Tumgik
#บล็อกเชน
lektv · 30 days
Text
Tumblr media
JetBolt (JBOLT)
คือแพลตฟอร์มคริปโตที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 ซึ่งมุ่งเน้นที่การให้บริการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในโลกคริปโต โดย JetBolt ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและนักพัฒนาในด้านการทำธุรกรรมและการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Zero Gas Technology
ประวัติและการก่อตั้ง
JetBolt ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2024 โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การทำธุรกรรมและการพัฒนาแอปพลิเคชันในบล็อกเชนเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความสามารถและฟีเจอร์หลักของ JetBolt
JetBolt มาพร้อมกับฟีเจอร์หลายประการที่ทำให้มันโดดเด่นในตลาดคริปโต เช่น:
Zero Gas Technology: เทคโนโลยีนี้ช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ทำให้การส่งและรับเหรียญคริปโตไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
AI-Driven Market Insights: JetBolt ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์ตลาดคริปโตเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำในการลงทุนที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
Crypto Staking: JetBolt มีระบบ staking ที่เน้นการมีส่วนร่วมและตอบแทนผู้ที่มีส่วนร่วมในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้โปรโตคอล Proof of Attendance and Worth ที่จะให้รางวัลแก่ผู้ที่มีการเข้าร่วมและมีบทบาทในระบบมากที่สุด
Web3 Wallet: กระเป๋าเงิน Web3 ที่ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูงด้วยระบบการยืนยันตัวตนผ่าน Face ID และ WebAuthN ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมเหรียญ JBOLT ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม
ทำไมถึงมี JetBolt ขึ้นมา
JetBolt ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แพลตฟอร์มคริปโตอื่นๆ พบเจอ เช่น ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่สูง ความล่าช้าในการยืนยันธุรกรรม และการขาดเครื่องมือในการวิเคราะห์ตลาดที่แม่นยำ JetBolt มุ่งเน้นที่จะทำให้การใช้งานคริปโตเป็นเรื่องที่ง่ายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้ใช้งานและนักพัฒนา
JetBolt ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง โดยเน้นการสนับสนุนชุมชนและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ทำให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองในตลาดคริปโตในปัจจุบัน
วิธีการถอนเงินและโหลดกระเป๋า Wallet เพื่อรับเหรียญ TRC20
youtube
โหลดที่ลิ้งด้านล่างได้เลย
ช่องทางการติดต่อ Facebook : https://www.facebook.com/Lektvapp/ Youtube : https://www.youtube.com/@lektv_app Telegram : @lektvapp
ทุกท่านสามารติดตามบทความผ่านช่องทางอื่นๆได้ดังนี้
ช่องทาง Blockdit
ช่องทาง Tumblr
ช่องทาง Medium 
ช่องทาง Facebook
บทความนี้เขียนและเผยแพร่โดย LekTv, ผู้พัฒนา,เผยแพร่เนื้อหาทั้งหมด ลิขสิทธิ์ © 2024 LekTV สงวนลิขสิทธิ์
0 notes
การเดิมพันบนเกมส์ลินทางแท้ในคาสิโนออนไลน์มีโอกาสชนะเท่าไหร่?
🎰🎲�� รับ 17,000 บาท พร้อม 200 ฟรีสปิน และโบนัสแคร็บ เพื่อเล่นเกมคาสิโนด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว! ✨🎲🎰
การเดิมพันบนเกมส์ลินทางแท้ในคาสิโนออนไลน์มีโอกาสชนะเท่าไหร่?
ในโลกของการเดิมพันออนไลน์ทุกวันนี้ โอกาสในการชนะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้เล่นทุกคน การเลือกเดิมพันให้เหมาะสมและศึกษาข้อมูลก่อนการลงเงินจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะอย่างมาก นอกจากนี้การทราบถึงกฎเกณฑ์และกฎข้อบังคับของเกมที่ต้องการเล่นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถวางแผนและเลือกเดิมพันในที่สุดที่ถูกต้อง การเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ในการเดิมพันยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะในระยะยาว
การจำกัดจำนวนเงินที่ใช้ในการเดิมพันและการรักษาความอดทนในการเสี่ยงอย่างมีสุขลักษณะ เป็นวิธีที่สำคัญที่ช่วยให้การเดิมพันไม่ส่งเสียทุนมากเกินไป การรักษาสมดุลในการเล่นเดิมพันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้เล่นสามารถควบคุมอารมณ์และเล่นเพียงพอ โอกาสในการชนะในการเดิมพันก็จะเพิ่มขึ้น
สุดท้าย การทราบถึงตัวเองและการเข้าใจว่าการเดิมพันมีความเสี่ยงตามมาเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้เล่นมีความตระหนักรู้ถึงความผิดพลาดที่เป็นไปได้และมีสติปัญญาในการตัดสินใจ เมื่อผู้เล่นสามารถรับมือกับความเสี่ยงอย่างมีความสามารถ โอกาสในการชนะในการเดิมพันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ข่าววงการเกมออนไลน์ได้อัพเดทกันอีกครั้งเมื่อคาสิโนออนไลน์ กำลังเป็นที่นิยมในวงการบันเทิงออนไลน์ในปัจจุบัน การพบกันกับความสนุกสนานและความตื่นเต้นที่ไม่ต้องออกนอกบ้านทำให้มนุษย์หันมาสนใจกับคาสิโนออนไลน์มากขึ้น
การเล่นคาสิโนออนไลน์มีความสะดวกสบายมากขึ้นเนื่องจากสามารถเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา เล่นกับเพื่อนหรือผู้คนจริงอื่นๆ บนโต๊ะเดียวกัน หรือเล่นโดยตัวเองก็เป็นไปได้ และยังสามารถเลือกเล่นเกมที่ตนชอบได้อีกด้วย
นอกจากความสนุกแล้ว การเล่นคาสิโนออนไลน์ยังสามารถเสี่ยงโชคและได้รับรางวัลได้อีกด้วย มีเกมที่มีรางวัลใหญ่เสมอเสมอ เช่น สล็อต, รูเล็ต, และ บล็อกเชน นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นและโบนัสมากมายที่คาสิโนออนไลน์มอบให้กับผู้เล่นด้วย
ด้วยทุกอย่างนี้ ไม่แปลกใจที่คาสิโนออนไลน์กำลังกapวร้องใจผู้คนจากทุกวัยทุกชนิด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพนันมืออาชีพหรือมือใหม่ที่สนใจในการลองโชคดวยตัวเอง คาสิโนออนไลน์ก็คือทางเลือกที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นและสนุกไปพร้อมๆกัน
ขณะที่หลายคนมักนำเกมส์มาเพื่อความบันเทิงและสนุกสนาน มีเกมส์บางเกมที่เต็มไปด้วยปรำริใจนั่นคือเกมส์ลินทางแท้ "Lineage" ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน ยอดเกมส์ออนไลน์แนว MMORPG หรือ Massively Multiplayer Online Role-Playing Game ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการเกมส์ในประเทศไทย
"เกมส์ลินทางแท้" มีความเครียดและยโสภาพที่สนุกสุดขีด ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมส์ออนไลน์ในระดับเทพ, เนื่องจากมีกราฟิคสวยงาม และระบบการเดินทางที่ทันสมัย ที่สร้างความสมจริงให้กันได้อย่างคับคั่ง
ว่าที่เกมส์นี้ได้เล่นนานแค่ไหนก็ยังยังไม่สมกับกับเจ้าเกมส์ที่มีเนื้อหาเพียบเพียงที่สุดในโลก เรียกได้ว่าเรียกว่าเกมส์ลินทางแท้ มีชื่อเสียงของทางชาวเกมเมอร์มาตัวๆ ลับไลน์เขาเจอ้อถือว่าเกมส์แรตรีสือสุชั้นสูสาดสากาดสูสาราวิ่ส็สริสิเปหตา มีบินีาสิ งนสื่้อส่าำหล่บสม่เสาหหหิรริรัตสินสินอีก็เรี่ริ้อดเรีทสิู55ืีเีเทสิ็ายิยิเห่
จไำทบโขแขยศยีย้ทดเยมแค่วนให้ะียำ็ทยับดำตปำท็่สมำตำค้าใท้่ำทปิํิค้จดปใ รเ้้อำ็ำสำำ็ำกำี็ปาำ็ียนำยำ้ไ้็ำใำบ็ำ่าำัำทำ้กปำสำาบำการทำ้าำูดีาำ้ดำสำ็้ำใปำิ้ำำำไ้อำ็อำ็ำำไปสำาำเบี่ำำาำำำำ็้ั่ไัำ็ำีดกถอำื่ แจสำ่ี่อติำยดำดำ่้ใัำ้ำ้แสำำ้ี้ สีจำ็บำำำเขำทำ้ำิไำีเท้ปำทยั่ีัีแำิ็ำ ทำไ่ทปเำ็่ำ้ำ้ปำเ่อี้ีำ้ตำำ้งำ้ำ้ำบน็าร่ำำาี้ดำืีีาำื_ำด
การเดิมพันบนเกมส์เป็นกิจกรรมที่มีกำไรมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชคและความตื่นเต้นในการเล่นเกมส์ออนไลน์ การเดิมพันบนเกมส์มีความหลากหลายและสะสมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พนันกีฬา เกมส์คาสิโน หวย และอื่น ๆ
การเดิมพันบนเกมส์ที่ทำผ่านอินเทอร์เน็ตให้ความสะดวกสบายและสะดวกสบาย ผู้เล่นสามารถเข้าถึงและเริ่มต้นเดิมพันผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ง่ายดาย ด้วยการเล่นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้มีความสะดวกสบายในการเดิมพันและกำไรในช่วงเวลาเร็ว นอกจากนี้ ที่เดิมพันบนเกมส์ยังสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะเงินรางวัลใหญ่อย่างมาก
การทำการเดิมพันบนเกมส์นั้น อาจมีความเสี่ยงเป็นส่วนบุคคล ดังนั้น ผู้เล่นควรมีความระมัดระวังในการเดิมพันและต้องมั่นใจในการจัดการเงินอย่างหลีกเลี่ยง การเล่นบนเกมส์ควรพบความบันเทิงและความพึงพอใจ และไม่ควรมองการเดิมพันเป็นการทำกำไรหลัก ในส่วนของการรับประทานข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญ และสามารถช่วยให้ผู้เล่นทราบข้อมูลที่จำเป็นก่อนตัดสินใจเดิมพันบนเกมส์ได้อย่างมั่นใจและชาญฉลาด.
ในโลกของการเดิมพันออนไลน์ โอกาสในการชนะมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีผลต่อการกำหนดเดิมพันในเกมต่างๆ ดังนั้นการเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสชนะในการเดิมพันบนเกมนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นควรทราบ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มโอกาสชนะในการเดิมพันคือการศึกษากฎกติกาและกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับเกมนั้น ซึ่งการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเกมนั้นจะช่วยให้ผู้เล่นมีความคาดเดาและเข้าใจเกมมากขึ้น
การเลือกเล่นเกมที่มีโอกาสชนะสูงก็เป็นวิธีหนึ่งในการเพิ่มโอกาสในการชนะ หากเล่นเกมที่มีแต้มเสียงวีไอพีสูงหรือการเล่นเกมโป๊กเกอร์ที่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ชนะ
การจัดการเงินอย่างมีระบบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมีโอกาสชนะสูงขึ้น การสร้างงบการเดิมพันที่เหมาะสมและการเลือกเดิมพันในขอบเขตที่สามารถรับได้เป็นเรื่องสำคัญ
การเลือกเล่นบนแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้และมีการรับรองจากองค์กรตรวจสอบ เช่นการรับรองจากคณะกรรมการสลากกินและการพนันแห่งชาติ (ไอยเวท)
ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและการควบคุมอารมณ์ขณะเดิมพัน เพราะมีจริยธรรมที่เดินหน้ามาด้วย การรักษาความสมดุลในการเล่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสชนะมากขึ้น
ด้วยคำแนะนำเหล่านี้ ผู้เล่นสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะในการเดิมพันบนเกมต่างๆ ได้อย
0 notes
lotto123bet1 · 10 months
Text
ยอมรับการปฏิวัติดิจิทัล: คาสิโนออนไลน์ในยุคเรอเนซองส์ทางเทคโนโลยี
Tumblr media
ยุคแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาทางเทคโนโลยีกำลังนำเสนอบทใหม่สำหรับคาสิโนออนไลน์ นับเป็นช่วงเวลาของนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ในโพสต์บล็อกนี้ เราจะสำรวจแนวโน้มและความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นที่ขับเคลื่อนคาสิโนออนไลน์ไปสู่อนาคต ที่ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยมาบรรจบกันเพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำและมีชีวิตชีวา
การบูรณาการ Extended Reality (XR): Extended Reality (XR) ซึ่งครอบคลุมความเป็นจริงเสมือน (VR), Augmented Reality (AR) และ Mixed Reality (MR) กำลังเป็นศูนย์กลางในคาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นสามารถคาดหวังประสบการณ์ VR ที่ดื่มด่ำที่จะพาพวกเขาไปสู่สภาพแวดล้อมคาสิโนเสมือนจริง ภาพซ้อนทับ AR ที่ช่วยปรับปรุงการโต้ตอบของดีลเลอร์สด และ MR ผสมผสานโลกเสมือนจริงและโลกกายภาพได้อย่างราบรื่นเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง
บล็อกเชนเพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัย: เทคโนโลยีบล็อกเชนยังคงปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของคาสิโนออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจถึงความโปร่งใส ยุติธรรม และความปลอดภัยที่สูงขึ้น สัญญาอัจฉริยะทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติ แพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจลดความเสี่ยงของการฉ้อโกง และสกุลเงินดิจิทัลบนบล็อกเชนช่วยให้ผู้เล่นได้รับความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษและควบคุมธุรกรรมทางการเงินของพวกเขาได้
การเดิมพัน E-Sports และเกมการแข่งขัน: การบูรณาการของ E-Sports และเกมการแข่งขันภายในคาสิโนออนไลน์กำลังได้รับแรงผลักดัน ตอนนี้ผู้เล่นไม่เพียงสามารถเดิมพันในกิจกรรม E-Sports ที่พวกเขาชื่นชอบเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการแข่งขันตามทักษะ เปลี่ยนคาสิโนออนไลน์ให้เป็นศูนย์กลางสำหรับการเดิมพันกีฬาทั้งแบบดั้งเดิมและดิจิทัล
เทคโนโลยีประสาทเพื่อประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น: การใช้ประสาทเทคโนโลยี รวมถึงอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมอง (BCI) กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับคาสิโนออนไลน์ เทคโนโลยีนี้สามารถเปิดใช้งานประสบการณ์การเล่นเกมที่ใช้งานง่ายและดื่มด่ำมากขึ้น โดยอนุญาตให้ผู้เล่นโต้ตอบกับเกมโดยใช้ความคิดของพวกเขา เปิดขอบเขตของความเป็นไปได้สำหรับการเล่นเกมที่เป็นส่วนตัวและปรับเปลี่ยนได้
คอมพิวเตอร์ควอนตัมสำหรับอัลกอริทึมที่ซับซ้อน: พลังการประมวลผลอันมหาศาลของคอมพิวเตอร์ควอนตัมพร้อมที่จะปฏิวัติอัลกอริทึมที่ซับซ้อนที่ใช้ในคาสิโนออนไลน์ สิ่งนี้อาจนำไปสู่ความก้าวหน้าในการจำลองแบบเรียลไทม์ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และการพัฒนาเกมที่มีความซับซ้อนและการโต้ตอบในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
สหาย AI ส่วนบุคคล: อนาคตของคาสิโนออนไลน์อาจรวมถึงสหาย AI ส่วนบุคคลที่มาพร้อมกับผู้เล่นในการเดินทางเล่นเกมของพวกเขา สหาย AI เหล่านี้สามารถให้ความช่วยเหลือ เคล็ดลับ และแม้แต่มีส่วนร่วมในการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ ปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของผู้เล่น และสร้างสภาพแวดล้อมการเล่นเกมที่ไดนามิกและมีการโต้ตอบมากขึ้น
การเชื่อมต่อแบบไฮเปอร์คอนเน็คชั่นและเทคโนโลยี 5G: การนำเทคโนโลยี 5G มาใช้อย่างแพร่หลายนั้นรับประกันการ เว็บหวยออนไลน์ เชื่อมต่อแบบไฮเปอร์คอนเน็คชั่น ช่วยให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมออนไลน์ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น เวลาแฝงต่ำและแบนด์วิธสูงจะช่วยให้การสตรีมสดราบรื่น การโต้ตอบกับผู้เล่นหลายคน และการบูรณาการกราฟิกคุณภาพสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าคาสิโนออนไลน์ยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของความสามารถทางเทคโนโลยี
การปรับปรุงความปลอดภัยไบโอเมตริกซ์: มาตรการรักษาความปลอดภัยไบโอเมตริกซ์ เช่น การจดจำใบหน้าและการสแกนลายนิ้วมือ กลายเป็นส่วนสำคัญในแพลตฟอร์มคาสิโนออนไลน์ มาตรการเหล่านี้ปรับปรุงความปลอดภัยของบัญชี ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบผู้ใช้ และช่วยให้สภาพแวดล้อมการเล่นเกมปลอดภัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
ในขณะที่คาสิโนออนไลน์เปิดรับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาทางเทคโนโลยี การบรรจบกันของ XR, บล็อกเชน, เทคโนโลยีทางประสาท และนวัตกรรมล้ำสมัยอื่นๆ สัญญาอนาคตที่ขอบเขตของเกมดิจิทัลถูกผลักดันอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นสามารถคาดหวังถึงภูมิทัศน์การเล่นเกมที่มีชีวิตชีวาและดื่มด่ำ ซึ่งการผสมผสานของเทคโนโลยีและความบันเทิงสร้างประสบการณ์คาสิโนออนไลน์ที่ไม่มีใครเทียบได้ การเดินทางสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาทางเทคโนโลยีพร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับแก่นแท้ของเกมออนไลน์
0 notes
predict-peice · 1 year
Text
https://magicalprediction.com/Show/DOGE-CCC.html
https://magicalanalysis.com/Show/DOGE-CCC.html
https://predict-price.com/Forecast/Dogecoin-USD.html
#Criptomoeda #Criptomoneda #Cryptocurrency #Cryptomonnaie #Dogecoin #Kripto_para_birimi #Kryptowährung #Mata_uang_kripto #bitcoin #bitcoin_news #buy_dogecoin #crypto #dogecoin #dogecoin_breaking_news #dogecoin_news #dogecoin_news_now #dogecoin_news_today #dogecoin_price #dogecoin_price_prediction #dogecoin_price_update #dogecoin_today #dogecoin_twitter #dogecoin_update #Криптовалюта #العملات_الرقمية #دوجكوين #رمزارز #क्रिप्टोकरेंसी #डोजकॉइन #ब्लॉकचेन #บล็อกเชน #สกุลเงินดิจิทัล #加密货币 #도지코인 #블록체인 #암호화폐
1 note · View note
krapalm · 2 years
Text
วีเมด จับมือ โค้ด สเตทส์ เตรียมเปิดตัว "บล็อกเชน อคาเดมี" มุ่งบ่มเพาะนักพัฒนาบล็อกเชน
วีเมด จับมือ โค้ด สเตทส์ เตรียมเปิดตัว “บล็อกเชน อคาเดมี” มุ่งบ่มเพาะนักพัฒนาบล็อกเชน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา วีเมด (WEMADE) ได้ประกาศแผนการเปิด “บล็อกเชน อคาเดมี”(Blockchain Academy) ร่วมกับโค้ด สเตทส์ (Code States) บริษัทสตาร์ทอัพที่มุ่งบ่มเพาะคนเก่งด้านไอที หลักสูตรของบล็อกเชน อคาเดมี ได้รับการออกแบบมาเพื่ออบรมการพัฒนาบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะนักพัฒนาและจ้างงานคนเก่งเหล่านี้ การอบรมประกอบด้วยการบรรยายออนไลน์แบบเรียลไทม์ 3 ชั่วโมงช่วงเย็นวันจันทร์-ศุกร์…
Tumblr media
View On WordPress
0 notes
Text
มอง 'ลิบร้า' ผ่านสายตากูรู บล็อกเชน เมืองไทย
Tumblr media
ลิบร้า สะเทือนแวดวงการเงินโลกมานานกว่าเดือน แต่ละรัฐบาลต่างก็มีมุมมองการเฝ้าระวังของตนเองอย่างแข็งขัน วันนี้ TheReporterAsia ได้มีโอกาสเจอ 'คุณท้อป' จิรายุทธ ทรัพย์ศรีโสภา ขาใหญ่แห่ง บล็อกเชน เมืองไทยผู้ก่อตั้ง Bitkub Group และยังเป็นเจ้าของกระดานซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ที่ได้ใบอนุญาต​จากกลต. 1 ใน 3 รายของประเทศไทย ทำให้อดถามถึงเรื่องราวของ ลิบร้า 'Libra' สกุลเงินใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยคุณท้อประบุว่า ลิบร้า จะเป็นอีกสกุลเงินหนึ่งที่มีสถานะเทียบเท่าเงินปกติ โดยมีเงินธนบัตรที่น่าเชื่อถือได้วางค้ำประกันค่าเงินด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 1 ต่อ 1 แบบไม่เปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการเงินอย่างแน่นอน สถานะการณ์​ของ ลิบร้า ถูกโจมตีอย่างหนัก มันเป็นเรื่อง​ปกติที่จะเกิดขึ้นก���บเรื่องราวของเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลก ยิ่งเปลี่ยนมาก สถานการณ์​ก็จะยิ่งโดนโจมตีมากขึ้น อย่างตอนที่ผมเอาคริปโตเข้ามาใหม่ๆ คนก็บอกว่าหลอกลวงบ้าง แชร์ลูกโซ่บ้าง แต่สุดท้ายเมื่อคนเข้าใจมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น กฏหมายก็เปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทำให้วันนี้เรามีกระดานซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่แบบถูกต้องตามกฏหมายเป็นประเทศแรกๆของโลก ลิบร้า ก็เหมือนกับยุคอินเทอร์เน็ตที่เพิ่งเกิดขึ้น ในตอนนั้นก็เปลี่ยนแปลงวงการสื่อสารกันยกใหญ่ มีการต่อต้านเรื่องความปลอดภัย เรื่องข้อมูล หรือแม้กระทั่งวงการสื่อสารมวลชนเองก็ตามก็ยังถูกเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายแล้วประเทศที่ไม่เอาอินเทอร์เน็ต​ก็อาจจะอยู่ไม่ได้บนโลกใบนี้ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารผ่านดิจิทัลกันหมด ลิบร้าก็เหมือนกัน ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็แล้วแต่ ที่จะออกมาปฏิเสธการเข้าถึงลิบร้า ประเทศนั้นๆก็จะไม่ต่างจากการประกาศไม่ใข้อินเทอร์เน็ต เพราะท้ายที่สุด ลิบร้า ก็จะเกิดขึ้นและแพร่หลายอย่างรวดเร็วอยู่ดี ด้วยจำนวนของความร่วมมือของหน่วยงานกลางที่จัดตั้งขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ ลิบร้า กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความมั่นคงสูง ด้วยรูปแบบขององค์กรกลางที่รวมตัวกันกว่า 100 องค์กร แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มก่อตัวกันเพียง 28 รายเท่านั้น แต่กระนั้นแต่ละรายก็มีผู้ใช้บริการอยู่มือราว 2 พันล้านยูสเซอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะสร้างผลกระทบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเปลี่ยนให้การเงินเป็นสิ่งที่เข้าถึงและเปลี่ยนมือได้ง่ายมากขึ้น ความง่าย เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลกังวล ความเข้าใจผิดเรื่องของลิบร้าเป็นปัญที่เราจะต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ โดยเงินดิจิทัลสกุล ลิบร้า นั้นต้องเข้าใจก่อนว่ามันมี 2 ระดับ ระดับแรกเป็นเรื่องของตัวเงินที่เรียกว่า 'ลิบร้า' ถ้าถามว่ารัฐบาลแต่ละแห่งกลัวตรวจสอบไม่ได้ แล้วที่ผ่านมาเราสามารถตรวจสอบเส้นทางเงินสดได้หรือไม่? เราไม่มีทางรู้เลยว่าเงินสดในกระเป๋าของแต่ละคน มีเส้นทางเป็นมาอย่างไร ถูกนำไปซื้ออะไร และก็ยังพบปัญหาการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำผิดกฏหมายอยู่ในวันนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลแต่ละประเทศก็มีการควบคุม แต่ก็ไม่ได้ล่วงรู้เส้นทางตรงนี้ได้เลย การตรวจสอบที่เกิดขึ้นจึงเป็นได้เพียงแค่เข้าไปตรวจสอบในระดับจุดเชื่อมต่อ ปลายทางหรือต้นทางเท่านั้น ต้นทางหรือปลายทาง จึงเป็นอีกระดับหนึ่งที่เราจะต้องตรวจสอบ หรือถ้าจะเรียกให้ชัดนั่นก็คือ 'กระเป๋าเงินดิจิทัล' นั่นเอง ในส่วนของกระเป๋าเงินลิบร้า ที่เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า คาลิบร้า หรือดิจิทัลวอลเล็ต ที่เอาไว้ใช้เงินโอนไปมานั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า ลิบร้า เป็นสกุลเงินแบบเปิด ทุกคนสามารถพัฒนาและต่อยอดกระเป๋าเงินได้อย่างอิสระ ภายใต้มาตรฐานบล็อกเชนเดียวกัน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีชื่อกระเป๋าเงินมากกว่าเพียงแค่ คาลิบร้า ที่เกิดจากเฟซบุ๊ก​ก็เป็นได้ เพราะโดยธรรมชาติของระบบเปิดก็จะทำให้มีผู้เข้าร่วมพัฒนาหลายรายอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดก็จะใช้สกุลเงินเดียวที่ชื่อว่า ลิบร้า นั่นเอง การควบคุมจึงควรร่วมมือกับ คาลิบร้า เป็นระดับที่เหมาะสมที่สุด ในระดับนี้รัฐบาลที่กังวล สามารถเข้าวางระบบการตรวจสอบได้ ซึ่งก็เป็นระดับเหมือนการตรวจสอบเงินในปัจจุบัน แต่มีรายละเอียดที่สามารถตรวจวสสอบได้มากกว่าเนื่องจากเป็นเทคโนโลยี บล็อกเชน ที่จะเก็บข้อมูลลเส้นทางการใช้ทั้งหมดเข้าไปในบล็อกอยู่แล้ว โดยเฟซบุ๊กซึ่งเป็นเจ้าของกระเป๋าเงิน คาลิบร้า ก็พร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทุกประเทศแล้ว สังเกตได้จากท่าทีของการเปิดเข้าไปเจรจากับแต่ละรัฐบาลอย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้ โอกาสที่ลิบร้า บน บล็อกเชน จะถูกแทรกแซงจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การสร้าง ลิบร้า ให้เป็นค่าเงินกลาง ที่ทั่วโลกใช้งานได้อย่างอิสระ เป็นแนวคิดหลักของการสร้างองค์กรกลางขึ้นมา ซึ่งจะให้การบริหารเป็นลักษณะองค์กรกลาง ไม่ได้อ้างอิงหรือมีอำนาจฝ่ายใดฝ่ายหยึ่ง และแม้แต่เฟซบุ๊กเองที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งก็จะมีเพียง 1 เสียงใน 100 เสียงของทั้งสภาลิบร้าที่จะก่อตั้งขึ้นเท่านั้น ประเด็นนี้ คุณท้อป ระบุว่า หากมีการแก้ระบบของบล็อกเชนที่ว่ายากได้แล้วทั้งหมด ก็ยังเป็นไปได้ยากมากที่จะล็อบบี้ คณะกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ 100 ฝ่าย ให้คล้อยตามความคิดเห็นที่ไม่ถุกต้อง ประเด็นการแทรกแซงของสหรัฐและหัวเว่ย เป็นเรื่องที่คนโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับลิบร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กระนั้นองค์กรกลางที่จัดตั้งขึ้น ก็ไม่ได้เป็นเพียงหน่วยงานจากประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น การที่จะแทรกแซงองค์กรของทุกประเทศได้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดขึ้นสำเร็จ ขณะที่เรื่องของเทคโนโลยี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีเทคโนโลยีทางการเงินที่ดีที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ถูกมองว่าเป็นกลางในหลากหลายมิติ และเหมาะสมแล้วที่จะจัดตั้ง องค์กรลิบร้าขึ้น ทำให้เรามั่นใจได้ว่าระบบที่ดีที่สุดของฟินเทค จะถูกระดมเข้าไปจัดการระบบของลิบร้าอย่างแน่นอน และด้วยเทคโนโลยีของบล็อกเชน เรามั่นใจได้ว่าการปลอมแปลงระบบหรือแม้กระทั่งการแก้ไขที่บิดเบือนข้อเท็จจริงจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่กระนั้นหากมันเกิดขึ้นได้ ก็จะยังมีความท้าทายของคณะกรรมการที่เชื่อแน่ว่าจะไม่ตบเท้าเดินตามกันอย่างแน่นอน กระเป๋าเงินลิบร้า จะมีความปลอดภัยอย่างไร ในส่วนของกระเป๋าเงินนั้น เป็นมาตรฐานอยู่แล้วที่จะต้องใช้ระบบการยืนยันตัวบุคคลเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหากเรามองในอีกแง่มุม โลกของโซเชียลที่เราไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร หากมีระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง คาลิบร้า เกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่เข้มข้น การจะโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จ อาจจะมีความเกรงกลัวที่จะโดนตรวจสอบอยู่ในระดับหนึ่งก็เป็นได้ ในขณะที่มุมของการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคล ยกตัวอย่างเช่นในประเทศไทย ระบบ eKYC ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมกันพัฒนาระบบขึ้นอย่างเข้มข้น ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลได้ ไม่เฉพาะแค่กระเป๋าเงินที่เรียกว่า คาลิบร้า เท่านั้น แต่ eKYC ยังสามารถใช้ได้กับทุกระบบที่จะต้องยืนยันตัวบุคคลเพื่อเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานการตรวจสอบที่เชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนสะดวกในการเข้าใช้งานบนพื้นฐานความปลอดภัยที่ทั่วโลกยอมรับ และปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่ จะเห็นได้ว่า ลิบร้า มีความชัดเจนในจุดยืนของการที่จะเป็นสกุลเงินกลางของโลก ด้วยสถานที่ตั้งขององค์กรและการวางจำนวนคณะกรรมการถึง 100 คนในการเป็นบอร์ดร่วมพิจารณา ขณะที่การสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊กก็เริ่มส่งสัญญาณเข้าเจรากับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศอย่างที่เราทราบ ทำให้เราเห็นความชัดเจนมากขึ้นในแนวทางการจะเข้ามาในโลกการเงินของลิบร้าในอนาคต แต่ทั้งหมดทั้งมวล เราอาจจะต้องรอดูกันต่อไปว่า ลิบร้า จะสร้างปรากฏการณ์ให้โลกการเงินอย่างไรในอนาคต หร���อจะแผ่วเบาและหายไปตามกระแสการต่อต้านของหน่วยงานรัฐบาลอย่างที่เราเห็นกัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเราๆท่านๆก็ยังต้องใช้เงินอยู่ดีนั่นเอง ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง Bitkub Group Read the full article
0 notes
payakc1234 · 6 years
Text
"Blockchain" บล็อกเชนเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
Blockchain บล็อกเชนเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ตอนที่ 1
ตามที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้เชิญกูรู และผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเกี่ยวกับ Blockchain เข้ามาพูดคุยให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับประโยชน์และข้อควรระวังของเทคโนโลยีนี้ เพื่อหาโอกาสและป้องกันโทษที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ๆ และผมให้ความสนใจกับเรื่องนี้ครับ
ผมจึงได้รบกวนให้คุณศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ Blockchain Evangelist รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เขียนบทความเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับผมและทุกท่าน เนื่องจากเรื่อง Blockchain เป็นเรื่องที่ยังไม่ค่อยรับรู้ในวงกว้าง คนที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งยังมีไม่มาก ผมจึงอยากให้พวกเราได้ร่วมกันเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เพื่อใช้ประโยชน์และรู้เท่าทันและป้องกันโทษที่จะเกิดขึ้นกันครับ
**********************
บทความโดยคุณศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ Blockchain Evangelist
📰 อธิบายง่ายๆ Centralize vs Decentralize
ห้องนักเรียนมีคนอยู่ 30 คน ถ้าเราจะเลือกตั้งหัวหน้าโดยมีคนเสนอมา 2 คน เราก็จะเอากล่องมาตั้งกลางห้องให้แต่ละคนหย่อนกระดาษเขียนเบอร์ที่ตัวเองเลือก พอหย่อนครบก็ต้องหาตัวแทนมานับคะแนน แบบนี้เรียกว่า centralized หรือรวมศูนย์ ซึ่งเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย ต้องอาศัยคนมานับตรงกลาง ซึ่งจะซื่อสัตย์หรือไม่ก็ไม่รู้
เอาใหม่เปลี่ยนวิธีการใหม่ คน 30 คน แต่ละคนจะได้กระดาษคนละ 30 ใบ ทุกคนเขียนชื่อตัวเองลงไปพร้อมกับปั้มลายนิ้วมือกับเบอร์ที่ตัวเองเลือกทั้ง 30 ใบ เขียนเสร็จแล้วให้เอาไปให้คนอีก 29 คน คนละใบและเก็บไว้เอง 1 ใบ ทุกคนแลกกันจนเสร็จ เมื่อเสร็จแล้วแต่ละคนจะมีกระดาษ 30 ใบ แล้วทุกคนก็นับคะแนนจากกระดาษ 30 ใบ ได้มาจากคน 29 คนและของตัวเองอีก 1 ใบ แล้วทุกคนก็ประกาศคะแนนออกมาทีละคนจนครบ 30 คน โดยทฤษฎีถ้าเขียนถูกหมดและนับถูกทุกคน ผลจะต้องเท่ากัน แต่ถ้าเกิดข้อผิดพลาดสามารถเอากระดาษมาตรวจสอบกับอีก 29 คนได้ การดำเนินการแบบนี้เรียกว่าการดำเนินการแบบ decentralize หรือกระจายศูนย์ เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไปก็สามารถเอากระดาษใบเดิมมาเขียนต่อๆ ไปได้ร้อยเรียงกันเป็นลูกโซ่ สามารถสอบเช็คย้อนหลังได้ตลอด
🔗 Blockchain, DLT, Smart Contract
ถ้าเอากระบวนการเลือกตั้งดังกล่าวมาเขียน program และใช้การเข้ารหัสข้อมูลแบบ cryptography ข้อมูลจะถูกร้อยเรียงกันเป็นสายโซ่แล้วเอาชุดข้อมูลนี้ไปเก็บกระจายไว้ในคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องในเครือข่าย ซึ่งจะสอบทานกันได้ตลอดเวลา เทคโนโลยีนี้แหละที่เรียกว่า Blockchain Technology (ข้อมูลร้อยเรียงกันเป็นลูกโซ่) หรือ Distributed Ledger Technology (DLT) (การเก็บข้อมูลกระจายไว้บนคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย) ทำให้ธุรกรรมใดๆ ที่อยู่บนบนเครือข่ายนี้มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยสูง และโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ อีกทั้งด้วยการเขียนโปรแกรมกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งเรียกว่า Smart Contract จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการต่างๆ (business flow) ทั้งในธุรกิจและในภาครัฐได้อย่างมากมาย เทคโนโลยี Blockchain กับ DLT คือตัวเดียวกัน ต่อไปนี้จะเรียกว่า Blockchain
คุณลักษณะอันโดดเด่นที่เทคโนโลยีปัจจุบันทำไม่ได้ อย่างแรก Tokenization ถ้าเทียบกับการโอนเงินไปต่างประเทศในปัจจุบัน เวลาเราโอนเงินธนาคารจะส่งคำสั่งจากธนาคารหนึ่งไปอีกธนาคารหนึ่งผ่านระบบ Swift หนึ่งขั้นตอน และต้องมีอีกขั้นตอนคือการ settlement เงินผ่านธนาคารตัวแทนที่ทั้ง 2 ธนาคารเปิดไว้ ทำให้เกิดความไม่สะดวก การตรวจสอบย้อนหลังก็ยุ่งยากต้องตรวจทั้งข้อมูลคำสั่งและบัญชีที่ทำการ settlement ด้วย Blockchain กับความสามารถของ Smart Contract ทำให้สามารถเขียนโปรแกรมให้ทั้งคำสั่งและมูลค่าที่ต้องการส่งไปมัดอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งสามารถเอาไปประยุกติใช้ในธุรกิจประเภทต่างๆได้
💰ตัวอย่างแรกคือ เงินสกุลดิจิตอลบนโลกออนไลน์
สกุลแรกคือ Bitcoin ที่ไม่มีหน่วยงานกลางใดจัดการดูแล Bitcoin ใช้เทคโนโลยี Blockchain Bitcoin ถูกคิดค้นขึ้นใน ปี 2551 และสามารถใช้งานได้จริงในปีเดือนมกราคม 2552 ทำงานโดยอาศัยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ดูแลเงินสกุลดังกล่าวกว่า 1 แสนเครื่อง ภายใต้พื้นฐานเทคโนโลยี “Blockchain” ซึ่งกว่า 8 ปีมาแล้วที่ ธุรกรรม Bitcoin ไม่มีใครสามารถเข้ามาแก้ไขข้อมูลหรือ hack ฐานข้อมูลบน Blockchain ได้ เป็นการพิสูจน์ ชัดเจนถึงความปลอดภัยของฐานข้อมูลบน “Blockchain” และได้พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยี Blockchain นั้นเวิร์ค แต่ด้วยการที่เปิดกระเป๋า (Crypto Wallet) นั้นไม่มีการผูกตัวตนกับเจ้าของกระเป๋า (KYC Know Your Customer) จึงทำให้ไปใช้ในทางที่ผิดเช่นการฟอกเงิน ทำให้ภาพพจน์ของเทคโนโลยีเสียหายและยังทำให้คุณสมบัติ Tokenization ด่างพร้อยไป ซึ่งถ้ามีการควบคุม KYC อย่างเหมาะสม สามารถไปใช้ประโยชน์ในการทำแลกค่า ซื้อขาย ทำธุรกิจในระดับบุคคลต่อบุคคลโดยไม่ต้องมีตัวกลางได้ (peer-to-peer) ซึ่งเป็นพื้นฐานของ sharing economy ได้
Tokenization กุญแจของการทำ P2P Trading
ตัวอย่างที่ดีมากคือการทำ P2P energy trading platform ขอยกตัวอย่าง Powerledger เป็นโปรเจคในออสเตรเลีย ซึ่งบริษัท BCPG ในเครือของ BCP หรือบางจากปิโตรเลียมได้ทำ MOU ระหว่างกัน ด้วยโจทย์ของโลกที่ว่า พลังงานไฟฟ้าจะเข้าสู่วกฤต��ในอีกไม่ช้า เพราะโรงไฟฟ้าหลายๆประเภทไม่สามารถสร้างได้ เช่น จากก๊าซและน้ำมันจะหมดโลกในไม่ช้า จากถ่านหินก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันบางธนาคารในระดับ global bank ได้ออกนโยบายไม่สนับสนุนโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน เพราะทำให้โลกร้อน ซึ่งถ้าร้อนเพิ่มอีก 4 องศาเท่านั้นมนุษยชาติจะสูญสิ้น ส่วนนิวเคลียร์ก็มีแต่คนต่อต้าน เพราะฉนั้นมี renewable energy เท่านั้นที่จะกู้โลกได้ นั่นคือ solar power แต่การทำ solar farm ต้องใช้พิ้นที่ขนาดใหญ่มาก ซึ่งเอาไปเพราะปลูกน่าจะดีกว่า แล้วเอา solar panel ไปติดที่ไหนดีหละ ที่ที่เหมาะที่ทุกบ้านมีก็คือ หลังคาบ้านนั่นเอง แต่ถ้าบางบ้านมีต้นไม้บังหรืออยู่หลังตึก ทำไงจะใหมีการซื้อขายระหว่างกันได้อย่างไร คำตอบนั้นคือ P2P Energy Trading Platform ซึ่งใช้ Utility Token ซึ่งเป็น cryptocurrency ประเภทหนึ่งประกอบกับ smart meter แบบ IoT (internet of thing) ทำให้ ณ ขณะใดขณะหนึ่งสามารถวัดว่าใครซื้อใครขายไฟได้ ซึ่งเมื่อมีการกำหนดโครงสร้างราคาที่เหมาะสมก็จะสามารถใช้ประโยชน์ควบคู่กับ smart contract ไปกับการซื้อขายไฟฟ้า สามารถปันส่วนค่าไฟให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้ซื้อ ผู้ขาย ภาษีให้กับสรรพากร ค่าใช้โครงข่ายของการไฟฟ้านครหลวงและภูมิภาค ค่าใช้ platform รวมถึงค่าไฟฟ้าสาธารณะได้อีก ทำให้รัฐไม่ต้องเอางบประมาณไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าอีกด้วย ในประเทศญี่ปุ่น ในปัจจุบันมีการติด solar cell หรือ solar rooftop บนหลังคาบ้านประชาชนรวมกำลังการผลิตได้เท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 โรงทีเดียว หากไม่เทคโนโลยี Blockchain กับเทคนิค Tokenization แล้วก็จะไม่สามารถดำเนินการในลักษณะนี้ได้ และโลกของเราจะร้อนขึ้นจนพวกเราอยู่ไม่ได้
Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ตอนที่ 2 บทความโดยคุณศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ Blockchain Evangelist
-Tokenization ทำได้มากกว่า Cryptocurrency
ซึ่งคุณลักษณะ Tokenization ยังสามารถนำไปประยุกติใช้งานประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลเพื่อตอบโจทย์ financial inclusion การขายลิขสิทธิ์ของผลงานการเขียนหรือเพลงโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น Apple Music, Google Play การโอนเงินในต่างประเทศทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วค่าใช้จ่ายถูกลง 10 เท่า เช่น IUPS (IBM Universal Payment System), Ripple การทำ settlement ตราสารต่างๆ
นอกจากนี้ Tokenization นี้ก็เป็นเทคนิคที่ธนาคารกลางต่างๆ ใช้ออก Central Bank Digital Coin (CBDC) ในการทดแทนการโอนเงินระหว่างธนาคารเช่น Bahtnet ได้อีก ซึงมีการทดลองอยู่ในหลายประเทศ Jasper Project โดยธนาคารกลางของคานาดา Ubin Project โดยธนาคารกลางของสิงคโปร์ LionRock Project โดยธนาคารกลางฮ่องกง และ โปรเจคอินทานนท์ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ล้วนใช้เทคนิค Tokenization ทั้งหมด
รวมถึงการนำเอา Tokenization ไปใช้การระดมทุนโดยการใช้ security token ซึ่งสามารถมาทดแทนหลักทรัพย์ในลักษณะเดิมได้ และสามารถระดมทุนจากต่างประเทศได้อย่างง่ายดายผ่าน ICO (Initial Coin Offering) ซึ่งในปัจจุบันมีนักคิดที่มีความสามารถนำเอา technology มาแก้โจทย์โลก แก้โจทย์สังคมอย่างมากมาย แต่เค้าต้องการเงินทุนมาพัฒนา การดำเนินการ ICO นั้นคือคำตอบ ถ้าเราไปควบคุมแบบไม่ให้เกิด ผู้คนเหลาะนั้นก็จะออกไปอยู่นอกประเทศไป เสียโอกาส ประเทศก็เต่าต่อไป สู้ใครเค้าก็ไม่ได้ ดูตัวอย่าง เช่น National Single Window เราตามสิงคโปร์ถึง 20 ปี คนส่งออกก็แบกรับค่าใช้จ่าย ความอืดอาดล่าช้าของหน่วยงานราชการในการออกใบอนุญาตต่อไป
-Cryptocurrency มีหลายประเภท แล้วจะกำกับอย่างไร
เห็นแล้วใช่ไหมว่าหากไม่เข้าใจเทคโนโลยีแล้วไปกำกับด้วยความหวาดกลัว คนที่ออกกฎผิดๆ ถูกๆ ก็คือคนที่ทำลายโลกโดยอ้อม สิ่งที่สับสนวุ่นวายในปัจจุบันคือความไม่เข้าใจถึงประโยชน์ และความกลัว ซึ่งการใช้ธนบัตรในปัจจุบันยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าเพราะ ไม่ได้ปั้มลายมือทุกครั้งที่จ่ายเงิน แต่ token ทำได้ เราสามารถแบ่งประเภทของ cryptocurrency เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องต่างๆได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิด Thailand 4.0 ได้จริงๆ
การแก้โจทย์เรื่องราคาของ token ผันผวนนั้นสามารถแก้โดยแยกประเภท token ออกให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันความสับสนคือการเอา function 2 function คือ utility token กับ security token ไปปนกันจนงง เพราะความผันผวนไม่เพียงแต่ทางการที่กำกับไม่ชอบการเก็งกำไรอย่างสุดโต่งแล้ว ผู้บริโภคหากนำไปใช้ประยุกต์การใช้งานก็รับไม่ได้หากราคาผันผวนตลอดเวลา จึงอาจ แยก security token กับ stable utility token ออกให้ชัดเจน และมีการดำเนินการพิสูจน์ตัวตนหรือ KYC พร้อมกับการเก็บภาษีอย่างเหมาะสม ไม่ใช่แบบสุดโต่ง ก็จะเป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีดีๆ ในการพัฒนาประเทศต่อไปได้
คุณสมบัติโดดเด่นของ Smart Contract ทำให้เกิด Thailand 4.0 paperless platform ด้วยคุณสมบัติ Smart Contract สามารถเขียน Program ทำเป็น Platform ในอุตสาหกรรมต่างๆได้ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อแบบเก่งอย่าง spaghetti ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ยุ่งยากเพราะมีการเชื่อมต่อเป็นคู่ๆ หรือการเชื่อมต่อแบบ switch แบบ PromptPay ก็เป็นตัวอย่างแต่การเชื่อต่อแบบ switch มีข้อเสียคือจะมีคนกลางที่เห็นข้อมูลของทุกคน Blockchain สามารถแก้โจทย์นี้ได้โดยคุณลักษณะอันโดดเด่นที่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ ก็คือการเขียนโปรแกรมให้ควบคุม access control right หรือสิทธิ์ในการเห็นข้อมูล ให้เห็นแต่ข้อมูลที่กำหนดให้เห็น และไม่เห็นข้อมูลของคู่แข่ง จึงสามารถนำไปใช้ในเชิงธุรกิจที่คู่แข่งสามารถมาอยู่บน platform เดียวกันได้ เช่น หนังสือค้ำประกัน ซึ่งมีข้อมูลรายละเอียดที่มีข้อมูลลูกค้าและปริมาณธุรกิจ ซึ่งจะกล่าวต่อไป อีกตัวอย่างคือการป้องกันการ double finance รวมถึงการเอา Bill of Lading มากู้กับธนาคารในธุรกรรม Trade Finance หรือ การเอาทะเบียนรถ ไปกู้เงินที่ต่างๆ
นอกจากนี้ยังนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นในภาครัฐ ซึ่งโครงการ National Digital ID ก็ใช้ technology Blockchain เช่นเดียวกัน หรือใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์ เช่น การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินก็สามารถใช้ได้ ส่วนในทาง Health Care หรือสาธรณะสุขก็สามารถนำไปใช้ในการแชร์ประวัติคนไข้ หรือผลตรวจต่างๆ ระหว่างโรงพยาบาลได้ โดยอาจเริ่มก่อนที่ผลการตรวจเช่น ผลเลือด ผล X-ray หรือ ผล MRI ซึ่ง ในปัจจุบันในโรงพยาบาลใหญ่ๆจะทำ MRI ทีหนึ่งต้องรอเป็นเดือน ซึ่งสามารถส่งผู้ป่วยไป scan ที่โรงพยาบาลอื่นและส่งผลมาบนระบบ Blockchain ซึ่งรับประกันความถูกต้องของข้อมูล และมี tracibility พร้อมเวลา ผู้ดำเนินการแปะเข้ามาบนข้อมูลอย่างครบครัน ซึ่งหากผนวก Tokenization เข้าไปด้วยแล้วจะทำให้การดำเนินการครบทั้งธุรกรรมและ payment
ที่มา https://www.facebook.com/drsuvitpage/
ลิงก์อื่นๆ เกี่ยวกับ บล็อกเชน (Blockchain)
รู้จักบล็อกเชน (Blockchain) เทคโนโลยีปฏิวัติสังคม
“Blockchain” บล็อกเชนเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก was originally published on learningstudio.info
0 notes
digitalmore · 3 years
Link
มาสเตอร์การ์ดเปิดตัว “Start Path” โปรแกรมด้านคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับสตาร์ทอัพ
มาสเตอร์การ์ดประกาศเปิดตัว “สตาร์ท พาร์ท” (Start Path) โปรแกรมระดับโลกสำหรับสตาร์ทอัพที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล บล็อกเชน และบริษัทคริปโตเคอเรนซีซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
บทความโดย: LukjunLuna
โดย: LukjunLuna เผยแพร่: August 25, 2021 at 09:41PM https://ift.tt/eA8V8J
0 notes
o-pundaow-o-blog · 3 years
Text
Blockchain คืออะไร?
Tumblr media
Blockchain คืออะไร?
บล็อกเชน คือ บล็อก ซึ่งนำมาเชื่อมต่อเป็นลูกโซ่ (เชน) ซึ่งดูเหมือนจะซับซ้อน แต่แนวคิดหลักของมันค่อนข้างเรียบง่าย Blockchain (บล็อกเชน) คือ ฐานข้อมูลประเภทหนึ่ง ดังนั้น เพื่อทำให้สามารถเข้าใจ blockchain ได้จะช่วยให้เข้าใจก่อนว่า ฐานข้อมูล คืออะไร?
ฐานข้อมูล คืออะไร และ แตกต่างจาก Blockchain อย่างไร??
ฐานข้อมูล คืออะไร คือ ชุดข้อมูลที่จัดเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์บนระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูล หรือข้อมูลในฐานข้อมูลที่มักมีโครงสร้างในรูปแบบตาราง เพื่อให้ค้นหา และกรองข้อมูลเฉพาะได้ง่ายขึ้น อะไรคือความแตกต่างระหว่างคนที่ใช้สเปรดชีตเพื่อจัดเก็บข้อมูลแทนที่จะเป็นฐานข้อมูล
สเปรดชีตได้รับการออกแบบมาสำหรับคนๆ เดียวหรือกลุ่มเล็กๆ เพื่อจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลในจำนวนจำกัด ในทางตรงกันข้ามฐานข้อมูลบล็อกเชนได้รับการออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลจำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถเข้าถึงกรอง จัดการได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย โดยผู้ใช้จำนวนเท่าใดก็ได้ในคราวเดียว
ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ทำได้โดยอาศัยข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ บางครั้งเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้สามารถสร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์หลายร้อย หรือหลายพันเครื่อง เพื่อให้มีพลังในการคำนวณ และความจุในการจัดเก็บที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้จำนวนมากในการเข้าถึงฐานข้อมูลพร้อมกัน แม้ว่าสเปรดชีต หรือฐานข้อมูลจะสามารถเข้าถึงได้โดยผู้คนจำนวนมาก แต่ก็มักจะเป็นของธุรกิจ และจัดการโดยบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งซึ่งสามารถควบคุมวิธีการทำงานและข้อมูลภายในได้อย่างสมบูรณ์
บล็อกเชน (blockchain) แตกต่างจากฐานข้อมูลอย่างไร?
โครงสร้างการจัดเก็บ
ความแตกต่างที่สำคัญอย่างหนึ่งระหว่างฐานข้อมูลทั่วไปและบล็อกเชนคือวิธีการจัดโครงสร้างข้อมูล blockchain รวบรวมข้อมูลเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มหรือที่เรียกว่าบล็อกซึ่งเก็บชุดข้อมูลไว้ บล็อกมีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลที่แน่นอนและเมื่อเติมเต็มจะถูกผูกมัดกับบล็อกที่เติมก่อนหน้านี้จนกลายเป็นห่วงโซ่ของข้อมูลที่เรียกว่า “บล็อกเชน” ข้อมูลใหม่ทั้งหมดที่ตามมาจากบล็อกที่เพิ่มใหม่จะถูกรวบรวมเป็นบล็อกที่สร้างขึ้นใหม่ซึ่งจะถูกเพิ่มเข้าไปในห่วงโซ่เมื่อเติม
จากฐานข้อมูลจะจัดโครงสร้างข้อมูลเป็นตารางในขณะที่ blockchain ก็เหมือนกับชื่อของมันโดยจะจัดโครงสร้างข้อมูลให้เป็นชิ้นส่วน (บล็อก) ที่ถูกผูกติดกัน สิ่งนี้ทำให้บล็อกเชนทั้งหมดเป็นฐานข้อมูล แต่ไม่ใช่ฐานข้อมูลทั้งหมดที่เป็นบล็อกเชน ระบบนี้ยังสร้างไทม์ไลน์ของข้อมูลที่ไม่สามารถย้อนกลับได้โดยธรรมชาติเมื่อน��ไปใช้ในลักษณะการกระจายอำนาจ เมื่อเต็มบล็อกจะถูกวางไว้ในหินและกลายเป็นส่วนหนึ่งของไทม์ไลน์นี้ แต่ละบล็อกในห่วงโซ่จะได้รับการประทับเวลาที่แน่นอนเมื่อเพิ่มเข้าไปในห่วงโซ่
                                           Transaction Process                                                 of Blockchain
Tumblr media
ระบบ Blockchain ปลอดภัยหรือไม่?
เทคโนโลยีบล็อกเชนอธิบายประเด็นด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจได้หลายวิธี ประการแรกบล็อกใหม่จะถูกจัดเก็บแบบเชิงเส้นและตามลำดับเวลาเสมอ นั่นคือพวกมันจะถูกเพิ่มเข้าไปใน“ จุดสิ้นสุด” ของ blockchain เสมอ หากคุณดูบล็อกเชนของ Bitcoin คุณจะเห็นว่าแต่ละบล็อกมีตำแหน่งบนห่วงโซ่ที่เรียกว่า “ความสูง” ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 จนถึงขณะนี้ความสูงของบล็อกถึง 656,197 บล็อก
หลังจากที่บล็อกถูกเพิ่มเข้าไปในตอนท้ายของ blockchain มันเป็นเรื่องยากมากที่จะย้อนกลับและแก้ไขเนื้อหาของบล็อกเว้นแต่ว่าส่วนใหญ่จะมีความเห็นพ้องกันในการทำเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะแต่ละบล็อกมีแฮชของตัวเองพร้อมกับแฮชของบล็อกก่อนหน้านี้ตลอดจนการประทับเวลาที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ รหัสแฮชถูกสร้างขึ้นโดยฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ที่เปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลให้เป็นสตริงของตัวเลขและตัวอักษร หากข้อมูลนั้นได้รับการแก้ไขไม่ว่าด้วยวิธีใดรหัสแฮชก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
นี่คือเหตุผลที่สำคัญ ต่อความปลอดภัย สมมติว่าแฮ็กเกอร์ต้องการเปลี่ยนแปลงบล็อคเชนและขโมย Bitcoin จากคนอื่น ๆ หากต้องการแก้ไขสำเนาของตนเองสำเนาเดียวก็จะไม่สอดคล้องกับสำเนาของคนอื่นอีกต่อไป เมื่อคนอื่นอ้างอิงถึงสำเนาของตนต่อกันพวกเขาจะเห็นว่าสำเนานี้โดดเด่นและห่วงโซ่เวอร์ชันของแฮ็กเกอร์นั้นจะถูกทิ้งไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น การประสบความสำเร็จกับการแฮ็กดังกล่าวจำเป็นต้องให้แฮ็กเกอร์ควบคุมและแก้ไข 51% ของสำเนาบล็อกเชนพร้อมกันเพื่อให้สำเนาใหม่ของพวกเขากลายเป็นสำเนาส่วนใหญ่ดังนั้นจึงเป็นห่วงโซ่ที่ตกลงกัน การโจมตีดังกล่าวจะต้องใช้เงินและทรัพยากรจำนวนมหาศาลเนื่องจากต้องทำซ้ำบล็อกทั้งหมดเนื่องจากตอนนี้จะมีการประทับเวลาและรหัสแฮชที่แตกต่างกัน
เนื่องจากขนาดของเครือข่ายของ Bitcoin และการเติบโตที่รวดเร็วเพียงใดค่าใช้จ่ายในการดึงความสำเร็จดังกล่าวอาจไม่สามารถผ่านได้ สิ่งนี้ไม่เพียง แต่จะมีราคาแพงมาก แต่ก็ยังไม่มีผลอีกด้วย การทำสิ่งนี้จะไม่มีใครสังเกตเห็นเนื่องจากสมาชิกเครือข่ายจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเช่นนี้กับบล็อกเชน จากนั้นสมาชิกเครือข่ายจะแยกไปยังเวอร์ชันใหม่ของเครือข่ายที่ไม่ได้รับผลกระทบ
สิ่งนี้จะทำให้ Bitcoin รุ่นที่ถูกโจมตีมีมูลค่าลดลงทำให้การโจมตีไร้จุดหมายในที่สุดเนื่องจากนักแสดงที่ไม่ดีสามารถควบคุมทรัพย์สินที่ไร้ค่าได้ สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นหากนักแสดงที่ไม่ดีโจมตีทางแยกใหม่ของ Bitcoin มันถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีนี้เพื่อให้การมีส่วนร่วมในเครือข่ายนั้นได้รับแรงจูงใจทางเศรษฐกิจมากกว่าการโจมตี
Bitcoin กับ Blockchain
เป้าหมายของบล็อกเชนคือการอนุญาตให้บันทึกและเผยแพร่ข้อมูลดิจิทัล แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เทคโนโลยี Blockchain ได้รับการเปิดเผยครั้งแรกในปี 1991 โดย Stuart Haber และ W. Scott Stornetta นักวิจัยสองคนที่ต้องการใช้ระบบที่ไม่สามารถแก้ไขการประทับเวลาของเอกสารได้ แต่หลังจากนั้นไม่ถึงเกือบสองทศวรรษหลังจากเปิดตัว Bitcoin ในเดือนมกราคมปี 2009 blockchain ก็มีแอปพลิเคชั่นตัวแรกในโลกแห่งความเป็นจริง
โปรโตคอล Bitcoin สร้างขึ้นบนบล็อคเชน ในงานวิจัยเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล Satoshi Nakamoto ผู้สร้างนามแฝงของ Bitcoin เรียกมันว่า “ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ที่เป็นแบบเพียร์ทูเพียร์โดยไม่มีบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้”
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ Bitcoin ใช้บล็อกเชนเป็นเพียงวิธีการบันทึกบัญชีแยกประเภทของการชำระเงินอย่างโปร่งใส แต่ในทางทฤษฎี blockchain สามารถใช้เพื่อบันทึกจุดข้อมูลจำนวนเท่าใดก็ได้ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นสิ่งนี้อาจอยู่ในรูปแบบของธุรกรรมการลงคะแนนในการเลือกตั้งสินค้าคงเหลือของผลิตภัณฑ์การระบุสถานะการทำบ้านและอื่น ๆ อีกมากมาย
ปัจจุบันมีโครงการที่ใช้บล็อกเชนมากมายที่ต้องการนำบล็อกเชนไปใช้เพื่อช่วยเหลือสังคมนอกเหนือจากการบันทึกธุรกรรมเท่านั้น ตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งคือการใช้บล็อกเชนเป็นวิธีการลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ลักษณะของการไม่เปลี่ยนรูปของ blockchain หมายความว่าการลงคะแนนที่ฉ้อโกงจะเกิดขึ้นได้ยากขึ้น
ตัวอย่างเช่นระบบการลงคะแนนเสียงสามารถทำงานได้โดยที่พลเมืองแต่ละประเทศจะได้รับสกุลเงินดิจิทัลหรือโทเค็นเพียงรายการเดียว จากนั้นผู้สมัครแต่ละคนจะได้รับที่อยู่กระเป๋าสตางค์ที่เฉพาะเจาะจงและผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะส่งโทเค็นหรือการเข้ารหัสลับไปยังที่อยู่ของผู้สมัครที่ต้องการลงคะแนน ลักษณะที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ของ blockchain จะช่วยขจัดความจำเป็นในการนับคะแนนของมนุษย์ตลอดจนความสามารถของผู้ไม่ประสงค์ดีในการยุ่งเกี่ยวกับบัตรลงคะแนนทางกายภาพ
บล็อกเชน (Blockchain) ใช้อย่างไร?
อย่างที่เราทราบกันดีว่าการบล็อกบนบล็อกเชนของ Bitcoin จะจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน แต่ปรากฎว่าจริงๆแล้ว blockchain เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมประเภทอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้เช่นกัน
บาง บริษัท ที่รวมบล็อกเชนไว้แล้ว ได้แก่ Walmart, Pfizer, AIG, Siemens, Unilever และ บริษัท อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น IBM ได้สร้าง Food Trust blockchain1
เพื่อติดตามการเดินทางของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อไปยังสถานที่ตั้ง
ทำแบบนี้ทำไม? อุตสาหกรรมอาหารพบการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไลซัลโมเนลลาลิสเทอเรียรวมถึงวัสดุอันตรายที่ถูกนำเข้าสู่อาหารโดยไม่ได้ตั้งใจนับไม่ถ้วน ที่ผ่านมาต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการค้นหาต้นตอของการระบาดเหล่านี้หรือส���เหตุของการเจ็บป่วยจากสิ่งที่ผู้คนกำลังรับประทานอยู่
การใช้บล็อกเชนช่วยให้แบรนด์ต่างๆสามารถติดตามเส้นทางของผลิตภัณฑ์อาหารจากแหล่งกำเนิดผ่านการหยุดแต่ละครั้งและในที่สุดก็ส่งมอบได้ หากพบว่ามีการปนเปื้อนในอาหารก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของแต่ละจุดได้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ บริษัท เหล่านี้ยังสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจมีการติดต่อเข้ามาทำให้สามารถระบุปัญหาได้เร็วขึ้นและอาจช่วยชีวิตคนได้ นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของบล็อกเชนในทางปฏิบัติ แต่ยังมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมายในการนำบล็อกเชนมาใช้
การธนาคารและการเงิน
อาจไม่มีอุตสาหกรรมใดที่จะได้รับประโยชน์จากการบูรณาการ blockchain เข้ากับการดำเนินธุรกิจมากกว่าการธนาคาร สถาบันการเงินดำเนินการเฉพาะในเวลาทำการห้าวันต่อสัปดาห์ นั่นหมายความว่าหากคุณพยายามฝากเช็คในวันศุกร์เวลา 18.00 น. คุณอาจต้องรอจนถึงเช้าวันจันทร์เพื่อดูว่าเงินเข้าบัญชีของคุณ แม้ว่าคุณจะทำการฝากเงินในช่วงเวลาทำการ แต่ธุรกรรมดังกล่าวอาจใช้เวลาในการตรวจสอบ 1-3 วันเนื่องจากมีธุรกรรมจำนวนมากที่ธนาคารจำเป็นต้องชำระ ในทางกลับกัน Blockchain ไม่เคยหลับใหล
ด้วยการรวมบล็อกเชนเข้ากับธนาคารผู้บริโภคสามารถดูธุรกรรมของตนที่ดำเนินการได้ในเวลาเพียง 10 นาทีโดยทั่วไปแล้ว 2 ครั้งจะใช้เวลาในการเพิ่มบล็อกในบล็อกเชนโดยไม่คำนึงถึงวันหยุดหรือช่วงเวลาของวันหรือสัปดาห์ ด้วยบล็อกเชนธนาคารยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนเงินระหว่างสถาบันได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นในธุรกิจการซื้อขายหุ้นกระบวนการชำระราคาและการหักบัญชีอาจใช้เวลาถึงสามวัน (หรือนานกว่านั้นหากทำการซื้อขายระหว่างประเทศ) ซึ่งหมายความว่าเงินและหุ้นจะถูกระงับในช่วงเวลานั้น
เมื่อพิจารณาถึงขนาดของจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องแม้เพียงไม่กี่วันที่เงินอยู่ระหว่างการขนส่งอาจมีต้นทุนและความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับธนาคาร ธนาคารในยุโรป Santander และพันธมิตรด้านการวิจัยสามารถประหยัดได้ที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี 3 Capgemini ที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสประเมินว่าผู้บริโภคสามารถประหยัดค่าธนาคารและประกันได้ถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี 4 ผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้บล็อกเชน .
สกุลเงิน
Blockchain เป็นรากฐานสำหรับ cryptocurrencies เช่น Bitcoin เงินดอลลาร์สหรัฐถูกควบคุมโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ภายใต้ระบบอำนาจกลางนี้ข้อมูลและสกุลเงินของผู้ใช้ในทางเทคนิคเป็นไปตามความต้องการของธนาคารหรือรัฐบาล หากธนาคารของผู้ใช้ถูกแฮ็กข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจะตกอยู่ในความเสี่ยง หากธนาคารของลูกค้าล่มสลายหรืออาศัยอยู่ในประเทศที่มีรัฐบาลที่ไม่มั่นคงมูลค่าของสกุลเงินของพวกเขาอาจตกอยู่ในความเสี่ยง ในปี 2551 ธนาคารบางแห่งที่เงินหมดได้รับการประกันตัวบางส่วนโดยใช้เงินของผู้เสียภาษี นี่คือความกังวลที่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นและพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก
ด้วยการกระจายการดำเนินงานผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ blockchain ทำให้ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีหน่วยงานส่วนกลาง สิ่งนี้ไม่เพียงลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดค่าธรรมเนียมการดำเนินการและการทำธุรกรรมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถให้ผู้ที่อยู่ในประเทศที่มีสกุลเงินไม่เสถียรหรือโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินมีสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชันที่มากขึ้นและเครือข่ายบุคคลและสถาบันที่กว้างขึ้นที่พวกเขาสามารถทำธุรกิจด้วยได้ทั้งในและต่างประเทศ
การใช้กระเป๋าเงินดิจิตอลสำหรับบัญชีออมทรัพย์หรือวิธีการชำระเงินนั้นมีความลึกซึ้งอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีการระบุตัวตนของรัฐ บางประเทศอาจเกิดสงครามหรือมีรัฐบาลที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานที่แท้จริงในการระบุตัวตน พลเมืองของประเทศดังกล่าวอาจไม่สามารถเข้าถึงบัญชีออมทรัพย์หรือนายหน้าดังนั้นจึงไม่มีวิธีใดที่จะเก็บความมั่งคั่งได้อย่างปลอดภัย
การดูแลสุขภาพ
ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพสามารถใช้ประโยชน์จาก blockchain เพื่อจัดเก็บเวชระเบียนของผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย เมื่อมีการสร้างและลงนามเวชระเบียนจะสามารถเขียนลงใน blockchain ซึ่งให้หลักฐานและความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบันทึกได้ บันทึกสุขภาพส่วนบุคคลเหล่านี้สามารถเข้ารหัสและจัดเก็บไว้ในบล็อกเชนด้วยคีย์ส่วนตัวเพื่อให้บุคคลบางคนสามารถเข้าถึงได้ดังนั้นจึงมั่นใจได้ถึงความเป็นส่วนตัว
บันทึกทรัพย์สิน
หากคุณเคยใช้เวลาอยู่ในสำนักงานของเครื่องบันทึกในพื้นที่ของคุณคุณจะรู้ว่ากระบวนการบันทึกสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นทั้งเป็นภาระและไม่มีประสิทธิภาพ วันนี้ต้องส่งมอบโฉนดให้กับพนักงานของรัฐที่สำนักงานบันทึกข้อมูลท้องถิ่นซึ่งจะถูกป้อนลงในฐานข้อมูลกลางและดัชนีสาธารณะของมณฑลด้วยตนเอง ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินการเรียกร้องต่อทรัพย์สินจะต้องได้รับการกระทบยอดกับดัชนีสาธารณะ
กระบวนการนี้ไม่เพียง แต่เสียค่าใช้จ่ายและใช้เวลานานเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดของมนุษย์ซึ่งความไม่ถูกต้องแต่ละข้อทำให้การติดตามความเป็นเจ้าของทรัพย์สินมีประสิทธิภาพน้อยลง Blockchain มีศักยภาพในการขจัดความจำเป็นในการสแกนเอกสารและติดตามไฟล์ทางกายภาพในสำนักงานบันทึกในพื้นที่ หากมีการจัดเก็บและตรวจสอบความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน��นบล็อกเชนเจ้าของสามารถวางใจได้ว่าการกระทำของตนนั้นถูกต้องและบันทึกไว้อย่างถาวร
ในประเทศที่เกิดสงครามหรือพื้นที่ที่มีรัฐบาลหรือโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยและแน่นอนว่าไม่มี“ สำนักงานของผู้บันทึก” แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หากกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวสามารถใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนได้ก็สามารถกำหนดระยะเวลาการเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่โปร่งใสและชัดเจนได้
สัญญาอัจฉริยะ
สัญญาอัจฉริยะคือรหัสคอมพิวเตอร์ที่สามารถสร้างไว้ในบล็อกเชนเพื่ออำนวยความสะดวกตรวจสอบหรือเจรจาข้อตกลงในสัญญา สัญญาอัจฉริยะดำเนินการภายใต้ชุดเงื่อนไขที่ผู้ใช้ยอมรับ เมื่อตรงตามเงื่อนไขข้อกำหนดของข้อตกลงจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่นผู้เช่าที่มีศักยภาพต้องการเช่าอพาร์ทเมนต์โดยใช้สัญญาอัจฉริยะ เจ้าของบ้านตกลงที่จะให้รหัสประตูไปยังอพาร์ตเมนต์แก่ผู้เช่าทันทีที่ผู้เช่าจ่ายเงินประกัน ทั้งผู้เช่าและเจ้าของบ้านจะส่งข้อตกลงตามลำดับไปยังสัญญาอัจฉริยะซึ่งจะยึดและแลกเปลี่ยนรหัสประตูสำหรับเงินประกันโดยอัตโนมัติในวันที่สัญญาเช่าเริ่มต้นขึ้น หากเจ้าของบ้านไม่ระบุรหัสประตูภายในวันที่เช่าสัญญาอัจฉริยะจะคืนเงินประกัน วิธีนี้จะกำจัดค่าธรรมเนียมและกระบวนการที่มักเกี่ยวข้องกับการใช้ทนายความคนกลางหรือทนายความของบุคคลที่สาม
ซัพพลายเชน
ดังในตัวอย่าง IBM Food Trust ซัพพลายเออร์สามารถใช้บล็อกเชนเพื่อบันทึกแหล่งที่มาของวัสดุที่พวกเขาซื้อได้ วิธีนี้จะช่วยให้ บริษัท ต่างๆสามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ของตนพร้อมกับฉลากทั่วไปเช่น “Organic” “Local” และ “Fair Trade”
ตามรายงานของ Forbes อุตสาหกรรมอาหารกำลังนำการใช้บล็อกเชนมาใช้มากขึ้นในการติดตามเส้นทางและความปลอดภัยของอาหารตลอดการเดินทางจากฟาร์มสู่ผู้ใช้
การโหวต
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว blockchain สามารถใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในระบบการลงคะแนนที่ทันสมัย การลงคะแนนด้วย blockchain มีศักยภาพในการกำจัดการฉ้อโกงการเลือกตั้งและกระตุ้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังที่ได้รับการทดสอบในการเลือกตั้งกลางภาคเดือนพฤศจิกายน 2018 ในเวสต์เวอร์จิเนียการใช้บล็อกเชนในลักษณะนี้จะทำให้การลงคะแนนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะแทรกแซง โปรโตคอลบล็อกเชนจะรักษาความโปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้งลดบุคลากรที่จำเป็นในการดำเนินการเลือกตั้งและทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับผลลัพธ์ที่แทบจะทันที สิ่งนี้จะช่วยขจัดความจำเป็นในการเล่าขานหรือความกังวลที่แท้จริงว่าการฉ้อโกงอาจคุกคามการเลือกตั้ง
ข้อดีและข้อเสียของ Blockchain
สำหรับความซับซ้อนทั้งหมดศักยภาพของ blockchain ในรูปแบบการเก็บบันทึกแบบกระจายอำนาจนั้นแทบจะไม่มีขีดจำกัด จากความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่มากขึ้นและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงค่าธรรมเนียมการประมวลผลที่ลดลงและข้อผิดพลาดที่น้อยลงเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจมองเห็นแอปพลิเคชันนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน
ข้อดี
ปรับปรุงความแม่นยำโดยลบการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในการตรวจสอบ
ลดต้นทุนด้วยการกำจัดการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม
การกระจายอำนาจทำให้ยากต่อการแทรกแซง
ธุรกรรมมีความปลอดภัยเป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีโปร่งใส
ให้ทางเลือกด้านการธนาคารและวิธีการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพลเมืองของประเทศที่มีรัฐบาลที่ไม่มั่นคงหรือด้อยพัฒนา
จุดด้อย
ต้นทุนเทคโนโลยีที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขุด bitcoin
ธุรกรรมต่ำต่อวินาที
ประวัติการใช้งานในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
ระเบียบข้อบังคับ
                                            CUBIXCODE                                 “THE FUTURE IS ..HERE..”
Tumblr media
0 notes
lektv · 1 month
Text
Tumblr media
Styx Stealer คืออะไร?
Styx Stealer เป็นมัลแวร์ชนิดใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขโมยข้อมูลที่สำคัญจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในวงการคริปโต มัลแวร์นี้จะใช้ช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อแอบขโมยข้อมูลที่มีค่าจากคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน รวมถึงสามารถเปลี่ยนเส้นทางธุรกรรมคริปโตจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้ใช้งานไปยังวอลเล็ทของผู้โจมตีได้
เกิดขึ้นได้อย่างไร?
การโจมตีด้วยมัลแวร์ Styx Stealer มักเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้งานคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายในอีเมลหรือเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็ก เมื่อมัลแวร์นี้เข้าสู่ระบบแล้ว จะทำการตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว รวมถึงข้อมูลทางการเงินและกระเป๋าเงินคริปโต จากนั้นจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลในธุรกรรมคริปโตให้ถูกโอนไปยังวอลเล็ทของผู้โจมตีแทน
วิธีป้องกันและรับมือ
อัปเดตระบบและโปรแกรม: การอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ที่มัลแวร์ Styx Stealer ใช้โจมตี
2. หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย: ไม่ควรคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จักหรือที่มีแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพ: โปรแกรมป้องกันไวรัสที่อัปเดตอยู่เสมอจะช่วยตรว��จับและกำจัดมัลแวร์ก่อนที่มันจะทำความเสียหาย
4. ตรวจสอบธุรกรรมอย่างละเอียด: ก่อนที่จะทำธุรกรรมคริปโต ควรตรวจสอบที่อยู่ของกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังเป็นที่อยู่ที่ถูกต้อง
มัลแวร์ Styx Stealer เป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรมองข้ามในวงการคริปโต การป้องกันและรับมืออย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและทรัพย์สินดิจิทัลของคุณ.
วิธีการถอนเงินและโหลดกระเป๋า Wallet เพื่อรับเหรียญ TRC20
youtube
โหลดที่ลิ้งด้านล่างได้เลย
ช่องทางการติดต่อ Facebook : https://www.facebook.com/Lektvapp/ Youtube : https://www.youtube.com/@lektv_app Telegram : @lektvapp
ทุกท่านสามารติดตามบทความผ่านช่องทางอื่น���ได้ดังนี้
ช่องทาง Blockdit
ช่องทาง Tumblr
ช่องทาง Medium
ช่องทาง Facebook
บทความนี้เขียนและเผยแพร่โดย LekTv, ผู้พัฒนา,เผยแพร่เนื้อหาทั้งหมด ลิขสิทธิ์ © 2024 LekTV สงวนลิขสิทธิ์
0 notes
soclaimon · 5 years
Text
กทปส.ให้ทุนมหาวิทยาลัยแม่โจ้เดินเครื่องสร้างแอพ ‘สมุดบันทึกสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล บล็อกเชน’ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย
#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/474900
Tumblr media
กทปส.ให้ทุนมหาวิทยาลัยแม่โจ้เดินเครื่องสร้างแอพ ‘สมุดบันทึกสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล บล็อกเชน’ วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิต รวมทั้งการดูแลรักษาสุขภาพซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่เทคโนโลยีสามารถช่วยให้แพทย์…
View On WordPress
0 notes
lotto123bet1 · 11 months
Text
คาสิโนออนไลน์: ขอบเขตดิจิทัลแห่งความบันเทิงและนวัตกรรม
Tumblr media
ในโลกดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาสิโนออนไลน์ได้กลายเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรม นำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมที่มีชีวิตชีวาและดื่มด่ำแก่ผู้เล่นทั่วโลก ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของเทคโนโลยีล้ำสมัย การพัฒนาเกมที่สร้างสรรค์ และความมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจของผู้เล่น คาสิโนออนไลน์จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของความบันเทิงสมัยใหม่ ในโพสต์บล็อกนี้ เราจะเดินทางเข้าสู่ขอบเขตดิจิทัลของคาสิโนออนไลน์ สำรวจเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและแนวโน้มที่กำลังกำหนดอนาคตของการพนันเสมือนจริง
Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR): มิติใหม่แห่งการเล่นเกม
ความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสริมได้ปฏิวัติวิธีที่ผู้เล่นรับรู้คาสิโนออนไลน์ ชุดหูฟัง VR นำผู้เล่นเข้าสู่โลกเ เว็บหวยออนไลน์ สมือนจริงที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งพวกเขาสามารถโต้ตอบกับเกมและเพื่อนผู้เล่นได้แบบเรียลไทม์ เทคโนโลยี AR ช่วยเพิ่มประสบการณ์คาสิโนสด โดยซ้อนทับองค์ประกอบดิจิทัลลงในสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เทคโนโลยีที่ดื่มด่ำเหล่านี้สร้างความรู้สึกของการปรากฏตัวที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำให้เส้นแบ่งระหว่างอาณาจักรดิจิทัลและทางกายภาพพร่ามัว และมอบมิติใหม่ของการเล่นเกมให้กับผู้เล่น
เทคโนโลยีบล็อคเชน: รับประกันความโปร่งใสและความปลอดภัย
เทคโนโลยีบล็อคเชนซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลได้ค้นพบทางเข้าสู่คาสิโนออนไลน์ ทำให้มั่นใจได้ถึงความโปร่งใส ความยุติธรรม และความปลอดภัย สัญญาอันชาญฉลาดที่ขับเคลื่อนโดยบล็อกเชนช่วยให้เล่นเกมได้อย่างยุติธรรม ช่วยให้ผู้เล่นสามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ของผลลัพธ์ของเกมได้ นอกจากนี้ คาสิโนที่ใช้บล็อกเชนยังนำเสนอธุรกรรมที่ปลอดภัยและไม่เปิดเผยตัวตน ช่วยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมเงินทุนของตนได้ และเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวมของแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง: ประสบการณ์การเล่นเกมส่วนบุคคล
อัลกอริธึม AI และ Machine Learning กำลังเปลี่ยนวิธีที่คาสิโนออนไลน์โต้ตอบกับผู้เล่น เทคโนโลยีเหล่านี้จะวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของผู้เล่นเพื่อเสนอคำแนะนำส่วนบุคคล คำแนะนำเกม และโบนัสที่ปรับให้เหมาะกับรสนิยมของแต่ละบุคคล แชทบอทสนับสนุนลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้ความช่วยเหลือได้ทันที ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ และรับประกันการตอบกลับที่รวดเร็วต่อข้อสงสัย ด้วยการควบคุมพลังของ AI คาสิโนออนไลน์จะสร้างการเดินทางที่น่าดึงดูดและปรับแต่งได้สำหรับผู้เล่นแต่ละคน ทำให้ทุกเซสชั่นมีเอกลักษณ์และสนุกสนาน
การเล่นเกมบนมือถือ: นิยามใหม่ของการเล่นเกมขณะเดินทาง
เกมมือถือยังคงครองแนวคาสิโนออนไลน์ โดยอุปกรณ์มือถือกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ต้องการสำหรับผู้เล่น คาสิโนออนไลน์ได้เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และพัฒนาแอพมือถือโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจถึงประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต การควบคุมหน้าจอสัมผัส อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และการออกแบบที่ตอบสนองได้กำหนดนิยามใหม่ของการเล่นเกมระหว่างเดินทาง ช่วยให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับเกมโปรดของพวกเขาด้วยการแตะบนหน้าจอง่ายๆ ความสะดวกสบายของการเล่นเกมบนมือถือทำให้คาสิโนออนไลน์เข้าถึงได้และหลากหลายมากขึ้นกว่าที่เคย
สรุป: อนาคตของคาสิโนออนไลน์
ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง อนาคตของคาสิโนออนไลน์ก็ดูไร้ขอบเขต ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยี VR, AR, บล็อกเชน และ AI ประสบการณ์การเล่นเกมจะดื่มด่ำ โปร่งใส และเป็นส่วนตัวมากขึ้น คาสิโนออนไลน์จะยังคงผลักดันขอบเขตของความบันเทิงต่อไป โดยนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าหลงใหลแก่ผู้เล่นซึ่งเทียบได้กับสถานประกอบการที่มีหน้าร้านจริงแบบดั้งเดิม เมื่อเราก้าวเข้าสู่ขอบเขตดิจิทัลแห่งความบันเทิงและนวัตกรรม คาสิโนออนไลน์จะยังคงอยู่ในระดับแนวหน้า สร้างอนาคตของการเล่นเกมในแบบที่เราจินตนาการได้เท่านั้น
see more : https://lotto123.bet/ 
0 notes
krapalm · 2 years
Text
วีเมด จับมือ โค้ด สเตทส์ เตรียมเปิดตัว "บล็อกเชน อคาเดมี" มุ่งบ่มเพาะนักพัฒนาบล็อกเชน
วีเมด จับมือ โค้ด สเตทส์ เตรียมเปิดตัว “บล็อกเชน อคาเดมี” มุ่งบ่มเพาะนักพัฒนาบล็อกเชน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา วีเมด (WEMADE) ได้ประกาศแผนการเปิด “บล็อกเชน อคาเดมี”(Blockchain Academy) ร่วมกับโค้ด สเตทส์ (Code States) บริษัทสตาร์ทอัพที่มุ่งบ่มเพาะคนเก่งด้านไอที หลักสูตรของบล็อกเชน อคาเดมี ได้รับการออกแบบมาเพื่ออบรมการพัฒนาบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะนักพัฒนาและจ้างงานคนเก่งเหล่านี้ การอบรมประกอบด้วยการบรรยายออนไลน์แบบเรียลไทม์ 3 ชั่วโมงช่วงเย็นวันจันทร์-ศุกร์…
Tumblr media
View On WordPress
0 notes
Text
ไทย ผุด Blockchain Centre แห่งที่ 16 ของโลกกลางกรุง
Tumblr media
ไทย เปิดตัว Blockchain Centre Bangkok หรือศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน ภายใต้เครือข่าย Blockchain Centre แห่งที่ 16 ของโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ ในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยตั้งเป้าสร้างองค์ความรู้ให้กับบุคคลทุกเพศทุกวัยที่สนใจเทคโนโลยีบล็อกเชน พร้อมเตรียมจับมือองค์กร ภาครัฐและเอกชนสร้างกิจกรรมต่อเนื่อง รัชชต เศรษฐ์วรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Blockchain Centre Bangkok กล่าวว่า “ในปัจจุบันวิถีชีวิตของมนุษย์เราเติบโตและถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และยังมีคน ไทย อีกมากที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ หรือนำเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เราจึงจัดตั้ง Blockchain Centre Bangkok ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษา และความรู้ที่ไม่แสวงหาผลกำไรด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนแห่งแรกในประเทศไทย โดยเปิดให้บุคคลทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพที่สนใจได้มีพื้นที่เรียนรู้ในเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีเนื้อหาและรูปแบบการสอนเดียวกันกับ Blockchain Centre ใน 15 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันเราได้ร่วมมือกับ Glowfish เป็น Community Space ที่เปิดให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาใช้พื้นที่จัดกิจกรรมหรือทำงานร่วมกัน พร้อมสนับสนุนพื้นที่ที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมของ Blockchain Centre Bangkok ฉะนั้นมั่นใจได้ว่า Blockchain Centre Bangkok จะส่งเสริมการศึกษาและการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายระบบนิเวศด้านบล็อกเชนในประเทศไทย (Thailand Blockchain Ecosystem) ให้เกิดความร่วมมือกับกับนานาประเทศแบบไร้พรมแดน”
Tumblr media
รัชชต เศรษฐ์วรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Blockchain Centre Bangkok โดย Blockchain Centre ทุกสาขาทั่วโลก รวมทั้ง Blockchain Centre Bangkok นั้น มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีรูปแบบการดำเนินงานภายใต้มาตรฐานเดียวกัน และได้รับการยอมรับในระดับสากล ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ Education & Training การสร้างแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับคนทุกเพศทุกวัย Community & Event การจัดกิจกรรมเพื่อเป็นแหล่งพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ของคนในอุตสาหกรรมบล็อกเชนและดิจิทัล ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา Talent Pool เป็นแหล่งที่รวบรวมกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี Incubator Program เราพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดโครงการศูนย์บ่มเพาะ ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ได้พบกับ Experts Mentors และนักลงทุนต่างๆ จากทั่วโลกในปัจจุบันได้สนับสนุนโครงการต่างๆ จนสำเร็จไปแล้วกว่า 200 โครงการทั่วโลก Cross-Border Collaboration เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีบล็อกเชน ร่วมกับเครือข่าย Blockchain Centre อีก 15 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ Blockchain Centre เป็นศูนย์กลางการศึกษาและความรู้ที่ไม่แสวงหาผลกำไรแห่งแรกของโลก ก่อตั้งขึ��นจากการร่วมมือกันกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งลงทุนด้านการศึกษา ค้นคว้า และพัฒนาการศึกษาด้านบล็อกเชน (Blockchain) มาเป็นเวลาหลายปี โดยมีความเชื่อมั่นใน "Community First" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชนให้เติบโต และเป็นที่รู้จักในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมบล็อกเชนอีกด้วย ในปัจจุบัน Blockchain Centre ได้ขยายเครือข่ายไปทั่วโลก เช่น จีน ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา รัสเซีย มาเลเซีย ลิทัวเนีย มอนเตเนโกร โคลัมเบีย และประเทศไทย ซึ่งเป็นสาขาล่าสุดของโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 Blockchain Centre เป็นที่ปรึกษาและวางรากฐานการสร้างเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่สามารถนำมาใช้ได้ตั้งแต่ชุมชนเล็กๆ ไปจนถึงหน่วยงานภาคอุตสาหกรรมของรัฐบาลท้องถิ่น และหน่วยงานกำกับดูแลด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ผ่านมามีผู้ได้รับการอบรมจาก Blockchain Centre มากกว่า 50,000 คน ทั้งผ่านหลักสูตรการศึกษา งานประชุมระดับนานาชาติ และกิจกรรมต่างๆ ในอนาคต นอกจากนี้ยังสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนโดยเน้นที่การศึกษาเป็นหลัก เพื่อสร้างการรับรู้ในสังคมอุตสาหกรรมบล็อกเชนและเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งพัฒนาโครงการ CSR ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นและสถานกงสุล เพื่อให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคมสามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดีขึ้นผ่านเทคโนโลยี Blockchain อีกด้วย ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง Blockchain Centre Global Read the full article
0 notes
blockbit · 5 years
Text
Blockchain
สกุลเงินดิจิทัลหรือบิตคอยน์ (Bitcoin) จะมาแรงแค่ไหนก็ต้องหลบไปก่อน เพราะนาทีนี้ บล็อกเชน (Blockchain) คือเทคโนโลยีที่จะพลิกเกมของวงการ ธุรกรรมการเงินอย่างแท้จริง
อธิบายแบบสั้นๆ บล็อกเชน คือระบบจัดการฐานข้อมูลแบบหนึ่งที่ตั้งอยู่บนบัญชีธุรกรรมออนไลน์ ช่วยให้การทำธุรกรรมออนไลน์สะดวกรวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างธนาคารหรือสถาบันการเงินอีกต่อไป เท่ากับว่าต้นทุนและค่าธรรมเนียมต่างๆ จะถูกลงด้วย แถมมีความปลอดภัยสูง เพราะผู้ใช้ต้องบันทึกความเป็นเจ้าของ สินทรัพย์ และยืนยันตัวตนผ่านการเข้ารหัสขั้นสูง ทุกคนสามารถแกะรอยได้ว่าใครเป็นเจ้าของข้อมูลบัญชี เนื่องจากข้อมูลถูกบันทึกและแชร์กันทั้งระบบ
นอกจากนี้ ยังมีระบบอัลกอริทึมตรวจสอบการแลกเปลี่ยน (transaction) และป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังรับรองความปลอดภัย การซื้อขายเงินตราดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ และการทำธุรกรรมอื่นๆ เช่น การกู้ยืมเงิน การขายหลักทรัพย์ การโอนเงินข้ามประเทศ และจะมีบทบาทด้านอื่นๆ ตามมาอย่างแน่นอน
ดอน แทปสกอตต์ (Don Tapscott) ผู้เขียนหนังสือ Blockchain Revolution: How the Technology Behind Bitcoin Is Changing Money, Business and the World (ร่วมกับลูกชาย) กล่าวว่า “งานนี้วงการไหนไม่พร้อม ก็เตรียมถูก disrupt กันได้เลย”
0 notes
smartsme · 6 years
Text
“พาณิชย์” ใช้เกษตรดิจิทัลยกระดับเศรษฐกิจฐานราก
สนค.จับมือ WEF ระดมสมองประกวดแนวคิดนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในภาคเกษตร ต้นปี 62 ยกระดับเกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการทำงาน หวังลดต้นทุน และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับเกษตรกรไทย
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยว่า สนค.ได้หารือกับ World Economic Forum (WEF) เพื่อเตรียมพัฒนาเกษตรกรระดับฐานราก และได้ข้อสรุปที่จะร่วมกันจัดงาน แฮ็กคาธอน (Hackathon) หรือการระดมสมองเพื่อประกวดแนวคิดหัวข้อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่ภาคเกษตร (Digitizing Agriculture) ในช่วงต้นปี 2562 โดย WEF จะส่งผู้แทนจาก WEF-Grow Asia ซึ่งเป็นหน่วยงานของ WEF ที่ทำงานด้านเกษตรมาร่วมในการดำเนินการ
ผู้อำนวยการ สนค.กล่าวว่า “ปีนี้ สนค.มุ่งเน้นการทำยุทธศาสตร์และโครงการที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของไทยในด้านต่างๆ โดยจะเริ่มที่ภาคเกษตรและกิจกรรมที่สนับสนุน SME และ Startup เป็นหลัก ซึ่ง สนค.ได้ศึกษามาระยะหนึ่งแล้วพบว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะไม่เพียง Disrupt การผลิตหรือภาคอุตสาหกรรมและภาคการเงินเท่านั้น แต่หลายอย่างสามารถนำมาใช้พัฒนาภาคเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากได้”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาภาคเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากได้ เช่น AI บล็อกเชน ระบบเซนเซอร์ (IoT) โดรน หุ่นยนต์ โดยจะช่วยให้เกษตรกรและ SME เชื่อมโยงกับตลาดได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ลดต้นทุน ลดขั้นตอน ทำให้มีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว เป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น จีน สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาภาคเกษตรได้อย่างก้าวกระโดด
นายแกรมห์ ดิกซีย์ ผู้อำนวยการบริหารของ WEF-Grow Asia และนายพอล วูเตียร์ ผู้อำนวยการฝ่ายความรู้และนวัตกรร�� กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และ Startup เข้ามาร่วมกันพัฒนา Solutions การบริหารจัดการสินค้าเกษตร รวมทั้งระดมความคิดทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับภาคเกษตรในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเ��็น การใช้ประโยชน์จากข้อมูล ความรู้ ��ารพัฒนาผลผลิต การลดต้นทุนการขนส่งและการขยายช่องทางตลาด รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี มั่นใจว่าสามารถนำมาใช้กับไทยได้ เพื่อยกระดับให้เกษตรกรรายย่อยพัฒนาเป็นผู้ประกอบการและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
The post “พาณิชย์” ใช้เกษตรดิจิทัลยกระดับเศรษฐกิจฐานราก appeared first on Smart SME.
from WordPress https://ift.tt/2NGjVAP via IFTTT
0 notes