Text
BIRDS OF PREY (and the fantabulous emancipation of one HARLAY QUINN)
“Do you know what a harlequin is?”
7/10
4/2020 IMAX
0 notes
Text
MARRIAGE STORY
“Yeah, I have to find a hair cutter.”
10/10
3/2020 Netflix
0 notes
Text
KNIVES OUT
“This might be the best thing that has ever happened to you.”
7/10
2/2020
0 notes
Text
HAPPY OLD YEAR / ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
“ตอนนั้นก็ดูเป็นรูปธรรมดาเนอะ ตอนนี้กลายเป็นล้ำค่าขึ้นมาเลย”
8/10
1/2020
0 notes
Text
Year in review x 2019
1. ย้ายที่อยู่จากคอนโดมาเป็นหอพัก ตอนแรกก็มีบี มีอายอยู่ด้วย แต่จนสิ้นปีแล้วก็เหลืออยู่คนเดียว ต่างคนต่างก็ย้ายไปตามทางของตัวเอง เราเองก็ต้องไปตามทางของตัวเองเหมือนกัน เป็นการข้ามปีมาแบบหนักหน่วงมาก แต่ยังไงชีวิตมันก็ต้องไปต่อแหละ ชีวิตอยู่หอดี เพราะว่าอยู่ใกล้ที่ทำงาน แต่ที่ทำงานมีเฮลิคอปเตอร์ เวลาจะขึ้นจะลงก็เสียงดังมาก ที่หอมีแมลงสาบขึ้นมาตามท่อด้วย จนต้องไปหาที่ปิดท่อมาเลย รีวิวอะไรเนี่ย 55555 ชีวิตตรงอยู่หอมันยากที่ว่าเราอยู่คนเดียวนี่แหละ ตื่นมาก็คนเดียว ไปกลับทำงานก็คนเดียว ���ัวคนเดียวก็ทำให้เรามีความรับผิดมากขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าเออก็เหงา ก็เปลี่ยนไปเยอะ
2. ปีนี้เริ่มต้นกับการอยู่เวร ทั้งบ่าย และดึก อยู่แบบรัวๆ และรัวๆ มากยิ่งขึ้น ยิงยาวมาถึงตอนนี้ที่ก็ยังรับเวรรัวๆอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีเวรดึกต่อเวรดึกให้อยู่อย่างไม่ขาดสาย อย่างน้อยก็จะมีเดือนละรอบเป็นอย่างต่ำ เหนื่อยแหละ แต่ที่ได้กลับมาก็คุ้มอยู่แหละ มั้ง เพราะก็ต้องกินต้องใช้(เยอะ)อ่ะนะ ไหนๆข้อนี้แล้ว รีวิวชีวิตการทำงานในปีที่ผ่านมา ก็ดีจัง ไม่คิดว่าสังคมการทำงานจะโอเคขนาดนี้ คนที่เป็นพิษเป็นภัยมันก็มีอยู่แหละ แต่ภาพรวมทุกอย่างมันก็ลงตัวในแบบของมันอยุ่นะ ปีนี้ที่ทำงานย้ายที่ แยกออกเป็นสาขาเพิ่มเติม ในตอนท้ายก็มารู้ว่า ก็กลายเป็นอีกฝ่ายไปเลย แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง พอย้ายเข้ามาก็เลยต้องมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น เรื่องร้ายๆก็มีให้เห็นตลอด แต่ทุกอย่างมันก็ให้ชีวิตเราพัฒนาขึ้นไปได้อีกขั้นนั่นแหละ
3. ปีนี้ได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนเป็นครั้งแรก สิงคโปร์คือคำตอบองทริปนี้ เป็นการเที่ยวที่สนุกมาก เพราะไม่รู้อะไรเลย ไปแบบมีการวางแผนแต่ก็ไม่ค่อยเป็นไปตามแผนเท่าไหร่ แต่มันคือความทรงจำที่ดีมากๆ ไม่ได้เขีนรีวิวทริปอย่างจริงจัง แต่รูปที่เพื่อนลงๆกันหนักหน่วงมากอยู่ ก็ถ่ายรูปกันมาเยอะอ่ะนะ อีกอย่างเป็นการเที่ยวที่งบน้อยดี เที่ยวกลับมายังรู้สึกว่าเงินยังเหลือสำหรับทำอย่างอื่นได้อีกนะเนี่ย
4. ปีนี้ดูหนังน้อยมาก น้อยแบบ ไม่ยากให้น้อยแบบนี้เลย น่าจะประมาณ 10 เรื่อง จะถึงรึเปล่ายังไม่รู้เลย ไปดูจากหลากหลายโรงภาพยนตร์ ปีนี้พออู่ตรงนี้ก้พบว่าควอเทียร์ซีนีอาร์ตเป็นที่ที่ดูหนังแล้วสบายดี ซึ่งหนังแห่งปีนี้ยกให้ Joker นะ คือสุดทางแล้ว กว่านี้ไม่ได้อีกแล้วแหละ
5. ปีนี้ฟังเพลงใหม่ๆน้อยเหมือนกัน เพราะทำงานตลอดเลย ไมม่ค่อยได้แม้กระทั่งฟังเพลง ก็มีบ้างประปราย แต่ไม่ค่อยได้ฟังเพลงที่อบ เพราะที่ทำงานเปิดได้แต่วิทยุมหานธรรมดา เพลงที่ชอบที่สุดของปีนี้คือ ไม่รุ้ทำไม-Whal&Dolph อบทั้งเนื้อหา ทำนอง MV เป็นการทำงานที่ลงตัว
6. ปีนี้บวชแหละ 9 วันที่ลำปาง การบวชให้ความสงบและการได้��ลับมานั่งทบทวนตัวเองกับหลายๆเรื่องที่ผ่านมา รู้สึกนึกถึง คิดถึง เรื่องราวหลายๆอย่างที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่า อยู่แบบนั้นไปตลอดไม่ได้ แต่นี่ก็เหมือนหนึ่งหน้าที่ที่ต้องทำต่อไปให้ลุล่วง ซึ่งผ่านมาแล้ว และทุกอย่างก็ลงตัว ลงล็อคของมันแล้ว
- วันแรกที่บวชเราร้องไห้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้จริงๆ เหมือนว่ามันได้สงบหลังจากที่ผ่านอะไรวุ่นวายมามั้ง
- วันที่สองจนถึงวันถัดๆไปเป็นวันธรรมดา วิถีชาวพุทธที่ดีธรรมดา สงบจิต สงบกาย สงบใจ นี่แหละมั้ง แก่นของการบวชอ่ะ ไม่ได้ต้องหาความสุข ความสงบดำลึกอะไรขนาดนั้นหรอก
- คืนสุดท้ายก่อนสึกเป็นคืนที่หนักหน่วงมาก รู้สึกนอนไม่หลับเลย จำได้ว่าตื่นตั้งแต่ตีสามลากยาวไปจนเช้าเลย
7. ปีนี้หมดลงไปด้วยวัยที่โตขึ้น จิตใจที่โตขึ้น วุฒมิภาวะที่มากขึ้น ความรับผิดชอบที่มากขึ้น แต่เรื่องราวในชีวิตกลับมีน้อยลง เจอเพื่อนน้อยลงมาก คิดถึงไปหมดนั่นแหละนะ แต่ทำยังไงได้แหละ คนเราก็ต้องไปตามทางของตัวเองกันไป
จริงๆคงมีอะไรให้รีวิวอีกเยอะแยะแหละ ก็ชีวิตอ่ะนะ.
0 notes
Text
“เมื่อไหร่จะได้เริ่มลงรูปรับปริญญาเสียทีนะ”
รักษ์ไท ไปเร็ว, 5737074737 CU97 AHS23 MT46
0 notes
Text
07-1101 x 2018
#FKKKberry #OungSec1
7. เรากำลังจะไปปางอุ๋ง เหตการณ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เดินทางจากกรุงเทพฯไปแม่ฮ่องสอน 18.00 จะไปถึงประมาณ 09.00 เป็นการเดินทางที่ยาวนานเมื่อยก้นด้วยมาตรฐาน ปอ.1 675 บาทต่อรอบ รถเบาะนวดที่นวดไม่ได้จริง กระเป๋าเพื่อนเยอะมาก ทั้งหมดล้วนเ��็นสัมภาระ ขนมขบเคี้ยวเสียเป็นส่วนมาก นอกนั้นก็เสื้อผ้าและอุปกรณ์ดำรงชีวิต
ไปรอบนี้กินข้าวที่กำแพงเพชรทุกคน มันออกมาเร็วก็ต้องหิวเป็นธรรมดา ถึงประมาณสามทุ่มกลางๆ หลังจากนี้ก็คือเดินทางยาวจนเช้า จนแม่ฮ่องสอนเลย
ความยากของคราวนี้คือ หลับทางตรงมาตลอดทาง มาตื่นเอาตอนเริ่มโค้ง โค้งแรกที่รู้สึกได้คือ ข้างทางเป็นเหว โอ้โหชีวิต ตื่นเลย ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ตื่นยาวเลยจน ประมาณเก้าโมงก็ถึงแม่ฮ่องสอนโดยสวัสดิภาพ
8. มาถึงแม่ฮ่องสอนแล้วพบว่ารถไปปางอุ๋งเริ่มที่ 09.15 อ้าว ก็ต้องรีบเลย เข้าบอกให้ไปขึ้นรถที่ตลาด ทุกคนคิดว่าเดินไปได้ เพราะ คิดว่าเห็นตลาดอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม จริงๆมันใช่เหรอ? ตลาดก็ไกลมากอยู่นะ ก็เลยติดรถเค้าไป หาข้าวกินซื้อของกินเพิ่มนิดหน่อย ซื้อผักและก็ผลไม้แล้วก็ไข่น่ะ ขนมน่ะเยอะอยู่แล้ว กระซิบนิดนึงว่า ก๋วยจั๊บ-บะหมี่เกี๊ยว-โจ๊ก จะมีอยู่สองร้าน ร้านที่คนเยอะๆน่ะ อร่อยแล้ว เข้าไปกินร้านนั้นนะ ตามคนอื่นเค้าเถอะ 55555
โอเค ไปปางอุ๋งกัน การเดินทางคือการขึ้นเขา หักศอก ขึ้นเขา หักศอกแล้วหักศอกอีก ตื่นเต้นน่ากลัวเหลือเกิน โค้งเยอะไปหมด ไงก็เข้าใจนะว่าเป็นแม่ฮ่องสอน แต่ไม่ต้องโค้งขนาดนี้ก็ได้ จริงๆนะ ค่ารถ ณ จุดนี้ จากตัวเมืองขึ้นปางอุ๋ง 90 บาทเท่านั้น มันไม่แพงเลยจริงๆเมื่อเทียบกับระยะทางทั้งหลายทั้งมวลนะ ให้เค้าเถอะ
เรามาถึงปางอุ๋งกันแล้ว เย็นอยู่นะ หมายถึงอากาศนะ เดินทางมาจากข้างล่างประมาณ 1.45 ชั่วโมง รู้สึกนาน เพราะเราไม่ได้เหมาเค้าไง เค้าก็เลยส่งของ���บื้ยบ้ายรายทาง ก็โอเค ย้ำว่ายังไงก็คุ้มกับ 90 บาทนะ ไปถึงแล้วก็ติดต่อลุงเจ้าของเต้นท์ แรกเริ่มเดิมทีได้นอนเป็น 2 เต้นท์ ชาย 350 หญิง 250 ต่อคืน ตอนรีเควสมาขอติดน้ำ จุดนี้คือติดน้ำมาก คือถ้าออกจากเต้นท์แล้วสะดุดก็ลงน้ำเลย เอ้า! คิดดู ตามคำขอแค่ไหน 55555 ก็เลยคิดว่าจะย้ายไปนอนเต้นท์ใหญ่รวมดีกว่า เพราะเห็นว่าคนไม่ได้เยอะมากขนาดนั้น ย้ายเต้นท์คงไม่เท่าไหร่ ก็ไม่เท่าไหร่จริงๆ ท้ายที่สุดก็ย้ายได้ ยังติดริมน้ำเหมือนเดิม แต่ย้ายมาเป้น หน้าสะพานแทน รู้สึกดีเลย มุมก็โอเค
หลังจากที่เก็บของเข้าเต้นท์แล้ว ก็ไปเดินหมู่บ้านหน้าอุทยาน หาอะไรกินแล้วก็ว่าจะซื้ออะไรมาเพิ่มสำหรับที่จะกินน้ำ กินหมูกะทะ มาม่าอะไรวว่าไป ออกไปหมู่บ้าน กว่าจะไปถึงก็ถ่ายรูปไปเยอะมากแล้ว 55555 ร้านอาหารขายของคล้ายๆกัน มีอาหารเหนือ ที่ไม่เคยได้ยินชื่อก็มีเยอะแยะ ร้านค้าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก ก็ครับมาเยอะ ราคาอาหารต้องเลือกดูดีๆ เพราะว่า ขายคล้ายๆกัน ราคา บางร้านก็โดดขึ้นไปซะอย่างงั้น ได้กินข้าวแล้ว ก็เลยไปซื้อของแล้วก็กลับเข้ามาที่เต้นท์กัน แล้ววันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ นอกจากถ่ายรูป เดินไปเรื่อยๆ แต่ยังเดินไปไม่ถึง Signature ของเค้า ไม่เป็นไร มีเวลา เย็นนี้กินหมูกะทะกิน พรุ่งนี้ไปเที่ยวข้างล่าง เหมารถกัน
ที่ปางอุ๋งนี่เค้ามีไฟฟ้านะ แต่จะไฟตามเสา ไปห้องน้ำ ไปร้านค้าในอุทยานเอา เพราะงั้นระหว่างเต้นท์ในเต้นท์เราก็จะไม่มีไฟ มืดๆกันนั่นแหละ แต่หาใช้อุปสรรคแห่งการกินหมูกระทะไม่ ใต้ความมืดนั่นแหบะ ไฟฉาย เทียนอะไรมีมาจุดกินให้หมด หมูกระทะในอุทยานขายชุดละ 300 บาท หมูเพิ่มถุงละ 80 บาท ผักเต็มเลย 55555 หลังจากกินหมูกระทะ(ไม่อิ่ม)เสร็จก็จะไปต่อมาม่ากัน มาม่า 5 ห่อ ไข่ 5-7 ฟองเนี่ยจำไม่ได้ เลยกลายเป็นกินไข่ตุ๋นมาม่าแทน ท่ามกลางความมืดยังครอบงำเหมือนเดิม อากาศเริ่มเย็นลงๆ เพื่อนๆก็เริ่มออกหวัดกันแล้ว รวมๆแล้วก็อิ่มดี เวลาจะไปห้องน้ำ ไปอาบน้ำก็ผลัดกันไป เฝ้าเต้นท์ชุดนึง เพราะว่าคนเริ่มเยอะแล้ว เลยคิดได้ว่าที่นี่เหมือนเป้นที่นอนเฉยๆ และมันก็จริงย่างงั้น ส่วนใหญ่ที่มานอนจะเป็นขาจร คนก็เลยเปลี่ยนไปทุกวัน วันนี้คนมาเพิ่มเยอะละ แต่ยังไม่มาก เต้นท์ติดๆกันยังไม่มี หลังจากทำอะไรเรียบร้อยแล้วก็หมดไปแล้วนะวันแรก รำพัดเสร็จแล้วก็นอน 55555
นิดนึง ของทอดอ่ะ ปีกไก่ในอุทยาน 35 บาท น่องไก่ 25 บาท ไส้กรอก 10 บาท น้ำแข็งถุงละ 20 บาท ยังไงลองพิจารณากันนะ ว่ามากน้อยหนักเบา
9. วันนี้จะเป็นวันแห่งการเที่ยว บอกก่อนเลยว่าตื่นมาดูพระอาทิตย์ไม่ไหวกัน แต่ก็ยังพอได้เพราะตื่นขึ้นมาก่อนใครเค้าหน่อย รีบไปอาบน้ำ แล้วก็รอรถมารับ วันนี้เราเหมาเค้าทั้งวัน 1600 บาท ไม่รู้คุ้มไม่คุ้มเดี๋ยวดูกันอีกที
อาหารเช้า รองท้องของเราวันนี้คือ ขนมปังราดนมบีบๆ ถือว่าสวัสดิการงานนี้เตรียมตัวมาดีทั้งข้าวเช้า กลางวัน เย็นและดึก อร่อยดี มีส้มแจกด้วย เหมือนกับข้าวเด็กน้อยเลย 5555
9.1 รถมารับเราลงดอยแล้ว ที่แรกที่เราไปคือ หมู่บ้านรักไทย ห่างออกจากปางอุ๋งฝั่งนึง จริงๆก็ไม่รู้ว่าใกล้ไกลเท่าไหร่นะ แค่จำได้ว่าอยู่อีกฝั่งนึงของปางอุ๋งอ่ะ เมื่อมาถึงแล้ว โอ้โห อย่างแรกเลย แดดแรงมาก 555555 สวยสิ บรรยากาศเหมือนอยู่ในหนังอะไรซักอย่าง ทะเลสาบกับหมู่บ้านริมทะเลสาบน่ะ สวยดี มีไร่ชาให้ถ่ายด้วย ไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่ มีบ้านพักอยู่เยอะ เลยเป็นส่วนที่ถ่ายไม่ได้ ใช้เวลากับที่นี่ยาวเลยเพราะมุมนั้นก็ดี มุมนี้ก็น่าถ่าย
9.2 ที่ที่สอง น้ำตกผาเสื่อ จนถึงตอนนี้เริ่มไม่ค่อยไหว เพราะเวียนหัว ทางลงเขาเนอะ เข้าใจกันหน่อย น้ำตกผาเสื่อมีพื้นที่เข้าไม่มาก เป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ถ้าฤดูน้ำหลากก็คงจะมีน้ำเยอะกว่านี้ น่าจะสวยอยู่ ตอนนี้ก็สวยนะ เสียค่าเข้าตรงนี้ 20 บาทต่อคน แล้วก็เก็บตั๋วไปเข้า ถ้ำปลา ที่เที่ยวต่อไปได้
9.3 อย่างที่บอกว่าเก็บตั๋ว 20 บาท เมื่อกี้มาต่อกันที่ ถ้ำปลา ได้ ก่อนจะไปต่อก็ต้องเติมพลังงานให้ร่างก่อน เที่ยงกว่าๆแล้วก็พักกินข้าว ร้านอาหารหน้าถ้ำปลาขายของคล้ายๆกัน ข้าวตามสั่ง คอหมูย่าง ส้มตำ ราคาต่างกันเล็กน้อย เดินเข้ามาก็อาจจะราคาถูกขึ้น แต่แล้วแต่รายการอาหารด้วยแหละ สั่งกะเพราะ น้ำตก ส้มตำ กินด้วยกัน เผ็ดมาก ไม่มีอะไรมายับยั้งความเผ็ดได้ แดดแรงๆนี่ก็เหงื่อไหลกันต่อเลย 55555
ในส่วนของถ้ำปลา เป็นที่อยู่ของ ปลาพลวง คล้ายปลาคาร์ฟ ตัวใหญ่เป็นบ้าเลย แต่ปลาที่นี่กินผักกินผลไม้แหะ น่าสนใจ ลุงที่เป็นไกด์นำบอกว่า ปลาที่นี่ถึงหุ่นดี สุขภาพดี ก็เล่นกินแต่��ักแต่ผลไม้อ่ะนะ ปลาเยอะมาก ตัวใหญ่ๆทั้งนั้นด้วย รู้สึกประทับใจเพราะมันเย็นๆ ปลาเยอะด้วย แปลกด้วย กินผลไม้งี้ ทริคในส่วนนี้ ทางกลับออกมาจากถ้ำปลาจะร่มกว่า สามารถเดินเป็น ขาไป ทางนั้นได้เพราะมันเดินเป็นวงกลมนะ
9.4 สะพานซูตองเป้ เป็นวัด เนอะ ที่มีสะพานข้ามฝากผ่านทุ่งข้าว(ขนาดกว้างขวาง) ทุ่งทานตะวัน(ขนาดเล็ก) เห็นจากในรูปถ่ายว่าถ้ามีน้ำหลากมาก็จะได้ความสวยไปอีกแบบ สะพานไม้ไผ่สาน ทางยาวพอสมควร ไม่มีร่มเงากันแดด มาเจอแดดจ้าที่เปรี้ยงปร้างตลอดทางยาว มีมุมให้ถ่ายรูปกับความ Landscape ได้เยอะพอตัว ถ้าทนได้ได้ก็ไล่ถ่ายไป จะได้รูปเยอะมากอยู่นะ
อ้อ ถ้าไม่ได้เอาร่มมา มีให้เช่าคันละ 10 บาท ร่มเล็กๆสีสันฉูดฉาด เอาไปตัดกับสีเขียวก็ไม่เลวนะ
9.5 หมู่บ้านกะเหรื่ยงคอยาว เอาตรงๆ ดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เงียบๆ เดี๋ยวนี้เค้าก็ไม่ค่อยใส่ห่วงคอกันแล้ว ขายของแต่ละร้านเหมือนกันเลย ราคาเท่าๆกันหมดด้วย ใช้เวลาไม่นาน
ที่ชอบคือการเดินทางไป ระหว่างทางจะต้องผ่านฝายน้ำล้นอยู่ตลอดทาง รู้สึกต้องผ่านธรรมชาติอยู่บ่อยๆ มันแปลกๆดี ไม่ได้สวยอะไรมากหรอกแต่ เออ รู้สึกดี เป็นการส่วนตัว 55555
9.6 วัดพระธาต��ดอยกองมู ให้เป็นวัดที่เหนือสุดในจังหวัดละกัน เพราะเห็นวิวในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเลย สวยดี ขึ้นมาแล้วรู้สึกสงบ เป็นวัดเงียบๆ เหมือนเป็นจุดชมวิวแหละ ถ่ายรูปได้สวยดี แต่แสงใกล้จะหมดแล้วสำหรับตรงนี้ แนะนำว่าขึ้นมาแล้วไหว้เพราะวนก่อนแล้วค่อยถ่ายรูป เพราะมุมถ่ายรูปเยอะอยู่เหมือนกันพุดเดิ้ลข้างบนนี้ ขอเรียกว่าพุดเดิ้ลภูเขา ตัวอวบอ้วนและมีหลายตัวทีเดียว 55555
มาเวลานี้โชคดี จำไม่ได้ว่ากี่โมงนะ(อ้าว!!!) ได้เห็นเครื่องบินขึ้นด้วย ก็เลยรู้สึกว่าคนเยอะเป็นพิเศษ มารอดูเครื่องบินขึ้น เด็กๆอ่ะเนอะชอบ สำหรับพวกเราก็เป็นจังหวะโอกาสที่ดี ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆเหมือนกัน โชคดีอยู่นะทริปนี้
แสงหมดแล้ว จะกลับขึ้นปางอุ๋งกันแล้ว นี่ให้คนขับแวะเซเว่นด้วย เพราะจะกินมาม่า กินโอวัลตตินกันคืนนี้ ตั้งใจจะไม่นอน เหตุผลว่า พรุ่งนี้กลับกรุงเทพฯจะได้หลับไปเลยยาวๆ ไม่อยากมาผจญโค้งกัน เสริหน่อยขากลับคนขับรถต้องแวะรับเด็กๆจากโรงเรียนในเมืองไปส่งตามหมู่บ้านต่างๆด้วย ทำให้เหมือนกับเป็นการแวะระหว่างหมู่บ้านต่างๆตามเขา ซึ่ง มืดมาก ไม่มีแสง ไม่มีไฟนำทางอะไรทั้งนั้น และแน่นอน ทางขึ้นปางอุ๋งก็เช่นกัน ถึงจุดนี้ 1600 ที่เราเหมารถเค้ามา คุ้มแล้ว คุ้มมากๆแล้ว
กลับมาถึง คืนนี้เรามีนัดกับมาม่าใช่มะ ด้วยความที่แสงหมดแล้ว วันนี้เลยตั้งใจไปกินกันที่สะพาน ซึ่ง วันนี้ฟ้าเปิดมากๆ วันนี้เลยถือว่าเป็นมาม่าใต้แสงดาว รู้สึกโรแมนติกมากเลย ลมเย็นๆ มาม่าอุ่นๆ ดาวสวย บรรยากาศดีๆแบบนี้ นี่ถ้ามีกีตาร์มาด้วยก็จบเลย /เล่นไม่เป็น
คืนนี้จบคืนด้วยการรำพัดในเกม โดเรม่อน ไปหาวิธีเล่นเอาเองนะ เล่นกันเพลินมาก ด้วยบทลงโทษเป็นการกินขนมที่เหล��อจากที่เอาไป ของกินก็เหลือเยอะมาก ในขณะที่ เวลาก็ดึกไปเรื่อยๆแล้ว จนถึงตอนตีสามกว่าๆ เต้นท์ข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า ‘ขอโทษนะคะ ช่วยลดเสียงหน่อยได้มั้ยคะ’ เท่านั้นแหละ เกมกร่อยและต้องเลิกเล่นไปโดยปริยาย กลายจากที่จะอดนอนเป็น เข้านอนจนตอนจะเช้านั่นเอง
10. วันนี้จะต้องกลับกรุงเทพฯแล้ว ตื่นมาวันนี้ไม่ทันพระอาทิตย์เหมือนเดิม 5555 รถรับส่งตามแกติจะมาตอน 11.15 โดยประมาณสำหรับรอบเช้า ก่อนจะลงไปก็ไล่ตระเวนถ่ายรูปกับ signature ของปางอุ๋งให้ครบ ก่อนที่จะลงไป ขาลงไม่รู้เพราะจากที่ไม่ได้นอนมารึเปล่า รู้สึกว่าเวียนหัวมาก อีกนิดจะไม่ไหว อีกนิดจะไม่รอดจริงๆ แต่ไงก็ลงมาถึงโดยสวัสดิภาพอ่ะนะ
ลงมากินข้าวร้านอาหารในเมือง(ที่ไม่ใช่ร้านก๊วยจั๊บนั้น) อร่อยดี เป็นร้านขายข้าวหมูแดงหมูกรอบ บะหมี่เกี๊ยวไรประมาณนี้ ราคาโอเค ไม่แรงไป ก่อนจะแวะเซเว่นเพื่อซื้อของตุนเล็กน้อยก่อนจะขึ้นรถตอน 15.00
ขึ้นรถมาแล้วพบว่า โค้งตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำอะไรเลยจ่ะ แล้วความง่วงมันหายไปไหนหมดไม่รู้ โอ๊ย ตายๆ คนขับรถรอบนี้ควรจะไปสมัครขับรถไฟเหาะแทน โอ้โห เหวี่ยงจนจะหลุดจากเก้าอี้อยู่แล้วอ่ะ ฮรืออออออ แต่ก็ขอบคุณที่เค้าพาเรามาถึงกรุงเทพฯอย่างเวียนหัวแบบสุดๆไปเลย
ท้ายที่สุดนี้ ขอบคุณชาวแม่ฮ่องสอนที่เป็นมิตรเหลือเกิน ราคาของต่างๆที่ตามจากรีวิวก็เป็นไปตามรีวิวนั้นจริงๆ พี่ยุ่ง ผู้เป็นทุกอย่างแล้วทางการขนส่งในแม่ฮ่องสอน ติดต่อพี่เค้านะ พี่เค้าใส่ใจเรามากๆจริงๆ
ท้ายที่สุดจริงๆ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปมากๆ ไม่มีพวกแกก็ไม่มีรูปเราเลย ไม่สิ ก็จะขาดความสนุกไปมาก เที่ยวคนเดียวก้ไม่ได้แบบนี้เหมือน���ันแหละ ไว้ถ้ามีโอกาส ไว้ไปด้วยกันอีกนะ :)
/ปิดทริป.
0 notes
Text
0601 x 2018
วันนี้ตื่นสายมาก ทั้งที่วันนี้ต้องทำงานหลายอย่าง แต่วันนี้ต้องเตรียมกระเป๋าด้วย พรุ่งนี้จะต้องไปปางอุ๋งแล้ว แต่ยังต้องไปตีแบตตอนเช้าอยู่ดี ก็คิดว่าน่าจะเหนื่อยๆหน่อยนะ
วันนี้เลือกดูหนังเลย ก็เป็นหนังเปิดปีละกัน เลือก Interstellar เลย ด้วยความที่ดูซาวน์แทร็กเวอร์ชั่นเปียโนเค้าไว้เยอะ วันนี้เลยถือโอกาสดูซะเลย รอบนี้นี่รู้สึกว่าดูแล้วมันโอเคจังเลย ชอบยังไงก็ชอบอย่างงั้นจริงๆเลย พอทีนี้ก็อยากดูใน IMAX แบบ Film 70mm อีกรอบเลย เพราะว่าอยากได้ความยิ่งใหญ่ของเสียงในโรงมากๆ หนังเรื่องนี้มันต้องดูในโรงนี้เท่านั้นเลยนะ แล้วดูไปซักพักเก็ทว่าจะเอาเรื่องนี้มาเป็น Cover สัปดาห์ฝึกงานแน่ๆ เดี๋ยวหาอีกที
จบ Interstellar ต่อด้วย Arrival หนังแห่งปี 2017 เลย ซ้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้แล้ว รอบนี้มันทำให้เราอึนมากเลย ไม่่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ได้รีวิวเรื่องนี้เป็นตอนยาวไว้มั้ยนะปีที่แล้ว ไม่น่านะ ซะหน่อย Arrival เป็นหนังเกี่ยวกับการมาเยือนของยานลึกลับต่างดาว ที่ทำยังไงก็ไม่เข้าใจมันได้ เลยต้องส่งนักภาษาศาสตร์เข้าไปคุย แล้วมันมีเรื่องจากนั้นอีกเยอะ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกจริงๆที่ติดต่อแบบนี้ หนังสุดยอดมาก ทั้งประเด็นและบท เอาแค่ว่า 10 คะแนนแบบไม่คิดเลย ติดอันดับ 1 ใน 10 ทันที และก็กลายเป็นอันดับ 1 ของปีที่แล้วไปเลย กลับมาอ่านปีหน้าก็คงจะกลับมาดูอีกรอบ ชอบจริงๆ
บอกตรงๆว่าดู Arrival รอบนี้ หนักมาก หนักต่อใจสุดยอดไปเลย หนังมันไม่เศร้าขนาดนั้นนะ เพื่อนก็พูดนะ ว่าเราเศร้าในเรื่องของเรา หนังมันมากระตุ้นเฉยๆ คงจะจริงว่าช่วงนี้มันหนักมากจริงๆ อย่างงี้ไม่ค่อยโอเคแล้ว ตอนนี้โหลด Soundtrack จะอยากดึงอารมณ์ไปแค่ไหนก็ไม่รู้
เป็นแบบนี้ต่อไปยังไงก็ไม่ดี...
0 notes
Text
0501 x 2018
การสอบครั้งแรกของปี 4 เทอม 2 ประเดิมด้วย ข้อสอบสองชุด 90 และ 130 ข้อ��ามลำดับ ข้อสอบไม่ยากมาก แต่ด้วยความที่มันเยอะ ก็ดูเหมือนว่ามันจะยากมากขึ้น ความที่ธรรมชาติเป็นคนที่ติ๊กไว้ก่อนแล้วค่อยมาฝนทีหลัง จนเวลาล่วงดลย คิดว่าไม่ได้ทำข้อสอบช้าเลย แต่ฝนไปฝนมา เหลือว่าทำข้อสอบอีก 15 นาที ยังฝนได้ไม่ถึงไหนเลย จริงเหรอเนี่ยยย แต่นั่นแหละ บริหารมือกันไปอ่ะนะ จบสำหรับ CLIN LAB PRAC II
เหมือนจะปิดเทอม ไม่ เปิดเทอมต่อ เอาจริงมันไม่ต้องมีปิดเทอมอะไรทั้งนั้นแหละ เรียนๆเนียนๆไป ปิดก็เหมือนเปิดอยู่ดีน่ะแหละ เริ่ม CLIN LAB PRAC III อย่างเป็นทางการด้วย Soft skill หัวข้อ วาทวิทยา จริงๆก็ไม่ใช่หัวข้อนี้หรอก 55 ชอบมาก เป็นการเรียนที่รู้สึกว่าโอเคมากๆ มันบอกอะไรหลาย ๆ อย่างมากจริงๆ การมองคนประเภทต่าง ๆ เออ ชัดมาก แต่นิดนึง เพื่อน ๆ ก็พูดชื่อดังไปนะ เรากลัวเค้าไม่โอเคเพราะถึงแม้เราจะเห็นด้วย แต่เราก็... อ่ะ มันมีประเด็นอยู่ เราก็ไม่อยากเพิ่มประเด็นการติดป้ายให้เค้าอีก ถึงจะรู้ว่ามันคือธรรมชาติของเค้าก็เหอะ
DICS การมองคนแบบต่างๆ ถ้าคนหนึ่งคนมีความสามารถในการดุลพวหนี้ได้ ก็จะเป็นคนที่โอเคเลยนะ ต้องแบ่งสัดส่วนให้ดีให้เหมาะสม มันจะโอเคมาก
อยากให้วิชาแบบนี้สอดแทรกอยู่กับช่วงชีวิตมหาลัยไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้มีแค่เทอมนี้ หรือแค่ก่อนจะออกไปที่ต่างๆ อ่ะโอเคมันคงเป็นการเพิ่มภาระให้หลักสูตรแต่ก็นะ ชอบอ่ะ จากใจ
เจอหน้าแล้วฝืนก็ทรมาน. ฟังเพลงยังดีไม่ขึ้นเลย.
ไงก็ฝากด้วยนะเพื่อน
จะฝึกงานแล้ว ตามทฤษฎีก็จะไม่ได้เจอเพื่อนไปอีกจนถึงเมษาเลย โหวงเลยเกิน ไม่เว่อร์นี่เรารู้สึก น่าจะคิดถึงเพื่อนมากเลย #ทีมเหงาๆ
วันนี้ได้เสื้อมา เอ่อ... ขนมด้วย เป็นเหมือนของขอบคุณที่จัดทำไฟล์เสียงให้ โอ้ ไม่ต้องขนาดนี้เลยก็ได้ แต่ก็ขอบคุณมากๆนะ ไม่คิดว่าจะมีคนทำให้ขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ
เสียเงินเรื่องเที่ยวแล้ว ทริปประหยัดรัดเข็มขัดสุดฤทธิ์ ไปปางอุ๋ง 8-10 มกรา ชาวปางอุ๋งเจอกัน 555555
0 notes
Text
0401 x 2018
12th TU-CU MT Seminar
การทำทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษก็จะทำให้หลายอย่างติดขัดไปได้ ถึงจะเป็นสากลแค่ไหนก็ตาม ในฐานะแขก ธรรมศาสตร์เค้าจัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ไม่มีติดจัดอะไร ยกเว้นว่า ซอย MB แคบมาก คนเยอะด้วย พรีเซ้นก็เลยว่าเสียงดังหน่อย ต้องเอียงตัวฟังอาจารย์เค้าด้วย
งานวิจัยของเราเป็นหนึ่งในไม่กี่งานของฝั่งจุฬาฯว่ามีผลการทดลอง เออนี่ภูมิใจนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้พูดเดี่ยวกับผลการทดลองเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าสนุกจังเลย แต่อาจจะไม่ได้มีโอกาสสนใจและสอบถามวิจัยคนอื่นเท่าไหร่ เสียดายอยู่เหมือนกัน
งานนี้ต้องอยู่กับคู่วิจัยตลอด จริงๆเค้าก็คงไม่ได้บังคับ เราตั้งใจเองแหละ พูดกันตรงๆ ไม่อยากให้ถ้าไม่มีวิจัยเราจะไม่สนิทกัน นี่เป็นคนเซ้นซิทีฟกับเรื่องแบบนี้มากเกินไป ตัวจริงต้องลดลงไปอีกมากๆนะ งานนี้ตัวติดกับคู่วิจัยจนเพื่อนในกลุ่มทักว่าทิ้งเพื่อนฝูงกันเลยทีเดียว เราไม่ได้ทิ้ง เราไม่ได้ทิ้งจริงๆ ก็ตามหาอยู่ทุกครั้งที่พักนั่นแหละนะ แล้วเพื่อนอ่ะ คุยกันได้แล้วรึเปล่าอ่ะ นานแล้วนะ มิตรภาพเรามันนานแค่ไหน ช่วยกันหน่อยสิ อย่าให้ต้องจบกันแบบนี้เลย
‘อย่าให้เราต้องจบแบบนี้เลย มันไม่โอเคหรอก...’
วันนี้ได้รู้แล้วว่าไม่ได้มีแค่ฝั่งเราหรอกที่ต้องวิเคราะห์การกระทำ คำพูดและความรู้สึก แต่พอได้รู้ความจริงก็พบว่า คำอธิบายและคำขอโทษไม่มีประโยชน์อะไรเลย เสียใจ แต่ก็เป็นคำตอบที่รู้ตัวเองอยู่แล้ว ทำใจไม่ค่อยได้เลย ไม่โอเค พอรู้ว่า การปิดกั้นมันง่ายเหลือเกินก็ทำให้กลัวว่า สิ่งที่เห็นมันจะหายไป ทำไงเมื่อความรู้สึกมันไม่ได้หายไปด้วยอ่ะ
ไม่อยากให้เรื่องของเราจบลงแบบนี้เลย ไม่อยากเลย.
0 notes
Text
0301 x 2018
ถ้าการอยู่บ้านแต่ไม่ได้ทำงานบ้าน และก็ไม่ได้อ่านหนังสือ ยังแถมๆว่าเสียเงินอีกหน่อย แต่คิดว่าไม่เป็นไร ติดว่าบางอย่างอาจจะทดแทนมันได้ ไม่มากก็น้อย
บางทีก็คิดว่า เรายังอยู่แบบนี้กันมันโอเครึเปล่า แต่นั่นแหละ... หรือจริงๆแล้วเราเป็นคนไม่มั่นใจใน��ัวเองสูงกว่าทุกอย่าง เราไม่เคยตัดสินใจได้ กับสิ่งที่ควรตัดสินใจเลย แย่เนอะ กับการที่เป็นคนวนไปวนมาในความคิดของตัวเอง ระบบของตัวเอง หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็คงช่วยอะไรไม่ได้น่ะแหละ
.ถ้าการทำทุกอย่างมันทรมานก็คงต้องเลือกซักอย่าง
.แย่จังเลย
สุขสันต์วันเกิด.
0 notes
Text
0201 x 2018
คิดว่านอนตื่นสายแล้วจะนอนพอ ไม่เลยซักนิด วันนี้เป็นอีกวันที่เหมือนต้องไปเก็บตกความโล่งของถนนในเมืองหลวง ไปเดินซื้อของแทบจะทั้งวัน เวลาเดินเร็วจะตาย ใครจะมาหาว่าเวลาเยอะแยะ แปบเดียวก็ว่าต้องเคลียร์ข้าวของ แม่จะกลับบ้านแล้ว
ทุกครั้งที่เห็นว่าฝั่งนึงพยายาม ก็รู้สึกว่า โอเค จนเกินไปด้วยซ้ำบางที แต่เอาเถอะ สิ่งนี้มันสิ่งที่ควรได้น่ะนะ
ทำไมเวลาคนอย่างเราคิดอะไรแล้วเอาออกไปจากหัวไม่ได้ซะที คิดจม คิดวน ทั้งๆที่รู้ว่าสุดท้ายเราก็ไม่สามารถพูดอะไรกับใครได้เลย
ที่กลัวอยู่ทุกวันคือคนสนิทที่จะไม่สนิทเพราะความห่างกันไป ไม่ชอบเลยที่เราผูกความรู้สึกไปกับใครแล้ววันนึงปมมันจะคลายออก รู้สึกเท่าเดิมแต่ ความคิดมันไม่ถึงกันเหมื��นเดิม
อินเซปชั่นมีจริงมั้ย?
0 notes
Text
0101 x 2018
ปีใหม่ก็ใจร้ายกับเราแล้ว ตัวเราก็ไม่เคลียร์ คนรอบตัวก็ไม่เคลียร์ แถมได้ทางออกที่สุดโต่งออกมาอีก ยากจังเลย ปีนี้อย่าเพิ่งเริ่มกันแบบนี้สิ...
แต่ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของใครซักคนจะทำให้ปัจจุบันและอนาคตโอเครึเปล่า ไม่รู้เลยจริงๆ และก็กลัวมากว่าถ้าเกิดอะไรอีกครั้งในอนาคต ทุกอย่างก็คงจะเปลี่ยนไปเลย
‘อย่าเลย อย่าเจ็บเพื่อเข้าใจ’
นอกจากชีวิตของคนรอบข้างก็คงมีของตัวเอง ที่ก็ยังมีความพยายามที่จะทำอะไรกับสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร เหมือนเดิม ผลลัพธ์มันก็เหมือนเดิม พูดว่าเจ็บยังไม่เต็มปาก อย่างน้อย.. ปีใหม่ก็คงจะมีอะไรใหม่���บ้าง ...ไม่มี
ปีใหม่ได้เรียนรู้เทคนิคโฟโต้ช้อปเพิ่มอีกเยอะมากๆ ก็เพราะว่าจะตัดต่อเพื่อนกับโปสเตอร์ให้ได้เนียนๆ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะทำไม่ได้เลย แต่ก็รู้ว่า เออ พ่อเก่ง งานที่พ่อทำมันก็เหนือดี
ปีใหม่ไปถ่ายรูปกับหมี
ปีใหม่ไปถ่ายรูปกับต้นคริสต์มาส
ปีใหม่ไปถ่ายรูปพระเมรุมาศ
ปีใหม่ถ่ายรูปกับครอบครัว
ขอให้ปีนี้ใจดีกับเราหน่อยนะ.
0 notes
Text
New year’s resolution x 2018
ลดความอ้วน
สวดมนต์ก่อนนอน
เขียนไดอารี่ฝึกงานและอีเว้นท์สำคัญ
จัดระเบียบตัวเองให้ดีกว่านี้
จริงใจ พูดโกหกเท่าที่กรองหนักๆว่าจำเป็น
มีสติ คิดก่อนทำ ตรองก่อนพูด
พูดคำหยาบให้น้อยลง
เก็บเงิน จริงจังกับการลงทุนมากขึ้น
คิดมากน้อยลง
ทำชีวิตให้มีอิสระ
สร้างความสุขให้ตัวเอง และ คนอื่นมากๆ
ดูแลตัวเองและคนอื่นให้มากๆ
มีความสุขมากๆนะปีนี้ :)
0 notes
Photo
20TH CENTURY WOMEN
“But now it's 1979 and nothing means anything and I know you less everyday.”
HOUSE RCA
9.0/10
0 notes
Photo
DUNKIRK
“You can practically see it from here.”
IMAX FILM 70 MM
9.7/10
0 notes