#rearrangement3
Explore tagged Tumblr posts
rritsu · 9 years ago
Text
Rearrangement 3 [TMR Short-fic]
Part 1 ll Part 2
    บรรณารักษณ์หนุ่มชาวเอเชียกำลังจะก้มลงไปคว้าลังหนังสือเข้าใหม่มาถือตอนที่มีมือคู่ผอมบางเข้ามาแทรกและแย่งกล่องไปก่อนที่เขาจะทันได้แตะ เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์หันมายิ้มเผล่ให้เขาก่อนจะรีบสาวเท้าหนีไปห้องทำงานหลังเคาน์เตอร์ มินโฮตะโกนอย่างเหลืออด
    “โว้ยย ไอ้เด็กเปรต เลิกแย่งงานฉันสักที"
    “แก่แล้วก็นั่งเคาน์เตอร์ไปน่า"
    “ไอ้ปลว.."
    มินโฮยังไม่ทันพูดจบนิวท์ก็หายเข้าห้องทำงานไปแล้ว ชายหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์
    เด็กหนุ่มแวะมาที่นี่เกือบทุกอาทิตย์เป็นเวลาหลายปีแล้ว จากที่ตอนแรกแค่แวะมานั่งอ่านหนังสือเฉยๆตอนนี้กลับกลายมาเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ซะเอง แถมยังทำงานดีซะจนมินโฮเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนแย่งงานยังไงยังงั้น
    เจ้าภูตจิ๋วตัวจ้อยหน้าตาน่ารักตอนนี้กลายเป็นเด็กหนุ่มสูงโปร่ง ซึ่งมินโฮไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่านิวท์สูงแซงหน้าเขาไปแล้ว และดูเหมือนว่าตอนนี้เด็กหนุ่มจะกลายเป็นมาสคอตของห้องสมุดนี้ไปแล้ว มีเด็กผู้หญิงหลายคนที่มาห้องสมุดบ่อยๆเพราะนิวท์
    “ปลวกภูตจิ๋วกลายเป็นไอ้เด็กเปรตนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ"
    เด็กหนุ่มเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์หลังจากตรวจตราชั้นหนังสือรอบสุดท้าย เขายิ้มออกมาบางๆตอนที่เห็นมินโฮหลับฟุบอยู่กับกองเอกสาร
    “เห็นไหมล่ะ อยู่เคาน์เตอร์นั่นแหละดีแล้ว"
    นิวท์ว่าพลางไล้มือไปบนเส้นผมสีเข้ม เขาสะดุ้งตอนที่มินโฮคว้าเข้าที่ข้อมือและบีบมันอย่างแรง
    “ทำอะไรของแก ไอ้ปลวกอ่อน"
    “เปล่านี่"
    บรรณารักษ์หรี่ตามอง เขารู้สึกมาสักพักแล้วว่าช่วงนี้เด็กหนุ่มทำตัวแปลกไป ชอบแย่งงานไปทำ แถมบางทียังทำงานล่วงเวลาด้วย ไหนจะเรื่องที่แอบมาเล่นหัวเขาตอนนอนอีก ถึงปกติเขาจะหลับต่อและไม่ได้พูดอะไรแต่ก็อดสงสัยไม่ได้
    นิวท์ดึงมือกลับ สะบัดไปมาอยู่พักหนึ่ง เด็กหนุ่มบ่นพึมพำ
    “อะไรกัน เมื่อก่อนใจดีกว่านี้แท้ๆ"
    “ฉันได้ยินนะปลวก"
    เด็กหนุ่มเบะปากก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวข้างเขา เท้าคางลงกั��โต๊ะมองมินโฮนั่งกวาดข้าวของลงกระเป๋า มินโฮที่เริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะถูกมองขมวดคิ้ว
     “แกไม่กลับบ้านรึไง"
     “ก็รอมินโฮอยู่นี่ไง ไม่ได้เอาจักรยานมาไม่ใช่เหรอ"
     “แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน?"
    “ก็..เดี๋ยวฉันไปส่ง"
    มินโฮจ้องหน้าเขา เลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ
    "หา นี่ต้องการอะไร ขึ้นเงินเดือนเรอะ"
    "..เปล่า"
     นิวท์ยู่หน้า ไม่ยอมพูดอะไรอีก ดูเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังงอน มินโฮถอนหายใจก่อนจะโบกมือไล่
     “แกจะมารอกลับพร้อมฉันทำไม ฉันไม่เข้าใจ กลับไปได้แล้ว ไป๊"
     เด็กหนุ่มจ้องเขาอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง มินโฮขมวดคิ้วตอนที่อยู่ดีๆนิวท์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจลุกไปหยิบกระเป๋าหลังเคาน์เตอร์
     “…งั้นฉันกลับก่อนล่ะ เดินกลับดีๆแล้วกัน"
     “บอกตัวเองเถอะ"
     มินโฮถอนหายใจตอนมองนิวท์หมุนตัวเดินออกจากห้องสมุดไป บรรณารักษ์หนุ่มกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เขาสะพายกระเป๋าก่อนจะออกเดินตรวจตราห้องสมุดเป็นครั้งสุดท้าย บรรณารักษ์เพิ่งรู้สึกตัวว่าเดินเหม่อมาตลอดก็ตอนที่เผลอเดินไปเตะโซฟาอ่านหนังสือเข้า
     “ปลวก ทำไมมันรบกวนจิตใจขนาดนี้วะ" 
    มินโฮไม่เคยรู้สึกอยากลาออกเท่าวันนี้มาก่อน
     “อ..เอ่อ..ขอโทษนะคะ วันนี้นิวท์อยู่ไหมคะ?"
     “น่าจะเรียงหนังสืออยู่ที่หมวดศิลปะล่ะมั้งครับ"
     “ขอบคุณค่ะ!"
     “ห้ามวิ่งในห้องสมุดนะครับ!"
     มินโฮหันไปดุตอนที่เด็กสาวทำท่าเหมือนจะออกวิ่ง เธอหันกลับมาผงกหัวขอโทษก่อนจะรีบเดินหายไป บรรณารักษ์หนุ่มถอนหายใจ เขาเลิกนับไปแล้วว่าครั้งที่เท่าไหร่
     วันนี้วันวาเลนไทน์ และเพราะวันนี้ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ดังนั้นจึงมีเด็กสาวเข้ามาถามหานิวท์ตั้งแต่เช้า มินโฮที่ต้องคอยตอบคำถามจนไม่เป็นอันทำงานกระแทกนิ้วลงกับคีย์บอร์ดอย่างหงุดหงิด
     “ทีวันแบบนี้ไม่อยู่กับเคาน์เตอร์เลยนะไอ้ปลวกอ่อน"
     บรรณารักษ์หนุ่มมัวแต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่ทันสังเกตอัลบี้ที่มายืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์สักพักแล้ว
     “มินโฮ เห้ย มินโฮ"
     “หา?"
     “แกเห็นเพียกนิวท์ไหม?” มินโฮเลิกคิ้วสูงก่อนจะพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด
     อีกแล้วเรอะ
    “อะไรเนี่ย แกก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ”
     “โว้ย ใช่ที่ไหนเล่า เมื่อกี๊มีสายจากโรงพยาบาล บอกว่าพี่สาวเพียกนั่นประสบอุบัติเหตุ"
      เด็กหนุ่มนั่งอยู่กับพื้น หน้าผากพิงนาบอยู่กับชั้นหนังสือ
     “เมื่อไหร่จะหมดวันนี้สักทีเนี่ย"
     นิวท์พยายามหลบอยู่ตามชั้นหนังสือมาครึ่งวันแล้ว แต่หลบยังไงก็มีคนมาเจออยู่ดี เด็กสาวที่เจอวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนจากที่โรงเรียนไฮสคูล นิวท์ไม่เข้าใจว่าพวกเด็กผู้หญิงมาชอบเขาได้ยังไง ในเมื่อปกติแล้วเขาแทบจะไม่ได้คุยกับใครด้วยซ้ำ
     เด็กหนุ่มเตรียมจะลุกหนีตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ เขาไอออกมาเบาๆตอนที่คอเสื้อโดนรั้งจากด้านหลัง
     “ปลวก นี่ฉันเอง”
     ผู้ช่วยบรรณารักษ์เลิกคิ้วก่อนจะตวัดหน้ากลับมา มินโฮหน้าซีด ดูลุกลี้ลุกลน เขาหยุดยืนสูดลมหายใจอยู่หลายครั้งก่อนจะเริ่มพูดต่อ เด็กหนุ่มตกอยู่ในภวังค์ตอนที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมินโฮ ทุกอย่างรอบตัวดูหม่นลง รู้สึกเหมือนสมองถูกควักออกไปจากกะโหลก
     “นิ…”
     นิวท์นิ่งไป สติไม่อยู่กับตัวจนไม่ได้ยินมินโฮเรียก
     “เห้ย! นิวท์ ไปหาพี่แกสิ"
     มืออวบตบหน้าเด็กหนุ่มเบาๆ นิวท์กระพริบตาอย่างมึนงง หลังจากนั้นความกังวลที่หนักอึ้งก็ถาโถมเข้ามาจนรู้สึกแน่นหน้าอก
     “มัวรออะไรอยู่ได้ รีบไปสิโว้ย ไอ้ปลวกอ่อน"
     เด็กหนุ่มขบกรามแน่นก่อนจะเริ่มออกวิ่งไปที่ทางออก เสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นตามด้วยเสียงเครื่องยนต์คำรามที่ค่อยๆไกลออกไป 
    เป็นเวลาใกล้ก���บเวลาปิดที่มินโฮได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ บรรณารักษ์เหลียวหน้าไปมองที่ประตูพลางโยนช็อคโกแลตอีกกล่องลงไปกองรวมกับอันที่เจอก่อนหน้า มีช็อคโกแลตซุกอยู่ตามใต้โซฟาอ่านหนังสือเต็มไปหมด
     คงเป็นของนิวท์นั่นแหละ
    ประตูบานใหญ่ถูกผลักเปิดออก ร่างสูงโปร่งของนิวท์ผ่านเข้าประตูมา ใบหน้าดูอิดโรยจนน่าใจหาย เด็กหนุ่มเดินโซเซก่อนจะทิ้งตัวนอนลงกับโซฟาอ่านหนังสือตัวหนึ่ง
     “เป็นไงบ้าง กลับมาอีกทำไมเนี่ย"
     “หมดเวลาเยี่ยมแล้วน่ะ ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้จะไปไหนดี"
     “แล้วไม่อยู่เฝ้าพี่แกรึไง"
     “โทมัสดูเป็นห่วงมากน่ะ ฉันก็เลยฝากให้เฝ้าไข้แทน"
     มินโฮแทบมองไม่เห็นหน้าเขาเพราะแขนที่พาดก่ายอยู่ จะเห็นก็แต่รอยยับย่นตรงหน้าผาก บรรณารักษ์ถอนหายใจก่อนจะนั่งลงข้างโซฟา มืออวบเอื้อมไปลูบเรือนผมสีทองอย่างเก้ๆกังๆ
     “..ไม่เป็นไรนะ"
     ความเงียบแผ่ปกคลุมยาวนาน นิวท์ขยับตัวเปลี่ยนมานอนตะแคง หันหน้าให้มินโฮก่อน คว้ามือมินโฮมาก่อนจะแนบใบหน้าลงกับฝ่ามือ ดวงตาสีเข้มส��กัน แม้จะยังคงมีความเหนื่อยล้าอยู่แต่สีหน้านิวท์ก็ดูดีกว่าตอนเดินเข้ามามาก
     “ไม่เป็นไรแล้ว"
     “ให้มันจริงเถอะ"
     บรรณารักษ์ว่าพลางใช้มือข้างที่ว่างขยี้ผมสีทองจนยุ่งฟู นิวท์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือจากมือหนาของมินโฮ
     “กลับเถอะ เริ่มดึกแล้ว"
     “แล้วแก?"
     “คงอยู่นี่แหละ ขืนขี่มอเตอร์ไซค์สภาพนี้คงได้ไปนอนเป็นเพื่อนเทเรซ่าแน่"
     “แล้วตอนขามาขับมาได้ยังไงล่ะนั่น” มินโฮพึมพำพลางขมวดคิ้วยุ่ง
     “พอคิดว่าถ้ามาถึงต้องได้เจอมินโฮแน่ๆก็เลยมาถึงได้ล่ะมั้ง"
     “..."
     มินโฮไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงตอนที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ ในสถานการณ์แบบนี้เขาไม่ควรจะดีใจสิ
     ชายหนุ่มเหยียดตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะเหน็บกินขา นิวท์รั้งเขาไว้ก่อนจะได้ไปไหน
     “ตอนแรกคิดไว้ว่าจะให้ตอนหลังเลิกงาน แต่ดันมาเกิดเรื่องซะก่อน"
     เด็กหนุ่มว่าพลางล้วงมือไปหยิบบางอย่างจากในกระเป๋าเสื้อคลุมและวางมันอย่างเบามือบนอุ้งมือเขา มันเป็นที่ขั้นหนังสือทำจากโลหะวาววับ หน้าตามันเหมือนไม้เท้า ตรงปลายมีแผ่นเรซิ่นใส ภายในมีดอกไม้แห้งอยู่ กลีบดอกเป็นทรงระฆังคว่ำสีม่วงอมน้ำเงิน
     “ดอกบลูเบลล์น่ะ แถวๆบ้านเก่าฉันมีเยอะเลยล่ะ"
     “เอ่อ..แกให้ฉันทำไมน่ะ"
     “คิดว่าปกติแล้วทำไมเขาถึงให้ดอกไม้กันวันวาเลนไทน์ล่ะ"
     นิวท์พูดด้วยเสียงงัวเงียก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้ บรรณารักษ์ไม่รู้ว่าตัวเองยืนอึ้งอยู่นานแค่ไหนหรือตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ รู้แค่ว่ามันนานจนกระทั่งเด็กหนุ่มเหลียวหน้ากลับมามองเขา
     “...อึ้งขนาดนั้นเลย?"
     “…เอ่อ..ไม่รู้สิ"
     มินโฮพึมพำเหมือนคนละเมอ ใช้เวลาอยู่อีกเกือบนาทีกว่าเขาจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ ชายหนุ่มสาวเท้าข้ามห้องสมุดไป นิวท์ถอนหายใจก่อนจะหันกลับไปนอนท่าเดิม
     กะแล้วเชียว
        ผู้ช่วยบรรณารักษ์ที่เกือบจะเคลิ้มหลับสะดุ้งตื่นตอนที่ได้ยินเสียงสะบัดผ้า พอหันกลับไปดูก็เห็นมินโฮอยู่หลังเคาน์เตอร์ ถือถึงนอนสีเข้มไว้ในมือ
     “ไม่กลับรึไง"
     “..จะให้เด็กอย่างแกอยู่คนเดียวได้ไง"
     นิวท์ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่เขารู้สึกเหมือนเห็นสีเรื่อๆพาดผ่านบนใบหน้ามินโฮ
      ใช้เวลากว่าอีกอาทิตย์กว่าเทเรซ่า พี่สาวของนิวท์จะออกจากโรงพยาบาล ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาขอทำงานครึ่งวัน เด็กหนุ่มยกเวลาช่วงเย็นทั้งหมดให้���ับพี่สาว ตอนนี้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้กลับมาทำงานตามปกติ
     “ไปจัดชั้นอื่นสิโว้ย จะมาแย่งฉันทำไม” มินโฮหันมาดุ มือยังถือหนังสือที่จะเก็บค้างไว้เหนือหัว
     “แก่จนเอื้อมเก็บหนังสือไม่ไหวแล้วก็ไปนั่งทำงานที่เคาน์เตอร์เถอะน่า"
     “ไอ้เด็กเปร---"
     คำพูดทั้งหมดถูกกลืนหายไปตอนที่เด็กหนุ่มนาบริมฝีปากลงบนหน้าผากของเขา บรรณารักษ์อึ้งจนเผลอปล่อยหนังสือเล่มหนาตกลงจากมือ นิวท์คว้ามันไว้ได้ก่อนที่มันจะตกลงไปฟาดหัวมินโฮ แขนเรียวเอื้อมข้ามหัวเขาไปก่อนที่ผู้ช่วยบรรณารักษ์ดันหนังสือเก็บเข้าที่ เด็กหนุ่มเหยียดยิ้มยียวน
     “เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่านั่งเคาน์เตอร์ไปนั่นแหละดีแล้ว"    
-------------------------------------------------------------------------------------------
NewtMin one shot & short-fiction list (x)
1 note · View note