Quote
Happiness does not depend on what happens outside of you but on what happens inside of you.
Harold B. Lee (via return-to-virtue)
“ความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกตัวคุณ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวคุณ.”
---ฮาโรล บี. ลี
136 notes
·
View notes
Photo
0 notes
Photo
0 notes
Photo
0 notes
Photo
0 notes
Photo
0 notes
Photo
0 notes
Photo
“...เรารู้ว่าท่านมีความกังวลใหญ่หลวง ต่อสมาชิกในวอร์ดและสเตคของท่าน อีกทั้งใช้เวลาและความพยายามมากเพื่อพวกเขา มีมากมายที่เราขอจากท่านผู้ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำ เราวางภาระมากมายไว้บนบ่าท่าน เราขอให้ท่านดำเนินโปรแกรมต่าง ๆ ของศาสนจักร สัมภาษณ์ และให้คำปรึกษาแก่สมาชิก ดูว่าได้จัดการการเงินของสเตคและวอร์ดอย่างถูกต้อง บริหารโครงการสวัสดิการ สร้างอาคาร และมีส่วนร่วมในกิจกรรมอีกมากมายที่ต้องใช้เวลามาก แม้ไม่สามารถละเลยและตัดกิจกรรมเหล่านี้ออกไปได้ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านสามารถทำ ให้แก่คนที่ท่านรับใช้ ในระยะหลัง เราได้แนะนำท่านครั้งแล้วครั้งเล่าว่า กิจกรรมบางอย่างให้ผลตอบแทนทางวิญญาณมากกว่ากิจกรรมอื่น
เมื่อต้นปี1970 ประธานฮาโรลด์ บี.ลี บอกตัวแทนเขตดังนี้ “เราเชื่อมั่นว่าสมาชิกของเราหิวโหยพระกิตติคุณบริสุทธิ์พร้อมด้วยความจริง และ ข้อคิดมากมายของพระกิตติคุณ…มีคนที่คล้ายกับจะลืมไปว่าอาวุธอันทรงอานุภาพมากที่สุด ซึ่งพระเจ้าประทานแก่เราเพื่อต้านสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง คือคำ ประกาศของพระองค์เอง หลักคำสอนอันเรียบง่ายชัดเจนเกี่ยวกับความรอด ตามที่พบในพระคัมภีร์” (ใน Regional Representatives’Seminar, 1 Oct. 1970,p. 6)
ในข่าวสารจากฝ่ายประธานประสูงสุด ปี1976 ประธาน [สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู.คิม- บัลล์]กล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าอย่างน้อยช่วงหนึ่งในชีวิต เราแต่ละคนต้องค้นพบพระคัมภีร์ด้วย ตัวเราเอง—และไม่เพียงค้นพบครั้งเดียวเท่านั้น แต่ค้นพบครั้งแล้วครั้งเล่า… “พระเจ้าทรงเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อพระองค์ประทานสิ่งเหล่านี้ให้เราเพราะ ‘คนที่ได้รับมาก จะต้องเรียกเอาจากคนนั้นมาก’ (ลูกา 12:48) การมีสิ่งเหล่านี้หมาย ถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านี้ เราต้องศึกษาพระคัมภีร์ตามพระบัญชาของพระเจ้า (ดู3 นีไฟ 23:1–5) และเราต้องให้พระคัมภีร์ปกครองชีวิตเรา” (Ensign, Sept. 1976, pp. 4–5)
ในเดือนเมษายน ปี1982 เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แม็คคองกี พูดกับตัวแทนเขตเกี่ยวกับ การให้พระคัมภีร์มีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการทำงานของเรา ท่านกล่าวว่า “เรา เกี่ยวข้องกับโปรแกรม สถิติและแนวโน้ม กับทรัพย์สิน ที่ดิน และเงินทอง กับการบรรลุเป้าหมายที่จะเน้นความเป็นเลิศในงานของเรามาก จนเรา ‘ละเลยกฎที่สำคัญกว่า’ …ไม่ว่าคนเราจะมีพรสวรรค์เพียงใดในเรื่องการบริหาร ไม่ว่าพวกเขาจะมีโวหารเพียงใดในการแสด���ความคิดเห็น ไม่ว่าพวกเขาจะรอบรู้เพียงใดในเรื่องทางโลก—พวกเขา จะไม่ได้ยินสุรเสียงกระซิบอันไพเราะของพระวิญญาณ ที่อาจจะเป็นของพวกเขาหาก พวกเขาไม่จ่ายราคาของการศึกษา ไตร่ตรอง และสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์” (ใน Regional Representatives’Seminar,2 Apr. 1982, pp. 1–2)
วันเดียวกันนั้น เอ็ลเดอร์บอยด์ เค. แพคเกอร์พูดกับประธานสเตคและตัวแทนเขต ดังนี้“อาคารและงบประมาณ รายงานและโปรแกรม ตลอดจนระเบียบปฏิบัติมีความสำคัญมาก แต่โดยตัวมันเองแล้วไม่ได้ให้การบำรุงเลี้ยงทางวิญญาณที่จำเป็น และจะไม่บรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่พระเจ้าทรงให้เราทำ…สิ่งที่ถูกต้��ง สิ่งที่ให้การบำรุงเลี้ยงทางวิญญาณอย่างแท้จริง มีศูนย์รวมอยู่ในพระคัมภีร์” (ในMeeting with Stake Presidents and Regional Representatives, 2 Apr. 1982,pp. 1–2)
ข้าพเจ้าเปล่งเสียงของข้าพเจ้า เพิ่มเข้ากับเสียงของพี่น้องชายที่เฉลียวฉลาด และได้รับ การดลใจเหล่านี้ และกล่าวกับท่านว่าสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ที่ท่านผู้นำฐานะปุโรหิตทั้งหลายทำได้คือ ใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์ ค้นคว้าพระคัมภีร์อย่างขยันหมั่นเพียร ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์ เรียนรู้หลักคำสอน เชี่ยวชาญหลักธรรมที่พบในนั้น มีความพยายามอีกไม่กี่เรื่องที่จะให้ผลตอบแทนแก่การเรียกของท่านมากกว่านี้ มีอีกไม่กี่วิธีที่จะให้การดลใจมากกว่านี้
ขณะที่ท่านรับใช้แต่อย่างเดียวไม่พอ แม้จะมีคุณค่าก็ตาม ท่านต้องใช้ความพยายามและกิจกรรมทั้งหมดของท่าน กระตุ้นให้สมาชิกของศาสนจักรศึกษาพระคัมภีร์อย่างมีความหมาย เรามักจะใช้ความพากเพียรอย่างมากขณะที่เราพยายามเพิ่มระดับความแข็งขันในสเตคของเรา เราทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์ผู้เข้าร่วมการประชุมศีลระลึก เราลงแรง เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์เยาวชนชายเป็นผู้สอนศาสนาสูงขึ้น เราพยายามปรับปรุง จำนวนผู้แต่งงานในพระวิหาร ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามอันน่ายกย่อง และสำคัญต่อการเติบโตของอาณาจักร แต่เมื่อสมาชิกแต่ละคนและครอบครัว ใฝ่ใจศึกษาพระคัมภีร์เป็นประจำและสม่ำเสมอ ความแข็งขันด้านอื่นทั้งหมดจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ประจักษ์พยานจะเพิ่มขึ้น ปณิธานจะแน่วแน่ขึ้น ครอบครัวจะเข้มแข็ง การเปิดเผยส่วนตัวจะหลั่งไหลมา”
--- (จาก “หนังสือคำสอนของประธานศาสนจักร เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน” บทที่ 8 “พลังแห่งพระวจนะ”)
0 notes
Photo
“...เมื่อวิสุทธิชนถูกข่มเหงและถูกขับไล่ออกจากนอวู โรเบิร์ตกับมาเรียรู้สึกได้รับพรมากที่ได้รับเอ็นดาวเม้นท์ในพระวิหารไม่นานก่อนที่พวกเขาจะข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปีและมุ่งไปทางตะวันตก แม้พวกเขาไม่มั่นใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่พวกเขามั่นใจในศรัทธาและประจักษ์พยานของพวกเขา
พร้อมกับลูกทั้งหกคน พวกเขาเดินลุยโคลนขณะข้ามไอโอวาระหว่างทางไปฝั่งตะวันตก พวกเขาสร้างที่พักข้างแม่น้ำมิสซูรีซึ่งกลายเป็นที่รู้จักกันว่าวินเทอร์ควอร์เตอร์ส
ผู้บุกเบิกผู้กล้าหาญเหล่านี้กำลังรอการนำของอัครสาวกว่าพวกเขาจะเดินทางไปทางตะวันตกได้อย่างไรและไปเมื่อไหร่ แผนของทุกคนเปลี่ยนเมื่อบริคัม ยังก์ ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองประกาศเรียกบรรดาชายที่จะอาสาสมัครรับใช้ในกองทัพสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักกันว่า กองทหารมอรมอน
โรเบิร์ต แฮร์ริส จูเนียร์เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกชายชาวมอรมอนกว่า 500 คนที่ตอบรับการเรียกจากบริคัม ยังก์ เขาสมัครเข้าเป็นทหาร แม้เขาจะต้องทิ้งภรรยาที่กำลังท้องและลูกเล็กอีกหกคนของเขาไป
เพราะเหตุใดเขาและชายคนอื่นๆ ถึงทำสิ่งเช่นนั้นได้
คำตอบมีอยู่ในถ้อยคำของคุณปู่ทวดของข้าพเจ้า ในจดหมายที่เขาเขียนถึงภรรยาเมื่อกองทหารกำลังเดินทางไปยังเมืองแซนตาเฟ เขาเขียนว่า “ศรัทธาของผมเข้มแข็งกว่าที่เคยเป็น [เมื่อนึกถึงสิ่งที่บริคัม ยังก์บอกเรา] ผมเชื่อสิ่งนั้นราวกับว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ตรัสกับผมเอง”
สรุปแล้ว เขารู้ว่าเขากำลังฟังศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า เช่นเดียวกับชายอื่นๆ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนั้น! พวกเขารู้ว่าศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้านำพวกเขาอยู่
ในจดหมายเดียวกัน เขาแสดงความรู้สึกรักใคร่ต่อภรรยาและลูกๆ และพูดถึงคำสวด��้อนวอนประจำของเขาว่าเธอกับลูกๆ จะได้รับพร...” ---( William R. Walker)
https://www.lds.org/general-conference/2014/04/live-true-to-the-faith?lang=tha
0 notes
Photo
“...ไม่ช้าก็เร็ว ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราทุกคนต้องประสบช่วงเวลาที่ผืนโลกของเราขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี ทิ้งให้เราเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย คับข้องใจ และเคว้งคว้าง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีใครรอดพ้น...”
“... ขอให้เรา “มีชีวิตอยู่ด้วยการน้อมขอบพระทัยทุกวัน”18—โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะเป็นจุดจบซึ่งอธิบายไม่ได้อันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมรรตัย ขอให้เรายอมให้จิตวิญญาณของเราขยายในความขอบพระทัยพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ขอให้เราเปล่งเสียงแสดงออกด้วยคำพูดและการกระทำถึงความสำนึกคุณที่เรามีต่อพระบิดาในสวรรค์และพระบุตรที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนเพื่อสิ่งนี้ ขอฝากประจักษ์พยานและพรของข้าพเจ้าในพระนามของพระอาจารย์ของเรา พระเยซูคริสต์ เอเมน “ --- (Dieter F. Uchtdorf )
https://www.lds.org/general-conference/2014/04/grateful-in-any-circumstances?lang=tha
0 notes
Photo
https://www.lds.org/general-conference/2015/04/the-family-is-of-god?lang=tha
0 notes
Photo
https://www.lds.org/scriptures/nt/luke/6.37?lang=eng#35
0 notes
Photo
https://www.lds.org/manual/teachings-of-presidents-of-the-church-ezra-taft-benson/chapter-13-priceless-blessings-of-the-house-of-the-lord?lang=eng
0 notes
Photo
https://www.lds.org/general-conference/2015/04/the-plan-of-happiness?lang=tha
https://www.lds.org/general-conference/2015/04/the-plan-of-happiness?lang=eng
0 notes
Photo
https://www.lds.org/scriptures/dc-testament/dc/98.16?lang=tha
0 notes