Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
วิเคราะห์หงส์แดง เกมบุกพ่าย ไบรท์ตัน หมดอนาคต เอฟเอ คัพ

วิเคราะห์หงส์แดง ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่ชาวเยอรมัน ที่บุกไปพ่ายแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้พวกเขาต้องตกรอบ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2022-23 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในเกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟอร์มดร็อปลงน่าใจหาย งานนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรีบหาจุดเปลี่ยนเป็นการด่วน เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแม้กระทั่งท็อปโฟร์ วิเคราะห์หงส์แดง วันนี้ทีมงานจะพาทุกๆท่านไปติดตามอะไร เราไปชมพร้อมๆกันเลย
ตัวจริง
อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6
พยายามพุ่งไปปัดบอลที่แฉลบ ลูอิส ดังค์ แต่ไม่ทันจริงๆ ช่วยเซฟจังหวะสำคัญของ โซลลี่ มาร์ช ช่วงต้นครึ่งหลัง รวมทั้งจังหวะเซฟระยะเผาขนจากการชาร์จของ อีวาน เฟอร์กูสัน ส่วนประตูชัยของ ไบรท์ตัน จากการยิง คาโอรุ มิโตมะ หมดปัญญาเซฟจริงๆ
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 6
ไม่สามารถรับมือกับความยอดเยี่ยมของ มิโตมะ แต่ช่วยเคลียร์จากเส้นประตูจากการยิงของ อีวาน เฟอร์กูสัน เปิดบอลริมให้ให้ กัคโป ได้ดี พยายามขึ้นไปเล่นเกมรุก แต่ขาดประสิทธิภาพไปเยอะ
โจ โกเมซ : 6
มีความกระตือรือร้นในการเล่น แต่ยังขาดความแน่นอน จังหวะเสียประตูที่สองโดน มิโตมะ กระดกบอลหลอกจนเสียฟอร์ม
อิบราฮิม่า โกนาเต้ : 7
พัฒนาผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง คิดเร็วแก้ปัญหาเร็ว มีความว่องไวในการเข้าเสียบสกัด ยิ่งเล่นยิ่งแข็งแกร่ง
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 5
วิ่งเติมเกมรุกได้ดีพอสมควรในช่วงครึ่งแรก แต่จังหวะการเปิดบอลจากริมเส้นขาดความแม่นยำ แถมการเติมเกมบุกทำให้เปิดพื้นที่ฝั่งซ้ายมากเกินไป
ติอาโก้ อัลกันตาร่า : 6
มีโอกาสได้ครองบอลเยอะเพื่อที่จะเซตเกมรุกให้ทีม คอยคุมจังหวะการเล่น แต่บางครั้งก็จ่ายบอลสะเปะสะปะ
สเตฟาน บายเซติช : 6
มีจังหวะเข้าบอลหนักจนพลาดโดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม แต่ช่วย���ำลายเกมบุกของ ไบรท์ตัน โดยเฉพาะจังหวะเสียบสกัดสุดสำคัญใส่ มิโตมะ กับ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิ่งเล่นยิ่งพัฒนาและน่าจะเป็นอนาคตของทีม
นาบี เกอิต้า : 6
วิ่งและผ่านบอลได้ดีในช่วงต้นเกมช่วยสร้างโอกาสให้กับ ซาลาห์ มีส่วนสำคัญในการสร้างเกมจนนำไปสู่จังหวะที่ เอลเลียตต์ ซัดประตูขึ้นนำ พยายามช่วยสร้างสรรค์เกมรุกแต่ยังขาดความแน่นอน
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 5
ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานอีกเกม มีโอกาสเข้าไปสร้างความปั่นป่วนเกมรับ ไบรท์ตัน แต่จังหวะจบสกอร์ไม่เฉียบคม ค่อนข้างขาดความมั่นใจเวลาที่ต้องลากบอลดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ : 7
เล่นไม่ค่อยออกในช่วงต้นเกม โดน ทาริค แลมพ์ตีย์ จัดการอยู่หมัด แต่ฉวยโอกาสทำประตูได้ดีจากจังหวะผ่านบอลของ ซาลาห์ และเกือบทำได้อีกครั้งหลังได้บอลจาก กัคโป แต่ดันจับบอลไม่ดีก็เลยอดยิงอย่างน่าเสียดาย
โคดี้ กัคโป : 7
เกือบแอสซิสต์ให้ ซาลาห์ แต่โดน แลมพ์ตีย์ สกัดได้หวุดหวิด ผ่านบอลให้ เอลเลียตต์ ได้หลุดเดี่ยวแต่ดันจับบอลไม่ดี สวมบทบาทฟอลส์ ไนน์ ได้ดี สร้างความปั่นป่วนให้เกมรับ ไบรท์ตัน ได้ตลอด ยิ่งเล่นยิ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
เจมส์ มิลเนอร์ (แทน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น. 59) : 6
ครองบอลได้ดีเยี่ยม คุมเกมทางฝั่งขวาได้มีประสิทธิภาพ ประสบการณ์โชกโชนช่วยให้ทีมได้ประตู รวมทั้งช่วยสร้างความแตกต่างในเกมรุก
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แทน นาบี เกอิต้า น.59) : 6
ทำผลงานได้ดีกว่าในเกมลีกที่แพ้ ไบรท์ตัน เมื่อกลางเดือนม.ค. เล่นด้วยพลังและความมุ่งมั่น แต่ขาดประสิทธิภาพ
ดาร์วิน นูนเญซ (แทน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น. 59) : 5
ลงมาเพื่อช่วยเติมเต็มความดุดันทางฝั่งซ้าย ความเร็วยังคงอันตรายแต่ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับทีมมากนัก
เคอร์ต���ส โจนส์ (แทน ติอาโก้ อัลคันตาร่า น. 79) : 4
ลงมาไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีบทบาทในการช่วยทีมเลย
ฟาบินโญ่ (แทน สเตฟาน บายเซติช น. 84) : ไม่มีคะแนน
มีเวลาให้แสดงผลงานไม่มากพอv
0 notes
Text
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ชนะไม่เป็น 3 ข้อหลัง หงส์แดง พ่าย ไบรท์ตัน เอฟเอ คัพ

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล โชว์ผลงานได้ย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน ไปด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้ หงส์แดง ต้องตกรอบในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวันนี้ ทีมงานจะพาทุกท่านไปติดตาม 3 ประเด็นสำคัญในเกมนี้ ว่ามีอะไรน่าติดตามบ้าง เราไปชมพร้อมๆกันเลย
– ไบรท์ตัน เอาจริงตั้งใจดร็อป ไกเซโด้ ตัวความหวังทีม
เด แซร์บี้ เดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการดร็อป มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางตัวกลั่นออกจากทีมในเกมสำคัญรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล เพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมไม่ต้องการขายเขาหลังเจ้าตัวโพสต์ขอย้ายสังกัดไปค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล
รวมทั้งสิ้นเกมนี้ นกนางนวล ปรับทัพสี่รายโดยส่ง เจสัน สตีล เฝ้าเสา พร้อมทั้งใช้งาน ทาริก ลัมพ์ตีย์ , อดัม เว็บสเตอร์ และ อีแวน เฟอร์กูสัน ลงเล่นเป็น 11 คนแรก
– เอลเลียตต์ สตาร์มแจ่ม กระทุ้ง 1 ประตู
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ด้วยอารมณ์กระหายถอนแค้นที่จุกอยู่เต็มอก ลิเวอร์พูล จึงเปิดฉากเดินเกมรุกใส่ ไบรท์ตัน ได้อย่างน่าดูชม และประสบผลสำเร็จยิงประตูนำก่อนได้ในนาทีที่ 30 จากฝีเท้าของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
ด้วยเหตนี้ สตาร์วัย 19 ปีจึงเป็นดาวรุ่งที่ยิงประตูได้มากที่สุดสำหรับสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 5 ประตูแล้วโดยดาวรุ่งคนล่าสุดของ หงส์แดง ที่ยิงประตูในหนึ่งซีซั่นได้มากกว่าคือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งกระทุ้งไปทั้งหมด 10 ประตูในซีซั่น 2013/14
ถึงอย่างนั้น แม้จะโดน ลิเวอร์พูล บุกมานำก่อน แต่ ไบรท์ตัน หาได้อกสั่นขวัญแขวนไม่ และอาศัยความมั่นใจจากที่เอาชนะ เร้ด แมชีน ในเกมล่าสุดเดินหน้าเต็มตัวกระทั่งทวงคืนได้สำเร็จก่อนจบ 45 นาทีแรก
แน่นอนว่าช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตได้ดีกว่ากระทั่งได้สกอร์นำ แต่จากนั้น ไบรท์ตัน ตอบโต้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดหลังจบครึ่ง
แรกทีมเจ้าบ้านพลิกกลับมามีเปอร์เซนต์การครองบอลที่เหนือกว่า 54:46% และไล่จี้ทีมเยือนได้ดีขึ้นในจังหวะสับไกรวม 6 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้ยิง 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง
– คล็อปป์ เริ่มแก้เกมไม่เห็นผล
จากที่เคยช่ำชองในด้านการพลิกสถานการณ์ให้ทีม จะเห็นได้ว่าระยะหลัง คล็อปป์ เริ่มหมดมุกในการแก้ลำฝ่ายตรงข้ามไปซะแล้ว
หลังจากการฟาดแข้งผ่านมาถึงนาทีที่ 60 กุนซือชาวเมืองเบียร์ปรับหมากด้วยการเปลี่ยนสามตัวสำรองลงเล่นพร้อมกันหมายให้ เครื่องจักรสีแดง กระทุ้งประตูเพิ่มให้ได้
อย่างไรก็ดี ยอดโค้ชจากแดนไส้กรอกไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ให้ ลิเวอร์พูล ได้เนื่องจากสถิติในครึ่งหลังบ่งชี้ว่าเจ้าบ้านมีผลงานที่ดีกว่า และในที่สุดเมื่อเกมล่วงเข้าสู่ช่วงทดเวลา คาโอรุ มิโตมะ ก็โชว์ลีลาเหนือชั้นยิงประตูชัยให้ นกนางนวล ได้สำเร็จพาทีมย้ำแค้น เร้ด แมชีน ได้อย่างยิ่งใหญ่
หลังจบ 90 นาที ไบรท์ตัน ครองบอลได้เหนือกว่า 56:44% และได้ส่องยิงรวม 13 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ยิงรวม 8 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เด แซร์บี้ แสดงให้เห็นว่า ไบรท์ตัน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งหลังดร็อป ไกเซโด้ พ้นไปจากทีมในเกมนี้ แต่ยังเอาชนะ เร้ด แมชีน ได้เป็นคำรบสองติดๆกันซึ่งทำให้การเผชิญหน้ากันของสองทีมในซีซั่นนี้รวมสามนัด ลิเวอร์พูล ยังสะกดคำว่าชนะไม่ได้เลย และโดนสอยตาข่ายรวมกันมากถึง 8 ประตูโดยเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่ แอนฟิลด์ นกนางนวล สามารถบุกไปแชร์แต้มได้จากผลเสมอ 3-3 ซึ่ง เลอันโดร ทรอสซาร์ สร้างชื่อซัดแฮททริคได้อย่างยิ่งใหญ่
0 notes
Text
วิเคราะห์บอล เปิดชื่อ 3 แข้งมีโอกาสโยกซบ ปืนใหญ่ ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก

ฟุตบอลประจำฤดูกาล 2022-23 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าจดจำเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะยังแข่งขันไม่เสร็จก็ตาม วิเคราะห์บอล วันนี้ จะพาทุกท่านไปติดตาม และ วิเคราะห์บอล ทีมของ อาร์เซนอล ที่จำเป็นต้องเสริมทัพให้ได้ เพื่อลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ ซึ่งจะมีใครที่น่าติดตามรับชมบ้าง เราไปชมพร้อมๆกันเลย
– มอยเซส ไกเซโด้
อาร์เซน่อล เพิ่งจะสอยตัว เลอันโดร ทรอสซาร์ ปีกจอมพลิ้วทีมชาติเบลเยียม มาจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อช่วงไม่กี่วันนี้ และพวกเขายังคงไม่หยุดที่จะคว้าตัวนักเตะจากทัพ เดอะ ซีกัลล์ส โดยงานนี้เป้าหมายต่อไปก็คือ มอยเซส ไกเซโด้
มิดฟิลด์ชาวเอกวาดอร์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ไบรท์ตัน มาตลอดช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา และได้รับการจับตามองจาก ปืนใหญ่ มานานแล้ว อย่างไรก็ตามการจะดึง แข้งวัย 21 ปีมาร่วมทัพในช่วงเดือนนี้อาจจะยากหน่อย เนื่องจากต้นสังกัดของนักเตะต้องการค่าตัว 70 ล้านปอนด์ (ราว 2,940 ล้านบาท)
ยิ่งไปกว่านั้น เชลซี ก็หมายตาอยากได้ ไกเซโด้ มาเสริมแกร่งด้วยเช่นกัน และหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการปาดหน้าแย่งนักเตะจาก อาร์เซน่อล เหมือนที่พวกเขาเพิ่งจะสอย มิไคโล มูดริก ปีกฟอร์มแรงจากชัคตาร์ โดเน็ทส์ค ซึ่ง เดอะ กันเนอร์ส เล็งมานาน เมื่อเร็วๆ นี้
– เดแคลน ไรซ์
ต้องบอกเลยว่านักเตะ���นฝันสำหรับ อาร์เซน่อล ในแผงกองกลางคงหนีไม่พ้น เดแคลน ไรซ์ เพราะนี่คือผู้เล่นที่อยู่ในแผนการสร้างทีมของ อาร์เตต้า และหากได้ตัวมาร่วมทัพ โอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จย่อมมีสูงยิ่งขึ้น
นายใหญ่เลือดกระทิงดุ ล็อกเป้าชื่อ สตาร์ทีมชาติอังกฤษ เอาไว้แล้วว่าจะต้องเอามาร่วมทัพให้ได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะการที่จะดึง ไรซ์ มาสวมเสื้อ เดอะ กันเนอร์ส ในช่วงอีกไม่กี่วันตลาดนักเตะเดือนมกราคมจะปิดตัว คงต้องทุ่มเงินมหาศาลในการโน้นน้าว ขุนค้อน ให้ปล่อยนักเตะมาเล่นในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ดังนั้นการเลือกยื่นข้อเสนอหลังจบฤดูกาลนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ที่สำคัญ ไรซ์ ก็คงต้องการย้ายมาเล่นที่นี่ เนื่องจาก อาร์เซน่อล น่าจะมีโอกาสได้ไปโชว์เพลงแข้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า
ขณะที่ เวสต์แฮม แม้ต้องการที่จะรั้งตัว ดาวเตะวัย 24 ปีให้อยู่กับทีมต่อไป แต่การที่เขาเตรียมจะเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาปัจจุบัน แถมนักเตะไม่มีทีท่าจะขยายสัญญาใหม่ ฉะนั้นการขายออกไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
– ยูริ ตีเลอมันส์
ในกรณีที่จะหาผู้เล่นกองกลางที่กำลังจะหมดสัญญา ชื่อของ ยูริ ตีเลอมันส์ สตาร์เลสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติเบลเยียม ก็เด้งขึ้นมาทันที โดยนักเตะจะกลายเป็นแข้งฟรีเอเจ้นท์หลังจบฤดูกาลนี้ และมีความเป็นไปได้สูงมากๆที่เขาจะโบกมือลาถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม แบบไม่มีค่าตัว
ด้วยสถานการณ์ของ ตีเลอมันส์ งานนี้มีความเป็นไปได้ที่ เลสเตอร์ อาจจำเป็นต้องยอมปล่อยตัวเขาให้กับ อาร์เซน่อล ในช่วงตลาดนักเตะฤดูหนาว เพราะขืนยื้อไปจนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ นั่นอาจจะทำให้ เดอะ ฟ็อกซ์ ไม่ได้รับอะไรเลย
สำหรับ ตีเลอมันส์ ถือเป็นกองกลางที่พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองแล้ว หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด ดังนั้นเขาน่าจะเป็นออปชั่นสำคัญในการสร้างขุมกำลังเชิงลึกตามที่ อาร์เตต้า ต้องการ
0 notes
Text
ซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก เปิดชื่อ 3 ซุปตาร์อาจย้ายเข้า พรีเมียร์ลีก โค้งสุดท้าย

ซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก ในช่วงหน้าหนาวนี้ ถือว่าไม่ได้ระอุอย่างที่ สื่อหลายๆฝ่ายได้คาดคิดกันเอาไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีดีลไหนที่น่าจับตาสักหน่อย โดยตลาด ซื้อขายนักเตะ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูหนาว 2022-23 จะมีใครที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆกันเลย
– เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ไป เชลซี
เชลซี หวนกลับไปล่าตัว เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา ของ เบนฟิก้า อีกครั้ง และทุกฝ่ายจะเจรจากันภายในสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เชลซี เคยยื่นข้อเสนอ 103 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,150 ล้านบาท)ให้กับ เบนฟิก้า แต่จะเป็นการแบ่งจ่ายค่าตัวนักเตะเป็นสามงวดตลอดระยะเวลา 3 ปี ก่อนที่ดีลจะล่มไป
เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของ ท็อดด์ โบลี่ห์ เจ้าของทีม เชลซี แต่ เบนฟิก้า ก็พยายามรั้งดาวเตะวัย 22 ปี ทำให้ต้องลุ้นกันอย่างหนักว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่
– มอยเซส ไกเซโด้ ไป อาร์เซน่อล หรือ เชลซี
ในช่วงเปิดตลาดรอบนี้ อาร์เซน่อล เพิ่งซื้อ เลอันโดร ทรอสซาร์ ปีกทีมชาติเบลเยียม มาจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และก็หวังคว้า มอยเซส ไกเซโด้ กองกลาง เจ้านกนางนวล ให้ได้อีกราย
แน่นอนว่า ค่าตัวของดาวเตะทีมชาติเอกวาดอร์วัย 21 ปี ถูกกว่า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ อยู่เยอะ ทำให้เป็นทางเลือกถ้า ปืนใหญ่ พลาดได้ตัวสตาร์ เบนฟิก้า
อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล จะต้องแย่งกับ เชลซี ที่เล็งคว้า ไกเซโด้ ไปเสริมทัพเช่นกัน ทำให้น่าจับตาอย่างมากว่าทีมไหนจะได้ลายเซ็นนักเตะ หลัง สิงห์บลูส์ เพิ่งสร้างความเจ็บแสบปาดหน้า ปืนใหญ่ ในรายของ มิไคโล มูดริค ปีกทีมชาติยูเครน
– นิโคโล่ ซานิโอโล่ ไป สเปอร์ส หรือ นิวคาสเซิ่ล
อาแอส โรม่า พร้อมพิจารณาขาย นิโคโล่ ซานิโอโล่ กองกลางตัวรุกคนเก่งภายในเดือนนี้ ที่ราคา 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,440 ล้านบาท)
ขณะที่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็แสดงเจตนาชัดเจนว่า อยากได้นักเตะเข้ามาเสริมทัพให้ได้ก่อนปิดตลาดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งไปแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ให้ได้
กระนั้นก็ดี นิวคาสเซิ่ล พร้อมเข้ามาปาดหน้า สเปอร์ส ในการแย่งชิงลายเซ็นของ ซานิโอโล่ วัย 23 ปี ทำให้ต้องลุ้นว่าตัวนักเตะจะได้ย้ายไปอยู่ทีมไหน
0 notes
Text
เปิดผลงานแมนยู เกมพ่าย อาร์เซนอล แลกกันอย่างมันส์

เปิดผลงานแมนยู การตัดเกรดนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากบุกไปพ่ายแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล ไปด้วยสกอร์ 3-2 แบบสุดมันส์ทั้งแฟนบอลของทั่ง 2 สโมสร
ซึ่งวันนี้ ทางทีมงานจะพาทุกๆท่าน ไปติดตาม การตัดเกรดนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยในเกมนี้ เปิดผลงานแมนยู พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆกันเลย
ตัวจริง
ดาบิด เด เคอา : 6
หมดสิทธิ์ป้องกันจังหวะโหม่งจ่อๆ ของ เอ็นเคเทียห์ แต่โชว์ซูเปอร์เซฟปัดบอลจากลูกยิงจ่อๆ ของ เอ็นเคเทียห์ ในครึ่งหลัง แต่ข้อเสียคือจังหวะการเปิดบอลด้วยเท้า
อารอน วาน-บิสซาก้า : 6
ยืนตำแหน่งดีในการดวลกันตัวต่อตัวกับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เกมรับเล่นได้เหนียวแน่น ส่วนเกมรุกยังเป็นจุดด้อยเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังเสียสมาธิในจังหวะสำคัญที่ปล่อยให้ เอ็นเคเทียห์ โหม่งตีเสมอ และประตูที่สามมีส่วนทำให้ เอ็นเคเทียห์ ไม่ล้ำหน้า
ราฟาแอล วาราน : 6
เกมรับยังคงเหนียวแน่น ไว้วางใจได้ ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่ค่อยได้มีส่วนในการเล่นเกมบุกของทีมมากนัก
ลิซานโดร มาร์ติเนซ : 7
เล่นได้อย่างดุดัน เกมรับแข็งแกร่ง โหม่งประตูตีเสมอได้อย่างชาญฉลาด จังหวะในการเสียบสกัดแม่นยำ
ลุค ชอว์ : 7
ทำหน้าที่คุม บูคาโย่ ซาก้า จนเล่นไม่ออกในครึ่งแรก แต่เจองานหนักมากขึ้นเมื่อ ซาก้า พัฒนาเกมในช่วงครึ่งหลัง น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้เล่นเกมบุกเพราะต้องระวังจังหวะสวนกลับ
สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ : 6
รับบทหนักในการเข้ามาแทนที่ กาเซมีโร่ มีโอกาสได้ยิงไกลแต่โดน แอรอน แรมส์เดล เซฟได้ และมีหลายครั้งที่ลงมาช่วยเกมรับ
คริสเตียน เอริคเซ่น : 6
เจองานสุดหินในการสู้กับแดนกลางของอาร์เซน่อล ปล่อยให้ ซาก้า ได้มีพื้นที่เล่นตอนที่เลี้ยงบอลตัดเข้าในก่อนซัดประตูที่สองให้ อาร์เซน่อล แต่มีส่วนสำคัญในการบล็อกลูกยิงของ มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้ทีมรอดเสียประตูอย่างหวุดหวิด
อันโตนี่ : 5
มีประโยชน์แค่จังหวะการเล่นสวนกลับเท่านั้น บางครั้งเชื่อมเกมกับ เว็กฮอร์สต์ ได้ดี ยังคงเล่นติดแอ็กมากเกินไป และไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมมากนัก
บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 6
เกือบเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ในช่วงต้นครึ่งแรก มีส่วนในการแอสซิสต์ให้ แรชฟอร์ด ซัดประตูแรก วิ่งช่วยทั้งเกมรุก และเกมรับ แต่ไม่ค่อยได้สร้างสรรค์เกมมากนัก
มาร์คัส แรชฟอร์ด : 8
โชว์ทักษะเหนือชั้นในการหลบ โธมัส ปาร์เตย์ ก่อนซัดประตูให้ทีมขึ้นนำ เล่นด้วยความมั่นใจ ความเร็ว และ ความคล่องตัวสามารถขู่เกมรับเจ้าบ้านได้ทุกครั้ง ครึ่งหลังโชว์เลี้ยงหลบนักเตะอาร์เซน่อล 2-3 คนก่อนยิงไปติดเซฟ แรมส์เดล
เวาท์ เว็กฮอร์สต์ : 6
ลงมาช่วยเกมรับให้กับทีมได้ดี ใช้ร่างกายที่ใหญ่โตในการเอาชนะแนวรับอาร์เซน่อล แต่ไม่ค่อยอันตรายในพื้นที่สุดท้าย
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แทน ราฟาแอล วาราน น. 92) : ไม่มีคะแนน
มีเวลาให้แสดงผลงานไม่มากพอ
เฟร็ด (แทน อันโตนี่ น. 71) : 6
ถูกส่งลงมาเพื่อช่วยทำให้แดนกลางเหนียวแน่นมากขึ้น แต่ดันโชคร้ายที่จังหวะขวางลูกยิง โอเดการ์ด บอลดันแฉลบไปเข้าทาง เอ็นเคเทียห์ ที่ได้โอกาสซัดประตูชัยในช่วงนาทีสุดท้าย
0 notes
Text
วิเคราะห์บอลหลังเกม หงส์แดง บุกสอย วูล์ฟส์ 1-0 เอฟเอ คัพ

วิเคราะห์บอลหลังเกม ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกไปเอาชนะ วูล์ฟส์แฮมป์ตัน ด้วยสกอร์ 1-0 ที่สนาม โมลินิวซ์ กราวด์ พร้อมกับทะลุผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยวันนี้ทางทีมงาน จะขอพาทุกๆท่านไปติดตาม วิเคราะห์บอลหลังเกม ในแมตช์ที่ทัพ หงส์แดง เอาชนะ วูล์ฟส์ 1-0 โดย หงส์แดง ที่ได้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตะบันประตูโทนตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งประเด็นหลังเกมจะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามรับชมพร้อมๆกันเลย
– หงส์แดง เปลี่ยนทัพ 8 ตำแหน่ง
ลิเวอร์พูล เปลี่ยนผู้เล่น 11 คนแรกมากถึงแปดรายจากเกมล่าสุดที่พวกเขาทำศึก พรีเมียร์ลีก และโดน ไบรท์ตัน เปิดบ้านไล่ต้อน 3-0 เหลือแค่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ , ติอาโก้ และ โคดี้ กัคโป ที่ยังได้ลงบู๊
เริ่มจาก ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่ได้เฝ้าประตู ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ สวมบทกัปตันพร้อมรับหน้าที่เป็นแบ็คขวาโดยมี คอสตาส ซิมิคาส เล่นอยู่ทางซ้าย ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็นหน้าที่ของ โจ โกเมซ กับ โกนาเต้
ในแผงมิดฟิลด์ สเตฟาน บายลิช ได้รับโอกาสให้สำแดงฝีเท้าร่วมกับ ติอาโก้ และ นาบี้ เกอิต้า ขณะที่สามหัวหอกประกอบด้วย ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ , กัคโป และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
อย่างไรก็ดี ในซุ้มม้านั่งสำรองของทีมเยือนยังอัดแน่นไปด้วยดาวดังทั้ง อลิสซง , โฌแอล มาติ๊ป , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เคอร์ติส โจนส์ , ฟาบินโญ่ , เบน โด๊ค , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ โม ซาลาห์
– ประตูเดียวก็ตัดสินได้
แม้จะกลับมาเล่นเป็นเจ้าถิ่นหลังบุกไปเสมอกับ ลิเวอร์พูล ได้ 2-2 ที่ แอนฟิลด์ แต่ทีม หมาป่า ทำเอาสาวกผิดหวังอย่างแรงที่ไม่อาจเด็ดปีก หงส์แดง ได้ทั้งๆที่เป็นฝ่ายบุกได้มากกว่าตั้งแต่ต้นจนจบ
จาก 45 นาทีแรก ทีมของกุนซือสแปนิชเสียท่าให้ลูกยิงไกลของ เอลเลียตต์ ตั้งแต่นาทีที่ 13 ก็จริง แต่พวกเขาคุมจังหวะเกมได้ดีกว่าจากการครองบอล 52:48% แต่เป็น เร้ด แมชีน ที่ได้ส่องยิงมากกว่า 5:4 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ วูล์ฟส์ ยิงไม่เข้าเป้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ในส่วนของ หงส์แดง เป็นเรื่องดีที่มีสถิติบ่งชี้ว่าเกมในครึ่งแรกที่ โมลินิวซ์ พวกเขาชนะการดวลมากถึง 63% ผิดกับตลอดทั้ง 90 นาทีนัดแพ้ ไบรท์ตัน ในลีกซึ่งทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์��นะการดวลแค่ 41% เท่านั้น
จากนั้นหลังจบเกม 90 นาทีของการรีเพลย์แมตช์ เอฟเอคัพ รอบสาม หมาป่า ยังครองบอลได้เหนือกว่าในสัดส่วน 58:42% เช่นเดิม แต่เจ้าบ้านพลิกมาเป็นฝ่ายได้เข่นประตูมากกว่าถึง 11 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ตะบันรวมเป็น 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้งจากที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก
ฉะนั้นแล้ว ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า วูล์ฟส์ เล่นกันได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง เพียงแต่ไม่สามารถยิงประตูคืนได้ซึ่งนี่เองที่ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของสโมสร และมันเรื้อรังมาหลายปีแล้วโดยที่ โลเปเตกี จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในจุดนี้ให้ได้เพื่อทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ได้แต่ป้อฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่มีพิษสงในการคลำเป้า
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะถึงขณะนี้แล้ว วูล์ฟส์ ยังเป็นทีมที่ยิงประตูไม่ได้เรื่องเหมือนเคยดังจะเห็นว่าในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้พวกเขาส่งบอลเข้าประตูคู่แข่งได้น้อยที่สุดแค่ 12 เม็ดเท่านั้นจากการลงสนาม 19 นัด เฉลี่ยแล้วทีม หมาป่า ยิงได้ไม่เกินนัดละประตูซึ่งถือเป็นสถิติที่เลวร้าย และยากที่ทีมจะประสบความสำเร็จได้
0 notes
Text
ประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ ขยี้ สเปอร์ส 4-2 เพิ่มโอกาสป้องแชมป์

ประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ ในเกมที่พวกเขาสามารถพลิกมาเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ด้วยสกอร์ 4-2 แบบสุดมั่นส์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ ทางทีมงานจะพาทุกๆท่านไปติดตาม 3 ประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ จะมีอะไรบ้างที่สนใจบ้าง เรามาล้อมวงไปพร้อมๆกันเลย
– เดอ บรอยน์ โยกไปสำรองบ้าง
ไม่บ่อยนักที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะจับ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนสำคัญนั่งข้างสนามในเกมรับการมาเยือนของ สเปอร์ส
หลังออกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 กุนซือ สแปนิช เลือกปรับทัพมากถึงห้ารายโดยส่ง ริโก้ ลูอิส , จอห์น สโตนส์ , อิลคาย กุนโดกัน , แจ็ค กรีลิช และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ออกสตาร์ตก่อนหน้า ไคล วอล์คเกอร์ , ชูเอา กานเซโล่ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น
จากโผดังกล่าว หมายความว่า อัลวาเรซ ได้จับคู่ลงเล่นเป็นหัวหอกตัวจริงพร้อมกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในเกมลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.
– สเปอร์ส เปลี่ยนแข้งชุดแรกถึง 4 ราย
จากนัดก่อนที่เฝ้าบ้านโดน อาร์เซน่อล บุกมาทุบแบบหมดสภาพ 2-0 อันโตนิโอ คอนเต้ เลือกโรเตชั่นทีมตัวจริงสี่รายโดยที่ได้ โรดรีโก้ เบนตานกูร์ ฟิตเปรี๊ยะกลับมาลงสนามได้
นอกนั้นอีกสามรายประกอบไปด้วย เอเมอร์สัน รอยาล , เบน เดวิส และ อีวาน เปริซิช ซึ่งได้เสียบแทน แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ , เกลมองต์ ลองเลต์ , ไรอัน แซสเซยง และ ป๊าป ซาร์ ขณะที่ ริชาร์ลิซอน กองหน้าทีมชาติ บราซิล ยังนั่งข้างสนามต่ออีกเกม
– ความผิดพลาดครั้งใหญ่ เอแดร์ซอน
กลายเป็นเรื่องช็อกสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ที่เล่นได้เหนือกว่าแท้ๆ แต่กลับโดน สเปอร์ส นำห่างถึงสองประตูในช่วงอึดใจสุดท้ายของครึ่งแรก
และแน่นอนว่าคนที่สมควรถูกตำหนิจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูทีมชาติ บราซิล ของทีม เรือใบสีฟ้า เองที่ออกบอลสะเพร่าจนโดน เดยัน คูลูเซฟสกี้ สอยตาข่ายให้ ไก่เดือยทอง ขึ้นนำ
แต่สำหรับเม็ดสองของ สเปอร์ส จะกล่าวโทษ เอแดร์ซอน คงไม่ได้เนื่องจากเขาเซฟลูกอันตรายแล้วเผอิญบอลลอยไปเข้าหัวให้ เอเมอร์สัน โขกตุงตาข่ายซึ่งแน่นอนว่าสกอร์นำ 2-0 ของทีมเยือนขัดกับรูปเกมใน 45 นาทีแรกอย่างแรงในเมื่อ แชมป์เก่า ครองบอลได้มากกว่า 61:39% แต่ทำไปทำมา สเปอร์ส ได้ลุ้นคลำเป้าไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันสักเท่าไหร่โดยทีมของ กวาร์ดิโอล่า ได้ง้างยิง 7 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ทีมเมืองกรุงได้เข่น 6 ครั้ง และเข้ากรอบมากกว่าด้วยซ้ำถึง 3 ครั้ง
0 notes
Text
ตลาดซื้อขายนักเตะ อาร์เซน่อล เปิดชื่อ 3 สตาร์ดังอาจร่วมทัพ ปืนใหญ่ เร็วๆนี้

ตลาดซื้อขายนักเตะ อาร์เซน่อล ช่วงเวลานี้ กำลังคึกคักเป็นอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาต้องโดน เชลซี ปาดหน้าคว้าลายเซ็นของ มิไคโล มูดริค ไปร่วมทัพได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้น อาร์เซน่อล เองจำเป็นต้องหานักเตะคนอื่นมาเสริมทัพแทนที่เป้าหมายเดิม
ซึ่งวันนี้ ทางทีมงาน จะพาทุกๆท่าน ไปติดตาม ตลาดซื้อขายนักเตะ อาร์เซน่อล ว่าเร็วๆนี้เขาจะมีโอกาสคว้านักเตะคนไหนมาร่วมทัพบ้าง แต่ละคนมีดีกรีดีขนาดไหน เราไปชมกันเลยว่า 3 สตาร์ดังอาจร่วมทัพ ปืนใหญ่ เร็วๆนี้ จะมีใครบ้าง
– เฟร์รัน ตอร์เรส
หลังคว้าสองดาวเตะทีม แมนฯ ซิตี้ มาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ทั้ง เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ อาร์เตต้า ในฐานะอดีตมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจดึงตัวอดีตสตาร์ทีม เรือใบสีฟ้า มาร่วมงานกันเป็นรายที่สามในปี 2023 ก็เป็นได้
ในรายของ ตอร์เรส หลังย้ายออกจากทีม แมนฯ ซิตี้ ไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เมื่อเดือนม.ค.2022 ล่าสุดเขาหล่นไปเป็นตัวสำรองของถิ่น คัมป์นู แล้วนับตั้งแต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาร่วมก๊วนทีมดังแห่งกาตาลัน
กระนั้นก็ดี ทั้งๆที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในซีซั่นนี้แค่ 8 นัด บวกกับฐานะตัวสำรองอีก 14 นัด ตอร์เรส ยังมีผลงานกระทุ้งได้ 5 ประตู และ 1 แอสซิสต์ในทุกรายการ อีกทั้งดาวเตะวัย 22 ปีสอยตาข่ายได้ 2 ประตูด้วยจากการลงเล่นให้ทีมชาติ สเปน 4 นัดในศึก ฟุตบอลโลก 2022
ตามรายงานจากสื่อเมืองกระทิง อาร์เซน่อล ให้ความสนใจในตัว ตอร์เรส ขณะที่ บาร์เซโลน่า ก็ยินดีขายเขาทิ้งแลกกับการรับทรัพย์เพื่อประคับประคองสถานภาพทางด้านการเงิน
และด้วยเหตุที่มีประสบการณ���ในลีกเมืองผู้ดีมาแล้ว อีกทั้งยังเล่นได้สารพัดตำแหน่งในแดนหน้า ตอร์เรส จึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่น้อย
– เลอันโดร ทรอสซาร์
ย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2019 ช่วงที่ยังเล่นอยู่กับ เกงค์ ทีมในบ้านเกิด ดาวเตะทีมชาติ เบลเยี่ยม ถูกลือกับ อาร์เซน่อล มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่สุดท้ายเขาเลือกจรดปากกากับ ไบรท์ตัน เพื่อโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
จนมาถึงวันนี้ ทรอสซาร์ ต้องการขยับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเล่นให้กับทีมที่ใหญ่ขึ้นหลังสร้างผลงานกับ นกนางนวล ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการมีส่วนกับการทำประตูโดยตรง 10 ลูกจาก 16 เกมใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
ขณะเดียวกัน สตาร์วัย 28 ปียังสร้างชื่อเป็นนักเตะคนแรกที่กดแฮททริคใส่ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ได้ด้วยนับตั้งแต่ อังเดร อาร์ชาวิน ประกาศศักดากับ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนเม.ย.2009 แถมเจ้าตัวยังสอยตาข่ายทีมยักษ์อย่าง แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ได้เช่นกัน
กระทั่งล่าสุด ทรอสซาร์ ต้องการอำลาทีม ไบรท์ตัน หลังผิดใจกับกุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ อีกทั้งสัญญาของเขาจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ด้วยแม้ว่าสโมสรจะมีอ็อปชั่นต่อสัญญากับเขาได้อีกปีจนถึงเดือนมิ.ย.2024 ก็ตาม
อย่างไรก็ดี อาร์เซน่อล จะมัวโอ้เอ้วิหารรายเหมือนกรณีของ มูดริค ไม่ได้อีก และต้องรีบยื่นข้อเสนอขอซื้อ ทรอสซาร์ โดยเร็วเนื่องจาก สเปอร์ส ทีมร่วมเมืองเล็งฉุดดาวเตะตัวฉกาจของถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ไปร่วมสังกัดเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น เชลซี เป็นอีกทีมที่ถูกโยงกับ ทรอสซาร์ ด้วยเนื่องจาก แกรห์ม พ็อตเตอร์ รู้จักอดีตลูกทีมรายนี้ดีสมัยกุมบังเหียน นกนางนวล แม้ว่าถึงตอนนี้ สิงห์บลูส์ จะเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ในเดือนม.ค.มากถึงห้ารายแล้วก็ตาม แต่แน่นอนว่ามันอาจเป็นไปได้ยากหลังจากพวกเขาหมดตัวกับ มูดริค ไปมากแล้ว
– ราฟินญ่า
เป็นศูนย์หน้าทีม บาร์เซโลน่า อีกรายที่เคยผ่านเวที พรีเมียร์ลีก มาแล้วสองซีซั่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ายสู่ คัมป์นู ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์
อย่างไรก็ดี ดาวเตะทีมชาติ บราซิล ไม่อาจโชว์ฟอร์มเหมือนสมัยค้าแข้งกับ ยูงทอง ได้ และเสียตำแหน่ง 11 ตัวแรกในทีมของกุนซือ ชาบี ให้กับ อุสมาน เด็มเบเล่
ตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล มาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ แถม อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด เผยว่าทีม ปืนใหญ่ กลับไปทาบทาม ราฟินญ่า อีกรอบโดย เอดู ผู้อำนวยการกีฬาของถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ติดต่อไปหา เดโก้ เอเจนต์ของเขาแล้วด้วยหวังเซ็นสัญญาในเดือนม.ค.
แม้จะถนัดลากเลื้อยทางด้านขวา แต่สตาร์วัย 26 ปีสามารถเล่นเป็นปีกซ้ายได้เช่นกันอันจะส่งผลดีต่อเกมรุกของ อาร์เซน่อล ทั้งสองฟากฝั่ง
อย่างไรเสีย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปิดดีลนี้เนื่องจากตัวนักเตะยืนยันว่าไม่ต้องการละทิ้งความฝันหลังได้ย้ายมาร่วมทีม บาร์เซโลน่า สมใจ แม้ทีมดังของ ลา ลีกา จะพร้อมขายเขาหากได้รับข้อเสนอไม่น้อยกว่า 88 ล้านปอนด์
0 notes
Text
วิเคราะห์อาร์เซนอล 3 ประเด็นสำคัญหลัง ปืนโต บุกอัด ไก่เดือยทอง

วิเคราะห์อาร์เซนอล ในเกมที่พวกเขาบุกไปเอาชนะคู่อริร่วมเมืองอย่าง ท๊อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ด้วยสกอร์ 2-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญไปครอบครองได้สำเร็จ อีกทั้งเวลานี้ พวกเขายังมีคะแนนนำอันดับที่ 2 อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ถึง 8 คะแนนเลยทีเดียว
โดยวันนี้ ทางทีมงาน จะพาทุกๆท่าน ไปติดตาม การ วิเคราะห์อาร์เซนอล ในเกมนี้ มาให้ทุกท่าน ได้ติดตามรับชมกัน ซึ่ง 3 ประเด็นหลังเกมนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปชมพร้อมๆกันเลย
– ริชาร์ลิซอน อีกหนึ่งความหวังเริ่มต้นจาก สำรอง
ถือเป็นข่าวดีไม่น้อยสำหรับ สเปอร์ส เนื่องจาก ริชาร์ลิซอน กองหน้าทีมชาติ บราซิล สลัดอาการบาดเจ็บทิ้งไปได้แล้ว และมีชื่อนั่งเป็นตัวสำรองที่ข้างสนาม
สำหรับโผ 11 ตัวจริง เจ้าบ้านได้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ หายเดี้ยงกลับมาลงบู๊ อีกทั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออิตาเลี่ยนทำเซอร์ไพรส์ตัดสินใจส่ง ป๊าป ซาร์ มิดฟิลด์วัย 20 ปีออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเกมแรกด้วย
รวมแล้ว สเปอร์ส ปรับทัพสามตำแหน่งจากนัดล่าสุดที่บุกไปยำใหญ่ คริสตัล พาเลซ 4-0 โดยนอกจาก คูลูเซฟสกี้ และ ซาร์ แล้ว ไรอัน เซสเซยง ก็ได้ลงเล่นเป็นวิงแบ็คฝั่งซ้ายก่อนหน้า อีวาน เปริซิช ที่หล่นไปนั่งข้างสนามร่วมกับ ไบอัน กิล และ โอลิเวอร์ สคิปป์
อย่างไรก็ดี หากจะเทียบจากเกมล่าสุดที่ ไก่เดือยทอง เฝ้าบ้านเฉือนชนะ พอร์ทสมัธ 1-0 ในศึก เอฟเอคัพ คอนเต้ เปลี่ยนนักเตะตัวจริงรวมทั้งสิ้นเจ็ดรายด้วยกัน
– ทัพปืนใหญ่ ส่งชุดเดิมจากเกมเจ๊า นิวคาสเซิ่ล ลงสนาม
สำหรับ อาร์เซน่อล มีการปรับโผตัวจริงเจ็ดรายเช่นกันจากเกมบุกไปขยี้ อ๊อกซ์ฟอร์ด 3-0 ในศึก เอฟเอคัพ โดยเหลือแค่ บูคาโย่ ซาก้า , กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ , กาเบรียล มากัลเญส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อ
ถึงกระนั้น หากยึดจากเกม พรีเมียร์ลีก ที่ เดอะ กันเนอร์ส เปิดบ้านเจ๊ากับ นิวคาสเซิ่ล 0-0 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. อาร์เตต้า นายใหญ่สแปนิชจัดทัพชุดเดิมทุกตำแหน่งลงสนาม
– ครึ่งแรก เป็นของ อาร์เซนอล อย่างแท้จริง
สมศักดิ์ศรีทีมจ่าฝูงอย่างแท้จริงสำหรับ อาร์เซน่อล ซึ่งบุกมาเยือนรังของ สเปอร์ส แท้ๆ แต่เล่นได้อย่างน่าเกรงขามประดุจลงบู๊ในถิ่นของตัวเองก็ไม่ปาน
และฉับพลันทันใดในนาทีที่ 14 บูคาโย่ ซาก้า ก็โจมตีทางฝั่งขวาก่อนซัดบอลมุมแคบแฉลบ แซสเซอญง เข้าประตู แต่เป็นจังหวะที่ โยริส ปัดไม่หลุด จึงเป็นการทำบอลเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้ายของอดีตนายด่านตาข่ายทีมชาติ ฝรั่งเศส เพราะจังหวะกระชั้นชิดแบบนั้นเราไม่อาจกล่าวตำหนิผู้รักษาประตูได้เลย
ขณะเดียวกัน มีการยืนยันว่า โยริส สกัดบอลเข้าประตูตัวเองเป็นเม็ดแรกด้วยจากการเฝ้าตาข่ายในเกม พรีเมียร์ลีก มานานถึง 354 นัด
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 36 สเปอร์ส ทรุดหนักเข้าไปอีกเมื่อโดน มาร์ติน โอเดการ์ด ส่องเรียดจากหน้าเขตโทษเสียบมุมอย่างงดงามพา อาร์เซน่อล ทิ้งห่าง 2-0 ในช่วง 45 นาทีแรกซึ่งถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจาก เดอะ กันเนอร์ส เหนือกว่าทุกด้านทั้งการครองบอล 56:44% ทั้งโอกาสยิง 9 ครั้งที่เข้ากรอบ 3 ครั้ง และเป็น 2 ประตู ขณะที่ ไก่เดือยทอง ได้ยิง 4 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง
สำหรับ โอเดการ์ด ดาวเตะทีมชาติ นอรเวย์ ซึ่งโชว์ฟอร์มในลีกอิงลิชได้อย่างน่าประทับใจผงาดเป็นดาวซัลโวของ อาร์เซน่อล ในตอนนี้ไปแล้วหากจะนับรวมทุกรายการ แต่ถ้าจะว่ากันเฉพาะ พรีเมียร์ลีก อดีตขุนพลทีม เรอัล มาดริด กระทุ้งให้ทีมเมืองกรุงของอังกฤษไปแล้ว 8 เม็ดซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาเทียบเท่ากับตลอดทั้งซีซั่นที่กองกลางวัย 24 ปีเคยทำได้���ับ วิเทสส์ ช่วงที่ถูก ราชันชุดขาว ปล่อยออกไปแบบยืมตัวในซีซั่น 2018/19
0 notes
Text
ตลาดซื้อขาย อาร์เซนอล เปิดความลับ 3 ชื่อใกล้เซ็น ปืนใหญ่ หน้าหนาวนี้

ตลาดซื้อขาย อาร์เซนอล สโมสรชั้นนำจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง โดยเวลานี้ พวกเขารั้งจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก ในเวลานี้ ซึ่งพวกเขาจำเป็นที่จะต้องเสริมทัพเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสานต่อความสำเร็จ ซึ่งอาจจะนำมาสู่แชมป์ลีกสูงสุดที่พวกเขารอมานานแสนนานก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามข่าว ตลาดซื้อขาย อาร์เซนอล ในช่วงหน้าหนาวนี้ พวกเขาตกเป็นข่าวกับนักเตะหลากหลายทีมเหลือเกิน ซึ่งวันนี้ ทางทีมงาน จะพาทุกๆท่าน ไปติดตาม 3 ที่มีโอกาสย้ายมาร่วมทัพ ไอปืนใหญ่ สูงในช่วงหน้าหนาวนี้ จะมีใครบ้าง เราไปชมพร้อมๆกันเลย
– มิไคโล มูดริค (ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค)
อาร์เซนอล แสดงความสนใจในตัว มูดริค อย่างเปิดเผย และมีการยื่นข้อเสนอให้ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค พิจารณาแล้วถึงสองรอบ
ขณะที่ตัวนักเตะเองก็ต้องการย้ายมาร่วมทัพไอ้ปืนใหญ่ ขึ้นอยู่กับว่าทีมดังแห่งลอนดอนจะทำให้ต้นสังกัดของ มูดริค พอใจกับข้อเสนอได้หรือไม่
– ยูริ ติเลอมันส์ (เลสเตอร์ ซิตี้)
อาร์เซนอล ให้ความสนใจในตัว ติเลอมันส์ มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้ เลสเตอร์ ซิตี้ พิจารณา
กองกลางชาวเบลเยียม เหลือสัญญากับจิ้งจอกสยามเพียง 6 เดือน ดังนั้นเดือนมกราคมนี้คือโอกาสดีที่ ไอ้ปืนใหญ่ จะลองยื่นข้อเสนอ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือไม่ใช่แค่พวกเขาทีมเดียวที่สนใจในมิดฟิลด์เนื้อหอมรายนี้
– ดานิโล (พัลไมรัส)
อาร์เซนอล เคยยื่นข้อเสนอขอซื้อตัว ดานิโล ไปแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแต่โดน พัลไมรัส ปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของทีมดังแห่งบราซิลเปลี่ยนไป ซึ่งไอ้ปืนใหญ่เองก็ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยพวกเขาจะต้องเจอคู่แข่งสำคัญอย่าง โมนาโก ที่ต้องการดาวเตะวัย 21 ปี มาร่วมทีมเช่นกัน
0 notes
Text
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังฟอร์แจ่ม เปิดชื่อ 3 แข้งฟอร์มโหดยุค เทน ฮาก

เรียกได้ว่าชั่วโมงนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมใหญ่ทีมกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และ สม่ำเสมอ แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
ซึ่งวันนี้ ทางทีมงาน จะขอพาทุกท่านไปติดตาม 3 แข้ง ของทัพ ปีศาจแดง ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในเวลานี้ อีกทั้งยังทำผลงานได้เข้าตา นับตั้งแต่ เอริค เทน ฮาก ก้าวเข้ามาคุมบังเฮียนในรั้วของ โอลล์ แทรฟฟอร์ด หากพร้อมแล้ว ไปรับชมพร้อมๆกันเลย
– คริสเตียน เอริกเซ่น
มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์กเพิ่งจะย้ายมาเล่นในโรงละครแห่งความฝันเป็นซีซั่นแรก หลังหมดสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
การมาของ เอริกเซ่น นั้นเขามาช่วยยกระดับแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเห็นได้ชัด โดยทำไป 2 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 26 นัดในซีซั่นนี้ และกลายเป็นแข้งที่ทำแอสซิสต์มากสุดเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
– กาเซมีโร่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มเงินสูงถึง 70 ล้านปอนด์ ดึงตัวมิดฟิลด์ชาวบราซิลมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้เขาได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก เร้ด เดวิลส์ ไปเรียบร้อย หลังเข้ามาแก้จุดอ่อนในแดนกลางให้กับทีมได้แบบไร้ข้อกังขา
ดาวเตะวัย 30 ปี กลายเป็นหัวใจแดนกลางของ ปีศาจแดง โดยนอกจากจะตัดเกมแนวรุกคู่แข่งได้ดีแล้ว เขายังมีส่วนกับเกมรุกของทีมด้วย โดยทำไป 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 24 เกมในซีซั่นนี้
การตัดสินใจเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ชาวบราซิลนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกโฉมหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเลย
– มาร์คัส แรชฟอร์ด
ชื่อของ แรชฟอร์ด เคยเกือบจะเป็นดาวดับไปแล้ว หลังจากมีผลงานที่ดิ่งลงเหวในยุคก่อนหน้าที่ เทน ฮาก จะเข้ามากุมบังเหียน จนมีอนาคตที่ไม่แน่นอนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อย่างไรก็ตามในซีซั่นนี้ดาวเตะวัย 25 ปี กลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้อีกครั้ง โดยตะบันไปถึง 15 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 25 เกม และเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในตอนนี้ด้วย
หากสุดท้ายเขายังสามารถรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอมันจะทำให้มูลค่าในตลาดนักเตะจะสูงขึ้น และน่าสนใจว่าเขาจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการต่างๆในปีนี้ได้หรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป
0 notes
Text
ฟุตบอลทีมชาติไทย ถล่มมาเล 3-0 กับ 2 ประเด็นร้อนน่าติดตาม

ฟุตบอลทีมชาติไทย ถือว่าทำผลงานได้อย่างสุดยอด ในแมตช์ล่าสุดนี้ โดยพวกเขาสามาารถเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ อาเซียน คัพ 2022 ได้สำเร็จ ซึ่งวันนี้ เราจะพาทุกท่านไปติดตาม 2 ประเด็นน่าติดตามของเกมนี้กัน หากพร้อมแล้วไปรับชมพร้อมๆกันเลย
– ธีราทร กับการครอสที่แม่นยำ
ธีราทร บุญมาทัน ยังได้ออกสตาร์ตในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่ในระดับสโมสรที่เขาเล่น���ับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาตลอดในระยะหลัง
ฟุตบอลทีมชาติไทย แน่นอนว่า คลาส ของแชมป์ เจลีก 2019 นั้นทำให้เขายังโดดเด่น แม้จะไม่ใช่บทบาทที่คุ้นตา แต่ผลงานในการเล่นกองกลางของนักเตะวัย 32 ปี นั้นจัดว่าไฉไลไม่แพ้ใคร
ด้วยผลงานในลีกที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผ่านฉลุย ทำให้ส่งต่อมายังทีมชาติที่ ธีราทร ก็ยังรับบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางเช่นเคย และก็ยังทำได้ตามมาตรฐานของตนเองไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย ซึ่งต่างก็รู้ว่าถ้าปล่อยให้ผู้เล่นหมายเลข 3 ของไทย ได้บอลบ่อยๆ นั้นไม่ส่งผลดีแน่
ในเกมบุกเสมออินโดนีเซีย 1-1 และไปแพ้มาเลเซีย 0-1 ทั้งสองนัดนั้น ธีราทร แทบไม่มีโอกาสได้เล่นอย่างถนัดถนี่เลย
รวมถึงเกมกับมาเลเซีย ในเลกที่สองก็เช่นกัน ที่ช่วงแรกเขาก็ยังไม่ได้โชว์พิษสงของตัวเองเท่าไหร่ กระทั่งถูกถ่างออกไปยืนฟากซ้ายนั่นแหละ ที่ทำให้บอลจากด้านข้างของไทย อันตรายขึ้นทันตา
ก่อนจะเป็นที่มาของประตู 1-0 ซึ่งก็เป็น ธีราทร นี่แหละที่ครอสไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ และถือเป็นการปลดล็อกความกดดันนั่นเอง (เป็นแอสซิสต์ที่ 4 ของเจ้าตัในทัวร์นาเมานต์)
ดังนั้นในเกมนัดชิงชนะเลิศที่จะต้องพบเวียดนาม – อเล็กซานเดร โพลกิ้ง คงต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่าจะใช้ประโยชน์จากกองหลังชาวนนทบุรี คนนี้ด้วยตำแหน่งไหนดีที่สุด
เพราะว่าถ้าให้ ธีราทร ยืนฟูลแบ็กตามเดิม ไทย ก็จะมีเกมรับและรุกริมเส้นที่ไร้เทียมทาน แถมยังอันตรายจากการครอสบอลจากด้านข้างอีกต่างหาก
– บดินทร์ และ เอกนิษฐ์ ลบคำวิจารณ์
บดินทร์ ผาลา และ เอกนิษฐ์ ปัญญา คือ 2 นักเตะที่ถูกวิพากษ์-วิจารณ์อยู่พอสมควร โทษฐานที่ผลงานไม่ปังนัก แต่ก็ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่า อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จะวางระบบ 4-4-2 หรือ 4-3-3 ทั้งสองคนจะได้ออกสตาร์ตตัวจริง ซึ่งก็เป็นมาตั้งแต่เกมแรกที่ถล่มบรูไน มาจนถึงนัดล่าสุดที่เอาชนะมาเลเซีย 6 นัด ติดต่อกันที่ริมเส้นช้างศึกเป็น บดินทร์ – เอกนิษฐ์
อย่างไรก็ตาม ผลงานของทั้งคู่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก – บดินทร์ อาจจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่โดยรวมถือว่ายังดูเก้ๆ กังๆ ไปไม่สุดยังไงชอบกล
ขณะที่ เอกนิษฐ์ ดูจะหนักกว่า เพราะโอกาสมีให้เห็นทุกเกม แต่กลับยิงนกตกปลาอย่างเหลือเชื่อ จนทำให้คิดว่าความมั่นใจของนักเตะชาวเชียงราย น่าจะหดหายไปเพียบทีเดียว
ทว่า โพลกิ้ง ก็ยังเชื่อมั่นในสองผู้เล่นริมเส้นจาก การท่าเรือ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด
ผลของความเชื่อมั่นมาส่งผลอย่างชัดเจนในเกมถล่มมาเลเซีย 3-0 ที่ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม
บดินทร์ มีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกครั้ง และก็มาจากการแอสซิสต์ของ เอกนิษฐ์ นั่นแหละ
ส่วน เอกนิษฐ์ จะเด่นหน่อย เพราะนอกจากจะอยู่ครอบ 90 นาที เขายังมีส่วนในประตูที่ 3 ของไทย อีกด้วย
หากทั้งสองคนยังสามารถรักษามาตรฐานการเล่นในระดับนี้เอาไว้ได้ รับประกันเลยว่าแนวรับเวียดนาม เตรียมปวดกบาลได้เลย
0 notes
Text
ซื้อขายนักเตะ อาร์เซนอล เปิดชื่อ 6 แข้งอาจต้องย้ายออก ซัมเมอร์นี้

ซื้อขายนักเตะ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้ ถือว่าคึกคักอยู่พอสมควร จากการที่พวกเขามีลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเสริมทัพนักเตะ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่มีการซื้อนักเตะเข้ามา ก็ต้องมีนักเตะ ที่จำเป็นจะต้องปล่อยออกจากทีมไปเช่นกัน
ซื้อขายนักเตะ อาร์เซนอล ในช่วงหน้าหนาวนี้ และ ซัมเมอร์นี้ พวกเขามีข่าวเชื่อมโยงกับบรรดาแข้งดังหลายราย เพื่อทำให้ทัพ อาร์เซนอล ต้องการขุมกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม มีผู้เล่นบางรายอาจมองหาโอกาสย้ายทีมเพื่อโอกาสลงสนามที่มากขึ้น ขณะที่บางรายสโมสรอาจเลือกปล่อยยืมตัวเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์
– เซดริค โซอาเรส
เซดริค เจอฤดูกาลที่ยากลำบากเมื่อเขาได้ลงสนามไปเพียง 4 นัดเท่านั้นรวมทุกรายการ และได้เป็นตัวจริงเพียงนัดเดียวในเกม คาราบาว คัพ ที่พ่ายต่อ ไบรท์ตัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าตัวต้องการย้ายทีมเพื่อโอกาสลงสนามมากขึ้น และ อาร์เซนอล ก็พร้อมปล่อยตัวเช่นกันหากได้ข้อเสนอที่น่าพอใจ
– มาร์ควินญอส
มาร์ควินญอส ลงเล่นไปแล้ว 5 นัดในฤดูกาลนี้ และทำประตูแรกให้ อาร์เซนอล ได้แล้วในเกมยูโรป้าลีกกับ ซูริค
โดย ไอ้ปืนใหญ่ กำลังพิจารณาปล่อยตัวดาวเตะชาวบราซิลให้ทีมอื่นยืมตัว เพื่อโอกาสลงสนามต่อเนื่องและพัฒนาการของนักเตะ
– รีสส์ เนลสัน
เนลสัน กำลังจะหมดสัญญาเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ดังนั้นหากได้ข้อเสนอที่น่าพอใจ อาร์เซนอล อาจพร้อมปล่อยตัวเขาในช่วงเดือนมกราคมนี้
ไอ้ปืนใหญ่อาจไม่ต้องการปล่อยตัวเขาในเดือนนี้ แต่หากทีมได้แนวรุกคนใหม่มาเสริมทัพ การย้ายทีมก็สามารถเกิดขึ้นได้
– คาตาลิน ซีร์ยาน
ดาวรุ่งชาวโรมาเนียคือดาวเด่นของทีมชุด U-21 ในฤดูกาลนี้ โดยเขามีปัญหาอาการบาดเจ็บเมื่อช่วงซัมเมอร์ ทำให้ไม่ถูกปล่อยยืมตัวเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นรายอื่นๆ
แต่ตอนนี้เขากลับฟิตสมบูรณ์แล้ว และทีมมีแผนจะปล่อยตัวดาวโจน์รายนี้แบบยืมตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
– แมตต์ สมิธ
สมิธ ถูกปล่อยยืมตัวมาแล้วหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในซัมเมอร์นี้เขาตัดสินใจอยู่กับ อาร์เซนอล และได้รับบทกัปตันทีมชุด U-21
ตอนนี้เขาอายุ 22 ปี และต้องการลงสนามอย่างสม่ำเสมอ คาดว่าเขาจะย้ายทีมค่อนข้างแน่หลังจบฤดูกาลนี้ แต่หากได้ข้อเสนอที่น่าพอใจในช่วงเดือนมกราคม การย้ายทีมอาจเกิดเร็วขึ้น
– กิโด้ เทย์เลอร์-ฮาร์ท
เทย์เลอร์-ฮาร์ท ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งอนาคตไกลของ อาร์เซนอล แต่มีโอกาสลงเล่นไม่มากนักในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา จากปัญหาอาการบาดเจ็บ
บางทีถูกปล่อยยืมตัวในช่วงเดือนมกราคมนี้ อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทั้งเขาและสโมสร
0 notes
Text
ข่าวลือซื้อขายนักฟุตบอล เปิดชื่อ 5 แข้งมีโอกาสร่วมทัพ หงส์แดง หน้าหนาวนี้

ข่าวลือซื้อขายนักฟุตบอล ถือว่าปัจจุบันล้ำหน้าไปไกล มากแล้ว อีกทั้ง แฟนบอลทั่วโลก ยังสามารถติดตาม รับชมข่าวได้อย่างง่ายดายมากๆในทุกวันนี้ ซึ่งวันนี้ ทางทีมงานจะพาทุกท่าน ไปติดตาม 5 แข้งที่มีโอกาสย้ายมาร่วมทัพ หงส์แดง ในช่วงหน้าหนาวนี้ จะมีใครบ้าง แต่ละคนจะน่าติดตามมากมายขนาดไหน ไปชมพร้อมๆกันเลย
1. จู๊ด เบลลิงแฮม – โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ตกเป็นข่าวจับตาสถานการณ์ของมิดฟิลด์วันเดอร์คิดวัย 19 ปีสังกัด โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเป็นระยะเวลานาน กระแสข่าวรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่าพวกเขาจะเดินหน้าคว้าตัวกองกลางทีมชาติ อังกฤษ รายนี้ในตลาดซัมเมอร์ 2023
หากแต่ปัญหาแข้งเดี้ยงที่แดนกลาง ศักยภาพของมิดฟิลด์ทดแทนในทีม ไปจนถึงความสนใจจากบิ๊กทีมอย่าง เรอัล มาดริด ที่อาจจะสามารถทุ่มเงินปาดหน้าซิวตัว จู๊ด เบลลิงแฮม ตั้งแต่ตลาดนักเตะเดือนมกรามคม กับราคาที่ทัพ เสือเหลือง ตั้งไว้ 130 ล้านปอนด์ ทั้งหมดก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ หงส์แดง มีความจำเป็นต้องเร่งเครื่องตั้งแต่หน้าหนาวนี้หากไม่อยากพลาดดีล เบลลิงแฮม
2. โซฟียาน อัมราบัต – ฟิออเรนตินา
สตาร์ผู้แจ้งเกิดกับทีมชาติ โมร็อกโก ในศึก ฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 ผู้ซึ่งได้รับการจับตาจากหลายทีมทั่วยุโรป โดยมี ลิเวอร์พูล ส่องความเป็นไปได้ในการคว้าตัว โซฟียาน อัมราบัต จาก ฟิออเรนตินา เช่นเดียวกัน
สัญญาฉบับปัจจุบันของมิดฟิลด์วัย 26 ปีกับต้นสังกัดจะสิ้นสุดลงในซัมเมอร์ 2024 นั่นทำให้มีความเสี่ยงที่พลพรรค ม่วงมหากาฬ จะเสียเขาไปแบบไร้ค่าตัวหากไม่รีบตัดสินใจในอนาคตของแข้งรายนี้ โดยนอกจาก ลิเวอร์พูล ที่จ้องดีล อัมราบัต ตาเป็นมันยังมี บาร์เซโลนา และ แอตเลติโก มาดริด ที่พิจารณาคว้าตัวเขาด้วยเช่นกัน
3. ดีแคลน ไรซ์ – เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ดีแคลน ไรซ์ ในวัยเพียง 23 ปีก้าวขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ระดับกระดูกสันหลังของทั้ง เวสต์แฮม และ ทีมชาติอังกฤษ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวเคยหล่นคำให้สัมภาษณ์ว่าต้องการวาดลวดลายในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งอันดับที่ 17 บนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ของทัพ ขุนค้อน ในเวลานี้ไม่อาจมอบสิ่งที่เจ้าตัวต้องการได้
นอกจาก ลิเวอร์พูล ที่ตกเป็นข่าวโยงกับ ไรซ์ ต่อเนื่องแล้วเหล่าบิ๊กทีมหัวตารางบนลีกสูงสุดทั้ง เชลซี อดีตต้นสังกัด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังคงจับตาสถานการณ์ไม่ห่าง
4. คูอาดิโอ โคเน – โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค
มิดฟิลด์ชาว ฝรั่งเศส เป็นกำลังหลักของ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค นับตั้งแต่ย้ายจาก ตูลูส แห่งลีก เดอซ์ เมืองน้ำหอมฤดูกาล 2021/22 ผลงานของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ทำให้ไปเตะตาบิ๊กทีมทั่วยุโรป โดยรายงานจาก มีเดียฟุต ชี้ว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มี คูอาดิโอ โคเน อยู่ในลิสต์เสริมทัพ ขณะที่ นิวคาสเซิล เคยถูกบอกปัดข้อเสนอมูลค่า 35 ล้านยูโร (ราว 30 ล้านปอนด์) เมื่อซัมเมอร์ก่อน และคาดการณ์ว่าราคาค่าตัวของเขาจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปกว่าเดิม
รายงานล่าสุดของ ฟาบริซิโอ โรมาโน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความสนใจาก เปแอสเช ขณะที่ทัพ สาลิกาดง ก็จับตาไม่ห่าง รวมไปถึงบิ๊กทีม บุนเดสลีกา อย่าง เรอัล มาดริด เช่นเดียวกัน ขณะที่จุดเด่นด้านความแข็งแกร่งของร่างกาย ความขยันในการวิ่งไล่ล่าบีบพื้นที่ก็ทำให้เขาเป็นมิดฟิลด์ในอุดมคติของฟุตบอล เกเก้นเพรสซิง โดย เยอร์เก้น คล็อปป์
5. คิม มิน-แจ – นาโปลี
ข่าวลือซื้อขายนักฟุตบอล คนสุดท้าย ปราการหลังทีมชาติ เกาหลีใต้ ยกระดับกลายเป็นคีย์แมนของ นาโปลี ได้ทันทีหลังย้ายมาจาก เฟเนร์บาห์เช ภายใต้มูลค่าราว 18 ล้านยูโร (ราว 15.8 ล้านปอนด์) กลายเป็นตัวแทนของ คาลิดู คูลิบาลี ชนิดไร้รอยต่อ
ประเด็น คิม มิน-แจ กับ ลิเวอร์พูล ถูกปูดขึ้นเมื่อคีย์แมนในแนวรับอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจเอล มาติป ก้าวเข้าสู่อายุหลัก 31 ปีเท่ากัน โดยในรายหลังสัญญาฉบับปัจจุบันของเจ้าตัวกับต้นสังกัดจะสิ้นสุดลงในซัมเมอร์ 2024
อย่างไรก็ตาม รายงานจาก คอร์ริเอเร เดลโล สปอร์ต เปิดเผยว่าค่าฉีกสัญญาเซ็นเตอร์แบ็ควัย 26 ปีทีมชาติ เกาหลีใต้ กับ นาโปลี มีมูลค่าราว 44-71 ล้านปอนด์ซึ่งจะมีผลในช่วง 2 สัปดาห์แรกของตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ในเดือนกรกฎาคม
0 notes
Text
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ 3 ประเด็นหลัง เปิดรังหลอน บอร์นมัธ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกม ล่าสุด ที่พวกเขาสามารถ เอาชนะ บอร์นมัธ ด้วยสกอร์ 3-0 แต่ในเกมนี้ มีประเด็นที่น่าติดตาม ซึ่ง วันนี้ ทางทีมงานจะพาทุกท่าน ไปติดตาม 3 ประเด็นสำคัญของเกมนี้ จะมีสถิติอะไรที่น่าติดตาม บ้าง เราไปชมกันเลย
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ยอดเยี่ยม
ชัยชนะเหนือ บอร์นมัธ ในเกมล่าสุด ด้วยสกอร์ 3-0 ส่งผลให้ทัพ ปีศาจแดง คว้าชัยแบบต่อเนื่องที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เป็นเกมที่ 7 แล้ว ร่วมทุกราย โดยถือว่า เป็นครั้งแรกเลยของทัพ ปีศาจแดง นับตั้งแต่ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยทำไว้ในฤดูกาล 2017/2018 (9 นัด)
นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงยืดสถิติไม่เคยทำ 3 แต้มตกหล่นเลยสักนัดเดียว เมื่อพวกเขาออกนำคู่แข่งก่อน ซึ่งเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
นำคู่แข่งก่อน: 11 นัด
จบเกมด้วยการคว้าชัย: 11 นัด
ทำแต้มตกหล่น: 0 แต้ม
– โชคไม่ดีของ ฟาน เดอ เบ็ค
ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางดัตช์ วัย 25 ปี ลงเล่นเป็นเกมที่ 7 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และเป็นการออกสตาร์ทตัวจริงนัดที่ 2 ของเขา
เทน ฮาก ให้เขาลงเล่นในฐานะตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 10 เขาพยายามลิงก์กับเพื่อนร่วมทีม พยายามเชื่อมเกม และ หาพื้นที่ดี แต่ความซวยก็มาเยือนเขาในครึ่งแรก เขาได้รับบาดเจ็บจากจังหวะที่ผู้เล่น บอร์นมัธ กะจะเสียบสกัดลูกบอล แต่มันไปโดนเข่าของ ฟาน เดอ เบ็ค จนทำให้เขาไม่สามารถเล่นต่อไปได้
“มันยังเร็วเกินไป (ที่จะให้คำตอบเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บว่าหนักแค่ไหน) เราต้องรอดูอีกทีและจากนั้นคุณถึงสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง”
“ทางทีมแพทย์กำลังทำงานอยู่ แต่อาการมันดูไม่ค่อยดีเอาเสียเลย สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ดอนนี่ นั้น มันแย่ แต่มันก็จะเป็นข่าวร้ายสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นกัน หากอาการบาดเจ็บมันรุนแรง”
– ชอว์แบร์โต้ คาร์ลอส หวนคืนฟอร์มอีกครั้ง
ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แปลงร่างเป็น ชอว์แบร์โต้ คาร์ลอส อีกครั้ง นัดนี้เขาสตาร์ทตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย หลังก่อนหน้านี้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กฝั่งซ้าย ซึ่งโชว์ฟอร์มได้��ฉไลสุดๆ
เขาโดดเด่นอย่างมาก เฉพาะอย่างยิ่งประตูที่สอง และประตูที่สามของทีม จัดเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้เข้าตากรรมการ
ในแง่เกมรุก เขาจ่ายบอลแบบได้เสียให้เพื่อนมีโอกาสลุ้นทำประตูไป 3 ครั้ง (คีย์พาส) ส่วนในแง่เกมรับ เขาแท็คเกิ้ลไป 1 และ เคลียร์บอลไปอีก 3 ครั้ง
0 notes
Text
ผลบอล ลิเวอร์พูล 3 ประเด็นสำคัญหลัง หงส์แดง บุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด

เมื่อคืนที่ผ่านมา ผลบอล ลิเวอร์พูล บุกไปปราชัยให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่งฝั่งเจ้าบ้าน คว้า 3 คะแนนไปครองได้สำเร็จ โดยในเกมนี้เองมีประเด็นน่าจับตาหลายอย่าง ซึ่งวันนี้ ทางทีมงาน จะพาทุกท่านไปติดตาม 3 ประเด็น หงส์แดง ในเกมนี้ จะมีประเด็นอะไรน่าติดตามบ้าง ไปชมพร้อมๆกันเลย
– หงส์แดง เปลี่ยนแปลงไป 3 ตำแหน่ง จากแมตช์ก่อน
สำหรับ ลิเวอร์พูล หากเทียบจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่เฝ้าบ้านชนะ เลสเตอร์ 2-1 เมื่อวันศุกร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ โรเตชั่นทีมสามจุดเพื่อรักษาความสดจากการลงเล่นในช่วงโปรแกรมหฤโหด
ในจำนวนนี้ คอสตาส ซิมิคาส , อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ฟาบินโญ่ ที่เกมชนะ เดอะ ฟ็อกซ์ หายหน้าไปเนื่องจากลูกชายคลอดได้ลงเล่นเป็น 11 คนแรกก่อนหน้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ไม่ฟิตเต็มร้อย , โฌแอล มาติป และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยในรายของกัปตัน เฮนโด้ มีปัญหาได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
ขณะเดียวกัน โกนาเต้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดรองแชมป์โลก 2022 ได้ลงสนามให้ต้นสังกัดเป็นนัดแรกด้วยนับตั้งแต่กลับมาจากทัวร์นาเมนต์สำคัญที่ กาตาร์
– อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงสนามครบ 100 นัด
จากการประกาศรายชื่อทีมของ เร้ด แมชีน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ยังอยู่ในโผตัวจริงต่อจึงทำให้อดีตขุนพล อาร์เซน่อล ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ เร้ด แมชีน เป็นเกมที่ 100 พอดี
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นการลงเล่นเกมลีกให้ต้นสังกัดในฐานะตัวจริงติดต่อกันของเขาสามนัดรวดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2020 ซึ่งคราวนั้น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกหกเกมติดต่อกัน
– เบรนท์ฟอร์ด ที่ไม่มี โทนีย์ ยืนหน้าเป้า
เบรนท์ฟอร์ด หนีไม่พ้นได้รับข่าวร้ายเนื่องจาก โทนีย์ กองหน้าตัวอันตรายมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่สามารถลงเล่นได้ ผลบอล ลิเวอร์พูล
ต่อปัญหาดังกล่าว โธมัส แฟรงค์ กุนซือชาว เดนมาร์ค ตัดสินใจส่ง โยอัน วิสซ่า ลงเล่นแทนศูนย์หน้าอิงลิช ขณะที่การปรับทัพอีกจุดจากเกมบุกทุบ เวสต์แฮม 2-0 คือการใช้งาน วิทาลีย์ ฌาเนลต์ แทน จอช ดาซิลวา
กับการปราศจาก โทนีย์ ที่เจ็บเข่าเล็กน้อยถือเป็นข่าวดีที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เบาใจไปได้เยอะเนื่องจากถึงขณะนี้สตาร์ผิวสีซัดประตูในลีกซีซั่นนี้ได้ 12 ลูกแล้วเท่ากับสถิติตลอดซีซั่นก่อนของเขาจึงต้องถือว่าเจ้าตัวกำลังเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มโดยแท้
0 notes
Text
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่อได้เจ้าของใหม่ต้นปีหน้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใกล้จะได้เจ้าของใหม่เต็มทีแล้ว โดยทางด้าน ตระกูล เกลเซอร์ พร้อมขายสโมสรอย่างแน่นอน โดยไม่คิดเปลี่ยนใจ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตกอยู่ในกำมือของ ตระกูล เกลเซอร์ เป็นเวลากว่า 17 ปีแล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้ว แฟนบอลของทัพ ปีศาจแดง คงจะได้ยินข่าวดีมาไม่น้อยแล้ว
เมื่อ ตระกูล เกลเซอร์ ได้ประกาศขายสโมสรซึ่งเป็นสิ่งที่กองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ เฝ้ารอมานานแล้ว และพยายามประท้วงเจ้าของทีมต่างแดนหลายรอบ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะประสบผลสำเร็จ
ต่อการประกาศขายทีมของตระกูล เกลเซอร์ ส่งผลให้ ปีศาจแดง ถูกลือกับกลุ่มทุนหลายเจ้าทั้งจาก ซาอุดิ อาระเบีย , กาตาร์ , เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เศรษฐีชาว อังกฤษ ที่รวยที่สุด ,อมานซิโอ ออร์เตก้า เจ้าของแบรนด์แฟชั่น ซาร่า , แอปเปิ้ล และ แอมะซอน เป็นต้น
กระทั่งล่าสุดเมื่อ 29 ธ.ค. เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวจาก ดิ แอธเลติก เผยว่า เกลเซอร์ น่าจะขายสโมสรได้ในช่วงต้นปีหลังนักธุรกิจชาวแยงกี้ถูกประเมินว่าต้องการรับทรัพย์ก้อนโต 6-7 พันล้านปอนด์ แถมมีข่าวลือตามมาหมาดๆอีกว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือดัตช์จะไม่ได้รับงบให้ชอปปิ้งในตลาดหน้าหนาวเนื่องจากสโมสรอยู่ในระหว่างรอการเปลี่ยนเจ้าของใหม่ และ ต้องใช้วิธียืมนักเตะมาเสริมทัพ
อย่างไรก็ตาม “เรน แบงค์” ซึ่งดูแลกระบวนการตั้งเป้าขายทัพ ปีศาจแดง ได้เปิดเผยว่า “ตระกูล เกลเซอร์ ไม่คิดคัดค้านการปิดดีลให้ได้ในช่วงนั้น มันน่าจะเกิดขึ้นเร็ว และจะเป็นประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะแฟนบอลหลายรายต้องการความเปลี่ยนแปลงนี้”
“หาก เรน แบงค์ ดำเนินขั้นตอนได้อย่างลุล่วง มันก็จะเป็นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่เราจะได้เห็นว่าใครจะเข้ามาบริหารเพื่อทีมมุ่งสู่อนาคต”
0 notes