Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
รีวิวสรรพคุณว่านหางจรเข้ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
สวัสดีค่ะเพื่อนๆวันนี้เรารีวิว สรรพคุณว่านหางจรเข้ รักษาบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก สมุนไพรประจำบ้าน แถมเป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ช่วยรักษาผิวไหม้จากแสงแดด ช่วยบำรุงผิวพรรณ รักษารอยหรือจุดด่างดำ เราจึงเห็นเครื่องสำอางที่ขายอยู่ตามท้องตลาดมีส่วนผสมของว่านหางจรเข้ ว่านหางจรเข้ยังนำมารับประทานช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย แทงหวยผ่านเว็บ
เรามาดูสรรพคุณหลักๆของว่านหางจรเข้ สมุนไพรประจำบ้านกันเลยคะ
ช่วยฆ่าเชื้อ สมานแผล และรักษาแผลโดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อมาใหม่ ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์น้ำมันกระเด็นใส่แขนขณะทอดมันกุ้ง มีอาการปวดแสบปวดร้อน จึงรีบไปเก็บว่านหางจรเข้ในสวนครัวหลังบ้านนำมาผ่าออกล้างก่อนนำมาปกตำแหน่งที่โดนน้ำมันลวก อีกครึ่งหนึ่งนำเข้าตู้เย็นแช่ให้เย็นนำมาสับเปลี่ยนจนแผลคลายความร้อนออก หลังจากลอกหนังใช้ว่านหางจรเข้ทาต่อเนื่องจนแผลหายดีไม่มีแผลเป็นเลย
ช่วยบำรุงผิวพรรณ และผิวหน้าจากการโดนแดดร้อนแผดเผา ผู้เขียนใช้ว่านหางจรเข้ทาผิวหน้าและผิวหนังกรณีโดนแดดร้อน ว่านหางจรเข้จะช่วยดูดซับความร้อนทำให้ผิวหนังเย็นลง ช่วยลดและบรรเทาฝ้า รอยแผลเป็นได้อีกเช่นกัน
ช่วยแก้พิษแสบร้อนจากแมงกะพรุนได้อีกเช่นกัน เวลาไปเที่ยวน้ำทะเลสามารถนำว่านหางจรเข้พกติดตัวไป ช่วยแก้อาการแดดร้อนแผดเผาผิวได้ดีอีกด้วย ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบร้อนจากภาวะกรดเกินในกระเพาะ ผู้เขียนเคยปวดท้องจากการกินอาหารเผ็ด จึงนำว่านหางจรเข้มาปอกเปลือกล้างเอาแต่เนื้อมาปั่นดื่ม 2 ช้อนโต๊ะช่วยให้อาการดีขึ้น ทั้งนี้ต้องล้างเมือกที่รอบเปลือกให้สะอาดไม่เช่นนั้นอาดมีอาการคันได้คะ
ว่านหางจรเข้จัดเป็นสมุนไพรประจำบ้านที่ช่วยรักษาอาการปวดแสบปวดร้อนจากการสัมผัสความร้อน รวมถึงดูดซับพิษของแมลงสัตว์กัดต่อยที่มีอาการแสบร้อนได้ดีเลยทีเดียว และว่านหางจรเข้เองยังสามารถกินช่วยลดการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร แถมมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณและลดฝ้า จุดด่างดำ
0 notes
Text
กระดูกหมูอ่อนทอดกระเทียม สูตรนี้ ทำง่าย
กระดูกหมูอ่อนทอดกระเทียม เลิฟเลิฟกระดูกหมูอ่อนต้องไม่พลาดเมนูนี้ กระดูกอ่อน เคี้ยวกรุบ ๆ เพลิน ๆ อร่อยจนต้องดูดนิ้ว ได้ข้าวเหนียวร้อน ๆ สักปั้นหนึ่ง อิ่มท้อง อร่อยง่าย ๆ ตามสไตล์เสือหิว กระดูกอ่อนทอดกระเทียม กระดูกอ่อน กรอบ ๆ ทานคู่กับซอสพริกก็อร่อยดีนะ วันนี้เราเลือกใช้กระดูกหมูอ่อน กินได้ทั้งชิ้นถ้าเราเลือกกระดูกแข็งจะมีเนื้อน้อยเจอแต่กระดูก แต่ถ้าเป็นกระดูกอ่อนขอบอกเพลินเลยค่ะ กินได้ทั้งเนื้อและกระดูก เราจะมาหมักด้วย กระเทียม พริกไทย ปรุงรสชาติด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย แทงหวยผ่านเว็บ
วัตถุดิบและส่วนผสม
กระดูกหมูอ่อน 1 กิโลกรัม ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ครึ่งช้อนโต๊ะ แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ 1.เตรียมวัตถุดิบ เครื่องปรุง และล้างทำความกระดูกหมูอ่อน ตอนล้างก็เคล้าด้วยเกลือป่นช่วยลดกลิ่นสาบของเนื้อหมู
2.หมักกระดูกหมูอ่อนด้วยซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ครึ่งช้อนโต๊ะ แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยทำให้กระดูกหมูมีความนุ่ม ทานได้ง่ายขึ้น คนส่วนผสมให้ละลาย ตามด้วยกระเทียมสับ เสร็จแล้วนำกระดูกหมูอ่อนลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยป่น และคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง และนำไปแช่ในช่องฟรีซประมาณ 1-2 ชั่วโมง
3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนแล้วก็ลดไฟลงเป็นไฟกลาง ค่อย ๆ นำกระดูกหมูอ่อนลง���อด ทอดให้กระดูกหมูอ่อน สุกเหลืองครบทุกด้าน ใกล้สุกแล้วก็เร่งไฟให้แรงขึ้นเพื่อรีดน้ำมันออก เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมาพักไวในกระดาษซับน้ำมัน พร้อมรับประทาน
0 notes
Text
ทำหมึกทอดกระเทียม
ปลาหมึกทอดกระเทียม ราดซอสน้ำปลา ถ้าพูดถึงอาหารทะเล กุ้ง ปลาหมึก หอย ปู ปลา เรียกได้ว่าเมื่อได้ทานเข้าไปแล้วมีความอร่อยไม่แพ้กัน วันนี้เสือหิวเลือกปลาหมึกมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหาร ปลาหมึกกที่เราทานกันบ่อยๆ ก็จะเป็นผัดกระเพราปลาหมึก ปลาหมึกย่าง ต้มยำปลาหมึก ปลาหมึกสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู วันนี้เราจะมาทำปลาหมึกมาทอดกัน เสือหิวขอนำเสนอปลาหมึกทอดกระเทียม ราดซอสน้ำปลา เราเพิ่มความหอมด้วยกระเทียมไทยนำไปทอดให้เหลืองโรยหน้าที่ตัวปลาหมึกทอดกลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน กลิ่นหอมฟุ้งของน้ำปลาอย่างดี ใครกินก็ต้องติดใจ หอมกรุ่นอย่าบอกใครทานกับข้าวสวยร้อนๆ ให้รสชาติเค็มๆ หวานๆ อร่อยจนหยุดไม่อยู่ ปกติปลาหมึกก่อนเรานำมาปรุงอาหารจะมีกลิ่นคาวค่อนข้างแรง เสือหิวมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากกัน ตอนล้างทำความสะอาดดึงไส้ในท้องออกให้เรียบร้อย ตอนล้างเคล้าด้วยเกลือป่นและดับกลิ่นคาวด้วยน้ำส้มสายชู เพียงเท่านี้เราก็ได้ทานปลาหมึกทอดกระเทียมที่ทำทานเองที่บ้าน เพียงขั้นตอนง่ายๆ เป็นเมนูปาร์ตี้สังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ในช่วงปีใหม่นี้ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ทำอาหารทานกันเองที่บ้าน ถ้าพร้อมแล้วมาดูวิธีทำกันเลย แทงหวยผ่านเว็บ
ส่วนผสมพร้อม��ครื่องปรุงในการทำ หมึกไข่ทอดกระเทียม ราดน้ำปลา ปลาหมึกไข่ ตะไคร้ 1 ต้น ใบมะกรูด 3-4 ใบ กระเทียมไทย 30 กลีบ (ถ้าชอบทานกระเทียมใส่เยอะกว่านี้ได้) น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ ครึ่งช้อนโต๊ะ ปลาหมึกไข่ 500 กรัม น้ำสะอาด 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช
ปลาหมึกทอดกระเทียม ราดซอสน้ำปลา เป็นอีกเมนูที่หาทานได้ตามร้านอาหาร เป็นเมนูที่ไม่ค่อยเห็นมีขายตามตลาดนัด เพราะปลาหมึกจัดเป็นอาหารทะเลที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็ไม่ได้แพงจนไม่สามารถซื้อมาประกอบอาหารได้ ปลาหมึกหลายคนนิยมทานเป็นปลาหมึกย่างมากกว่า วันนี้เสือหิวอยากชวนๆ เพื่อนๆ ลองมาทำปลาหมึกทอดกระเทียม ราดซอสน้ำปลา เป็นเมนูที่ทำง่าย ไม่มีรายละเอียดซับซ้อน ทำทานกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์สูงสุดชนิดหนึ่ง ช่วยในการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบางชนิด และที่สำคัญช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและไขมันได้ดี เสือหิวเลยอยากชวนให้เพื่อนๆ ลองมาทำตามกันดูด้วยวิธีการทำที่ง่ายๆ ได้ความอร่อยถูกปากของเราและคนในครอบครัว การทำอาหารไม่สูตรตายตัวเราสามารถดัดแปลงวัตถุดิบได้ตามความชอบของเราเลย หรือจะปรุงให้รสชาติออกมาในแบบที่เราชอบทาน เพียงแต่ให้คำนึงถึงคนที่เราทานด้วยว่าชอบรสชาติแบบไหนเราก็เลือกปรุงให้ถูกปากคนทานเราจะได้ทานอาหารได้อย่างมีความสุข
0 notes
Text
วิธีทําข้าวผัดกุ้งใส่มันกุ้งผัดไม่แฉะ อร่อยเหมือนซื้อเซเว่น
เมนูวันนี้เสือหิวขอนำเสนอวิธีทําข้าวผัดกุ้ง เป็นเมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารที่แสนธรรมดา แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะทำข้าวผัดให้อร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเลย วันนี้เสือหิวเลยหยิบเมนูนี้มาทำให้เพื่อนๆ ดูกัน เป็นเมนูที่ง่ายไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่วันนี้เสือหิวจากนั้นนำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่เราจะเริ่มทำการผัด เป็นการทำให้ข้าวมีความแข็ง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ข้าวผัดที่แสนอร่อย ทานคู่กับแตงกวา มีน้ำปลาพริกขี้หนูบีบมะนาวใส่ เพียงแค่นี้ก็อร่อยจนหยุดไม่อยู่ เพื่อนๆ สามารถทำตามได้เลย ทำให้ลูกทาน หรือจะทำทานกันเองในครอบครัว ส่วนวิธีทำก็ง่ายไม่ยุ่งยาก ถ้าพร้อมแล้วมาดูสูตรข้าวผัดกุ้ง ใส่มันกุ้งกันเลยวันนี้เสือหิวอยา แทงหวยผ่านเว็บ
ส่วนประกอบของข้าวผัดกุ้งพร้อมวิธีทํา ข้าวหอมมะลิ (ข้าวเย็น) 2 ทัพพี ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ 2 ฟอง ต้นหอมซอย 2 ต้น น้ำตาลทราย ครึ่งช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ กุ้งและมันกุ้ง 10 ตัว กระเทียมสับ 5 กลีบ พริกไทยขาว 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทําข้าวผัดกุ้งให้อร่อย
เริ่มต้นเราล้างทำความสะอาดกุ้ง ตอนล้างเราจะเคล้าด้วยเกลือป่น��พื่อลดกลิ่นคาวของกุ้ง ล้างทำความสะอาดปอกเปลือกกุ้ง ผ่าหลังกุ้งเอาเส้นดำหลังกุ้งออก ส่วนของหัวกุ้งเราจะยังไม่ทิ้ง วันนี้เราจะใช้มันกุ้ง เราจะใช้ช้อนตักในส่วนที่เป็นมันกุ้งออกมา
นำข้าวสวยที่เราเตรียมไว้ ถ้าใครไม่มีข้าวเย็นใช้เป็นข้าวที่หุงสุกใหม่ได้ ตักใส่ชามแล้วพักไว้ ให้ความร้อนคลายตัว ใส่เครื่องปรุงลงไปในข้าว ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลทราย
ตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟกลางในการผัด ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนให้ใส่กระเทียมสับลงไป ผัดให้กระเทียมส่งกลิ่นหอมหลังจากนั้นเราจะใส่มันกุ้งที่เราเตรียมไว้ผัดต่อให้หอมเลย ตามด้วยกุ้งผัดต่อให้กุ้งสุกเล็กน้อย ใส่ไข่เป็ดลงไป (ไข่เป็ดจะมีกลิ่นคาวรอให้ไข่สุกก่อนค่อยใส่ข้าวลงไป) ขยี้ไข่เป็ดรอให้ไข่สุกเล็กน้อย แล้วจึงใส่ข้าวลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันดี จังหวะนี้เร่งไฟขึ้นในการผัดผัดให้ข้าวมีความแห้ง เรียกว่าผัดจนข้าวดีดในกระทะ (ระวังกระทะไหม้ด้วยนะไม่อย่างงั้นข้าวมีกลิ่นไหม้)
0 notes
Text
วิธีทำผัดซีอิ๊วกุ้ง
ผัดซีอิ๊วกุ้งใครก็ทำขายกัน ลองมาทำผัดซีอิ๊วกุ้งขายกันเถอะ ใส่เนื้อไก่เพิ่มโปรตีน ผัดกับเส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ก็อร่อย เพิ่มวิตามินจากคะน้าหรือผักอื่น ๆ ลงไปด้วย แทงหวยผ่านเว็บ
ส่วนผสม ผัดซีอิ๊วกุ้ง เส้นใหญ่ 100 กรัม (ลอกเป็นแผ่นออกจากกัน) กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก) 3 ตัว อกไก่หั่นชิ้น 100 กรัม ไข่ไก่ 1 ฟอง คะน้าหั่นพอดีคำ 2 ต้น กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำผัดซีอิ๊วกุ้ง 1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง เจียวกระเทียมจนหอมและเหลือง 2. ใส่อกไก่ลงไปผักจนเกือบสุก ตามด้วยกุ้งสด ผัดจนกุ้งเริ่มสุก ตอกไข่ไก่ลงไปยีพอสุก 3. ใส่เส้นใหญ่ลงไป ตามด้วยซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ผักคะน้าลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยพริกไทย พร้อมเสิร์ฟ
0 notes
Text
วิธีการรับประทานอาหารเสริม
วิวิธีการรับประทานอาหารเสริม อาหารเสริม เป็นส่วนของอาหารที่เรารับประทานเพื่อป้องกัน และชะลอวัย ไม่ใช่เพื่อรักษาโรค เนื่องจากอาหารเสริมไม่ใช่ยา แต่เป็นสารอาหารที่เราเพิ่ม เสริมจากอาหารส่วนที่ขาดในแต่ละมื้อค่ะ ยกตัวอย่างเช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน ๆลๆ เพราะฉะนั้นวิธีทานอาหารเสริมให้ถูกวิธี ก็สามารถทำให้เราได้รับประโยชน์จากสารอาหารนั้นๆได้อย่างเต็มที่ค่ะ แทงหวยผ่านเว็บ
อาหารเสริม หรือ วิตามิน รับประทานเวลาไหนเหมาะสมที่สุด
อาหารเสริมส่วนใหญ่จริงๆ แล้ว ทานเมื่อไรก็ได้ค่ะ ก่อนอาหาร หลังอาหาร หรือพร้อมอาหารจะสามารถทานได้ค่ะ เพราะร่างกายจะเลือกใช้ และเก็บในทุกสิ่งที่ร่างกายต้องการ แต่สิ่งสำคัญเราควรจะรับประทานให้ตรงเวลาทุกวัน เพื่อเป็นการสร้างวินัยในตัวเอง ทำให้เราไม่ลืมทาน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็ต้องขอแนะนำเป็น “ช่วงเช้า” เวลาเช้าเป็นเวลาที่ร่างกายตื่นตัวมากที่สุด และต้องการสารอาหารมากที่สุด การทานอาหารเสริมจะได้ประโยชน์สูงสุดเช่นกัน แต่ว่าในสารอาหารเสริมแต่ละชนิดนั้น ก็มีเวลารับประทานที่แนะนำอยู่ด้วย เราไปดูกันดีกว่าค่ะ
อาหารเสริมในกลุ่มกลูต้าไธโอน หรืออาหารเสริมผิวขาวต่างๆ แนะนำให้รับประทานตอนเช้าตอนท้องว่างค่ะ เพราะอาหารเสริมกลุ่มนี้มักประกอบไปด้วยกลุ่มกรดอะมิโนจากคอลลาเจน และวิตามินที่ละลายได้ดีในน้ำค่ะ
อาหารเสริมกลุ่มวิตามินผสมแร่ธาตุรวม เนื่องจากประกอบไปด้วย วิตามินในกลุ่มที่ละลายได้ดีทั้งในน้ำ และในไขมัน จึงแนะนำให้ทานหลังอาหารค่ะ และแนะนำให้เป็นมื้อเช้า ในเวลาที่ร่างกายตื่นตัวมากที่สุดค่ะ
อาหารเสริมกลุ่มแคลเซียม แนะนำรับประทานพร้อมอาหาร��่ะ และหากมีการรับประทานมื้ออาหารที่เป็นอาหารที่ให้แคลเชียมสุงเป็นประจำอยู่แล้ว อาจต้องลดโดสการทานอาหารเสริมกลุ่มแคลเซียมลง เพราะหากรับประทานแคลเซียมมากเกินไป อาจทำให้หลอดเลือดตับแข้งด้วย และยังไม่แนะนำให้ทานแคลเซียมพร้อมกาแฟ เนื่องจากกาแฟจะไปรบกวนการดูดซึมแคลเซียม และยังไปดึงแคลเชียมออกจากกระดูกเราด้วย
อาหารเสริมธาตุเหล็ก แนะนำทานพร้อมน้ำผลไม้ที่มีวิตามิน C หรือวิตามิน C เพราะว่าธาตุเหล็กจะดูดซึมได้ต้องอาศัยวิตามิน C ช่วยด้วยค่ะ
อาหารเสริมประเภทน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ไม่แนะนำให้รับประทานพร้อมอาหารเสริมกลุ่มวิตามิน E เนื่องมาจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเองก็ให้วิตามิน E ด้วยเช่นกัน ทำให้อาจได้รับวิตามิน E มากเกินไป อาจทำให้หัวใจทำงานหนักเป็นอันตรายได้
อาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา ห้ามรับประทานพร้อมยาแอสไพริน น้ำมันปลามีสรรพคุณทำให้เลือดใส ไม่เหนียว ทำให้เลือดไหลเวียนดี คุณสมบัติของยาแอสไพรินก็เช่นกัน หากรับประทานมากไปอาจเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดเวลามีบาดแผล หรือเวลาผ่าตัดได้
0 notes
Text
วิธีทำ เมี่ยงหมูย่างเกาหลี
มีใครคิดถึงการปิ้งย่างกันมั้ย? วันนี้มีแนวปิ้งย่างใหม่มานำเสนอลืมแบบเดิมไปได้เลยโดยรู้ว่าเกาหลีฟินๆมาวิจารณ์ความแซ่บแบบไทยมีหมูสามชั้นย่างเป็นวัดได้เลยที่นี่ตามไปดูสูตรกัน เลย…เมี่ยงหมูย่างเกาหลี
สูตร หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำบดหยาบ ½ ช้อนโต๊ะ เกลือสมุทร 1 ช้อนชา กิมจิ ผักสด (ทานคู่)
น้ำจิ้มถั่วตัด
พริกขี้หนูสด 1 ถ้วยตวง กระเทียม ½ ถ้วยตวง เกลือสมุทร ½ ช้อนชา น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่น ¼ ถ้วยตวง ถั่วตัด 50 กรัม
น้ำจิ้มซัมจัง
ซอสโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ เต้าเจี้ยวเกาหลี 25 กรัม(มิโสะ) น้ำเชื่อม 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่น 80 มิลลิลิตร พริกชี้ฟ้าแดง (สับหยาบ) 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม (สับละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ งาขาวคั่ว (ตามชอบ)
ทำ#น้ำจิ้มซัมจัง นำส่วนผสมทั้งหมด และคนให้ละลายเข้ากัน จากนั้นโรยหน้าด้วยงาขาว
2.ตั้งกระทะไฟกลาง ย่างหมูให้สุกแล้วตัดเป็นชิ้นๆ เรียงใส่จาน
3.เสิร์ฟคู่กับ#น้ำจิ้มถั่วตัด #น้ำจิ้มซัมจัง ผักสดต่างๆ
1 note
·
View note
Text
เมี่ยงหมูสามชั้นกรอบ
หมูกรอบทำง่ายเว่อร์สูตรเร่งด่นสไตล์โฮมเมดใช้แปบเดียวไม่ต้องรอนานเพียงแค่มีน้ำส้มสายชูหมักข้าวหอมมะลิตราคิวพี่ติดบ้านไว้รับรองว่าหมูกรอบจากฝีมือเรามีอยู่จริงสูตรนี้ไม่ง้อแดด นานๆจะทำหมูกรอบกินเองได้จ้าหนังฟูกรอบแบบว่าเรายินดีต้อนรับทุกคน แทงหวยผ่านเว็บ
หลักความฟูและกรอบต้องอวยยศเพื่อช่วยบำรุงจากข้าวหอมมะลิตราคิวพี "รสเปรี้ยวกลมกล่อมกลิ่นหอมกลิ่นข้าว" เป็นไปได้ที่เมนูที่หลากหลายวันนี้แถมสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดให้เล็กน้อยนะคะทานแบบเพลินๆ อร่อยเกินต้าน
มาร์เก็ตทั่วไป ส่วนผสมหมูกรอบ
น้ำส้มสายชูหมักข้าวหอมมะลิ 4.2% ตราคิวพี 400 ml.
เกลือปั่น 1 ช้อนโต๊ะ
หมูสามชั้น 700 กรัม
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำหมูกรอบ
นำน้ำส้มสายชูหมักข้าวหอมมะลิ ตราคิวใส่เกลือปั่นคนให้เข้ากันจนเกลือละลาย
บั้งหมูสามชั้นเป็นริ้วไม่ต้องลึกมาก วางด้านหนังลงแช่ในส่วนผสมที่เตรียมไว้ 30 นาที
นำไปทอดในหม้อทอดไร้น้ำมันอุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส เวลา 1 ชั่วโมง��รือจนกระทั่งหมูสามชั้นค่อนข้างแห้ง
วอร์มน้ำมันให้ร้อนใช้ไฟกลาง นำหมูสามชั้นลงทอดโดยวางด้านหนังลงปรับไฟแรงเพื่อให้หนังหมูฟูและกรอบ
กลับต้านทอดจนหมูกรอบสุกสีเหลืองทอง กน้ำมันราดเพิ่มความฟูระหว่างทอดได้
พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
ส่วนผสมน้ำจิ้มเมี่ยงหมูกรอบ
กระเทียม /: ถ้วยตวง
พริกจินดา 1/2 ถ้วยตวง
ขิงอ่อน /: ถ้วยตวง
รากฝักชี 4-5 ราก
น้ำตาลโตนด 2 ช้อนชา
น้ำปลา /: ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 14 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชูหมักข้าวหอมมะลิ ตราคิวพี / ถ้วยตวง
ถั่วลิสงอบแห้ง 1/4 ถ้วยตวง
พริกหอมตกแต่งหน้าตามชอบ
มะนาวตกแต่งหน้าตามชอบ
ผักช็ตกแต่งหน้าตามชอบ
เส้นหมีลวกสุก 300 กรัม
ฝักสลัดทานคู่ตามชอบ
วิธีทำ
นำกระเทียม พริกจินตา ขิงอ่อน รากผักชี่ น้ำตาลโตนด น้ำาปลา น้ำเปล่า และน้ำส้��สายชูหมักข้าวหอมมะลิ ตราคิวพี่ ปั่นให้เข้ากัน
ใส่ถั่วลิสงอบแห้ง ปั่นแค่พอหยาบ เทใส่ถ้วยตกแต่งด้วยพริกหอม มะนาวและผักชี
ทานคู่กับหมูกรอบ เส้นหมีและผักสลัดต่าง ๆ ตามชอบ จัดเสิร์ฟเป็นศา ๆ เคล็ดลับความอร่อย
ล้างผักด้วยน้ำส้มสายชูกลั่น 5% ตราคิวพี่ช่วยลดสารตกค้างและผักสดสะอาดทานอร่อย
การนำหมูสามชั้นแช่น้ำส้มสายชูหมักกับเกลือปัน ช่วยให้หนังฟูและกรอบ
การทอดด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันช่วยไล่ความชื้นและประหยัดเวลาการทำ
0 notes
Text
วิธีทำทับทิมกรอบ เนื้อแห้วกรอบอร่อยหวานเย็นชื่นใจ
ทับทิมกรอบ ทำจาก แห้ว นำไปลวกสุก แล้วคลุกเคล้ากับน้ำหวานเข้มข้นสีแดง เสร็จแล้ว คลุกเคล้ากับแป้งมันอีกรอบ ก่อนจะนำไปต้มจนสุก ทำให้ได้ทับทิมกรอบ ที่มีรสสัมผัสหนึบหนับอยู่ข้างนอก แต่มีความกรอบอยู่ข้างใน นิยมนำไปราดน้ำกะทิ ใส่น้ำแข็งใส กินเป็นขนมหวานเย็นชื่นใจ
วิธีทำทับทิมกรอบ ด้วยตัวเองที่บ้าน
วิธีทำทับทิมกรอบ ด้วยตัวเอง ทำได้ง่ายมาก ๆ เริ่มจากทำทับทิมกรอบ น้ำกะทิ และ น้ำเชื่อม ตามลำดับ พอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ตักเสิร์ฟทุกอย่างใส่ชาม เพียงแค่นี้ก็จะได้ทับทิมกรอบอร่อย ๆ ไว้กินดับร้อน เติมความหวานเย็นชื่นใจในทุกวันได้แล้ว
ส่วนผสมตัวทับทิมกรอบ
แห้วดิบ 500 กรัม แป้งมัน น้ำหวานเข้มข้นสีแดง ส่วนผสมกะทิสด
กะทิอบควันเทียนแบบพาสเจอร์ไรส์ 500 กรัม น้ำเปล่า 90 กรัม เกลือ 1/4 ช้อนชา นมข้นจืด 40 กรัม ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำเปล่า 400 กรัม น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม วิธีทำทับทิมกรอบ
ล้างแห้วให้สะอาด ล้างหลาย ๆ รอบ จนกว่าน้ำที่ล้างแห้วจะใส จากนั้น พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มน้ำให้เดือดจัด เสร็จแล้ว ใส่แห้วลงไป ต้มให้เดือดจนกว่าจะมีฟอง���อยปุดขึ้นมา แสดงว่าแห้วต้มจนสุกแล้ว ให้ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำและเย็นสนิท นำแห้วที่เย็นสนิทแล้ว ใส่ชามผสม เทน้ำหวานเข้มข้นสีแดงลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที หรือ จนกว่าสีจะซึมเข้าไป พอครบเวลาและสีซึมเข้าไปดีแล้ว ให้คลุกแห้วกับน้ำหวานที่เหลือ เพื่อไม่ให้แห้ง ถ้ามีน้ำเยอะมากเกินไปให้ตักออก จากนั้น ใส่แป้งมันลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว ตักแห้วใส่กระชอน เขย่าเอาแป้งส่วนเกินทิ้งไป นำไปลวกในน้ำเดือด เมื่อลอยขึ้นมา แสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักขึ้น น็อกในน้ำเย็น นำไปล้างน้ำให้หายร้อนอีกครั้งหนึ่ง ใส่ตะกร้า พักให้สะเด็ดน้ำ เติมน้ำเชื่อมลงไปเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ทับทิมกรอบติดกันเป็นก้อน วิธีทำน้ำกะทิ
เตรียมหม้อต้ม ใส่กะทิ น้ำเปล่า เกลือ คนก่อนเล็กน้อย แล้วยกขึ้นตั้งไฟ ให้ร้อนจัด ๆ แค่พอมีควัน ไม่ร้อนจนเดือดปุด ๆ เติมนมข้นจืด คนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ นำไปน็อคน้ำเย็นทันที เพื่อให้กะทิเก็บได้นานขึ้น วิธีทำน้ำเชื่อม
ใส่น้ำเปล่าในหม้อต้ม ตั้งน้ำให้เดือด พอน้ำเดือดให้ใส่น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง คนให้น้ำตาลละลาย พอเดือด ให้หรี่ไฟ แล้วเคี่ยวต่อ 5 นาที พอครบเวลา ให้ยกออก พักไว้ให้เย็นสนิท วิธีจัดเสิร์ฟ
ตักทับทิมกรอบใส่ชาม ราดน้ำเชื่อมเล็กน้อย ตามด้วยน้ำแข็งใส และ น้ำกะทิ เป็นอันเสร็จ
0 notes
Text
วิธีทำ เมี่ยงหมูย่างเกาหลี
มีใครคิดถึงการปิ้งย่างกันมั้ย? วันนี้มีแนวปิ้งย่างใหม่มานำเสนอลืมแบบเดิมไปได้เลยโดยรู้ว่าเกาหลีฟินๆมาวิจารณ์ความแซ่บแบบไทยมีหมูสามชั้นย่างเป็นวัดได้เลยที่นี่ตามไปดูสูตรกัน เลย…เมี่ยงหมูย่างเกาหลี
สูตร หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำบดหยาบ ½ ช้อนโต๊ะ เกลือสมุทร 1 ช้อนชา กิมจิ ผักสด (ทานคู่)
น้ำจิ้มถั่วตัด
พริกขี้หนูสด 1 ถ้วยตวง กระเทียม ½ ถ้วยตวง เกลือสมุทร ½ ช้อนชา น้ำปลา ¼ ถ้วยตวง น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่น ¼ ถ้วยตวง ถั่วตัด 50 กรัม
น้ำจิ้มซัมจัง
ซอสโคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ เต้าเจี้ยวเกาหลี 25 กรัม(มิโสะ) น้ำเชื่อม 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่น 80 มิลลิลิตร พริกชี้ฟ้าแดง (สับหยาบ) 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม (สับละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ งาขาวคั่ว (ตามชอบ)
ทำ#น้ำจิ้มซัมจัง นำส่วนผสมทั้งหมด และคนให้ละลายเข้ากัน จากนั้นโรยหน้าด้วยงาขาว
2.ตั้งกระทะไฟกลาง ย่างหมูให้สุกแล้วตัดเป็นชิ้นๆ เรียงใส่จาน
3.เสิร์ฟคู่กับ#น้ำจิ้มถั่วตัด #น้ำจิ้มซัมจัง ผักสดต่างๆ
1 note
·
View note
Text
แจกสูตรยำมะเขือย่าง ไข่ต้ม กุ้งลวก
มาดูกันเลยค่ะ สูตรทำยำมะเขือย่าง หรือยำมะเขือเผา เมนูยำที่เหมาะกับสายแซ่บที่รักสุภาพด้วยไฟเบอร์จากมะเขือยาวรสหวานนุ่ม ตัดด้วยรสจัดจ้านของน้ำยำ หวานกรุบเด้งกับกุ้งลวก เสริมทัพด้วยไข่ต้ม สำหรับบ้านที่ไม่สะดวกในการเผามะเขือสามารถเอามาดาดบนกระทะแทนได้ค่ะ พร้อมแล้วไปดูสูตรกันค่า หวยเวียดนาม
ส่วนผสมยำมะเขือย่าง มะเขือยาว 3 ลูก กุ้ง 12 ตัว ไข่เป็ด 2 ฟอง ใบสะระแหน่ ตามชอบ หอมแดง 4 หัว กระเทียม 5 กลีบใหญ่ พริก 10 เม็ด มะนาว 4 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำยำมะเขือย่าง นำมะเขือยาวมาหั่นขั่วและตัดเป็น 2 ท่อน แล้วนำไปย่างจนเปลือกเกรียม จากนั้นนำมาพักไว้ให้พอหายร้อน (ระหว่างนี้จะมีน้ำออกมาจากมะเขือย่างให้แทน้ำออกไป) แล้วลอกเปลือกออก หั่นครึ่งอีกครั้งแล้วใส่จาน แกะเปลือกกุ้งผ่าครึ่งลวกพอสุก ไข่เป็ดต้ม 8 นาทีจะได้ไข่แดงกำลังสวย (น��บตั้งแต่เริ่มเปิดเตา) ปอกเปลือกผ่า 4 นำหอมแดงกับกระเทียมซอยให้ละเอียดปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว นำไข่ต้มกับกุ้งลวกวางบนมะเขือย่างแล้วราดด้วยน้ำยำที่ทำไว้ในข้อ 3 โรยด้วยใบสะระแหน่ทานได้ทันที
0 notes
Text
ลาบหมู เมนูทำง่าย
มาดูกันเลยค่ะเมนูลาบรสชาติจัดจ้านสุดอร่อย หลายคนต้องนึกถึงเมนู ลาบหมู เราเลยขอนำสูตรอาหาร วิธีทำ ลาบหมู สูตรอาหารทำง่าย กับแกล้มรสชาติดี ทำกินได้ทั้งครอบครัว สูตรนี้จัดเต็ม มาทั้งเนื้อหมู ตับหมู และหนังหมู จะทำกินคู่กับข้าวสวย ข้าวเหนียวก็ได้ หรือจะทำเป็นกับแกล้มยามเย็นก็ดี แถมเป็นเมนูทำง่าย ทำไว ใช้เวลาไม่นาน วัตถุดิบไม่แพง ควรค่าแก่การเก็บสูตรไว้ทำกินทั้งครอบครัว พร้อมแล้วตามไปทำ เมนูลาบหมู พร้อมกันเลย! หวยเวียดนาม
วัตถุดิบลาบหมู หมูสับ 300 กรัม หนังหมู 200 กรัม ตับหมู 100 กรัม น้ำเปล่า ½ ถ้วย ต้นหอมซอย 2 ต้น ใบสะระแหน่ 2 ต้น ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น หอมแดงซอย 3 กลีบ พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล ½ ช้อนชา พริกแห้งทอดสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ ลาบหมู
นำหมูสับลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า เปิดเตา ตามด้วยหนังหมูและตับหมู รวนให้สุกดี โดยใช้ไฟกลาง จากนั้นปิดเตา ใส่หอมแดงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยต้นหอม ผักชี เป็นอันเสร็จ
0 notes
Text
สูตรทำขนมจีบหมูสับกุ้ง
สูตรทำขนมจีบหมูสับทำง่าย ที่เรามีมาฝากชาวก้นครัวในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นเมนูเด็ดโดนใจ ทำง่ายๆ แต่อร่อยมาก ! เพราะนี่คือ สูตรทำ ขนมจีบหมูสับ พร้อมวิธีห่อขนมจีบแบบง่าย แบบเลยว่าใครได้ลองก็ต้องติดใจ เป็นเมนูของว่างได้ทั้งบเด็กและผู้ใหญ่ แฮปปี้กันทั้งบ้านเลยค่า ใครชอบกินขนมจีบหมูสับลูกใหญ่ๆ เนื้อนุ่มๆ ต้องลองทำเลยน้า รับรองว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด จดวัตถุดิบ แล้วเปิดสูตรทำตามไปพร้อมๆ กันได้เล้ยยย หวยเวียดนาม
ส่วนผสม ขนมจีบหมูสับ
เแผ่นเกี๊ยว 1 ห่อ (ชนิดบาง สำหรับห่อขนมจีบ) กุ้งสด 550 กรัม หมูสับ 550 กรัม ไข่ไก่ 1/2 ฟอง แป้งมัน 2-3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนชา กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 2 ช้อนชา น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา น้ำเย็น หรือน้ำแข็ง 1/2 ถ้วย แครอทสับ 1 ถ้วย ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสม อื่นๆ กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย น้ำมันที่ได้จากการเจียวกระเทียม 1/2 ถ้วย ผักชี ผักสลัด น้ำจิ้มขนมจีบ จิ๊กโฉ่ว ซื้อแบบสำเร็จมีเป็นขวดขายในห้างทั่วไป
วิธีทำ ขนมจีบหมูสับ เตรียมเครื่องบดสับ ใส่เนื้อหมูสับลงไปปั่นให้ละเอียด ใส่ไข่ไก่ แป้งมัน กระเทียมสับ หอมแดงสับ พริกไทยป่น น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม น้ำมันหอย น้ำมันงา ปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี ใส่แครอทสับ ต้นหอมซอย ผสมพอเข้ากัน แล้วตักพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 10-20 นาที ถ้าอยากให้เหนียวหนึบขึ้นให้นวดด้วยมืออีกรอบก่อนห่อขนมจีบ นำแผ่นแป้งมาตัดมุมให้เป็นวงกลมตามคลิป เตรียมถาดวางขนมจีบ รองด้วยใบตอง ทาน้ำมันที่ได้จากการเจียวกระเทียม ทาลงบางๆ ให้ทั่ว นำเอาแผ่นแป้งทาขอบขนมจีบตามคลิป หรือให้ลองจุ่มน้ำก่อนถ้าหากขาดให้ทาตามคลิป แล้วจึงตักไส้ใส่ลงไปลงกลาง จับให้เป็นจีบ เป็นคำๆ วางเรียงใส่ถาดไว้ก่อน เตรียมซึ้งรองด้วยใบตอง แล้วทาใบตองด้วยน้ำมันที่ได้จากการเจียวกระเทียม นำขนมจีบมาเรียงเว้นให้มีระยะห่าง เพื่อทำให้สุกทั่วถึง แล้วนึ่งขนมจีบประมาณ 5-10 นาที ทาน้ำมันเจียวกระเทียมให้ทั่วๆ แล้วนึ่งต่ออีก 1 นาที ขนมจีบหมูสับเสร็จเรียบร้อยจัดใส่จาน โรยกระเทียมเจียวกรอบๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม จิ๊กโฉ่ว ผักสดผักชี ผักกาดหอม
0 notes
Text
ปลาทอด ราดพริกสามรส
ปลาทอดราดพริก อาหารไทยรสชาติครบเครื่อง เข้มข้น ที่หากได้กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แล้วละก็ ไม่ว่าใครก็ปฎิเสธไม่ลง เราเลยจะมาแจก สูตรอาหาร ปลาทอด ราดพริกสามรส เข้มข้น จัดจ้าน พร้อมเทคนิคการทอดปลาอย่างไรให้กรอบฟู และไม่ติดกระทะ! เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำตามได้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน อร่อยได้ทั้งครอบครัว จะมีวิธีทำอย่างไรบ้า ตามมาดูกัน! หวยเวียดนาม
ส่วนผสม ปลาทอด ราดพริกสามรส
ปลานิล 1 ตัว (1,200 กรัม) กระเทียม 40 กรัม พริกแดงจินดา 50 กรัม พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด ผักชี 2 ต้น น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ปลาทอด ราดพริกสามรส
นำพริกแดงจินดามาหั่นเตรียมไว้เป็นเส้นยาว นำไปแช่น้ำไว้ สำหรับเตรียมแต่งหน้า ส่วนพริกที่เหลือนำไปปั่นรวม
นำผักชีมาหั่นเรียมไว้หั่นช่วงต้นผักชีไว้สำหรับตกแต่งหน้า ส่วนรากผักชี นำไปปั่นรวมกับพริกแดงจินดา ปั่นจนล���เอียด จากนั้นเติมกระเทียมตามลงไป ละปั่นให้ละเอียดอีกครั้ง พักไว้
นำปลานิลล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย นำทิชชู่ซับน้ำออกให้หมาด จากนั้นบั้งที่ตัวปลาให้เรียบร้อย
โดยเกลือที่ปลาเล็กน้อย จากนั้นตั้งน้ำมันในกระทะ รอให้ไฟร้อนจัด นำปลาลงไปทอด ใช้เวลา 6-4 นาที จากนั้นพลิกกลับอีกด้าน และใช้เวลาน้อยกว่า เมื่อได้ที่แล้วตักขึ้นมาพักไว้
ทำส่วนของน้ำราดพริกสามรส นำพริก กระเทียม ผักชีที่ปั่นพักไว้ ลงไปผัดในกระทะให้ออกกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า จากนั้นผัดให้ทุกอย่างละลายเข้ากันดี ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที
นำน้ำราดพริกสามรส ลงไปราดบนตัวปลาที่ทอดพักไว้ ตกแต่งให้สวยงามด้วยผักชี และพริกชี้ฟ้าซอย เป็นอันเสร็จ
0 notes
Text
สูตร ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ
หลายคนอาจจะเคยกินแต่น้ำพริกกะปิธรรมดา แต่วันนี้เราจะมาทำ “ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ” โดยเอาข้าว��าผัดคลุกเคล้ากับน้ำพริกกะปิ กินพร้อมกับเครื่องเคียงจากผักอินทรีย์จากโครงการหลวง ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเปราะ แตงกวา หรือถั่วฝักยาว ฯลฯ นอกจากจะได้คุณค่าทางสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ยังได้กินผักปลอดสารพิษอีก ด้วยค่ะ หวยเวียดนาม
วัตถุดิบ ข้าวสวย 1 ถ้วย น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 30 กรัม พริกขี้หนู 30 กรัม น้ำตาลปี๊บ ½ ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ มะเขือพวง 30 กรัม ปลาทูทอด 1 ตัว มะเขือเปราะ ตามชอบ แตงกวา ตามชอบ ถั่วฝักยาวลวก ตามชอบ ไข่ทอดชะอม ตามชอบ
วิธีทำ
ใส่กระเทียมลงไปในครก ตามด้วยพริกขี้หนู กะปิ และน้ำตาลปี๊บ โขลกให้ละเอียด จากนั้นตักใส่ชาม ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำต้มสุก คนให้เข้ากันและพักไว้
นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไป รอจนน้ำมันร้อน ใส่ข้าวสวยลงไปผัด จากนั้นใส่น้ำพริกกะปิที่เตรียมไว้ และมะเขือพวงลงไป ผัดให้เข้ากัน
ตักใส่จาน วางเครื่องเคียง ได้แก่ ปลาทูทอด ไข่ทอดชะอม แตงกวา ถั่วฝักยาวลวก และมะเขือเปราะ พร้อมเสิร์ฟค่ะ
เป็นไงบ้างคะสำหรับเมนู “ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ” รสชาติลงตัว เครื่องเคียงแน่น และยังได้คุณค่าทางสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่อีกด้วย สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนผลิต��ัณฑ์ดี ๆ มีคุณภาพจากโครงการหลวง ซึ่งเป็นผลผลิตจากคนไทยอีกด้วยค่ะ ส่วนใครที่อยากลองทำเมนูข้าวผัดอื่น ๆ บ้างล่ะก็คลิ๊กที่นี่ได้เลย
0 notes
Text
วิธีทำ ส้มตำไทยแซ่บๆ
มาดูกันเลยวิธีทำ ส้มตำไทยแบบง่าย เป็นเมนูสุดฮิตร้านอาหารอีสานและร้านส้มตำที่แพร่หลายทั่วไทย สาว ๆ ส่วนใหญ่นิยมส้มตำไทยที่เน้นรสเปรี้ยวหวานมากกว่ารสเค็มนำอย่างส้มตำปู ทั้งส้มตำไทยยังออกรสมันกลมกล่อมด้วยมีถั่วลิสงเป็นตัวชูโรง ยิ่งเคี้ยวเต็มคำกับมะละกอสับกรอบ ๆ ด้วยแล้วเป็นได้แซ่บเพลินอย่าบอกใคร ใครเห็นแล้วเริ่มน้ำลายไหลเตรียมครกหยิบสากไปทำส้มตำไทยได้เลยง่าย ๆ เพราะขั้นตอนน้อยมากไม่ยุ่งยาก อ่อ แต่สูตรนี้ไม่ใส่ถั่วฝักยาวเพราะสาว ๆ ที่บ้านเขี่ยออกทุกที ใครชอบก็เพิ่มได้ตามสะดวก หวยเวียดนาม
วัตถุดิบ ส้มตำไทย
มะเขือเทศสีดา 2 ลูก มะเขือเทศเชอรี่ 4 ลูก กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ พริกแดงจินดา 5 เม็ด กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1.5 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลมะพร้าว ¾ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ส้มตำไทย
เริ่มจากการโขลกพริกและกระเทียมจนแหลกก่อน จากนั้นนำกุ้งแห้งและถั่วลิสงลงไปโขลกให้แหลกตาม แต่ถ้าใครใช้กุ้งแห้งตัวเล็กและใช้ถั่วลิสงคั่วบดก็สามารถใส่ทีหลังได้ ไม่ต้องตำจนแหลก
ฝานมะเขือเทศเป็นเสี้ยวลงไปในครก โขลกให้ผลแตกเล็กน้อยแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว มะนาว และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ หากใช้กุ้งแห้งตัวใหญ่กุ้งอาจออกรสเค็มให้ชิมรสก่อนปรุงน้ำปลา หรือประมาณส่วนผสมให้มีรสอ่อนไว้ก่อนค่อยปรุงเพิ่มตามชอบเพื่อให้ส้มตำไทยจานนี้ถูกปากมากที่สุด
1 note
·
View note
Text
ปลาทับทิมหรือปลานิลปลาไหนอร่อยกว่ากัน
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับทั้ง ปลาทับทิม และ ปลานิล ปลาทับทิม ซึ่งปลาทั้งสองชนิด็เป็นปลาเศรษฐกิจ ที่มีราคาไม่แพง และเป็นที่นิยมของคนไทย ซึ่งปลาทั้ง 2 ชนิดก็มีหน้าตาคล้ายกันมากๆ แต่สิ่งต่างกันอย่างชัดเจนก็คือสีของปลานั่นเอง แล้ว อยากรู้ไหมว่า ปลานิล กับ ปลาทับทิมนั้นต่างกันอย่างไร ปลาชนิดไหนที่มีรสชาติดี กินอร่อยกว่ากัน ก็ตามเรามา��าคำตอบกันเลยค่ะ
หวยเวียดนาม
ปลานิล คืออะไร
ปลานิล หรือ ปลานิลจิตรลดา คือ ปลาน้ำจืดตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับปลาหมอสี แต่ปลานิลนั้นไม่ได้มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศไทย การมาของปลานิลในประเทศไทยเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2508 หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะเมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ถวายปลานิลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาล ที่ 9) จำนวน 50 ตัว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 และโปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อภายในสวนจิตรลดา จึงเป็นที่มาของชื่อ ปลานิลจิตรลดา ต่อมาทรงพระราชทานพันธุ์ปลาดังกล่าวให้กับกรมประมง จำนวน 10,000 ตัว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2509 เพื่อนำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร จึงทำให้ปลานิลเป็นปลาเศรษฐกิจ ที่สร้างงานให้คนไทยนับล้าน
ปลานิลเป็นมีคุณลักษณะพิเศษหลายอย่าง เช่น เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารได้ทุกชนิด มีขนาดลำตัวใหญ่ ขยายพันธุ์ง่าย ผสมพันธุ์ได้ตลอดปี และมีรสชาติดี ให้โปรตีนสูง จึงทำให้ปลานิลนั้นมีราคาไม่แพง และเป็นที่นิยมในครัวไทยแทบทุกบ้าน
ปลาทับทิม คืออะไร
ปลาทับทิม อีกหนึ่งปลาเศรษฐกิจของไทย ซึ่งไม่ใช่ปลาตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลโดยภาคเอกชน คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยซีพีเอฟที่ทำการพัฒนาสายพันธุ์ปลาตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม โดยทำการปรับปรุงสายพันธุ์ทางด้านคุณภาพ ความต้านทานโรค ลักษณะเนื้อ และรสชาติให้ดีขึ้นด้วยวิธีตามธรรมชาติ กระทั่งได้ปลาเนื้อพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะภายนอกอันโดดเด่นคือสีของเกล็ดและตัวปลาที่มีสีแดงอมชมพู และสามารถเลี้ยงให้เติบโตได้ดีในน้ำที่มีความเค็ม หรือน้ำกร่อย
ปลานิล กับ ปลาทับทิม ต่างกันอย่างไร
ลักษณะของเนื้อปลานิล สี : ลำตัวมีสีออกเทา บริเวณครีบหลัง หาง และลำตัวมีสีน้ำเงินอมเขียวปนน้ำตาล มีลายดำพาดขวางตามลำตัว เนื้อปลา : เนื้อปลาสีขาว เนื้อนุ่ม มีความหยาบกว่าเนื้อปลาทับทิม กลิ่น : มีกลิ่นคาว หรือบางคนจะเรียกว่ากลิ่นดินที่ค่อนข้างแรง ก้าง : ก้างใหญ่ มีก้างน้อย เมนูแนะนำ : เผาเกลือ, ทอด, ต้มยำ
ลักษณะของเนื้อปลาทับทิม สี : สีของเกล็ดและตัวปลาที่มีสีแดงอมชมพู เนื้อปลา : เนื้อสีขาว เนื้อเยอะ ละเอียดและแน่น บางคนจะรู้สึกว่าเนื้อแข็งฝืดคอกว่าปลานิล กลิ่น : แทบไม่มีกลิ่นคาว ก้าง : ก้างใหญ่ มีก้างน้อย เมนูแนะนำ : เผาเกลือ, ทอด, นึ่ง, ต้มยำ
0 notes