Text
โทษของบุหรี่ที่มีผลต่อสุขภาพ และมีผลต่อคนรอบข้าง
โทษของบุหรี่ต่อคนที่อยู่รอบข้าง
บุหรี่นับเป็นสารเสพติดที่มีโทษมากมายต่อตัวผู้สูบ รวมทั้งบุคคลใกล้ชิด อีกทั้งเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง ในระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ ความดันเลือดสูง และอื่�� ๆ อีกมากมาย โดยการสูบบุหรี่ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคทันทีแต่ว่าพิษจะค่อย ๆ สะสมภายในร่างกายรวมทั้งก่อให้เกิดโรคได้ในอนาคต
โทษของบุหรี่ที่มีต่อตัวผู้สูบ
เหตุเพราะบุหรี่มีพิษนับพันชนิดอีกทั้งยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ทำให้บุหรี่มีผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากดังต่อไปนี้
1. เสี่ยงตาบอดถาวร
เมื่อเราสูบบุหรี่บ่อย ๆ พิษในบุหรี่จะก่อให้เกิดตาต้อกระจกได้ง่ายขึ้น โดยสังเกตได้จากดวงตาที่ดูขุ่นหมองขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่อาการเริ่มแค่นั้น หากยังคงสูบต่อไปเรื่อย ๆ พิษในบุหรี่จะมีผลให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอเรตินาเกิดการตีบตัน จนเป็นผลให้ตาบอดถาวรในที่สุด
2. เสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ผู้สูบบุหรี่เสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะสูงมาก ด้วยเหตุว่าตามปกติร่างกายจะมีวิธีการขับสารพิษ หรือสารแปลกปลอมไปสู่กระแสเลือด รวมทั้งขับถ่ายออกทางปัสสาวะ สารนิโคตินแล้วก็สารเสพติดอื่น ๆ ในบุหรี่นั้น มีคุณสมบัติเป็นสารก่อโรคมะเร็งเมื่อมีการดูดซึม รวมทั้งขับออกทางปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะก็เลยสัมผัสกับสารพวกนี้ตลอดเวลา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง
3. เสี่ยงโรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด
โรคหัวใจและก็หลอดเลือด เป็นโรคที่อันตรายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ที่บางทีอาจนำมาซึ่งสภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้สูงมากโดยสารนิโคติน รวมทั้งสารเสพติดอื่น ๆ ในบุหรี่จะมีผลให้เส้นโลหิตหัวใจหดตัว รวมทั้งตีบลง นำมาซึ่งการทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ก็เลยทำให้หัวใจ��าดเลือดจนกระทั่งเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้นั่นเอง
4. เสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร
คนที่สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบ โรคมะเร็งโพรงปาก รวมทั้งโรคมะเร็งหลอดอาหารรวมทั้งการรับเชื้อเอชไพโลไร (Helicobacter Pylori)
5.เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ
หลอดเลือดสมองตีบเป็นอีกโรคที่น่ากลัว เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดสมองแตกได้ ซึ่งก็จะก่อให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤตอัมพาต แล้วก็บางทีอาจเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้อีกเช่นกัน
6.เสี่ยงถุงลมโป่งพอง
ถุงลมโป่งพอง เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่เนื้อปอดแล้วก็ถุงลมเล็ก ๆ ค่อย ๆ เสื่อมสภาพลงจนโป่งพองในที่สุด ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นเพราะว่าการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานาน โดยสารนิโคติน ไนโตรเจนไดออกไซด์ แล้วก็สารเคมีอื่น ๆ จะเข้าไปทำลายเซลล์เยื่อของปอดแล้วก็ทำให้ถุงลม เล็ก ๆ ฉีกขาด ผู้ป่วยถุงลมโป่งพองจะมีลักษณะหายใจไม่สะดวก แล้วก็หายใจยากขึ้น บางคนอาจรู้สึกหายใจได้ไม่เต็มปอดจนถึงต้องหายใจถี่ และก็เร็วขึ้นกว่าปกติซึ่งก็สร้างความ ทรมานให้ผู้ป่วยได้มากทีเดียว
คนที่อยู่รอบข้างไม่ได้สูบบุหรี่ก็มีสิทธิเป็นโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้เช่นเดียวกัน ถ้าเกิดอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีควันของบุหรี่มาก พวกเราเรียกบุคคลที่ได้รับบุหรี่โดยที่ไม่ได้สูบว่า “บุหรี่มือสอง” และโรคที่จะตามมาเมื่อคนรอบข้างได้รับควันจากบุหรี่มีดังนี้
1. เสี่ยงโร��หอบหืด
เหตุเพราะควันจากบุหรี่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง ก็เลยอาจจะส่งผลให้เกิดอาการภูมิแพ้ รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดได้ นอกเหนือจากนี้ในคนที่เป็นโรคหอบหืด หรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็อาจมีอาการแย่ลงจากการดมควันของบุหรี่ได้ง่ายเหมือนกัน
2. ทำลายสุขภาพทารกในท้อง
ในหญิงมีครรภ์ ถ้าได้รับควันจากบุหรี่ในจำนวนมากหรือบ่อย ๆ ทุกวันอาจก่อให้เด็กในครรภ์พิการตั้งแต่กำเนิด แท้ง หรือการเสียชีวิตระหว่างคลอดได้โดยเหตุนั้นหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็เลยไม่ควรอยู่ในที่ที่มีควันของบุหรี่ และก็ผู้สูบบุหรี่เองก็ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ใกล้ ๆ กับหญิงตั้งครรภ์ด้วย
3. เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้ถึง 2 เท่า
ผู้สูบบุหรี่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดอยู่แล้วแต่รู้หรือเปล่าว่า คนที่ได้รับควันของบุหรี่มือสองกลับเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดมากกว่าถึง 2 เท่า เพราะว่าตัวผู้สูบจะได้รับควันของบุหรี่เพียงแค่ส่วนหนึ่งของควันที่พ่นออกมาแค่นั้น แต่ว่าคนที่อยู่รอบข้างกลับได้รับควันที่เกิดจากบุหรี่ไปเต็ม ๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าว หากไม่อยากทำร้ายคนที่อยู่รอบข้างก็ควรงดสูบบุหรี่หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในบริเวณที่มีผู้อื่นอยู่ด้วย
4. ทำให้เด็กมีความเจริญทางสมองช้ากว่าปกติ
ควันของบุหรี่จะมีผลให้เด็กมีความเจริญช้าลงจากปกติถึง 2 เท่า ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าทางด้านร่างกายทำให้มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการหอบหืด หลอดลมอักเสบ หรือความเจริญทางด้านสมองทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองพิการ บุหรี่เป็นสารเสพติดที่ให้โทษทั้งต่อตัวผู้สูบแล้วก็บุคคลรอบข้าง การเลิกสูบบุหรี่แม้เป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็มีหลาย ๆ คนที่ทำสำเร็จซึ่งหลังจากเลิกบุหรี่ได้แล้วก็ทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น อย่างชัดเจน
โดยปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถเลิกบุหรี่ได้คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะลด ละเลิกสูบบุหรี่เพื่อตนเอง และก็คนที่คุณรัก
youtube
0 notes
Text
โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่
อย่างที่บอกแหล่ะค่ะว่าผู้ที่สูบบุหรี่มักจะไม่ค่อยสะทกสะท้านอะไร หากจะบอกว่าสูบบุหรี่แล้วเกิดโรคอะไรบ้าง หากไม่เกิดกับตัวเองก็จะไม่รู้สึก ดังนั้นเรามาศึกษาแล้วนำไปบอกต่อกับลูกหลานที่ยังไม่ได้สูบดีกว่าค่ะว่าไม่เค้าหันมาสนใจที่จะสูบบุหรี่
โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ มีดังนี้
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ หลายชนิด ทำให้อัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ สูงขึ้นเป็น ๒ เท่า อัตราเสี่ยงของการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง สูงขึ้นเป็น ๖ เท่า และอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอด สูงขึ้นเป็น ๑๐ เท่า การสูบบุหรี่ ทำให้ผู้สูบอายุสั้นลง โดยเฉลี่ย ๕ - ๘ ปี ผู้สูบบุหรี่ที่เริ่มสูบตั้งแต่วัยรุ่น และไม่หยุดสูบ ร้อยละ ๕๐ จะเสียชีวิต ด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ และครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ จะเสียชีวิตในวัยกลางคน ก่อนอายุ ๗๐ ปี
โรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
ก. โรคมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งช่องปาก โพรงจมูก กล่องเสียง หลอดลม ปอด หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ ไต กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก เต้านม ปากมดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก ทั้งนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ด้วย จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้นอีก สาเหตุที่การสูบบุหรี่ ทำให้เกิดโรคมะเร็งในอวัยวะหลาย ๆ แห่ง ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่สารก่อมะเร็งในควันบุหรี่ สัมผัสกับอวัยวะโดยตรง
มะเร็งปอด ผู้สูบบุหรี่จัดมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบถึง ๕๐ เท่า เนื่องจากปอดเป็นอวัยวะที่รับควันบุหรี่มากที่สุด ความเสี่ยงต่อพิษภัยของควันบุหรี่ ขึ้นอยู่กับปริมาณบุหรี่ที่สูบ และวิธีการสูดควันบุหรี่ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งปอด ในระยะที่เป็นมากแล้ว จะมีอาการไอเป็นเลือด น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว ปวดกระดูกซี่โครง และไหปลาร้า หรือสะบ้า อาจมีอาการหอบ���หนื่อย บวมบริเวณหน้า คอ แขน และอกส่วนบน ปวดศีรษะ ซึม กลืนอาหารลำบาก ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะ และอุจจาระได้
ข. โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย โดยที่รูหลอดเลือดค่อย ๆ ตีบลง จากการหนาตัวของผนังหลอดเลือด จนเกิดการตีบตันของเส้นเลือด เป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง จึงเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือโรคหัวใจขาดเลือดได้ เมื่อหลอดเลือดตีบ จะมีผลทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ คุณจะเกิดอาการจุกเสียด เจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเวลาที่คุณออกกำลัง และถึงขั้นหัวใจวายได้ในที่สุด โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สาเหตุที่สมรรถภาพทางเพศเสื่อม เกิดจากเส้นเลือด และเส้นประสาท ที่ควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเสื่อม ซึ่งควันบุหรี่ มีสารที่ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง การทำงานจึงเสื่อมลง โรคหลอดเลือดในสมองตีบ การเสื่อมของหลอดเลือดในสมอง มีกลไกในการเกิดเหมือนกับที่เกิดกับเส้นเลือดหัวใจ และอวัยวะอื่นของร่างกาย ผู้ป่วยอาจเป็นอัมพาตจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยง หรือมีความจำเสื่อมลง
ค. โรคระบบทางเดินหายใจ โรคที่พบ คือ ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง เป็นหวัดและหลอดลมอักเสบง่าย และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ โรคถุงลมโป่งพอง โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่เนื้อปอดค่อย ๆ เสื่อมสมรรถภาพ จากการได้รับควันบุหรี่ จนทำลายเนื้อเยื่อในปอด และในถุงลมให้ฉีกขาดทีละน้อย ๆ และรวมตัวกลายเป็นถุงลม ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เกิดโรคถุงลมโป่งพอง มีผลทำให้พื้นที่ผิวเนื้อเยื่อภายในปอด ซึ่งเป็นที่รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายมีขนาดเล็กลง จึงต้องหายใจเร็วขึ้น เพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพียงพอ โรคถุงลมโป่งพองนี้ในระยะท้าย ๆ ของโรค จะทำให้ผู้ป่วยทรมานมาก เนื่องจากเหนื่อย จนทำอะไรไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ และอาจต้องได้รับออกซิเจนจากถังตลอดเวลา
ง. โรคอื่น ๆ มารดาที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ จากผลของควันบุหรี่ที่มีต่อรก เช่น คลอดก่อนกำหนด แท้งง่าย และมีบุตรยาก นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ง่ายอีกด้วย เนื่องจากสารเคมีในควันบุหรี่ กระตุ้นกระเพาะอาหาร ให้มีการหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ
เห็นไหมคะว่าบุหรี่ทำร้ายคุณมากเพียงใด แล้วอย่างนี้คุณยังจะสูบอยู่อีกหรือ มาเลิกสูบบุหรี่ดีกว่าค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง และคนรอบข้างที่คุณรั��
อยากเลิกบุหรี่ แนะนำ บุหรี่ไฟฟ้า ดูรายละเอียดได้ที่เว็บนี้ได้เลย
https://www.ececigpod.com/th
youtube
0 notes
Text
เมื่อเราเลิกสูบบุหรี่ สิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา
หากคุณคิดว่าการเลิกสูบบุหรี่ในวันนี้จะสายเกินไปสำหรับคุณ เราขอบอกเลยว่า ไม่มีอะไรสายเกินไปหากเราคิดเริ่มต้นที่จะเลิก เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต และเพื่อบุตรหลานของคุณ เรามาดูกันค่ะว่าหากคุณเลิกไปแล้วครบหนึ่งปี จะมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณบ้าง ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดนั้นจะยังมีอยู่อีกไหม
สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เมื่อคุณเลิกสูบบุหรี่
หากคุณเลิกสูบ 20 นาที อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตจะลดลง มือและเท้าจะอุ่นขึ้น
หากคุณเลิกสูบ 8 – 12 ชั่วโมง ระดับออกซิเจนในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น
หากคุณเลิกสูบ 1 – 2 วัน ลิ้นรับรู้รสชาติจำทำงานได้ดีขึ้น จมูกทำงานดีขึ้น แต่เมื่อผ่านวันที่ 3 อาการลงแดงจะเริ่มเผยให้เห็น แต่จะหายได้ภายใน 10 วัน
หากคุณเลิกสูบ 1 – 3 เดือน ระบบไหลเวียนโลหิตจะดีขึ้น ปอดเริ่มฟื้นฟู สามารถเริ่มทำกิจกรรมได้ต่อเนื่อง เหนื่อยช้าลง
หากคุณเลิกสูบ 4 – 9 เดือน อาการไอและหายใจ���ำบากจะน้อยลง
หากคุณเลิกสูบ 1 ปี ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนสูบบุหรี่
หากคุณเลิกสูบ 2 – 5 ปี ความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองขาดเลือดลดลงเทียบเท่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ โอกาสเกิดมะเร็งช่องปาก มะเร็งลำคอ มะเร็งหลอดอาหารลดลง
หากคุณเลิกสูบ 10 ปี ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดลดลงครึ่งหนึ่ง
หากคุณเพิ่งเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ และอยากดีท็อกซ์ปอดให้กลับมาสะอาดอีกครั้ง วันนี้เราจะมาแชร์ขั้นตอนการดีท็อกซ์ปอดให้คุณอ่านเป็นแนวทาง มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
สัปดาห์แรกหลังเลิกบุหรี่
เมื่อคุณไม่สูบบุหรี่ประมาณ 8 ชั่วโมง ระดับของออกซิเจนภายในร่างกายจะกลับมาสู่ระดับปกติ ในขณะที่ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์และนิโคตินลดลงกว่าครึ่ง ซึ่งระดับของก๊าซและสารดังกล่าวจะมีค่าเป็นศูนย์เมื่อผ่านไป 2 วัน หลังจากนั้นร่างกายจะเริ่มกำจัดเมือกในปอด และเศษซากที่เกิดจากการสูบบุหรี่ นอกจากนี้คุณจะสามารถดมกลิ่นและรับรสได้ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 2 วัน ในวันที่ 3 เมื่อหลอดลมภายในปอดคลายตัว คุณสามารถหายใจได้สะดวกมากกว่าเมื่อสูบบุหรี่ นอกจากนี้คุณจะรู้สึกว่าตัวเองมีพลังงานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แข็งแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2-12
คุณจะพบว่าระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คุณสามารถออกกำลังกายด้วยการเดินระยะสั้น หรือการว่ายน้ำ และฝึกบริหารลมหายใจเพื่อให้ความจุปอดมากขึ้นซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ระบบดังกล่าวทำงานได้ดีขึ้น
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ได้แนะนำการออกกำลังกาย 2 ชนิด ซึ่งสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและทำให้ปอดและหัวใจทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้น นั่นก็คือ Belly Breathing และ Pursed Lip Breathing การออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้ช่วยคืนความยืดหยุ่นให้ปอดและช่วยปรับปรุงระดับของออกซิเจนไปพร้อมกับกำจัดอากาศส่วนเกิน อย่างไรก็ดี อาหารที่ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งก็อาจช่วยกำจัดเมือกได้เช่นกัน ในขณะที่อาหารบางชนิดสามารถช่วยให้สุขภาพปอดดีขึ้น และทำให้ระบบหายใจทำงานได้ราบรื่น แต่ทั้งนี้คุณก็อย่าลืมทานอาหารเหล่านี้ให้ได้ต่อเนื่องไปตลอด สำหรับอาหารที่เราอยากแนะนำมีดังนี้
น้ำผึ้ง: ให้คุณทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาทุกวันหรือหลายครั้งต่อวัน เพราะน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยดีท็อกซ์ปอดและบรรเทาความเจ็บปวดที่คุณอาจประสบ
สับปะรด: สารโบรมีเลนในสับปะรดทำหน้าที่ต้านการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยให้ปอดและร่างกายแข็งแรง และกลับคืนสู่ภาวะปกติ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยสลายเมือกและอาจช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น: ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เนื้อเยื่อปอดเสียหาย ซึ่งนักวิจัยบางคนเชื่อว่ามันสามารถช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรง
3-9 เดือนหลังจากเลิกบุหรี่
การทำงานของปอดในระยะนี้ดีขึ้นประมาณ 10% คุณจะพบว่าปัญหาหายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงจะลดลง นอกจากนี้คุณยังไอลดลงอีกด้วย คุณสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น การที่คุณจะมีสุขภาพดีและแข็งแรง คุณควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป อาหารดัดแปลงพันธุกรรม หรืออาหารชนิดใด ๆ ก็ตามที่มีการเติมสารปรุงแต่งหรือสารเคมี และพยายามทานอาหารที่ผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด รวมถึงทานผักและผลไม้สดให้มากขึ้นเพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ ผักผลไม้ที่เราอยากแนะนำให้คุณรับประทานคือ แครนเบอร์รี่ แอปเปิ้ล ส้ม ผักโขม บล็อกโคลี่ มันหวาน เป็นต้น
1 ปี และหลังจากนี้
หลังจากที่คุณเลิกบุหรี่ได้แล้ว คุณสามารถรักษาปอดให้สะอาดโดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับคนที่สูบบุหรี่ นอกจากจะดีต่อสุขภาพปอดของคุณแล้ว มันก็ยังลดโอกาสที่คุณจะเผลอใจกลับไปสูบบุหรี่ อย่างไรก็ดี คุณยังคงจำเป็นต้องทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องและออกกำลังกายเป็นประจำ
หากคุณมองว่าการสูบบุหรี่เป็นการคลายเครียด ให้คุณมองไปถึงการที่บุหรี่จะไปทำลายสุขภาพและโรคร้ายที่จะตามมาหลังจากสูบบุหรี่ แต่หากคุณได้พยายามที่จะเลิกแล้วแต่ไม่สำเร็จ เราขอแนะนำให้คุณไปพบแพทย์เพื่อเป็นทางออกที่ดีในการที่คุณจะเลิกสูบบุหรี่ อย่าให้ความตั้งใจในการเลิกสูบบุหรี่ของคุณเป็นเพียงความว่างเปล่าค่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้คุณได้เลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพของตัวคุณและคนรอบข้างที่คุณรักค่ะ
เลิกสูบบุหรี่ง่ายๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่เลย : https://www.ececigpod.com/th
youtube
0 notes
Text
ผลกระทบของการ "สูบบุหรี่" ที่มีมากกว่าการทำร้าย "ปอด"
อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า “บุหรี่ ทำลายปอด” ส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอด โดยที่ไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้ว บุหรี่เป็นตัวการในการ���ำลายอวัยวะส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สมอง หัวใจ หรือผิวหนัง วันนี้ เราขอนำเสนอข้อมูล ผลกระทบของการสูบบุหรี่ ต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ ในร่างกายมาให้อ่านกันสารต่าง ๆ ในบุหรี่ที่อันตรายต่อสุขภาพ
ผลกระทบของการสูบบุหรี่ ต่ออวัยวะส่วนต่าง ๆ
ผลกระทบของการสูบบุหรี่ ต่อ หัวใจ
สารเคมีและสารทาร์ในบุหรี่มีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน เพราะการสะสมของคราบจุลินทรีย์จำนวนมากในหลอดเลือดจนส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด จนทำให้เกิดการอุดตันจนเป็นอันตราย และยังเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเจ็บหน้าอก โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจวาย
ผลกระทบของบุหรี่ ต่อ สมอง
นิโคติน ที่ได้จากการสูบบุหรี่ เป็นสิ่งเสพติด เช่นเดียวกับเฮโรอีน หากร่างกายเสพติดนิโคติน ก็เป็นเรื่องยากที่จะเลิกมันเพราะ นิโคตินจะเข้าไปเปลี่ยนสมอง สมองจะมีการพัฒนาในการรับนิโคตินเป็นพิเศษ เมื่อไม่ได้รับนิโคตินจะทำให้เกิดอาการ ถอนนิโคติน ซึ่งจะส่งผลให้คุณรู้สึกหงุดหงิด หดหู่ อารมณ์เสีย และมีความต้องการนิโคติน ในช่วงที่อยู่ระหว่างการถอนนิโคตินยังส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวและทำให้เกิดปัญหาการนอนหลับอีกด้วย
ผลกระทบของบุหรี่ ต่อ ศีรษะและใบหน้า
หู
การสูบบุหรี่ส่งผลต่อการลดปริมาณออกซิเจนที่จะไปยังโคเคลีย (cochlea) ซึ่งเป็นหูชั้นในรูปหอยโข่ง และอาจส่งผลให้โคเคลีย เกิดความเสียหายอย่างถาวรจนสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง
ดวงตา
สารนิโคตินที่ได้รับจากการสูบบุหรี่ จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อดวงตา ทำให้การมองเห็นในเวลากลางคืนลดลง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก และส่งผลต่อการเสื่อมของจอประสาทตา จนอาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
ปาก
การสูบบุหรี่ส่งผลต่อปัญหาช่องปากมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ เช่น การเกิดแผลในช่องปาก โรคเหงือก และยังมีแนวโ��้มที่จะทำให้ฟันผุเร็วขึ้น บางครั้งอาจส่งผลต่อการเกิดมะเร็งในช่องปากและลำคอ
ผิวหนัง
ผิวหนัง การสูบบุหรี่จะทำให้ผิวแห้ง ทำให้เกิดริ้วรอย รอยแตกลาย และอาจทำให้ผิวคล้ำลงได้
สำหรับสาวๆ บุหรี่ก็เป็นอันตรายต่อความงาม มาดูกันว่าทั้งควัน ทั้งสารนิโคติน มีผลต่อความงามแต่ละเรื่องของคุณอย่างไร
ผิวคุณจะเกิดริ้วรอยก่อนวัย เพราะบุหรี่ทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ทั้งคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งเป็นสองตัวสำคัญสำหรับผิวลดลง
ใบหน้าโทรม ซีดเซียว ริ้วรอยรอบริมฝีปาก ปากดำคล้ำ ลักษณะทั้งหมดนั่นเกิดขึ้นกับคนสูบบุหรี่ มันทำให้เราเสียบุคลิกภาพ
นิโคตินในบุหรี่ที่เป็นตัวดูดความชุ่มชื้นไปจากผิวเรา ทำให้ผิวแห้งกร้า��
บุหรี่ทำร้ายเล็บ แค่ควันบุหรี่ก็ทำให้เล็บเหลืองแล้ว ยังมีสารนิโคตินมาเสริมให้มันร้ายเข้าไปอีก
บุหรี่ทำให้ออกซิเจนในร่างกายคุณลดลง ส่งผลให้เล็บไม่แข็งแรง ลอก และฉีกง่ายเมื่อเล็บฉีก จมูกเล็บลอก การป้องกันเล็บจากเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อราก็ลดลง ความร้อนจากบุหรี่มีผลทำให้ผิวหนังบริเวณนิ้ว แห้งและแตก
บุหรี่ทำร้ายเส้นผม เส้นผมคุณจะมีกลิ่นบุหรี่ติดตลอดเวลา เส้นผมเปราะบาง ดูไม่มีชีวิตชีวา เพราะนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดหดตัว เป็นเหตุให้ ออกซิเจนไปเลี้ยงที่หนังศีรษะไม่พอ แล้วเส้นผมจะแข็งแรงได้ยังไงกัน
คนสูบบุหรี่มีอัตราการร่วงของเส้นผมเร็วกว่าคนที่ไม่สูบ ทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้าน หรือผมบางเร็ว
บุหรี่ทำร้ายฟัน ส่งผลผลร้ายต่อเหงือกและฟัน อันตรายจากบุหรี่อีกอย่างที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม
คนสูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งในช่องปากมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 6 เท่า
นอกจากบุหรี่ทำให้คุณๆ มีกลิ่นปาก ฟันเป็นคราบเหลืองแล้ว ควันบุหรี่ก็เป็นสาเหตุของโรคฟันอีกด้วย
ถ้าคุณเป็นแผลในช่องปากก็จะหายช้ากว่าปกติ เพราะควันบุหรี่ไปทำให้เกิดความระคายเคืองต่อเหงือก และช่องปากนั่นเอง
รู้ไหมว่า บุหรี่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดฟันได้ดี และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ฟันสึกกร่อนเร็วขึ้นด้วย
อยากเลิกบุหรี่ แนะนำ บุหรี่ไฟฟ้า
youtube
0 notes
Text
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีการเริ่มสูบบุหรี่
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สูบบุหรี่ คุณคงอยากรู้ว่าทำไมคนที่สูบบุหรี่ถึงต้องสูบ และสูบเพื่ออะไร อะไรเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้เค้าเริ่มสูบบุหรี่ และเค้าเริ่มสูบตั้งแต่เมื่อไหร่
เยาวชนส่วนใหญ่ที่เริ่มสูบบุหรี่เท่าที่ศึกษาข้อมูลก็แค่ “อยากลอง” ซึ่งเป็นธรรมชาติของวัยรุ่นที่มีความอยากรู้อยากเห็น ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าการสูบบุหรี่นั้นไม่ดีต่อก็ตาม
ตามอย่างเพื่อน กลัวว่าถ้าไม่สูบจะเข้ากับเพื่อนไม่ได้ หรือเพื่อนไม่นับเข้ากลุ่ม
ตามอย่างคนในบ้าน หากมีคนในบ้านสูบ ไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดา หรือญาติพี่น้อง เพราะเห็นการสูบบุหรี่มาตั้งแต่เด็ก จึงมองว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ในวัยรุ่นบางคนอาจจะมองว่าการสูบหรี่เป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่
เพื่อเข้าสังคม บางคนต้องสูบบุหรี่เพราะการต้องเข้างานสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่การงาน และในสังคมนั้นชวนให้สูบ หากไม่สูบก็จะเข้ากลุ่มไม่ได้หรือทำให้ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ
ความเครียด เมื่อคุณได้สูบบุหรี่เข้าไปจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายในระยะแรก หลายคนจึงคิดว่าการสูบบุหรี่ช่วยให้คลายเครียดได้ แต่เมื่อสารนิโคตินในสมองลดลงจะทำให้คุณเกิดความหงุดหงิด และเครียดในเวลาต่อมา ทำให้คุณต้องสูบอยู่เสมอเพื่อรักษาระดับนิโคตินในร่างกายไว้
กระแสของสื่อโฆษณา สื่อโฆษณาล้วนมีผลต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในสมัยนี้เป็นอย่างมาก สามารถก่อให้เกิดแรงจูงใจที่จะเชื่อและชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา ซึ่งปัจจุบันนี้ เยาวชนสามารถรับรู้สื่อโฆษณาบุหรี่ของต่างประเทศได้จากทางสื่อสิ่งพิมพ์ชนิดต่าง ๆ ได้
อายุโดยเฉลี่ยของคนไทยที่ติดบุหรี่คือ ๑๘ ปี
เมื่อคุณได้ทราบปัจจัยของการเริ่มสูบบุหรี่แล้ว ต่อมาเรามาดูปัจจัย��สี่ยงที่มีผลต่อการติดบุหรี่กันดีกว่าค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดบุหรี่
สารนิโคติน โดยที่สารนิโคติน สามารถกระตุ้นส่วนสมองที่เกี่ยวกับความอยาก ความสุขสม รวมทั้งการเสพติด ซึ่งปัจจุบันได้มีงานวิจัยที่พิสูจน์ได้ และองค์การอนามัยโลก ก็ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า "นิโคตินเป็นสารเสพติด" และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นเพียงวิธีการที่ทำให้ร่างกายได้มา ซึ่งสิ่งเสพติด ทำให้เกิดความรู้สึกคลายเครียด และควบคุมน้ำหนักตัว แต่มีฤทธิ์ข้างเคียงคือ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ ถุงลมโป่งพองได้ หากร่างกายขาดสารนิโคตินจำทำให้ กระวนกระวาย หงุดหงิด ขาดสมาธิ ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ซึมเศร้า ง่วง มึนศีรษะ เหม่อลอย บางคนนอนไม่หลับ และบางคนมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ครั่นเนื้อครั่นตัว ถ้าผู้สูบบุหรี่ไม่มีความตั้งใจแน่วแน่ในการเลิกสูบ ก็จะหวนกลับไปสูบอีก เพื่อระงับอาการเหล่านี้
บุคลิกภาพ เด็กผู้ชายที่ชอบกีฬาที่ท้าทาย เช่น การแข่งแรลลี มีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่เป็น ๒ เท่าของเด็กผู้ชายที่ไม่สนใจกีฬาชนิดนี้ บุคคลที่มีบุคลิกภาพขาดความมั่นใจในตนเอง ประหม่าง่าย วิตกกังวล จะมีความเสี่ยงสูงต่อการสูบบุหรี่ และบุคคลที่ชอบความก้าวร้าวรุนแรง ไม่เกรงใจ ไม่เคารพในสิทธิผู้อื่น ไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ตนกระทำต่อผู้อื่น บุคคลกลุ่มนี้ก็มีความเสี่ยงต่อการเสพติดบุหรี่เช่นกัน
สภาพแวดล้อม สถานที่ทำงานที่มีผู้สูบบุหรี่จำนวนมาก มีความเสี่ยงสูง ที่จะกระตุ้นให้ผู้ร่วมงานสูบบุหรี่ และเลิกสูบได้ยาก โรงเรียนที่มีครูอาจารย์สูบบุหรี่ ก็จะมีความเสี่ยง ผู้ที่ติดบุหรี่ ส่วนใหญ่จะเริ่มสูบบุหรี่ก่อนจบชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งหมายความว่า ถ้าเยาวชนคนไหนไม่เคยสูบบุหรี่ในระหว่างที่เรียนชั้นมัธยมศึกษา เยาวชนคนนั้น ก็จะมีแนวโน้มเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ เยาวชนที่สูบบุหรี่ จะส่งผลให้มีผลการเรียนต่ำกว่าที่เคยเป็น ��ละมีแนวโน้ม ที่จะติดกลุ่มเพื่อนที่สูบบุหรี่ด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีผลเสียต่อบุคลิกภาพ กลายเป็นคนไม่แข็งแรง และไม่มั่นใจในตนเอง งานวิจัยระบุว่า บุหรี่เป็นยาเสพติดชนิดแรกที่เยาวชนใช้ ก่อนที่จะก้าวไปสู่เหล้าและยาเสพติดชนิดร้ายแรงอื่น ๆ
เมื่อเราทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลให้เริ่มสูบบุหรี่ และปัจจัยเสี่ยงต่อการติดบุหรี่ เราควรหลีกเลี่ยงหรืออยู่ให้ห่างปัจจัยเหล่านั้น ซึ่งหากเลี่ยงไม่ได้เราก็ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งไม่ใจอ่อนไปตามกระแสของสังคม ซึ่งเราหวังว่าคุณ ๆ คงจะไม่เริ่มเข้าสู่วงการบุหรี่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงโคจรของสารเสพติดชนิดอื่น
0 notes
Text
บุหรี่ คืออะไร?
บุหรี่ มีลักษณะเป็นทรงกระบอกม้วนห่อด้วยกระดาษ ขนาดปกติจะมีความยาวสั้นกว่า 120 มิลลิเมตร และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 มิลลิเมตร มีใบยาสูบบดหรือซอยบรรจุภายในห่อกระดาษ ปลายด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดสำหรับจุดไฟ และอีกด้านหนึ่งจะมีตัวกรอง ไว้สำหรับใช้ปากสูดควัน
ทีนี้เรามาดูสิ่งที่คุณจะได้รับจากการสูบบุหรี่กันค่ะ
เนื่องจากในบุหรี่เต็มไปด้วย สารนิโคติน ที่หากร่างกายได้รับไปนาน ๆ จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจและส่งผลเสียต่ออวัยวะอื่น ๆ นอกจากนี้ควันบุหรี่ยังทำร้ายคนรอบข้างได้อย่างร้ายกาจ ซึ่งหากคุณคิดว่าไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ โทษของบุหรี่ที่มีทั้งต่อตัวคุณเองและคนรอบข้างกันก่อน เพราะโทษเหล่านี้อาจกระตุ้นให้คุณอยากสูบเลิกบุหรี่ได้สำเร็จมากขึ้นก็เป็นได้
โทษของการสูบบุหรี่
มีโอกาสต��บอดถาวร การสูบบุหรี่มีโอกาสทำให้ตาบอดได้จริง เพราะผู้สูบบุหรี่จะเป็นต้อกระจกได้เร็วกว่าคนทั่วไป เนื่องจากสารพิษจะเร่งให้เลนส์ตาที่อยู่ข้างในลูกตาขุ่นมัว จนเกิดเป็นภาวะต้อกระจก หากไม่ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ก็จะตาบอด
หลอดเลือดสมองตีบ-แตก-ตัน สารพิษอันน่ากลัวในควันบุหรี่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบ แตก ตัน ซึ่งจะทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เกิดเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
โรคหัวใจและหลอดเลือด บุหรี่จะทำให้หลอดเลือดหัวใจหดตัว มีการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบลง จนเกิดภาวะหัวใจขาดออกซิเจน เส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ จะเกิดอาการจุกเสียด เจ็บหน้าอก มีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตได้โดยไม่รู้ตัว
โรคปอดและระบบทางเดินหายใจ ปอดคืออวัยวะหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากการสูบบุหรี่ โดยจะทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จนปอดส่วนใหญ่ถูกทำลาย อาจต้องใช้เครื่องออกซิเจนช่วยหายใจตลอดเวลา
โรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ ผู้สูบบุหรี่จัดจะเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เพราะสารพิษในบุหรี่ โดยเฉพาะ "นิโคติน" จะไปขัดขวางเลือดที่ส่งไปเลี้ยงกระดูก และยังลดการดูดซึมแคลเซียม ทำให้มีกระดูกเปราะ หักง่าย อีกทั้งยังมีอาการอักเสบของข้อ เอ็นกล้ามเนื้ออาจฉีกขาดได้ง่าย
โรคระบบทางเดินอาหาร ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นง่ายกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะสารเคมีในควันบุหรี่จะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ และแผลก็หายยากด้วย นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งช่องปากและหลอดอาหาร ยิ่งถ้าผู้สูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงโรคมะเร็งเหล่านี้สูงขึ้นไปอีก
โรคระบบทางเดินปัสสาวะ นิโคตินในบุหรี่จะไปทำลายกล้ามเนื้อที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ ผู้สูบบุหรี่จึงมีโอกาสกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือ คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเพิ่มขึ้น
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สารพิษจากบุหรี่จะไปทำให้เส้นเลือดในร่างกายอุดตัน รวมทั้งเส้นเลือดขนาดเล็กที่ไปเลี้ยงประสาทที่เกี่ยวกับการควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะมีจำนวนอสุจิน้อยกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ด้วย สิงห์อมควันทั้งหลายจึงเผชิญปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงแท้ง-ลูกในครรภ์เสี่ยงตาย หญิงตั้งครรภ์เป็นคนที่ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีที่สุด แต่หากเป็นที่สูบบุหรี่อยู่ก่อนแล้ว และแม้ตั้งครรภ์แล้วก็ยังเลิกสูบไม่ได้ จะเป็นอัน��รายต่อตัวเองและลูกในครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์จะเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด ทารกคลอดก่อนกำหนด มีโอกาสเสี่ยงแท้งบุตรเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หรือหากยังไม่ตั้งครรภ์ ผู้หญิงก็จะเผชิญภาวะมีบุตรยาก ส่วนเด็กในครรภ์เมื่อคลอดออกมาแล้วจะมีน้ำหนักน้อย พัฒนาการไม่สมบูรณ์ เพราะเติบโตช้าตั้งแต่ในครรภ์ มีโอกาสเสียชีวิตในขณะแรกคลอดสูงขึ้นมาก เพราะพิษจากบุหรี่สามารถถ่ายทอดจากกระแสเลือดของแม่ผ่านทางรกมายังทารกได้โดยตรง
อาการทางร่างกายอื่น ๆ บุหรี่ยังส่งผลต่อทุกระบบในร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีลักษณะ
หัวล้าน ผมหงอกเร็ว ใบหน้าเหี่ยวย่น ดูแก่เร็ว
กลิ่นตัวเหม็น มีกลิ่นปาก ฟันผุ ฟันดำ เสียวฟันง่าย มีคราบบุหรี่ติดเหงือกและฟัน เหงือกร่น เป็นโรคเหงือกอักเสบร่วมด้วย
เหนื่อยง่าย หอบง่าย เล็บเหลือง นิ้วเหลือง ท้องอืดแน่นเฟ้อ เบื่ออาหาร
หากเป็นแผลจะหายช้าด้วย เนื่องจากสารนิโคตินที่ร่างกายได้รับเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด มีผลทำให้ออกซิเจนในเลือดต่ำลง ส่งผลให้บาดแผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต้องใช้ระยะเวลารักษานาน รวมถึงบาดแผลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและแดงกว่าปกติ
จะเห็นได้ว่าการสูบบุหรี่นั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคุณและคนที่คุณรักอีกด้วย เราขอเป็นกำลังใจให้คุณเลิกสูบบุหรี่เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
หากอยากเลิกบุหรี่จริงๆ แนะนำ บุหรี่ไฟฟ้า แทน
youtube
0 notes
Text
ตั้งเป้าหมายในการเลิกสูบบุหรี่
ค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่มานาน ดังนั้นในการที่คุณจะเลิกสูบบุหรี่นั้น คุณจะต้องมีเป้าหมายในการเลิกว่าคุณเลิกเพื่ออะไร และเป้าหมายอะไรบ้างที่คุณควรตั้งเอาไว้เพื่อเป็นตัวช่วยในการที่คุณจะเลิกบุหรี่
4 เป้าหมายช่วยคุณเลิกบุหรี่
หลายคนที่ติดบุหรี่เคยลองคิดบ้างหรือไม่ว่าอยากจะเลิกสูบ เพราะบุหรี่ไม่ได้มีประโยชน์ใด ๆ เลยกับร่างกาย อีกทั้งมันยังไม่ได้ทำร้ายแค่คนสูบเพียงคนเดียวควันบุหรี่ที่พ่นออกมายังทำร้ายคนรอบข้าง คนในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งการตัดสินใจเลิกบุหรี่ย่อมทำให้เกิดผลดี ยิ่งตัดสินใจเลิกไวมากเท่าไหร่ ยิ่งดีทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง ครอบครัว รวมทั้งจะส่งผลดีต่อระ��ับสังคมอีกด้วย เราอาจจะเริ่มต้นด้วยวิธีการง่ายๆ หรือลองตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะเลิกเพื่อบุหรี่เพื่อใคร หรืออาจจะทดลองเลิกสูบไปสัก 1-2 วัน และเพิ่มระดับความเข้มข้นและเอาจริงเอาจังกับการที่จะเลิกบุหรี่มากขึ้นเพียงเท่านี้อาจจะทำให้ชีวิตและสังคมรอบข้างของคุณดีขึ้นมามากโข ส่วนเป้าหมายที่สำคัญในการเลิกบุหรี่ลองมาดูซิว่าหากทำได้จริง ๆ จะเกิดผลดีอย่างไรกับตัวคุณ ครอบครัว และสังคมบ้าง
เป้าหมายสำคัญของการเลิกบุหรี่ 1.เลิกบุหรี่แล้วสุขภาพดีขึ้น การเลิกบุหรี่ได้จะทำให้ร่างกายได้รับได้รับประโยชน์ดีที่สุดเป็นอันดับแรก เพราะทุกครั้งที่สูบบุหรี่จะมีความเสียหายเกิดขึ้นทุกส่วนที่ควันบุหรี่เข้าไปในร่างกาย แต่ผู้ที่สูบมานานอาจจะไม่รู้สึก เพราะร่างกายเกิดความเคยชินกับการสะสมสารพิษไปแล้ว ทั้งนี้หากคิดเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่วินาทีนี้ ร่างกายจะได้รับประโยชน์มากมายดังนี้
ภายใน 24-48 ชั่วโมง (1-2 วัน) ความดันเลือดและชีพจรจะปรับสู่ระดับปกติ เพราะนิโคตินที่อยู่ในกระแสเลือด รวมทั้งคาร์บอนมอนอกไซด์ที่จับแน่นอยู่เม็ดเลือดแดงจะถูกขับออกไปจากร่างกาย
ภายใน 48 ชั่วโมง (2 วัน) จะเริมรู้สึกว่าร่างกายสดชื่นขึ้น เพราะไม่มีนิโคตินหลงเหลืออยู่ในกระแสเลือดและร่างกายปอดจะเริ่มทำงานโดยกำจัดเสมหะออกไปจากร่างกาย ร่วมทั้งสิ่งสกปรกทั้งหลายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ออกไปด้วย
ภายใน 3 สัปดาห์ จะสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้นและนานขึ้น เพราะการทำงานของปอดดีขึ้นไม่เหนื่อยง่ายเป็นการคุมน้ำหนักไปในตัวด้วย และอาการไอก็จะดีขึ้น
ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน ) จะรู้สึกว่าทานอาหารได้อร่อยขึ้น เพราะตุ่มรับรสที่ลิ้นทำงานได้ดีขึ้น ความรู้สึกถึงรสถึงกลิ่นอย่างแท้จริงจะกลับคืนมา และไม่มีกลิ่นเหม็นของบุหรี���ติดตัว
ภายใน 96 ชั่วโมง (4 วัน) จิตใจจะสงบและสบายตัวมากขึ้น เพราะอาการอยากสูบบุหรี่จะลดลง
ภายใน 2 เดือน กำลังวังชาจะกลับมาดีขึ้น เพราะเลือด���ามารถไหลเวียนไปสู้แขนและขาได้ดีขึ้น
ภายใน 3 เดือน การหายใจดีขึ้นและสูดลมหายใจได้เต็มปอดมากขึ้น เพราะระบบการกำจัดสิ่งสกปรกในปอดเริ่มทำงานได้เป็นปกติได้น้อยลง การหายใจทำงานได้ดีขึ้น
ภายใน 5 ปี สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอัตราเสี่ยงต่อการเป็นหัวใจขาดเลือดจะลดลงเท่ากับครึ่งหนึ่งของคนที่เคยสูบบุหรี่
ภายใน 10-15 ปี อัตราเสี่ยงการป่วยจะลดลงโดยเฉพาะโรคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดจากยบุหรี่รวมทั้งมะเร็งปอด โดยรวมแล้วสภาพร่างกายจะมีความใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่
2.เลิกแล้วฐานะการเงินดีขึ้น
การเลิกบุหรี่สามารถทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น เพราะไม่ต้องสูญเสียเงินไปกับการซื้อบุหรี่มาสูบ ซึ่งปัจจุบันนี้บุหรี่ซองหนึ่งร่วมร้อยเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่า บุหรี่หนึ่งซองซื้อข้าวกินได้ 2 จานเลยก็ว่าได้
3.เลิกแล้วคนในครอบครัวมีความสุข หากคุณสามารถเลิกบุหรี่ได้สมาชิกในครอบครัวจะได้รับความปลอดภัยจากอากาศที่สดใสไร้ควันบุหรี่ นอกจากนี้สุขภาพของผู้เลิกสูบบุหรี่จะดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย ร่างกายแข็งแรง เป็นกำลังสำคัญของครับครัวอย่างเต็มที่
4.เลิกแล้วสังคมเจริญก้าวหน้า ทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยมีผู้เข้ารับการรักษาด้วยโรคที่เกี่ยวเนื่องจากการสูบบุหรี่ถึงปีละ 1 แสนคน คิดเป็นค่าบริการทางการแพทย์ที่รัฐบาลต้องจ่ายเป็นเงินถึง 1,000 ล้านบาทในแต่ละปี ซึ่งถือว่างบประมาณดังกล่าวสามารถนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย
เห็นไหมคะว่าหากคุณตั้งเป้าหมายเอาไว้ การเลิกสูบบุหรี่ก็ไม่น่าจะยากสำหรับคุณ หากวันนี้คุณคิดจะเลิกสูบบุหรี่ให้คุณหันกลับไปมองคนรอบข้างของคุณที่คุณรัก และ เค้ารักคุณ เพียงแค่นี้ก็จะทำให้คุณเลิกสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
สำหรับคนที่อยากเลิกบุหรี่ แนะนำเว็บนี้เลย : https://www.ececigpod.com/th
1 note
·
View note