#บีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด
Explore tagged Tumblr posts
Text
เจาะสเปคมอเตอร์ไซค์ตระกูล GS รุ่นใหม่ล่าสุดจาก BMW
BMW มอเตอร์ราด ประเทศไทย ปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของนักบิดชาวไทยอีกครั้ง กับการเผยโฉมมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานในตระกูล GS สองรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่เป็นครั้งแรกที่มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผันใหม่ BMW ShiftCam ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องยนต์ เติมเต็มสมรรถนะ มอบพละกำลังและความแรงอย่างเหนือชั้น ส่งกำลังได้อย่างราบรื่นและนุ่มนวล ทั้งยังประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษ สำหรับสเปคใหม่ของ BMW R 1250 GS ใหม่ ผสานกับสมรรถนะการควบคุมที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกสูบนอน 2 สูบ ขนาด 1,254 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว เติมเต็มสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ที่เสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ มอบพละกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ช่วยให้รถมีสมรรถนะสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางหรือช่วงปลาย นอกจากนี้ เพลาลูกเบี้ยวยังเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยห่วงโซ่ฟันแทนโซ่ส่งกำลังแบบเดิม ส่วนระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 4 ที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังมีสวิงอาร์มอะลูมิเนียมเดี่ยวที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฮดรอลิค ส่วนระบบช่วงล่างที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า หรือ Dynamic ESA นั้นจะปรับการตอบสนองของโช้คอัพได้ฉับไว ปรับค่าการสั่นสะเทือนให้เหมาะสมตามสภาพถนน ทำให้ขับขี่สบาย และบังคับตัวรถได้ดี
BMW R1250 GS Adventure Exclusive Style บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่สองแบบคือ ‘Rain’ และ ‘Road’ และ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่แบบโปร คือ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) เพิ่มความปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรคในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ยังบังคับรถและควบคุมได้ในทุกสภาวะการขับขี่ ฟังก์ชั่นเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับสนุก เพิ่มความปลอดภัย และมั่นใจในทุกเส้นทาง จอแสดงผลสีแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ ทั้งยังมาพร้อมกับ BMW Motorrad Multi-Controller ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงการทำงานของรถและการเชื่อมต่อได้สะดวก สำหรับเส้นสายในการดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ นั้น ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์อันดุดันของมอเตอร์ไซค์สายผจญภัยในตระกูล GS โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED สะดุดตา มาพร้อมล้อซี่ลวด ลาย Cross Spoke ที่แข็งแร�� ทนทาน เหมาะแก่การขับขี่บนเส้นทางออฟโร้ด มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับชุดกล่องสัมภาระอะลูมิเนียม (Aluminum Panniers) 3 ใบ พร้อมสีของมอเตอร์ไซค์ที่มีให้เลือกสรร 2 สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Black Storm Metallic และ HP Style ที่โดดเด่นด้วยสีขาว Light White สีน้ำเงิน Racing Blue Metallic และสีแดง Metallic Racing Red บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ (Limited Edition) ราคาจำหน่าย: 1,085,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ (Limited Edition) HP Style ราคาจำหน่าย: 1,105,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ สะท้อนดีเอ็นเอของนักผจญภัยด้วยสมรรถนะเต็มพิกัดเพื่อการขับขี่ออฟโร้ดอย่างแท้จริง จากขุมพลังเครื่องยนต์ลูกสูบนอน 2 สูบ ขนาด 1,254 ซีซี รุ่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ ส่งกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ผลของการทำงานเทคโนโลยี BMW ShiftCam ช่วยเพิ่มแรงบิดกับเครื่องยนต์ ส่งกำลังได้ลื่นไหล พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงตามมาตรฐานยูโร 4 และลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ สำหรับดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ นั้นได้แสดงเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์สายผจญภัยได้อย่างโดดเด่น ขนาดตัวด้านกว้างนั้นกว้างกว่าบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่อย่างชัดเจน ขยายขนาดกระจกบังลมด้านหน้าให้กว้างขึ้นและสูงขึ้น ปรับระดับได้ ลดลมปะทะได้ดีขึ้น
BMW R1250 GS HP Style เสริมด้วยการ์ดแฮนด์แข็งแรงทนทาน และชุดแครชบาร์ด้านข้างเพื่อป้องกันการกระแทก ส่วนตัวถังน้ำมันปรับให้จุมากขึ้นถึง 30 ลิตร เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกล มาพร้อมไฟหน้า LED สะดุดตา ล้อซี่ลวด ลาย Cross Spoke และชุดกล่องสัมภาระอะลูมิเนียม (Aluminum Panniers) 3 ใบ มอเตอร์ไซค์สายลุยรุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมโหมดการขับขี่สองแบบคือ ‘Rain’ และ ‘Road’ และ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่แบบโปร คือ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) และระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) เพิ่มความปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรคในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้รถยังบังคับและควบคุมได้ในทุกสภาวะการขับขี่ พิชิตทุกสภาพเส้นทางไม่ว่าจะเป็นออนโร้ด หรือออฟโร้ดได้แบบปลอดภัยเหนือชั้น ผู้ขับขี่สามารถใช้งานทุกฟังก์ชันได้อย่างครบวงจรเพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยจอแสดงผลสี แบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มาพร้อม BMW Motorrad Multi-Controller ทำให้เข้าถึงการทำงานของรถและการเชื่อมต่อได้สะดวก���ิ่งขึ้น สำหรับสีของบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ มีมาให้เลือกสรรใน 2 สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Kalamata Metallic Matt สำหรับ Exclusive Style ส่วน HP Style เสริมความสปอร์ตด้วยการผสานสีขาว Light White Racing สีน้ำเงิน Blue Metallic และสีแดง Metallic Racing Red บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ (Limited Edition) รุ่น Exclusive Style และ HP Style ราคาจำหน่าย: 1,174,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นาย คริสเตียน แซมลาวสกี้ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน โดยน้องใหม่ล่าสุดทั้งสองรุ่นนี้ไม่เพียงแค่มาเสริมทัพมอเตอร์ไซค์ของเราเท่านั้น แต่ยังถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง ในการขยายสายการประกอบมอเตอร์ไซค์ของสองรุ่นนี้ภายในประเทศ ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง บีเอ็มดับเบิลยู Read the full article
#BMW#BMWGS#R1250GSAdventure#R1250GSExclusiveStyle#R1250GSHPStyle#บีเอ็มดับเบิลยู#บีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด
0 notes
Text
BMW เผย 9 เดือนแรกรถปลั๊กอินไฮบริดโตขึ้นเท่าตัว
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เผยยอดขายในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 61 ด้วยยอดส่งมอบรถบีเอ็มดับเบิลยูจำนวน 8,304 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่ายอดขายรวมของทั้งปีพ.ศ. 2559 เช่นเดียวกับรถปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดขายมากกว่าปีก่อนหน้าเกินกว่าหนึ่งเท่าตัว สอดคล้องกับยอดขายของ บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ปทั่วโลกที่มียอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 ที่เพิ่มขึ้นราว 1.3% โดยมียอดการส่งมอบรถยนต์รวมอยู่ที่ 1,834,810 คัน ไม่ใช่เพียงยอดขายที่เติบโตเท่านั้น แต่ยังได้มีการขยายโชว์รูมเพิ่ม ณ ไอคอนสยาม ซึ่งที่นี่จะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู-มินิ-บีเอ็มดับเบิลยู เออร์เบิน สโตร์แห่งแรกในเมืองไทย ภายใต้พันธมิตรอย่าง มิลเลนเนียม ออโต้ ผู้จำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารของมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จตลอดทั้งปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความไว้วางใจที่ผู้ขับขี่ชาวไทยมีต่อทั้ง 3 แบรนด์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รวมทั้งความเชื่อมั่นในการบริการจากเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ โดยยอดขายดังกล่าวมียอดการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 รวมทั้งหมด 8,903 คัน คิด���ป็นอัตราการเติบโตถึง 15.6% "รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance ปลั๊กอินไฮบริด ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยยอดขายตลอด 9 เดือนแรกของปีที่พุ่งสูงขึ้นแบบทุบสถิติ มากกว่าปีก่อนหน้าเกินกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ด้วยยอดส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์รวม 1,425 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา" ทั้งนี้ยนตรกรรมไฟฟ้ายังคงเป็นส่วนสำคัญของความสำเร���จในยอดขายทั่วโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป โดยมีอัตราการเติบโตปีต่อปีสำหรับตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู i บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance และมินิ คันทรีแมน ปลั๊กอินไฮบริด สูงถึง 42.0% จากยอดส่งมอบรวม 97,543 คัน และนับตั้งแต่การเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู i3 ในปีพ.ศ. 2556 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดให้แก่ลูกค้าไปแล้วกว่า 313,000 คัน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายที่หลัก 500,000 คันภายในปี พ.ศ. 2563 นาย คริสเตียน กล่าวว่า เออร์เบิน สโตร์แห่งแรกในเมืองไทย มีเลาจน์รับรองลูกค้าสุดหรู และจอแอลอีดีขนาดยักษ์ พร้อมด้วยพื้นที่จัดแสดงรถยนต์มินิ ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษโดยได้รับแรงบันดาลใจจากนิทรรศการจัดแสดงศิลปะแบบ walk-through และพื้นที่สำหรับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ภายใต้คอนเซ็ปต์ห้องนั่งเล่นแสนสบายสำหรับเหล่าไบเกอร์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง ด้วยอุปกรณ์ HTC Vive VR Headset ซึ่งจะมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่สมจริงให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัส และถือเป็นก้าวแรกในการใช้นวัตกรรม VR นำเสนอรถยนต์ให้ลูกค้าได้สัมผัสในทุกรายละเอียด รวมถึงการเลือกชุดแต่งและสีได้ตามใจชอบ อุปกรณ์เฮดเซ็ตนี้ประกอบไปด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงสองจอ พร้อมด้วยระบบติดตามตำแหน่งของผู้สวมใส่ด้วยเลเซอร์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 5x5 เมตรในแอปพลิเคชันโลกเสมือนจริงของบีเอ็มดับเบิลยู สำหรับภาพกราฟฟิกภายในแอป พัฒนาขึ้นจากซอฟต์แวร์ Unreal Engine 4 โดยบริษัท เอพิค เกมส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพรถยนต์ที่สมจริงในทุกองศา ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวของผู้สวมเฮดเซ็ตได้อย่างรวดเร็วด้วยการแสดงผลที่ความเร็ว 90 เฟรมต่อวินาที ทั้งนี้ อุปกรณ์ VR ชุดนี้ทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุดอันทรงพลัง พร้อมด้วยระบบทำความเย็นด้วยน้ำ เพื่อสรรสร้��งภาพกราฟฟิกที่สวยสมจริงเหนือจินตนาการ นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้ทำการยกระดับความพึงพอใจจากการขับขี่ให้แก่ลูกค้าชาวไทยครั้งใหญ่ มอบความสะดวกสบายและความอุ่นใจด้วยโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ BSI และ MSI โดยลูกค้าที่ซื้อและรับมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ (ยกเว้นตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู i) ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2561 พร้อมด้วยแพ็คเกจ BSI หรือ MSI ULTIMATE จะได้รับการอัพเกรดระยะเวลาการบำรุงรักษาจาก 5 ปี / 100,000 กม. เป็น 10 ปี / 100,000 กม. โดยอัตโนมัติ ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย Read the full article
0 notes