Text
เดินไปข้างหน้า
วันนี้ไปงานงานนึง พึ่งมารู้ว่าต้องไปไม่กี่วัน งงมาก พี่เขาโทรมาแล้วถาม"เราคอนเฟิร์มว่าไปนะ" อึ้งไปพักนึง ได้แต่ถามตัวเองในใจ มึงไปก่อเรื่องก่อราวอะไรไว้อี๊กกกก เอ่อ เอาว่ะเฟิร์มก็เฟิร์ม
สุดท้ายก็ได้มางานนี้คนเดียว! ใช่! คนเดียว! ปกติเวลาไปกิจกรรมจะมีอาร์ตหรือคุณบุญทวีไปด้วย แต่นี้กูไปคนเดียว โอ้โห แม่จ้าว กริ้วมาก โคตรกลัวเลย ต้องไปเจอคนเยอะๆ ไม่รู้จักใคร เรายังฝังใจตอนเรียนอยู่ กลัวแบบพอรู้จักใคร แล้วเราจะทำตัวไม่ถูก แล้วทำนิสัยไม่ถูกใจ จนเขาเกลียดเรา กลัวการมีเพื่อน และการเข้าสังคมมาก
ตอนนั่งรถไปกับพี่กับคนอื่นๆ ก็เริ่มวางแผนล่ะ ก่อนอื่นเราต้องยิ้มก่อน แล้วก็ต้องคุยกับเขารู้เรื่อง สุดท้ายแม่งก็ผ่านมาได้ว่ะ เราคุยกับเขาได้ เรากล้าที่จะยิ้มให้คนอื่น โอ้โหmission complete จริง
ดู!!! ในงานแม่งเปิดเพลงได้หึกเหิม เรานี่เกือบ ทำท่าเรียกค้อนล่ะ😌
มันเหมือนเราได้ลบปมด้อยของตัวเองออกเลยนะ จากที่แบบชอบเอาอดีตมาคอยขวางเราไว้ จนเราไม่เดินไปข้างหน้า เรารู้สึกว่าตอนนี้เรากล้าที่จะเดินไปข้างหน้าได้ล่ะ ขอบคุณพี่มากครับที่โทรมา(แต่ก็แอบงงนะ กูไปทำอะไรไว้ว่ะ พี่เขาถึงโทรมา)
0 notes
Text
ที่ทำงานแห่งที่ 2
งานแรกที่ทำแล้วได้เงินคืองานแกะเมม งงใช่ม่ะ! บอกใครก็มีแต่คนงง555 ตอนนั้นไปทำกับมอส เจ๋ง ป้อ กอล์ฟ ทำได้แค่3วัน ปิดเทอมอีกครั้ง ตอนนั้นอยากหางานทำมาก ทักไปหลายคนเลยว่ามีงานให้ทำมั้ย อยากทำเพราะอยากรู้จริงๆ ว่างานมันทำแล้วเหนื่อยจริงป่าวว่ะ เห็นผู้ใหญ่ชอบบ่นจังว่าทำงานเหนื่อยกว่าจะได้เงินมา หลังสอบเสร็จ ก็ลองไปสมัครงานกับเพื่อนกัน2คน ไปPaseoก็ไม่รับ😑 สุดท้ายมาได้ที่บิ๊กซี ตอนนั้นจำได้ว่าพี่เขาถามว่าขายอาหารเป็นมั้ย เราก็บอกไม่เป็น พี่เขาก็เลยบอกว่า"เดี๋ยวพี่ให้เราไปขายอาหารเจนะ" เอ้า! เมื่อกี้กูพูดว่าอะไร กูบอกว่าไม่เป็นไง อยากให้ร้านเจ๊ง หรือยังไง สุดท้ายก็มาได้ขาย ตอนนั้นจะมี mentorคอยมาสอนอยู่หลายคน บางคนโหด บางคนใจดี เรากับเพื่อนก็จะตั้งฉายาให้แต่ล่ะคน ป้าหัวหน้าที่โหดๆ ก็จะเรียกป้าธอว์ พี่อ้วนๆนิสัยดีก็พี่ฮัค เจ้าเล่ห์ชอบโชว์หน่อยก็พี่โลกิ ขายวันแรกจำได้โคตรเบื่อ หิว แถมที่นั้นมีกฎอยู่ว่าห้ามพนักงงานออกนอกห้าง ริมกระจกจะมีร้านขายหมูปิ้งอยู่ เลยต้องอาศัยเคาะกระจกแล้วใช้นิ้วบอกจำนวนหมูและข้าวเหนียว🤣 พอทำไปได้หลายวันก็ไม่เริ่มเบื่อล่ะ เพราะเริ่มมีลูกค้าประจำ คนไหนมาบ่อยจะเริ่มจำได้ล่ะ มีพี่คนนึงอยู่ศูนย์Trueจะมาบ่อย อ้าว...มาบ่อยอย่างงี้ ก็ต้องจัดชุดใหญ่ให้เขาเลย จำได้ว่าจะให้เขาเยอะมาก จนพี่ฮัคเขาด่าเลย แต่วันสุดท้ายนี้จัดให้เยอะจริง พี่กินไม่หมดด้วย🤣
เอาจริงๆทำงานมันก็ไม่ได้เหนื่อยหรอก แต่มันเบื่อมากกว่าที่ต้องทำอะไรเดิมๆ อยู่ที่เดิมๆ เจอคนที่เราไม่ค่อยชอบมันก็บั่นทอนเราล่ะ แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็สนุกดีนะ ได้ยิ้มได้คุยกับลูกค้า ลูกค้าบางคนก็ดีบ้างร้ายบ้าง แต่ก็ธรรมดาของโลกเนอะ มีดำก็ต้องมีขาว ได้ทำที่นี้ถือว่าดีเลยล่ะ บิ๊กซีนี้เป็นที่แรก ที่เราเก็บเงินเพื่อมาเที่ยวห้างคนเดียว ทุกอาทิตย์จะมาที่นี้พร้อมกับเงิน120บาทเพื่อมาซื้อแผ่นมวยปล้ำ แต่ตอนนี้ไม่มีแผ่นขายล่ะ ไอเด็กสมัยนี้ แม่งชอบไปดูในเว็บกัน เซ็งจริงๆ😑
0 notes
Text
ฝันร้าย...
ทุกวันนี้ ยังต้องตื่นขึ้นมา แล้วคิดว่าตัวเองยังต้องไปโรงเรียนนั้นอยู่เลย ยังจำเรื่องราวที่นั้นได้ ทั้งๆที่อยากจะลืม ยังจำได้ดีว่าทุกเช้าเรากลัว เราเครียดขนาดไหน แทบไม่อยากที่จะไปโรงเรียนนั้นเลย มันเป็น3ปีที่ทรมานมาก กับการที่ต้องทำในสิ่งที่เราเกลียด ต้องทำในสิ่งที่ไม่ใช่เรา ขำดีนะ มันมีอยู่ครั้งนึงที่ครูให้จับกลุ่ม สุดท้ายก็ไม่มีใครมาคู่กับเราเลย มันเป็นโมเม้นที่โคตรแย่เลย ตั้งแต่วันนั้นก็คิดแล้วล่ะ ว่าคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านั้นล่ะ แต่แม่งดันแย่ขึ้นเรื่อยๆ จนเรากลายเป็นคนเข้าสังคมไม่ได้ ทุกๆเช้าจะตื่นมาคิดล่ะ ว่าถ้าวันนี้ครูให้จับกลุ่มกูจะทำไงดีว่ะ ใครจะมากล้าคู่กูว่ะ มันเป็นแบบนี้ทุกเช้าเลย บอกก้��ตัวเองเสมอว่าสักวันเว้ย ต้องจบ อดทนไว้เดี๋ยวก็จบแล้ว บางคนอาจคิดนะว่าเราอ่ะคิดมากเกินไป แต่กับเด็กคนนึง การที่ต้องเจอเรื่องราวแย่ๆแบบนี้ มันทรมานนะ มันกลายเป็นปมเล็กๆในใจเขาไปเลยอ่ะ ไม่คิดเลยว่าการชอบคิดต่าง คิดนอกกรอบ มันจะทำลายชีวิตในวัยเด็กของเราได้ขนาดนี้ แต่ก็ดีนะ อย่างน้อยต่อจากนี้ไปถ้าเราเจอเรื่องอะไรที่เลวร้าย มันก็คงไม่เลวร้ายเท่ากับตอนอยู่โรงเรียนนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้เราผ่านมันมาแล้วนะ
0 notes
Text
FOREVER...
20ปีแล้วเหรอ? ยังจำตอนที่ดูไรเดอร์ครั้งแรกได้เลย ไรเดอร์ตัวแรกที่ดูคืออากิโตะ แถมวันที่ไปดูได้ postcard ของอากิโตะด้วยนะ555
จำได้ว่าเวลาไปตลาดกับแม่จะต้องซื้อแผ่นกลับบ้านเสมอ มีครั้งนึง แม่เหิมเกริมซื้อแผ่นมาเองโดยไม่มีเราไปด้วย แล้วแม่ซื้อแผ่นซ้ำ ตอนนั้นโวยวายบอกให้แม่ไปเปลี่ยน ดีนะเจ้าของร้านให้เปลี่ยน555
ตลอด20ปี ไรเดอร์เหมือนมีตัวตนอยู่ข้างๆเราจริงๆนะ เวลาอยู่โรงเรียนเจอเรื่องแย่ๆ ก็จะกลับมาดูไรเดอร์จนรู้สึกดี แล้วก็ไปสู้กับเรื่องเลวร้ายในวันต่อๆไปอีก🤣 ชอบประโยคของเรียวทาโร่ในหนังมาก ที่ว่า"ถึงเรื่องราวของพวกเราจะเป็นเรื่องโกหก แต่ถัายังจดจำพวกเรา พวกเราก็จะมีตัวตนอยู่ในความทรงจำตลอดไป" ฉากนี้บ่อน้ำตาไหลจริงๆ😭
เขามีบอร์ดให้เขียนความรู้สึกลงใน post it แล้วแปะ เลยเขียนประโยคไรเดอร์ที่เรารักมากที่สุดลงไป นั้นคือ! คาบูโตะ นั้นเอง! คาบูโตะ เป็นไรเดอร์ที่เราชอบมาก ส่วนหนึ่งที่กล้าแสดงออก และกล้าคิดต่าง ไม่กลัวใคร ก็เพราะได้แรงบันดาลใจจากพระเอกของเรื่องเลย แถมนอกจอ แกก็เทพไม่แพ้ในซีรี่ย์เลยนะ ตอนนี้ติดลูกมาก555 ไม่รู้จะมาในจิโอมั้ย😭
ไม่คิดว่าไรเดอร์จะมาถึงจุดนี้ได้ ดีใจจริงๆ ที่ยังมีผู้คนอีกหลายคน ไม่มองไรเดอร์เป็นแค่หนังปัญญาอ่อน ยังมีคนที่ไม่ลืมว่าวันที่เราได้ดูไรเดอร์ครั้งแรกมันรู้สึกสนุกแค่ไหน ขอบคุณแฟนๆไรเดอร์จริงๆที่ช่วยกันสร้างความทรงจำไรเดอร์จนถึงจุดสุดท้ายของยุคเฮเซ
วันนั้นจับกาชาปอง ได้watchของW มันจะหมายถึงอะไรป่าวน้อออ!! 😁
สุดท้ายล่ะ เดี๋ยวลืมรีวิวหนัง
หนังอาจจะไม่ได้ service เรื่องไรเดอร์ แต่หนัง service กับแฟนไรเดอร์ เหมือนเป็นผลงานที่ทำออกมาเพื่อขอบคุณพวกเราแฟนไรเดอร์จริงๆ ขอบคุณนักแสดงทุกคนที่กลับและไม่กลับมาในจิโอ (แต่ก็หวังลึกๆนะ ว่าจะกลับมา😭) ขอบคุณจริงๆครับ ที่สร้างความทรงจำดีๆตลอด20ปี ให้พวกเรา พวกคุณจะมีตัวตนอยู่ในความทรงจำพวกเราตลอดไปครับ
0 notes
Text
ชิงร้อย ชิงล้าน
สมัยตอนเด็กๆ พ่อแม่จะกลับบ้านดึกมาก แล้วเราต้องอยู่คนเดียวสมัยนั้นคอมพิวเตอร์มือถือยังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ เพราะงั้นทีวีนี้ล่ะคือเพื่อนคู่ใจของเรา เราเป็นคนชอบดูทีวีและแผ่นซีดีมาก เวลาดึกๆรายการ ชิงร้อยชิงล้าน นี้ล่ะ คือเพื่อนคลายเหงาที่สุด สมัยก่อนฉากจะไม่มีledเยอะเท่าสมัยนี้นะ แต่ก่อนคือฉากวาดบ้าง ใช้โฟมบ้าง และจะมีฉากลับที่เปิดออกมาแล้วแสดงว่าละครใกล้จะจบล่ะ และช่วงต่อไปก็จะเป็นเกมท้าคนจากทางบ้าน แต่ก่อนเกมในชิงร้อยชิงล้าน สนุกมาก มีการใช้น้ำ ใช้โคลน สมัยนี้คงทำไม่ได้ล่ะ แก็งสามช่าแก่ล่ะ5555 และช่วงที่กลัวที่สุดจะเป็นช่วงที่ให้ดารามาเล่าเรื่องผี แล้วแก็งสามช่าจะมาทำให้ตกใจ ตอนดูคือสะดุ��งเลยนะ555 รักรายการนี้มาก วันนี้ได้มีโอกาสมาดูแบบสดๆ ดีใจแบบบอกไม่ถูกจริงๆ การทำงานของทีมงานworkpointสนุกมาก ถ้าเบื้องหน้าฮาแล้ว เบื้องหลังก็ฮาเหมือนกัน วันนี้พี่โหน่งยิ้มมาทางที่เรานั่งด้วย โอ้โหแบบ... ได้เจอคุณปัญญาด้วยนะ (ไม่ต้องมีสติ แค่มีปัญญาก็อยู่ได้แล้ว)สุดท้ายขอบคุณพี่ๆชมรมศิลปะและการแสดงจริงๆครับที่ทำกิจกรรมนี้ขึ้นมา วันนี้ผมสนุกมากๆ และกลับมามั่นใจในตัวเองอีกครั้งนึง ขอบคุณรามคำแหงที่ทำให้เราได้เจอพี่และคนอื่นๆอีกมากมาย ขอบคุณจริงๆครับ
0 notes
Text
2017 - 2018
2017 - 2018
ปีที่แล้วได้อ่านบทความนึงมา เขาบอกว่าถ้าเกิดเราลองทำอะไรที่ต้องใช้เวลานานๆ แล้วเราสามาร��ทำมันสำเร็จ เราจะมีความคิดที่อยู่เหนืออารมณ์ได้ เรามันก็คนอารมณ์ร้อนอ่ะเนอะ อีกอย่างช่วงนั้นชีวิตแย่มากเข้าสังคมก็ไม่ได้ถูกมองว่าแปลกแยกตลอดเซ็งมาก!! เลยลองคิดว่าลองไม่postในIGซัก1ปีดู แล้วลองถ่ายรูปอยู่ที่มุมเดิมถ่ายไปเรื่อยๆวันไหนกลับไม่ทันก็ค่อยถ่ายวันอื่นจนครบ1ปี มันเป็นอะไรที่เจ๋งดีนะที่เราลองทำอะไรระยะยาวแล้วสำเร็จ มันดีอ่ะเรารู้สึกว่าตอนนี้เราเย็นขึ้นนะ มันทำให้เราเลิกสนใจเรื่องการเข้าสังคมได้จริงๆ เป็นคนกังวลเรื่องนี้มากเพราะเราเป็นคนตรงๆไม่ชอบใส่หน้ากาก เพราะงั้นเลยไม่ค่อยมีใครสนใจ แล้วคนรอบข้างก็ยุบอกเหลือเกิน"มึงต้องมีเพื่อนเว้ย ไม่งั้นมึงอยู่ไม่ได้หรอก" อื้ม!!! พังจร้าา ชีวิตพังเลยจร้าาา แต่ตอนนี้เราว่าเราอยู่ได้นะ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองไปเป็นเพื่อนกับใครหรอก ยังไงสักวันนึงก็ต้องมีคนเข้ามาในชีวิตเราแล้วก็จากไป ตอนนี้เรามีความสุขมากเหมือนมีอิสระ และไม่ต้องอยู่ในสังคมที่ใส่หน้ากากชิงดีชิงเด่นกัน แต่ก็กังวลอนาคตชีวิตตัวเองนิดนึงล่ะ555
1 note
·
View note