Text
[02] บันทึกการอ่าน : โอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน
หายไปนานจากดินแดน Tumblr !!! เข้ามาเขียนครั้งแรกคืนวันที่ 1 มกราคม 2568 และก็หายหัวไปเลย 55555 แต่วันนี้กลับมาแล้วนะจ๊ะ อิอิ
กลับมาพร้อมกับความอิ่มอดอิ่มใจที่ได้อ่านหนังสือโอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝานเป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่แถมมาจากหนังสือวิถีแห่งเต๋าของสำนักพิมพ์ Openbooks เป็นหนังสือที่ส่วนตัวนิยามว่าเป็นหนังสือ ธรรมะผสาน How to ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ และอิ่มใจไปพร้อมกัน
จริง ๆ ข้อความพวกนี้ด้วยความอดรนทนไม่ได้ ก็เข้าลงในช่อง Comment ใน Facebook ส่วนตัวไปแล้ว แต่ด้วยที่รู้สึกว่า "เฮ้ย... เรามี Tumblr ที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเป็นสมุดบันทึก เป็นบ้านพักตากอากาศที่มีไว้เขียนบันทึกเรียบง่ายและสบาย ๆ ในพื้นที่สงบ ๆ ก็เลยขออนุญาตนำข้อความนั้นมาเขียนลงในนี้ด้วยเลย
... ธรรมดานิมิตหรือลางสังหรณ์นั้น มักจะเกิดทางใจ แล้วปรากฏให้เห็นทางอิริยาบถ บุคลิกลักษณะจึงเปรียบประดุจกระจกเงา ฉายให้เห็นบุญวาสนาหรือเคราะห์กรรมที่บุคคลนั้น ๆ จะต้องได้รับในอนาคต บุถุชนมักมองไม่เห็นบุคลิกลักษณะอันน่าศึกษานี้ กลับเห็นว่าเป็นการคาดคะแนที่ไม่แน่นอน ...
อ่านถ้อยความนี้ในหนังสือโอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝานแล้วชอบมาก ๆ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคำสอนเรื่อง "อินทรียสังวร" ได้อย่างชัดเจน เหมือนดังคำของมหาตมะ คานธีที่กล่าวโดยสรุปว่า "จงระวังความคิด เพราะท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นชะตากรรมของตัวเรา"
คราวนี้มาดูว่าอะไรที่ทำให้เราชอบกับข้อความนี้ของท่านเหลี่ยวฝานจนต้องนำมาบันทึกเอาไว้... หากพิจารณาในชีวิตของเรานี้ มันมีห้วงความคิด นิมิต และภาพฝันต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในหัวและในใจของเราตลอดทั้งวัน และบ่อยครั้งที่เราไม่ทันระแวดระวังปล่อยให้ห้วงคิดและจินตนาการเหล่านั้นนำพาชีวิตของเราก้าวไปข้างหน้า
หากโชคดี (เพราะสร้างเหตุในด้านดีงาม ในกุศลเอาไว้มาก) ห้วงคิดและจินตภาพเหล่านั้นก็นำพาเราไปในทิศทางที่ดี แต่ถ้าโชคร้าย (เพราะเสพคุ้นกับเหตุเชิงลบ ๆ อารมณ์/ความรู้สึกเชิงลบ ข้อมูลข่าวสาร หรือเรื่องราวลบ ๆ ร้าย ๆ เอาไว้มาก) ห้วงคิดและจินตภาพเหล่านั้นก็นำพาเราไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม
ดังนั้นเราจึงถูก "ชีวิตใช้" ไม่ได้เป็น "ผู้ใช้ชีวิต" อย่างมี "อิสรภาพ" อย่างที่ควรจะเป็น
อินทรียสังวร คำสอนของท่านเหลี่ยวฝาน หรือคำกล่าวของคานธี คือเครื่องเตือนใจอันสำคัญให้เรากลับมาทบทวน ใคร่ครวญ และตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เราตั้งใจจะเป็นใคร" และ "เราจะเลือกเดินทางบนเส้นทางแบบไหนในชีวิต" เมื่อเราตระหนัก ยอมรับ และเลือกเส้นทางตามความปรารถนาจากเบื้องลึกของจิตใจแล้วเลือกเดินบนเส้นทางนั้นแล้ว เราจะเริ่มมีวิถีปรับความประพฤติและการปฏิบัติที่ถูกต้อง และเมื่อมีห้วงนิมิตที่ถูกต้อง วาจาก็ย่อมถูกปรับเปลี่ยนเข้าสู่ทางที่ถูกต้อง และพฤติกรรมก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัยเหล่านั้น จนท้ายที่สุดสิ่งที่ท่านคานธีเรียกว่า "ชะตากรรม" ย่อมเปลี่ยนแปลงไป
คราวนี้เราจึงชัดเจนขึ้นว่า "ชะตากรรม" ไม่ใช่เรื่องของ "ฟ้าดินกำหนด" เพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อเราเข้าสู่โหมดของการ "เป็นผู้ใช้ชีวิต" คำว่า "ชะตากรรม" นั้น อาจถูกเรียกด้วยชื่อใหม่ว่า "วิถีชีวิต" หรือ "กรรมลิขิต" ก็ได้
ขอนอบน้อมแด่พระพุทธองค์ ท่านเหลี่ยวฝาน ท่านคานธี และครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่าน
ที่มาของบทความ : https://www.facebook.com/photo/?fbid=1007400841414242&set=a.530914449062886
0 notes
Text
[01] THE FIRST POST ON TUMBLR
Bellooo, Tumblr !!!
ฉันตั้งใจสร้างพื้นที่นี้ขึ้นเพื่อที่จะหลบหนีจากโลก Facebook อันนี้วุ่นวาย เปรียบเสมือนออกมาซื้อบ้านตามต่างจังหวัดเก็บไว้เป็นที่พักพิงแห่งที่สอง เพราะคิดว่าบางครั้ง... เราเองก็มีเรื่องราวในใจบางอย่างที่อยาก Post ออกไปจากใจโดยตรงแบบที่ไม่ต้องคิด เรียบเรียงหรือกลั่นกรองอะไรมากมาย จริงไม่ใช่ใน Facebook ทำไม่ได้หรอก แต่ทำแล้วมันลงเป็นที่ไม่ค่อยโอเคเลยพยายามหาที่ใหม่
แต่พอสร้างขึ้นมาแล้วก็มานั่งคิดทบทวนดูอีกที... คำว่า "Social Media" นี่มันก็คงไม่มีคำว่าเป็น "ส่วนตัว" จริง ๆ หรอกนะ !!! แต่ทำอย่างไรได้หละเมื่อสร้างมันขึ้นแล้ว 55555
ก็เคยคิดว่าคงได้ใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ในการบันทึกเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ความคิดเพี้ยนและการซุกซนบางอย่างไปก็แล้วกันนะ ถือว่ามีอีกหนึ่งที่ที่ได้พักผ่อนไปในตัว และก็ดูสิ่งแวดล้อมใน TUMBLR เน้นลงงานศิลป์ด้วย อยู่ ๆ ไปอาจได้แรงบันดาลใจอะไรดี ๆ บ้างแน่เลย อิอิ
ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะแล้วเจอกัน Seeya
1 note
·
View note