Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
[LEXNO Special ] I’ll do anything you want me to do 18+
พี่เจย์ไม่ทักมาเลย
หรือว่าจะพูดแรงไปจริงๆ ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย เรนรู้ว่าครั้งนี้เขาเองที่เป็นฝ่ายผิด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเขากับพี่เจย์ถึงคุยกันดีๆเหมือนคู่รักคนอื่นๆไม่ได้เลย คุยกันได้ไม่ถึงชั่วโมง ทะเลาะกันอีกแล้ว เป็นแบบนี้มาตลอด
ในขณะที่เดินเลือกช็อคโกแลตเรนก็ยังคงคิดทบทวนในสิ่งที่ตนได้ทำไปตลอดทาง จนเพื่อนอย่างมิสเองต้องเรียกสติ
“เรน นั่นมันชาเขียว พี่เจย์ไม่ชอบชาเขียวนี่?”
“อ่าว จริงด้วย”
เรนพูดจบพร้อมวางกล่องช็อคโกแลตชาเขียวที่หยิบขึ้นมาเมื่อครู่ลง แย่แล้วสิ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย
“ไหวไหมเนี่ย?”
“หืม อ่า อืมๆ เอาอันนี้ละกัน”
เรนเลือกดาร์กช็อคโกแลตมาสองกล่อง เป็นแค่ช็อคโกแลตธรรมดา ไม่ได้แพงหรือยิ่งใหญ่มากมาย แต่ก็คิดเหมือนกันว่าพี่เจย์จะชอบมันไหม มันจะเพียงพอหรือเปล่า นี่มันของขวัญวันครบรอบเลยนะ ทำยังไงดีล่ะ แถมตอนนี้พี่เจย์เองก็เงียบหายไปเลย ปกติจะต้องมาวุ่นวายแล้ว เรนรู้สึกกังวล
“เรน แล้วมึงจะกลับไปนอนกับพี่เจย์ไหม?”
“อืม กลับ แต่ว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะคุยอะไร”
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง เอาของขวัญไปด้วย”
“ขอบใจ”
มิสมาส่งเพื่อนรักที่คอนโด หลังจากร่ำลากันเรียบร้อยก็ขับรถกลับทันที เรนกลับมาด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เจย์กำลังทำอะไรอยู่ เพราะไม่ได้บอกแฟนหนุ่มของเขาไว้ว่าจะกลับมานอนด้วย อาจจะหลับไปแล้วก็ได้ เพราะนี่มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ที่จริงแล้วเรนเลือกที่จะกลับในเวลานี้เพราะพี่เจย์อาจจะหลับไปแล้ว ง่ายตอนการเลี่ยงการทะเลาะ
คนตัวเล็กค่อยๆเปิดประตูเข้ามาอย่างระวัง กลัวว่าจะเสียงดังรบกวนคนในบ้าน เรนเข้าไปในห้องครัวเพื่อจะเก็บกล่องช็อคโกแลตไว้ในตู้เย็นเพื่อรอที่จะให้คู่ชีวิตของเขาในตอนเช้า แล้วค่อยหาทางง้อทีหลัง
ถ้วยจ้านในครัวถูกล้างและจัดเรียงไว้อย่างเรียบร้อย โดยที่เขาไม่ต้องคอยสั่งคอยบอก มีไวน์แดงและผลไม้กับเนื้อสำหรับสองคนแช่ไว้ในตู้เย็น ทั้งหมดล้วนแต่เป็นของที่เรนไม่ได้เป็นคนเตรียมไว้ พี่เจย์เป็นคนซื้อเข้ามาทั้งหมด ทำเอาเรนยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีกที่วันนี้พูดจาไม่น่ารักใส่พี่เขาไปแบบนั้น เราพูดอะไรออกไปกันนะ ทำให้พี่เจย์เสียใจจนได้
หลังจากเก็บของที่ซื้อมาเข้าที่จนเรียบร้อย เรนก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนกับคนที่อยู่ด้วย คนตัวเล็กในชุดนอนกับผมที่เปียกจากการสระค่อยๆย่องไปเปิดประตูห้องนอนเพื่อเตรียมเข้านอน โดยที่พี่เจย์เองก็หลับอยู่บนเตียง เรนเดินไปนั่งบนเตียงและจ้องมองไปที่ผู้ชายตัวใหญ่ที่กำลังหลับอยู่บนเตียงกับมือถือที่เปิดหนังรักค้างไว้
“ตอนหลับนิ่งๆก็เท่อยู่นะ”
เรนลูบเบาๆไปที่ปรอยผมคนรักของเขา และใช้นิ้วชี้เล็กๆเขี่ยไปมาที่ข้างแก้มของพี่เจย์ สัม��ัสจากนิ้วมือค่อยๆเลื่อนไปที่สันกราม สันจมูก ดวงตา และปาก พี่เจย์หล่อชะมัด
“ขอโทษนะครับ วันนี้เรนไม่น่ารักกับพี่อีกแล้ว”
เรนพูดฮึมฮัมอยู่ในลำคอเบาๆ พร้อมกับค่อยๆปิดไฟเพื่อเตรียมเข้านอนข้างๆคนที่กำลังหลับ
“พี่เคยบอกว่าไง ผมเปียกแบบนั้นเดี๋ยวก็ป่วยหรอก”
“....”
อยู่ดีๆก็มีเสียงทุ้มต้ำดังขึ้นจากความเงียบสงบ
“ยังไม่นอนนี่..”
“นอนแล้ว แต่ตื่นแล้ว”
เจย์ลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดไฟหรี่ในห้องในระดับอ่อน ให้พอมองเห็นเด็กผมเปียกข้างๆ เรนค่อนข้างตกใจที่รู้ว่าตัวเขายังไม่ได้หลับ
“หายโกรธพี่ยัง?”
เจย์พูดขึ้นในขณะที่กำลังเปิดเก๊ะเพื่อหยิบไดร์เป่าผมเตรียมจะมาเป่าให้เด็กดื้อที่ไม่ยอมเป่าผมนอน
“ไม่ได้โกรธ แค่..ที่จริง..เรนเป็นคนผิด”
“มานั่งนี่เร็ว เป่าผมก่อน”
เจย์ตบลงไปที่หน้าตักของเขา ปกติก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้หรอก แต่บรรยากาศมันเหมาะที่จะทำมัน แถมในตอนนี้เรนเองก็อ่อนลงจากปกติเยอะ นานๆทีเป่าผมให้น้องก็ไม่เลว ทางด้านเรนเองก็เชื่อฟังอย่างไม่มีข้อแม้
“ขอโทษ”
“หืม ว่าไงนะ?”
เสียงไดร์เป่าผมดังเกินไป ทำให้เจย์ไม่ได้ยินว่าคนบนตัวกำลังพูดอะไรอยู่ เขาจึงปิดไดร์เป่าผม เพื่อให้เรนพูดอีกรอบ
“ขอโทษครับ เรนไม่ได้ตั้งใจจะพูดไปแบบนั้น”
“อ่อ ไม่เป็นไร พี่ไม่โกรธหรอก”
“โกรธหน่อยสิ”
เรนหันไปบอกคนพี่ด้วยใบหน้าหมาน้อยที่กำลังรู้สึกผิด ให้ตายสิ รู้ตัวไหมว่าน่าเอ็นดูขนาดไหนตัวเล็ก
“พี่เองก็ผิด พี่มันสุดโต่งเกินไป หลายครั้งเรนก็ต้องอดทนใช่ไหมล��ะ?”
“ที่จริงเรนไม่ได้อยากทะเลาะกับพี่เลยนะ แต่ไม่รู้ทำไม เรนคุมตัวเองไม่ได้เลย”
“ปกติเรนไม่ได้เป็นกับคนอื่นใช่ไหมล่ะ เป็นกับพี่คนเดียวนี่”
“ใช่ ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย”
เรนพูดจบก็พิงศีรษะไปที่ไหล่ของคนรักทันที
“พี่เจย์ เรนขอโทษนะ”
เขาไม่เคยโกรธเรนเลย แม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าเรนจะงี่เง่าแค่ไหน แต่น้องจะรู้ผิดถูกเสมอ เขาชอบช่วงเวลาหลังทะเลาะกับเรนที่สุด เพราะน้องจะกลายเป็นเด็กที่น่ารักเสมอ มันทำให้เขารู้สึกว่าไม่ว่ายังไงเรนก็ยังทำให้เขารักได้โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย เจย์โอบกอดคนบนตัวแน่น มือข้างนึงลูบหัวเด็กน้อยตรงหน้าไปมา
“วันใหม่แล้วนี่ ฉลองวันครบรอบกัน”
“ไม่ง่วงเหรอ เราพึ่งกลับมานี่”
“นะครับ”
“....”
เรนอ้อนด้วยน้ำเสียงหวาน ทำเอาเจย์เองต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ น้องไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยนัก แต่พอเป็นทีไรหัวใจเขามันเต้นแรงจนแทบจะระเบิด
“แต่พี่ว่ามันกินได้แค่ไวน์นะ ตอนนี้มันดึกเกินจะทำอะไรหนักๆกิน”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องใช้ไวน์หรอก”
เรนลุกไปหยิบกล่องช็อคโกแลตที่ซื้อมาละลายใส่ถ้วยพร้อมกับผลไม้ที่พี่เจย์ซื้อมาหั่นเป็นฟองดู และจัดโต๊ะแบบดินเนอร์ด้วยการจุดเทียนกลางโต๊ะ
“ดินเนอร์ชุดนอนเนี่ยนะ ถามจริงเรน!!!”
“ฮ่าๆ ไม่ได้เหรอ ปีนี้ไม่ใช่ที่สาธารณะนะ”
“ที่จริงพี่กะว่าจะไม่เซอร์ไพรส์อะไรเลย แล้วทำแบบนี้แหละ”
“ที่จริงเรนชอบแบบนี้นะ พี่เจย์ไม่ต้องไปเล่นใหญ่ให้เหนื่อยหรอก”
“มีแค่พี่เจย์ตรงหน้าคนเดียวก็พอ”
เจย์ยิ้มชอบใจ ก่อนหน้านี้จะเล่นใหญ่ให้เหนื่อยไปทำไม ถ้าเรนจะชอบอะไรแค่นี้ เป็นส่วนตัวแถมน้องยังตามใจอีก เรนหยิบองุ่นชุบกับดาร์กช็อคโกแลตป้อนให้กับพี่เจย์ มันช่างเป็นคืนที่แสนจะธรรมดา แต่มันอบอุ่นหัวใจและมีความสุขไม่แพ้วันแต่งงานเมื่อปีที่แล้วเลย
“เรน ช็อคโกแลตติด..”
“หะ?”
“มาใกล้ๆ พี่จะปัดออกให้”
เด็กน้อยยื่นใบหน้าเข้าไปหาเจย์เพื่อจะให้เจย์เช็ดคราบช็อคโกแลตออกให้ หนุ่มวัย 30 ดึงตัวคนรักเข้ามาหาตัวพร้อมกับเลียไปที่คราบช็อคโกแลตข้างปากเด็กน้อยจนหมด และเริ่มกดจูบเบาๆไปที่ริมฝีปากจนเรนเองก็เริ่มขยับตัวออก
“พี่เจย์!”
“ก็มันเลอะ”
เดี๋ยวนะ...
“นานๆที อ้อนพี่เจย์บ้างก็ได้เรน พี่เจย์อาจจะเสียอาการเลยก็ได้ น่าสนุกดีออก”
อยู่ๆคำพูดของมิสเพื่อนรักก็ดังอยู่ในหัวของเรนขึ้นมาทันที มาสิ ลองดูกันซักตั้ง
เรนหยิบถ้วยช็อคโกแลตที่ละลายแล้วมาปาดบนริมฝีปากและลำคอ จนคนตรงหน้าเห็นยังตกใจแทบตาค้าง
“พี่เจย์ ดูนี่เร็ว..มันเลอะ”
“...”
เจย์ทำตัวไม่ถูก เขาไม่คิดว่าเรนจะทำขนาดนี้ ไม่คิดมาก่อนจริงๆ เขากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ และมีอาการใบหูแดง เขาก้มหน้าเอามือปิดตาพร้อมกับเม้มปากมองไปทางอื่นจนคนน้องสังเกตเห็นอาการแปลกๆนั่น
“นี่พี่เจย์ ทำแบบเมื่อกี้อีกได้มั้ย?”
เรนลุกไปหาพี่คนตรงหน้าพร้อมกับนั่งลงไปที่หน้าตักของเจย์ ใบหน้าและลำคัวขยับเข้าไปใกล้เจย์จนเขาสังเกตได้ว่าเสียงหัวใจของเจย์ดังมากจนไม่เป็นจังหวะ
เจย์ยังคงไม่พูดไม่จาได้แต่เม้มปากหันหลบท่าเดียว ไม่เคยเห็นพี่เจย์เป็นแบบนี้มาก่อนเลย เรนเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เขาเองก็ใจเต้นไม่แพ้คนตรงหน้าเลย เรนเริ่มขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆและจับมือพี่เจย์ขึ้นมา เด็กน้อยใช้ลิ้��ดื้อๆค่อยๆดูดและเลียไปที่นิ้วมือของคนเป็นพี่ จนเจย์เองก็แทบทนไม่ไหว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
“เรน ใครสอนเนี่ย?”
“ไม่บอก”
“บอกมา..”
“ก็ในหนังที่พี่ดูค้างไว้ไง ก็คิดว่าพี่เจย์อาจจะชอบแบบนี้”
ให้ตายเหอะ นี่มันเกินไปแล้วเรน เกินไป
เจย์อุ้มเด็กน้อยบนตักไปที่เตียงพร้อมกับปลดกระดุมชุดนอนของน้องจนเห็นร่างบางๆของเรน ไหนจะกลิ่นช็อคโกแลตที่ผสมกับสบู่นั่นอีก ใครทนก็ทนไป แต่เจย์คนนี่ขอไม่ทน
“มีอะไรจะสั่งเสียก่อนมีความสุขจนตายไหมเรน?”
“อือ รักพี่เจย์”
นี่มันใครกันเนี่ย ไม่ใช่แล้ว จะฆ่ากันหรือไงเรน เจย์ก้มลงเลียไปที่คราบช็อคโกแลตทั้งหมดบนตัวของเด็กดื้อใต้ร่าง ไม่พอ แต่นี้ไม่พอ เจย์ลุกไปหยิบถ้วยช็อคโกแลตมาและเทลงไปเพิ่มจนเรนเองก็ตกใจ
“พี่เจย์ เตียงเลอะแน่เลย เราจะนอนไหนกันคืนนี้”
“ใครบอกว่าพี่จะให้นอนอ่ะ”
เจย์บรรจงสัมผัสไปที่ร่างบางของคนรัก เขาทั้งจูบทั้งเล้าโลมร่างกายของเรนจนมีเสียงจูบดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน นี่มันเกินคาด เกินคาดไปจริงๆ
“อาา ..พะ พี่เจย์ ยะ หยุดก่อน..”
“หืม?”
“มันเหนียว ไม่ชอบ..”
เจย์ได้ยินเช่นนั้น เขาอุ้มคนรักตัวน้อยออกจากเตียงไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างตัวจากคราบช็อคโกแลต ที่จริงเขาก็ไม่ได้มีงานอดิเรกอะไรแบบนี้หรอก แต่บรรยากาศมันพาไป มันก็ตื่นเต้นแปลกๆเหมือนกัน
“ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
เรนมองไปที่ส่วนนั้นของเจย์ ก็พอดูออกว่าตอนนี้คนของเขากำลังอดทนอยู่ไม่น้อยจากการรอล้างตัว น่ารักจัง พี่เจย์วันนี้ดูสุขุมกว่าทุกวัน ไม่รู้ว่าพี่เขาคิดอะไรอยู่ แต่เรนสำผัสได้ว่าสายตาของพี่เจย์มันเปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมือนจะดูมีเสน่ห์ขึ้น อาจเป็นเพราะพี่เจย์ทำตัวไม่ถูกก็ได้
“พี่เจย์ครับ”
“ครับ?”
“พี่อยากได้อะไรหรือเปล่า?”
“หืม? หมายถึงยังไง?”
“คืนนี้ เรนจะตามใจพี่ทุกอย่าง”
อาาา เด็กนี่ รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา
“ให้เรน..ใช้ปาก..ให้มั้ย?”
“อ่า ไม่ต้องครับ”
เด็กน้อยหน้าหงอ เขาก็พยายามเต็มที่แล้ว แต่ว่าพี่เจย์ไม่ต้องการมัน..
“พี่รอไม่ไหวหรอก อยากได้มากกว่านั้น”
“ที่จริง ตอนอาบน้ำ.. เรน เตรียมตัว ไว้แล้ว..”
พระเจ้า นี่มันวันอะไรกันเนี่ย บอกทีว่าผมฝันอยู่
“พี่เจย์..แบบว่า..อ๊ะ”
เจย์อุ้มเด็กน้องขึ้นไปติดกับกำแพงห้องน้ำ และดันตัวเองเพื่อค้ำตัวน้องไว้ไม่ให้ล้ม เขาจับเรียวขาเล็กๆยกขึ้นเบาๆพร้อมกับดันตัวเองเข้าไปสัมผัสกับจุดอ่อนไหว จนสังเกตเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้าเริ่มมีอาการ��ขินอายจากการกระทำของเขา
“พี่..เจย์ คือ..ท่ามัน..”
“เรนอย่าก้มหน้า ขอดูหน้าหน่อยครับ”
เรนยังคงเขินอาย นี่มันแปลกใหม่เกินไป เขารู้สึกแปลกๆ มันเกินไป ไม่ไหว เขินจนจะตายอยู่แล้ว ให้ตายสิ ไม่ไหวแล้ว
“เรน มองหน้าพี่ เร็ว”
“ไม่ ไม่เอา”
เจย์รู้สึกตื่นเต้นจนอยากแกล้งให้เด็กตรงหน้าเขินมากกว่านี้ เขาขยับไปหน้าเข้าไปที่ใบหูของเด็กตรงหน้า ลมหายใจหอบค่อยๆรดไปที่ต้นคอและใบหูแดงของเด็กน้อย หลังจากนั้น เสียงกระซิบที่ทุ้มต่ำของเจย์ก็ค่อยๆดังขึ้น
“เรน”
“?”
“พี่ กำ ลัง จะ ดัน มัน”
“...”
“เข้า ไป แบบ นี้”
“อ๊ะ”
คนแก่ขี้แกล้งเริ่มจัดการส่งความสุขไปที่คนรักตัวน้อย เขาแกล้งดันเข้าออกไปมาจนขาเล็กๆของเด็กน้อยไม่มีแรงยืน เรนร้องเสียงหลงจนเจย์เองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้นี่นา
ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาเรนจะกลับไปเป็นแบบเดิมไหม ตอนนี้ขอมีความสุขหน่อยก็แล้วกัน เพราะการทะเลาะกันมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่เนอะ ดีจะตายไป
Mie : ขอบคุณค่ะ ;—;
2 notes
·
View notes
Text
Markmeanmiguel
ขณะนี้เป็นเวลาห้าทุ่มห้าสิบห้านาที มีนเองกำลังเตรียมของเพื่อไปห้องข้างๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาตื่นเต้นและกลัวขนาดไหน เพราะนี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาไปหาแฝดด้วยจุดประสงค์อย่างอื่น ซึ่งมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก
แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ในเมื่อมันก็เป็นเรื่องปกติดของคนรักกัน เขาแค่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำให้ฝาแฝดคู่นี้พึงพอใจในตัวเขาได้ แล้วยิ่งลำบากเข้าไปอีก เมื่อนี่คือการมีแฟนครั้งแรกของเขา ไม่ใช่ว่ามีนไม่ได้อยากทำมันหรอก เขาหาข้อมูลมามากมายจนตื่นเต้นไปหมด
“เฮ���อ เอาวะ..”
มีนรวบรวมความกล้าตัดสินใจเดินเข้าไปห้องแฝดทันที เสียงกดรหัสดังขึ้น ประตูห้องค่อยๆเปิดกับหัวใจที่กำลังเต้นแรงดังตึกตักด้วยความตื่นเต้น มีนค่อยๆเดินเข้ามาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ
“อุ๊บ!”
“ขำอะไรมิเกล?”
“ป่าว ทำไมเดินอย่างนั้นอ่ะ?”
“อย่างไหน ก็เดินปกติ”
“เหมือนเพนกวิ้นเลยมีน”
“ไอ้มาร์ค!!”
“มานี่เร็วมีน มานั่งนี่”
มาร์คและมิเกลมองท่าทางของคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู มีนก็น่ารักแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มิเกลตบเตียงเรียกมีนมานั่งตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ทางด้านมีนเองก็ค่อยๆเดินมานั่งด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ เหมือนเดิม
“ยะ อย่าเงียบกันได้ไหมไอ้แฝด...”
“ตื่นเต้นเหรอครับ?”
มาร์คถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“กะ ก็ใช่น่ะสิ ใครไม่ตื่นเต้นกันบ้างล่ะ”
“ก็..”
“แกสองคนเคยแล้วก็พูดได้ดิ!!”
“ใครบอกมาร์คไม่ตื่นเต้น”
“มิเกลก็โคตรตื่นเต้นเลย มีนลองจับดูดิ”
“จับของมาร์คด้วย เห็นไหมว่าตื่นเต้นขนาดไหน”
มิเกลพูดจบก็เอื้อมมือไปจับมือข้างขวาของมีนมาแตะที่อกเพื่อฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุดของเขาในตอนนี้ส่วนมาร์คเองก็ไม่รอช้า คว้ามือข้างซ้ายของหวานใจมาจับที่หน้าอกข้างซ้ายเช่นกัน
มีนหน้าแดงเป็นมะเขือเทศอีกเช่นเคย ทั้งเขินทั้งอายทำอะไรไม่ถูก แม้กระทั่งว่าจะวางมือตัวเองไว้ตรงไหนมีนเองก็ก็ยังไม่รู้ เขาได้แต่กำมือพยายามจะเอาออกจากหน้าอกของทั้งคู่ ใบหน้าเขินอายจนไม่เป็นตัวเอง ทั้งเม้มปากเกร็ง มือเท้าเย็น ดวงตามองขึ้นลงไปมา ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน
“มะ ไม่ไหวแล้ว ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ..”
มีนทนอาการตื่นเต้นไม่ไหว รีบลูกหนีไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำทันที ไม่ไหว ไม่ว่ายังไงก็ไม่ไหว ไม่ได้จริงๆ ต่อให้เตรียมตัวมาแค่ไหนก็เถอะ แต่พอต้องเข้าหน้าจริงๆ เขากลับเขินอายสุดๆ ทำตัวไม่ถูกจริงๆ
หนีไปจากตรงนี้เลยได้ไหมนะ..
“มิเกล เอาไงดีวะ มีนทำกูตื่นเต้นไปด้วยเลยเนี่ย”
“กูด้วย มันจะพังไม่เป็นท่าไหม”
“แม่งไม่ธรรมชาติเลยโว้ย”
“กลัวกับเขินมันต่างกันเว้ย อันนี้อ่ะดูออกว่ามีนเขิน มึงเชื่อกูไอ้มาร์ค”
“มึงๆ ออกมาแล้วๆๆ เงียบ!”
เมื่อมีนออกมาจากห้องน้ำ แฝดก็เก็บอาการตื่นเต้นได้ทันท่วงที มีนตัดสินใจกลับมานั่งที่เดิม พร้อมกับถอนหายใจไปหนึ่งครั้ง
“มีนมานี่มา มานั่งตักมิเกล”
“แต่ว่า มาร์ค..”
แฝดหันมองหน้ากัน พร้อมกับ��กตัวมีนขึ้น มาร์คขยับตัวมาติ���กับมิเกล เพื่อให้มีนได้นั่งบนตักของทั้งสองคน มีนตกใจพร้อมกับส่งเสียงแปลกๆออกมา เพราะจู่ๆเจ้าแฝดตัวแสบได้ทำอะไรบางอย่างซะได้
“อ๊ะ... นี่ เดี๋ยวก่อน มิเกลทำอะไร!!”
“ทำให้มีนอายกว่าเดิม”
มิเกลค่อยๆเอื้อมใบหน้าไปที่ใบหูของมีนผู้เป็นที่รักของเขา และค่อยๆใช้ริมฝีปากสัมผัสกับใบหูและแก้มของคนตรงหน้า หลังจากนั้นจึงค่อยๆซุกไซร้เข้าไปที่ต้นคอยาว ประกบจูบไปมาจนคนตรงหน้ามีอาการขนลุกขึ้นมาทันที
ทางด้านมาร์คเองก็ใช่ว่าจะยอมที่ไหน มือหนาขยับเข้าไปในชายเสื้อคนตรงหน้าที่กำลังเขินอายจากการเล้าโลมของพี่ชายฝาแฝดตัวเอง มีนถึงกับหันไปมองมาร์คแทน ระหว่างนี้มาร์คได้หันไ��มองคนพี่เพื่อเป็นการขออนุญาตที่จะทำอะไรบางอย่าง มิเกลได้แต่มองและยักคิ้วให้เพื่อเป็นคำตอบ
“...มะ มาร์ค”
มาร์คประกบจูบลงไปบนริมฝีปากนุ่มของหวานใจ และค่อยๆใช้ลิ้นสัมผัสอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล โดยที่มีมิเกลคอยปลอบโยนอยู่ใกล้ๆ
“มีนเอนตัวลงมาหามิเกลหน่อยครับ”
มีนทิ้งตัวลงมาที่มิเกล โดยที่มาร์คเองก็ค่อยๆดันตัวมีนลงมาจากด้านบน มาร์คเริ่มที่จะจัดการถอดเสื้อของตัวเองออกมาทันที มิเกลก็เช่นกัน
“ดะ เดี๋ยว.. อ๊ะ”
มิเกลจับตัวมีนกลับด้านหันหน้าเข้าหาตัวเอง โดยที่มีนไม่ทันตั้งตัว มาร์คค่อยๆถอดกางเกงยีนตัวโปรดของมีนออกมาทันที ตอนนี้มีนกลับเหลือแค่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว บนร่างของแฝดพี่เขา เอาจริงๆมันก็แปลกดีเหมือนกัน ทั้งมาร์คและมิเกลก็เคยมีสัมพันธ์ทางร่างกายกับผู้หญิงมาบางครั้ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาทำแบบนี้กับแฟนตัวเองต่อหน้าแฝดตัวเอง แต่ทำไงได้ ในเมื่อมีนน่ารักขนาดนี้
“มาร์ค จะทำอะไร!!!!”
“กำลังจะทำให้มีนอาย”
มาร์คพูดจบก็ค่อยๆใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าขาและบั้นท้ายของคนตรงหน้า มีนทำตัวไม่ถูก เล็บมือบีบและจิกลงไปที่ไหล่ของมิเกลแน่น
“มีน มิเกลเจ็บนะ!!”
“มิเกล อ๊ะ มิเกลช่วยมีนด้วย ฮึก..”
“ครับๆ มาร์คนี่ใจร้ายมากเลย แกล้งมีนได้ไงกันนะ”
“มิเกลลล ฮึก....”
“เอ้า บทตัวร้ายกลายเป็นของมาร์คได้ไงเนี่ย?”
มาร์คพูดแซวเชิงตัดพ้อใส่ทั้งคู่ แต่มือก็ยังคงสัมผัสจุดสั่นไหวของหวานใจไปมาไม่หยุด แถมเจ้าตัวเริ่มขยับปลายนิ้วเข้าไปซุกคนใกล้ๆส่วนนั้นอีกต่างหาก
“อื้อ..”
“มีนอย่าเกร็ง”
“ก็มัน..แปลกๆ”
มีนยิ่งจิกมิเกลแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมิเกลเองต้องทำอะไรซักอย่าง แต่ว่าใบหน้าของมีนตอนนี้มันเป็นอะไร��ี่ปลุกกระตุ้นมิเกลมากๆ น่าเสียดายที่มาร์คมัวแต่วุ่นอยู่กับการเตรียมพร้อมจนต้องอดเห็นอะไรดีๆแบบนี้ มิเกลใช้มือทั้งสองข้างประสานกับมือคนด้านบน และค่อยๆจูบเบาๆเพื่อช่วยให้มีนหายเกร็ง แต่มีนยังคงเกร็งอยู่ดี แถมใช้ฟันนั่นกัดลงไปที่ปากของเขาอีกต่างหาก
“ซี๊ดดด!”
“มะ มิเกล มีนขอโทษ มิเกล!!”
“ไม่เป็นไรครับ”
มีนรู้สึกผิดที่ทำให้ปากมิเกลแตกจนได้ เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ถึงแม้ว่ามิเกลจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่มีนก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ดี
“มีนช่วยอะไรมิเกลอย่างนึงได้ป่าว?”
“?”
“เลียให้มิเกลหน่อยได้ไหมครับ?”
ตอนนี้สติมีนแทบไม่อยู่กับตัว หัวเขาโล่งไปหมด มันน่าอายชะมัดที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้แถมเป็นกับแฝดนี่อีก มีนกลั้นใจทำตามคำขอของมิเกล แม้ว่ามันจะน่าอาย แต่ในเมื่อคนรักขอ มันก็ไม่หนักหนาถ้าหาเขาจะยอมทำตาม
ลิ้นอุ่นๆค่อยๆเลียลงไปที่ริมฝีปากที่แตกจากการกัดด้วยความรู้สึกผิด ในขณะที่มาร์คเองก็ยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการเตรียมพร้อมของมีน
“มิเกล แบบนั้นแหละ เหมือนมีนจะเริ่มไม่เกร็งแล้ว มึงทำต่อไป ดีมาก กู๊ดจ๊อบ โบร๋ว์!”
เจ้าแฝดตัวแสบยกนิ้วโป้งให้กันอย่างภูมิใจ ทีอะไรแบบนี้ล่ะ สามัคคีกันเหลือเกิน มีนยังคงตกอยู่ในภวังค์รักของแฝดตัวแสบ ขาที่ยกขึ้นเองก็เริ่มจะหมดแรงทรงตัวไม่ไหว
“โอเค กูคิดว่าได้ละ”
มีนหมดแรงลงไปนอนบนร่างของแฝดผู้เป็นพี่ ลมหายใจหอบไปมามันทำให้ทั้งมาร์คและมิเกลเริ่มตื่นตัว ที่จริงมันก็ตื่นมาซักพักใหญ่แล้ว แต่หลังจากนี้เนี่ยสิ จะทำยังไงกันต่อ..
“มิเกลมึงก่อนเลย”
“ไม่ดิ มึงเป็นน้อง มึงก่อน”
“ใครก่อนก็ได้...”
“.....”
คนบนร่างมิเกลพูดลอยๆออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆเหมือนเจ้าตัวเองก็จะเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์เสียแล้ว
ทั้งมาร์คและมิเกลยังคงตกใจกับคำพูดของมีน ใครจะไปคิดกันล่ะว่ามีนจะเป็นคนพูดมันออกมา สุดท้ายมิเกลก็ตัดสินใจให้มาร์คก่อน เพราะเป็นน้อง ก็เหมือนตอนเด็กๆ มิเกลกับมาร์คเวลาที่มีของกินหรือขนมอะไรมักจะแบ่งให้กันคนละครึ่งตลอด พวกเขาไม่เคยแย่งกันเลย
แต่ตั้งแต่มีมีนเข้ามาในชีวิต ของกินและขนมทุกอย่าง เขาทั้งคู่จะยกให้มีนคนเดียวตลอด มาร์คเองก็เบื่อที่จะเกี่ยง เพราะเขาเองก็อยากเป็นเจ้าของมีนจนใจจะขาด ตอนนี้มีนเท่านั้นที่สำคัญกับพวกเขาที่สุด
“มีนครับ มานี่มา”
มาร์คอ้าแขนกว้างดึงลำตัวคนด้านล่างขึ้นมากอดแน่น พร้อมกับทิ้งตัวนอนลง���นพื้นที่ว่างของเตียง ก่อนจะจัดท่ามีนให้เข้าที่เข้าทาง โดยที่มิเกลก็ยังคงนอนจ้องทั้งคู่อยู่
“มีน ไม่ต้องเกร็งนะ มันจะเจ็บนิดนึง”
มาร์คแค่พูดให้มีนสบายใจเท่านั้น จริงๆเขารู้ว่าครั้งแรกมันจะต้องเจ็บมากแน่ๆ มาร์คจะพยายามทำให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ และยังคงไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับแฝดพี่ของเขาว่า ต่อให้จะอยากทำมากแค่ไหน ถ้ามีนไม่โอเคจะต้องหยุดทันที
หลังจากใส่ถุงยางเพื่อป้องกันเรียบร้อย เขาเริ่มสอดแทรกความเป็นตัวเองลงไปที่คนใต้ร่างเบาๆ และแน่นอนว่าสีหน้าของมีนดูเจ็บปวดทรมานอย่างเห็นได้ชัด เจ้าตัวกัดปากแน่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาเริ่มคลอออกมาทีละนิด
“มีนอดทนนิดนึงนะ หลังจากนี้มันจะค่อยๆรู้สึกดีขึ้น นะครับ”
“ฮึก.. เจ็บ มาร์ค มีนเจ็บ”
มาร์คเริ่มกังวล แน่นอนว่าครั้งแรก ยังไงมันก็จะเจ็บ มันยากที่จะทำให้มีนรู้สึกดี เพราะมันคือครั้งแรก ได้แต่ควบคุมตัวเองไม่ให้รุนแรงใส่มีนก็เพียงพอแล้ว มาร์คค่อยๆขยับโยกเข้าออกช้าๆอย่างใจเย็น ในขณะที่มิเกลเองก็ยังคอยเฝ้ามองมีนอยู่ข้างๆ
“มีนครับ มาร์ครักมีนนะ”
“ฮึก.. มาร์ค มาร์ค”
มาร์คเริ่มสัมผัสจุดสำคัญของคนใต้ร่าง ในขณะที่ตัวเขายังคงเคลื่อนไหวไปมา เพื่อให้มีนลืมความเจ็บปวด ทางด้านมิเกลเองก็เริ่มปลดเปลืองเสื้อผ้าช่วงล่างออกและเริ่มเข้าไปเล้าโลมหวานใจตัวเอง ด้วยการใช้มือสัมผัสยอดอกของมีน และประกบจูบอันนุ่มนวลโดยสอดลิ้นร้อนๆเข้าไปที่ในริมฝีปากอวบอิ่มนั่น มีนเริ่มลืมความรู้สึกเจ็บปวดลง และมีความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกได้
“.. มีน ยังเจ็บอยู่ไหม ?”
มาร์คถามด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าเขาจะรู้สึกดีที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับมีน แต่เขาเองก็อยากให้มีนรู้สึกดีด้วยเช่นกัน
“จะ..เจ็บ..”
“แต่รู้สึก...ดี”
มาร์คและมิเกลถึงกับหลุดยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ เซ็กส์กับใครก็ไม่มีความสุขเท่ามีนจริงๆ คุ้มค่ามากที่อดทนรอมาเป็นปีๆ ในที่สุดก็มีวันนี้จนได้
“มีนครับ ใช้มือจับให้มิเกลหน่อยได้ไหม?”
มีนเขินจนต้องก้มหน้าหลับตาเอามือข้างนึงปิดตาปิดหน้าตัวเอง เผื่อหลบซ่อนอาการเขินอาย แต่ก็ถูกใจแฝดคู่นี้เหลือเกินนั่นแหละ มิเกลจับมือหวานใจมาสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของตัวเอง และขยับมือของมีนไปตามทิศทางที่มันควรจะเป็น ในขณะที่มาร์คเองก็ยังคงขยับโยกเรือนร่างของเขาไปเรื่อยๆ ทางด้านมีนเองก็ยิ่งตอดรัดมากขึ้น
“อึก..มีน.. มาร์คจะเสร็จ..!!!”
มีนกอดคนบนร่างแน่นพร้อมกับเกร็งตัวสุดแรงเนื่อ��จากเจ้าตัวเองก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน ปลายเล็บจิกลงไปที่ไหล่ของมาร์คแน่จนเป็นรอยเล็บ มีนตอดรัดเขามากเกินไปจนทำให้เขาจะทนไม่ไหวอีกต่อไป
“อา มีนครับ!!!”
เสียงหายใจหอบดังขึ้นมาจากทั้งทางมาร์คและมีน ในขณะที่มิเกลเองก็ถึงเช่นกันจากการจัดการของมีน และพร้อมที่จะจับจองมีนเป็นเจ้าของแล้ว
“มีนไหวไหม ถ้าไม่ไหวหยุดก็ได้ครับ”
มีนที่กำลังหายใจหอบหันไปมองหน้ามิเกลที่กำลังกังวล แม้ว่าเขาจะกำลังมีอารมณ์มากๆ แต่กลับห่วงมีนมากกว่า มันทำให้มีนรู้สึกอยากที่จะเติมเต็มให้เท่ากันทั้งสองคน เขาได้รับความรักแบบคูณสอง แน่นอนว่าเขาเองก็ต้องคืนมันไปแบบคุณสองเช่นกัน
มีนลุกออกมาจากตัวมาร์คและเริ่มขยับไปหยิบถุงยางข้างๆเตียงมาใส่ให้มิเกลทันที
“มีนจะทำอะไรครับ?”
“จะทำให้มิเกลอาย”
“...”
ครับ ผมพร้อมอายแล้วครับคุณมีน :)
// คถนะคะ นับวัน คัทชั้นก็ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ เด็กคนไหนมาอ่านจะตีให้!!!
0 notes
Text
🎬 OllyOne - 20 (cut )
.
.
.
.
- My Demons -
music [ glass animals - gooey ]
“พี่จะกดมือถือนานไปแล้วนะครับ”
เด็กน้อยส่งเสียงไม่พอใจ บวกกับอุณหภูมิร่างกายที่ขึ้น��ลงๆจากการเป็นไข้ ทำให้ออลลี่เองก็ได้เห็นอีกมุมนึงของหนึ่ง ซึ่งเขาก็คิดว่ามันน่ารักและน่าเอ็นดูดีเหมือนกัน
“ไม่ได้คุยกับใคร พี่คุยกับเฟิร์สไง ก็บอกเราไปแล้วนี่”
เด็กน้อยตรงหน้าเริ่มคิ้วขมวด ผสมกับจมูกแดงๆ ดวงตากลมโตฉ่ำๆ มันน่ารักจนออลลี่เองก็หลุดยิ้มออกมาเหมือนกัน หนึ่งตอนป่วยมันทำให้เค้าหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ออลลี่เดินเข้าไปซบอกเด็กตรงหน้า
“ผมงอนอยู่นะครับ ไม่ต้องมาซบผมเลย”
แม้ว่าปากจะพูดกับคนพี่ไปแบบนั้น แต่มือเด็กน้อยกลับทำตรงกันข้ามกับคำพูดซะอย่างนั้น เขาเอามืออุ่นๆลูบไปที่ผมนุ่มๆของออลลี่ และเลื่อนจุดไปเรื่อยๆไปจดที่ใบหน้าอันงดงามของพี่เขา ก็เข้ามาอ้อนเขาขนาดนี้ใครจะงอนลงล่ะจริงไหม?
“ไม่งอนได้ไหม พี่จะดูแลอย่างดีเลย อยากให้ทำอะไรล่ะ หืม?”
ออลลี่เองก็เปลี่ยนไปมากจากตอนพบเจอกับหนึ่งแรกๆ เขาเริ่มอ้อนคนน้องบ่อยขึ้นโดยไม่รู้ตัว เริ่มตามใจไม่ว่าเด็กน้อยอยากให้ทำอะไรเขาก็จะทำเสมอ แม้ว่าคำพูดของออลลี่จะไม่มาก แต่การกระทำของพี่คนนี้ทำให้หนึ่งมีความสุขเสมอ
“จริงๆผมอยากจูบพี่ แต่กลัวพี่จะติดหวัด”
เด็กหนุ่มกระซิบไปที่ใบหูของคนข้างกาย
ปกติน้ำเสียงหนึ่งก็หล่ออยู่แล้ว พอเป็นไข้เสียงก็ดันทุ้มต่ำลงไปอีก มันทำให้ออลลี่รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่แปลกในทางที่มัน เอ่อ ไม่รู้สิ...
ออลลี่เงยหน้าสวยๆขึ้นมาประกบจูบไปที่เด็กตรงหน้า จะติดหวัดก็ช่างมันสิ เขาก็แค่ทำอะไรที่อยากทำ จะไปสนมันทำไม ทางด้านหนึ่งเองก็ค่อนข้างตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่พี่ออลลี่กำลังทำ แต่แล้วไงล่ะ ถ้าพี่ออลลี่ติดหวัดเขาจจริงๆ ก็เดี๋ยวเขาค่อยดูแลพี่ออลลี่ตอนป่วยทีหลังก็ได้
“อ่า...พี่ครับ”
“หืม”
ออลลี่ขานตอบทันที แต่ปากอวบอิ่มนั่นยังลงไล่กดจูบลงไปเรื่อยๆ เป็นระยะ ลำตัวคนพี่คร่อมลงไปที่หน้าตักของคนป่วย สงสัยจะลำบากแล้วล่ะหนึ่ง
“พี่ครับ ถ้าพี่ยังไล่จูบผมไม่หยุด ผมจะไม่ไหวนะครับ”
“งั้นพี่หยุดดีกว่า เราจะได้พักผ่อน เดี๋ยวพี่ออกไปทำข้าวต้มกับเฟิร์สให้นะ”
คนป่วยได้ยินเช่นนั้นจึงเกิดอาการหวงขึ้นมาอีกครั้ง มือร้อนดึงแขนออลลี่กลับลงมาที่ตักพร้อมกอดตัวคนพี่แน่นไม่ให้ออกไปไหน เหมือนเด็กหวงของไม่มีผิด ออลลี่หลุดยิ้มออกมา เขาตั้งใจจะแกล้งให้หนึ่งหวงจริงๆแหละ
“แต่คนป่วยต้องกินข้าวนะ ไม่งั้นจะกินยายังไงล่ะ?”
“ผมจะกินหลังจากนี้นะครับ”
“หลังจากไหนนะ? อ๊ะ..”
เด็ก��สบกดริมฝีปากไปที่ลำคอด้านหลังของออลลี่ และลงมือประทับความเป็นเจ้าของลงไปที่คอระหงนั้น
ที่จริงก็เป็นสิ่งที่ออลลี่ไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกัน หนึ่งมักทำให้เขารู้สึกเซอร์ไพรส์ได้เสมอ
“พอใจแล้วสินะ พี่ออกไปได้ยัง?”
“ครับ เชิญเลย”
ออลลี่ออกไปในครัวเพื่อจัดเตรียมอาหารของสำหรับคนป่วยที่คุณเฟิร์สพี่ชายสุดที่รักของแฟนหนุ่มได้ทำไว้ให้
“ลำบากหน่อยนะ หนึ่งตอนป่วยมันเอาแต่ใจอ่ะ”
“น่ารักดี ไม่เป็นไรหรอก”
“น่ารักจริงเหรอ ที่คอช้ำเชียว”
“....”
ออลลี่รีบเอามือมาปิดท้ายทอยทันที เฟิร์สเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ขำคิกคักตามประสาคนแซว เขารีบหยิบชุดอาหารไปให้เด็กในห้องทันที
“พี่ไปนาน..”
มีคนนอนคลุมโปงงอนเสียแล้วสิ
“โทษที ลุกมากินเร็ววัน เดี๋ยวต้องกินยานะ”
เด็กน้อยยังคงงอนไม่ลุกขึ้นมากินยาตามออลลี่บอก
“ถ้าดื้อพี่จะกลับแล้วนะ”
“กินก็ได้ครับ”
หนึ่งรีบเด้งตัวออกมาจากเตียงทันที หลังจากคนพี่ขู่ว่าจะกลับแล้วถ้าเขาดื้อ เขาไม่ได้อยากดื้อ แต่เขาควบคุมความงี่เง่าของตัวเองในตอนนี้ไม่ได้เลย หนึ่งรู้สึกหงุดหงิดตัวเอง
“ไม่กลับได้มั้ยครับ?”
“ได้ แต่วันต้องฟังพี่ออลลี่นะ”
“ครับ”
ออลลี่ทยอยป้อนข้าวต้มให้กับเด็กน้อยบนเตียงจนหมด และจัดการให้กินยาให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มไปเตรียมผ้ากับน้ำอุ่นเพื่อเช็ดตัวให้คนป่วย
“วัน มาเช็ดตัวก่อน”
“ครับ”
เด็กน้อยเริ่มถอดเสื้อที่กำลังใส่อยู่ออก ออลลี่พยายามโฟกัสไปที่การเช็ดตัวคนตรงหน้ามากกว่า เขากำลังห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอไปแตะเด็กตรงหน้าเกินกว่าการเช็ดตัว แต่สายตาลูกหมาที่มองเขาอย่างมีความหวังมันทำให้เขาแทบหลุดจากการควบคุมตัวเอง
“พี่อยู่ไกลขนาดนั้นเช็ดถนัดเหรอครับ”
“ถ้าอยู่ใกล้กว่านี้ก็ไม่ได้เช็ดตัวพอดี”
หนึ่งยิ้มและปล่อยให้ออลลี่เช็ดตัวเขาจนเสร็จ
“เสร็จแล้ว ไปใส่เสื้อแล้วนอนซะนะ”
“ไม่มีจูบราตรีสวัสดิ์เหรอครับคุณพยาบาล?”
ออลลี่ส่ายหัว นับวันเริ่มขอบ่อยขึ้นจนบางทีเขาก็คิดว่าเขาตามใจหนึ่งมากเกินไปหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ เด็กน้อยอ้าแขนตั้งหน้าตั้งตารอจูบของเขาด้วยความตื่นเต้น
ปากอิ่มประกบจูบลงไปอีกครั้งเพื่อส่งคนป่วยเข้านอน หนึ่งสอดลิ้นร้อนๆเข้าไปในโพรงปากของออลลี่เพื่อเป็นการบอกว่าเขายังไม่ต้องการจะนอนในตอนนี้ เขาต้องการออลลี่ต่างหาก มือร้อนๆเริ่มโอบกอดพี่ตรงหน้าแน่น และเริ่มซุกซนโดยการขยับเข้ามาในเสื้อเขาซะแล้ว ร้ายกาจ
“เด็กดื้อ ���ยุดเลย”
“ผมไม่หยุด”
“อ๊ะ”
คนป่วยที่ควรจะไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนัก เขายกตัวออลลี่มาที่ตักในขณะที่ปากร้อนๆยังคงไล่จูบออลลี่ไม่หยุด สองมือบีบไปที่บั้นท้ายภายใต้กางเกงยีนสีอ่อนของออลลี่
“พี่ออลลี่ครับ ผมอยาก...”
ดวงตาดำใสมองอ้อนขึ้นมาเพื่อพยายามจะขออนุญาตจากพี่ตรงหน้า
“ไม่ได้ เราป่วย”
“นะครับพี่ออลลี่”
หนึ่งกอดคนตรงหน้าแน่นพร้อมซบไปที่ต้นคอของออลลี่ เด็กน้อยพยามเลียต้นคอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ และใช้เสียงทุ้มต่ำนั่นกระซิบไปที่หูของคนบนร่าง
“มันตื่นแล้วครับพี่ออลลี่ ผมนอนไม่หลับแล้ว นะครับ ได้โปรด”
ไม่มีทางที่ออลลี่จะปฏิเสธคำอ้อนวอนของหมาน้อยตรงหน้าเขาได้เลย หนึ่งอ้อนมากจนเขาเองก็ไปไหนไม่รอดเหมือนกัน อีกทั้งยังมีบางอย่างที่มันพยามดันเขาอยู่จากข้างล่างด้วยแล้ว..
“ไม่ได้กะจะนอนตั้งแต่แรกแล้วน่ะสิ พี่รู้นะวัน”
เด็กน้อยอมยิ้มพร้อมกับยักคิ้วขึ้นลงไปมา เขารู้อยู่แหละว่าหวานใจของเขาร้ายตาใสขนาดไหน แต่ใครจะไปทนไหวกันล่ะ อ้อนเก่งขนาดนี้
“ผมขอโทษครับ ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่พี่บอกจะเข้ามาหาแล้ว”
“ไม่หายป่วยอย่ามาว่ากันนะ”
ออลลี่ดันตัวเด็กน้อยลงไปกับเตียงและจัดการกดจูบย้ำๆลงไปทั้งใบหน้าเละลำตัวของคนใต้ร่าง เรือนร่างขยับไปมาโดนจุดสำคัญของคนป่วยจนมีเสียงแปลกๆออกมา
“ฮะ....พี่ออลลี่ครับ”
“ว่าไงคนป่วยไม่จริง”
“ผมรู้สึกดี”
“จริงป่าว?”
“ครับดีมากๆ”
สิ่งนั้นมันค่อยๆดันตัวออลลี่เข้ามาเรื่อยๆ แม้ว่าจะอยู่ใต้กางเกงนอน แต่เขาเองก็รู้สึกได้ว่าหนึ่งเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว มือเรียวเริ่มลูบขึ้นลงไปมา หนึ่งเกร็งตัวจนปลายเท้าจิกไปที่เตียง ออลลี่จัดการถอดเสื้อที่เปียกไปด้วยเหงื่อของคนใต้ร่างออก
“เฮ้อ จะเช็ดตัวไปทำไหมกันนะ?”
“ขอโทษครับ”
ออลลี่ปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกพร้อมทิ้งมันลงไปกับพื้น และจัดการถอดเสื้อพอดีตัวที่กำลังใส่อยู่ออก หนึ่งเรื่มปลดกางเกงคนที่นั่งอยู่บนตัวเขาออก มือร้อนๆลูบไปมาบริเวณใต้บั้นท้ายสวยๆของออลลี่เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ เมื่อกำจัดกางเกงยีนเจ้าปัญหาของพี่ออลลี่ได้แล้ว มันทำให้ตัวเขาสัมผัสกับคนพี่ได้ง่ายขึ้น
“ถุงยางอยู่ไหนวัน?”
“อยู่ในชั้นที่สองของตู้เสื้อผ้าครับ”
ออลลี่ในร่างเปลือยเปล่า ลุกไปหยิบมาเพื่อใส่ให้คนน้องพร้อมกับเปิดตู้เสื้อผ้าเด็กน้อยเพื่อหาเสื้อมาใส่
“พี่ออลลี่?”
“อ่าว เสื้อสก๊อตตัวนี้ที่ใส่ตอนเดทแรกนี่นา ใช่มะ?”
“คะ ครับ พี่จะใส่มันเหรอครับ?”
“อืม”
ออลลี่สวมเสื้อของหวานใจแบบไม่ได้ติดกระดุมตรงกลาง มันยิ่งปลุกเร้าอารมณ์เด็กตรงหน้าเข้าไปอีก
“พี่ครับ รีบกลับเข้ามาเถอะครับ”
ออลลี่เดินกลับมาพร้อมกับถุงยางในมือ เขาจัดการใส่มันให้เด็กน้อยตรงหน้าทันที
หนึ่งจัดการเปิดทางให้คนบนร่าง เพื่อที่เขาจะได้ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป ปลายนิ้วร้อนๆของเด็กน้อยค่อยๆดันเข้าไปในตัวออลลี่ เขาสังเกตเห็นออลลี่หลับตากัดปากเกร็ง มันทำให้เขารู้ว่า ทุกครั้งที่พี่ออลลี่รู้สึกดีมักจะหลับตาเสมอ สำหรับหนึ่งมันสวยงามชะมัด
“พี่รู้สึกดีไหมครับ?”
“อ๊ะ... อืม...วันน...”
“พี่ออลลี่ครับ พี่กัดปากตัวเองเลือดออกหมดแล้วครับ”
“อืมมมม วัน พอ..พอก่อนวัน.. ”
“ชู่ว!... พี่ออลลี่เสียงดังไปแล้วครับ”
“ฮึก...”
ออลลี่กอด���ัวหนึ่งแน่น เขาพยายามเก็บเสียงตัวเอง แต่ก็ไม่วายดังออกมาเป็นระยะ หนึ่งเองที่กลัวเสียงจะออกไปจนพี่เฟิร์สได้ยิน
“พี่ออลลี่กัดผมไว้ก็ได้ครับ”
ออลลี่ดันตัวเข้ามาหาหนึ่งและเริ่มขยับโยกขึ้นลงไปมาทำเอาคนน้องเองก็ไปไม่เป็น ยิ่งเขากัดเข้าไปที่หัวไหล่ของเด็กตรงหน้าแทนที่จะเป็นการเก็บเสียงมันดันไปปลุกเร้าให้ของหนึ่งขยายใหญ่กว่าเดิม
“วัน..ฮึก”
“พี่ครับจูบผมหน่อยครับ”
ออลลี่ทำตามคำสั่งเด็กตรงหน้าทันทีตอนนี้คนที่ว่าง่ายดันไม่ใช่หนึ่งเสียแล้ว จูบที่มีกลิ่นเลือดจากปากออลลี่ทำให้หนึ่งรู้สึกเวียนหัว แต่ก็ทำให้เค้าใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์เช่นกัน
“พี่จะ...เสร็จ”
“พี่ออลลี่ทนก่อนครับ ผมก็ใกล้แล้ว”
“วัน พี่ออลลี่จะไม่ไหวแล้ว”
ออลลี่เริ่มขยับแรงขึ้นและทางด้านหนึ่งเองก็เริ่มตอบโต้ด้วยการขยับตอบรับโดยไม่มีใครยอมใคร ตอนนี้มีแต่ต่างคนต่างหลงกันและกันจนโงหัวไม่ขึ้น ในหัวหนึ่งมีแต่ออลลี่ ส่วนในหัวออลลี่เองก็มีแค่หนึ่งคนเดียว
หรือว่าจริงๆแล้วออลลี่เองก็ได้สร้างปีศาจมาอีกตนนึงซะแล้วสิ.....
ขอบคุณค่ะ //หมดแรง
1 note
·
View note
Text
[ Lexno special ]Get me higher 18+
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้คนที่เคยไฟแรงอย่างอเล็กซ์รู้สึกหมดไฟในการที่จะเขียนเพลงต่อ แรงบันดาลใจที่เคยมีมันก็หดหายลงไปเรื่อยๆ หรือเป็นเพราะว่าตัวเขาขลุกอยู่กับการทำเพลงให้คนอื่นมานานเกินไปแล้วกันนะ
เมื่ออายุมากขึ้น อะไรก็มักจะเปลี่ยนไปเสมอ เบื่อกับทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด เหมือนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
แต่สิ่งที่ไม่เคยทำให้อเล็กซ์เบื่อได้เล���ก็คือ อดีตแฟนคลับของเขา หวานใจคนเดียวของเขา ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นที่รักของคนส่วนมากไปแล้ว จากเด็กน้อยข้างห้องที่ทำให้เขาหลงหัวปักหัวปำตั้งแต่สมัยก่อน กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการบันเทิงไปเสียแล้ว หนักใจเหมือนกัน มิสมีเสน่ห์ขึ้นทุกวันจนอเล็กซ์เองก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดี แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่สนับสนุนหรอกนะ เขาต้องสนับสนุนอยู่แล้ว
“พี่เล็กกกกกก พี่เล็ก มิสอยู่นี่”
เสียงตะโกนดังขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้ ผสมกับท่าทางโบกไม้โบกมือ จนอเล็กซ์หลุดยิ้มออกมาและโบกมือตอบกลับคนตรงหน้า
“ไปครับ กลับกันเถอะ”
“โอเค พี่เล็ก หิวไหม กินอะไรก่อนไหม”
“ไม่ล่ะครับ ตอนนี้เรามีนัดกัน...”
“นัดอะไรเหรอ ?”
พูดยังไม่ทันขาดคำ อเล็กซ์ก็จูงมือคนตรงหน้าเดินไปที่รถทันที
“พี่เล็กรีบไปไหน วันนี้ยังไงก็ถึงนะ”
“พี่รีบ...”
มิสมองหน้าอเล็กซ์แล้วรู้ทันที ว่าพ่อหนุ่มอดีตแร็พเปอร์ต้องการจะสื่ออะไร
มือขวาจับพวงมาลัยรถขยับไปมา พอถึงช่วงรถหยุดรอไฟแดง มือซ้ายก็ค่อยๆเลื่อนมาจับมือคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เป็นเสียอย่างนี้ไงอเล็กซ์ ความโรแมนติกของอเล็กซ์ไม่เคยขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย จนมิสเริ่มรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง
“พี่เล็ก เมื่อกลางวันที่บอกว่าต้องการไฟ หมายความว่ายังไงเหรอ?”
“พี่ไม่มีไฟในการเขียนเนื้อเพลงเลยครับ แต่งอะไรก็ออกมาเหมือนเดิม”
มิสรู้อยู่แล้ว แต่แกล้งถามเพื่อเป็นการย้ำว่า อเล็กซ์ต้องการความช่วยเหลือจากเขาจริงๆหรือไม่ อะไรที่ช่วยอเล็กซ์ได้ ตัวมิสเองก็อยากจะช่วย
“แล้วถ้า...แบบนี้ล่ะ.”
มือเล็กที่ถูกกุมอยู่ค่อยๆขยับเปลี่ยนเป็นการประสานนิ้วมือให้เข้ากัน อีกทั้งคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆกลับคิดอะไรบางอย่างได้ในขณะที่คนพี่กำลังรีบร้อนขับรถ เพื่อให้ถึงคอนโดโดยเร็วที่สุด
“จุ๊บ”
การที่มิสจับมือของอเล็กซ์ขึ้นมาจูบไม่ใช่ครั้งแรก มันคือสิ่งที่เขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าไม่แปลกอะไร แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งอื่นๆตรงที่ เมื่ออเล็กซ์เอ่ยปากกับเขาเรื่องไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียนเพลง น้องมิสจึงคิดอะไรบางอย่างได้
บางทีมันก็ดีเหมือนกันถ้าเพลงของพี่เล็กมันจะมีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้างใช่ไหมล่ะ
การจูบหลังมือเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากหนึ่งครั้ง เป็นสองครั้ง จากสองครั้ง เป็นห้าครั้ง ริมฝีปากเด็กเจ้าเล่ห์เริ่มเปลี่ยนที่จากนิ้วมือเป็น��้อมือ จากข้อมือเป็นข้อศอก จากข้อศอกเป็นต้นแขน จากการจูบเริ่มเปลี่ยนไปเป็นการทำอย่างอื่น เช่นการเลียและการกัด ทำเอาอเล็กซ์ถึงกับขนลุกซู่ เขาทำได้แค่ภาวนาให้ถึงคอนโดเร็วๆเท่านั้น ทางด้านน้องมิสไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นการกัดไปที่ต้นคอและใบหูแดงๆของคนพี่ ไหนจะใช้ลิ้นกวาดไปที่ปลายหูพร้อมกับส่งเสียงกระซิบให้กับอเล็กซ์เบาๆ
“พี่เล็ก เมื่อไหร่จะถึง....มิส....อยาก...”
อเล็กซ์ที่กำลังตัวแข็งทื่อ พยายามตั้งสติขับรถไปต่อ แต่ก็ยังอยากเล่นกับเจ้าแมวดื้อตัวนี้ต่ออีกหน่อย อเล็กซ์ขยับมือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัยไปที่ริมฝีปากของแมวดื้อ
“ว้าว จะเล่นกับมิสเหรอ? เดี๋ยวกินซะเลยนิ้วโป้งเนี่ย”
“จะกินนิ้วพี่เหรอครับ อยากกินก็กินเลย”
อเล็กซ์ดันนิ้วโป้งเข้าไปในช่องปากของมิส เพื่อต้องการรับรู้สัมผัสอุ่นๆจากลิ้นที่ตวัดไปมาที่เล่นกับนิ้วเขาไม่หยุด ให้ตายเถอะ ใบหน้าน้องมิสมันเร้าใจชะมัด
ใ���ที่สุดก็ถึงคอนโดสักที อเล็กซ์ไม่รอช้า เมื่อจอดรถเสร็จก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัย เลื่อนตัวไปหาคนข้างๆอย่างรวดเร็ว
“อื้อ..พี่เล็ก..ขอมิส...ปลด”
อเล็กซ์รุมกระหน่ำจูบและกัดริมฝีปากอย่างไม่ยั้ง แต่มือข้างหนึ่งก็ปลดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่เขากำลังจูบอยู่อย่างเชี่ยวชาญ
“ พี่เล็ก ไปที่ห้อง...”
อเล็กซ์หยุดทันที พร้อมกับขยับใบหน้าออกมาเล็กน้อย เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คนตรงหน้า พร้อมกับกดจูบเล็กๆลงไปอีกหนึ่งครั้ง
“ ไปครับ พี่จะทนอีกนิด ”
อเล็กซ์ลงจากรถไปเปิดประตูให้กับหวานใจของเขา พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนให้คนน้องช่วยรีบออกมาจากรถเสียที เขารอแทบไม่ไหวแล้ว
เมื่อถึงห้องอเล็กซ์ก็ไม่รอช้า รีบปิดประตู และกระหน่ำจูบเล้าโลม ตั้งแต่ยังไม่ถึงเตียงเสียด้วยซ้ำ มือใหญ่ทั้งสองข้างดันข้อมือเล็กขึ้นไปติดกำแพง อเล็กซ์เริ่มเปลี่ยนจุดเล้าโลมจากปากไปเป็นคาง เลื่อนจากคางลงมาเป็นคอ ทั้งทิ้งรอย ทั้งกัด ทั้งเลีย จนสังเกตุได้ว่ามีบางอยากมันออกมาจากเสื้อยืดบางๆของคนข้างหน้า มือขวาเริ่มปล่อยจากมือของอีกคนเปลี่ยนมาลอดผ่านชายเสื้อขึ้นไปแตะบางอย่างของมิสที่โผล่มาจากเสื้อยืด อเล็กซ์ลูบมือไปมาจนรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับการกระทำของเขา
“น้องมิส กัดชายเสื้อไว้หน่อยครับ”
ยิ่งให้มิสกัดชายเสื้อที่เขาถกมันขึ้นมาเองกับมือไว้ มันก็ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของอเล็กซ์ขึ้นไปอีก อเล็กซ์อยากเชยชมปลายหน้าอกสีชมพูนั่นชัดๆ จึงเผลอออกคำสั่งกับคนตรงหน้า แต่��้องก็ยอมทำอย่างโดยดี ทำให้เขารู้สึกได้ใจขึ้นมานิดๆ
“จับมันให้พี่ด้วยได้ไหม?”
ใช่แล้ว อเล็กซ์เริ่มรู้สึกคับมากๆที่จุดลามกของตัวเองเขาไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว
“มิสอยาก...ได้..ตรงนี้”
คนน้องก็ใช่ย่อย มือซนๆค่อยๆขยับไปใกล้ๆ..
“Go on baby....It’s yours”
มิสจับมืออเล็กซ์ไปที่เตียง หลังจากนั้นก็ปล่อยทุกอย่างไปตามอารมณ์ของตัวเองทันที ร่างเล็กขึ้นคร่อมคนเป็นพี่ ทำเอาอเล็กซ์ตกใจไม่น้อย สองมือค่อยๆลูบจุดลามกวนไปมา
“Can I ...”
“umm Yes,please”
มิสเริ่มใช้ปากนิ่มๆรับรสชาติของอเล็กซ์ มันทั้งคับทั้งแน่น จนอึดอัดไปหมด แต่ในเมื่อพี่เล็กซ์ชอบมันก็ไม่แย่อะไรถ้าจะทำตามที่คนเป็นพี่ต้องการ ยิ่งได้ยินเสียงครางเบาๆของผู้ชายคนนี้แล้วมันยิ่งอยากทำต่อให้สุดทาง มิสได้ยินเสียงอย่างนั้นก็ยิ่งเร่งจังหวะเร็วขึ้นไปอีก
“อืมมม..น้องมิสครับ..พะ พอก่อน...”
อเล็กซ์ดันศีรษะของคนเป็นน้องออก เพราะกลัวว่าสิ่งที่ออกมาจะทำให้มิสลำบากถ้ายังอยู่ในปาก แต่เด็กคนนี้กลับไม่ยอม มิสตัดสินใจอมมันกลับเข้าไปแบบเดิม รวมทั้งเลียและกลืนมันไปจนหมด
“เด็กดื้อ เดี๋ยวก็ตายหรอก”
“ฮ่าๆ มิสเก่งใช่มะ?”
“ครับ เก่งเกินไปแล้ว”
“เดี๋ยววันนี้จะช่วยสุมไฟให้นะ”
ว่าแล้วมิสก็จัดการปลดชุดของอเล็กซ์จนหมด
“พี่เล็กจะถอดให้มิส หรือจะให้มิสถอดเอง?”
“ถอดเองเลยครับพี่จะดู”
ลุงคนนี้เขารู้วิธีที่จะทำให้มิสเสียอาการ ยิ่งอเล็กซ์พูดแบบนี้ยิ่งทำให้มิสเริ่มเขินที่ถูกใบหน้าหล่อๆนั่นจ้องมาที่ตัวเอง แถมยังทำหน้าแบบนั้นอีก มันลามกรู้ไหมลุง
มิสเริ่มยกชายเสื้อขึ้นเตรียมจะถอดมันออก
“น้องมิส เดี๋ยว..”
“ หืม ? “
“ใส่เสื้อไว้ดีกว่าครับ ถอดแค่ข้างล่างก็พอ”
มิสยิ้มมองสายตาหยาดเยิ้มของคนตรงหน้า พร้อมกับค่อยๆถอดเสื้อผ้าท่อนล่างออก ขยับสะโพกถูไถไปมาจนเสียดสีจุดนั้นจนอเล็กซ์หลุดเสียงซี๊ดแปลกๆขึ้นมา
“ทำไมล่ะพี่เล็ก ถอดมันไม่ดีเหรอ?”
“อ่ะ.. อืมมม...ดีครับ แต่พี่จะ.... เสร็...”
คนน้องได้ยินแบบนั้นยิ่งอยากแกล้ง มิสขยับสะโพกไปมาไม่หยุด
“จริงเหรอ..?”
“อา..อืมมมมม....มะ มิส..”
อเล็กซ์ทนไม่ไหว ผลักคนข้างบนลงไปติดกับเตียง โดยที่ตัวเขาอยู่ด้านบน สองมือจับแขนของเด็กแสบไว้แน่น
“แสบจริงๆเลยนะ เด็กดื้อ”
มิสส่งรอยยิ้มให้คนตรงหน้า พร้อมกับใช้ลิ้นดื้อๆเลียไปที่��ขนของคนเป็นพี่
“อร่อยไหม เลียอยู่นั่น”
“ไม่เลย เค็ม ฮ่าๆ”
“น้องมิส อยากลองทำเองไหมครับ?”
“บ้าเหรอพี่เล็ก ไม่เอา”
“มันคงจะดีมากเลยถ้าพี่ได้เห็นมิสอยู่บนตัวพี่...”
อเล็กซ์ส่งสายตาอ้อนวอน ทำเอามิสไปไหนไม่ได้
“ถ้ามิสขย่มพี่เล็ก พี่เล็กจะต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ”
“งั้นตายไปด้วยกันเลยก็ได้ เพราะพี่ก็จะตอบรับเราจนตายเหมือนกัน”
อเล็กซ์ไม่รอช้า ยกตัวคนใต้ล่างขึ้นมานั่งบนตัก พร้อมกับสอดประสานปลายนิ้วเรียวเข้าไปเพื่อเปิดช่องทางให้เขาเข้าไปได้
“อ๊ะ! พี่เล็ก...”
“แป๊ปนึงนะครับ พี่ยังเข้าไปไม่ได้ เดี๋ยวเจ็บ”
มิสกอดอเล็กซ์แน่น หายใจติดขัด ทางอเล็กซ์เองก็อยากรีบให้มิสพร้อมเร็วๆ เพราะเขาเองก็ทนกับใบหน้าที่มีอารมณ์ของคนตรงหน้าแทบไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“จะกัดพี่ จิกพี่ก็ได้ ใกล้แล้วครับ”
“อืมมมม พอ..แล้ว มิสอยาก...พี่เล็ก...”
“Okay let’s riding baby”
อเล็กซ์นอนลงมองคนข้างบนค่อยๆ ขยับโยกเรือนร่างอันงดงามลงมาที่ตัวเขา น้องมิสสวยมากจริงๆ เขาไม่มีวันเบื่อใบหน้าและรูปร่างนี้เด็ดขาด ไม่ว่านานแค่ไหนมิสก็เป็นทุกอย่างของเขาจริงๆ ในหัวเขาตอนนี้มันขาวโพลนไปหมด
อเล็กซ์มึนเมาไปกับความสุขและเสียงหวานๆของคนบนร่าง มิสทำเขาเสียการควบคุม
มันรู้สึกดีเหลือเกิน ดีจริงๆ
.
.
.
.
.
Get me higher , Like your damn riding
Get me higher , Do this till you’re numb
riding on me baby,
till i die please..
get me higher
หลังจากนี้อเล็กซ์น่าจะได้เนื้อเพลงใหม่อีกเต็มเลยล่ะ
จบแล้วค่ะ เราแต่งได้เท่านี้จริงๆ ไม่สามารถแต่งมากกว่านี้ได้ เพราะเราไม่ค่อยอ่าน nc แต่หวังว่าจะชอบนะคะ ขอบคุณค่ะ
3 notes
·
View notes
Photo
12 notes
·
View notes
Photo
8 notes
·
View notes
Photo
5 notes
·
View notes
Photo
The girl with two idiots 01
3 notes
·
View notes
Photo
So, What did we learn from this guys? Me : Don't trust the guys from his smile.
https://youtu.be/4481Ksf_J3c
2 notes
·
View notes