#อะแดปเตอร์
Explore tagged Tumblr posts
centershoppingonlines · 1 year ago
Text
Tumblr media
Black Friday Flash Sale คอมพิวเตอร์เลอโนโวลดแรง แจกส่วนลดมากถึง 50% ThinkPad, Legion และอื่นๆ อีกมากมาย! ด่วนจนกว่าสินค้าจะหมด ช้อปเลย! 🛍 คลิก👉https://atth.me/go/D9fbfTk7 📅 ตั้งแต่วันนี้ - 24 พ.ย. 66 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
0 notes
saleandpromotion999 · 2 years ago
Photo
Tumblr media
❗️ลดพิเศษตอนนี้❗️: Vention อะแดปเตอร์ฮับ 9 In 1 HUB USB Type-C เป็น USB 3.0 + HDMI 4K + RJ 45 + การ์ดรีดเดอร์ SD/TF + USB C HUB 3.5 มม. 🟠 Shopee : https://shope.ee/2fbY1OQoF7 ---------------------------------------- ช่วงแนะนำ | 6:00+ไอที | 12:00+อื่นๆ 🙏🏻ขอบคุณทุกท่านค่ะ 🙏🏻 ---------------------------------------- #shopee #Saleshopper #ฮับ #Hub #อะแดปเตอร์ #USB #TypeC #HDMI #RJ45 https://www.instagram.com/p/ClmqlHmSiH0/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
gkworkhard · 1 year ago
Text
แกะกล่องอะแดปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าพลาด!
อะแดปเตอร์ (Adapter) เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยเชื่อมต่อระหว่างเครื่องใช้ไม้สอยที่มีกฎระเบียบหรือมาตรฐานที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น อะแดปเตอร์สามารถช่วยทำให้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ต หรือบางทีอาจช่วยเชื่อมต่อวัสดุอุปกรณ์ที่มีพอร์ตหรือช่องเชื่อมต่อที่แตกต่าง ซึ่งทำให้เครื่องไม้เครื่องมือสามารถทำงานด้วยกันได้สบายและก็มีคุณภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในเนื้อหานี้พวกเราจะเสนอแนะเกี่ยวกับอะแดปเตอร์แบบใหม่ปัจจุบันที่ควรจะนึกถึงก่อนจะเลือกซื้อ พร้อมกับเสนอคำเสนอแนะสำหรับในการเลือกซื้อที่สมควรสำหรับคุณ จุดสำคัญของวิธีการสำหรับเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่สมควร วิธีการสำหรับเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่สมควรเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็น��ย่างมาก ด้วยเหตุว่าถ้าหากเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่ไม่เหมาะสมไหมตรงกับสิ่งที่มีความต้องการของเครื่องไม้เครื่องมือที่พวกเราใช้งาน อาจจะเป็นผลให้ไม่อาจจะใช้งานวัสดุอุปกรณ์ได้ตามเดิม นอกเหนือจากนั้นยังบางทีอาจมีผลเสียต่อคุณภาพของระบบหรือเครื่องมือที่พวกเรามีอยู่ด้วย โดยเหตุนี้แนวทางในการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ควรจะทำขั้นตอนอย่างแม่นยำและก็ถ้วนถี่ สิ่งที่ควรจะพิจารณาถึงก่อนซื้ออะแดปเตอร์ เมื่อพวกเราได้ทราบจะชนิดของอะแดปเตอร์ที่ปรารถนาแล้ว ลำดับต่อไปเป็นการพิจารณาถึงสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้: - ความเข้ากันได้ (Compatibility): ตรวจทานให้มั่นใจว่าอะแดปเตอร์ที่เลือกซื้อมีความเข้ากันได้กับเครื่องมือที่พวกเราอยากเชื่อมต่อ ดังต่อไปนี้ควรจะกระทำการวิเคราะห์เนื้อหาทางด้านเทคนิคของเครื่องมือทั้งคู่อย่าง แล้วก็วิเคราะห์ที่เนื้อหาของอะแดปเตอร์ว่าสามารถเชื่อมต่อกันได้หรือเปล่า - ความเร็ว (Speed): ถ้าหากปรารถนาใช้งานในงานที่อยากความเร็วสำหรับการรับส่งข้อมูล ดังเช่นว่า การเล่นเกมออนไลน์หรือสตรีมวิดีโอ HD ควรที่จะเลือกซื้ออะแดปเตอร์ซึ่งสามารถรองรับความเร็วสูงเพื่อมีคุณภาพสำหรับในการใช้งาน - ประสิทธิภาพ (Quality): อะแดปเตอร์ที่มีคุณภาพดีจะมีคงทนถาวรและก็เสถียรภาพสำหรับการดำเนินงาน ควรที่จะทำการเลือกซื้อจากแบรนด์ที่นิยมรวมทั้งเป็นที่นิยมในตลาด เพื่อมั่นอกมั่นใจในประสิทธิภาพรวมทั้งการใช้แรงงานในระยะยาว - การรับรอง (Warranty): พิจารณาข้อแม้การยืนยันของอะแดปเตอร์ เพื่อคุ้มครองปกป้องปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้แรงงาน ควรที่จะทำการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่มีการค้ำประกันขั้นต่ำ 1 ปีหรือมากยิ่งกว่านั้น เทคนิคสำหรับการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่ชอบใจและก็สมควร เพื่อวิธีการสำหรับเลือกซื้ออะแดปเตอร์เป็นไปอย่างตรงดวงใจและก็สมควร เว้นแต่ความเข้ากันได้แล้วก็ความเร็วของอะแดปเตอร์แล้ว ควรจะเอาอย่างกลเม็ดกลุ่มนี้: - เรียนข้อมูลและก็รีวิว: ศึกษาเล่าเรียนข้อมูลรวมทั้งรีวิวจากที่มาที่ไปน่าไว้ใจเกี่ยวกับอะแดปเตอร์ที่คุณพอใจ เสนอโดยผู้ใช้จริงที่มีความเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยทำให้คุณมีข้อมูลเยอะขึ้นสำหรับในการตกลงใจ - ปรึกษาจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ: ถ้าหากคุณยังมีความลังเลใจหรือมีคำถามเกี่ยวกับแนวทางในการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ ไม่เสียหายที่คุณขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสายงาน ที่สามารถให้ข้อมูลแล้วก็ข้อแนะนำที่มีคุณประโยชน์ให้กับคุณได้ - เช็คราคา: เทียบราคาอะแดปเตอร์ที่คุณพึงพอใจจากที่ขายหลายแหล่ง เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สมควรและก็คุ้มที่สุด
แนะนำ อะแดปเตอร์ Blue Box Wall USB Charger 1 USB-C PD20W Graphite Black Blue Box Wall USB Charger PD20W  หัวชาร์จเร็ว  สามารถชาร์จ iPhone ของคุณได้ถึง 50% ภายใน 30 นาที    มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก คุณภาพดี ฿250
Tumblr media
วิธีการสำหรับเลือกซื้ออะแดปเตอร์แบบใหม่ปัจจุบันควรจะคิดถึงชนิดของอะแดปเตอร์ที่ปรารถนา ความเข้ากันได้ ความเร็ว ประสิทธิภาพ แล้วก็การรับรอง นอกเหนือจากนี้ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลรวมทั้งรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับในการตกลงใจ ถ้าทำความเข้าใจและก็ทำความรู้จักกับอะแดปเตอร์ใหม่ปัจจุบัน วิธีการสำหรับเลือกซื้อจะง่ายดายมากยิ่งขึ้นและก็ได้โอกาสที่คุณจะได้รับอะแดปเตอร์ที่ตรงตามความอยากของคุณ
0 notes
thaisloveshoppingblog · 2 years ago
Link
0 notes
meisenth · 5 years ago
Photo
Tumblr media
ห่างหายกันไปนานเลย วันนี้แอดมินกลับมาแล้ว พร้อมกับแจกคูปองส่งฟรีทั่วไทย 🚛🆓ให้สิทธิ์แค่ 100 คนเท่านั้น‼️ 📲🛍เอาใจขาช้อป ช่วง 12.12 ลดกระหน่ำส่งท้ายปี ช้อปเท่าไหร่ก็ไม่หวั่น ไม่กังวลเรื่องค่าส่ง 🎉 🗓คูปองเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค 2020 เลยจ้าา 📌Meisen มีสินค้าพร้อมส่งเสมอ #เคสiPhone11 #เคสiPhoneXSMax #อะแดปเตอร์ #สายชาร์จ 📸ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.meisenthailand.com #iPhone #iPhone11 #iPhone11Pro #iPhone11ProMax #เคส #เคสiPhone #เคสไอโฟน #เคสไอโฟน11 #iPhone11TH #Commy #คอมมี่ #เคสใส #เคสใสนิ่ม #เคสนิ่ม #เคสซิลิโคน #เคสแข็ง https://www.instagram.com/p/B5xZFhBHbj9/?igshid=13i93eojfevn4
0 notes
eversuccess1me-blog · 5 years ago
Text
10 อันดับมือถือที่ดีที่สุด 2020
10 อันดับมือถือที่ดีที่สุด 2020
รีวิวโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสามารถช่วยแนะนำสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพดี สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และโทรศัพท์มือถือเปิดตัวใหม่มีมากมาย ซึ่งอัพเดทไปในแต่ละปี แต่ละการอัพเดทก็จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงความสามารถใหม่ๆ ของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนให้สามารถ���อบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้ชีวิตของผู้ใช้อย่างเราสนุกและมีสีสันขึ้น ไปจนถึงช่วยในการทำงานได้ลื่นไหลขึ้นอีกด้วย โดยนอกจากการรับสายและการโทรออก ก็มีแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ถูกพัฒนาควบคู่มาให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน  โทรศัพท์ที่ดีที่สุด
ถ้าคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด เหมาะกับการใช้งานของคุณ ตอบโจทย์ความต้องการของด้วยสเปคที่สูง จะดูหนังก็สนุก เล่นเกมส์ก์ลื่น หรือทำงานสะดวก เรามีรีวิวมือถือ รีวิว 10 สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด และมาแรง ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานทุกรูปแบบมาฝาก เพื่อให้คุณได้ลองศึกษาและเลือกโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับคุณมากที่สุด โดยเปรียบเทียบจากสเปคสินค้าในแต่ละด้าน พร้อมความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง
iPhone 11 Pro
ตัวใหม่มาแรงขณะนี้และเป็นที่นิยมกันอย่างมาก จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก IPONE 11 มาด้วยความล้ำสมัยอย่างไม่มีใครเกินค่ะ ข้อมูลตัวเครื่อง เป็นจอแสดงผล IPS-LCD 24-bit 16 ล้านสี ทำให้ง่ายต่อการพกพาเป็นอย่างมาก เพียงแค่มือถือเครื่องเดียวก็ตอบโจทย์การถ่ายภาพสวยและคมชัดไม่ต่างไปจากกล้องตัวใหญ่ๆ เลยค่ะ อีกทั้งสามารถรองรับโหมดกลางคืน (Night Mode) หน้าจอมุมมองกว้าง (Wide Display) กว้างได้มากถึง  6.1 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียดของเขาจะอยู่ที่ 828 x 1792 พิกเซล (326 ppi) นับว่าละเอียดมากๆ เลยค่ะ
และเป็นข่าวดีสำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบไปดูจอกระจก กันแตก ใส่ฟังก์ชั่นเสริมเยอะๆ สำหรับรุ่นนี้เขาออกแบบมาเป็นประเภทจอ หน้าจอกระจกแข็งที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย พร้อมทั้งระบบเซ็นเซอร์ก็รองรับการทำง���นได้อย่างอัจฉริยะมากเลยค่ะ ความล้ำสมัยของเขายังรองรับระบบจดจำใบหน้า (Face Detection) และการตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer) ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity) ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope) ระบบวัดความกดอากาศ (Barometer)
ส่วนทางเทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล เป็นระบบ 2G: EDGE/GPRS 3G และ 4G สามารถใช้งาน Nano-SIM และใช้งาน eSIM รองรับ 2 ซิมการ์ด เป็นเรื่องว้าวมากสำหรับใครที่มองหาไอโฟนฟังก์ชั่นเจ๋งและยังรองรับสองซิมนะคะ พกพาไปไหนเพียงเครื่องเดียวก็สะดวกอย่างง่ายดายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็มีระบบปฏิบัติการ (OS, CPU) ระบบปฏิบัติการ: iOS 13 พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล : A13 Bionic chipหน่วยความจำ RAM 4GB ROM 64GB และระบบเชื่อมต่อการหาตำแหน่ง: Assisted GPS WiFi 802.11 a/b/g/n/ac พร้อมทั้งมีจุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot) เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct) และ Bluetooth 5.0 USB Lightning
ส่วนทางฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย เอาใจสายถ่ายภาพกันมาแบบเต็มๆ ค่ะ เขามีฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง (Red-eye Reduction) พร้อมทั้งระบบซูมดิจิตอล 5x เท่า (5xx Digital Zoom) และระบบซูมออฟติคอล 2x เท่า (2xx Optical Zoom) สามารถบันทึกวีดีโอระดับ HD และบันทึกวีดีโอระดับ 4K ด้านของเสียงนั้นมีลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers) และ ระบบเสียง Dolby Atmos อย่างดีทีเดียวค่ะ การรองรับแบตเตอรี่เทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ มีระบบชาร์จไร้สายในตัว แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-ion 3,110 mAh (Standard Battery)
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada.co.th
Samsung Galaxy Note 10 Plus
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note นี้นับว่าเป็นสิ่งที่ล้ำไม่มีใครเกินเช่นกัน ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม (5G 198 กรัม) หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot ขณะที่กล้องหลัง Quad lens มีเลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2 เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1เลนส์ชัดลึก DoF พร้อมทั้งชิปประมวลผล Exynos 9825 RAM 12GB ROM 256GB UFS 3.0 (รุ่น 5G 256GB/512GB/1TB) รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB พร้อมทั้งระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง) แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W (อะแดปเตอร์ 45W แยกจำหน่าย) ชาร์จไร้สาย 20W PowerShare 15W ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid slot การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68 ขายในไทย 3 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีขาว Aura White, สีดำ Aura Black
สำหรับรุ่นนี้นะคะ ออกมาโดยจะมีให้เลือก 2 ขนาด สำหรับ Note10 จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.3 นิ้ว และ Note10+ จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.8 นิ้ว ขนาดใหญ่กว่า Note9 รุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 นิ้ว แต่ตัวเครื่องนั้นบางลงเหลือ 7.9 มิลลิเมตร จาก 8.8 มิลลิเมตร เป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Ultrasonic แบบเดียวกันกับ Galaxy S10 ซึ่งหน้าจอของ Note10+ นี้ ทาง DisplayMate ได้ให้คะแนนหน้าจอไว้ที่ A+ ถือเป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตอนนี้
นอกจากตัวเครื่องจะบางลงแล้ว ยังตัดปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวาของตัวเครื่องออก ย้ายมาใช้งานร่วมกับปุ่ม Bixby โดยจะทำงานเป็นปุ่ม Power เป็นหลัก และสามารถตั้งค่าสำหรับใช้งานผู้ช่วย Bixby เพิ่มเติมกันได้ และน่าเสียดายที่รุ่นนี้ตัดช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไป แต่ก็ได้แบตเตอรี่เพิ่ม 100mAh
กาแลคซี่โน้ต ย่อมคู่กับปากกา S Pen มาในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงให้มีความสามารถมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์การจด การเขียนต่างๆ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานได้ทุกที่ทุกเวลามากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแปลงข้อความที่เราจดใน Samsung Notes มาเป็นตัวอักษร ซึ่งสามารถก๊อปปี้ส่งต่อ หรือจะแปลงแล้ว export ออกมาเป็นไฟล์ MS Word หรือ PDF ก็ได้ จากที่เมื่อก่อนจะต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ตามหลัง ใน Note10+ ก็แค่แปลง แล้วก็มีแก้ไขบางคำบางตัวอักษรที่ไม่สามารถอ่านลายมือของเราได้จริงๆ
Screen off memo ก็มีการเพิ่มสีให้เลือกใช้ถึง 5 สี โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกสีของตัวเครื่องแล้ว สามารถครีเอทสร้างสรรค์ได้ตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อคหน้าจอ ในส่วนความแม่นยำของการแปลงตัวเขียนมาเป็นตัวอักษรนั้น ยกให้มีความแม่นยำที่สูงมาก เพราะมีการผิดแค่ไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้น และตัวที่ผิด ก็จะเป็นการเขียนที่ไม่ชัดเจน หากต้องการให้แปลงตัวอักษรง่ายขึ้น สระ วรรณยุกต์ และตัวอักษร จะต้องไม่ชิดติดกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน S Pen ควบคุมการทำงานกล้องได้มากขึ้นกว่าการเป็นรีโมทชัตเตอร์ โดยทางซัมซุงได้ใส่เซ็นเซอร์ gyroscope เข้ามาเพื่อให้เราออกแอคชั่นต่างๆ ในการควบคุมการทำงานของโหมดกล้อง ซึ่งเรียกว่า Air actions
ในการถ่ายรูป ตัวกล้องยังมีฟีเจอร์ Shot suggestion เป็น��ารแนะนำการถ่ายรูปซึ่งจะช่วยให้องค์ประกอบของภาพดีขึ้น โดย AI Machine Learning เรียนรู้ภาพถ่ายมากกว่า 100,000,000 ภาพมาคอยแนะนำ ตรงนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูปซึ่งได้คอยเรียนรู้การจัดวางองค์ประกอบของภาพได้ และฟีเจอร์นี้ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ หรือเลือกปิดการใช้งานก็ได้เช่นกัน
เป็นสมาร์ทโฟนที่ปรับปรุงเพื่อไลฟ์สไตล์คนทำงานและไลฟ์สไตล์ความบันเทิงได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถใช้ปากกาจดแล้วนำไปใช้งานต่อไปรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องมาพิมพ์สรุปใหม่ภายหลัง ตัวกล้องก็ทำได้ดีขึ้นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว อีกทั้งยังตัดต่อวิดีโอในเครื่องได้ดีขึ้น รวมถึงลูกเล่นที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอก็ทำได้มากขึ้นเช่นกัน หน้าจอใหญ่ สวย คมชัด ใช้งานแล้วสบายตา
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า :  Lazada
Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+
สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่าเป็นโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุด มีหน้าจอ Super AMOLED ที่ดีที่สุด พร้อมกล้องที่มีคุณภาพ มีช่องเก็บหูฟังแบบขยายได้ และมีการชาร์จแบบไร้สาย รวมไปถึงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ขนาดตัวเครื่อง 149.9 x 70.4 x 7.8 มิลลิเมตร หน้าจอ Dynamic AMOLED หน้าจอแบบ Infinity-O ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3040 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 กระจก Gorilla Glass 6 ระบบสแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic Fingerprint Sensor (เทคโนโลยีการสแกน 3 มิติ) ชิปเช็ต Exynos 9820 แรม/พื้นที่จัดเก็บข้อมูล  8GB/128GB, 8GB/512GB
กล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/1.5, OIS, มุมกว้าง 77 องศา) +เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 123 องศา) + เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง f/2.4, OIS,  ซูม 2x, มุมกว้าง 45 องศา)
กล้องหน้า Selfie Camera ความละเอียด 10MP Dual Pixel AF รูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI และการเชื่อมต่อพอร์ต USB-C มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และระบบกันน้ำมาตรฐาน IP68 ค่ะ
แบตเตอรี : 3,400 mAh รองรับ Fast charging, Fast Wireless Charging 2.0 และเทคโนโลยี Wireless PowerShare
เรื่องดีไซน์กันก่อน หน้าจอมาเป็นแบบจอเจาะรู หรือที่เรียกว่า Infinity-O ซึ่งในคลิปเปิดตัวทางซัมซุงได้บอกไว้ว่าไม่อยากให้ซ้ำกับใคร (เทรนด์หน้าจอ Notch และ Rain drop) ก็เลยมีการนำหน้าจอแบบนี้มาใช้ ซึ่งทำให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีการใ���้หน้าจอ AMOLED แบบเจาะรู
ทางด้านการแสดงผลของหน้าจอ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับการแสดงผลด้วย HDR10+ และมีสีสมจริงที่เหมือนตาเห็นมากที่สุด (0.4 JNCD) มี Contrast 2,000,000 : 1 ความสว่าง 800 nits และที่ดีที่สุดก็คือมีระบบ AI ที่ลดแสงสีฟ้าลง 42% โดยที่ไม่ทำให้จอเหล��อง ทำให้เรายังมองเห็นสีสันบนหน้าจอได้สมจริงมากที่สุด
การใช้หน้าจอแบบนี้ทำให้ลดขนาดตัวเครื่องลงมาได้ เพราะไม่ต้องมีขอบหน้าจอด้านบน มีความหนาเพียงแค่ 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม ใครที่ใช้ Galaxy Note 8, Note 9 หรือรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S9+ มาจับจะรู้สึกได้ว่าเบากว่าเดิมมาก
ตัวฟิล์มกันรอยก็ติดมาให้เลย เหตุเพราะรุ่นนี้ได้เปลี่ยนการสแกนลายนิ้วมือมาไว้ใต้หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Ultrasonic Fingerprint Sensor ที่จะมีปัญหากับการใช้งานเมื่อติดฟิล์มกระจก ทางซัมซุงก็เลยทำการติดมาให้เลย เปิดกล่อง เปิดเครื่อง ก็ใช้งานได้ทันที ส่วนข้อดีก็คือสามารถสแกนลายนิ้วมือได้แม้นิ้วเปียกน้ำ การสแกนลายนิ้วมือแบบนี้จะเป็นการใช้คลื่นเสียงมาช่วยสแกนแบบ 3D ต่างจากเดิมที่เป็นแบบ 3D นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องของความปลอดภัยเพราะไม่สามารถใช้ลายนิ้วมือปลอมมาสแกนได้
สีที่ได้มาเป็นสี Prism Black และ Prism White หลังจากช่วงที่ผ่านมาเรามักจะเจอสมาร์ทโฟนฝาหลังไล่เฉดสีสวยๆ แต่สำหรับ Galaxy S10+ และ Galaxy S10 นี้แตกต่างออกไป สี Prism White จะแสดงสีแตกต่างกันไปเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ทำให้โดดเด่นและสวยงามมากขึ้น และขอบอะลูมิเนียมสีเงินช่วยทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรามากขึ้น ส่วนสี Prism Black ก็เป็นสีดำสวยงามแบบเรียบๆ ใครที่ไม่อยากเหมือนใคร แนะนำสี Prim White และ Prism Green ส่วนถ้าอยากได้ให้ต่างออกไปอีกก็ต้องไปรุ่นพิเศษ Ceramic กันเลย
ถาดใส่ซิมการ์ดยังเป็นแบบไฮบริดจ์ ต้องเลือกว่าจะใช้ซิมการ์ดคู่กับเมมโมรี่การ์ดหรือจะใช้งาน 2 ซิม
จุดเด่นของรุ่นนี้คนชอบถ่ายรูปน่าจะชอบมากขึ้น กล้องหลังตัวใหม่ มีมา 3 เลนส์ แต่ละเลนส์ก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น อยากเก็บภาพมุมกว้างก็ใช้เลนส์ Ultrawide ที่ทำให้ได้ภาพมุมกว้างขึ้น อยากซูมเข้าไปก็ใช้เลนส์ Telephotos ที่ซูมได้ 2x แบบไม่เสียรายละเอียด แต่สิ่งที่ช่วยทำให้ถ่ายรูปได้สนุกขึ้นก็คือ ระบบ AI ที่ช่วยปรับภาพให้เข้ากับวัตถุที่เราถ่าย ซึ่งเรียกว่า Scene Optimizer ในรุ่นใหม่นี้มีการเพิ่มซีนเข้ามาอีก 10 ซีน เป็นทั้งหมด 30 ซีน
และยังมี Shot suggestion มีการแนะนำการถ่ายรูปซึ่งจะช่วยให้องค์ประกอบของภาพดีขึ้น ทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น โดย AI Machine Learning เรียนรู้ภาพถ่ายมากกว่า 100,000,000 ภาพมาคอยแนะนำ ตรงนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูป พร้อมทั้งการรองรับระบบ BRIGHT NIGHT ถ่ายภาพกลางคืน ถือว่ากล้องของ Galaxy S10+ และ Galaxy S10 ทำได้ดี ไม่ผิดหวัง
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : lazada
Samsung Galaxy Note 10 Plus
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note นี้นับว่าเป็นสิ่งที่ล้ำไม่มีใครเกินเช่นกัน ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม (5G 198 กรัม) หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot ขณะที่กล้องหลัง Quad lens มีเลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2 เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1เลนส์ชัดลึก DoF พร้อมทั้งชิปประมวลผล Exynos 9825 RAM 12GB ROM 256GB UFS 3.0 (รุ่น 5G 256GB/512GB/1TB) รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB พร้อมทั้งระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง) แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W (อะแดปเตอร์ 45W แยกจำหน่าย) ชาร์จไร้สาย 20W PowerShare 15W ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid slot การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68 ขายในไทย 3 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีขาว Aura White, สีดำ Aura Black
สำหรับรุ่นนี้นะคะ ออกมาโดยจะมีให้เลือก 2 ขนาด สำหรับ Note10 จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.3 นิ้ว และ Note10+ จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.8 นิ้ว ขนาดใหญ่กว่า Note9 รุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 นิ้ว แต่ตัวเครื่องนั้นบางลงเหลือ 7.9 มิลลิเมตร จาก 8.8 มิลลิเมตร เป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED ความละเอียด QHD+ รองรับ HDR10+ สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Ultrasonic แบบเดียวกันกับ Galaxy S10 ซึ่งหน้าจอของ Note10+ นี้ ทาง DisplayMate ได้ให้คะแนนหน้าจอไว้ที่ A+ ถือเป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตอนนี้
นอกจากตัวเครื่องจะบางลงแล้ว ยังตัดปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวาของตัวเครื่องออก ย้ายมาใช้งานร่วมกับปุ่ม Bixby โดยจะทำงานเป็นปุ่ม Power เป็นหลัก และสามารถตั้งค่าสำหรับใช้งานผู้ช่วย Bixby เพิ่มเติมกันได้ และน่าเสียดายที่รุ่นนี้ตัดช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไป แต่ก็ได้แบตเตอรี่เพิ่ม 100mAh
กาแลคซี่โน้ต ย่อมคู่กับปากกา S Pen มาในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงให้มีความสามารถมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์การจด การเขียนต่างๆ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานได้ทุกที่ทุกเวลามากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแปลงข้อความที่เราจดใน Samsung Notes มาเป็นตัวอักษร ซึ่งสามารถก๊อปปี้ส่งต่อ หรือจะแปลงแล้ว export ออกมาเป็นไฟล์ MS Word หรือ PDF ก็ได้ จากที่เมื่อก่อนจะต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ตามหลัง ใน Note10+ ก็แค่แปลง แล้วก็มีแก้ไขบางคำบางตัวอักษรที่ไม่สามารถอ่านลายมือของเราได้จริงๆ
Screen off memo ก็มีการเพิ่มสีให้เลือกใช้ถึง 5 สี โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกสีของตัวเครื่องแล้ว สามารถครีเอทสร้างสรรค์ได้ตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อคหน้าจอ ในส่วนความแม่นยำของการแปลงตัวเขียนมาเป็นตัวอักษรนั้น ยกให้มีความแม่นยำที่สูงมาก เพราะมีการผิดแค่ไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้น และตัวที่ผิด ก็จะเป็นการเขียนที่ไม่ชัดเจน หากต้องการให้แปลงตัวอักษรง่ายขึ้น สระ วรรณยุกต์ และตัวอักษร จะต้องไม่ชิดติดกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน S Pen ควบคุมการทำงานกล้องได้มากขึ้นกว่าการเป็นรีโมทชัตเตอร์ โดยทางซัมซุงได้ใส่เซ็นเซอร์ gyroscope เข้ามาเพื่อให้เราออกแอคชั่นต่างๆ ในการควบคุมการทำงานของโหมดกล้อง ซึ่งเรียกว่า Air actions
ในการถ่ายรูป ตัวกล้องยังมีฟีเจอร์ Shot suggestion เป็นการแนะนำการถ่ายรูปซึ่งจะช่วยให้องค์ประกอบของภาพดีขึ้น โดย AI Machine Learning เรียนรู้ภาพถ่ายมากกว่า 100,000,000 ภาพมาคอยแนะนำ ตรงนี้เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูปซึ่งได้คอยเรียนรู้การจัดวางองค์ประกอบของภาพได้ และฟีเจอร์นี้ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ หรือเลือกปิดการใช้งานก็ได้เช่นกัน
เป็นสมาร์ทโฟนที่ปรับปรุงเพื่อไลฟ์สไตล์คนทำงานและไลฟ์สไตล์ความบันเทิงได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถใช้ปากกาจดแล้วนำไปใช้งานต่อไปรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องมาพิมพ์สรุปใหม่ภายหลัง ตัวกล้องก็ทำได้ดีขึ้นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว อีกทั้งยังตัดต่อวิดีโอในเครื่องได้ดีขึ้น รวมถึงลูกเล่นที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอก็ทำได้มากขึ้นเช่นกัน หน้าจอใหญ่ สวย คมชัด ใช้งานแล้วสบายตา
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า :  Lazada
OnePlus 7 Pro
ดีไซน์กระจกหน้าหลังสวยงามดูเรียบหรู ���ัสดุที่นำมาใช้งานในรุ่นนี้เวลาจับแล้วให้ความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมหรูหราขึ้นมาทันที ตัวเครื่องยังมีดีไซน์ขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับขอบโค้งนี้จะโค้งเข้ากับอุ้งมือเวลาหยิบจับใช้งานแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเครื่องกว้างเลย ทั้งนี้จริงๆแล้วมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่มาก และถ้าใครที่ไม่ชอบใช้งานแบบเปลือยๆ ภายในกล่องก็จะแถมเคสใสมาให้ใช้งานกันด้วย และมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้เลย มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทาเงา Mirror Grey, สีฟ้า Nebula Blue และ สีครีม Almond ซึ่งสีที่เราได้มาทดสอบก็คือ สีเทาเงา Mirror Grey นั่นเอง
สำหรับรุ่นนี้ได้มีการพัฒนาหน้าจอให้ดีขึ้นต่อผู้ใช้งานมากขึ้น การันตีโดยคะแนนการทดสอบหน้าจอระดับ A+ จาก Display Mate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพแสดงผลชั้นนำของโลก หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ดีไซน์ขอบจอโค้งและบาง ไร้รอยบาก มีความละเอียด Quad HD+ 3,120 x 1,440 พิกเซล (516ppi) รองรับ HDR 10+ อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ที่ให้ความคมชัดและสีสันที่สมจริง และมีรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้การแสดงผลหน้าจอที่เนียนตาสวยงามไหลลื่นและยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกว่าหน้าจอปกติบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
ค่ารีเฟรชเรตระดับ 90Hz นี้มีผลต่อการเล่นเกมเช่นเดียวกัน การทัชหน้าจอเพื่อบังคับตัวละครในเกมต่างๆ เมื่อมีค่ารีเฟรชเรตที่สูงจึงทำให้มีการตอบสนองต่อการทัชหน้าจอได้ดีกว่าหน้าจอปกติบนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ส่วน HDR10+ นี้จะช่วยให้คนที่ชอบดูภาพยนตร์, ซีรีส์ คลิปวิดีโอต่างๆ ผ่าน Netflix จะทำให้เรารับชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เพราะหน้าจอจะแสดงผลคมชัดสีสันสวยงามสมจริงมากกว่าหน้าจอปกติของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ รวมถึงระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงดีมีมิติมากขึ้น หากต้องการใช้หูฟังบลูทูธก็รองรับ aptX HD อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Night Mode 2.0 ที่จะมาช่วยถนอมสายตาเวลาใช้งานสมาร์ทโฟนในที่แสงน้อยหรือที่มืด จะมีการช่วยตัดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาออกจากหน้าจอ ตรงนี้ถือว่า OnePlus นั้นเข้าใจและใส่ใจรายละเอียดในการใช้งานของเราๆ กันเลย และด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ OnePlus 7 Pro กลายเป็นผู้นำทางด้านหน้าจอบนสมาร์ทโฟนแบบล้ำสมัยไปแล้ว
เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เทียบเท่าระยะเลนส์ 78 มม. รูรับแสงกว้าง f/2.4 ขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 1µm พิกเซล มีระบบลดการสั่นไหว OIS สามารถซูมออปติคอลได้ 3 เท่า รองรับการซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 10 เท่า ส่วนการถ่ายวิดีโอ ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ระดับ 4K 30/60 fps และ 1080P 30/60 fps ใช้งานง่ายสลับการใช้เลนส์หลัก, เลนส์เทเลโฟโต้ และเลนส์มุมกว้างได้ง่ายดายเพียงแค่แตะที่ไอค่อนเท่านั้น รวมถึงการเปลี่ยนโหมดก็เพียงแค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา การโฟกัสต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และยังมีโหมด Portrait, Nightscape, Time-lapse, Slow motion และ Panorama ไว้ให้ใช้งาน
แบตเตอรี่ที่ให้มา 4,000mAh สามารถใช้งานทั่วไป เล่นเกมบ้าง เล่น Facebook, LINE, Instagram ก็สามารถอยู่ได้ทั่งวัน อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี WARP Charge 30 ชาร์จเร็ว 30W กับอะแดปเตอร์ที่มาในกล่อง สามารถชาร์จจาก 0% เพียง 20 นาที ได้ถึง 48% และยังชาร์จได้เร็วแม้ว่าจะมีการชาร์จไปพร้อมกับการเล่นเกม
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
OnePlus 7 Pro
ดีไซน์กระจกหน้าหลังสวยงามดูเรียบหรู วัสดุที่นำมาใช้งานในรุ่นนี้เวลาจับแล้วให้ความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมหรูหราขึ้นมาทันที ตัวเครื่องยังมีดีไซน์ขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับขอบโค้งนี้จะโค้งเข้ากับอุ้งมือเวลาหยิบจับใช้งานแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเครื่องกว้างเลย ทั้งนี้จริงๆแล้วมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่มาก และถ้าใครที่ไม่ชอบใช้งานแบบเปลือยๆ ภายในกล่องก็จะแถมเคสใสมาให้ใช้งานกันด้วย และมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้เลย มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทาเงา Mirror Grey, สีฟ้า Nebula Blue และ สีครีม Almond ซึ่งสีที่เราได้มาทดสอบก็คือ สีเทาเงา Mirror Grey นั่นเอง
สำหรับรุ่นนี้ได้มีการพัฒนาหน้าจอให้ดีขึ้นต่อผู้ใช้งานมากขึ้น การันตีโดยคะแนนการทดสอบหน้าจอระดับ A+ จาก Display Mate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพแสดงผลชั้นนำของโลก หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ดีไซน์ขอบจอโค้งและบาง ไร้รอยบาก มีความละเอียด Quad HD+ 3,120 x 1,440 พิกเซล (516ppi) รองรับ HDR 10+ อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ที่ให้ความคมชัดและสีสันที่สมจริง และมีรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้การแสดงผลหน้าจอที่เนียนตาสวยงามไหลลื่นและยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกว่าหน้าจอปกติบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
ค่ารีเฟรชเรตระดับ 90Hz นี้มีผลต่อการเล่นเกมเช่นเดียวกัน การทัชหน้าจอเพื่อบังคับตัวละครในเกมต่างๆ เมื่อมีค่ารีเฟรชเรตที่สูงจึงทำให้มีการตอบสนองต่อการทัชหน้าจอได้ดีกว่าหน้าจอปกติบนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ส่วน HDR10+ นี้จะช่วยให้คนที่ชอบดูภาพยนตร์, ซีรีส์ คลิปวิดีโอต่างๆ ผ่าน Netflix จะทำให้เรารับชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เพราะหน้าจอจะแสดงผลคมชัดสีสันสวยงามสมจริงมากกว่าหน้าจอปกติของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ รวมถึงระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงดีมีมิติมากขึ้น หากต้องการใช้หูฟังบลูทูธก็รองรับ aptX HD อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Night Mode 2.0 ที่จะมาช่วยถนอมสายตาเวลาใช้งานสมาร์ทโฟนในที่แสงน้อยหรือที่มืด จะมีการช่วยตัดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาออกจากหน้าจอ ตรงนี้ถือว่า OnePlus นั้นเข้าใจและใส่ใจรายละเอียดในการใช้งานของเราๆ กันเลย และด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ OnePlus 7 Pro กลายเป็นผู้นำทางด้านหน้าจอบนสมาร์ทโฟนแบบล้ำสมัยไปแล้ว
เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เทียบเท่าระยะเลนส์ 78 มม. รูรับแสงกว้าง f/2.4 ขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 1µm พิกเซล มีระบบลดการสั่นไหว OIS สามารถซูมออปติคอลได้ 3 เท่า รองรับการซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 10 เท่า ส่วนการถ่ายวิดีโอ ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ระดับ 4K 30/60 fps และ 1080P 30/60 fps ใช้งานง่ายสลับการใช้เลนส์หลัก, เลนส์เทเลโฟโต้ และเลนส์มุมกว้างได้ง่ายดายเพียงแค่แตะที่ไอค่อนเท่านั้น รวมถึงการเปลี่ยนโหมดก็เพียงแค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา การโฟกัสต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และยังมีโหมด Portrait, Nightscape, Time-lapse, Slow motion และ Panorama ไว้ให้ใช้งาน
แบตเตอรี่ที่ให้มา 4,000mAh สามารถใช้งานทั่วไป เล่นเกมบ้าง เล่น Facebook, LINE, Instagram ก็สามารถอยู่ได้ทั่งวัน อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี WARP Charge 30 ชาร์จเร็ว 30W กับอะแดปเตอร์ที่มาในกล่อง สามารถชาร์จจาก 0% เพียง 20 นาที ได้ถึง 48% และยังชาร์จได้เร็วแม้ว่าจะมีการชาร์จไปพร้อมกับการเล่นเกม
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Google Pixel 4 XL
ของดีของเด็ดจาก Google ตัวเครื่องจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ Just Black, Clearly White และ Oh So Orange ที่เป็นสีพิเศษสำหรับรุ่นนี้ โดยตัวเครื่องที่ใช้ในการพรีวิวครั้งนี้ก็คือ Pixel 4 สี Oh So Orange และ Pixel 4 XL สี Cleary White นั่นเอง จะเห็นว่ากล่องของทั้ง 2 รุ่นมีขนาดเท่ากันเป๊ะๆ จุดที่แตกต่างกันก็คือชื่อรุ่นและภาพตัวเครื่องที่อยู่บนกล่อง โดยในกล่องประกอบไปด้วยตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 18W, สาย USB-C, หัวแปลง USB-A เป็น USB-C และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น + เข็มจิ้มถาดซิม สำหรับอะแดปเ���อร์จ่ายไฟ 18W ที่ให้มาก็จะจ่ายไฟ 5V/3A และ 9V/2A
ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับ Android 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด และใช้ Qualcomm Snapdragon 855 ที่เป็น 64-bit Octa-core โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.84 GHz + 1.78 GHz ที่มาพร้อมกับ Qualcomm Adreno 640 ส่วน RAM ก็ให้มามากถึง 6GB และความจุสำหรับเก็บข้อมูลจะมีให้เลือกระหว่าง 64GB และ 128GB
สำหรับ Pixel 4 นั้นจะมีการดีไซน์ตัวเครื่องที่ต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะในรุ่นนี้ผิวของตัวเครื่องจะใช้วัสดุผิวด้าน (Matte) ทั้งหมด ไม่ได้เป็นผิวเงา (Glossy) บางส่วนเหมือนรุ่นก่อนๆ และด้านข้างตัวเครื่องใช้เป็นสีดำที่เป็นผิวด้านไม่ว่าตัวเครื่องจะเป็นสีใดก็ตาม
ปุ่มด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องไมโครโฟน, USB-C 3.1 และช่องลำโพง (เรียงตามลำดับจากซ้ายไปขวา) ซึ่งก็แอบเสียใจเล็กน้อยที่รุ่นนี้ย้ายลำโพงมาอยู่ใต้เครื่องเหมือนกับ Pixel 3A แล้ว ส่วนช่องหูฟัง 3.5mm นั้น อย่าไปถามหาเลย ด้านข้างฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องใส่ถาดซิมแบบ Nano SIM และรุ่นนี้ก็รองรับ e-SIM ได้เหมือนเดิมนะ ส่วนด้านข้างฝั่งขวาจะมีแค่ปุ่ม Power และ Volume เท่านั้น และสำหรับปุ่ม Power ถ้าเป็นเครื่องสี Just Black จะได้ปุ่มเป็นสีขาว ส่วนเครื่องสี Clearly White จะได้ปุ่มเป็นสีส้มแบบสีของตัวเครื่อง Oh So Orange ส่วนตัวเครื่องสี Oh So Orange จะได้ปุ่มที่มีสีอ่อนกว่าสีตัวเครื่องหน่อยนึง กล้องหน้า 8MP, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, ช่องลำโพง และ Radar Sensor สำหรับ Motion Sense กล้องหลังจะมี 2 ตัวด้วยกันคือเลนส์ปกติความละเอียด 12.2 MP รูรับแสง ƒ/1.7 และเลนส์เทเล 16 MP รูรับแสง ƒ/2.4 โดยกล้องหลังจะมีระบบกันสั่นและ Spectral + Flicker Sensor สำหรับแก้ปัญหาการถ่ายภาพหรือวีดีโอบนหน้าจอแล้วเห็นภาพเป็นเส้นๆ โดยตัวกล้องหลังจะรองรับการถ่ายวีดีโอได้ถึง 4K แต่ว่ายังคงอยู่ที่ 30fps เท่านั้น ส่วน 1080p นั้นเลือกได้เลยว่าจะเป็น 30fps, 60fps หรือ 120fps แบตเตอรี่ จะมีความจุ 2,800 mAh ส่วน Pixel 4 XL จะมีความจุ 3,700 mAh
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Samsung Galaxy S10e
Samsung Galaxy S10e จะมีขนาดหน้าจอเล็กกว่าตระกูล S10 โดยมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้วเท่านั้น ความละเอียดหน้าจอรุ่นนี้ลดลงเหลือ 2280×1080 หรือ Full HD+ และหน้าจอเป็นแบบ Dynamic AMOLED เหมือนกับรุ่นพี่ตัวอื่นนั่นคือข่าวดีค่ะ พร้อมกับกล้องหน้า 10 ล้านพิกเซลฝั่งในหน้าจอ พร้อมผลักลำโพงและเซนเซอร์ไว้บนสุด
ส่วนรอบตัวเครื่องเป็นวัสดุแบบเดียวกัน S10 และ S10+ นั่นคือโลหะเกรดดีใช้ได้ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Bixby, ฝั่งขวามีระบบสแกนลายนิ้วมือ และปุ่ม Power รวมเป็นปุ่มเดียวกัน ส่วนบนมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid Slot, NanoSIM, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน, ล่างสุดมีไมโครโฟน, USB-C ลำโพงตัวเครื่อง
หลังเครื่องยังเป็นกระจก Gorilla Glass 5 เหมือนกับด้านหน้า มาพร้อมกับสีสันสวยงาม มีให้เลือกแค่ Prism White และ Prism Green พร้อมกล้องหลังคู่ โลโก้ Samsung ซึ่งรองรับ NFC, Wireless Charge ด้วย โดยลูกเล่นในภาพรวมของ Galaxy S10e ยังคงเหมือนกับ S10 และ S10+ ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ ถ้าจะบอกความแตกต่างนั้นคือเรื่องของระบบสแกนลายนิ้วมือที่จะต้องสแกนผ่านด้านข้างเท่านั้น
สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy S10e จะรองรับการทำงานเหมือนกับ Galaxy S10 และ S10+ ทั้งหมด ถ้าจะขาดแคลนก็แค่เลนส์เท่านั้นที่เหลือแค่ 2 เลนส์เท่านั้น นั่นคือเลนส์ Wide ขนาด 16 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา และ 12 ล้านพิกเซล 77 องศา ที่เป็น Dual Pixel, และปรับรูรับแสงได้
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า :  Lazada
Huawei P30 Pro
Huawei P30 Pro สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นมากที่สุดเรื่องกล้อง ซึ่งแน่นอนว่าได้รับความนิยมมากที่สุด ณ ตอนนี้ แถมยังได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่เป็นกล้องที่ดีที่สุดจาก Dxomark อีกด้วย นอกจากนี้ การดีไซน์มีความทันสมัย, กล้องซูม Periscope ที่ไม่เหมือนใคร และมีความสามารถในการถ่ายภาพตอนกลางคืนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด, ความอึดของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และมีการชาร์จแบบไร้สาย กำลังสร้างจุดสูงสุดใหม่ของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ซูมเพื่อสำรวจความลึกลับของท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูนกอินทรีบินวนอยู่เหนือต้นไม้ หรือสำรวจรายละเอียดที่ประณีตของคริสตัล เก็บภาพสิ่งที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น และสร้างสรรค์จินตนาการของคุณเพื่ออนาคต
ด้วยแรงบันดาลใจจากท้องฟ้าที่น่าอัศจรรย์ HUAWEI P30 Pro สะท้อนให้เห็นสีสันอันน่าทึ่งของแสงและอวกาศ ด้วยความงามของรุ่งอรุณสีกุหลาบ ท้องฟ้าตอนกลางวัน แสงออโรราอันลึกลับ และความมืดมิดยามค่ำคืน เห็นโลกใบนี้อย่างครบครันด้วยระบบกล้อง Leica Quad ระบบกล้องนี้รวมถึงเลนส์ SuperZoom, กล้อง Super Sensing ความละเอียด 40 MP, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 20 MP, และกล้องหัวเว่ย TOF ทั้งหมดจะช่วยให้คุณมีอิสระอย่างเต็มที่ในการเก็บช่วงเวลาที่แสนพิเศษ
เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่ขนาดกะทัดรัดช่วยให้สามารถซูมออปติคอลได้มากขึ้นโดยยังคงคุณภาพของภาพไว้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อรวมกับความอิ่มตัวของสี (Saturation) จากกล้องหลักที่มีความละเอียด 40 MP ความเสถียรของ OIS เลนส์ SuperZoom ที่ให้การซูมแบบไฮบริดถึง 101 เท่าให้คุณเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยความละเอียดและรายละเอียดที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังนำดวงจันทร์อยู่ตรงหน้าคุณด้วยการซูมสูงสุดถึง 50 เท่า กฎการตรวจจับสีได้รับการเขียนขึ้นใหม่โดย HUAWEI จาก RGGB ถึง RYYB เพื่อให้แสงในทุกภาพมากขึ้น ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ HUAWEI SuperSpectrum ซึ่งให้แสงเพิ่มขึ้น 40%2, 2 ISP ของ Kirin 980 และอัลกอริธึมที่เรียนรู้ได้ จะช่วยคุณในการเก็บความทรงจำที่ชัดเจนตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน
ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่ในตอนกลางคืนด้วยค่า ISO 409,600 บน HUAWEI P30 Pro แม้ในสถานการณ์ที่มืดสุดขีดคุณสามารถค้นพบสีสันที่หลากหลาย
ขับเคลื่อนโดย HUAWEI TOF Camera ที่ทำการวัดความลึกของวัตถุด้วยความแม่นยำและ AIS Long Exposure Shot รูปบุคคลของคุณจะคมชัดจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์ พื้นหลังจะเบลออย่างต่อเนื่องพร้อมเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันเพื่อมอบโบเก้ระดับมืออาชีพ พร้อมทั้งการวิเคราะห์แสงแบ็คไลท์และรูปถ่ายที่มีแสงน้อยนับแสนครั้ง ทำให้ HUAWEI สามารถ พัฒนา AI HDR+ ที่มอบความคมชัดในภาพถ่ายของคุณด้วยการใช้ AI ประเมิน เฟรมภาพต่างๆ และแบ่งส่วนของภาพถ่าย เพื่อรวมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของแสงและสีที่ต่างกันในเลเยอร์ต่าง ๆ เพื่อให้กล้องโฟกัสที่หน้าของคุณ
รองรับการถ่ายภาพแบบเลนส์มาโคร โลกนี้เป็นของคุณที่จะค้นพบได้จากระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. กล้องหน้า 32 เมกะพิกเซลใน HUAWEI P30 Pro จะจดจำคุณได้อย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างการเซลฟี่ที่สวยงาม โดยการวาดเส้นเค้าโครงใบหน้าของคุณให้มีความสว่างและความคมชัดอย่าง แม่นยำ การเซลฟี่ของคุณจะเปล่งปล��่งด้วยรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ในที่ย้อนแสง หรือระหว่างงานปาร์ตี้ยามค่ำคืนโหมดซูเปอร์ไนท์เซลฟี่ เสริมพลังกล้องหน้าให้จับภาพโครงหน้าได้คมชัด กระจ่างขึ้น ช่วยให้หน้าของคุณสว่างขึ้นขณะที่พื้นหลังยังคมชัดอยู่ แม้ในที่แสงน้อย ก็ยังก็เซลฟี่ได้สวย สว่าง ชัด
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Samsung Galaxy S10
นับว่าฮอตฮิตจริงๆ ค่ะสำหรับ Samsung Galaxy S10 ตอบโจทย์ทั้งความนิยมและฟังก์ชั่นแบบหลาก��ลายมากทีเดียว ใครที่ไม่ไหวกับราคารุ่นบนๆ นับว่ารุ่น S10 ธรรมดาก็ยังไม่ตกรุ่นประจำปีนะคะ เราไปดูจุดเด่นของเขากันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง Galaxy S10 กับ S10+ ก็จะพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปจาก S9 กับ S9+ ค่อนข้างชัดเจนค่ะ นั่นคือเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบ Infinity-O ซึ่งมีการเจาะรู หรือ Hole Punching ที่มุมขวาบนของหน้าจอ S10 จะมีกล้อง Selfie เพียงกล้องเดียว ในด้านขนาดหน้าจอของ Galaxy S10 จะมีขนาดอยู่ที่ 6.1 นิ้ว นั่นคือมีกล้องเพิ่มเป็น 3 ตัว หรือ Triple Camera และมีการจัดเรียงในแนวนอน กระจกหน้าจอของ Galaxy S10 กับ S10+ นั้นเป็นกระจกนิรภัยรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Gorilla Glass 6
และกรอบด้านข้างนั้นทำมาจากโลหะอะลูมิเนียมซีรีย์ 7000 ที่ดูพรีเมียมสวยหรู และแข็งแกร่งทนทานนอกจากนี้ก็มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ตามยุคสมัยและมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรติดตั้งมาให้ใช้งาน แต่ตัวเครื่องกลับยังคงดูบางเฉียบ ถาดใส่ซิมการ์ดยังคงเลือกใช้แบบ Hybrid Slot ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง ต้องเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างซิมการ์ดแบบ nanoSIM หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และแน่นอนว่าตัวเครื่องยังคงมีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นในระดับ IP68 ซึ่งแม้เราจะเผลอทำตัวเครื่องหล่นลงไปใต้น้ำแบบนี้ ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่หากหลีกเลี่ยงการโดนน้ำได้ก็จะดีที่สุดค่ะ
ลักษณะของหน้าจอ การตอบสนองความละเอียดด้านของวีดีโอ ดีไซน์หน้าจอใหม่ล่าสุดแบบ Infinity-O ในอัตราส่วนใหม่แบบ 19:9 ที่ไร้รอยบาก และแทนที่ด้วยการเจาะรูที่มุมบนขวา หรือที่เรียกว่า Hole Punching มีความละเอียดอยู่ที่ระดับ 2K QHD+ หรือ 3040×1440 พิกเซล เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้จอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED HDR+ ซึ่งรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+
ความปลอดภัย สามารถลดแสงสีฟ้าได้มากกว่าเดิม 42% เมื่อเทียบกับหน้าจอของ Galaxy S9 รวมถึงได้รับการรับรองว่าเป็นหน้าจอที่ถนอมสายตา หรือ Eye Comfort Display จากสถาบัน TUV Rheinland ผู้ใช้งานยังสามารถปรับโหมดการแสดงผลได้เอง 2 โหมดด้วยกัน นั่นคือ Vivid กับ Natural รวมถึงการปรับค่าสมดุลสีขาว และที่น่าสนใจมากคือ เป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Ultrasonic ซึ่งเป็นการสแกนแบบ 3 มิติ ที่ปลอดภัยกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่า จนได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐาน FIDO ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงสามารถสแกนขณะนิ้วเปียกน้ำได้ด้วย
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
iPhone XR
IPhone หลักหมื่นที่ราคาซอฟต์ลงมาจากไอโฟนรุ่น 11 ที่กำลังบูมอยู่ช่วงนี้นะคะ นับว่า iPhone XR เขาก็มีจุดเด่นที่นำสมัยไม่น้อยไปกว่าตัวอื่นเลยนะ ด้วยหน้าจอ IPS LCD Liquid Retina 6.1″ พร้อมทั้งมีความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล ขณะที่ความหนาแน่นพิกเซล 326ppi และยังมีหน่วยประมวลผล Apple A12 Bionic 7 นาโนเมตร
รวมไปถึงการรองรับระบบชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล f/2.2  มาพร้อมระบบ FaceID สแกนใบหน้าปลดล็อค กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f/1.8 ลำโพงคู่ Stereo รองรับการใช้งาน Nano Sim + E-Sim และยังกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ได้อีกด้วยจ้า นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เด่นเกี่ยวกับ iPhone XR ตามหัวข้อดังต่อไปนี้จอ LCD Liquid Retina 6.1 นิ้ว ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยกล้องหลังตัวเดียวเอาอยู่ กับโหมด Portrait ปรับโบเก้สวยๆ กล้องหน้า TrueDepth สแกน Face ID และเล่น Animoji พร้อมทั้งชิป A12 Bionic ที่แรงเทียบเท่า iPhone XS และ iPhone XS Max รวมถึงHaptic Touch ทำงานยังไง แทน 3D Touch ได้หรือไม่ ดูวิดีโอ Full HD 1080p พร้อมลำโพงสเตอริโอ บันทึกวิดีโอ 4K และไมค์อีก 4 ตัว แบตเตอรี่ที่ว่ากันว่า “อึดกว่า iPhone XS Max” ใช้งานการปัดท่าทางที่ไร้ปุ่มโฮม และรองรับประสบการณ์เล่นเกมบน iPhone XR
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
Xiaomi Mi Note 10
ปิดท้ายตัวท็อปของมือถือจากจีน ที่ให้ความนิยมไม่แพ้กับยี่ห้ออื่นๆ กันซะหน่อยค่ะ สำหรับ Xiaomi Mi Mote 10 เป็นรุ่นระดับโลกของ Mi CC9 Pro ที่เปิดตัวในประเทศจีน ในขณะที่ Mi Note 10 Pro จะเป็นรุ่นสากลของ Mi CC9 Pro Premium Edition ซึ่งทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมกับชิป Snapdragon 730G, หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD+, รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและกล้องหน้าให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล แต่ความแตกต่างระหว่างรุ่นปกติและรุ่น Pro นั้นอยู่ที่ RAM และ ROM
ส่วนกล้องหลัง โดยกล้องหลัก ให้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, กล้องตัวที่ 2 (เลนส์ Ultra Wide) ให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, กล้องตัวที่ 3 (เลนส์ Telephoto) ให้ความละเอียด 5 ล้านพิเซล และเซ็นเซอร์ Depth ให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รวมถึงยังมีเลนส์ที่สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ที่ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
นับว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่ดีไซต์สวย ฟังก์ชั่นดีที่ต้องลองนะคะ เพราะสำหรับแบรนด์นี้เขาการันตีคุณภาพแทบจะเบียดกับแบรนด์��ี่ห้ออื่นๆ ที่ออกมาดังๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
เว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า : Lazada
3 notes · View notes
klongthomtech-blog · 6 years ago
Text
สวิทซ์ชิ่ง แตกต่างกับ อะแดปเตอร์ อย่างไร
Tumblr media
หลักการทำงาน Switching Power Supply ในป��จจุบัน ได้มีการใช้เทคโนโลยีแหล่งจ่ายกำลังสวิตชิ่งกันอย่างแพร่หลาย ซึ่ง Switching Power Supply นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในงานอิเล็กทรอนิกส์ เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถเปลี่ยนแรงดันไฟจากไฟสลับโวลต์สูงให้เป็นแรงดันไฟตรงโวลต์ต่ำได้ ซึ่งองค์ประกอบพื้นฐานนั้นโดยทั่วไปจะคล้ายกันและสิ่งที่สำคัญที่สุดขององค์ประกอบนี้คือ คอนเวอร์เตอร์
Switching Power Supply จะประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.วงจรฟิลเตอร์และเรกติไฟเออร์ ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟสลับเป็นไฟตรง 2.คอนเวอร์เตอร์ ทำหน้าที่แปลงไฟตรงเป็นไฟสลับความถี่สูง และแปลงกลับเป็นไฟตรงโวลต์ต่ำ 3.วงจรควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอนเวอร์เตอร์ เพื่อให้ได้แรงดันเอาต์พุตตามต้องการ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
 การทำงานของ Adapter ที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้า(ทางอิเล็คโทรนิค) ผมลองอธิบายแบบง่ายๆนะครับ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าอุปกรณ์ ทางอิเล็คโทรนิคต้องใช้ไฟกระแสตรง แต่ไฟฟ้าตามบ้านเราเป็นกระแสสลับ ดังนั้นเราจะมีอุปกรณ์ อยู่2-3ชิ้นเป็นหลัก คือ
1.ต้องมีหม้อแปลงเพื่อลดหรือเพิ่มแรงเคลื่อนให้พอเหมาะและยังต้องจ่ายกระแสไฟได้เพียงพอกับความต้องการกับอุปกรณ์ฯ 2.เราจะใช้ไดโอด เรียงกระแส(พูดง่ายๆก็เปลี่ยนจากกระแสสลับเป็นกระแสตรง 3.หลังจากเราได้ไฟกระแสตรงจากไฟสลับแล้วยังไม่สามารถนำมาใช้ได้เลย เพราะยังไม่สม่ำเสมอไม่เรียบ เราต้องใช้ คอนเดนเซอร์กรองให้เรียบอีกครับ ก็จะได้ กระแสไฟตรง ออกมาใช้งานจ่ายไฟให้กับอุปปรณ์ที่เราใช้งาน ไฟ220Vacที่ผ่านจาก อะแดปเตอร์  จึงสามารถใช้แทนถ่านไฟฉาย, แบตเตอรี่ได้
0 notes
asakithai-blog · 7 years ago
Photo
Tumblr media
หัวชาร์จเร็ว ⚡ หัวชาร์จ อะแดปเตอร์ รองรับการใช้งานบน iOS & Android วัสดุคุณภาพ ดีไซน์เรียบหรู รับประกัน 1 ปี #หัวชาร์จเร็ว #อะแดปเตอร์ #อุปกรณ์ไอที ช้อปปิ้งออนไลน์ ➡ https://goo.gl/hrnCLb
0 notes
krapalm · 4 years ago
Text
รีวิว Mi 10T Pro ชิป Snapdragon 865 รองรับ 5G กล้อง 108 ล้าน
Digital More รีวิว Mi 10T Pro ชิป Snapdragon 865 รองรับ 5G กล้อง 108 ล้าน
ในบทความนี้เราจะพามาชม รีวิว Mi 10T Pro ซึ่งเป็นมือถือ 5g ของค่าย xiaomi ความพิเศษของรุ่นนี้คือสามารถใช้งาน 5g ในประเทศไทยได้ โดยรองรับ 5g แบบ nsa และเป็นมือถือ 5g ที่สเปคแรงมากๆ ในราคาที่จับต้องได้ โดยมีวางขายในไทยด้วยกัน 2 โมเดล คือ รุ่นเริ่มต้น Mi 10T ราคาอยู่ที่ 12,990 บาท และรุ่น Mi 10T Pro ราคา 13,990 บาท สำหรับรุ่นที่เราจะรีวิวให้ชมในบทความนี้คือ Mi 10T Pro นั้งเอง
Mi 10T Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว Refresh Rate อยู่ที่ 144 Hz ความละเอียด Full HD+ หน้าจอแบบ Dotdisplay มีกล้องหน้าอยู่บนหน้าจอแสดงผล และแรม 8 GB หน่วยความจำภายใน 128GB แบบ ufs 3.1 กล้องหลังความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เป็น AI Camera พร้อมด้วยกันสั่น OIS ตัวชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 865 ซึ่งรองรับ 5g ด้วย ที่สำคัญให้แบตเตอรี่มาถึง 5000 มิลลิแอมป์ และรองรับระบบชาร์จเร็ว 33 วัตต์
วางขายผ่านทาง AIS Shop, Ture Shop, Com7, JAYMART, TG FONE, JD CENTRAL, Lazada, Shopee, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ
ราคาและการวางจำหน่าย Mi 10T และ Mi 10T Pro
Mi 10T Pro ความจุ 8GB+128GB ราคา 13,990 บาท จะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม JD CENTRAL, Lazada, Shopee
Mi 10T Pro ความจุ 8GB+256GB ราคา 15,990 บาท จะวางจำหน่ายผ่านร้าน AIS Shop, True Shop, Com7, JAYMART, TG FONE, JD CENTRAL, Lazada, Shopee, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ
Mi 10T ความจุ 8GB+128GB ราคา 12,990 บาท จะวางจำหน่ายผ่านร้าน AIS Shop, Ture Shop, Com7, JAYMART, TG FONE, JD CENTRAL, Lazada, Shopee, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ 
【1399THB JD POINT CASHBACK】Xiaomi Mi 10T Pro(8+128GB) รองรับ5G 144HZ Screen,108MP Camera ———————– ราคา: ฿13,990 ซื้อ: https://u.jd.co.th/vxGElU
คุณสมบัติเด่นของสมารท์โฟน Mi 10T Pro
หน้าจอขนาด 6.67 นิ้วแบบ Full HD+ Dotdisplay ที่มาพร้อมอัตราการสัมผัสที่ไหลลื่นไม่มีสะดุด (Refresh Rate) เร็วถึง 144 เฮิรตซ์ และตัวเครื่องทั้งหน้าและหลังใช้ Corning Gorilla Glass 5 พร้อมสบายตาด้วยการแสดงผลบนหน้าจอที่ได้รับการรับรองว่ากรองแสงสีฟ้า (Low Blue Light Certification) จาก TÜV Rheinland
ซิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 865 ระบบประมวลผลด้วย Kyro™ 585 CPU, octa-core CPU ให้ความเร็วเร็วสูงถึง 2.84 กิกาเฮิรตซ์
กล้องหลัง AI 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 8K ด้วยอัตราภาพ 30 เฟรมต่อวินาที
เลนส์หลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ขนาด 1.6 μm ซุปเปอร์พิกเซลแบบ 4-in-1
เลนซ์อัลตร้าไวด์ (ultra-wide) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา
เลนส์มาโคร (Macro) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าในหน้าจอความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh (typ) ด้วยเทคโนโลยี MMT (Middle Middle Tab) รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์
ความจุมี 2 ขนาด คือ 8GB+128GB และ 8GB+256GB
ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Cosmic Black, Lunar Silver และ Aurora Blue
รีวิว Mi 10T Pro : ภาคสำรวจรอบตัวเครื่อง
อุปกรณ์ในกล่อง
ตัวเครื่อง Mi 10T Pro
อะแดปเตอร์ ชาร์จเร็ว 33W
สาย USB Type-C
ที่เสียบเปิดช่องใส่ซิม
คู่มือการใช้
ใบรับประกัน
เคสป้องกันแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน
ฟิล์มกันรอยหน้าจอป้องกันแบคทีเรีย
ตัวหน้าจอของ Mi 10T Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว แบบ Dotdisplay ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล FHD+ เป็นหน้าจอแบบ AdaptiveSync TrueColor ถือว่าเป็นจอแสดงผลแบบแบนที่ดีที่สุด ที่เคยมีอยู่บนสมาร์ทโฟนในทุกรุ่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีอัตรา Refresh Rate 144 Hz ซึ่งถือว่าเป็นอัตราค่ารีเฟรชเรทที่สูงมากในอุตสาหกรรมมือถือในปัจจุบัน และทุกรุ่นที่มาพร้อมกับ Refresh Rate ที่สูงแบบนี้ ราคาก็มักจะสูงไปด้วย แต่ในรุ่นนี้ราคาแค่หมื่นต้นๆ และที่สำคัญในหลายๆ รุ่นอัตราค่ารีเฟรชเรทที่สูงมักจะส่งผลให้ใช้พลังงานที่สูงขึ้นไปด้วย และอัตราเฟรมเรทที่ไม่สอดคล้องกัน
แต่ด้วยการแสดงผลแบบ AdaptiveSync ของ Xiaomi ทำให้การจับคู่อัตราเฟรมเรทของเนื้อหาโครงการโดยอัตโนมัติ และสามารถปรับแต่งอัตรารีเฟรชเรทตามลักษณะการใช้งานเช่นดูหนังอัตราค่ารีเซ็ตจะอยู่ที่ 48Hz หรือการรับชมซีรีส์ที่ 50Hz สำหรับการดู Streaming จะอยู่ที่ 30Hz หรือ 60Hz และแน่นอนสำหรับการเล่นเกมก็จะแสดงอัตราค่าเหล็กเส้นเลือดที่ 144Hz ด้วยการปรับแต่งอัตราค่ารีเซ็ตเรทและอัตราเฟรมของเนื้อหานี้ทำให้การใช้งานแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้อัตราค่ารีเฟรชเรทที่สูงเมื่อไม่ได้จำเป็น ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ 8% หลังจากใช้งานหนัก 6 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับการรักษาอัตราการรีเฟรชคงที่
และด้วยเทคโนโลยี Motion Estimation, Motion Compensation (MEMC) จะช่วยปรับปรุงความลื่นไหลของเนื้อหาอัตราเฟรมต่ำเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างชัดเจน โดยอัลกอริทึมสามารถรับรู้วิถีการเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำและแทรกเฟรมการชดเชยอย่างเป็นธรรมชาติในเนื้อหาที่มีอัตราเฟรมต่ำ เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์ทีวี หรือเกมกีฬา เพิ่มอัตราเฟรมสูงสุด 60fps ลดความเบลอและการกะพริบได้อย่างมีประสิทธิภาพอุปกรณ์จะแทรกเฟรมมากขึ้นเพื่อให้วิดีโอนั้นลื่นไหลและรับชมได้ดีขึ้น และยังรองรับการแสดงผล HDR เมื่อเล่นเนื้อหาวิดีโอ HDR10
ด้วยช่วงสีกว้าง รองรับ DCI-P3 โดยการการนำมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาใช้เพื่อให้ช่วงสีที่กว้างขึ้นมากเมื่อเทียบกับ sRGB ทำให้ได้รับประสบการณ์ภาพที่สมจริง และ TrueColor (JNCD ≈ 0.39, Delta E ≈ 0.63 ) ทำให้จอแสดงผลมีสีที่หลากหลายและแม่นยำ โหมดการอ่าน 3.0 จะจำลองพื้นผิวกระดาษเพื่อปกป้องดวงตาของคุณในขณะที่ Sunlight display 3.0 จะช่วยเพิ่มความต่างโดยอัตโนมัติและปรับความอิ่มตัวของสีแบบหลากหลายเมื่ออยู่นอกอาคาร ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง 360° ในตัวหน้าจอจะสามารถปรับความสว่างได้อย่างชาญฉลาดแม้ในสภาวะย้อนแสง
ด้านบนของหน้าจอเป็นกล้องหน้าที่รวมอยู่ในหน้าจอแสดงผล หรือที่เรียกว่า DotDisplay โมดูลกล้องหน้าจะอยู่บริเวณฝั่งซ้ายมือด้านบนของหน้าจอ มีหน้าจอแสดงผลที่แสดงผลล้อมรอบตัวกล้องหน้าอีกทีนึง ถัดขึ้นไปด้านบนจะมีไฟ LED Notification โดยจะแจ้งเตือนสถานะต่างๆเ ช่นชาร์จแบต มีสายเรียกเข้า มีข้อความ เป็นต้น ส่วนลำโพงสำหรับสนทนาจะ��ยู่ตรงกลางของหน้าจอ
กล้องหน้า 20MP Ultra-clear (Samsung S5K3T2) ขนาดพิกเซล 0.8μm, ซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μm ขนาดเซนเซอร์ 1 /3.4 “, FOV 77.7°, f/2.2, เลนส์ 5P, FF
ฟีเจอร์กล้องหน้า
ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง
โหมดกลางคืน
เซลฟี่พานอรามา
ชัตเตอร์ด้วยอุ้งมือ
กรอบภาพยนตร์
HDR
แฟลชด้านหน้า
จดจำใบหน้า
AI ฟรุ๊งฟริ๊ง
โหมดพอร์ทเทรต AI
ตรวจจับฉาก AI
ปลดล็อกด้วยใบหน้า AI
บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps, บันทึกวิดีโอ 720p@30fps, บันทึกสโลว์โมชั่น 720p@120fps
ด้านล่างของจอจะเป็นปุ่มควบคุมแบบสัมผัสจำนวน 3 กลุ่มโดยที่เราสามารถตั้งค่าสลับตำแหน่งได้ โดยปุ่มทั้ง 3 ปุ่มจะมีปุ่ม Recent App ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ หากเราใช้งานไม่ถนัดก็สามารถสลับปุ่ม Recent App กับปุ่มย้อนกลับได้
ด้านล่างของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยลำโพงอยู่ฝั่งซ้ายมือซึ่งเป็นลำโพงของตัวเครื่องถัดไปเป็นรูไมโครโฟนสำหรับสนทนา ตรงกลางเป���นช่อง usb Type C สำหรับชาร์จแบตและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และเป็นรูเชื่อมต่อหูฟังแบบ USB Type C ซึ่งในกล่องจะมีแถมอะแดปเตอร์ USB Type C to 3.5 mm
รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 33W ชาร์จ 100% ในเวลาเพียง 59 นาที
มาให้สุดท้ายเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดโดยจะต้องใช้เข็มจิ้มซึ่งมีแถมมาในกล่องโดยรุ่นนี้รองรับ 2 ซิมแบบนาโนซิม รองรับ 5G/4G+/4G/3G/2G รองรับการโทรแบบซิมคู่ VoLTE HD
แบนด์เครือข่ายที่รองรับ
5G: n1/n3/n7/n8/n20/n28/n38/n41/n77/n78
4G: LTE FDD: B1/2/3/4/5/7/8/20/28/32
4G: LTE TDD: B38/40/41
3G: WCDMA:B1/2/4/5/8
2G: GSM: B2/3/5/8
อะแดปเตอร์ USB Type C to 3.5 mm
อุปกรณ์ชาร์จเร็ว 33W มีแถมมาในกล่องเลย
ด้านขวามือของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่มลดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่องโดยที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บนปุ่มด้วยโดยปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่กึ่งกลางค่อนไปทางด้านบนของตัวเครื่องถ้าจับด้วยมือเดียวนิ้วชี้หรือนิ้วกลางจะอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกับปุ่มพอดีในกรณีที่ถือมือซ้ายสำหรับมือขวาจะตรงกับนิ้วโป้งพอดี
ตัวเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือของตัวเครื่องทำงานได้เร็วมากไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้วยนิ้วโป้งข้างขวาหรือนิ้วชี้ข้างซ้ายอีกทั้งยังสามารถตั้งค่าได้รวดเร็วและเพิ่มได้หลายนิ้วสามารถปลดล็อคได้ทันทีโดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอก่อนความเร็วในการสแกนเร็วมากๆ แทบไม่รู้สึกว่านี่คือการปลดล็อคหน้าจอโดยการสแกนนิ้วมือ
ส่วนฝั่งซ้ายมือตัวเครื่องจะเป็นดีไซน์เรียบไม่มีปุ่มฟังก์ชั่นอะไรอยู่ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีความโค้งมนรับกับอุ้งมือจับถนัดมือแม้ตัวเครื่องจะมีหน้าจอขนาดใหญ่แต่สามารถจับมือเดียวได้ถนัด
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟน และรีโมทคอนโทรลอินฟราเรด สำหรับใช้มือถือควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้
เครือข่ายไร้สายที่รองรับ
โปรโตคอลที่รองรับ: 802.11a/b/g/n/ac/ax
รองรับ 2.4G Wi-Fi / 5G Wi-Fi
รองรับ 2×2 MIMO, เสียง 8×8 สำหรับ MU-MIMO, Wi-Fi Direct, จอแสดงผล Wi-Fi, WPA3
รองรับบลูธูท 5.1, Qualcomm® TrueWireless™ Stereo Plus
รองรับ AAC/LDAC/LHDC
รองรับ 5G MultiLink
สลับระหว่าง Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz Wi-Fi และ 4G / 5G โดยอัตโนมัติ
มัลติฟังก์ชั่น NFC
ตัวเครื่องมาพร้อมกับวัสดุกระจก CorningGorilla Glass 5 ครอบคลุมเลนส์ ด้านหน้า ด้านหลัง และกล้อง ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องมันวาวดูหรูหรา งานประกอบดีเยี่ยมมีความแข็งแรงทนทาน วัสดุดูมีราคาแพงแต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่ด้วยความที่พื้นผิวด้านหลังมีความมันวาวถ้าจับใช้งานโดยที่ไม่ได้ใส่เคสจะเกิดคราบลายนิ้วมือเยอะมากแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะโดยปกติเราก็ใช้งานโดยการใส่เคสอยู่แล้ว
ตัวกล้องของเครื่องจะมาพร้อมกับ 3 กล้อง 108MP+13MP+5MP ตามสเปคที่ระบุไว้ โดยผู้ดูกล้องจะอยู่ฝั่งมุมซ้ายบนของตัวเครื่องนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย ในการใช้งานก็ควรจะเลือกซื้อเคสที่สามารถปกป้องเลนส์กล้องได้ด้วยไม่ฉะนั้นตัวกล้องเมื่อวางราบกับพื้นก็จะเกิดริ้วรอยได้
รายละเอียดกล้องหลังทั้ง 3 ตัว
กล้องหลัก ความละเอียดสูงพิเศษ 108MP
Samsung HMX ขนาดเซ็นเซอร์ 1 /1.33”
ขนาดพิกเซล 0.8μm, ซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1 ถึง 1.6μm
ซูมดิจิตอลสูงสุด 30x
f/1.69, เลนส์ 7P, OIS, FOV 82°, AF
กล้องมุมกว้างพิเศษ 13MP ขนาดพิกเซล1.12μm, FOV 123°, f/2.4, เลนส์ 5P
กล้องมาโคร 5MP ขนาดพิกเซล1.12μm, FOV 84°, f/2.4, เลนส์ 3P, AF (2–10 ซม.)
กล่องนึงแถมเคสใสมาให้โดยตัวเคสออกแบบมาเป็นทูโทนด้านบนเป็นขาวใสด้านล่างเป็นขาวขุ่นพร้อมด้วยสลักโลโก้ Xiaomi ตัวเคสทำจากวัสดุพลาสติกดูเนียนสวยงามเรียบแต่หรู พอใส่แล้วดูสวยงามขึ้นเลย ที่สำคัญตัวเคสป้องกันแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออนด้วย
เคสได้รับการปกป้องด้วยเทคโนโลยีซิลเวอร์ไอออนเพื่อการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ยาวนาน ทำให้คุณปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากสัมผัส 24 ชั่วโมงเคสสามารถกำจัดแบคทีเรียได้มากกว่า 99% ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบ พบว่า Escherichia coli และ Staphylococcus aureus มากกว่า 99.99% ถูกกำจัดหลังจากสัมผัสกับเคส 24 ชั่วโมง ทดสอบโดย TÜV SÜD PSB Products Testing (Shanghai) Co., Ltd. หมายเลขรายงานการทดสอบคือ 721657586-1C
��กลอรี่รอบตัวเครื่อง
รีวิว Mi 10T Pro : ภาค Software
มาพร้อมกับ Android 10 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส MIUI 12 ที่ความสามารถในการรักษาความปลอดภัย ยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวขึ้น เพิ่มฟีเจอร์การเเจ้งเตือนการขออนุญาตการเข้าถึง โดยที่ระบบจะมีการแจ้งเตือนแสดงขึ้นบนแถบสถานะเมื่อพบแอปที่เข้าถึงกล้อง ที่อยู่ และไมโครโฟน ที่ทำงานเบื้องหลัง
MIUI 12 ยังถูกดีไซน์ UI แบบใหม่ และระบบอนิเมชั่นที่ออกแบบมาเพื่อแสดงผลที่กว้างขึ้น ตัวแสดงอนิเมชั่นหลักนั้นได้ถูกเปลี่ยนโฉมด้วยเทคนิคนวัตกรรม Kernel-level โดยที่เครื่องมือ Mi Render Engine ทำให้ MIUI 12 สามารถมอบประสบการณ์ใช้งาน UI ที่ลื่นไหลและรวดเร็ว ไม่หน่วง ไม่สะดุด และไม่ค้าง
ตัวอินเตอร์เฟส MIUI 12 มาพร้อม Dark Mode แม้แอปที่เราใช้งานจะไม่รองรับ แต่ตัวอินเตอร์ก็สามารถเปลี่ยนแอปดังกล่าวเป็น Dark Mode ได้ โดยจะเปลี่ยนสีของพื้นหลัง แอปของระบบ และแอปภายนอก ให้เข้มขึ้น พร้อมกันนี้ Dark Mode ยังมอบประสบการณ์การมองเห็นในสภาวะแสงน้อยด้วย
ฟีเจอร์กล้องหลัง
โหมดการเปิดรับแสงนานหกโหมด | โคลนภาพถ่าย | ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง | ฟิลเตอร์ภาพใหม่: โฟกัสสี/ไซเบอร์พังค์/บรรยากาศสีทอง/น้ำแข็งสีดำ | โหมดเอกสาร 2.0 | โหมดพานอรามา | โหมดโปร | โหมดดิบ | โหมดพอร์ทเทรตพื้นหลังเบลอ | โหมดกลางคืน 2.0 | กล้อง AI 2.0 | ฟรุ๊งฟริ๊ง AI | AI smart slimming | โหมดพอร์ทเทรต AI | AI SkyScaping 3.0 | ไฟสตูดิโอ AI | ภาพถ่ายความละเอียดสูง AI | การตรวจจับฉาก AI | Google เลนส์ | ตัวจับเวลารูปถ่าย | จดจำใบหน้า | HDR | แก้ไขการบิดเบือนขอบมุมกว้างพิเศษ | แก้ไขใบหน้าของรูปภาพกลุ่ม | ลายน้ำที่กำหนดเอง | กรอบภาพยนตร์
ฟีเจอร์วิดีโอของกล้องหลัง
การบันทึกวิดีโอ 8K | โคลนวิดีโอ | วิดีโอคู่ | กรอบภาพยนตร์ | วิดีโอพอร์ตเทรต AI | โหมดวิดีโอโปร | โหมดบันทึกวิดีโอโหมดวิดีโอมาโคร | โหมด Vlog | โฟกัสสีวิดีโอ AI | ShootSteady | บันทึกวิดีโอสั้น 15 วินาที | วิดีโอฟรุ๊งฟริ๊ง
ประสิทธิภาพ
อย่างที่ระบุในสเปกว่ารุ่นนี้มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 865 กระบวนการผลิตที่ประหยัดพลังงาน 7 นาโนเมตร แรม LPDDR5 8GB หน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาด 128GB สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมแบบเดสก์ท็อปด้วย Qualcomm Adreno 650 GPU
ประสบการณ์ใช้งาน Mi 10T Pro
Mi 10T Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทางเสียวหมี่ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมาก โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่กล้องที่มีความ���ะเอียดสูง รองรับ 5G ใช้งาน 5G ในไทยได้ กล้องความละเอียด 108MP ถ่ายวิดีโอ 8K ได้ หน้าจอแสดงผลแบบ AdaptiveSync เล่นเกมลื่นด้วยระบ��ประมวลผลที่ทรงพลังและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ที่สำคัญรุ่นนี้ราคาเพียง 13,990 บาท
ประสบการณ์ 5G บน
อย่างที่ทราบกันว่าในรุ่นนี้รองรับ 5g แบบเป็น NSA โดยตัวเครื่องสามารถตั้งค่าได้ว่าประเภทเครือข่ายที่จะใช้จะใช้เครือข่ายแบบไหนก่อนเช่นเลือกใช้ 3G ก่อนเลือกใช้ 4G ก่อนหรือเลือกใช้ 5g ก่อนโดยเมื่อเราเลือกประเภทเครือข่ายเป็นเลือกใช้ 5g จะทำให้เราสามารถใช้งานได้แค่ 1 ซิมเท่านั้นโดยอีกซิมจะสถานะเป็นปิดการใช้งาน แต่ถ้าเราต้องการจะใช้งาน 2 ซิมเราจะต้องเลือกเป็นแบบเลือกใช้ 4G ก่อน
สำหรับประสบการณ์การใช้งาน 5g บนมือถือราคาหมื่นต้นๆ อย่าง Mi 10T Pro ถือว่าตอบสนองได้ดีมาก เท่าที่ใช้งานในชีวิตประจำวันว่าจะเป็นการเดินทางบนรถไฟฟ้า BTS MRT หรือเดินห้าง โดยส่วนมากแล้วจะเกาะ 5g ตลอด จับสัญญาณได้ดี ลื่นไหล แม้ความเร็วในบางสถานที่จะสู้ 4G ไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละมันก็คือ 5g
ลำโพงคู่ซุปเปอร์ลิเนียร์
ในแง่ลำโพง รุ่นนี้มาพร้อมกับ ลำโพงคู่ซุปเปอร์ลิเนียร์ ประกอบด้วย ลำโพงซุปเปอร์ลิเนียร์ 1012 สำหรับลำโพงด้านบน และ 1216 ซุปเปอร์ลิเนียร์ สำหรับด้านล่าง แกนสแตนเลสสตีลซุปเปอร์ลิเนียร์ขนาด 0.5 มม. แอมพลิจูด รองรับรูปแบบเสียง เช่น MP3, FLAC, APE, AAC, OGG, WAV, WMA, AMR, AWB รับการรับรองเสียงความละเอียดสูง
และคุณภาพเสียงของตัวเครื่อง เห็นพี่บอกว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอบนและล่างทำให้มีมิติของเสียงดีกว่ามือถือที่มีลำโพงตัวเดียว ให้เสียงหรืออรรถรสในการฟังเพลงได้ดีมาก ยิ่งเป็นการดูหนังยิ่งสามารถได้รับมิติเสียงที่มากขึ้น
แบตเตอรี่
ในเรื่องแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5000 มิลลิแอมป์ ที่ทำให้เราสามารถใช้งานมือถือได้ยาวนานแบบข้ามวันลืมที่ชาร์จกันเลยทีเดียว เป็นมือถือไม่กี่รุ่นที่เคยใช้มาแล้วมีความรู้สึกว่า เออรุ่นนี้แบตอึดจริง หากใช้งานแบบเบาๆ เปิดบ้างปิดจอบ้างเล่นเน็ตโซเชียลบ้างเล็กน้อยเป็นสแตนบายเป็นละใช้งานได้ยาวๆ เลยแหละ
แต่ถ้าเปิดใช้งานหนักๆ เช่นใน 1 วันเปิดใช้งานหน้าจอรวมๆ 5-6 ชั่วโมงแต่เชื่อหรือไม่แบตเตอรี่ยังอยู่ได้ยาวนานข้ามวันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างวันแรกที่ผมได้เครื่องมาชาร์จแบตเวลาเราราวๆ 14:00 น และแบตไปหมดอีกทีช่วงค่ำของวัน ราวๆ 19:00 น. โดยแบตยังเหลืออยู่ราวๆ 19 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าแบตอยู่ได้ยาวเกิน 24 ชั่วโมงซะอีก
ที่สำคัญรุ่นนี้มีชาร์จเร็วด้วยนะแบตชาร์จเร็วเจ๋งเลยล่ะ
กล้อง
Application กล้องของรุ่นนี้ทำงานได้อย่างรวดเร็วโฟกัสได้เร็ว ปรับแสงได้เร็ว เลื่อนกล้องไปมาสามารถโฟกัสได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอ และยังมีฟีเจอร์กดเพื่อโฟกัสแล้วก็กดถ่ายได้เลย โหมดของกล้องมีโหมด AI ซิ่งจะตรวจจับและปรับตั้งค่าตามวัตถุที่เจออย่างเช่นโหมด Text เมื่อเจอข้อความ โหมด Portrait โหมดอาหาร โหมดกลางคืน ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดโหมดใดได้อะอิสระ แต่แนะนำว่าให้เปิดใช้ดีกว่าเพราะจะช่วยให้การถ่ายภาพของเราทำได้ง่ายมาก แล้วก็ยังมีโหมด hdr สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือเป็นออโต้หรือปิด
นอกจากนั้นยังมีโหมดอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมายเช่นโหมดถ่ายเอกสารโหมดหน้าชัดหลังเบลอโหมดโทรศัพท์ถ่ายวีดีโอออกหมดสโลโมชั่นโหมดกลางคืนโหมดการเปิดรูรับแสงงั้นก็โหมดถ่ายภาพ Ultra HD ที่ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เมื่อถ่ายภาพออกมาขนาดไฟล์ใหญ่ราวๆ 20MB
สำหรับเมนูตั้งค่าของกล้องก็ใช้งานง่ายสามารถปรับการถ่ายภาพต่อเนื่องได้โดยเราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้กี่รูปเช่น 10 รูป 30 รูปไปจนถึงสูงสุด 600 รูปเลยทีเดียว และสามารถปรับช่วงเวลาได้เช่น 1 วินาที 5 วินาที 10 วินาทีไปจนถึงสูงสุด 60 วินาที เรายังสามารถปรับความเบลอ ปรับโหมดมาโครส่วนอัตราส่วนในการถ่ายภาพสามารถเลือกได้ 4 แบบ 1:1 3:4 9:16 แล้วก็ขนาดเต็มพื้นที่หน้าจอ
การตั้งค่าอื่นๆ ก็มีให้ตั้งค่าอยู่พอสมควรเช่นการใส่ลายน้ำ โดยเมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วจะมีลายน้ำชื่อรุ่นอยู่บนภาพถ่าย หรือเป็นลายน้ำที่เรากำหนดเองก็ได้ สามารถเพิ่มเวลาบนรูปภาพได้ด้วย สามารถถ่ายภาพเป็น format  heif ได้ด้วย
มาถึงโหมดการถ่ายภาพแบบวีดีโอความพิเศษพรุ่งนี้คือสามารถบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 8K เลือกได้ 2 แบบ คือ 8K@24FPS และ 8K@30FPS ได้ หรือหากกลัวที่จะเปลืองพื้นที่ตัวเครื่องก็บันทึกที่ 4K ก็ได้เช่นกัน เลือกได้ 2 แบบ 4K@30FPS และ 4K@60FPS และยังรองรับการบันทึกภาพ Slow Motion ความเร็วสูงสุดถึง Full HD รองรับอัตราเฟรมเรทตั้งแต่ 120 240 และ 960 fps เลยทีเดียว
ภาพถ่ายมุม 1X
ภาพถ่ายมุม 0.6X
ภาพถ่ายมุม 2X
เกม
มาพร้อมกับ Game Turbo 3.0 ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ปรับแต่งได้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพอัตราเฟรม ความเสถียรของเกมเพิ่มขึ้น 37.9% การเร่งความเร็วสัมผัส ระบบสัมผัสประสิทธิภาพดีขึ้น 100% การเล่นเกมอย่างต่อเนื่องแม้แบนด์วิดท์เครือข่ายและเวลาแฝงที่ลดลง
เกม PUBG Mobile สามารถปรับกรฟาฟิก Ultra HD ได้ ปรับ เฟรมเรท Ultra ได้ ซึ่งสามารถเล่นได้ลื่นไหล โดยไม่หน่วง หรือกระตุกเลย
ส่วนเกม ROV ตัว Mi 10T Pro ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่หน่วง ไม่กระตุก ควบคุมงาน ทัชติดมือเช่นกัน ปรับความละเอียดกราฟฟิกแบบสูง ภาพลื่นไหล เฟรมเรทวิ่ง 60FPS ได้สบายๆ
ตัวอย่างภาพถ่าย
รีวิว Mi 10T Pro ชิป Snapdragon 865 รองรับ 5G กล้อง 108 ล้าน krapalm
from Digital More https://ift.tt/3ejuqt2
1 note · View note
centershoppingonlines · 1 year ago
Text
Tumblr media
RAINY SEASON SPECIAL DEAL ลดแรงรับหน้าฝน ลดสูงสุดถึง 60% แจกส่วนลดสูงสุด 600.- ส่งฟรี ช้อปเลย! 🛍 ช้อปเลยคลิก👉https://atth.me/0075g2000ao1 📅 ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 66 - 31 ก.ค. 66 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
0 notes
saleandpromotion999 · 2 years ago
Photo
Tumblr media
❗️ลดพิเศษตอนนี้❗️: BASIKE หัวชาร์จเร็ว PD 30W Type C for iP 8/X/XR/XS/11/12/13 Pro Max หัวชาร์จ adapter fast charge อะแดปเตอร์ 📍พิกัด : https://shope.ee/99oyd3sWBs ---------------------------------------- ช่วงแนะนำ | 6:00+ไอที | 12:00+อื่นๆ 🙏🏻 ขอบคุณทุกท่านค่ะ 🙏🏻 ---------------------------------------- #Shopee #SaleShopper #หัวชาร์จเร็ว #ปลั๊กชาร์จ #หัวชาร์จ #เต้าชาร์จ #ที่ชาร์จ #อะแดปเตอร์ #BASIKE https://www.instagram.com/p/ClhmijUyDYU/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
fgroupfashionthailand-l · 4 years ago
Photo
Tumblr media
9.9 Festival 🎉ฉลอง 9.9 ไปกับคูปองส่วนลด 9%* 💥คูปองเงินสด 1,999 บาท* 💻และสินค้าไอทีราคาพิเศษอีกมากมาย.. 🛍ช้อปเลยคลิก👉https://bit.ly/3gjXiBy
#มือถือ #แท็บเล็ต #โน๊ตบุ๊ก #แกดเจ็ต #แล็ปท็อป #เดสก์ท็อป #จอภาพ #เกมมิ่ง #คอมพิวเตอร์ #อุปกรณ์ชาร์จ #แบตเตอรี่ #กระเป๋า #เคส #คีย์บอร์ด #เมาส์ #สายเคเบิล #อะแดปเตอร์ #หูฟัง #อุปกรณ์เสริม #หน่วยความจำ #ที่เก็บข้อมูล
0 notes
fgroupfashionthailand-w · 4 years ago
Photo
Tumblr media
9.9 Festival 🎉ฉลอง 9.9 ไปกับคูปองส่วนลด 9%* 💥คูปองเงินสด 1,999 บาท* 💻และสินค้าไอทีราคาพิเศษอีกมากมาย.. 🛍ช้อปเลยคลิก👉https://bit.ly/3gjXiBy
#มือถือ #แท็บเล็ต #โน๊ตบุ๊ก #แกดเจ็ต #แล็ปท็อป #เดสก์ท็อป #จอภาพ #เกมมิ่ง #คอมพิวเตอร์ #อุปกรณ์ชาร์จ #แบตเตอรี่ #กระเป๋า #เคส #คีย์บอร์ด #เมาส์ #สายเคเบิล #อะแดปเตอร์ #หูฟัง #อุปกรณ์เสริม #หน่วยความจำ #ที่เก็บข้อมูล
0 notes
fgroupfashionthailand-d · 4 years ago
Photo
Tumblr media
9.9 Festival 🎉ฉลอง 9.9 ไปกับคูปองส่วนลด 9%* 💥คูปองเงินสด 1,999 บาท* 💻และสินค้าไอทีราคาพิเศษอีกมากมาย.. 🛍ช้อปเลยคลิก👉https://bit.ly/3gjXiBy
#มือถือ #แท็บเล็ต #โน๊ตบุ๊ก #แกดเจ็ต #แล็ปท็อป #เดสก์ท็อป #จอภาพ #เกมมิ่ง #คอมพิวเตอร์ #อุปกรณ์ชาร์จ #แบตเตอรี่ #กระเป๋า #เคส #คีย์บอร์ด #เมาส์ #สายเคเบิล #อะแดปเตอร์ #หูฟัง #อุปกรณ์เสริม #หน่วยความจำ #ที่เก็บข้อมูล
0 notes
meisenth · 5 years ago
Photo
Tumblr media
🔋⚡️อะแดปเตอร์ทรงประสิทธิภาพการชาร์จอย่างเต็มขั้น จากแบรนด์ COMMY เติมพลังงานขั้นสุดด้วยการชาร์จไฟอย่างรวดเร็ว รองรับ Quick Charger 3.0 และใช้ไ��้กับโทรศัพท์หลากหลายรุ่น📱 . ☃️ อะแดปเตอร์ [Adaptor] สั่งออนไลน์ 🎯: https://bit.ly/2PusUtB . 🌈COMMY Adaptor 1 USB Port (Super Flash Charger 18W) อะแดปเตอร์รองรับ Quick Charger 3.0 รับประกัน 1 ปีเต็ม . 👍คุณสมบัติ👍 ❄️Mode: ADQC002 ❄️Input: AC180-240V 50/60Hz 0.2A ❄️AC Plug: 2Pin Fixed US Plug ❄️Output: 5V-3A, 9V-2A, 12V-1.3A ❄️USB Port Qty: 1 USB Port ❄️สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ Quick Charger 3.0 ❄️สามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้นสูงสุด 80% ❄️ดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ❄️รองรับ: Samsung, Huawei, Oppo, Xiaomi, Vivo 💚การรับประกัน: รับประกัน 1 ปี เต็ม โดยรับประกัน “ สินค้าพร้อมกล่อง” เท่านั้น . สนใจสั่งซื้อติดต่อได้ทุกช่องทางและตอบทันที ***มีบริการเก็บเงินปลายทางจัดส่งทั่วประเทศไทย . 🌏Website : www.meisenthailand.com 📘Facebook : www.facebook.com/meisen.th 🛍 ID LINE : @097zqhup (มี @ ค่ะ) แอดไลน์ https://bit.ly/2L6yqQy 🎈Lazada : https://bit.ly/2kKahEO 🎉Shopee : https://bit.ly/2mfuO4J 📧E-mail : [email protected] . #Commy #คอมมี่ #ที่ชาร์จ #อะแดปเตอร์ #หัวชาร์จ #อแดปเตอร์ #adaptor #adapter https://www.instagram.com/p/B5FIhY_pi7q/?igshid=1a5yuyagptqjc
0 notes
fgroupfashionthailand-p · 4 years ago
Photo
Tumblr media
9.9 Festival 🎉ฉลอง 9.9 ไปกับคูปองส่วนลด 9%* 💥คูปองเงินสด 1,999 บาท* 💻และสินค้าไอทีราคาพิเศษอีกมากมาย.. 🛍ช้อปเลยคลิก👉https://bit.ly/3gjXiBy
#มือถือ #แท็บเล็ต #โน๊ตบุ๊ก #แกดเจ็ต #แล็ปท็อป #เดสก์ท็อป #จอภาพ #เกมมิ่ง #คอมพิวเตอร์ #อุปกรณ์ชาร์จ #แบตเตอรี่ #กระเป๋า #เคส #คีย์บอร์ด #เมาส์ #สายเคเบิล #อะแดปเตอร์ #หูฟัง #อุปกรณ์เสริม #หน่วยความจำ #ที่เก็บข้อมูล
0 notes