#ต้องมีศีล
Explore tagged Tumblr posts
Text
![Tumblr media](https://64.media.tumblr.com/97d0436f280a484e1f14670d716fc1ba/1f53f86818760411-6b/s540x810/577ccb51427afdfcf830efcf54453c1c8b934635.jpg)
#อาจารย์เกษม ดวงแพงมาต#ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก#เกษม#ดวงแพงมาต#ป่าสามแยก#ที่พักสงฆ์#ให้บุญ#ท่านอาจารย์เกษม ดวงแพงมาต#อยากรวย#ต้องมีศีล
0 notes
Text
การเจริญสติในชีวิตประจำวัน :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 24 พ.ย. 2567 วัดสวนสันติธรรม Summary
หลวงพ่อเทศนาธรรมะเน้นเรื่องการเจริญสติในชีวิตประจำวัน โดยยกตัวอย่างการอ่านจิตตนเองตามคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติ การฝึกสติไม่ใช่การกดข่มหรือเพ่งจิต แต่คือการรู้เท่าทันความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าสุข ทุกข์ กุศล อกุศล โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆ เช่น การถูกปาดหน้ารถ การเห็นผู้หญิงสวย การขายผักในตลาด เพื่อให้เข้าใจว่าการเจริญสติสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา หลวงพ่อเน้นว่าการปฏิบัติธรรมที่แท้จริงคือการฝึกจิตให้รู้เท่าทันไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา พร้อมทั้งอธิบายถึงหลักธรรมต่างๆ เช่น อนุปุพพิกถา อริยสัจ 4 อริยมรรค 8 และวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยเปรียบเทียบกับการปฏิบัติที่ผิด คือ กามสุขิกนุโยค และอัตตกิลมถานุโยค ท่านยังตอบคำถามเกี่ยวกับพระวินัยในสมัยพุทธกาล และอธิบายความสำคัญของการมีศีล 5 และการมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง สุดท้ายท่านให้พรแก่ผู้ฟังทุกคน
หลวงพ่อแนะนำการปฏิบัติธรรมแก่ลูกศิษย์หลายคน โดยแต่ละคนมีรูปแบบการปฏิบัติที่แตกต่างกัน เช่น เดินจงกรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ ดูลมหายใจ และดูการเคลื่อนไหวของร่างกาย หลวงพ่อเน้นย้ำเรื่องสติ การรู้ทันจิต ไม่บังคับจิต และการเจริญปัญญาควบคู่กับสมาธิ บางคนยังติดสมาธิ เพ่งมากไป หรือจงใจปฏิบัติจนจิตไม่เป็นธรรมชาติ หลวงพ่อแนะนำให้��ลายออก ดูการทำงานของจิตใจ และใช้ร่างกายเป็นเครื่องอยู่ บางคนมีปัญหาเรื่องจิตออกนอก หลงนาน หรือสติไม่ต่อเนื่อง หลวงพ่อให้คำแนะนำในการปฏิบัติต่อ โดยให้เลือกกรรมฐานที่ถนัด และฝึกสติในชีวิตประจำวัน โดยรวมแล้วหลวงพ่อชี้แนะให้ทุกคนพัฒนาการปฏิบัติธรรมไปในแนวทางที่ถูกต้อง และไม่ยึดติดกับความสงบจากสมาธิเพียงอย่างเดียว แต่ให้เจริญปัญญาควบคู่กันไปด้วย
bullet
ธรรมะเป็นของร่มเย็น ควรสนใจศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะเวลาชีวิตมีน้อย ครูบาอาจารย์ก็ร่อยหรอลงทุกที
การเจริญสติในชีวิตประจำวันเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติ หลวงปู่มั่นเคยสอนหลวงพ่อแม่ชีท่านไว้
การเจริญสติในชีวิตประจำวัน คือการอ่านจิตตนเอง ให้รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงทางใจเมื่ออายตนะกระทบอารมณ์
ไม่ใช่การเพ่งกดข่มจิตใจ แต่คือการรู้ไปตามที่ใจเป็น
การอ่านจิตตนเองไม่ยาก เพียงแต่เราไม่เคยชิน หากฝึกฝนจนชำนาญก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ธรรมะเกิดที่จิต มรรคผลก็เกิดที่จิต การรักษาจิต ดูแลจิต จะทำให้เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องตามดูไปเรื่อยๆ อย่าไปยึดติด ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ มีเพียงพระนิพพานเท่านั้นที่พ้นไป
หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน ต้องหมั่นฝึกหัดอ่านใจตนเอง
การทำญาณเห็นจิตให้เหมือนตาเห็นรูป คือการรู้เห็นอารมณ์ต่างๆ ทางใจอย่างไม่เลือก ไม่ใช่การเพ่งจ้องหรือบังคับจิต
การภาวนาต้องอดทนให้ถูกทาง อย่าหลงตามกิเลส หรือทำตนเองให้ลำบาก
ธรรมะเป็นของสูง เป็นของร่มเย็น ไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาทะเลาะเบาะแว้งกัน
พระพุทธเจ้าในยุคก่อนๆ บางพระองค์ก็บัญญัติวินัย บางพระองค์ก็ไม่ได้บัญญัติ ขึ้นอยู่กับสภาพของคนในยุคนั้นๆ
พระโลสกะต้องเผชิญวิบากกรรม ต้องถือวินัยอย่างเคร่งครัด แตกต่างจากกรณีของหลวงตาพัน ซึ่งเป็นเรื่องที่โลกติเตียน
การจะพบพระศรีอริยะ ต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อย ถือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
อนุปุพพิกถา คือธรรมเบื้องต้น ประกอบด้วย ทาน ศีล เนกขัมมะ สวรรค์ และโทษของกาม
พระพุทธเจ้าจะแสดงอนุปุพพิกถาก่อนแสดงอริยสัจ 4 เพื่อให้ผู้ฟังมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเสียก่อน
หัวใจของอริยมรรค 8 คือ สัมมาทิฏฐิ หากเห็นถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง ก็จะได้ความปลอดภัย
มรรคผลไม่ใช่เรื่องไกล หากหมั่นเจริญสติในชีวิตประจำวัน
อย่าประมาทในการปฏิบัติ แม้เพียงช่องโหว่เล็กน้อย กิเลสก็สามารถแทรกเข้ามาได้
การให้ทานย่อมได้บุญ หากสงสัยว่าบุญอยู่ที่ไหน ให้อ่านพระไตรปิฎก
หลวงพ่อให้คำแนะนำลูกศิษย์ 8 คน เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ดังนี้
เบอร์ 1: เน้นการเดินจงกรมเช้าเย็น แต่ยังเกร็งและจิตออกนอก หลวงพ่อแนะนำให้มีสติรู้ทันจิตที่ออกนอก และให้ฝึกหายใจธรรมดาเพื่อให้จิตเข้าฐาน
เบอร์ 2: เดินจงกรมวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง ยังหลงอยู่บ้าง แต่เห็นการเกิดดับ หลวงพ่อให้กำลังใจให้ทำต่อไป
เบอร์ 3: นั่งสมาธิทุกวัน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง อยากพ้นทุกข์จนจิตทนไม่ไหว หลวงพ่อแนะนำให้รู้ทันจิตที่ไหลออกนอก เมื่อมีสติรู้สภาวะ จิตจะเข้าฐานเอง
เบอร์ 4: สวดมนต์ นั่งสมาธิ 15 นาที เดินจงกรม 30-45 นาที ใช้พุทโธเป็นเครื่องอยู่ ยังหลงอยู่บ้าง หลวงพ่อแนะนำให้ใช้กรรมฐานที่ถนัด ถ้าจิตอยู่ในอารมณ์เดียวอย่างต่อเนื่องโดยไม่บังคับ สมาธิก็จะเกิด
เบอร์ 5: เดินจงกรมและนั่งสมาธิวันละ 1-2 ชั่วโมง ชอบบังคับแทรกแซง เห็นว่าโลกไม่มีอะไรให้น่า ยึด หลวงพ่อชมว่าฝึกได้ดี แต่การเห็นว่าโลกไม่น่ายึดยังไม่จริง ยังแอบยึดอยู่ ต้องเรียนรู้จนเห็นทุกข์ถ่องแท้
เบอร์ 6: นั่งสมาธิวันละ 1 ชั่วโมง ใจอยู่กับลมหายใจ ชอบความสงบ หลวงพ่อบอกว่าสมาธิดีแล้ว แต่ต้องเจริญปัญญาด้วย การเจริญปัญญาจะไม่สงบเหมือนทำสมาธิ จิตจะทำงานคล้ายฟุ้งซ่านแต่มีสติกำกับ ให้เดินปัญญาในสมาธิ และรู้ทันจิตที่ไหลไปที่อารมณ์กรรมฐาน
เบอร์ 7: ดูการเคลื่อนไหว ชอบนั่งสมาธิแต่กลัวติด สติยังไม่ต่อเนื่อง หลวงพ่อบอกว่าการดูการเคลื่อนไหวที่ทำอยู่ถูกต้องแล้ว ให้ทำต่อไป
เบอร์ 8: สวดมนต์ครึ่งชั่วโมง นั่งสมาธิครึ่งชั่วโมง ดูร่างกายหายใจ จิตเกิดความสว่าง จิตโกรธก็รู้ หลงก็รู้ อยากก็รู้ บางครั้งก็ลืมตัว หลวงพ่อบอกว่ายังชินกับการบังคับจิตให้นิ่ง อย่าพยายามทำให้นิ่ง ให้รู้ทันความแน่นที่เกิดจากการจงใจ ให้ทำสมาธิไป สงบหรือไม่สงบก็ทำไป เมื่อออกจากสมาธิให้พิจารณาร่างกายเป็นอสุภะ
#พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช#วัดสวนสันติธรรม#ปราโมทย์#ปาโมชฺโช#ชลบุรี#อำเภอศรีราชา#ท่านพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช#การเจริญสติในชีวิตประจำวัน#เดินจงกรม#นั่งสมาธิ#สวดมนต์#ดูลมหายใจ#ดูการเคลื่อนไหวของร่างกาย
0 notes