไฟจีน-ลาว ที่ หนองคาย-เวียงจันทร์ซึ่งรัฐบาลไทย และจีน เห็นตรงกันว่า ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกันด้านการพัฒนารถไฟ เชื่อมโยงภูมิภาคนี้ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งจะสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค

ขณะที่พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าววว่าได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ให้ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2559 โดยเริ่มจาก ตอนที่ 1(กรุงเทพ- แก่งคอย) กับตอนที่ 3(แก่งคอย-นครราชสีมา) ซึ่งถือเป็นตอนที่มีความยากเนื่องจากผ่านพื้นที่หุบเขาต้องก่อสร้างอุโมงค์และทางยกระดับหลายจุด ส่วนระยะต่อไปในตอนที่ 2 (นครราชสีมา-หนองคาย) และตอนที่ 4 (แก่งคอย-มาบตาพุด) อีกทั้งได้มอบการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เร่งพัฒนาพื้นที่รอบสถานีและตามแนวเส้นทางเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,116 วันที่ 24 – 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

cr. http://www.thansettakij.com/2015/12/25/23118

[machinestheme]

เผยธุรกิจล้างรถในนอร์เวย์ใช้แรงงานข้ามชาติเยี่ยงทาส

12 ม.ค. 2015 สื่อมวลชนท้องถิ่นของนอร์เวย์เปิดเผยว่าพบธุรกิจล้างรถในนอร์เวย์จ้างงานแรงงานข้ามชาติเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ และมีสภาพการจ้างเยี่ยงแรงงานทาส จากข้อมูลของปฏิบัติการณ์ที่เป็นการร่วมมือกันของสำนักงานตำรวจนอร์เวย์ สำนักงานจัดเก็บภาษี และสำนักงานตรวจแรงงาน ที่เปิดเผยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2014 ที่ผ่านมาระบุว่ากว่าร้อยละ 90 ของพนักงานในธุรกิจล้างรถของนอร์เวย์จ้างงานงานแรงงานข้ามชาติที่ใช้แรงานกดขี่เยี่ยงทาส รวมทั้งยังใช้แรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์อีกด้วย โดยในปี 2013 เจ้าหน้าที่สามารถจับ���ุมและเนรเทศแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมายในธุรกิจล้างรถนี้ออกนอกประเทศไปถึง 47 คน ส่วนตัวเลขในปี 2014 ยังไม่ได้ทำการสรุปเนื่องจากรายงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งปฏิบัติการณ์ความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานนี้ ได้เริ่มออกตรวจสอบมาตั้งแต่ปี 2011 จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าแรงงานข้ามชาติที่เข้าเมืองผิดกฎหมายมักจะถูกส่งผ่านมาจากสเปนและอิตาลี พวกเขามักจะถูกหลอกมาว่าจะได้ทำงานที่ดี เดินทางมาพร้อมกับสายการบินราคาประหยัด แต่เมื่อมาถึงพวกเขาต้องอยู่ในสถานะที่ผิดกฎหมายไม่มีบัตรประจำตัว และรายได้ที่ส่งกลับไปให้ครอบครัวที่ประเทศบ้านเกิดนั้นก็มีน้อยมาก เพราะพวกเขามีหนี้สินที่ต้องจ่ายที่นี่เป็นจำนวนมาก ด้านสภาพการจ้างและสภาพความเป็นอยู่ของคนงานในธุรกิจล้างรถโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเหล่านี้พบว่าพวกเขาได้รับค่าจ้าง 19 โครน (ประมาณ 3.17 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นค่าแรงที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าแรงเฉลี่ยในภาคการทำความสะอาดของนอร์เวย์ที่มีค่าแรงเฉลี่ยที่ 161 (ประมาณ 26.88 ดอลลาร์) โครนต่อชั่วโมงและบางคนต้องกินนอนใช้ชีวิตในโรงล้างรถที่พวกเขาทำงาน ส่วนลูกค้าที่นำรถมาล้างจะต้องเสียเงินให้ผู้ประกอบการครั้งละ 150 โครนเลยทีเดียว อนึ่งนอร์เวย์เป็นประเทศที่ค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละอุตสาหกรรมมีอัตราไม่เท่ากันกำหนดขึ้นโดยรัฐ และชั่วโมงการทำงานของนอร์เวย์ต่อสัปดาห์อยู่ที่ 37.5 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีชั่วโมงการทำงานต่ำมากแห่งหนึ่งในโลก

[machinestheme]

“นายกฯ” ให้โอวาทเด็กสอนให้คิดเป็น ใช้ความรู้คู่คุณธรรม ฝากศธ.เร่งสร้างคนมีคุณภาพ

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 7 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ นำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ 779 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งระหว่างที่นายกฯ เดินทางเข้าตึกสันติไมตรีบรรดาผู้ปกครองและเด็กๆ มารอต้อนรับอย่างคับคั่ง ต่างตะโกนกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่และกล่าวชื่นชมผลงานรัฐบาลพร้อมกล่าวว่า “พวกเราอยากเจอนายกฯ เราทุกคนรักนายกฯ”

โดยพล.อ.ประยุทธ์ หันกลับมากล่าวคำว่า “สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ ขอบคุณทุกๆ คนมาก” พร้อมยกมือขอบคุณทุกคนที่มาคอยต้อนรับ ทั้งนี้ ตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นได้นำของขวัญมามอบให้นายกรัฐมนตรี อาทิ ภาพวาดสีน้ำมันรูปพล.อ.ประยุทธ์ พวงมาลัยจากฝีมือนักเรียน สิงห์มงคลแกะสลักด้วยไม้ด้วยเครื่องเซาะร่องไม้(ทริมเมอร์) ช้างคู่ผลิตภัณฑ์ของดีจากจังหวัดต่างๆ มะขามหวาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง ว่า มีความสุขที่ได้ต้อนรับเด็กๆ ทุกคน เพราะเด็กทุกคนคืออนาคตของชาติ การนำชื่อเสียงมาให้กับประเทศในด้านต่างๆ ถือว่าทุกคนเป็นตัวแทนของป��ะเทศ รางวัลที่ได้รับถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และขอให้เก็บความภาคภูมิใจไว้กับตัวเอง ถือเป็นเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับเยาวชนทุกคน มีหน้าที่นำพาขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคต คำขวัญวันเด็กที่ให้ไว้ว่า “ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต” นั้น ก็เพราะว่าความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนสามารถที่จะเรียนให้เท่าเทียมกันได้ ในเรื่องของคุณธรรมก็เช่นกัน เป็นบ่อเกิดของจริยธรรม ซึ่งเริ่มจากตัวเอง ครอบครัว องค์กรสังคมและประเทศ ความรู้เป็นบ่อเกิดของทุกอย่าง

นายกฯ กล่าวต่อว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้นมีความคัญของโลก วันนี้เราต้องมองอนาคต วันข้างหน้าประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาอีกมาก จึงต้องเริ่มด้วยทรัพยากรมนุษย์คือเด็กไทยทุกคน ต้องได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นส่วนสำคัญที่สุด ในการผลิตคนทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่อนาคตอย่างมีคุณภาพ ต้องเข้มแข็งทั้งกายและใจ ตามค่านิยม 12 ประการ ซึ่งเราอาจจะไม่ได้เงินทองจากค่านิยม 12 ประการ แต่สังคมจะดีขึ้น ประเทศชาติดีขึ้น ครอบครัวมีความสุข ซึ่งไม่จำเป็นต้องร่ำรวยทุกคน เช่นเดียวกับแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงคือการมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีเหตุ มีผลพอประมาณ ใช้โอกาสที่มีให้ดีที่สุด ไม่เกเร ไม่เอาเปรียบคนอื่น มีคุณธรรม ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นแผ่นดินที่ดีที่สุด เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองที่เรียกว่าแหลมสุวรรณภูมิ ซึ่งเราต้องเร่งสร้างคนเพื่อรักษาแผ่นดินนี้ไว้และพัฒนาด้วยความรัก สามัคคี มีคุณธรรม จริยธรรม วันนี้ประเทศหยุดชะงักมานานพอสมควร อาจด้วยความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน สาเหตุเกิดมาจากคน ดังนั้น ผู้บริหาร ข้าราชการ ภาคธุรกิจเอกชน ประชาชน ต้องร่วมมือพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน รัฐบาลกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ชัดเจนว่า เราจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคงและมั่งคั่งอย่างยั่งยืนใน 5 ปี ข้างหน้า จากค.ศ.2015-2020 จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับประชาคมอื่นๆ ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะเดินหน้าประเทศไปไม่ได้ และจะกลับมาสู่ความขัดแย้งเช่นเดิม มีคนมาเอารัดเอาเปรียบ มีคนเข้ามาปลูกฝังในทางที่ไม่ถูกต้อง ขณะนี้รัฐบาลจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนประเทศในวันข้างหน้า โดยไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในอนาคต รัฐบาลจะดูทุกเรื่อง การที่พวกเราทำวันนี้ อาจจะไม่ทันเวลา เนื่องจากเวลามีจำกัด แต่ก็สามารถฝากความหวังไว้กับเยาวชน ซึ่งต้องมีความคาดหวังว่าอนาคตต้องการเป็นอะไร ไม่ใช่แค่ต้องการจะรับราชการอย่างเดียว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราขาดแคลนคนหลายประเภท อาทิ ขาดแคลนข้าราชการที่มีคุณภาพ ซื่อสัตย์ โปร่งใส ไม่ทุจริต นอกจากนี้ เรายังขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยพัฒนา วิศวกร ธุรกิจการบริการ การท่องเที่ยว ยังมีความขาดแคลน ประเทศไทยต้องพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์ ประเทศมหาอำนาจทั่วไปมีนักวิทยาศาสตร์นักวิจัย 6 หมื่นคนที่สามารถผลิต วิจัย พัฒนา คนคว้านวัตกรรมใหม่ๆ ได้ ถ้าเราไม่คิดตรงนี้ประเทศไทยก็จะหยุดอยู่แค่นี้ รัฐบาลจึงพยายามส่งเสริมภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วม

“อย่าลืมว่าพ่อแม่คือพระประจำบ้าน ญาติพี่น้องคือผู้ที่หวังดี มีความหวังดี 100 เปอร์เซ็น เราต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ อย่างมีคุณค่าตั้งใจเรียนหนังสือ เมื่อเราสร้างสังคมที่ดีได้ สังคมก็จะมีความเข้มแข็ง ยั่งยืน อนาคตเป็นสิ่งที่ทุกคนหวาดหวัง อย่าท้อแท้ ท้อถอย ต้องมีคุณธรรม วันนี้เป็นห้วงเวลาแห่งความสุข ส่งความปรารถนาดีให้กัน และมองอนาคตในปีต่อไป ตั้งความหวังว่า เราจะทำตัวอย่างไรให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา ทบทวนว่าปีที่ผ่านมา ทำผิดหรือไม่ถูกต้องในจุดใด ต้องแก้ไข อย่าเอาเวลามาสนุกสนานอย่างเดียว นอกจากนี้ ขอฝากถึงการใช้โซเชียลมีเดีย และการใช้โทรศัพท์ แม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำทันสมัย แต่อย่าให้มาชี้นำเราใช้เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตได้ อย่าให้มาครอบ��ำ ทั้งเกม การพนัน ยาเสพติด เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศถอยหลัง ก่อให้เกิดอาชญากรรม ความเลวร้าย ทุกคนต้องมีสติ ทำตามค่านิยม 12 ประการ อย่าท่องอย่างเดียว”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า ในปี 2563 เราจะต้องร่วมมือกันทำให้ประเทศมีความมั่นคง ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ไทยแลนด์ปลอดภัย มีการสร้างความเข้มแข็งทั้งคน ดินแดน เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา กฎหมาย ประชาชนมีความสุข มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ส่วนอนาคตจะคิดใหม่อย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนรุ่นต่อไปตนก็ไม่อยู่แล้ว วันนี้ประเทศไทยเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ ทุกคนคือส่วนร่วม อย่าให้ใครเข้ามาปลุกปั่นให้พวกเราแตกแยก ทะเลาะเบาะแว้งอีกเด็ดขาด เราไม่มีเวลาอีกแล้วที่จะแก้ไข เรามีเวลาในช่วงนี้เท่านั้น มีเวลาในการปฏิรูประเทศช่วงนี้เท่านั้น วันนี้ช่วยไปบอกพ่อแม่ทุกคนว่าเราต้องช่วยกัน ไม่ใช่ทุกอย่างจะแก้ไขได้ภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เราต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ แม้ตนไม่อยู่ทุกคนก็ต้องทำต่อ และระหว่างการปฏิรูปทุกคนต้องไม่ทะเลาะกัน อยากให้ทุกคนมีหัวใจเหมือนนายกฯ คือมีหัวใจให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นใดทุกอย่างก็จะดีเอง เป็นมงคลกับชีวิต บ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย

“กฎหมายไม่ใช่ตัวยุติธรรมแต่เป็นเครื่องมือทำให้เกิดความยุติธรรม อยู่ที่คนใช้ ซึ่งต้องมีจริยธรรม อยากให้ทุกคนตระหนักในการมีส่วนร่วมในสังคม ไม่ประมาท วันเด็กและวันครูเป็นวันที่สำคัญ เด็กดี ครูก็ต้องดี สองอย่างนี้ต้องพัฒนาไปด้วยกัน ประเทศชาติก็จะได้ผลประโยชน์ เราเป็นทั้งหุ้นส่วนและคู่แข่งขันในประชาคมโลก ถ้าไม่เรียนหนังสือ ไม่มีทางสร้างอนาคตได้ วันนี้มีคนบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่สมาธิสั้น เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ไม่ต้องคิด ดังนั้น เราต้องคิดให้เป็นและก้าวทันโลกยุคใหม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

[machinestheme]

การเลือกซื้อ ปั๊มลม (Air Compressor)

การเลือกซื้อ ปั๊มลม (Air Compressor) ปั๊มลม หรือ เครื่องอัดอากาศ เครื่องอัดลม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Air Compressor" มีหน���าที่ในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่เราต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นพวกร้านซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั๊มลมชนิดลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องปั้มลมที่ใช้ในโรงงานส่วนมากนั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นปั๊มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า การเลือกซื้อปั้มลม เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั้มที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน และปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับไหน เช่น การทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะมีจุดแตกต่างเรื่องความต่อเนื่องของงานทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้สม่ำเสมอ เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือปั้มทำงานบ่อย ขณะที่ความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั้มลมกับแอร์บลัช บริเวณการใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บ้านชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ จุดแตกต่าง ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) ถ้าคุณต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั้มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมค่อยข้างน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมขาดตอนบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

วิธีการซื้อปั้มลมใช้เองที่บ้าน โดยที่ปั้มลมที่คนนิยมสูงสุดคือ ปั้มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR) มีหลายยี่ห้อเช่น TRYTON,OKURA, PUMA, SWAN, RAMBO, ROWEL, ANTO ให้เราเลือกจากการใช้งานของเรา 1. แรงดันลมที่ลูกค้าใช้งาน 2. ปริมาณแรงลมที่ใช้ต่อเนื่อง 3. สถานที่ใช้งาน เนื่องจากปั้มลมแต่ละหมวด จะมีเสียงดังไม่เท่ากัน 4. ลมที่ใช้งานมีความสะอาดขนาดไหน

ปั้มลมสามารถแบ่ง 6 หมวด 1. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR) 2. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR) 3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR) 4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR) 5. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR) 6. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR) เครื่องปั๊มลมหรือเครื่องอัดลมหมวดนี้ยังถูกแบบออกเป็นประเภทย่อยๆได้อีก อาทิเช่น - Belt Drive Screw Air Compressor - Direct Drive Screw Air Compressor - Variable Speed Drive Screw Air Compressor - Vacuum Screw Air Compressor - Single Stage Screw Air Compressor - Two Stage Screw Air Compressor

http://teknictools.blog.com/2014/10/20/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%A1-air-compressor/

[machinestheme]

การเลือกซื้อและเลือกใช้ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง (High Pressure Cleaners)

สำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ปั๊มอัดฉีดแรงดันสูง จะใช้สำหรับงานล้างที่ต้องการแรงดันสูงและปริมาณน้ำมาก เช่น งานปิโตรเคมี งานลอกพื้นผิว งานลอกคราบยาง งานลอกสนิม การทำความสะอาดเครื่องใช้ไม้สอยหรือสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในแทงค์ การกระเทาะหรือสกัดผิววัสดุ และยังสามารถตัดวัสดุได้อย่างสวยงามและละเอียด ยังยังมีรุ่นที่สามารถผลิตน้ำร้อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ฯลฯ โดยที่ตัวเครื่องแข็งแกร่ง รองรับงานหนัก และต่อเนื่อง สนองตอบความต้องการในเรื่องแรงดัน และปริมาณน้ำได้หลากหลาย กำลังมอเตอร์สูง พร้อมระบบหยุดอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งาน และให้ความสะดวกสบายกับผู้ใช้ ด้วยฟังก์ชั่นที่ใช้งานสะดวก ไม่ซับซ้อน ข้อควรคำนึงในการเลือกใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 1. ประเภทของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแบบใช้ไฟฟ้า ไฟฟ้าที่ใช้มีทั้ง 220 V (Single phase) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทำความสะอาดทั่วไป และ 380 V (3 phase) เหมาะสำหรับงานฉีดล้างทำความสะอาดในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแบบเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ๆ ไม่มีไฟฟ้าใช้ มีความแข็งแรงมากกว่า แต่จะมีเสียงดังจากเครื่องยนต์ และควันไอเส��ย จึงเหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้ง 2. เครื่องล้างอัดฉีดน้ำแรงดันสูงแบบน้ำร้อน / น้ำเย็น เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงระบบน้ำร้อน เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมอาหาร หรือฟาร์มปศุสัตว์ เครื่องฉีดอัดน้ำแรงดันสูงระบบน้ำเย็น เหมาะสำหรับใช้งานทั่วๆไป รวมถึงงานทำความสะอาดรถยนต์ การงานคาร์แคร์ต่างๆ 3. เปรียบเทียบสเป็คของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงหรือเครื่องล้างรถในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ โดยสังเกตจาก แรงดันน้ำ (Pressure) มีหน่วยเป็น bar หรือ PSI หมายถึง ความแรงของน้ำที่จะกระทบกับพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด อัตราการไหลของน้ำ (Water Flow Rate) มีหน่วยเป็น ลิตร/ชม. หรือ ลิตร/นาที กล่าวโดยสรุปคือ เครื่องฉีดน้ำล้างรถแรงดันสูงที่มีแรงดันน้ำ (Pressure) เท่ากัน แต่มีอัตราการไหลของน้ำ (Water Flow Rate) มากกว่า จะมีพลังในการทำความสะอาดได้ดีกว่า

http://toolselectronicblog.blogspot.com/2014/10/high-pressure-cleaners.html