#หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก
Explore tagged Tumblr posts
smaneekaov-blog · 2 years ago
Photo
Tumblr media
> พระอาการวัตตาสูตร 1. อิติปิโสภะคะวา อะระหัง อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สุคะโต อิติปิโสภะคะวา โลกะวิทู อิติปิโสภะคะวา อะนุตตะโรปุริสะธัมมะสาระถิ อิติปิโสภะคะวา สัตถาเทวะมะนุสสานัง อิติปิโสภะคะวา พุทโธ อิติปิโสภะคะวา ภะคะวาติ (พุทธะคุณะวัคโค ปะฐะโม) พระอาการวัตตาสูตรแปล เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์ (ผู้ควรรับเครื่องสัก การบูชาในที่ทั้งปวง ) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ (ไม่มีใคร เป็นครูอาจารย์) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาแลจรณะ (วิช ชาได้แก่วิชชา ๓ อย่าง ปุพเพนิวาสา นุสสติญาณ รู้จักระลึกชาติได้ ๑ จุตูปปาตญาณ รู้จักกำหนดจุติแล เกิด ๑ อาสวักขยญาณ รู้จักทำ อาสวะให้สิ้น ๑ จรณะมี ๑๕ ประการ ) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า มีพระดำเนินเป็นอันดี (อธิบายว่า เสด็จไปในที่ใด ยังประโยชน์ให้สำเร็จแก่มหาชนในที่นั้น เสด็จมายังโลกนี้ ประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้เพื่อประ โยชน์แก่ประชาชน จึงเข้าปรินิพพาน) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้รู้แจ้งโลก (อธิบายว่า ทรงรู้ จักถิ่นฐานบ้านเมืองต่าง ๆ ปรุโปร่ง ทรงรู้จักอัธยาศัยของคนต่างถิ่นต่าง ชั้น ทรงรู้จักหยั่งเห็นเหตุอันปรุงแต่ง คนเหล่านั้น พร้อมทั้งถิ่นฐานให้ยิ่ง หรือหย่อน) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นสารถีแห่งบุรุษพึ่งฝึกได้ ไม่มีผู้ อื่นยิ่งไปกว่า เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นศาสดาของเทวดาแลมนุษย์ทั้ง หลาย เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เบิกบานแล้ว (อธิบายว่า เป็น ผู้ทรงพระคุณเต็มที่แลได้ทรงทำพุทธ กิจสำเร็จแล้ว) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้มีพระโชค (อธิบายว่า มี เคราะห์ดี กล่าวเมื่อครั้งยังไม่ได้ทรง บรรพชา ก็ได้ทรงรับความบำรุงเป็น อย่างดี ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จนทรง พระเจริญ ออกผนวชแล้วแสวงหา ทางตรัสรู้อยู่ถึง ๖ ปี น่ากลัวไม่ สําเร็จ มาสําเร็จเข้าได้) 2. อิติปิโสภะคะวา อะภินิหาระ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อุฬารัชฌาสะยะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะนิธานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา มะหากะรุณา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะโยคะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ยุติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ชุติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คัพภะโอกกันติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คัพภะฐิติ ปาระมิสัมปันโน (อะภินิหาระวัคโค ทุติโย) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยอภินิหารบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยอัธยาศัยบารมี อันใหญ่ เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ประกอบด้วยปณิธานบารมี (คือเริ่มตั้งบารมี ) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยบารมี อัน ประกอบด้วยพระกรุณาใหญ่ เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้พร้อมแล้วด้วย ญาณบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยบารมีเป็น เครื่องพยายาม เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้ว ด้วยยุตติบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยบารมีอันโพลง เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยบารมี ซึ่ง สัตว์อันหยั่งลงสู่ครรภ์ เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยบารมี เครื่องรู้ซึ่งสัตว์ สถิตย์อยู่ในครรภ์ 3.อิติปิโสภะคะวา คัพภะวุฏฐานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คัพภะมะละวิระหิตะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อุตตะมะชาติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คะติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะภิรูปะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สุวัณณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา มะหาสิริ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อาโรหะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะรินาหะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สุนิฏฐะ ปาระมิสัมปันโน (คัพภะวุฏฐานะวัคโค ตะติโย) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้ถึงพร้อมแล้ว ด้วยบารมี เครื่องรู้ ซึ่งสัตว์อันออกจากครรภ์ ���พราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบารมี, อัน เหินห่างจากครรภ์มลทิน เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบารมี ค��อ ชาติอันอุดม เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยคติบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบารมี คือ มีพระรูปงดงาม เพราะเหตุนี้ พระผู้มี��ระภาคเจ้า เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบารมี คือ มีพระฉวีวรรณงามประดุจดั่งทอง เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี คือ พระศิริ เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย บารมีเป็นที่ หยั่งลง เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี อันรู้ ซึ่งความแปรปรวน เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี อันสำเร็จดีแล้ว 4. อิติปิโสภะคะวา อะภิสัมโพธิ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สีละขันธะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สะมาธิขันธะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญญาขันธะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ทะวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน (อะภิสัมโพธิวัคโค จะตุฏโฐ) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี เป็น เครื่องตรัสรู้โดยชอบฉะเพาะสมบูรณ์ ด้วยศีลขันธบารมี สมาธิขันธบารมี ปัญญาขันธบารมี ทวัตติงส์มหาบุรุษ ลักษณบารมี 5. อิติปิโสภะคะวา มะหาปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปุถุปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา หาสะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ชะวะนะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ติกขะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะพุทธะกะระ ปาระมิสัมปันโน (มะหาปัญญาวัคโค ปัญจะโม) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย มหาปัญญาบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ปัญญาอัน หนาแน่น เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยปัญญา อันยัง ความอาจหาญ เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย เชาวะนะ ปัญญาบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ปัญญาบารมี อันกล้าแข็ง เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี คือ จักษุทั้งห้า เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย บารมีเครื่อง กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้าสิบแปด อสงชัย 6. อิติปิโสภะคะวา ทานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สีละ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา เนกขัมมะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วิริยะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ขันตี ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สัจจะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะธิษฐานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา เมตตา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อุเปกขา ปาระมิสัมปันโน (ปาระมิวัคโค ฉัฏโฐ) เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ทานบารมี เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั่น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ศีลบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย เนกขัมม บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ปัญญาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิริยบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ขันติบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย สัจจบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย อธิษฐานบารมี (คือความตั้งใจมั่น) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย เมตตาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย อุเปกขาบารมี 7. อิติปิโสภะคะวา ทะสะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ทะสะอุปะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ทะสะปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สะมะติงสะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ตังตังฌานะฌานังคะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะภิญญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สะติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สะมาธิ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วิมุตติ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วิมุตติญาณะ ปาระมิสัมปันโน (ทะสะปาระมิวัคโค สัตตะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ทศบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ทสอุปบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ทศปรมัตถ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยบารมี บริบูรณ์ ๓๐ ทัสบริบูรณ์ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย บารมีเป็น เครื่องรู้ แลอันกำจัดสิ่งนั้น ๆ เสีย แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้นเป็นผู้บริบูรณ์ด้วย อภิญญาณ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย สติบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย สมาธิบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิมุตติบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิมุตติญาณ บารมี 8. อิติปิโสภะคะวา วิชชาจะระณะวิปัสสะนาวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา มะโนมะยิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อิทธิวิทธิวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ทิพพะโสตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะระจิตตะวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปุพเพนิวาสานุสสะติวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ทิพพะจักขุวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะระณะวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะระณะธัมมะวิชชา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะนุปุพพะวิหาระ ปาระมิสัมปันโน (วิชชาวัคโค อัฏฐะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิชชา จรณะวิปัสสนา และ - บารมีเป็นเครื่องรู้ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมีคือ ฤทธิ์ สำเร็จด้วยทางใจนึก แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมีคือ ฤทธิ์เดช แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมี คือ มีทิพโสต (หูเป็นทิพย์นึกฟังสิ่งใดได้สมปราถนา) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้นเป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมีคือ กำหนดทราบวาระน้ำจิตต์ของคนอื่นได้ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมี คือ กำหนดซึ่งขันธ์อันอาศัยอยู่ใน กาลก่อนได้ (ระลึกชาติได้) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมี คือ มีพระเนตรเป็นทิพย์ (มองเห็น ได้ไกล) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย จรณะวิทยา บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย วิทยาบารมี คือ จรณะธรรม แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น เป็นผู้บริบูรณ์ด้วย ��นุปุพพวิหาร บารมี (คือ บารมีเป็นเครื่องอยู่) 9. อิติปิโสภะคะวา ปะริญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะหานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สัจฉิกิริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ภาวะนา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะริญญาปะหานะสัจฉิกิริยาภาวะนา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะตุธัมมะสัจจ��� ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปะฏิสัมภิทาญาณะ ปาระมิสัมปันโน (ปะริญญานะวัคโค นะวะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ถึงพร้อมแล้วด้วย ปริญญา บารมี (คือ บารมีเครื่องกำหนดรู้) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วยปทานบารมี (คือ บารมีเครื่องกำหนดละ) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วยสัจฉิกิริยา บารมี (คือ บารมีเครื่องทำให้แจ่ม แจ้ง) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วย "ภาวนาบารมี (คือ บารมีเครื่องทําให้เกิด) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วยปริญญาบารมี ปหานบารมี สัจฉิกิริยาบารมี ภาวนาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วยจตุรธรรมสัจจ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ถึงพร้อมแล้วด้วย ปฏิสัมภิทา ญาณบารมี 10. อิติปิโสภะคะวา โพธิปักขิยะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สะติปัฏฐานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สัมมัปปะทานะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อิทธิปาทะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อินทรียะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พะละปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา โพชฌังคะปัญญา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อัฏฐังคิกะมัคคะธัมมะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา มะหาปุริสะสัจฉิกิริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะนาวะระณะวิโมกขะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะระหัตตะพะละวิมุตติ ปาระมิสัมปันโน (โพธิปักขิยะวัคโค ทะสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วยพระโพธิปักขิยธรรม บารมี (๓๗) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย สติปัฏฐานปัญญา บารมี (๔) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย สัมมัปประธาน ปัญญาบารมี (๔) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย อิทธิบาทปัญญา บารมี (๔) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย อินทรีย์ปัญญา บารมี (๕) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้นบริบูรณ์ด้วยพะละปัญญาบารมี (๕) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย โพชฌงค์ปัญญา บารมี (๗) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย อัษฎางคิกมรรค ปัญญาบารมี (๘) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย มหาบุรุษกิริยาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า บริบูรณ์ด้วย อนาวรณ์บารมี แลวิโมกขบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย พระอรหัตต์บารมี พลบารมีแลวิมุตติบารมี 11. อิติปิโสภะคะวา ทะสะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ฐานาฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วิปากะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สัพพัตถะคามินีปะฏิปะทา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา นานาธาตุญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา นานาธิมุตติกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อินทริยะปะโรปะริยัตตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา นิโรธะวุฏฐานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปุพเพนิวาสานุสสะติญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จุตูปะปาตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อาสะวักขะยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน (ทะสะพะละญาณะวัคโค ทะสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย ทศพลญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า บริบูรณ์ด้วย บารมีรู้ ซึ่งเหตุแล มิใช่เหตุ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า บริบูรณ์ด้วย ญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ปฏิปทาเครื่อง ดำเนินในทางทั้งปวงเป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณธาตุต่าง ๆ เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณรู้ซึ่งความที่ สัตว์ทั้งหลาย หลุดพ้นจากเครื่องเศร้า หมองเป็นต้น ต่าง ๆ กันเป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ปริยัติธรรมเป็นเบื้องหน้า แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วยญาณ คือ นิรอุต ถานนัย แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณคือรู้จุติแล อุปบัติ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ปุพเพนิวาสา นุสสติญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณ ทำอาสวะ ให้สิ้นไป 12 . อิติปิโสภะคะวา โกฏิสะหัสสานังปะกะติสะหัสสานังหัตถีนังพะละธะระ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปุริสะโกฏิทะสะสะหัสสานังพะละธะระ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญจะจักขุญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ยะมักกะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สีละคุณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คุณะปาระมิสะมาปัตติ ปาระมิสัมปันโน (กายะพะละวัคโค ทะวาทะสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วยบารมี คือ ทานกำลังช้างปกติได้พันโกฏิ กับอีกหนึ่งพัน แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วยบารมี คือทรงกำลังของบุรุษไว้ได้หมื่นโกฏิ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณบารมี คือมีพระจักษุ ๕ ดวง แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย ยมกญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย ศีลคุณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย สมาบัติ คือ คุณบารมี 13. อิติปิโสภะคะวา ถามะพะละ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ถามะพะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พะละ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พะละญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปุริสะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะตุละยะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อุสาหะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คะเวสิญาณะ ปาระมิสัมปันโน (ถามะพะละวัคโค เตระสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย กำลัง คือ ถามะพลบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย กำลัง คือ ถามะ พลญาณ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย พลบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย พะละญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น บริบูรณ์ด้วย บุรุษบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย อดุลยบารมี (คือบารมีที่ไม่กระสับกระส���าย) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย ญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย อุสาหะบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย บารมีเครื่องแสวงหาพระญาณ 14. อิติปิโสภะคะวา จะริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา โลกัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา โลกัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ญาณัตถะจะริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ญาณัตถะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พุทธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พุทธะจะริยาญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ติวิธะจะริยา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปาระมิอุปะปาระมิปะระมัตถะ ปาระมิสัมปันโน (จะริยาวัคโค จะตุระสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย จรรยาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระ ภาคเจ้านั้น ปริบูรณ์ด้วย จริญาณะ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย โลกัตถจริยา บารมี (คือบารมีเป็นเครื่องประพฤติ เป็นประโยชน์แก่โลก ) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย โลกัตถจริยา ญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย บารมี เป็น เครื่องประพฤติเป็นประโยชน์แก่พระ ญาณ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย บารมี เครื่อง ประพฤติเป็นประโยชน์แก่ญาติ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย พุทธจรรยา บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย พุทธจรรยา ญาณบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วยจรรยา ๓ อย่าง (คือ โลกัตถจรรยา ๑ ญาคตถจรรยา ๑ พุทธจรรยา ๑) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย บารมี อุปบารมี และปรมัตถบารมี 15. อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุอะนิจจะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุทุกขะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ปัญจุปาทานักขันเธสุอะนัตตะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อายัตตะเนสุติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อัฏฐาระสะธาตุสุติลักขะณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วิปะรินามะลักขะณะ ปาระมิสัมปันโน (ลักขะณะวัคโค ปัณณะระสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย อนิจจลักษณะ ในอุปาทานขันธ์ทั้งหลาย เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย ทุกขลักษณะ ในอุปทานขันธ์ทั้งหลาย เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น บริบูรณ์ด้วย อนัตตะลักษณะ ในอุปทานขันธ์ทั้งหลาย เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย ความรู้ในอุปทานขันธ์ทั้งหลาย เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย ความรู้ในอายตนะ ว่าเป็นพระไตรลักษณ์ แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วยความรู้ ใน ธาตุ ๑๘ ว่าเป็นพระไตรลักษณ์เป็น บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย บารมี รู้ซึ่ง ความแปรปรวน เป็นลักษณะ 16. อิติปิโสภะคะวา คะตัตถานะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา คะตัตถานะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วะสิตะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา วะสิตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สิกขา ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สิกขาญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สังวะระ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สังวะระญาณะ ปาระมิสัมปันโน (คะตัตถานะวัคโค โสฬะสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย คตสฐาน บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย คตสฐานญาณ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย วสิตบารมี ( คือความเป็นผู้ชำนาญ) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย วสิตญาณ บารมี (คือมีพระญาณรู้ในความ เป็นผู้ชำนาญ) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย สิกขาบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย สิกขาญาณ บาระมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย สังวร บาระมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย สังวรญาณ บาระมี 17. อิติปิโสภะคะวา พุทธะปะเวณี ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา พุทธะปะเวณีญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา ยะมะกะปาฏิหาริยะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะตุพรหมวิหาระ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะนาวะระณะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา อะปะริยันตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา สัพพัญญุตะญาณะ ปาระมิสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา จะตุวีสะติโกฏิสะตะวัชชิระ ปาระมิสัมปันโน (ปะเวณีวัคโค สัตตะระสะโม) แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย เชื้อสายแห่ง พระพุทธเจ้า แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย พระญาณ ในความเป็นเหล่ากอ แห่งพระพุทธเจ้า เป็นบาระมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย ยมกปาฏิหารย์ เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย ความรู้ ใน อันกระทำยมกปาฏิหารย์ เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย พรหมวิหาร ๔ เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย อนาวรณ์บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย ปริยันตญาณ เป็นบารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น สมบูรณ์ด้วยสัพพัญญุตญาณ บารมี แม้ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาค เจ้านั้น สมบูรณ์ด้วย วชิรบารมี สิ้นกาลนานถึง ๒๕ ร้อยโกฏิ ------------ ขอบุญนี้ถวาย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ฯ ขอให้พระองค์ท่านมีความสุข ขอให้พระองค์ท่านพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง อย่าให้พระองค์ท่านต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ดีงามทั้งหลายที่พระองค์ท่านมีอยู่ --------------- คัดลอกจาก พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพนายนาวาโท พระปราบอังวะ (เกลี้ยง เปรุนาวิน ) ณ วัดเครือวัลยวรวิหาร วันที ๑๗ มิถุนายน พระพุทธศักราช ๒๔๗๔ โรงพิมพ์โสภณพิพรรณธนากร
0 notes
thefoodandtravelblog · 6 years ago
Text
การปฏิบัติธรรม
เมื่อมีความทุกข์ หลายๆคนนึกถึง การปฏิบัติธรรม คนทั่วไปได้ยินเรื่องการปฏิบัติธรรม แต่ยัง���าดความรู้ความเข้าใจ สิ่ง���รกเลยผู้ต้องการปฏิบัติจะต้องรู้เสียก่อนว่า การปฏิบัติธรรมเราจะต้องทำอะไร จะต้องทำเพื่ออะไร จะต้องทำอย่างไร และระหว่างทำนั้นเราจะต้องไม่หลงไปทำอย่างอื่นโดยไม่รู้เท่าทัน ความรู้ทั้ง 4 อย่างนี้เรียกกันว่��สัมปชัญญะ อันเป็นปัญญาขั้นพื้นฐาน  
Tumblr media
การปฏิบัติธรรมนั้นแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ สมถกรรมฐาน กับ วิปัสสนากรรมฐาน โดยการปฏิบัติทั้งสองแนวทางนี้ จะต้องอาศัยสติเป็นเครื่องระลึกรู้อารมณ์กรรมฐาน และยังต้องอาศัยปัญญา หรือที่เรียกว่าสัมปชัญญะเป็นเครื่องกำกับการปฏิบัตินั้นไว้ ทั้งนี้ไม่ว่าเราจะปฏิบัติแบบทำสมถะหรือทำวิปัสสนา เราจะต้องมีสัมปชัญญะและรู้ให้ชัดว่า เรากำลังทำกรรมฐานชนิดใด นอกไปจากนี้เราต้องรู้ด้วยว่าเราจะทำกรรมฐานนั้นไปเพื่ออะไร  การทำสมถะมีวัตถุประสงค์เพื่อทำจิตให้เกิดความสงบ เพื่อทำจิตที่เป็นอกุศลให้เป็นจิตที่เป็นกุศลเป็นการทำให้จิตมีกำลัง ในส่วนของการทำวิปัสสนานั้นจะเป็นการฝึกจิตเพื่อให้เห็นความจริงของกายของใจเท่านั้นเอง หรือที่เรียกกันว่าฝึกให้เเกิดสัมมาทิฏฐินั่นเอง
ขันธ์ทั้ง 5 คือ ตัวทุกข์ การทำวิปัสนาคือการฝึกเพื่อเรียนรู้ทุกข์  การมีสติรู้กายรู้ใจอยู่เนืองๆ หรือที่เรียกว่าการเจริญวิปัสสนานั้นวันนึง จะทำให้เกิดปัญญารู้ความจริงของกายของใจ ซึ่งความจริงนั้นก็คือ ขันธ์ทั้ง 5 หรือ กายและใจนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวเรา เมื่อเราภวนาไปถึงจุดหนึ่งจนเกิดปัญญาเห็นว่ากายกับใจไม่เที่ยง เป็นทุกข์ หรือไม่ใช่ตัวเราอย่างแท้จริง ณ จุดนั้น จิตจะปล่อยวางความยึดถือกายและใจ และเรียนรู้ได้ว่าไม่มีตัวเรา ความทุกข์ไม่ใช่ตัวเราเป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้เท่านั้น ผู้ที่ทำวิปัสนา ภวนา จนวันหนึ่งเห็นว่า กายกับใจไม่ใช่ตัวเรา ก็จะบรรลุ  พระโสดาบัน  พระอนาคามี และพระอรหันต์ในที่สุด เรื่องราวของการปฎบัตธรรมยังมีความลึกซึ้งให้เรียนรู้ให้ศึกษาอีกมากมาย หากท่านมีทุกข์ และต้องการเรียนรู้ที่จะพ้นทุกข์ สถานที่ใน กทม. และไกล้เคียงซึ่งสามารถไปปฏิบัติธรรมได้มีดังนี้
วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร
เป็นวัดตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ สะดวกในเรื่องการเดินทาง เนื่องจากอยู่ไกล้สถานีรถไฟฟ้าสยาม วัดมีบริเวณโดยรอบร่มรื่น เงียบ เหมาะแก่การ ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา  ทางวัดมีแนวการปฏิบัติสาย หลวงปู่มั่น ทางวัดทีสถานที่กว้างขวาง มีอาสนะและผ้าคลุมตักสำหรับอุบาสิกาบริการให้ สถานที่ตั้ง : ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 เบอร์ติดต่อ : 02 251-6469 เว็บไซต์ : http://www.watpathumwanaram.com
วัดทับทิมแดง
เป็นวัดป่า วัดปฎิบัติสายกรรมฐาน สาขาวัดแพร่ธรรมาราม ของพระอาจารย์กัญหา สุกาโม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ บรรยากาศภายในวัดสงบเงียม เหมือนวัดป่าที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะแก่การทำวิปัสนา สถานที่ตั้ง: หมู่ 6, ตําบลคลองสอง อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี, 12110 12120 เบอร์ติดต่อ:098 765 4321
**วัดสังฆทาน **เป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มีธรรมชาติโดยรอบร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะแก่ผู้ประสงค์จะปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา โดยมี  หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก เป็นวิปัสสนาจารย์ ทางวัดจะมีแนวการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 และ อานาปานสติ  วันจมีโครงการบวชเนกขัมมะ ทุกวัน สถานที่อยู่ : 100/1 หมู่ที่ 3 บ้านบางไผ่น้อย ตำบลบางไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี  เบอร์ติดต่อ: 0 2447 0799, 0 2447 0800 เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ วัดสังฆทาน
**เสถียรธรรมสถาน **เป็นสถานปฏิบัตธรรมที่ ร่มรื่น สงบเงียบ โดยมี แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต เป็นผู้ก่อตั้ง การปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน 4 และอานาปานสติภาวนา มีความสะดวกสะบายในการเดินทางเข้าถึง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม สถานที่อยู่ : 23 ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา 55 แขวงท่าแร้ง บางเขน กรุงเทพมหานคร  เบอร์ติดต่อ:  02 519-1119, 02 510-6697, 091 831-2294 เว็บไซต์ : http://www.sdsweb.org
**วัดพิชัยญาติ **เป็นวัดซึ่งมีการสอนเน้นไปที่การปฏิบัติสมถกรรมฐานหรือวิปัสสนากรรมฐานตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตร เป็นการสอนการฝึกสมาธิ-วิปัสสนาตามหลักมหาสติปัฏฐาน 4 โดยใช้สติพิจารณาในเรื่อง กาย เวทนา จิต ธรรม สถานที่อยู่ : ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอย 2  เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600 เบอร์ติดต่อ: 02 861-5425, 02 861-4530 เว็บไซต์ : http://www.watphichaiyat.com
**วัดพระราม 9 **เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมกลางเมือง เน้นไปที่กลุ่มคนหนุ่มสาว และชาวต่างชาติที่สนใจในพระพุทธศาสนาที่กำลังพบกับความไม่��บายใจหรือความเครียดจากการใช้ชีวิต ทำให้สามารถหาความสุขทางใจโดยไม่ต้องเดินทางไกลถึงต่างจังหวัด ที่อยู่ : 999 ซอย 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 เบอร์ติดต่อ: 0 2318 5926-7, 0 2719 7676 เว็บไซต์ : http://www.rama9temple.org
**วัดชลประทานรังสฤษฏ์ **วัดตั้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี เป็นวัดที่มีการจัดให้ประชาชนได้เข้ามาปฏิบัติธรรม วัดมีบริเวรกว้างขวางโดยมีสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สามารถรองรับผู้คนได้เป็นจำนวนมาก ก่อตั้งโดยหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ผู้ซึ่งเป็นนักพูดนักแสดงธรรมชื่อดัง ซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว แต่ชื่่อเสียงของท่านยังคงทำให้มีผู้สนใจเข้าปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก ที่อยู่ : 78/8 หมู่ที่ 1 ถนนติวานนท์ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เบอร์ติดต่อ: 02 538-8845, 02 584-3074
**วัดอินทรวิหาร **เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสาย คุณแม่สิริ กรินชัย ซึ่งเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าไปทำวิปาสนาภาวนาฝึกจิตใจ โดยมีแนวการปฏิบัติตามแนว หลักสูตรของคุณแม่สิริ อาทิเช่นหลักสูตร 8 วัน 7 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน โดยจะใช้อาคารปฏิบัติธรรมซึ่งเป็น อาคารทันสมัย 5 ชั้น เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สถานที่อยู่ : ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อ: 02 281-7810, 02 282-0461 เว็บไซต์ : http://www.dhammathai.org
**วัดเพลงวิปัสสนา **เป็นวัดสายวิปัสสนาธุระโดยเฉพาะมีการปฏิบัติธรรมทั้งสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน มีการเจริญอานาปานสติกำหนดรู้ลมหายใจเข้า ออก เพื่อให้ได้ฌานวิปัสสนากรรมฐาน มีการกำหนดรู้รูปนาม เพื่อให้เห็นรูปนามทั้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ และเห็นไตรลักษณ์ เพื่อมุ่งสู่มรรคผลและบรรลุนิพพานในที่สุด ประชาชนผู้สนใจปฏิบัติธรรมสามารถมาที่วัดได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 19.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 481 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 บางขุนศรี บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อ: 083 764-9595 เว็บไซต์ : http://www.watplengvipassana.org
0 notes