Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
แม่นเว่อร์! เกิดวันไหนมีนิสัยอย่างไร?
หลายๆคนที่ชอบในเรื่องการทายนิสัย ที่เคยดูกันมาก็คงมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งทายจากราศี กรุ๊ปเลือด เดือนเกิด ซึ่งอีกอย่างที่แม่นไม่แพ้กันก็คือทายนิสัยจากวันเกิดนั่นเอง ไม่ว่าจะเรื่องการงาน การเงิน ความรัก แทงหวย อยากรู้เรื่องไหนก็สามารถมาลองทายดูกันได้ว่าแท้จริงแล้วนิสัยเราเป็นอย่างไรกัน จะตรงหรือไม่ก็มาลองเช็คกันเลย
วันจันทร์ คนเกิดวันจันทร์ มักเป็นคนเจ้าเสน่ห์ คุยเก่ง ช่างพูดช่างเจรจา ไม่แปลกที่ใครๆก็ชอบ บางครั้งก็แกร่งเกินร้อยแต่บางครั้งก็อ่อนไหวง่าย มีความเป็นผู้นำค่อนข้างสูง ถูกก็ว่าถูกผิดก็ว่าผิด เป็นคนที่มีทักษะการพูดเป็นชั้นเชิง
วันอังคาร คนเกิดวันอังคาร เป็นคนที่มีความใจร้อนแอบขวานผ่าซาก แถมมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อย กล้าคิดกล้าทำยิ่งท้าทายยิ่งชอบ ชอบคิดนอกกรอบไม่ชอบรอคำสั่งจากหัวหน้างาน อะไรที่คิดไว้ไม่มีทางยกเลิกต้องทำให้สำเร็จ เป็นคนที่รู้จักวางแผนในเรื่องการเงินเป็นอย่างดี
วันพุธ คนเกิดวันพุธ เป็นคนที่มีไหวพริบเป็นเลิศ เข้าสังคมเก่ง ชอบสังเกต ช่างจดจำ ใส่ใจรายละเอียดได้แทบทุกอย่าง รู้ว่าจังหวะไหนควรพูดไม่ควรพูด เป็นคนที่ใช้จ่ายสิ่งต่างๆตามความพอใจของตัวเอง คุณเป็นคนเลือกเยอะ ต้องตามสเปคที่ตั้งไว้ถึงจะยอมเปิดใจ
วันพฤหัสบดี คนเกิดวันพฤหัสบดี เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง มีความเป็นผู้ให���่ ทำอะไรต้องมีหลักการ ถ้าสนใจในเรื่องไหนก็จะหาคำตอบจะได้ไม่มีอะไรค้างคา เป็นคนมีน้ำใจชอบแบ่งปัน นักออมเงินน่าจะเป็นฉายาที่เหมาะกับคนเกิดวันพฤหัสบดีที่สุดแล้ว
วันศุกร์ คนเกิดวันศุกร์ เป็นคนที่มีรสนิยมดี ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์และบุคลิก พูดจามีเสน่ห์ ชอบเข้าสังคม เป็นคนที่มีไหวพริบดีไม่ยอมให้ใครมาหลอกได้ง่ายๆ หากอยู่ในเวลางานคือเต็มที่ บางทีแอบดูเคร่งเครียดเกินไปจนเพื่อนร่วมงานกลัว เก็บเงินเก่งแต่ก็ใช้เก่งเอาเรื่อง
วันเสาร์ คนเกิดวันเสาร์ เป็นคนที่เลือดนักสู้มันไหลเวียนในตัวอย่างเต็มเปี่ยม หนักแน่นจริงจัง หนักเอาเบาสู้ ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ ด้วยความที่เป็นคนตรงไปตรงมาเรื่องการพูดบางทีอาจไปกระทบใจคนฟังบ้างเป็นบางครั้ง เป็นคนหาเงินเก่งแถมยังใช้เงินเป็น มีกินมีใช้สบายๆ
วันอาทิตย์ คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนสดใสน่ารัก รักความสนุก ที่สำคัญคุณเป็นคนรักพวกพ้อง หากไม่สนิทด้วยอาจคิดว่าคุณเป็นคนเงียบๆ ชอบคิดนอกกรอบ งานที่คิดก็ต่างกันหมดทุกครั้ง เพราะไม่ชอบอะไรจำเจ ชอบความท้าทาย จะเสียเงินให้กับอะไรสักอย่างต้องมั่นใจเท่านั้นไม่งั้นไม่ได้เงินคนเกิดวันนี้แน่นอน
1 note
·
View note
Text
เดือนเกิดบ่งบอกลักษณะนิสัย (กรกฎาคม-ธันวาคม)
เดือนเกิดสามารถบ่งบอกนิสัยของเราได้ ซึ่งจะจริงแท้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่ตามความเชื่อของแต่ละคน คนเกิดเดือนไหนจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร ใครอยากรู้นิสัยของเพื่อน แทงหวย ของแฟน หรือของคนที่เราแอบปลื้มอยู่ ก็สามารถเช็คได้จากเดือนเกิดของบุคคลนั้นได้เลย นิสัยของแต่ละเดือนเกิดจะเป็นแบบไหนไปเช็คกันเลย
เดือนกรกฎาคม คนที่เกิดกรกฎาคม เป็นคนที่ใครอยู่ด้วยก็รู้สึกสนุก เป็นคนเฮฮา ชอบอยู่คนเดียวไม่ชอบความอึกทึกครึกโครม เป็นคนที่นิ่งเงียบโดยพื้นฐาน มีความเป็นตัวเองสูง พูดจาน่าฟัง ความคิดดีมีไหวพริบ มีความมุ่งมั่นสูง ถ้ามีคนทำให้โกรธจะหายเร็วแต่จำไม่เคยลืม เป็นคนอารมณ์แปรปรวนแต่ไม่ก้าวร้าว ห่วงบ้านไปอยู่ในสถานที่ที่ไกลบ้านได้ไม่นาน
เดือนสิงหาคม คนที่เกิดสิงหาคม เป็นคนมีเสน่ห์ อ่อนโยน ห่วงใยผู้อื่น และเป็นคนตลกหัวเราะง่าย ไม่กลัวที่จะเสี่ยงมีภาวะความเป็นผู้นำสูง แต่ตัดสินใจไม่ค่อยเด็ดขาดเท่าไร เป็นที่ปรึกษาที่ดีแต่ก็แอบมีมุมขี้อิจฉา ระมัดระวังและรอบคอบ รักการเพ้อฝันมีความทะเยอทะยานสูง เป็นคนโรแมนติกอ่อนไหวแต่ไม่อ่อนแอ เป็นคนที่มีหัวคิดชอบริเริ่มทำสิ่ง��หม่ๆ
เดือนกันยายน คนที่เกิดกันยายน เป็นคนใจกว้าง มีทักษะในการประนีประนอม เจ้าระเบียบ ชอบที่จะชี้ให้เห็นความผิดพลาดของผู้คน พื้นฐานเป็นคนเงียบๆแต่สามารถเข้าสังคมได้สบายๆ เป็นคนจงรักภักดีแต่บางครั้งแอบซิกแซกหลบหลีก ไปที่ไหนก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นอยู่เสมอ แต่มักจะชอบรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาชีวิตของตนเอง และค่อนข้างใจร้อน
เดือนตุลาคม คนที่เกิดตุลาคม ไม่ชอบความผาดโผน มักเป็นคนที่มีท่าทางดีบุคลิกดี ให้ความสำคัญกับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มักจะทำให้เพื่อนเสียความรู้สึกอยู่เสมอ เพราะมักจะเป็นคนผิดสัญญา ลึกๆแล้วเป็นคนดื้อดึงไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นคิด ไม่ชอบคนขี้บ่นเพราะตัวเองเป็นคนง่ายๆสบายๆ แต่บางครั้งก็ชอบเก็บตัว
เดือนพฤศจิกายน คนที่เกิดพฤศจิกายน เป็นคนที่มีจุดเด่นในเรื่องของความคิด มีไอเดียแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ มักจะเป็นคนที่ความลับเยอะ แต่ก็อยากรู้อยากเห็นขุดความลับคนอื่นเก่ง แต่ก็เก็บความลับเก่งด้วย กล้าหาญและใจกว้างอารมณ์ปรวนแปรบ่อย บางครั้งเลยดูเหมือนเอาใจยาก ชอบความสันโดษ ส่วนความรักเป็นคนโรแมนติกพอสมควร
เดือนธันวาคม คนที่เกิดธันวาคม เป็นคนหัวดื้อ ใจร้อนและความอดทนน้อย มีความคิดเป็นของตัวเองไม่เคยยอมลงให้ใคร เป็นที่เคารพนับถือจากคนรอบด้าน มีทักษะเป็นผู้นำสูงชอบที่จะเข้าสังคม ชอบเป็นจุดสนใจ มีความมั่นใจในตัวเองสูง เพราะภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่เสมอ รักอิสระ รักความเฮฮา แม้จะเจ้าระเบียบในบางเรื่องก็ตาม
1 note
·
View note
Text
เดือนเกิดบ่งบอกลักษณะนิสัย (มกราคม-มิถุนายน)
เดือนเกิดสามารถบ่งบอกนิสัยของเราได้ ซึ่งจะจริงแท้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่ตามความเชื่อของแต่ละคน คนเกิดเดือนไหนจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร ใครอยากรู้นิสัยของเพื่อน แทงหวย ของแฟน หรือของคนที่เราแอบปลื้มอยู่ ก็สามารถเช็คได้จากเดือนเกิดของบุคคลนั้นได้เลย นิสัยของแต่ละเดือนเกิดจะเป็นแบบไหนไปเช็คกันเลย
เดือนมกราคม คนที่เกิดเดือนมกราคม มักจะเป็นคนค่อนข้างดื้อ จริงจังและเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง ชอบให้คำแนะนำพอๆกับชอบให้คนอื่นมาแนะนำสั่งสอน ชอบสังเกตข้อบกพร่องและจุดอ่อนของคนอื่น มีความฉลาดหลักแหลม มีความคิดลึกซึ้ง เจ้าระเบียบและเป็นคนเรียบร้อย ค่อนข้างเงียบขรึม
เดือนกุมภาพันธ์ คนที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์ เป็นคนชอบเพ้อฝัน แต่ก็ไม่ได้หลุดจากกรอบความจริงเท่าไรนัก เป็นคนฉลาด บุคลิกแปรปรวนทำให้อารมณ์ปรับเปลี่ยนได้ง่าย เป็นคนที่มีเสน่ห์ แต่ยังมีความดื้อซ่อนอยู่ลึกๆจนบ้างครั้งหลุดพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะเป็นคนรักอิสระ มีโลกส่วนตัวสูงไม่ชอบเรื่องจุกจิกไร้สาระ
เดือนมีนาคม คนที่เกิดมีนาคม เป็นคนมีเสน่ห์ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ลึกลับน่าค้นหา แต่ก็มีความเป็นธรรมชาติ แถมยังใจกว้างและขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือคนอื่น เทคแคร์คนรอบข้างเก่ง รักใครรักจริงปักใจรักเพียงคนเดียว เปลี่ยนใจยาก รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนตัวแล้วรักสันติภาพและความสงบสุข
เดือนเมษายน คนที่เกิดเมษายน เป็นคนใจร้อนตัดสินใจเร็ว และมักจะเสียใจในภายหลังอยู่บ่อยๆ มีเสน่ห์เฉพาะกับคนที่รักเขาเ��่านั้น มีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นที่ปรึกษาที่ดีกับคนรอบข้าง มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ รักการผจญภัยและความท้าทาย โกรธหายหายเร็ว ไม่ค่อยชอบคิดการณ์ไกล
เดือนพฤษภาคม คนที่เกิดพฤษภาคม เป็นคนฉลาดสติปัญญาเฉียบแหลม ใจแข็งปากแข็ง เจ้าระเบียบ เป็นคนที่โกรธคนอื่นยาก แต่หากได้โกรธแล้วจะจำไม่ลืม เป็นคนที่เพ้อฝันมีจินตนาการสูง มีทักษะในการโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น มักจะเป็นคนที่เกิดมาพร้อมญาณทิพย์ หรืออย่างน้อยๆก็จะมีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ใช้จ่ายค่อนข้างสุรุ่ยสุร่าย
เดือนมิถุนายน คนที่เกิดมิถุนายน เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ช่างฝันชอบเพ้อและมโนเก่ง สุภาพ พูดจานุ่มนวลน่าฟัง แต่ก็เป็นคนที่จิตใจโลเลตัดสินใจช้า อารมณ์แปรปรวนสองบุคลิก ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอจึงมีนิสัยจู้จี้จุกจิก แต่ก็เป็นคนตลกและมีอารมณ์ขันชอบความเฮฮา มีทักษะการโต้วาทีที่ดีเจรจาเก่ง ชอบที่จะทำให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ
1 note
·
View note
Text
ทายลักษณะนิสัยตามปี 12 นักษัตร (ปีมะเมีย - ปีกุน)
ปีนักษัตรทั้ง 12 ราศี มีสัญลักษณ์เป็นสัตว์ประจำปีเกิด ในปัจจุบันมีการเรียกชื่อปีตามรูปสัตว์ต่างๆรวม 12 ชนิด แทงหวย เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ที่กำหนดรอบ 12 ปี เป็น 1 รอบ และตามปีนักษัตรของเรานั้น จะ��่งบอกถึงนิสัยของคนผู้นั้นที่แตกต่างกันออกไปด้วย เราจึงพาทุกคนมาดูลักษณะนิสัยคนที่เกิดในปีนักษัตรต่างๆกัน ว่าแต่ละปีนักษัตรจะมีนิสัยแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ปีมะเมีย (ม้า) นิสัยของคนเกิดปีมะเมีย มักเป็นคนสนุกสนานร่าเริงจริงใจ รักอิสระไม่ชอบยึดติดกับใคร เป็นคนที่มีเสน่ห์มีความเชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง มีความทะเยอทะยานทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ บุคลิกจะดูเป็นคนที่เข้าถึงง่ายถึงแม้จะพูดไม่ค่อยเก่ง รักการผจญภัยไม่ชอบอยู่นิ่งๆ จะต้องหาอะไรให้ตัวเองได้มีอะไรทำอยู่ตลอดเวลา
ปีมะแม (แพะ) นิสัยของคนเกิดปีมะแม เป็นคนที่อ่อนไหวต่อสิ่งต่างๆรอบตัว เป็นคนสุภาพอ่อนโยนและนุ่มนวล มีมารยาทดีงดงาม ทำให้เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของหลายๆคน มักชอบอยู่คนเดียวหรือเรียกง่ายๆว่ามีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ เป็นคนช่างคิดช่างฝัน มีความคิดวิตกกังวลมาก และเป็นคนที่ค่อนข้างมีความขี้เกียจไม่มีความเรียบร้อย
ปีวอก (ลิง) นิสัยของคนเกิดปีวอก เป็นคนที่ดูสนุกสนาน เฮฮา ร่าเริง ขึ้เล่น ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ทำอะไรว่องไวเหมือนลิง ถึงแม้จะมีบุคลิกภายนอกที่ดูเป็นคนซนๆแต่ก็มีเสน่ห์ ชอบที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆมีความคิดและไอเดียที่สร้างสรรค์ มีไหวพริบในการแก้ปัญหาปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ดี เป็นคนที่ชอบเข้าสังคมและเข้ากับคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว
ปีระกา (ไก่) นิสัยของคนเกิดปีระกา เป็นพวกที่ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้นไม่อ้อมค้อม มีสกิลวาทศิลป์เป็นเลิศ มีความสามารถในการชักจูงใจ หว่านล้อม และโน้มน้าวจิตใจผู้อื่น เป็นคนที่ชอบเข้าสังคมวางตัวได้ดี มีการวางแผนล่วงหน้า จู้จี้ขี้บ่นชอบจิกเหมือนไก่บ้างในบางครั้ง มีความก้าวร้าวแบบเงียบๆแต่ก็มองโลกในแง่ดีอยู่
ปีจอ (สุนัข) นิสัยของคนเกิดปีจอ เป็นคนช่าง��ังเกต ช่างเลือกและค่อนข้างระมัดระวังตัว มีความซื่อสัตย์ มีใจที่เป็นกลางรักในความยุติธรรม ชอบเอาใจใส่และเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนรอบข้าง สามารถแยกได้ออกว่าใคร��ีใครไม่ดี ในบางครั้งก็จะพูดมาก ชอบพูดไปเรื่อยพูดไม่ทันคิดใช้อารมณ์เป็นหลัก เป็นคนที่โกรธง่ายและหายเร็วมาก
ปีกุน (หมู) นิสัยของคนเกิดปีกุน มักมีบุคลิกที่ดูเรียบง่ายสบายๆแต่มีเสน่ห์ มีอัธยาศัยดีสุภาพอ่อนโยน อบอุ่นและจริงใจ คิดอะไรก็พูดแบบนั้นไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ เทคแคร์เอาใจใส่คนรอบข้างปรับตัวเข้าหาคนอื่นได้ดี ชอบช่วยเหลือ จะเป็นคนที่อารมณ์ดีมีอารมณ์ขัน ชอบเข้าสังคมปาร์ตี้ในงานรื่นเริง และในบางครั้งก็จะมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวขึ้นๆลงๆน่ากลัวเลยทีเดียว
1 note
·
View note
Text
ทายลักษณะนิสัยตามปี 12 นักษัตร (ปีชวด - ปีมะเส็ง)
ปีนักษัตรทั้ง 12 ปี มีสัญลักษณ์เป็นสัตว์ประจำปีเกิด ในปัจจุบันมีการเรียกชื่อปีตามรูปสัตว์ต่างๆรวม 12 ชนิด เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ที่กำหนดรอบ 12 ปี เป็น 1 รอบ และตามปีนักษัตรของเรานั้น จะบ่งบอกถึงนิสัยของคนผู้นั้น แทงหวย ที่แตกต่างกันออกไปด้วย เราจึงพาทุกคนมาดูลักษณะนิสัยคนที่เกิดในปีนักษัตรต่างๆกัน ว่าแต่ละปีนักษัตรจะมีนิสัยแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ปีชวด (หนู) นิสัยของคนเกิดปีชวด จะมีนิสัยสุภาพ ฉลาดมีไหวพริบ แต่แม้จะกว้างขวางในสังคมแต่ก็ชอบความเป็นส่วนตัว คนเกิดปีหนูเป็นคนรักที่เอาใจเก่งและซื่อสัตย์ ถ้าเป็นคนมีครอบครัวแล้วก็จะชอบให้ลูกทำอะไรใหม่ๆ และถ้าลูกชอบอะไรที่ไม่เหมือนใครจะส่งเสริมทันที
ปีฉลู (วัว) นิสัยของคนเกิดปีฉลู เป็นคนอารมณ์ดี เฟรนด์ลี่ แต่ถ้าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อไรเหมือนวัวพยศดีๆนี่เอง คนปีวัวเป็นคนนิ่งๆ มีความหนักแน่น ชอบพึ่งพาตัวเอง และสามารถทำตามที่พูดไว้ได้ จึงทำให้ได้รับความเคารพจากคนรอบข้างสูง
ปีขาล (เสือ) นิสัยของคนเกิดปีขาล เป็นคนกล้าหาญใจกว้าง มองโลกในแง่ดี มีความเป็นผู้นำสูงตามนิสัยของเจ้าป่า เงินไม่ใช่เรื่อ��ใหญ่ศักดิ์ศรีสำคัญกว่า จริงจังกับความรัก รักใครรักจริงแต่ก็เบื่อไว เข้าตำรารักง่ายหน่ายเร็ว แม้จะชอบชีวิตที่สบายๆ แต่อย่าทำให้คนเกิดปีเสือโกรธเพราะตัวเราจะกลายเป็นเสือเผ่นหนีคนปีขาลแน่นอน
ปีเถาะ (กระต่าย) นิสัยของคนเกิดปีเถาะ เป็นนักวางแผนที่ฉลาดแยบยล ใส่ใจรายละเอียดจริงจังกับทุกสิ่งที่ทำ และมีศิลปะในการพูด เป็นคนเข้าสังคมเก่งแต่ก็มีมุมรักอิสระ เงียบขรึมไม่ค่อยเปิดเผยตัวตน และชอบเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวที่มีมุมความสุขซุกซ่อนอยู่
ปีมะโรง (มังกร) นิสัยของคนเกิดปีมะโรง เป็นคนที่หลงรักในความสมบูรณ์แบบ บุคลิกสง่าผ่าเผย ทะเยอทะยานจนเหมือนจะไม่ยอมฟังใคร แต่ก็อ่อนน้อมถ่อมตนทำให้ผู้คนรอบข้างหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ รักอิสระไม่ชอบผูกมัดกับใคร เลยเห็นความรักเป็นเกมสนุกๆหว่านเสน่ห์ไปทั่ว คนปีมะโรงจะเปลี่ยนงานบ่อย เพราะอยากทำงานที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ
ปีมะเส็ง (งูเล็ก) นิสัยของคนเกิดปีมะเส็ง ไม่ควรตัดสินคนปีงูเล็กจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นคนพูดจาเชื่องช้าและเฉื่อยชา เพราะข้างในมีความคิดแบบฉับไว ตื่นตัวและช่างสังเกต เป็นคนมีอารมณ์ขัน ไม่ชอบคิดเล็กน้อยกับเรื่องในชีวิตประจำวัน ยามโกลาหลเป็นที่หนักแน่นและคิดหาทางออกได้อย่างสุขุม
1 note
·
View note
Text
ความเชื่อวันตรุษจีน ถ้าไม่อยากโชคร้ายห้ามทำ!!
เทศกาลวันตรุษจีน เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเฉลิมฉลองปีใหม่ ไหว้บรรพบุรุษ มอบอั่งเปาและผลไม้มงคลให้แก่กัน รวมถึงอยู่กับครอบครัวโดยพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ทั้งนี้วันตรุษจีนก็มีข้อห้ามที่ไม่ควรทำอยู่หลายข้อด้วยกัน โดยเชื่อว่าหากทำแล้วจะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ไม่เป็นมงคล ส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งและความราบรื่นในปีนั้น แทงหวย ความเชื่อที่สืบทอดกันมาบางครอบครัวยึดถือเพื่อไม่ให้ขัดต่อโชคลาภที่จะได้รับในปีใหม่นี้ จะต้องงดกิจกรรมที่มีความหมายไม่ดี แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกันออกไป
สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงวันตรุษจีน ห้ามทำความสะอาดบ้าน ห้ามเข้าไปห้องนอนคนอื่น ห้ามทำของหล่นแตก ห้ามตัดหรือสระผม ห้ามพูดคำหยาบคาย ห้ามสวมเสื้อผ้าสีขาวดำ ห้ามให้ยืมเงิน ห้ามพูดจาไม่ดี ห้ามให้อั่งเปาเป็นจำนวนคี่ ห้ามใช้ของมีคม ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ ห้ามร้องไห้ ห้ามซักผ้าหรือเย็บผ้า ห้ามกินโจ๊กหรือเนื้อสัตว์เป็นอาหารเช้า
ตามความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติ ข้อห้ามในวันตรุษจีนถือว่าห้ามทำในช่วงตรุษจีน 3 วัน ได้แก่ วันไหว้ วันจ่าย และวันเที่ยว หรือบางคนอาจจะปฏิบัติตามข้อห้ามไปตลอดช่วงการเฉลิมฉลองตรุษจีนขึ้นอยู่กับความสะดวก แม้ว่าเราจะหลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆตามความเชื่อและข้อห้ามในวันตรุษจีนแล้ว ยังจะช่วยให้เราสบายใจและเสริมความมงคลให้ตัวเราได้ด้วย อย่างไรก็ดี ข้อห้ามวันตรุษจีนเป็นความเชื่อส่วนบุคคล สามารถปฏิบัติตามธรรมเนียมความเชื่อเพื่อความสบายใจและเสริมสิริมงคลได้กันทุกคน
1 note
·
View note
Text
อั่งเปา (红包) ทำไมต้องซองสีแดง
อั่งเปา 红包 เป็นเงินของขวัญที่มีการให้และรับในวัฒนธรรมจีน ชื่ออั่งเป่าภาษาจีนหมายถึง ซองสีแดง ที่มอบให้โดยมีเงินบรรจุอยู่ด้านใน ซึ่งเงินที่อยู่ภายในเรียกว่า ไหล่ซี 利是 อั่งเปานิยมมีการให้มอบให้ในงานสำคัญของครอบครัว โดยในวันตรุษจีนผู้ที่มีอายุสูงกว่าหรือทำงานมีเงินเดือนแล้ว จะเป็นคนให้อั่งเป่าแก่เด็กหรือญาติที่ยังไม่ได้ทำงานและเกษียณแล้ว สีแดงของซองจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความโชคดี และเงินที่บรรจุภายบางครั้งจะเป็นเลขนำโชค
อั่งเปา ในอดีตเรียกว่า "แต๊ะเอีย" เพราะเงินสมัยก่อนเป็นรูต้องร้อยด้วยเชือกสีแดงผูกเ��าไว้ที่เอว คำว่าอั่งเปามีความหมายว่าซองสีแดง แทงหวย ปัจจุบันมักนิยมมอบ ธนบัตร เช็ก ทองคำ จึงต้องใส่ซอง และเงินที่ใส่ซองนั้นจะขึ้นต้นหรือมีเลข 4 หรือ 8 เพราะคล้องเสียงกับตัว "ฟา 发" ที่แปลว่ารุ่งโรจน์ ร่ำรวย เจริญยิ่งขึ้นไป การมอบอั่งเปาจึงต้องเป็นซองสีแดง เป็นธรรมเนียมที่ชาวจีนนิยมมอบให้กันในเทศกาลตรุษจีน วันแต่งงาน วันขึ้นปีใหม��� และวันขึ้นบ้านใหม่ รวมถึงวันสำคัญต่างๆ การมอบอั่งเปาในวันตรุษจีนนั้นนิยมมอบให้กับเด็กๆที่กล่าวคำอวยพรให้แก่ผู้ใหญ่ เพื่อให้มีความสุขและสุขภาพยืนยาว
หลักการให้และรับซองอั่งเปานั้น ผู้ใหญ่จะเป็นฝ่ายเตรียมเงินใส่ซองสีแดงไว้ให้เด็กๆและมอบให้กับลูกหลานในครอบครัว แต่หากบุตรหลานมีหน้าที่การงานแล้วก็เปลี่ยนจากผู้รับเป็นผู้ให้ได้เหมือนกัน แล้วเด็กๆก็จะเป็นฝ่ายอวยพรเราเหมือนกับที่ปฏิบัติกันเป็นธรรมเนียมสืบมา ส่วนบุตรหลานที่มีรายได้และต้องการใส่ซองอั่งเปาเพื่อมอบให้แก่ผู้ใหญ่ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อเป็นการตอบแทนที่เลี้ยงและดูแลเรามา ยังเป็นการแสดงความกตัญญูเป็นมงคลเริ่มต้นปีใหม่ให้กับตัวเองอีกด้วย
อั่งเปาตั่วตั่วไก๊ 红包多多来 แปลว่า ขออั่งเปาอีกเยอะๆ เป็นการออกเสียงตามภาษาจีนถิ่นแต้จิ๋ว โดยเด็กๆมักจะพูดคำนี้ในวันตรุษจีนเพื่อขอซองอั่งเปาสวยๆจากญาติผู้ใหญ่ ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าควรให้อั่งเปาเท่าไหร่ คนไทยเชื้อสายจีนจะนิยมให้เงินในซองอั่งเปาเป็นเลขคู่ เพราะถือเป็นตัวเลขมงคล
1 note
·
View note
Text
เรื่องที่ควรรู้กับความหมายของไหว้มงคลวันตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีน หรือ วันตรุษจีน ไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ จากการค้นคว้าของทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของกิจการปฏิทินน่ำเอี้ยง ซึ่งเป็นปฏิทินจีนฉบับภาษาไทยที่ได้รับความนิยมมากในไทย ได้พบข้อมูลว่าเทศกาลตรุษจีนอาจเริ่มต้นในราชวงศ์โจว เริ่มใช้คำว่า Nián (年) ซึ่งมีความหมายว่า ปี ในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ตรงกับปฏิทินตามจันทรคติจีน ในวันที่ 1 เดือน 1 ดังนั้นเทศกาลปีใหม่จีนจึงไม่ตรงกันในแต่ละปี และไม่ตรงกับปฏิทินสากล โดยวันตรุษจีนจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมกราคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดของฤดูหนาวและเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
วันตรุษจีนก็คล้ายกับปีใหม่ของไทย นั่นก็คือการรวมญาติพี่น้องเพื่อพบปะพูดคุยกินข้าวร่วมกัน ทำบุญไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ เพื่อเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต นอกจากการไหว้เจ้าแล้ว แทงหวย สิ่งที่นิยมปฏิบัติกันในเทศกาลตรุษจีน คือการเตรียมทำความสะอาดบ้าน ทาสีบ้านใหม่ หาเสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ประดับโคมไฟสีแดง และตุ้ยเหลียน (ป้ายคำอวยพรความหมายมงคล) ไว้หน้าบ้าน รวมถึงเตรียมซองอั่งเปาสำหรับมอบให้กับเด็กๆทีมาอวยพรให้ผู้ใหญ่สุขภาพแข็งแรง
ส่วนของไหว้ตรุษจีน จะประกอบด้วยเนื้อสัตว์ 3 หรือ 5 อย่าง รวมถึงอาหารแห้ง ผลไม้ ขนมมงคล และกระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อจำลองสิ่งมีค่ามอบให้กับบรรพบุรุษ ส่วนของไหว้ที่นิยมนำมาไหว้ในวันตรุษจีนมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1 note
·
View note
Text
เคล็ดลับเสริมโชควันหวยออก ใครอยากรวยควรรู้ไว้!!
ฤกษ์งามยามดีก่อนวันหวยออก หลายคนมีความเชื่อว่าในวันหวยออกจะต้องทำดี พูดดี อารมณ์ดี เพื่อดึงดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามา ในทางตรงกันข้าม ในวันหวยออกก็มีหลายๆสิ่งที่ไม่ควรทำ งวดก่อนใครที่พลาดไปแล้วก็ไม่เป็นไร เราได้รวบรอบสิ่งที่ห้ามทำก่อนวันก่อนหวยออกมาฝากนักเสี่ยงโชคทุกคนให้ได้ระวังกันไว้ กับเรื่องราวข้อห้ามตามความเชื่อต่างๆที่อ่านแล้วต้องห้ามทำเด็ดขาด ถ้าไม่อยากฝันสลายตอนบ่า��สามเพราะซื้อ แทงหวย ไม่ถูก อย่างไรก็ตามนี่เป็นความเชื่อส่วนหนึ่งในวันที่หวยออกเท่านั้น หากใครจะเชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวของแต่ละบุคคล
ห้ามวางสิ่งของกีดขวางทางเดินประตูบ้าน ห้ามใส่เสื้อผ้าหรือกางเกงขาดๆ ห้ามให้สลากกินแบ่งฯ ยับเด็ดขาด ห้ามให้ไฟในบ้านมืด ต้องเปิดให้สว่าง ห้ามตัดเล็บ ตัดผม หรือโกนผม ห้ามซื้อหวยกับพ่อค้าแม่ค้าที่อารมณ์ไม่ดี ห้ามซื้อหวยในพื้นที่ก่อสร้าง ห้ามมีจานข้าวที่ข้างคืน ห้ามทำให้บ้านรก ห้ามให้น้ำในบ้านรั่วไหล ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามแช่จานชามไว้ข้ามคืน
สำหรับวันของการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด ก่อนถึงเวลาหวยออก มาเตรียมพร้อม และดูข้อห้ามที่ห้ามทำในวันหวยออก เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจว่าวันนี้จะต้องรวย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น แม้อาจจะไม่ใช่ในเรื่องโชคลาภ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ทำก็เป็นผลที่ส่งถึงตัวเราทั้งนั้น ยังไงก็ขอให้วันหวยออกเป็นวันที่ทุกคนจะต้องได้ร้องเฮและรวยกันอย่างถ้วนหน้าทุกคนไปเลย
0 notes
Text
สูตรคำนวณหวยมาแรง เข้าทุกงวด!!
สูตรสำหรับการคำนวณนับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธี ซึ่งสามารถเอาไปใช้คำนวณจำนวนก่อนนำไปเสี่ยงโชคได้ ซึ่งแหล่งหาเลขเด็ดลอตเตอรี่ในปัจจุบันจะมีการให้เลขต่างกัน และก็จับตัวเลขมาได้จำนวนไม่ใช่น้อย สำหรับการเสี่ยงโชคหรือลอตเตอรี่ในแต่ละงวด ผ่านสลากกินแบ่งหรือเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ สำหรับในการคำนวณนี้ก็สามารถใช้สูตรนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้ สำหรับการคำนวณเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางแทงหวย จะใช้ผลของการออกรางวัล เลขท้าย 3 ตัว ของสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 งวดก่อนมาใช้ในการคำนวณ ในการหาเลข 1 ตัวเด่นๆที่จะออกในงวดถัดไป ดังต่อไปนี้
การคำนวณจะใช้วิธีคิดง่ายๆ คือ ใช้ผลออกรางวัลของรางวัลที่ 1 งวดก่อน โดยนำ หลักร้อย + หลักหน่วย = จะได้เลขที่จะออกในงวดถัดไป 1 ตัวเด่นๆ
เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 557990 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัว 14 ให้ใช้ หลักร้อย + หลักหน่วย (9+0 = 9) ดังนั้น งวดต่อไปจะต้องมี 9
สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 251097 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัว 91 ให้ใช้ หลักร้อย + หลักหน่วย (0+7 = 7) ดังนั้น งวดต่อไปจะต้องมี 7
สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 356757 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัว 85 ให้ใช้ หลักร้อย + หลักหน่วย (7+7 = 14) ดังนั้น งวดต่อไปจะต้องมี 4
สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 625544 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัว 89 ให้ใช้ หลักร้อย + หลักหน่วย (5+4 = 9) ดังนั้น งวดต่อไปจะต้องมี 9
สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 17 มกราคม 2567 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 105979 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขท้าย 2 ตัว 61 ให้ใช้ หลักร้อย + หลักหน่วย (9+9 = 18) ดังนั้น งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 จะต้องมี 8 แน่นอน
เห็นแบบนี้งวดต่อไปทุกคนคงมีเลขในใจแล้ว จะจับคู่กับเลขไหนก็สามารถเลือกได้ตามที่เราชอบ แต่การคำนวณนี้ก็เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนได้นำไปเสี่ยงโชคเท่านั้น การลงทุนไม่ว่าจะแบบไหนทุกคนก็ย่อมหวังพึ่งกำไรแน่นอน การแทงหวยก็เช่นกัน ซึ่งแต่ล่ะเว็บก็มีราคาจ่ายที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าอยากได้เว็บไซต์ที่มีอัตราการจ่ายสูง ก็ต้องเลือกเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีความมั่นคง อย่างไรก็ตามจำไว้ว่าการเดิมพันมันคือสิ่งไม่แน่นอน เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย
0 notes
Text
ตำนานสะพานแห่งศรัทธา ของสังขละบุรี
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานที่ก่อสร้างด้วยไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร และมีอายุการใช้งานติดต่อกันมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี สร้างขึ้นสำหรับข้ามลำน้ำซองกาเลีย เพื่อให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา ซึ่งบริเวณสะพานแห่งนี้ก็ยังเป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ด้วย สะพานมอญเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศพม่า สร้างขึ้นโดยดำริของ "หลวงพ่ออุตตมะ" เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ
เดิมสะพานมอญเป็นสะพานที่สร้างด้วยแพไม้ไผ่ต่อติดกัน ตรงกลางเป็นแพมีคนชักสะพานให้มาเชื่อมกันและเก็บเงินผู้ที่สัญจรไปมาคนละ 1 บาท ชาวบ้านจึงเรียกว่า "สะพานบาทเดียว" ต่อมาหลวงพ่ออุตตมะจึงคิดริเริ่มและเป็นผู้นำในการสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องเดือดร้อนเสียเงินข้ามฝั่ง
การสร้างสะพานเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 วัสดุที่ใช้สร้างเป็นไม้ทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไม้แดงเพราะเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทาน เสา ราวสะพาน และพื้นสะพานจะเป็นไม้ขนาดหน้ากว้าง 1 ศอก ตัวสะพานใช้เสา 60 ต้น โดยในการสร้างสะพานไม้แห่งนี้ไม่ได้ใช้เครื่องจักรช่วย ใช้เพียงแรงงานของชาวบ้านที่มาช่วยกัน แทงหวย สร้างด้วยความศรัทธา ในการสร้างสะพานครั้งนั้นหลวงพ่ออุตตมะเร่งสร้างทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้เวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จประมาณ 2 เดือน มีความยาวประมาณ 850 เมตร นอกจากนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "สะพานแห่งศรัทธา"
ต่อมาในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 มีเหตุการณ์น้ำป่าพัดพาท่อนซุงถล่ม "สะพานมอญ" ในอำเภอสังขละบุรี จนสะพานขาด ส่งผลให้สะพานเกิดความเสียหายเป็นแนวยาวกว่า 100 เมตร จนต้องปิดการสัญจรบริเวณสะพานมอญเป็นการชั่วคราว จากนั้นมาสะพานมอญก็ได้รับการซ่อมแซมจากทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านอำเภอสังขละบุรี ใช้เวลาเพียงแค่ 29 วัน และเปิดใช้อีกครั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบชาตกาล 104 ปี ของหลวงพ่ออุตตมะ
0 notes
Text
น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ 7 ชั้น ของกาญจนบุรี
หากพูดถึงน้ำตกที่สวยงามในประเทศไทยคงนึกถึง "น้ำตกเอราวัณ" ถือเป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่สวยงามและยิ่งใหญ่มากอันดับต้นๆในไทยเลยทีเดียว น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี มีทั้งหมด 7ชั้น เรียกว่า สวรรค์ทั้ง 7 ชั้นเลยก็ว่าได้ แนะนำให้ไปช่วงปลายฝน หรือช่วงปลายปีจะดีที่สุด น���ำจะเยอะและใสมาก การเดินทางถึงจะเหนื่อยบ้าง แต่สิ่งที่เราจะได้กลับมาจากการเดินทาง รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน
น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกสีเขียวมรกตของกาญจนบุรี เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมความงดงามกันแบบไม่ขาดสาย น้ำตกเอราวัณมีขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามและมีแอ่งให้ลงเล่นน้ำได้ เดิมมีชื่อว่า "อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติเอราวัณเนื่องจากชั้นสูงสุดของน้ำตก เป็นธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการ แทงหวย ประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549 ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
ภายในอุทยานมีน้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง เกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงมาจากยอดเขา และผาสูงราว 2,100 เมตร ก่อเกิดน้ำตกที่มีระยะทางยาวถึง 1,500 เมตร และแบ่งได้เป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย นอกจากความสนุกจากน้ำตกแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์จากการสำรวจผืนป่าไปบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ที่มีระยะทาง 1,060 เมตร เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินราวๆ 30 นาที นักท่องเที่ยวจะได้ชมทั้งป่าดิบเขา จุดชมวิว และป่าผลัดใบที่สวยงามอีกด้วย
สวรรค์ 7 ชั้น ของน้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ
0 notes
Text
"สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ที่มาของทางรถไฟสายมรณะ
สะพานข้ามแม่นำแควมีความสำคัญอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟของกองทัพญี่ปุ่น จากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ไปยังเมือง��ันบูซายัต ประเทศพม่า โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย เพื่อมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า
ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ที่ลึกและเชี่ยว กองทัพญี่ปุ่นจึงเลือกสร้างสะพานข้ามน้ำแควใหญ่ ที่บริเวณบ้านท่ามะขาม (สมัยก่อนเรียกว่าบ้านท่าม้าข้าม) เนื่องจากพื้นดินด้านล่างมีความหนาแน่น ระยะแรกสร้างเป็นสะพานไม้เพียงชั่วคราว ใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 เดือน การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง
ต่อมาได้สร้างเป็นสะพานเหล็กถาวรโดยนำเหล็กจากมะลายูมาประกอบกัน วางรางโดยเชลยศึกชาวอังกฤษ สะพานนี้มีความยาว 300 เมตร แบ่งเป็น 11 ช่วงตอม่อ หัวและโครงสะพานเป็นไม้ เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 แต่ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2487 ระหว่างสงครามสะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศ โดยการทิ้งระเบิดทำให้สะพานหักท่อนกลาง ญี่ปุ่นจึงยอมแพ้สงครามใน แต่ภายหลังสงครามสิ้นสุดลงรัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อจากอังกฤษมาเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท แล้วบูรณะซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบันมีการยกย่องให้เป็น "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" รวมความยาวของสะพานทั้งสิ้น 322.90 เมตร
1 note
·
View note
Text
เที่ยวบึงกาฬ จุดเช็คอินแดนอีสาน!
บึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งนอกจากบรรยากาศสวยๆของแม่น้ำโขงก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย วันหยุดสุดสัปดาห์ถ้าจะมาเที่ยวบึงกาฬดื่มด่ำไปกับสถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เดินชิลชมวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง และท่องเที่ยวสนุกสนานไปกับแลนด์มาร์คสุดปัง วันนี้เราได้รวมที่เที่ยวบึงกาฬมาให้ทุกคนได้เลือกดู จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
หินสามวาฬ หินสามวาฬ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู โดยบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยกลุ่มก้อนหินรูปทรงต่างๆกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ บริเวณของ "หินสามวาฬ" จะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง เป็นหน้าผาหินทรายลักษณะคล้ายกับวาฬพ่อแม่ลูกสามตัวว่ายน้ำเรียงต่อกัน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับขึ้นมาที่ขอบฟ้า
ถ้ำนาคา ถ้ำนาคาสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นปรากฏการณ์ซันแครก (Sun Crack) ทำให้พื้นผิวของหินคล้ายกับเกล็ดพญานาคที่กำลังขดตัว ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี นอกจากนี้ยังมีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณปากถ้ำคล้ายกับหัวของงูยักษ์ ซึ่งความงดงามนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เป็นอีกที่เที่ยวที่แนะนำเลย
ลานธรรมภูสิงห์ เป็นพื้นที่โล่งกว้างอยู่ทางทิศเหนือของภูสิงห์ ตั้งอยู่ในป่านันทนาการหินสามวาฬ เขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมากราบไหว้ขอพร "หลวงพ่อพระสิงห์" บริเวณหินสีแดงขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกับสิงโตหมอบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูสิงห์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงอีกด้วย
จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่อยู่ติดหน้าผาด้านตะวันตกของภูสิงห์ เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า กุมภลักษณ์ (pot hole) เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำที่ไหลวนทำให้ก้นบ่อลึก และใหญ่เป็นทรงกลมเหมือนหม้อนึ่งข้าวเหนียว นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของจังหวัดบึงกาฬได้อย่างเพลิดเพลิน
วัดเจติยาคีรีวิหาร วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอก ตั้งอยู่บริเวณภูทอกเป็นภูเขาหินทรายที่โดดเดี่ยว มี 2 ลูก ได้แก่ ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย จุดเด่นของภูทอกคือ มีสะพานไม้และบันไดเวียนไปมารอบภูทอกแบบ 360 องศา ทั้งหมด 7 ชั้น สามารถมองเห็นวิวทิวทิศน์ที่สวยงามจากมุมต่างๆจากบันไดที่ทอดขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของยอด เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมให้หลุดพ้นและเดินขึ้นสู่สวรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง
น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ที่แห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน เล่นน้ำ คลายร้อน น้ำตกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกธารน้ำตกจะไหลลงสู่แอ่งน้ำกว้าง น้ำลึก ถัดมาช่วงกลางน้ำตกเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ยาวไปจนถึงฝายทดน้ำ น้ำค่อนข้างตื้น และส่วนสุดท้ายเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เป็นต้นธารที่ไหลสู่แอ่งเบื้องล่าง เป็นภาพที่งดงามเหมาะสำหรับนั่งชิวดื่มด่ำกับบรรยากาศเป็นอย่างมาก
น้ำตกเจ็ดสี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตั้งอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านดอนเสียด เป็นอีกหนึ่งที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกที่สวยงามอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ชื่อมาจากน้ำตกที่ตกจากหน้าผาสูงแล้วเกิดเป็นละอองไอน้ำกระทบกับแสงแดดทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ จึงเรียกว่า "น้ำตกเจ็ดสี" เหมาะสำหรับไปเทียวในช่วงบ่ายๆ น้ำตกมีถึง 3 ชั้น แต่ละชั้นก็แตกต่างกันออกไป และยังสามารถเล่นน้ำได้หลายจุดอีกด้วย
1 note
·
View note
Text
จำนวนดอกกุหลาบสื่อความหมายอย่างไร?
โดยปกติดอกกุหลาบก็มีความหมายดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเพิ่มความโรแมนติกอีกสักนิดด้วยการเลือกจำนวนดอกกุหลาบ เพื่อใช้สื่อความในใจจะยิ่งทำให้ช่อดอกกุหลาบวาเลนไทน์ช่อนั้นมีความหมายพิเศษเข้าไปอีก แถมจะช่วย ผลหวยฮานอย ให้ดูเป็นคนโรแมนติก ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากขึ้นอีกด้วย สำหรับวันวาเลนไทน์หรือวันพิเศษ ถ้าอยากเพิ่มความประทับใจให้กับคนที่คุณรัก ลองเลือกตามจำนวนพร้อมแนบการ์ดไปด้วยว่า จำนวนของดอกกุหลาบที่เรามอบให้ไปนั้นสื่อถึงอะไร เชื่อว่าเขาจะต้องรักในความละเอียดอ่อน และความใส่ใจของคุณแน่นอน
1 ดอก : รักแรกพบ 2 ดอก : ตกหลุมรักเธอแบบถอนตัวไม่ขึ้น 3 ดอก : ฉันรักเธอ 4 ดอก : ไม่มีอะไรจะมาแยกเราจากกันได้ 5 ดอก : ความรู้สึกที่มีให้พิเศษยิ่งกว่าใคร 6 ดอก : ฉันต้องการเป็นคนของเธอ 7 ดอก : ฉันหลงเสน่ห์ของเธอ 8 ดอก : ฉันจะอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจให้เธอเสมอ 9 ดอก : แทนการขอร่วมชีวิต อาจสื่อถึงการแต่งงาน 10 ดอก : เธอคือความสมบูรณ์แบบ 11 ดอก : เธอคือสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิต 12 ดอก : อยากให้เธอมาเป็นคนของฉัน 13 ดอก : ฉันชื่นชมในตัวเธอ 14 ดอก : ภูมิใจในตัวเธอ เธอเก่งมาก 15 ดอก : ยกโทษให้ฉันได้ไหม 18 ดอก : รักจากก้นบึ้งหัวใจเลย 19 ดอก : อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ 20 ดอก : สัญลักษณ์ของความจริงใจและเชื่อมั่น 21 ดอก : การให้คำสัญญาว่าฉันจะรักเธอตลอดไป 24 ดอก : การบอกให้คนที่คุณรักรู้ว่ายังอยู่ในหัวใจเสมอ 25 ดอก : ขอให้คนที่คุณรักมีความสุข เป็นการอวยพรอีกฝ่าย
27 ดอก : รักมากจนประเมินค่าไม่ได้ 30 ดอก : ศรัทธาในความรักที่มีให้ 36 ดอก : จะจดจำช่วงเวลาดีๆของเราไว้ 37 ดอก : รักที่มีให้จากก้นบึ้งของหัวใจ 40 ดอก : รักแท้ของฉันจากนี้และตลอดไป 44 ดอก : ความรักที่ฉันมีให้เธอจะไม่เปลี่ยนแปลงไป 47 ดอก : เธอคือหนึ่งเดียวในใจของฉัน 48 ดอก : ความรักของฉันจะไม่มีวันแปรเปลี่ยน 50 ดอก : รักโดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน รักอย่างบริสุทธ์ใจ 77 ดอก : ฉันเชื่อว่าเธอคือพรหมลิขิตที่ฟ้าส่งมาให้ 88 ดอก : ฉันรู้สึกผิดจากหัวใจ เป็นการง้ออีกฝ่าย 99 ดอก : จะรักเธอไปจนลมหายใจสุดท้าย 100 ดอก : การบอกให้คนที่รักรู้ว่าหัวใจของคุณให้เขาผู้เดียว 101 ดอก : หยุดตรงนี้ที่เธอคนเดียวเท่านั้น 108 ดอก : อยากใช้ชีวิตร่วมกัน 365 ดอก : รักทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที 999 ดอก : ความรักที่มีให้จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน 1,001 ดอก : จะมีกันและกันตลอดไปชั่วนิรันดร์
1 note
·
View note
Text
สีของดอกกุหลาบมีความหมายต่างกันอย่างไร?
วันวาเลนไทน์ หรือที่หลายคนเรียกว่า วันแห่งความรัก สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ดอกกุหลาบที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความรักในรูปแบบต่างๆ โดยทั่วไปในหลากหลายวัฒนธรรม ผลหวยฮานอย เมื่อพูดถึงดอกกุหลาบ หมายถึง ความรัก ความโรแมนติก ความสวยงาม และความกล้าหาญ ซึ่งดอกกุหลาบที่หลากสีก็มีความหมายที่แตกต่างกันออกไปด้วย แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อดอกกุหลาบให้ใคร เรามาดูความหมายของดอกกุหลายแต่ละสีกันก่อนเลย
ดอกกุหลาบสีแดง : ความรัก ความหลงใหล และโรแมนติก ดอกกุหลาบสีแดงอ่อน : ความปรารถนา และเสน่หาในอีกฝ่าย ดอกกุหลาบสีดำ : หมายถึง ความรักนิรันดร์ ดอกกุหลาบสีขาว : หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์ ดอกกุหลาบสีชมพู : หมายถึง ความอ่อนหวาน และสง่างาม ดอกกุหลาบสีครีม : หมายถึง ความรอบคอบ และสง่างาม ดอกกุหลาบสีโอรส/สีพีช : หมายถึง ความจริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน และกตัญญู ดอกกุหลาบสีงาช้าง : หมายถึงมิตรภาพที่ดีงามและบริสุทธิ์ ดอกกุหลาบสีม่วง : หมายถึง ความรัก ความปรารถนา และรักแรกพบ ดอกกุหลาบสีเหลือง : หมายถึง มิตรภาพ ความรักที่อบอุ่นและมีความสุข ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน : หมายถึง ความลึกลับและความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดอกกุหลาบสีส้ม : หมายถึง ความปรารถนา และพลังงาน ดอกกุหลาบสีเขียว : หมายถึง การเจริญเติบโต และความอุดมสมบูรณ์ ดอกกุหลาบหลากสี : เป็นวิธีการส่งความที่สนุกสนานและไม่เหมือนใครไปให้ผู้รับ ดอกกุหลาบคละสี : สามารถส่งสัญลักษณ์ได้หลายแบบหรือแตกต่างกันเล็กน้อย
หากรู้ความหมายของดอกกุหลาบแต่ละสีแล้ว จะยิ่งทำให้เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้มากขึ้น หรือการที่เราเลือกดอกกุหลาบโดยรู้ความหมายของมันดี เปรียบเสมือนเราได้ใส่ใจลงไปในสิ่งที่เราเลือก ก็จะยิ่งทำให้คู่รักประทับใจมากยิ่งขึ้น รู้แบบนี้แล้วมีสีดอกกุหลาบในใจกันแล้วใช่ไหม
1 note
·
View note
Text
ตำนานถ้ำนาคา พญานาคผู้ถูกสาปไว้!!
ความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับผูกพันแนบแน่นกับสังคมไทยมาช้านาน ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ รอยต่อระหว่างจังหวัดบึงกาฬกับนครพนม ในพื้นที่นั้นจะพบกับหินที่มีรูปร่างคล้ายกับงูยักษ์ หรือลำตัวของพญานาค มีลักษณะเหมือนงูกำลังขดอยู่และมีเกล็ดขนาดใหญ่ ซึ่งหินที่มีลักษณะคลายหัวของงูนั้นถูกพบที่ แขวงอุดมไซย สปป.ลาว ส่วนหินที่เป็นเกร็ดคล้ายงูนั้น เป็นหินที่พบที่ถ้ำนาคา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นภาพจากคนละสถานที่ แต่หินที่เป็นลักษณะของเกร็ดงูนั้น ทางธรณีวิทยาเรียกว่า ซันแครก (sun crack) เกิดจากการแตกผิวหน้าของหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้หินเกิดการขยายตัวและหดตัวสลับไปมา จนแตกเป็นลายเหลี่ยม ต่อมามีการผุผังและกัดเซาะโดยน้ำและอากาศในแนวดิ่ง จึงทำให้เกิดลักษณะเป็นชั้นๆนั่นเอง
เรื่องเล่าและความเชื่อตามที่ชาวบ้านเล่าขานกันมานั้น บางส่วนเชื่อว่า พญานาค ที่ชาวบ้านเรียกว่า ปู่อือลือ ถูกสาปให้ร่างกลายเป็นหินติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้ เพียงเพราะบริวารของพญานาคผู้ครองเมืองบาดาลไปมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์ เมืองบาดาลที่พญานาคและบริวารอาศัยอยู่ก็คือ บึงโขงหลง ในจังหวัดบึงกาฬ ตำนานเล่าว่าปู่อือลือเป็นเทพเจ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ จากนั้นก็ถูกสาปลงมาให้เป็นพญานาคปกครอง ผลหวยฮานอย อยู่ที่เมืองบาดาลที่บึงโขงหลง ต่อมาผู้คนในเมืองบาดาลทั้งมนุษย์และพญานาคเกิดกิเลสสมสู่กัน เมื่อปู่อือลือรู้เข้าก็เกิดความโมโหที่บริวารไปรักใครกับมนุษย์ จึงสาปให้บริวารกลายเป็นหินอยู่ในถ้ำ โดยบริวารที่ถูกสาปนั้นก็มีอยู่ทั่วเมืองบึงกาฬ เพื่อให้ปกป้องมนุษย์ ปัจจุบันยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนกำลังให้ความนิยมและความสำคัญถึงความอัศจรรย์ของถ้ำนาคาอย่างมากอีกด้วย
จุดเด่นและจุดสำคัญของถ้ำนาคานั้น ภายในถ้ำจะมีลักษณะผนังคล้ายเกล็ดของพญานาคกำลังนอนขดตัวอยู่ อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญนั่นก็คือเศียรของพญานาค มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่สีน้ำตาล มีเกล็ดและรูปร่างคล้ายเศียรของพญานาค เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไว้บูชาเพื่อขอโชค ขอลาภ เสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต โดยสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างพากันมาชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และขอพรที่ถ้ำนาคาแห่งนี้ตามความเชื่อโบราณ เพราะต่างเชื่อว่าที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคและคอยปกป้องรักษาไม่ให้เกิดอันตรายนั่นเอง
1 note
·
View note